สเปกของ Sony VAIO VPCF217HG-BL นั้นนับว่าแรงเลยทีเดียว โดยเฉพาะ CPU ที่เป็น Core i7-2820QM ซึ่งเป็น quad-core รุ่นใหม่ที่แรงเหนือกว่า i7-2630QM ที่นิยมในรุ่นอื่น ๆ ในปัจจุบันซะอีก แรมก็ให้มาพอดี ๆ ที่ 4 GB ไม่มากไม่น้อย แต่การ์ดจอนั้นกลับเป็นรุ่นกลางอย่าง NVIDIA GeForce GT 540M แต่ถึงแม้จะเป็นรุ่นกลาง แต่ประสิทธิภาพเท่าที่เคยทดสอบมาก็นับว่าโอ.เค. อยู่ละนะ จุดเด่นที่สุดจอเครื่องนี้ก็คงหนีไม่พ้นจอขนาด 16 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD ที่สามารถแสดงผลภาพ 3 มิติได้ในตัว (ต้องมีแว่นด้วยนะ) และ Optical drive ที่สามารถอ่าน/เขียนแผ่น? Blu-ray ได้ ทั้งหมดนี้ได้ถูกบรรจุอยู่ใน Sony VAIO VPCF217HG-BL ถ้าให้ทายราคาก็คงจะยากนิด ดังนั้น เราจึงบอกมาให้เสร็จสรรพ นั่นคืออยู่ที่ 99,900 บาทครับทุกท่าน ไม่เบากันเลยทีเดียว
ขอเกริ่นก่อนนะครับว่า ภาพของตัวเครื่องนั้นนำมาจาก www.notebook4game.com นะครับ ถ้าอยากอ่านรีวิวของเครื่องนี้ในด้านประสิทธิภาพการเล่นเกมแบบเต็ม ๆ ละก็ ตามไปอ่านได้ที่
Link: Notebook4Game
ฝาหลังนั้นเป็นพลาสติกสีดำเคลือบเงาที่มีความแข็งแรงมากทีเดียว รู้สึกถึงความหนักแน่นได้เมื่อยามจับ แต่กลับตายน้ำตื้นด้วยรอยนิ้วมือครับ เพราะฝาหลังนั้นเป็นรอยได้ง่ายมาก แต่ก็เป็นการแสดงออกถึงความเป็น premium ได้ดีไม่น้อย ส่วนแว่นสามมิติที่ให้มานั้น ออกแบบมาได้แข็งแรงคงทนเลยครับ ดีไซน์ก็โฉบเฉี่ยวใช้ได้ เผลอใส่ออกไปเดินข้างนอกได้แบบไม่เชยแน่นอน
สำหรับตัวเครื่องส่วนใหญ่เป็นพลาสติกสีดำเคลือบเงาเช่นเดียวกับฝาหลัง จะมีก็แต่ส่วนที่วางมือที่เป็นแถบยาว ๆ เหนือทัชแพดนั้นที่เป็นยาง เพื่อช่วยรองรับข้อมือครับ นับว่ามีการออกแบบที่อำนวยความสบายให้ผู้ใช้ได้ดีเลย สมกับเป็นของราคาแพงอยู่เหมือนกัน
เรามาดูภาพขณะใช้งานเครื่องพร้อมกับแว่นกันครับ ตัวแว่นก็ออกแบบมาให้เข้ากับรูปหน้าปกติได้ดี ใส่แล้วไม่เกิดความเทอะทะแต่อย่างใด ส่วนในภาพของเกมที่เบลอ ๆ นั้น ก็เนื่องมาจากเปิดโหมดแสดงผลเกมแบบ 3 มิติครับ ทำให้เราที่ไม่ได้ใส่แว่นจะมองไม่ค่อยชัดนัก ซึ่งเท่าที่ผมได้ทดลองมองผ่านแว่น (เสียดายที่ไม่ได้เล่นด้วย) ก็พบว่าภาพที่ได้มีมิตินูนขึ้นมาจริง ๆ ครับ โดยเฉพาะส่วนของตัวละครที่ควบคุมที่ลอยเด่นขึ้นมาเหนือฉากหลังอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่ได้ลอยขึ้นมาแบบติดตาหรือพุ่งเข้าหาตัวอะไรขนาดนั้นนะ จะอย่างไรผมว่ามันเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมได้ไม่น้อยเลย นั่งดู ๆ ไป ผมรู้สึกว่าเกมมันน่าเล่นขึ้นจริง ๆ นะ ถึงแม้จะเป็นเกมเก่าแล้วก็ตาม
อ้อ ลืมบอกไป จอนี้เป็นจอเกรดเดียวกับที่ใช้ทำ TV ของ Sony ในตระกูล Bravia ครับ ความละเอียดจอ 1920 x 1080 (Full HD) ใช้ LED เป็น backlight จุดเด่นที่สุดคืออัตราการ refresh จอสูงถึง 120 Hz ซึ่งเป็นความถี่มาตรฐานในจอที่ใช้แสดงผล 3D แบบของแท้เลยครับ ผมว่ามันแพงก็ตรงนี้นี่ละ
เมื่อจับเครื่องขึ้นชั่งพร้อมแบต ก็มีน้ำหนักรวมถึง 3.13 กิโลกรัม ส่วนความรู้สึกเมื่อแบกนั้น คำแรกที่ผุดขึ้นมาคือ ?อยากวาง? ครับ เพราะมันหนักมาก ๆ แถมเทอะทะ ไม่เหมาะกับการแบกไปไหนมาไหนอย่างยิ่ง เหมาะที่จะเป็น desktop replacement มากกว่า ถ้าใครคิดจะแบกไปเล่นเกมนอกสถานที่ละก็ คงจะแบกขึ้นหลังได้ไม่เกิน 1 สัปดาห์แน่ ๆ ครับ เดี๋ยวหลังจะหักซะก่อน
keyboard ก็มีการวางปุ่มแบบ chiclet ครับ สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว ทั้งยังมี numpad มาให้ใช้งานตัวเลขได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ตัว keyboard ยังมีไฟ LED ที่ใต้ปุ่มอีก ไปดูกันที่ภาพต่อไปเลย
ระดับความสว่างอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยครับ สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา
ด้านฝั่งซ้ายบนของ keyboard จะมีแถบสัมผัสสำหรับควบคุมมัลติมีเดียอยู่ให้สามารถใช้งานได้โดยง่าย การออกแบบจัดได้ว่าเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความหรูหราพอตัว
เลื่อนมาดูฝั่งขวาบนกันบ้าง ก็จะเห็นจุดเล็ก ๆ อยู่ จุดนั้นคือเซ็นเซอร์สำหรับตรวจจับแสงในสภาพแวดล้อมนั่นเอง ซึ่งถ้ารอบข้างมีแสงน้อย จอก็จะหรี่แสงลง ไฟ LED ใต้ keyboard ก็จะสว่างขึ้นมาครับ ส่วนข้าง ๆ นั้นก็เป็นปุ่ม ASSIST สำหรับเรียกโปรแกรม VAIO Care ขึ้นมา ปุ่ม 3D ใช้สำหรับปรับโหมดการแสดงภาพให้เป็นภาพ 3 มิติ ส่วนปุ่ม VAIO นั้นสามารถตั้งค่าเพื่อเรียกเปิดโปรแกรมที่ต้องการขึ้นมาได้ครับ
ทัชแพดมีพื้นผิวขรุขระเล็กน้อย เพื่อลดแรงเสียดทานขณะใช้งาน ส่วนปุ่มคลิกซ้าย/ขวานั้นเป็นพลาสติกแท่งเดียว แต่ก็สามารถใช้งานได้ง่ายดี
ใต้ touchpad ลงมาจะมีแถบไฟแสดงสถานะการทำงานของเครื่องอยู่ครับ
รูปซ้ายเป็นรูปของเว็บแคมครับ และเมื่อมองก็จะเห็นว่าจอนั้นมีความหนามาก ๆ ดังจะเห็นได้จากรูปทางฝั่งขวาที่แสดงถึงความหนาของจอได้เป็นอย่างดี
ลำโพงที่ติดตั้งมาเป็นลำโพงที่มีคุณภาพที่ดี เมื่อเทียบกับลำโพงในโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่น ๆ ครับ เรียกได้ว่าเหมาะสมกับตัวเครื่องสุดหรูอยู่ไม่น้อยเลย
ด้านหน้าของเครื่องมีส่วนสำคัญ ได้แก่ Firewire, Switch เปิด/ปิด Wireless และ Card Reader
ด้านขวาก็มี ช่อง Audio ที่เป็น optical out ด้วยในตัว, Mic, USB 2.0 และ Blu-ray drive เมื่อสังเกตก็จะเห็นว่าตัวเครื่องนั้นเอียงสูงขึ้นมากเหมือนกัน ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกดีเลยละ
ด้านหลังไม่มีอะไรครับ
ส่วนด้านซ้ายก็มี Kensington lock, ช่องเสียบสาย adapter, ช่องระบายอากาศ, VGA (D-Sub), HDMI, LAN และ USB 3.0 อีก 2 พอร์ต รวม ๆ แล้วเครื่องนี้ก็มีพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ในปริมาณพอดี ๆ ครอบคลุมกับการใช้งานในปัจจุบันเป็นอย่างดี แต่น่าเสียดายที่ไม่มี eSATA ติดมา ให้มาเป็นแบบ USB combo eSATA ก็ยังดีเนอะ
ก็หมดแล้วสำหรับรูปตัวเครื่องนะครับ ต่อไปเราไปดูกันที่ส่วนของการทดสอบเครื่องเลยดีกว่า มาดูกันว่า Sony VAIO VPCF217HG-BL จะทำได้ดีขนาดไหนกับการทดสอบของเรา ไปดูต่อที่หน้าต่อไปเลย !!