โปรแกรม Super PI ใช้วิธีการคำนวณค่า PI จากเส้นรอบวง/เส้นผ่านศูนย์กลาง ซึ่งจะได้เป็นค่า 3.14? โดยที่ทศนิยมนั้นเป็นเลขที่ไม่ลงตัวที่มีค่าอนันต์ ดังนั้น เครื่องคอมพิวเตอร์จึงไม่สามารถหยุดการคำนวณได้ ถ้าไม่สั่งให้หยุด โปรแกรม Super PI จะทำการกำหนดเอาไว้ว่าให้คำนวณที่จุดสิ้นสุดตรงไหน เช่น 1M คือ คำนวณที่ทศนิยม 1 ล้านตำแหน่ง โดยแบ่งเป็นช่วง Loop อย่าง PI 1M ใช้ 19 Loop เท่ากับคำนวณ Loop ละ 52632 ตำแหน่ง ต่อ 1 Loop ยิ่งซีพียูมีประสิทธิภาพเท่าไร ยิ่งใช้เวลาคำนวณได้น้อยลง
ความเร็วที่ได้ออกมาเร็วถึง 13.513 วินาทีเลย เป็นเพราะว่าความเร็วที่เพิ่มขึ้นของ CPU ตัวนี้จาก 2.0 GHz เป็น 2.90 GHz
โปรแกรม Hyper PI ใช้หลักการคำนวณเหมือนกับ Super PI แต่สามารถสั่งให้ทุก Thread ของ CPU คำนวณได้พร้อมกัน
ผลที่ออกมาเฉลี่ยกันแล้วจะอยู่ราว ๆ 30 วินาที นับว่าทำเวลาได้ดีทีเดียว
โปรแกรม PCMark Vantage ใช้สำหรับการทดสอบการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ในหลาย ๆ รูปแบบ เช่น การคำนวณทางฟิสิกส์ การเข้ารหัสไฟล์ภาพยนตร์เพื่อสร้างคะแนนเปรียบเทียบประสิทธิภาพออกมา
ได้คะแนนออกมาสูงากเลยโดยเฉพาะซีพียูและการ์ดจอ
แม้โปรแกรมเทสต์หนัก ๆ อย่าง PCMarkVantage ยังทำคะแนนออกมาได้สูงมาก
โปรแกรม 3DMark06 ใช้สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพการประมวลผลของ GPU โดยทดสอบทั้ง High Dynamic Range, Shader Model 3.0 รองรับ CPU ทั้ง Single Core และ Multi Core
ผลคะแนนที่ออกมานั้นอยู่ที่ 10,096 คะเเนน เป็นคะแนนที่สูงมากเลย สมกับเป็นการ์ดจอตัวแรงอย่าง GT 550M
3DMark11 คะแนนออกมาเลขสวยมาก ^^
โปรแกรม CINEBENCH R 11.5 ใช้ทดสอบการประมวลผลงานสามมิติแบบมืออาชีพที่ต้องใช้งานผ่าน OpenGL โปรแกรมทดสอบทั้งการเรนเดอร์ด้วย CPU และ GPU โดยมีพื้นฐานมาจากโปรแกรม Maxon CINEMA 4D
สมกับเป็น Core i7 ทำคะแนนออกมาได้ดีเลยทีเดียว
DX11 อยู่ในระดับพอเล่นได้แต่ไม่ลื่นมากนัก
โปรแกรม Performance Test เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่สามารถทดสอบประสิทธิภาพเครื่องได้ในหลาย ๆ ส่วนทั้ง CPU, GPU, 2D, 3D, CD/DVD ด้วย
คะแนนรวมได้ 1,495 คะแนน สูงมากเลยทีเดียว