“แฟชั่นที่ยั่งยืน” คำยอดฮิตที่คุณอาจเคยคุ้นหูกันในยุคที่ผู้คนหันมาสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น แต่ว่าคุณรู้มั้ยว่าจริงๆ แล้วความหมายของความยั่งยืนในรูปแบบของแฟชั่นนั้นคืออะไร?
แฟชั่นที่ยั่งยืน นั้นหมายถึง ผลิตภัณฑ์, กระบวนการ, กิจกรรม และ ผู้คน (แบรนด์, ผู้ออกนโยบาย และผู้บริโภค) ที่ต้องการลดมลพิษและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นเพื่อให้มีความเป็นกลางทางคาร์บอน ผลักดันให้เกิดความเท่าเทียมและยุติธรรมต่อทั้งแรงงาน คุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ รวมไปถึงการรักษาความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
แต่คุณรู้มั้ยว่า ในฐานะผู้บริโภคนั้น การปรับเปลี่ยนไปสู่ไลฟ์สไตล์แฟชั่นที่ยั่งยืนนั้นง่ายกว่าที่คิด! และนอกจากจะช่วยขับเคลื่อนโลกไปสู่อนาคตที่ดีกว่าเดิมแล้ว ยังช่วยประหยัดเงินไปได้มากอีกด้วย
วันนี้เดลล์มี 5 ทริคดีๆ ที่จะเปลี่ยนคุณให้มีสไตล์ที่มาพร้อมความยั่งยืน!
1.หาข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์และวัสดุที่ใช้
“ช้อปน้อยลง แต่เลือกช้อปของที่มีคุณภาพ” เพราะเสื้อผ้าเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเราทุกคน เปรียบได้ง่ายๆ ก็คือปัจจัย 4 ที่มาพร้อมกับสไตล์ ดังนั้นหากต้องการปรับตัวไปสู่วิถีแฟชั่นที่ยั่งยืน ก็ควรสนับสนุนแบรนด์ที่ยึดถือแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยั่งยืน
ข่าวดีก็คือ ในปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่ขับเคลื่อนโดยคำนึงถึงความยั่งยืนเป็นหลัก คุณเพียงแค่ต้องทำการบ้านก่อนออกไปช้อปปิ้งเท่านั้นเอง ลองศึกษาเกี่ยวกับที่มาที่ไปของวัสดุ กระบวนการผลิต ไปจนถึงการใช้แรงงานว่าสอดคล้องกับหลักปฏิบัติที่เป็นธรรมหรือไม่ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้สนับสนุนแบรนด์ที่มีเป้าหมายและความตั้งใจอันดีเดียวกับคุณ แถมการที่คุณช่วยสนับสนุนแบรนด์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม ยังเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอีกด้วย!
2.บททดสอบ 30 ครั้ง: คุณจะใส่ชุดนี้ถึง 30 ครั้งหรือไม่ ถ้าซื้อมา?
เราจะใส่ชุดนี้ถึง 30 ครั้งมั้ยถ้าซื้อมา? – เป็นคำถามที่คุณควรถามตัวเองก่อนเลือกช้อปเสื้อผ้า ไม่ว่าจะจากออนไลน์หรือหน้าร้าน หากคำตอบของคุณคือใช่ มีโอกาสที่จะ #wear วนไป เสื้อผ้าชิ้นใหม่ก็คุ้มค่ากับการลงทุน!
หนึ่งในวิธีประยุกต์ใช้แนวคิดแฟชั่นที่ยั่งยืน ก็คือการเลิกช้อปชุดใหม่มาเพื่อใส่งานเดียวเท่านั้น แต่ให้ลองเลือกชุดที่สามารถนำไปมิกซ์แอนด์แมทช์ได้อีกหลายลุค #wear วนไป ได้แบบเก๋ๆ แถมยังดีต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
3.ช้อปมือสองหรือของวินเทจ
หนึ่งในเหตุผลที่เรารักการช้อปปิ้ง ก็คือความรู้สึกของการได้เป็นเจ้าของสิ่งใหม่ หรือได้ใส่เสื้อผ้าใหม่ๆ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องซื้อของใหม่แกะกล่องเสมอไป ลองหันมาช้อปมือสองหรือเสื้อผ้าวินเทจ ที่เป็นตัวเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นดูสิ ทั้งประหยัดเงินแถมยังลดการบริโภคเกินจำเป็นที่ทำให้เกิดการผลิตจำนวนมากแบบไม่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วย
4.ส่งต่อเสื้อผ้าเก่าของคุณให้ไปเฉิดฉายในที่ใหม่
แทนที่จะทิ้งเสื้อผ้าไว้ในตู้จนฝุ่นจับ นำไปส่งต่อให้กับเจ้าของคนใหม่กันดีกว่าไหม? หากมีเสื้อผ้าเก่าที่ไม่ใส่แล้วลองนำไปขายมือสอง แลกเปลี่ยน หรือบริจาคให้กับมูลนิธิที่พร้อมส่งต่อชุดเก่งของคุณให้กับเจ้าของคนใหม่ที่ต้องการมันมากกว่า การส่งต่อเสื้อผ้าเก่าของคุณนอกจากจะเป็นวิธีเคลียร์ตู้แบบง่ายๆ แล้ว ยังช่วยลดปริมาณขยะที่กำลังจะล้นโลกอีกด้วย
5. เช่า แทน ช้อป สำหรับโอกาสพิเศษ
เพราะบางงานหรือโอกาสพิเศษก็มาพร้อมเดรสโค้ดที่ไม่ธรรมดา การเช่าแทนช้อปชุดใหม่ทุกครั้งจึงเป็นทางเลือกที่ดูเข้าท่า! การเช่าเสื้อผ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับโอกาสพิเศษ นอกจากจะช่วยเซฟเงินในกระเป๋า ยังช่วยเซฟโลกด้วยการ #wearวนไป อีกด้วย
“แฟชั่นที่ยั่งยืน” ไม่ใช่แค่การซื้อของที่แปะป้ายว่า ‘มีความยั่งยืน’ แต่เป็นการปรับไลฟ์สไตล์ที่สร้างความยั่งยืนในการบริโภคสินค้าประเภทแฟชั่นในระยะยาว ซึ่งข้อดีของการหันมาปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์แบบนี้ คือนอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากการช้อปเสื้อผ้าได้แล้ว ยังเป็นการช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมแฟชั่นให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้นอีกด้วย!