Acer Aspire TimelineX 4830TG ตัวนี้เป็นตัวบนสุดของตระกูล TimelineX ที่ได้ปรับปรุงมาจากรุ่นเก่า ด้วยการออกแบบที่สวยงามโฉบเฉี่ยวขึ้น แต่ก็ยังไม่ทิ้งแนวคิดของ TimelineX ที่ต้องมาพร้อมกับความหรูหราและบางเบา โดยที่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพ โดยที่เห็นได้ชัดเจนถึงความแตกต่างจากรุ่นเดิมก็คือ การใช้โทนสีเงินตัดกับสีน้ำเงินเงาทำให้ดูสะดุดตามากขึ้น นอกจากนั้นก็ยังติดตั้งแบตเตอรี่ภายในเครื่อง ซึ่งเป็นข้อติจากรุ่นเก่าที่แบตยื่นออกมาทำให้ถือจับได้ไม่สะดวก ส่งผลให้เครื่องหนาขึ้นกว่ารุ่นเก่าอีกนิด
Acer Aspire TimelineX 4830TG มาพร้อมกับซีพียูสุดแรงตัวใหม่อย่าง Intel? Core i7-2620M processor มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.7 GHz มีเทคโนโลยีสุดล้ำของ Intel Turbo Boost ทำให้สามารถที่จะเพิ่มความเร็วของตนเองขึ้นไปอยู่ที่ 3.4GHz ได้ เป็นซีพียู 2 Cores 4 Threads สามารถประมวลผลการทำงานที่หนักๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยจับคู่มากับ Mobile Intel HM65 Express Chipset แรมที่ให้มามากมายถึง 4GB DDR3 นอกจากนั้นยังมีการ์ดจอตัวแรงอย่างเจ้า nVidia GeForce GT 540M พร้อมรองรับ NVIDIA Optimus สามารถสลับได้กับ Intel HD Graphics 3000 ในการทำงานที่เหมาะสมเพื่อการประหยัดพลังงานที่เป็นเลิศ จะแสดงผลออกมาในหน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD ที่ 1366 x 768 ฮาร์ดดิสก์ให้มาเต็มที่ถึง 750GB 5400 rpm ทั้งหมดจะทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 7 Home Premium 64-bit
การออกแบบดีไซน์ของ Acer Aspire TimelineX 4830TG จะรู้สึกได้ถึงความเรียบง่าย ไม่มีลวดลายอะไรมาก พร้อมการเปลี่ยนมาใช้โทนสีน้ำเงินเงา ทำให้ดูโดดเด่นสะดุดตา ตัดกับสีเงินบริเวณด้านในของตัวเครื่องรองคีย์บอร์ดได้อย่างลงตัว การเลือกใช้วัสดุอะลูมิเนียมผสมที่มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทำให้เครื่องที่บางออกมาไม่ได้ดูเปราะบางเลย แต่กลับให้ความรู้สึกแข็งแรงมากด้วยซ้ำไป แต่บริเวณฝาหลังจะเป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย อาจจะต้องเช็ดออกบ่อยหน่อย
พื้นผิวอะลูมิเนียมผสมบริเวณฝาหลัง
พื้นผิวที่วางมือนั้นเป็นพลาสติกมีความแข็งแรงพอสมควร เวลาที่เครื่องทำงานหนัก ๆ ตรงจุดนี้จะไม่มีความร้อนขึ้นมาให้รู้สึกเลย ไม่ต้องกลัวไฟดูดด้วย
แกนบานพับมีขนาดไม่เล็กจนเกินไป ดูเหมาะสมกับขนาดของเครื่องดี ความแข็งแรงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เวลาเลื่อนขึ้นเลื่อนลงให้ความรู้สึกถึงแรงด้านที่มีพอสมควร
จอของ Acer Aspire TimelineX 4830TG ขนาดกำลังดี 14 นิ้ว กับความละเอียดระดับ HD ที่ 1366 x 768 เป็น LED-backlit ทำให้หน้าจอนั้นดูบางเป็นพิเศษ
ความบางของหน้าจอ
กางได้สุด ๆ ราว 150 องศา
เมื่อการติดตั้งแบตเตอรี่ไว้ภายในจะทำให้เครื่องดูเรียบและบางลงด้วยการไม่มีแบตเตอรี่มาให้เกะกะ
น้ำหนักเครื่องจะอยู่ที่ 2.1 กิโลกรัม
เมื่อรวม Adapter ก็จะอยู่ที่ 2.461 กิโลกรัม
เป็นด้านใต้ท้องเครื่อง รวมถึงช่องระบายความร้อนใต้ท้องเครื่อง
บริเวณด้านหลังมีส่วนที่เปิดได้อยู่ส่วนเดียว มีรูระบายความร้อนตามอุปกรณ์ต่าง ๆ พอสมควร
HeatSink มีรูระบายความร้อนขนาดพอเหมาะ ลมแรง ช่วยระบายความร้อนได้ดี