หูฟังไร้สายน่าใช้ปลายปี 2023 มีหลายรุ่นน่าโดนทั้งนั้น!
หูฟังไร้สายไม่ว่าจะแบบ Lace คล้องตามคอหรือจะทรง True Wireless ไม่ว่าจะ In-Ear หรือ Earbuds ก็มีให้เลือกหลากหลายรุ่น, สไตล์ตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนหลักหมื่น ขึ้นอยู่ว่าทางบริษัทใส่ฟีเจอร์และลูกเล่นอะไรมาให้ใช้งานบ้าง โดยหลักๆ แล้วหูฟังไร้สายหลายรุ่นจะมีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนและยังใช้ Gesture Control เพียงแตะตรงหูฟังก็สามารถคุมการเล่นเพลงได้และบางรุ่นก็แตะสั่ง Amazon Alexa หรือ Google Assistant ให้อ่านข้อความแจ้งเตือนหรือสั่งฟังก์ชั่นต่างๆ ของสมาร์ทโฟนได้โดยไม่ต้องหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าก็ได้
นอกจากฟีเจอร์กับฟังก์ชั่น ผู้ใช้หลายๆ คนก็เลือกหูฟังไร้สายและมีสายจากสไตล์การจูนเสียงของแต่ละแบรนด์ร่วมด้วย ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีสไตล์การปรับจูนเสียงแตกต่างกันไป ทั้งเน้นเบสให้มีมิติหนักแน่น, ทำสเตจเสียงกว้าง, เน้นเสียงนักร้อง ฯลฯ ซึ่งในส่วนนี้ต้องอาศัยการเก็บข้อมูลอ่านรีวิวหรือจะลงทุนไปร้านขายหูฟังแล้วขอลองฟังเพลงโปรดจากหูฟังตัวในใจดู จะได้ตัดสินใจได้ว่าเนื้อเสียงแบบนี้ถูกจริตไหม หรือข้ามไปลองแบรนด์อื่นเลยดีกว่า?
6 หูฟังไร้สายน่าสนปลายปี 2023 สายฟังเพลงชอบ ถูกใจแน่นอน!
- FiiO JADEAUDIO JW1 (1,190 บาท)
- OnePlus Nord Buds 2 (2,490 บาท)
- SoundPEATS Opera 05 (3,590 บาท)
- YAMAHA TW-E3B (4,800 บาท)
- Shokz OpenFit (6,690 บาท)
- Sony WF-1000XM5 (9,990 บาท)
1. FiiO JADEAUDIO JW1 (1,190 บาท)
- Connectivity : Bluetooth 5.3, USB-C
- Driver : Dynamic 14.2 มม.
- Battery Life : 6 ชั่วโมง รวมชาร์จในเคสได้ 18 ชั่วโมง
- Touch control : มี
- Price : 1,190 บาท (Holysai Shopee)
FiiO JADEAUDIO JW1 หูฟังไร้สายจากแบรนด์คุ้นหูของคนเล่นเครื่องเสียง หลังจากสร้างชื่อเสียงจาก DAC คุณภาพดีราคาสบายกระเป๋าแล้ว ก็เข็นหูฟัง True Wireless ออกมาให้แฟนคลับได้หาซื้อมาใช้ในรุ่น JADEAUDIO JW1 เน้นไดรเวอร์ใหญ่ได้เสียงระดับ HiFi ฟังเพลงได้สนุกหูโดยเฉพาะแบบอะคูสติกจะโดดเด่นเป็นพิเศษและเชื่อมต่อมือถือและอุปกรณ์ต่างๆ ได้เสถียรขึ้นด้วย Bluetooth 5.3 ใส่มาในเคสฝาใสสวยมีสไตล์ ฟังเพลงต่อเนื่องได้นานสุด 6 ชั่วโมง แต่รวมระยะเวลาชาร์จจากเคสจะใช้ได้เพียง 18 ชั่วโมง จัดว่าระยะเวลาใช้งานสั้นกว่าแบรนด์คู่แข่งที่ข้ามไประดับ 25~30 ชั่วโมงแล้ว แต่ถ้าใช้เวลานั่งฟังเพลงตอนเดินทางไปกลับบ้านกับออฟฟิศก็ไม่มีปัญหาแน่นอน
ข้อดี
- เชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่านทาง Bluetooth 5.3 ให้สัญญาณการเชื่อมต่อดีและเสถียร
- ไดรเวอร์มีขนาดใหญ่ 14.2 มม. สามารถขับเสียงเพลงออกมาได้ดี
- ดีไซน์เคสสวยแตกต่างมีเอกลักษณ์ ถูกใจคนชอบความแตกต่าง
- มีก้านคล้องหูให้สวม ใส่ได้อย่างมั่นใจไม่หลุดตอนใช้งานแน่นอน
- มี Touch Control ควบคุมหูฟังได้เพียงแตะที่ตัวแผงทัชคอนโทรล
ข้อสังเกต
- เคสหูฟังชาร์จแบตเตอรี่ได้เพียง 18 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันนี้หลายรุ่นชาร์จได้ 25~30 ชั่วโมงแล้ว
2. OnePlus Nord Buds 2 (2,490 บาท)
- Connectivity : Bluetooth 5.3, USB-C
- Driver : Dynamic 12.4 มม.
- Battery Life : 7 ชั่วโมง รวมชาร์จในเคสได้ 36 ชั่วโมง, ชาร์จเร็ว 10 นาที ใช้งานได้ 5 ชั่วโมง
- Touch control : มี
- Price : 2,490 บาท (OnePlus Shopee Mall)
นอกจากสมาร์ทโฟนแล้ว ทาง OnePlus ก็มีหูฟังไร้สายอย่าง OnePlus Nord Buds 2 ที่ปรับปรุงฟีเจอร์และระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่จากรุ่นก่อนให้เลือกซื้อ มีฟีเจอร์ Fast Pair จับคู่กับสมาร์ทโฟนในเครือได้อย่างรวดเร็วแถมใส่ออกกำลังกายได้ไม่ต้องกลัวน้ำและฝุ่นจะทำให้หูฟังเสียหาย ระยะเวลาฟังเพลงรวมชาร์จในเคสใช้ได้นานสุด 36 ชั่วโมงแถมมีฟีเจอร์ชาร์จเร็วให้ฟังเพลงต่อได้ไม่ขาดตอน ด้านเนื้อเสียงจัดว่าดีฟังเพลงได้หลากหลายแนว อยากจูนเนื้อเสียงให้ตรงตามรสนิยมก็ปรับแต่งเสียงในแอพฯ ได้อีกด้วย
ข้อดี
- แบตเตอรี่ทนทาน ใช้งานได้นานสุดถึง 36 ชั่วโมงรวมชาร์จในเคส
- มีระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก (ANC) ตัดเสียงได้ถึง 25dB
- ได้ฟีเจอร์ BassWave อัลกอริธึ่มเสริมเสียงเบสให้มีพลังและมิติดีขึ้น
- ติดตั้งแอพฯ Sound Master EQ ปรับ Equalizer ได้ตามชอบ
- มีฟีเจอร์ Fast Pair จับคู่กับสมาร์ทโฟน OnePlus ได้รวดเร็ว
- กันน้ำและฝุ่นได้ระดับ IP55 ใส่ออกกำลังกายได้ไม่มีปัญหา
ข้อสังเกต
- ANC ของหูฟังตัดเสียงรบกวนได้น้อยกว่าแบรนด์คู่แข่งที่ได้ระดับ 30~40dB แล้ว
3. SoundPEATS Opera 05 (3,590 บาท)
- Connectivity : Bluetooth 5.3, USB-C
- Driver : Dual-balanced armature 12 มม.
- Battery Life : 9 ชั่วโมง รวมชาร์จในเคสได้ 33 ชั่วโมง
- Touch control : มี
- Price : 3,590 บาท (E-Gadget Shopee)
SoundPEATS แม้จะเป็นน้องใหม่ในวงการก็จริงแต่ก็มีหูฟังไร้สายเสียงดีถูกใจมหาชนออกมาให้เลือกซื้อหลากหลายรุ่น ถ้าให้แนะนำ ณ ตอนนี้ SoundPEATS Opera 05 จัดว่าน่าลงทุนซื้อมาใช้งานมาก เพราะได้ไดรเวอร์ Dual-balanced armature ขนาด 12 มม. ติดตั้งมาให้ ได้มิติเนื้อเสียงดีโดดเด่นและปรับแต่งในแอพฯ ของ SoundPEATS ได้หลากหลายแบบ รองรับ Codec เสียงทั้ง LDAC, Hi-Res ให้เสียงดีมีมิติยิ่งขึ้น มีระบบตัดเสียงรบกวน ANC ตัดเสียงภายนอกได้ 30dB และเปิดโหมดรับเสียงภายนอกได้ด้วย ถ้าใครชื่นชอบหรือเคยใช้แบรนด์ SoundPEATS มาก่อนจะรู้ว่าโทนเสียงของหูฟังไร้สายแบรนด์นี้จะเน้นเสียงสมดุลย์ เคลียร์ ฟังสนุก เป็นอีกแบรนด์ที่น่าลองซื้อมาใช้ฟังเพลงมาก
ข้อดี
- รองรับ Codec เสียงทั้ง LDAC, Hi-Res ฟังเพลงได้ดียิ่งขึ้น เหมาะกับคนรักเสียงเพลง
- กันน้ำและฝุ่นระดับ IPX4 ใส่ฟังเพลงระหว่างออกกำลังกายได้
- มีแอพฯ SoundPEATS เอาไว้ปรับแต่งเสียงและอัพเดทเฟิร์มแวร์ให้หูฟังได้
- ไดรเวอร์ของหูฟังเป็น Dual-balanced armature ให้มิติเสียงดีเป็นพิเศษ
- มีระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) ได้ 30dB และโหมดรับเสียงภายนอก (Transparency)
ข้อสังเกต
- มือถือต้องรองรับ Codec เสียง LDAC, Hi-Res ด้วย ถึงจะใช้งานได้
4. YAMAHA TW-E3B (4,800 บาท)
- Connectivity : Bluetooth 5.0, USB-C
- Driver : Dynamic 6 มม.
- Battery Life : 6 ชั่วโมง รวมชาร์จในเคสได้ 24 ชั่วโมง
- Touch control : มี
- Price : 4,800 บาท (Amorn Audio Shopee)
นอกจากจักรยานยนต์และเครื่องดนตรี บริษัทจากแดนปลาดิบอย่าง Yamaha ก็เปิดตัวหูฟังไร้สายรุ่นเริ่มต้นโดยเอาเทคนิคและความรู้ด้านดนตรีมาประกอบใส่ใน YAMAHA TW-E3B ตัวนี้ให้เลือกซื้อไปใช้ ด้านเสียงเพลงและทำนองจัดว่าไว้ใจได้อย่างแน่นอนแถมยังฟังเพลงได้นาน 6 ชั่วโมง รวมการชาร์จในเคสจะใช้ได้นานสุด 24 ชั่วโมง สามารถโหลดแอพฯ ของทาง Yamaha มาใช้ตั้งค่าและอัพเดทเฟิร์มแวร์ให้หูฟังได้ เชื่อมต่อเสถียรด้วย aptX มีฟีเจอร์ Listening care คอยปรับระดับความดังของเสียงโดยอัตโนมัติเพื่อถนอมแก้วหูของผู้ใช้เป็นลูกเล่นเด่นซึ่งแบรนด์อื่นไม่มีให้ นับเป็นฟีเจอร์เด่นไม่เหมือนใครแน่นอน
ข้อดี
- รองรับ Codec aptX รับส่งสัญญาณเสียงได้ต่อเนื่องไม่สะดุด
- กันน้ำและฝุ่น IPX5 กันน้ำและฝุ่น ใส่ออกกำลังกายได้
- มีฟีเจอร์ Listening Care ปรับระดับเสียงอัตโนมัติ ถนอมแก้วหูของผู้ใช้
- โหลดแอพฯ สำหรับหูฟังไร้สายจาก Yamaha มาใช้ตั้งค่าหูฟังได้
- มีให้เลือกหลายสีตามความชอบ ไม่จำกัดแค่สีขาวกับดำเท่านั้น
- ใช้งานร่วมกับ Siri, Google Assistant ได้ทันที
ข้อสังเกต
- ไม่มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน ANC ตอนฟังเพลงอาจมีเสียงเล็ดลอดเข้ามาได้
5. Shokz OpenFit (6,690 บาท)
- Connectivity : Bluetooth 5.2, USB-C
- Driver : Shokz DirectPitch driver
- Battery Life : 7 ชั่วโมง รวมชาร์จในเคสได้ 28 ชั่วโมง, ชาร์จไว 5 นาที ฟังเพลงได้ 1 ชั่วโมง
- Touch control : มี
- Price : 6,690 บาท (DotLife Shopee Mall)
สิ่งที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่อาจจะไม่ชอบหูฟัง In-Ear กับ Earbuds คือ ความอึดอัดเวลาสวมจุกหูฟังเข้าไปในรูหู แต่หูฟังไร้สายแบบ Bone Conduction จะไม่มีปัญหานี้เลยเพราะมันจะสวมเอาไว้เหนือรูหูแล้วใช้วิธีส่งคลื่นเสียงสั่นสะเทือนตรงเข้าไปยังกระดูกในหูของผู้สวมโดยตรง ช่วยให้ผู้ใช้ที่มีปัญหาได้ยินเสียงชัดเจนยิ่งขึ้นและเหมาะกับคนออกกำลังกายและคนที่เดินอยู่ในที่ชุมชนหรือมีรถยนต์สัญจรผ่านเป็นระยะๆ หูฟังอย่าง Shokz OpenFit ถือเป็นตัวเลือกที่ดี นอกจากได้ยินเสียงภายนอกชัดเจนและฟังเพลงได้พร้อมๆ กันแล้ว ไมค์ยังติดฟีเจอร์ AI Noise Cancelling มาให้กันเสียงรบกวนจากภายนอกลอดเข้าไป และเวลาใช้งานก็เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์สลับใช้งานได้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องตัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ไหนทิ้งก่อนก็ได้
ข้อดี
- เป็นหูฟัง Bone Conduction ใช้วิธีส่งคลื่นเสียงการสั่นไปยังกระดูกหูโดยตรง ใส่แล้วไม่อึดอัด
- กันน้ำและฝุ่นระดับ IP54 ใส่ออกกำลังกายได้ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหรือฝุ่น
- มีระบบตัดเสียงรบกวนของไมค์เวลาใช้โทรศัพท์ ปลายสายได้ยินเสียงของผู้ใช้ชัดเจน
- มีแอพฯ Shokz ให้โหลดมาใช้ตั้งค่าและอัพเดทเฟิร์มแวร์ของหูฟังได้
- เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์ใช้งานสลับกันได้โดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อจากอุปกรณ์ไหนไปก่อน
- ดีไซน์เป็นก้านหูฟังเกี่ยวหู ใส่ได้มั่นใจไม่หลุดทุกอิริยาบท
ข้อสังเกต
- ราคาสำหรับหูฟังเทคโนโลยี Bone Conduction ถือว่าค่อนข้างสูงและอาจเกิดอาการเสียงรั่ว
6. Sony WF-1000XM5 (9,990 บาท)
- Connectivity : Bluetooth 5.3, USB-C, Wireless Charge
- Driver : Dynamic Driver X ขนาด 8.4 มม.
- Battery Life : 6 ชั่วโมง รวมชาร์จในเคสได้ 24 ชั่วโมง
- Touch control : มี
- Price : 9,990 บาท (Sony Store)
Sony WF-1000XM5 เป็นหูฟัง True Wireless รุ่นล่าสุดจาก Sony ซึ่งได้เขียนรีวิวไปก่อนหน้านี้ จัดเป็นหูฟังไร้สายชั้นเยี่ยมรุ่นหนึ่ง ถึงราคาจะแพงเกือบหมื่นบาทก็จริงแต่คุณภาพเสียงและฟีเจอร์ของหูฟังตัวนี้นับว่าดีมาก ทั้งตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ดีไม่มีเสียงเล็ดลอดเข้ามา เนื้อเสียงเวลาฟังเพลงจัดว่าดีมาก ฟังเพลงสนุกทุกแนว เสียงจากไดรเวอร์มีมิติแยกเสียงเบสหนักเบาได้และไม่กลบไลน์เสียงหลักเลยและยังตั้งค่า EQ ได้ง่ายไม่ต้องมีความรู้ก็เซ็ตเสียงให้ตรงรสนิยมได้ง่ายมาก ถึงราคาจะสูงแต่ก็คุ้มจะลงทุนซื้อมาฟังเพลงมาก
ข้อดี
- หูฟังตัดสลับระหว่างโหมดตัดเสียงรบกวนและ Transparent mode โดยอัตโนมัติและทำงานได้ดีมาก
- มี Codec ปรับแต่งเสียง DSEE Extreme, LDAC ช่วยเพิ่มคุณภาพเนื้อเสียงตอนฟังเพลงได้ดีขึ้น
- ปรับแต่งเสียงกับ EQ, อัพเดทเฟิร์มแวร์ต่างๆ ได้ด้วยแอพฯ Sony Headphone Connect
- กันน้ำและฝุ่นระดับ IPX4 ใส่ฟังเพลงระหว่างออกกำลังกายได้
- มีฟีเจอร์ Head Gesture ใช้วิธีพยักหน้าและส่ายหน้าเพื่อรับหรือตัดสายโทรศัพท์ได้
- ตัดเสียงรบกวนได้ดีสุดในบรรดาหูฟังไร้สาย True Wireless ในปัจจุบันนี้
ข้อสังเกต
- การเชื่อมต่อ Bluetooth อาจโดนสัญญาณแทรกจากสิ่งแวดล้อมได้ง่าย
สรุปสเปค 6 หูฟังไร้สายน่าสนปลายปี 2023 ฟังเพลงดีดูหนังเพลิน
สรุปสเปค หูฟังไร้สาย | FiiO JADEAUDIO JW1 | OnePlus Nord Buds 2 | SoundPEATS Opera 05 |
Connectivity | Bluetooth 5.3 USB-C | Bluetooth 5.3 USB-C | Bluetooth 5.3 USB-C |
Driver | Dynamic 14.2 มม. | Dynamic 12.4 มม. | Dual-balanced armature 12 มม. |
Battery Life | 6 ชั่วโมง รวมชาร์จในเคส ได้ 18 ชั่วโมง | 7 ชั่วโมง รวมชาร์จในเคส ได้ 36 ชั่วโมง ชาร์จเร็ว 10 นาที ใช้งานได้ 5 ชั่วโมง | 9 ชั่วโมง รวมชาร์จในเคส ได้ 33 ชั่วโมง |
Touch control | มี | มี | มี |
Price | 1,190 | 2,490 | 3,590 |
สรุปสเปค หูฟังไร้สาย | YAMAHA TW-E3B | Shokz OpenFit | Sony WF-1000XM5 |
Connectivity | Bluetooth 5.0 USB-C | Bluetooth 5.2 USB-C | Bluetooth 5.3 USB-C Wireless Charge |
Driver | Dynamic 6 มม. | Shokz DirectPitch driver | Dynamic Driver X 8.4 มม. |
Battery Life | 6 ชั่วโมง รวมชาร์จในเคส ได้ 24 ชั่วโมง | 7 ชั่วโมง รวมชาร์จในเคส ได้ 28 ชั่วโมง ชาร์จไว 5 นาที ฟังเพลงได้ 1 ชั่วโมง | 6 ชั่วโมง รวมชาร์จในเคส ได้ 24 ชั่วโมง |
Touch control | มี | มี | มี |
Price | 4,800 | 6,690 | 9,990 |
นับว่าหูฟัง True Wireless ในยุคนี้ นอกจากสเปคจะดีก็มีให้เลือกหลากหลายดีไซน์ตามระดับราคาที่พร้อมจ่ายจากแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำเจ้าต่างๆ จะซื้อเอาไว้ต่อมือถือหรือคอมพิวเตอร์เอาไว้ดูหนังฟังเพลงก็คุ้มค่า แค่เลือกรุ่นตามงบประมาณที่พร้อมจ่ายเอามาใช้สักตัวน่าจะมีความสุขไม่น้อยเลย
FAQ
1. แบตเตอรี่ของหูฟังควรใช้งานได้เกินกี่ชั่วโมงถึงจะดี?
ตอบ แนะนำให้เกิน 18 ชั่วโมงขึ้นไป เผื่อเวลาเดินทางข้ามจังหวัดหลายชั่วโมงจะได้ไม่มีปัญหา
2. ฟีเจอร์ Fast Pair คืออะไร?
ตอบ โปรโตคอลการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ผ่านทาง Bluetooth Low Energy (BLE) ที่ Google เป็นผู้พัฒนา สำหรับหูฟังจะทำงานเมื่อสมาร์ทโฟนกับหูฟังรองรับฟีเจอร์นี้ทั้งคู่ พอเปิดใช้งานครั้งแรกจะมีหน้าต่าง Pop up ให้เจ้าของกดจับคู่ได้ทันที
3. IP54, IP55 กันน้ำและฝุ่นได้ระดับใด?
ตอบ ป้องกันฝุ่นได้แทบทั้งหมดและกันน้ำลึกได้ระดับหนึ่ง โดย IP54 กันน้ำสาดกระเซ็นโดนจากทุกทิศทาง ระดับ 10 LPM (Litr Per Minute) ความแรง 80~100 kPa ส่วน IP55 กันน้ำฉีดจากหัวฉีดขนาด 6.3 มม. ได้ 3 นาที ระดับ 12.5 LPM ความแรง 30 kPa ในระยะห่าง 3 เมตร
4. LDAC คืออะไร ควรใส่ใจหรือไม่?
ตอบ LDAC เป็นเทคโนโลยีการรับส่งสัญญาณเสียงความละเอียดสูง 990kbps ได้คุณภาพเสียง Hi-Res
5. aptX คืออะไร?
ตอบ โปรโตคอลรับส่งสัญญาณเสียงได้อย่างรวดเร็ว มีความหน่วงต่ำและเสริมคุณภาพเสียงให้ดีขึ้น
6. หูฟังแบบ Bone Conduction ทำงานอย่างไร?
ตอบ Bone Conduction ใช้วิธีส่งคลื่นความถี่ไปสั่นสะเทือนที่กระดูกหูของผู้สวมใส่ ได้ยินเสียงเพลงชัดเจนและเหมาะกับคนที่มีปัญหาการได้ยินมาก
7. Transparent mode ของหูฟังทำงานอย่างไร?
ตอบ ถ้า Active Noise Cancelling จะใช้วิธีสร้างเสียงคลื่นความถี่ใกล้เคียงกันเพื่อตัดเสียงรบกวนภายนอก Transparent mode จะใช้ไมค์ตัดเสียงภายนอกเป็นตัวดูดเสียงเข้ามาในหูฟังแทน