แค่มีลำโพงคอมเบสหนักสักตัว เพลงที่ชอบก็เพราะกว่าเดิมหลายเท่าแล้ว!
ลำโพงคอมเบสหนักนอกจากใช้เพื่อความบันเทิงเวลาดูหนังฟังเพลงในบ้านแล้ว นักทำเพลงที่มิกซ์เพลงอวดผลงานเพลงกันก็มักหาซื้อลำโพงคอมสักตัวเอาไว้ใช้ควบคู่กับหูฟังมอนิเตอร์สักชุด เผื่อเอาไว้ฟังเสียงเพลงหลังปรับจูนเสร็จว่าได้โทนเสียงที่ต้องการไหมก็สำคัญเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันนี้ลำโพงคอมเบสหนักและทำหน้าที่เป็นลำโพงมอนิเตอร์ได้ก็มีราคาไม่แพงเหมือนในอดีตแล้ว ไม่ว่าจะซื้อมาใช้เพื่อความบันเทิงภายในบ้านหรือสร้างผลงานก็ยอดเยี่ยมทั้งคู่
ลำโพงคอมเบสหนักนอกจากใช้งานตามปกติต่อคอมพิวเตอร์ใช้งานตามปกติเป็นเซ็ตสำเร็จรูปแค่ลำโพง Satellite คู่ตั้งแล้วใช้งานได้เลยหรืออาจจะมีตู้ Subwoofer อีกตัว หรือขยับไปรุ่นที่ต่ออุปกรณ์เสริมได้เยอะ ซึ่งนอกจากช่อง AUX, Line-In และ Bluetooth ตามปกติ ลำโพงคอมเบสหนักเหล่านี้บางรุ่นยังให้พอร์ต Coaxial, Optical, Sub-out ฯลฯ มาเพียบตามแต่ชุดวงจรภายในลำโพง ให้ชาว Audiophile เอาไปต่อลำโพง Subwoofer ตัวโปรด, เพิ่ม DAC (Digital To Analog converter) ให้ปรับจูนโทนเสียงได้ตามชอบหรือเล่นใหญ่ต่อ Audio interface เลยก็ยังได้ เรียกว่าข้ามจากความบันเทิงทั่วไปขึ้นมาระดับงานอดิเรกหรือความชื่นชอบส่วนบุคคลไปเลย
6 ลำโพงคอมเบสหนักเสียงโหด ฟังเพลงดี ครีเอเตอร์เลิฟ
- Creative Pebble Plus (1,370 บาท)
- Microlab TMN-9BT (1,790 บาท)
- Edifier MR4 (3,490 บาท)
- Edifier R1280DB (3,640 บาท)
- JBL Quantum Duo (4,893 บาท)
- Audioengine A1 (6,390 บาท)
1. Creative Pebble Plus (1,370 บาท)
- Sound Channel : Active Speaker เสียง 2.1 แชนแนล
- Power : 8 วัตต์ (RMS) 16 วัตต์ (Peak)
- Connectivity : USB, AUX
- Price : 1,370 บาท (Melodygadget Shopee)
ลำโพงคอมรุ่นมาตรฐานประจำโต๊ะคอมของใครๆ อย่าง Creative Pebble Plus นอกจากราคาจะถูกหาซื้อง่ายมากแล้ว ตัวลำโพงก็เป็นแบบเซ็ตสำเร็จรูปเป็นคู่ลำโพง Satellite กับ Subwoofer ให้เสียง 2.1 แชนแนล นอกจากนี้ทาง Creative ยังดีไซน์ให้ดอกลำโพงทำมุม 45 องศาให้ส่งเสียงตรงเข้าหูของผู้ใช้ได้โดยตรง ฟังเพลงได้อรรถรสยิ่งขึ้นแถมมีสวิตช์ปรับ Gain ได้ว่าจะเป็น Low/High ก็สะดวก เป็นลำโพงคอมคุณภาพเยี่ยมหาซื้อง่ายสำหรับคนเพิ่งประกอบคอมพิวเตอร์หรือไม่ได้เน้นจะเล่นเครื่องเสียงอะไรมากจะเริ่มจากตัวนี้ก็คุ้มค่าดี
ข้อดี
- ใช้งานง่ายได้เสียงดี เพียงต่อสาย AUX กับ USB เข้าคอมพิวเตอร์ก็ใช้งานได้เลย
- ในเซ็ตมีตู้ Subwoofer ช่วยให้เสียงเบสและมิติเสียงดีขึ้น ได้เสียง 2.1 แชนแนล
- ดีไซน์ดอกลำโพง Satellite ให้เฉียง 45 องศา ส่งเสียงเข้าหูผู้ฟังได้ดีขึ้น
- ราคาไม่แพงมากและหาซื้อได้ง่ายตามร้านคอมพิวเตอร์ชั้นนำทั่วไป
ข้อสังเกต
- เชื่อมต่อผ่านสาย USB กับ AUX เท่านั้น ไม่รองรับ Bluetooth เหมือนลำโพงยุคใหม่
2. Microlab TMN-9BT (1,790 บาท)
- Sound Channel : Active Speaker เสียง 2.1 แชนแนล
- Power : 40 วัตต์ (RMS) แยกเป็น Satellite 11 วัตต์*2 กับ Subwoofer 18 วัตต์
- Connectivity : Bluetooth, USB, SD Card Reader, RCA
- Price : 1,790 บาท (Melodygadget Shopee)
Microlab TMN-9BT ลำโพงคอมเบสหนักเสียงแน่นสำหรับผู้ใช้เน้นความคุ้มค่า ฟีเจอร์เยอะล้นตัวและกำลังขับเยอะถึง 40 วัตต์ ได้เสียง 2.1 แชนแนล เทียบชั้นกับลำโพงรุ่นใหญ่ได้สบายๆ แต่เน้นแค่เสียบปลั๊กแล้วใช้งานได้เลย ตัวลำโพงรองรับการเชื่อมต่อทั้งมีและไร้สายผ่านสาย, Bluetooth, USB หรือจะเซฟเพลงโปรดไว้ใน SD Card แล้วต่อทิ้งไว้ในลำโพงก็ได้ นอกจากเสียงดีฟังเพลงสนุกแล้วลูกเล่นก็เยอะ ถ้าใครอยากได้ลำโพงกำลังขับดีเชื่อมต่อได้หลากหลายแบบแต่ไม่เพิ่ม Audio interface อื่นๆ อะไรมาก Microlab ตัวนี้น่าจะตอบโจทย์ดีทีเดียว
ข้อดี
- เชื่อมต่อได้หลากหลายทั้งมีสายผ่าน USB, RCA หรือไร้สายผ่าน Bluetooth ก็ได้
- รองรับ SD Card Reader บันทึกเพลงใส่การ์ดมาเล่นกับลำโพงได้
- กำลังขับสูงถึง 40 วัตต์ ใช้เล่นเพลงและคอนเทนต์ต่างๆ ได้กำลังเสียงดี
- มีลูกบิดปรับเสียงติดมาให้ด้านข้างของลำโพง Subwoofer ปรับความดังได้สะดวก
ข้อสังเกต
- พอร์ตเชื่อมต่อและสายไฟทั้งหมดอยู่ด้านข้าง Subwoofer เท่านั้น เวลาใช้งานให้เว้นพื้นที่ด้านข้างไว้
3. Edifier MR4 (3,490 บาท)
- Sound Channel : Active Speaker Studio Monitor เสียง 2.0 แชนแนล
- Power : 42 วัตต์ (RMS)
- Connectivity : TRS Balanced, RCA, AUX
- Price : 3,149 บาท (Edifier Shopee Mall)
แบรนด์คุณภาพดีกระแสแรงในหมู่คนฟังเพลงช่วง 2-3 ปีนี้ต้องยกให้ Edifier ซึ่งเก่งทั้งหูฟัง True Wireless และลำโพงคอมอย่าง Edifier MR4 ซึ่งตัวลำโพงออกแบบมาเป็น Studio Monitor เน้นเสียงทาง Flat และมีเนื้อเสียงเบสดังหนักแน่นชัดเจน ฟังเพลงได้เพราะทุกแนวดนตรีแต่จะไม่มีเนื้อเสียงสไตล์ไหนเด่นขึ้นมาเป็นพิเศษเพราะถูกปรับแต่งจากโรงงานให้โทนเสียงได้ความเที่ยงตรงสูงเป็นหลัก แต่ก็ยังต่อ DAC และ Subwoofer เพิ่มเพื่อปรับแต่งเสียงให้เป็นแบบที่เจ้าของชอบก็ได้ เหมาะกับคนหาลำโพงคอมเบสหนักราคาดีฟีเจอร์ล้นตัวมาใช้ในบ้านหรือซื้อไว้ทำงานก็ดี
ข้อดี
- ดีไซน์เป็นลำโพง Studio Monitor โทนเสียงเน้นความสมจริง เหมาะกับงานสตูดิโอเสียง
- กำลังขับ 42 วัตต์ ได้เสียงดังเนื้อเบสแน่น แรงปะทะดีฟังเพลงได้ทุกแนว
- รองรับ Amplifier Class-D สามารถต่อเพิ่มในอนาคตได้ รองรับ DAC ในตัว
- ติดชิป DSP รุ่น TAS5713 มาในตัว ช่วยปรับแต่งเสียงให้มีมิติและคุณภาพดีขึ้น
- ต่ออุปกรณ์เสริมเช่น DAC, Audio interface, Subwoofer ผ่าน TRS balanced ได้
ข้อสังเกต
- ตัวลำโพงมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ควรจัดพื้นที่ตั้งลำโพงให้กว้างเพียงพอ
4. Edifier R1280DB (3,640 บาท)
- Sound Channel : Active Speaker เสียง 2.0 แชนแนล
- Power : 42 วัตต์ (RMS)
- Connectivity : Bluetooth 5.1, Optical, Coaxial, RCA
- Price : 3,640 บาท (Edifier Shopee Mall)
Edifier R1280DB เป็นลำโพงคอมรุ่นเทียบเคียงกับ MR4 ในข้อก่อนหน้า แต่รุ่นนี้จะออกแบบมาเน้นผู้ใช้ทั่วไปมากขึ้น ทั้งดีไซน์สวยเรียบง่ายตัวกล่องเป็นไม้อัด MDF แต่งโต๊ะคอมได้สวยงามขึ้น แต่ฟีเจอร์และเสียงเพลงก็ยังดีไม่แพ้กันโดยตัวลำโพงติดชิป DSP มาช่วยปรับแต่งเสียงตอนขับจากลำโพง Woofer ดอก 4 นิ้วผสานกับลำโพง Treble ขนาด 0.5 นิ้วได้มิติกว่าเดิม เมื่อเปิดดังสุดจะได้กำลังขับ 42 วัตต์ (RMS) และรองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบมีและไร้สายได้หลากหลายแบบทั้ง Bluetooth หรือต่อสายเข้าคอมพิวเตอร์ก็ได้แถมควบคุมลำโพงได้สะดวกด้วยรีโมตของตัวลำโพงเองหรือใครอยากอัพเกรดคุณภาพเสียงให้ดีขึ้นก็ต่อ Subwoofer, DAC เสริมเข้าไปได้ผ่านพอร์ตหลังตู้ลำโพงได้
เนื้อเสียงของ Edifier R1280DB จะได้นุ่ม เบสทุ้มมีมิติผสานกับเสียงใสเคลียร์ปลายใส สเตจเสียงกว้างกำลังดีและเนื้อเสียงเครื่องดนตรีไม่กลบเสียงนักร้องแม้แต่น้อย ใช้ฟังเพลงได้หลากหลายแนวตั้งแต่เพลงคลาสสิคไปจนเพลงร็อคยุคใหม่ๆ ก็ได้ หากใครกำลังหาลำโพงคอมตัวใหม่เอาไว้ใช้ดูหนังฟังเพลงแล้วเผื่อต่ออุปกรณ์เสริมเล่นได้ก็อยากให้เก็บรุ่นนี้เอาไว้เป็นอีกตัวเลือกรับรองว่าไม่ผิดหวัง
ข้อดี
- ติดตั้งพอร์ตเชื่อมต่อมาหลากหลายแบบทั้งมีและไร้สาย ต่ออุปกรณ์เสริมได้สะดวก
- มีรีโมตสำหรับควบคุมลำโพงได้แบบไร้สาย ไม่ต้องปรับที่ตัวลำโพงเสมอให้ลำบาก
- ติดตั้งชิป DSP มาช่วยปรับแต่งเสียงจากไฟล์เพลงให้ดียิ่งขึ้น ฟังเพลงได้อรรถรสกว่าเดิม
- กำลังขับสูงถึง 42 วัตต์ เปิดฟังสื่อบันเทิงต่างๆ ได้คุณภาพเสียงดีน่าประทับใจ
- มีลูกบิดสำหรับปรับ Treble, Bass ติดมาให้ หมุนปรับเสียงได้ตามชอบ
ข้อสังเกต
- ตัวลำโพงมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ควรจัดพื้นที่สำหรับวางลำโพงให้เหมาะสมจะดีสุด
5. JBL Quantum Duo (4,893 บาท)
- Sound Channel : Active Speaker เสียง 2.0 แชนแนล
- Power : 20 วัตต์ (RMS)
- Connectivity : USB, Audio-in, Bluetooth 4.2
- Price : 360 บาท (Sound Proof Bros Shopee)
ในบรรดาลำโพงคอมทั้งหมดในบทความนี้ JBL Quantum Duo เป็นลำโพงคอมเบสหนักมาก แรงปะทะหนักหน่วงด้วยเสียงเบสแน่นเป็นลูกโตประสานกับเสียงสเตจกว้าง แต่ก็ไม่ทิ้งเสียงเครื่องดนตรีอื่นๆ ให้หายไปกับมวลเบสของตัวลำโพงแม้แต่น้อย เสียงนักร้องเมื่อได้ยินจากลำโพงอยู่ในระดับกลางแต่ก็ไม่ถึงกับโดนเสียงเบสกลบหายไปนัก ตัวลำโพงออกแบบมาให้สวยงามตอบโจทย์เกมเมอร์โดยมีไฟ RGB ซึ่งทาง JBL เรียกว่า QuantumLIGHTING มีเอฟเฟคสวยงามเปลี่ยนตามจังหวะของเสียงโดยอัตโนมัติ เชื่อมต่อใช้งานได้หลากหลายไม่เกี่ยงระบบปฏิบัติการหรือแพลตฟอร์ม จะต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือเครื่องเกมคอนโซลก็ใช้ได้ แม้ราคาจะสูงอยู่บ้างแต่คุ้มค่าจะลงทุนซื้อมาใช้แน่นอน
ข้อดี
- วิธีปรับจูนเสียง JBL QuantumSOUND ได้เสียงเบสหนักแน่น แรงปะทะทรงพลัง
- ใช้งานง่ายเลือกโหมดเชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสายด้วย Audio-in หรือ Bluetooth ก็ได้
- มีไฟ RGB “JBL QuantumLIGHTING” เปลี่ยนเอฟเฟคเสียงได้สวยงาม
- เชื่อมต่อได้หลากหลายไม่ว่าจะพีซีหรือเครื่องเกมคอนโซลก็ต่อใช้งานได้
ข้อสังเกต
- ต่ออุปกรณ์เสริมเช่น DAC, Subwoofer ไม่ได้ ไม่มีพอร์ตเชื่อมต่อติดเสริมมาให้
6. Audioengine A1 (6,390 บาท)
- Sound Channel : Active Speaker เสียง 2.0 แชนแนล
- Power : 60 วัตต์ (RMS)
- Connectivity : Bluetooth 5.0, AUX, Sub-out (RCA)
- Price : 6,390 บาท (Mercular Shopee Mall)
แม้ราคาของ Audioengine A1 จะแพงสุดก็จริง แต่นี่คือลำโพงคอมคุณภาพสำหรับคนรักเสียงเพลงแล้วจะเปลี่ยนเครื่องเสียงชุดใหม่แล้วคาดหวังเสียงเบสดีมีน้ำหนัก แรงปะทะดีและสเตจเสียงกว้างฟังเพลงได้หลากหลายสไตล์ไม่กลบเสียงนักร้องหลัก มันจะเป็นลำโพงคอมที่น่าลงทุนมาก นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อทั้งแบบมีสายผ่าน AUX, Sub-out (RCA) กับคอมพิวเตอร์, เครื่องเสียง ฯลฯ หรือไร้สายด้วย Bluetooth 5.0 กับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตก็รองรับ aptX Codec ให้คุณภาพเสียงดียิ่งขึ้น แต่ถึงจะใช้ A1 เล่นเพลงได้เสียงดีน่าประทับใจก็จริง แต่ให้ดีก็ควรต่อ DAC กับ Subwoofer เสริมเข้ามาจะทำให้ฟังเพลงได้สนุกขึ้น
ข้อดี
- ลำโพงมีคุณภาพเสียงดี เสียงเบสหนักแน่นแต่ไม่กลบเสียงเครื่องดนตรีและนักร้องแม้แต่น้อย
- รองรับการเชื่อมต่อทั้งมีสายผ่าน AUX หรือไร้สายผ่าน Bluetooth
- Bluetooth รองรับ Codec aptX ให้เล่นเพลงแบบไร้สายได้คุณภาพเสียงดียิ่งขึ้น
- รองรับการเชื่อมต่อ Subwoofer, DAC เสริมได้ เพิ่มคุณภาพของเสียงและความบันเทิงให้ดีขึ้น
- ตัวลำโพงฝัง Power Amps ปรับแต่งพิเศษมาในตัวให้คุณภาพเสียงดียิ่งขึ้น
ข้อสังเกต
- ลำโพงมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับลำโพงรุ่นอื่นและควรต่อ DAC, Subwoofer เพิ่มจะดีสุด
6 ลำโพงคอมเบสหนักน่าใช้ ลงทุนไว้บันเทิงทุกคอนเทนต์
สเปคลำโพงคอมเบสหนัก | Creative Pebble Plus | Microlab TMN-9BT | Edifier MR4 |
Sound Channel | Active Speaker 2.1 แชนแนล | Active Speaker 2.1 แชนแนล | Active Speaker Studio Monitor 2.0 แชนแนล |
Power | 8W (RMS) 16W (Peak) | 40W (RMS) Satellite 11W*2 Subwoofer 18W | 42W (RMS) |
Connectivity | USB AUX | Bluetooth USB SD Card Reader RCA | TRS Balanced RCA AUX |
Price | 1,370 | 1,790 | 3,490 |
สเปคลำโพงคอมเบสหนัก | Edifier R1280DB | JBL Quantum Duo | Audioengine A1 |
Sound Channel | Active Speaker 2.0 แชนแนล | Active Speaker 2.0 แชนแนล | Active Speaker 2.0 แชนแนล |
Power | 42W (RMS) | 20W (RMS) | 60W (RMS) |
Connectivity | Bluetooth 5.1 Optical Coaxial RCA | USB Audio-in Bluetooth 4.2 | Bluetooth 5.0 AUX Sub-out (RCA) |
Price | 3,640 | 4,893 | 6,390 |
แม้ลำโพงคอมเบสหนักในบทความนี้ได้ไดรเวอร์และการปรับจูนเสียงมาดีพอควร ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ใดๆ แล้วขับเสียงออกมาได้เลยก็จริง แต่สังเกตว่าหลายๆ แบรนด์จะมีพอร์ตเสริมอื่นๆ ไม่ว่าจะ RCA, Sub-out เอาไว้ต่อลำโพง Subwoofer เอาไว้เพิ่มมวลเสียงเบสให้หนักแน่นขึ้นหรือ DAC เอาไว้ปรับจูนเสียงโดยละเอียดได้อีกด้วย ซึ่งในส่วนนั้นก็ขึ้นอยู่กับโจทย์และความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนว่าพอใจกับเสียงของลำโพงในปัจจุบันแล้วหรือไม่ ซึ่งอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ก็สุดแต่ความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนว่าจะอัพเกรด เพิ่มหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนไหนก็ว่ากันไปตามชอบ
Photo Credits : Audioengine, Edifier
FAQ
1. ค่าวัตต์ของลำโพงมีผลต่อตัวลำโพงอย่างไร?
ตอบ เป็นค่ากำลังไฟฟ้าที่ลำโพงนั้นๆ รับได้แล้วแปลงเป็นความดังเสียง ยิ่งมีเยอะยิ่งเสียงดัง
2. จากข้อก่อนหน้า ลำโพงกี่วัตต์ถึงจะดังเพียงพอต่อการใช้งานในบ้าน?
ตอบ ขึ้นอยู่ว่าจะวางลำโพงเอาไว้ในห้องใด โดยปกติลำโพง 30-50 วัตต์ก็ดังพอใช้งานในบ้านแล้ว
3. ถ้าหาลำโพงเครื่องเสียงหรือ Home theater ควรหาลำโพงขนาดกี่วัตต์ดี?
ตอบ แนะนำให้ดูรายละเอียดของลำโพง ให้ตู้ลำโพง Satellite มีแรงขับข้างละ 40 วัตต์ และต่อ Subwoofer เพิ่มก็เพียงพอ อาจเสริม Amplifier กำลังขับ 60-80 วัตต์เสริมก็ได้
4. ลำโพงใช้งานหน้าคอมพิวเตอร์เลือกกำลังขับกี่วัตต์ดี?
ตอบ เลือกตู้ลำโพง Satellite มีกำลังขับไม่เกิน 25 วัตต์ต่อข้างก็ดังเพียงพอแล้ว
5. ปรับลำโพงดังกี่เดซิเบลดีถึงจะได้ยินชัดเจนและไม่ส่งผลเสียต่อประสาทหู?
ตอบ โดยทั่วไปควรปรับเสียงให้ดังราว 60dB จะดีสุด เทียบแล้วดังเท่าเสียงพูดโดยปกติของมนุษย์หรือเสียงเครื่องปรับอากาศทำงาน หากดังกว่านั้นอาจทำให้ประสาทรับเสียงเสียหายหรือหูหนวกได้
6. สาย TRS Balanced คืออะไร?
ตอบ สายเสียงประเภทหนึ่งซึ่งออกแบบมาให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เครื่องเสียงแล้วได้เสียงดีสุด เป็นแจ็คเหมือน AUX แต่ขนาดใหญ่กว่า ข้อดีของ TRS Balanced จะช่วยลดเสียง Distort ลงไปให้น้อยสุดหรือไม่มีเลย
7. หากลำโพงต่อ Subwoofer เพิ่มได้แล้วเราจำเป็นต้องต่อเสมอหรือเปล่า?
ตอบ Subwoofer เป็นลำโพงสำหรับขับเสียงต่ำให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งปกติลำโพงบางรุ่นอาจจะขับเสียง Bass ได้ไม่ดีเท่าที่ควร การต่อ Subwoofer เพิ่มจะช่วยในส่วนนี้ได้