Connect with us

Hi, what are you looking for?

Tips & Tricks

8 แอพแปลภาษาด้วยเสียง ใช้ง่าย แม่นยำ ไปเที่ยว ทำงาน เรียนภาษาก็ได้ ฟรี

8 แอพแปลภาษา เป็นเพื่อนไปเที่ยวต่างประเทศ แปลด้วยเสียงได้หลายภาษา เร็วทันใจ คนฟังเข้าใจ ไปไหนก็สะดวก

แปลภาษา

แปลภาษาบางครั้งก็เป็นเรื่องยาก เวลาที่ต้องเดินทางไปเที่ยวหรือสนทนากับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคนที่ยังไม่สามารถพูดคุยสอบถามเป็นภาษาอังกฤษ หรือไปยังที่ที่ไม่ได้ใช้ภาษากลาง จะใช้ชีวิต ถามเส้นทางหรือจะหาร้านอาหารก็ดูจะยากเย็น แต่ปัจจุบันมีเครื่องมือที่ช่วยในการแปลภาษามากมาย ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม แอพพลิเคชั่นหรือการใช้เครื่องแปลภาษา ก็มีวางจำหน่ายอยู่ไม่น้อย ขึ้นอยู่กับความต้องการหรือความสะดวกในการใช้งานของแต่ละบุคคล ยิ่งถ้าเป็นเครื่องมือหรือแอพที่ใช้ฟรีด้วยแล้ว ก็น่าจะถูกใจใครหลายคนทีเดียว วันนี้เรานำแอพที่ใช้เสียงในการป้อนข้อมูล และหาคำแปล พร้อมออกเสียงมาเป็นประโยคให้กับคนที่กำลังศึกษาหรือพาตัวเองสู่โลกกว้างในต่างประเทศมาแนะนำกัน

8 แอพแปลภาษาด้วยเสียง

  1. Google Translate
  2. Voicetra
  3. SayHi Translate
  4. iTranslate
  5. Microsoft Translator
  6. Dialog – Translate Speech
  7. Language Translator
  8. Multi Translate Voice
  9. Conclusion

1.Google Translate

แปลภาษา

Google Translate ยังคงเป็นแอพยอดฮิตติดชาร์ทมายาวนานในการแปลภาษา ว่าตั้งแต่เด็กนักเรียน คนทำงาน และนักเดินทาง เพราะจุดเด่นนอกจากจะใช้งานง่าย มีความหลากหลายของภาษา ยังใช้คำสั่งเสียงพูดลงไป ให้แอพแปล และพูดออกมาเป็นเสียง สำเนียงก็จัดว่าทำได้ดี จึงไม่น่าแปลกใจที่จะได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย ที่สำคัญยังใช้งานได้ทั้งแอพบน Android และ iOS ซึ่งความแม่นยำในการแปลนั้น มีค่อนข้างสูง โดยเฉพาะการแปลเป็นคำ แม้ในเรื่องของการแปลรูปประโยคหรือการใช้ศัพท์แสลงจะยังไม่ได้เต็มร้อย ตามแบบฉบับของเครื่องมือแปลทั่วไป แต่ถ้ามองกันในแง่การตอบสนอง เมื่อพูดด้วยเสียงเป็นภาษาไทย และให้แอพแปลเป็นอังกฤษ ก็จัดว่ารวดเร็ว เหมาะกับการพกพาไปใช้ระหว่างการเดินทางได้ดี แต่สิ่งที่จำเป็นคือ ยังต้องมีการเชื่อมต่อเครือข่าย เมื่อใช้งาน ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาพิเศษก็คือ การใช้กล้องถ่ายภาพ เพื่อให้ระบบหาคำแปลให้ ช่วยให้เวลาที่ค้นหาร้านหรือจะซื้อสินค้า ก็ช่วยเราแปลฉลากหรือข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์ได้อีกด้วย และระบบ Converation ที่เวลาคุณจะพูดเป็นประโยคยาวๆ ให้กับคนพื้นที่ได้ฟัง ก็สามารถทำได้สะดวก

Advertisement
จุดเด่นข้อสังเกต
รองรับได้กว่า 100 ภาษา ตอบสนองได้รวดเร็วใช้สนทนาทั่วไปได้ดี แต่อาจต้องปรับรูปแบบประโยคที่ยาว
สามารถแปลเป็นประโยค และออกเสียงได้ทันที

ดาวน์โหลดและข้อมูลเพิ่ม: Google


2.Voicetra

แปลภาษา

VoiceTra เป็นแอพแปลภาษาสำหรับนักท่องเที่ยว ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน สามารถใช้ได้ทั้งบน Android และ iOS เช่นเดียวกัน หน้าตาก็จัดว่าเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน อินเทอร์เฟสพร้อมใช้ ปัจจุบันเป็นเวอร์ชั่น ver.9.0.3 อัพเดตในส่วนของภาษาที่เพิ่มขึ้น รองรับ Text-to-Speech ได้มากกว่าเดิม และคุณสมบัติเด่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแปลด้วยเสียงที่ป้อนเข้าไปได้อย่างรวดเร็ว มีตัวตรวจเช็คผลการแปลให้ดูอีกด้วย และรองรับได้มากกว่า 30 ภาษา ที่สำคัญดาวน์โหลดมาใช้แบบไม่มีค่าใช้จ่าย วิธีการใช้ก็เพียงดาวน์โหลด Voicetra มาติดตั้ง จากนั้นเลือกภาษาต้นทางคือผู้ใช้ และภาษาพื้นฐานที่เป็นปลายทาง ซึ่งคุณต้องการจะสื่อสารให้คู่สนทนาได้รับทราบ เมื่อระบบ Input ข้อมูลที่พูด และแปลออกมา จะให้คุณได้เช็คอีกครั้งก่อนเสมอ เรื่องของน้ำเสียงและสำเนียง จัดว่าค่อนข้างสบายหู ฟังดูลื่น ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ต้องการผู้ช่วย เมื่อต้องไปต่างประเทศ

จุดเด่นข้อสังเกต
มีตัวตรวจเช็คคำให้หลังแปลรองรับภาษายังไม่เยอะมาก

ดาวน์โหลดและข้อมูลเพิ่ม: VoiceTra


3.SayHi Translate

แปลภาษา

SayHi แอพแปลภาษาอีกแอพหนึ่งที่น่าสนใจ และเหมาะกับการใช้งานในการเดินทางอย่างยิ่ง สามารถ Speec-to-Text หรือพูดลงไปให้แอพแปลให้ สำหรับการใช้สื่อสารทั่วไป จัดว่าทำได้ดี อินเทอร์เฟสดูง่าย ทำให้ผู้ใช้สะดวกมากขึ้น เช่น เลือกเป็นใส่ข้อมูลแบบที่พิมพ์ลงไป แล้วให้ระบบแสดงออกมาเป็นเสียง หรือแปลแบบเป็นตัวอักษรเพื่อใช้งานได้ โดยพื้นฐานหากเป็นภาษาอังกฤษ ไทยหรือทั่วๆ ไปรอบบ้านเรา ใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่สำหรับบางภาษาอาจจะมีจ่ายเพิ่ม แต่ก็ไม่ได้สูงอะไร แม้บางครั้งอาจจะไม่ตรงแบบเป๊ะๆ ขึ้นอยู่กับการป้อนข้อมูลของผู้ใช้และการจัดเรียงรูปประโยคของระบบ อาจะมีแปลกๆ บ้าง แต่ถือว่านำไปใช้งานระหว่างเดินทางได้รวดเร็ว ซึ่งตัวแอพรองรับทั้ง iOS และ Android ไม่ต้องใช้ทรัพยากรมาก รองรับได้มากกว่า 150 ภาษาทั่วโลก แต่มีข้อจำกัดอยู่บ้างเล็กน้อย เรื่องของจำนวนการแปลแบบฟรี และต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเมื่อใช้งาน

จุดเด่นข้อสังเกต
แอพตัวเล็ก ไม่มีค่าใช้จ่ายรูปแบบประโยคต้องปรับเล็กน้อยก่อนใช้
ใช้งานได้รวดเร็ว

ดาวน์โหลดและข้อมูลเพิ่มเติม: SayHi


4.iTranslate

แปลภาษา

iTranslate อีกหนึ่งแอพแปลภาษาฟังก์ชั่นน่าใช้ รองรับการสนทนาได้มากกว่า 100 ภาษา ให้คุณสามารถพูดคุย สอบถาม และหาข้อมูลคำแปลได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่การแปลจากเสียง ที่มีคำศัพท์ให้เลือกมากมาย และคุณยังเลือกมาใช้กับประโยคที่ใช้ในการแปลแต่ละครั้งได้อีกด้วย โดยมีตัวช่วยในการแปลแบบเรียลไทม์คือ คุณพิมพ์ระบบก็จะแปลให้ทันที รวมถึงมีคำแปลควบคู่ไปกับคำที่คุณป้อนเข้าไปอีกด้วย เรียกว่าเป็น Keyboard Translation และ Text Translation รวมถึง Voice แค่เลือกภาษาต้นทางที่คุณใช้ กับภาษาปลายทางที่ต้องการให้แปล นอกจากนี้ยังถ่ายภาพสิ่งต่างๆ เพื่อหาข้อมูล และคำศัพท์ของสิ่งนั้นๆ ได้ทันที โดยจะเป็นแบบ Free Trial ให้เราใช้ในช่วงแรก แต่ถ้าต้องการจะใช้เต็มรูปแบบ ซึ่งรายปีแค่ประมาณ 50USD เท่านั้น และที่เสริมเข้ามาคือ Offline Translate ภาษาพื้นฐานใช้งานได้ทันที ไม่ต้องต่อเน็ตอีกด้วย

จุดเด่นข้อสังเกต
แปลแบบเรียลไทม์ได้ไวมีค่าใช้จ่ายหากต้องการฟังก์ชั่นเพิ่ม
Translate to voice ค่อนข้างแม่นยำ

ดาวน์โหลดและข้อมูลเพิ่มเติม: iTranslate


5.Microsoft Translator

แปลภาษา

แอพแปลภาษาแบบเรียลไทม์ Microsoft Translator ใช้ง่าย และเป็นเครื่องมือที่ดีสำหรับคนทำงานและนักเดินทางเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการสนทนา การแปลคำพูด หรือการแปลด้วยการป้อนเสียงเข้าไป แอพแบ่งหน้าจอออกเป็น 2 ส่วน ให้เห็นรูปแบบผลการแปลที่ชัดเจนขึ้น และยังตอบสนองได้รวดเร็ว จะใช้ในเชิงของการทำงานก็จัดว่าทำได้ค่อนข้างดี และยังใช้ร่วมกับเว็บเบราว์เซอร์ ในช่วงการประชุมได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังรองรับการแปลแบบ Offline ได้ ด้วยการดาวน์โหลดชุดภาษาพื้นฐานที่ใช้กันทั่วไป มาลงไว้ในเครื่องก่อนได้เลย เข่นเดียวกับการแปลแบบข้อความ ที่ใช้ร่วมกับการแปลบนอีเมล์ ระบบยังให้เลือกปักหมุดคำแปลที่ใช้งานอยู่ประจำได้ หรือถ้าไปต่างประเทศ คุณจะสั่งอาหาร แต่ไม่มีภาษาที่คุณคุ้นเคย สามารถเปิดกล้องถ่ายภาพเมนู แล้วระบบก็จะแปลให้คุณได้ทราบทันที จะหาเส้นทาง ร้านอาหาร หรือป้ายอื่นๆ ก็ไม่ยากอีกต่อไป ที่น่าสนใจก็คือ จะมีคำที่คุณอาจได้ใช้บ่อยๆ เตรียมเอาไว้ อย่าง เช่น การหาที่พัก ร้านอาหาร หรืออื่นๆ เพิ่มเครื่องมือการฟังและอ่านออกเสียงให้กับคนที่ใช้ในการศึกษา รองรับการใช้ได้ทั้ง Android และ iOS

จุดเด่นข้อสังเกต
มีรายละเอียดเยอะ อินเทอร์เฟสใช้ง่าย
รองรับ Speech-to-Text

ดาวน์โหลดและข้อมูลเพิ่มเติม: Microsoft Translator


6.Dialog – Translate Speech

แปลภาษา

Dialog – Translate Speech แอพแปลภาษาตัวเล็กกระทัดรัด เหมาะกับการใช้งาน เรียนรู้ภาษาและติดตัวไปท่องเที่ยวต่างประเทศ เพราะใช้งานง่าย รองรับการแปลด้วยเสียง Text-to-Speech รองรับได้มากถึง 80 ภาษา และอ่าน รวมถึงแปลข้อความเป็นเสียงได้ทันที เรียกว่าไม่แพ้แอพอื่นๆ ที่เราแนะนำมาในเบื้องต้น ใช้งานแบบสบายๆ เมื่อต้องสนทนา เพราะแค่กดปุ่มพูด แอพจะแปล และออกเสียงให้ ได้ทั้งปลายทางและต้นทาง คุยกันง่ายขึ้น จุดเด่นคือ รองรับการใช้งานแม้จะมีเสียงรบกวนในบริเวณรอบๆ ก็ตาม ให้ความแม่นยำในเกณฑ์ที่ดี แม้ว่าประโยคยาวๆ บางครั้่งก็ต้องนำมาปรับอยู่บ้าง แต่ยังคงเนื้อความโดยรวมได้ชัดเจน เนื่องจากฟังก์ชั่นไม่ได้เยอะมากมาย เน้นใช้งานแปล และเสียงเป็นหลัก อินเทอร์เฟสจึงดูง่ายเป็นกันเอง ลองนำไปใช้กันดูครับ

จุดเด่นข้อสังเกต
การแปลทำได้รวดเร็ว รองรับการป้อนข้อมูลด้วยเสียงเน้นฟังก์ชั่นใช้งานพื้นฐาน
แปลแบบเรียล์ไทม์

ดาวน์โหลดและข้อมูลเพิ่มเติม: Dialog


7.Speak & Translate

แปลภาษา

Speak & Translate ตัวช่วยสำหรับงานแปลและนักเดินทาง ที่ต้องการความสะดวกในการสนทนาสอบถามข้อมูล เพื่อการเดินทางที่ราบลื่น มีฟังก์ชั่นการใช้งานค่อนข้างเยอะ เหมาะกับคนที่ทำงานนอกสถานที่ เดินทางบ่อย หรือต้องการในเรื่องของความแม่นยำที่มากขึ้น ซึ่งรองรับได้ถึง 117 ภาษาทั่วโลก และการแปลเสียงได้มากกว่า 50 ภาษา สนับสนุนการใช้งานได้บน Apple iOS พร้อมโหมดแปลข้อความที่รวดเร็ว การใช้งานเพียงแค่กำหนดภาษาต้นทางกับปลายทาง ใช้เสียงในการสนทนาได้เลย และยังค้นหาภาษาต้นฉบับให้อัตโนมัติ ในกรณีที่คุณไม่ทราบว่า ภาพที่ถ่ายมีภาษาในนั้น เป็นภาษาอะไร และยังมีรูปแบบเสียง เพื่อให้ฟังได้ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากฟังก์ชั่นการแปล จากการป้อนข้อมูลด้วยการพิมพ์ เสียง และถ่ายภาพแล้ว ยังสามารถคัดลอกข้อความ และค้นหาข้อมูลศักท์ในพจนานุกรมได้รวดเร็ว หรือคุณจะเขียนเป็นลายมือตามที่คุณเห็น เพื่อให้ระบบพิมพ์ให้อัตโนมัติ เรียกว่าแอพเดียวเที่ยวทั่วโลกได้เลย

จุดเด่นข้อสังเกต
แปลได้มากกว่า 117 ภาษาสนับสนุนการใช้งานได้บน Apple iOS
มีรูปแบบในการป้อนข้อมูลเพื่อแปลได้เยอะ

ดาวน์โหลดและข้อมูลเพิ่มเติม: Speak & Translate


8.Multi Translate Voice

แปลภาษา

Multi Translate Voice ที่มีฟีเจอร์และลูกเล่นน่าใช้ไม่เบา เอาใจคนที่ต้องการใช้งานจริงจังมากขึ้น มีค่าใช้จ่ายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้สูงเมื่อเทียบกับฟังก์ชั่นที่ได้รับ อย่างเช่น การแปลที่ค่อนข้างแม่นยำ และถอดจากเสียงมาเป็นข้อความได้ รองรับการแปลได้มากกว่า 100 ภาษา ซึ่งครอบคลุมการใช้งานได้มากขึ้น รวมถึงการใช้กล้องถ่ายวัตถุในการระบุเป็นภาษา ข้อความของสิ่งนั้นๆ จัดได้ว่าเป็นสิ่งยอดฮิตเลยทีเดียว การจดจำเสียง และการฟัง มีประสิทธิภาพดี เพราะสามารถฟังเสียงของเรา และถอดออกมาเป็นข้อความได้ เกือบเป๊ะ ถ้าคุณพูดชัด ไม่เร็วเกินไป นอกจากนี้ยังแปลได้พร้อมกัน 3 ภาษาเลย มีเสียงพูดแบบต้นฉบับเพื่อให้เราใช้ในการเรียนออกเสียง ค้นหาคำได้ง่าย เก็บประวัติการค้นหาศัพท์เอาไว้ได้เช่นกัน เรียกว่าเป็นแอพที่มีหน้าตาเรียบง่ายเป็นกันเอง แต่คุณสมบัติเกินตัวอีกรุ่นหนึ่ง

จุดเด่นข้อสังเกต
แปลได้มากกว่า 100 ภาษามีค่าใช้จ่าย
มีฟังก์ชั่นที่หลากหลาย

ดาวน์โหลดและข้อมูลเพิ่มเติม: Multi Translate Voice


Conclusion

Applicationจุดเด่นข้อสังเกต
1.Google Translateสามารถแปลเป็นประโยค และออกเสียงได้ทันทีใช้สนทนาทั่วไปได้ดี แต่อาจต้องปรับรูปแบบประโยคที่ยาว
2.Voicetraมีตัวตรวจเช็คคำให้หลังแปลรองรับภาษายังไม่เยอะมาก
3.SayHi Translateแอพตัวเล็ก ไม่มีค่าใช้จ่ายรูปแบบประโยคต้องปรับเล็กน้อยก่อนใช้
4.iTranslateTranslate to voice ค่อนข้างแม่นยำมีค่าใช้จ่ายหากต้องการฟังก์ชั่นเพิ่ม
5.Microsoft Translatorรองรับการแปลแบบ Offline
6.Dialogแปลได้รวดเร็ว รองรับการป้อนข้อมูลด้วยเสียงเน้นฟังก์ชั่นใช้งานพื้นฐาน
7.Speak & Translateมีรูปแบบในการป้อนข้อมูลเพื่อแปลได้เยอะสนับสนุนการใช้งานได้บน Apple iOS
8.Multi Translate Voiceแปลได้มากกว่า 100 ภาษามีค่าใช้จ่าย

ทั้ง 8 แอพแปลภาษาที่เรานำมาให้ชมนี้ เป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่กำลังหาแนวทางในการใช้งานทั้งด้านการศึกษา เดินทางไปต่างประเทศ หรือใช้ในด้านธุรกิจ โดยเฉพาะการสื่อสารในฐานะของนักท่องเที่ยว หรือผู้ประกอบการในบ้านเราเอง เพื่อให้การิอต่อสื่อสาร เป็นไปอย่างไหลลื่นมากขึ้น พูดคุยกันได้กับหลายๆ ชาติแบบไร้พรมแดน ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าใช้งานจนคล่อง ก็จะกลายเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ และช่วยให้กระบวนการเรียนรู้เรื่องของภาษาเป็นไปอย่างรวดเร็ว อย่าง Google Translate ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของแอพที่เราคุ้นเคยกันดี หรือจะเป็น Microsoft แต่ถ้าต้องการตัวเล็ก ใช้งานง่ายๆ ก็จะมีทั้ง SayHi และ Dialog และอื่นๆ แต่ในกรณีที่คุณต้องการใช้งานจริงจัง แอพบางตัวที่มีค่าใช้จ่ายเสริม ก็มีฟังก์ชั่นรวมถึงองค์ประกอบให้คุณใช้งานได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ลองไปปรับใช้กันดูก่อน ถูกใจแล้วอยากเพิ่มหรือเลือกใช้ตัวที่เหมาะกับคุณอีกครั้งหนึ่ง หรือจะจ่ายกับเวอร์ชั่นใด ก็ตัดสินใจกันได้เลยครับ


FAQ คำถามพบบ่อย

1.แปลภาษาไทยแบบไหนดี

Ans.การแปลไทยพื้นฐาน หากคุณใช้งานพีซีโน๊ตบุ๊คอยู่แล้ว เครื่องมืออย่าง Google Translate หรือฟังก์ชั่นบน Web browser ที่เป็น Extension ก็มีเครื่องมือให้ใช้งานได้สะดวกอยู่แล้ว แต่ในกรณีที่ต้องไปใช้งานข้างนอก เดินทาง หรือไปพบปะลูกค้าต่างชาตินอกสถานที่ แล้วอยากได้คำแปลบางส่วนที่เราอาจฟังไม่เข้าใจ ก็อาจจะพึ่งพาโทรศัพท์มือถือที่ลงแอพแปลงภาษาต่างๆ เหล่านี้ด้วย อย่างไรก็ดี ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสียงรบกวนรอบข้าง การป้อนเสียงเข้าไปในแอพ หรือแม้กระทั่งความแม่นยำของระบบ ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับบริบทของแต่ละบุคคล

2.แปลภาษา ถ่ายรูป

Ans.การแปลจากการถ่ายรูปก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่นิยมใช้กันมาก เนื่องจากสะดวกต่อการใช้ชีวิตในต่างแดน ไม่ว่าจะเป็นป้ายบอกทาง ชื่อร้าน ไปจนถึงรายละเอียดข้างบรรจุภัณฑ์ เพราะบางครั้งเราไม่ทราบได้ว่าบอกถึงอะไร มีส่วนประกอบอะไรบ้าง และใช้งานอย่างไร การใช้กล้องถ่ายและแปลผ่านแอพจึงช่วยได้มากทีเดียว แต่สิ่งสำคัญคือ ภาพต้องชัดเจน ไม่ไกลเกินไป และต้องปรับช่องให้โฟกัสสิ่งที่ต้องการอย่างชัดเจน ดังนั้นการเลือกแอพที่มีฟีเจอร์นี้อยู่ ก็เพิ่มความสะดวกให้กับคุณได้มากขึ้น

3.เครื่องแปลดีมั้ย

Ans.เครื่องแปลก็นับว่าเป็นอีกวิวัฒนาการหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้ใช้และนักท่องเที่ยวสามารถสื่อสารกับคนในพื้นที่ ในกรณีที่ต้องไปต่างประเทศ แล้วถ้าไม่ได้ใช้ภาษากลาง หรือมีแต่ภาษาท้องถิ่น เครื่องมือนี้ช่วยให้เราพกพาไปใช้งานได้สะดวก และยังมีความแม่นยำค่อนข้างสูง หลักๆ จะใช้เสียงในการสื่อสาร และแปลงเป็นเสียงภาษาไปยังปลายทาง ราคามีตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหมื่นบาท จุดเด่นคือ รองรับได้หลายภาษา แปลแบบเรียลไทม์ พกพาง่าย บางรุ่นมีระบบตัดเสียงในตัว ทำให้ได้เสียงแปลที่เคลียร์ชัด ควรเลือกรุ่นที่ใช้งานได้ยาวนาน หากคุณจะต้องเดินทางไปยังที่ต่างๆ และชอบการผจญภัย หรือถ้ารองรับการเชื่อมสัญญาณอินเทอร์เน็ตก็ยิ่งดี เพื่อการอัพเดตได้รวดเร็วมากขึ้น

4.แอพแปลกับเครื่องแปลแบบไหนดี

Ans.จะใช้แอพแปลหรือเครื่องแปลต่างก็มีข้อดีด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งหากคุณมีมือถืออยู่แล้ว แอพเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะบางอันไม่มีค่าใช้จ่าย และยังใช้งานง่าย แต่บางครั้งก็ต้องแลกมาด้วยการเปลืองแบตอยู่บ้าง โดยเฉพาะบางคนที่ต้องใช้ในการนำทาง และใช้โทร แชตและแปลไปด้วย แบบนี้แบตอาจจะหมดเร็ว แต่ถ้าเป็นเครื่องแปลภาษา ก็ใช้งานง่าย พกสะดวก แบตใช้ได้นาน เน้นที่ Input ด้วยเสียงเป็นหลัก ตอบสนองได้ไว แต่ก็จะมีราคาค่อนข้างสูง ซึ่งบางครั้งคุณอาจจะถ่ายภาพ เพื่อหาคำแปลไม่ได้ หรือจะพิมพ์ก็เป็นเรื่องยากอยู่เหมือนกัน แต่ทั้ง 2 แบบก็ทำหน้าที่ได้ดีทั้งคู่ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของคุณเอง

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

CONTENT

iPhone ตกน้ำ เปียกน้ำ โดนฝน 2024 แจ้งว่ามีของเหลวขณะเสียบสายชาร์จ แก้ไขเบื้องต้นใน 4 ขั้นตอน หนึ่งในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ก็คือมือถือเปียกน้ำ แม้มือถือส่วนใหญ่จะกันน้ำได้บ้าง แต่ก็อาจพบปัญหาตอนเสียบสายชาร์จ อย่างใน iPhone เองจะมีข้อความแจ้งว่าตรวจพบของเหลว และตัดการจ่ายไฟ ทำให้ไม่สามารถชาร์จไฟได้เลย โดยเฉพาะช่วงอากาศร้อนแบบนี้ หลายท่านคงมักหากิจกรรมที่เกี่ยวกับน้ำเพื่อคลายร้อน ไม่ว่าจะลงสระว่ายน้ำ หรือลงไปดำน้ำ เล่นน้ำทะเลเป็นต้น ที่สำคัญคือ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา...

Buyer's Guide

หลายปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะแบรนด์นาฬิกาหรือสมาร์ทโฟนก็หันมาสร้าง Smart Watch กันอย่างต่อเนื่องจนหลายๆ คนคิดว่าจะซื้อ Smart Watch รุ่นไหนดี 2024 นี้ก็มีตัวเลือกจากแบรนด์ต่างๆ มากมาย ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีเอกลักษณ์ส่วนตัวแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะใช้งาน Google Wear OS ทำให้นาฬิกาเป็นส่วนเสริมของสมาร์ทโฟนให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น ใช้จ่ายเงิน, ดูแผนที่ระหว่างเดินทางไปไหนมาไหนได้ง่าย ไปจนกลุ่มคนที่รักการออกกำลังกายและใช้ชีวิต Extreme ดำน้ำเดินป่าก็มี Smart Watch...

How to

ในยุคนี้เมื่อแทบทุกงานในชีวิตต้องใช้อินเทอร์เน็ต ถ้าโน๊ตบุ๊คเชื่อมต่อ WiFi ไม่ได้เมื่อไหร่ก็เป็นเรื่อง ทำงานลำบากอัปเดตงานกับเพื่อนร่วมงานไม่ได้หรือแม้แต่เปิดดูสตรีมมิ่งเสพย์ความบันเทิงไม่ได้ ทำเอาใครหลายคนหงุดหงิดไม่อยากเจอปัญหาแบบนี้ แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้วก็ยังพอมีวิธีแก้ปัญหาได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องยกคอมไปหาช่างให้วุ่นวาย ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะใช้ 1 ใน 7 วิธีนี้อาจแก้ปัญหาได้แถมอาจจะช่วยเพื่อนที่เจอปัญหาเดียวกันได้ด้วย โน๊ตบุ๊คเชื่อมต่อ WiFi ไม่ได้ด้วยหลายเหตุผล แต่ก็สันนิษฐานปัญหาได้ไม่ยาก! ปัญหาหลักเวลาโน๊ตบุ๊คเชื่อมต่อ WiFi ไม่ได้ เพราะบางคนเผลอกด Airplane mode อยู่...

How to

วิธีการแคปหน้าจอคอมในปี 2024 นี้ ไม่ว่าจะใช้คีย์ลัดของระบบปฏิบัติการ, ใช้โปรแกรมติดเครื่องหรือโหลดมาติดตั้งเพิ่มแล้วบันทึกเป็นวิดีโอ รวมถึงเพิ่มเข้ามาเป็นส่วนเสริมในเบราเซอร์ก็มีให้เลือกหลากหลายแบบ ทำให้เราสามารถเก็บภาพเอาไว้ใช้ได้หลายโอกาสไม่ว่าจะแซวเพื่อนเอาสนุกสนานไปจนใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาลเมื่อเกิดข้อพิพาทก็ได้ ซึ่งคีย์ลัดของแต่ละระบบปฏิบัติการและเบราเซอร์จะมีวิธีเรียกใช้งานแตกต่างกันไปตามการตั้งค่าของทางผู้พัฒนา และบางโปรแกรมอาจจะไม่มีคีย์ลัดให้ใช้ ก็ต้องติดตั้งส่วนเสริม (Extension) เพิ่มเอง แต่ก็ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นแน่นอน สรุปวิธีแคปหน้าจอคอมทุกแบบ ครบเครื่องทั้ง Windows, macOS, Microsoft Edge, Mozilla Firefox และ Google Chrome...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก