Portable Monitors หรือมอนิเตอร์แบบพกพาเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในการใช้งานในด้านต่างๆ งานนี้มาดูกันว่าท่ามกลางของที่วางขายในตลาดมากมายนั้นมีรุ่นไหนบ้างที่คุณคู่ควร
การเพิ่มจอภาพที่สองมาเพื่อใช้งานนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมใสำหรับการทำงานหรือการเล่นเกมของคุณ นอกไปจากนั้นยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นคนที่ต้องเดินทางตลอดเวลา การที่จะต้องดึงปลั๊กจอภาพขนาด 27 หรือ 32 นิ้วเพื่อเคลื่อนที่ไปไหนมาไหนในการใช้งานคู้กับอุปกรณ์อื่นๆ อย่างเช่นโน๊ตบุ๊คของคุณอาจเป็นเรื่องยากและวุ่นวายเป็นอย่างมาก
ดังนั้นแล้วมอนิเตอร์พกพาหรือ portable monitors จัดว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาอันแสนจะวุ่นวายนี้ เนื่องจาก portable monitors มีขนาดกะทัดรัดและพกพาสะดวก portable monitors ขนาดเล็กเหล่านี้มาพร้อมกับพอร์ตการเชื่อมต่อผ่านทั้งทาง USB-C และ mini HDMI ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณสามารถใช้กับอุปกรณ์ได้เกือบทุกชนิดตั้งแต่โน๊ตบุ๊คสำหรับเล่นเกมที่ดีที่สุดไปจนถึงแท็บเล็ต, สมาร์ทโฟน และโน๊ตบุ๊คสำหรับการทำงานมาตรฐาน portable monitors บางรุ่นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ในตัวดังนั้นคุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับการทำงานที่สม่ำเสมอและการเล่นสื่อต่างๆ (รวมไปถึงการเล่นเกม) ได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อแบตเตอรี่ของอุปกรณ์เชื่อมต่ออื่นๆ มากเท่าไรนัก
ในบทความนี้ได้ทำการรวบรวมรายชื่อมอนิเตอร์พกพาหรือ portable monitors ที่ดีที่สุดสำหรับการใช้งานต่างๆ จำนวน 9 ตัวด้วยกัน portable monitors แต่ละตัวที่เราแนะนำในบทความนี้นั้นจะเน้นที่คุณลักษณะต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณเลือกได้อย่างถูกต้องตามความต้องการในการใช้งานของคุณ ไม่ว่าคุณกำลังมองหาหน้าจอขนาดเล็กเพื่อใช้ร่วมกับโน๊ตบุ๊คที่ยอดเยี่ยมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณ หรือมองหามอนิเตอร์พกพาที่มาพร้อมกับคุณลักษณะที่รองรับความบันเทิงและการเล่นเกมทั่วไปในราคาที่คุณสามารถเอื้อมถึงได้ รับรองได้เลยว่าบทความนี้นั้นจะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังอย่างแน่นอนสำหรับการเลือกซื้อมินอนิเตอร์พกพาในปี 2023 นี้
- ASUS ROG Strix XG16AHPE
- Innocn 15.6-inch OLED 4K monitor
- Lepow Z1 Portable Monitor
- Lenovo ThinkVision M14d
- LG Gram +View
- Viewsonic 15.6-inch IPS portable monitor
- Nexigo NG17FGQ 300Hz
- ASUS ProArt PA148CTV 14-inch Portable Monitor
- ASUS ZenScreen MB16AMT
ASUS ROG Strix XG16AHPE
จุดเด่น | + มาพร้อมอัตรารีเฟรชเรทที่สูง + มาพร้อมกับแบตเตอรี่ในตัว + เข้ากันได้กับ NVIDIA G-Sync |
จุดสังเกต | – ราคาแพงไปหน่อยสำหรับหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว – ขาตั้งควรมีคุณภาพดีกว่านี้ |
ราคา | 19,xxx บาท |
Asus ROG Strix XG16AHPE ถือว่าเป็นหนึ่งในมอนิเตอร์พกพาที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเล่นเกมและยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล Asus ROG Strix XG16AHPE มาพร้อมกับความโดดเด่นด้วยจอแสดงผลความละเอียด 1920×1080 pixels ขนาด 15.6 นิ้ว ที่อัตราส่วนภาพ 16:9 ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณจะได้รับพื้นที่เพียงพอไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือใช้สำหรับเล่นเกม อัตรารีเฟรชเรทที่สูงมากถึง 144Hz และเวลาตอบสนอง 3ms สามารถช่วยให้เกมเมอร์เล่นเกมได้รวดเร็ว โดยที่มีอินพุตแล็กต่ำและการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติของกราฟิกพร้อมด้วยภาพเบลอที่แทบมองไม่เห็นเมื่อพบกับวัตถุในเกม(หรือสื่อ) ที่เคลื่อนไหวเร็วๆ
คุณสามารถเชื่อมต่อมอนิเตอร์พกพา Asus ROG Strix XG16AHPE นี้ผ่านได้ทั้งทางพอร์ต USB-C และ mini-HDMI ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเข้ากันไม่ได้เมื่อเชื่อมต่อกับโน๊ตบุ๊ค, กล้อง, เครื่องเกมคอนโซลหรือแท็บเล็ต นอกจากนี้ต้องขอบคุณอัตราการครอบคลุมสี sRGB 97.7% ของ Asus ROG Strix XG16AHPE ที่จะทำให้คุณได้ภาพที่แสดงสีสันที่สวยงามและแม่นยำ Asus ROG Strix XG16AHPE ยังรองรับ G-Sync ช่วยให้ได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ไม่จำกัดและ Asus ROG Strix XG16AHPE ยังมีความสว่างสูงสุดที่ 300 nits การใช้งานกลางแจ้งและในอาคารจึงไม่ใช่ปัญหาที่คุณจะต้องกังวล
นอกจากนี้ Asus ROG Strix XG16AHPE ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ในตัวซึ่งใช้งานได้ประมาณสามชั่วโมงหากคุณเปิดใช้งานอัตราการรีเฟรช 144Hz ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง แม้ว่าอายุการใช้งานแบตเตอรี่อาจอยู่ในระดับต่ำ แต่ก็เพียงพอสำหรับการเล่นเกมหรือการทำงานที่ไม่ต้องใช้เวลาในการใช้งานตัวมอนิเตอร์พกพานานเท่าไรนัก และเพื่อทำให้สิ่งต่างๆ ดีขึ้น Asus ROG Strix XG16AHPE ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติการชาร์จด่วนอีกด้วยต่างหากช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถใช้งานได้อีกอย่างน้อยก็ 2 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำหลังจากทำการชาร์จเพียงหนึ่งชั่วโมง ทั้งนี้ Asus ROG Strix XG16AHPE ราคาอาจสูงแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นหนึ่งในมอนิเตอร์พกพาที่ดีที่สุดที่คุณคู่ควรจะใช้งานเพราะมันมีทุกสิ่งที่คุณต้องการอย่างแน่นอน
Innocn 15.6-inch OLED 4K monitor
จุดเด่น | + แบตเตอรี่อยู่ได้นานถึงสี่ชั่วโมง + ใช้งานได้กับอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงแล็ปท็อป กล้อง และสมาร์ทโฟน + จอแสดงผล 4K และคุณภาพงานสร้างที่ดี |
จุดสังเกต | – แพง – ใช้พลังงานมากกว่าเนื่องจากเป็นจอแสดงผล OLED |
ราคา | 3x,xxx บาท |
สำหรับผู้ที่ทำงานทางด้านครีเอทีฟโฆษณาที่ไม่มีข้อจำกัดด้านงบประมาณไม่ควรมองข้าม Innocn 15.6-inch OLED 4K monitor ซึ่งเป็นจอแสดงผลระดับพรีเมียมที่ใช้พาเนลการแสดงผลแบบ OLED พร้อมด้วยความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K อีกทั้ง Innocn 15.6-inch OLED 4K monitor ยังมาพร้อมกับความแม่นยำของสีที่ยอดเยี่ยม ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณจะเพลิดเพลินกับสีสันที่สดใสทั้งสีดำเข้มและการปรับเทียบสีที่ยอดเยี่ยมอีกด้วยต่างหาก
Innocn 15.6-inch OLED 4K monitor มาพร้อมกับอัตราส่วนคอนทราสต์ 100,000:1, ความสว่างสูงสุด 400 nits, อัตราการรีเฟรช 60Hz และเวลาตอบสนอง 1ms ดังนั้นมอนิเตอร์พกพาอย่าง Innocn 15.6-inch OLED 4K monitor จึงใช้งานได้ในทุกสภาพแสงและให้การตอบสนองที่ดีกว่า(เหมาะมากสำหรับการเล่นเกม) พร้อมด้วยสีสันที่คมชัดยิ่งขึ้นจากพาเนลหน้าจอ OLED นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอเพื่อเสียงที่มีคุณภาพและสวิตช์เปิด/ปิด ซึ่งคุณไม่สามารถที่จะพบได้ในมอนิเตอร์พกพาส่วนใหญ่
Innocn 15.6-inch OLED 4K monitor นี้มาพร้อมกับข้อดีอีกอย่างก็คือแม้ในความสว่างต่ำและสูงตัวจอภาพนี้ก็จะไม่ลดอัตราการรองรับของสี DCI-P3 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 100% ทำให้ Innocn 15.6-inch OLED 4K monitor เป็นอุปกรณ์เสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับการตัดต่อภาพถ่ายและวิดีโอ, งานนำเสนอและความบันเทิง นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ขนาด 5,000mAh ที่ใช้งานได้นานถึงสี่ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง(เมื่อเปิดความสว่างที่ระดับปานกลาง) โดยรวมแล้ว Innocn 15.6-inch OLED 4K monitor เป็นหนึ่งในจอภาพแบบพกพาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ทำงานกราฟิกแบบมืออาชีพที่กำลังมองหาจอภาพที่สองที่พกพาได้สำหรับใช้งาน
Lepow Z1 Portable Monitor
จุดเด่น | + เมนูที่แสดงบนหน้าจอใช้งานง่ายและใช้งานง่าย + มีตัวเลือกการเชื่อมต่อ mini-HDMI และ USB-C + ราคาสุดคุ้ม |
จุดสังเกต | – คุณภาพของภาพต่ำกว่ามาตรฐาน – สีออกทึมๆ |
ราคา | 5,xxx บาท |
หากคุณกำลังมองหามอนิเตอร์พกพาสำหรับการทำงานทางด้าน Office ราคาประหยัดแล้วล่ะก็ Lepow Z1 Portable Monitor คือหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดด้วยขนาดจอแสดงผลใหญ่ที่ 15.6 นิ้วพร้อมขอบจอที่ค่อนข้างเล็ก ทำให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการทำงานและใช้งานเพื่อความบันเทิง Lepow Z1 Portable Monitor มีความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 1080p ช่วยให้มั่นใจได้ว่าคุณจะได้รายละเอียดของหน้าจอที่เหมาะสมที่ยอดเยี่ยมต่อการทำงาน แม้ว่านี่อาจจะไม่ค่อยตรงกับตัวเลือกอื่นๆ ที่อยู่ในบทความในแง่ของเรื่องคุณภาพของภาพมากนัก ทว่า Lepow Z1 Portable Monitor นั้นสามารถใช้เมนู OSD เพื่อปรับเทียบสีใหม่ได้ตามความต้องการของคุณเอง
ความสว่างของ Lepow Z1 Portable Monitor สูงสุดที่ประมาณ 240 nits (แม้ว่า Lepow จะบอกว่าอยู่ที่ 300 nits) ไม่ว่าจะปรับค่าด้วยวิธีใดก็ตามคุณอาจพบว่า Lepow Z1 Portable Monitor นั้นใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีแสงส่องเข้าหน้าจอโดยตรงได้ยาก แต่อย่างไรก็ดี Lepow Z1 Portable Monitor นั้นรองรับการแสดงผลแบบ HDR ซึ่งแปลว่ามันสามารถที่จะแสดงผลไฟล์วิดีโอที่รองรับ HDR ได้ดีมากยิ่งขึ้น
คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ของคุณเข้ากับ Lepow Z1 Portable Monitor ผ่านพอร์ต mini-HDMI และพอร์ต USB-C ที่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมดจำนวนสองพอร์ต โดยพอร์ต USB หนึ่งในสองพอร์ตรองรับการจ่ายพลังงานที่ 5W ทำให้คุณจึงสามารถใช้งาน Lepow Z1 Portable Monitor ของคุณเพื่อชาร์จอุปกรณ์ขนาดเล็กเช่น สมาร์ทโฟนได้ด้วยเวลาใช้งาน อีกทั้ง Lepow Z1 Portable Monitor ยังมีลำโพงในตัวซึ่งจะทำให้งานดูวิดีโอสำเร็จแม้ว่าเสียงจะเบาก็ตาม
ด้วยน้ำหนักเพียง 798g และรูปทรงเพรียวบางเพียง 0.3 นิ้ว การพกพา Lepow Z1 Portable Monitor นี้ไปกับคุณในการเดินทางเพื่อธุรกิจจะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณจะต้องแชร์พลังงานจากอุปกรณ์ของคุณกับจอภาพนี้เนื่องจาก Lepow Z1 Portable Monitor นั้นไม่มีแบตเตอรี่ในตัวแต่โดยรวมแล้ว Lepow Z1 Portable Monitor นี้มีราคาที่ดีเหมาะสมกับการใช้งานทางด้านสำนักงานจริงๆ
Lenovo ThinkVision M14d
จุดเด่น | + ความละเอียดสูง 2440×1400 + แบบพกพาและน้ำหนักเบา + อัตราส่วนภาพ 16:10 ทำให้สมบูรณ์แบบสำหรับการผลิต |
จุดสังเกต | – ไม่รองรับการสัมผัส – ราคาสูง – ไม่มีลำโพงในตัว |
ราคา | 11,xxx บาท |
Lenovo ThinkVision M14d เป็นจอมอนิเตอร์พกพาระดับแนวหน้าที่สร้างขึ้นเพื่อประสิทธิภาพการทำงานโดยเฉพาะ จอแสดงผลภายนอกของ Lenovo ThinkVision M14d นี้มีพื้นที่และความชัดเจนเพียงพอที่จะทำงานได้มากเท่าที่คุณต้องการ อัตราส่วนภาพของ Lenovo ThinkVision M14d อยู่ที่ 16:10 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราส่วนของภาพที่ไม่เหมือนมอนิเตอร์พกพาทั่วไปในท้องตลาดและด้วยความละเอียดสูงถึง 2440×1400 pixels พร้อมกับพาเนลหน้าจอที่มีความสว่างสูงสุดถึง 300 nits ทำให้ Lenovo ThinkVision M14d สามารถที่จะใช้ได้กับสภาพแสงหลายๆ แบบ
Lenovo ThinkVision M14d เป็นจอแสดงผลที่บางและน้ำหนักเบา จริงๆ แล้วมัน Lenovo ThinkVision M14d บางกว่าสมาร์ทโฟนสมัยใหม่ส่วนใหญ่เมื่อปิดฐานตั้งและด้วยน้ำหนักเพียง 454g ทำให้ Lenovo ThinkVision M14d มีความสามารถในการพกพาที่ดีเลิศคุณจึงสามารถเดินทางพร้อมกับจอภาพรองได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้กระเป๋าของคุณมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจนมากเกินไปและเพื่อให้ทุกๆ อย่างดีขึ้น Lenovo ได้มีการเพิ่มกระเป๋าพกพามาในชุดวางจำหน่ายเพื่อให้ง่ายต่อการเดินทางอีกด้วยต่างหาก
ด้านพอร์ตการเชื่อมต่อของ Lenovo ThinkVision M14d นั้นจะประกอบไปด้วยพอร์ต USB-C จำนวนสองพอร์ตเท่านั้น ดังนั้นคุณอาจต้องการเลือกทางเลือกอื่นหากต้องต่อเชื่อมการใช้งานดับอุปกรณ์ที่ใช้พอร์ต mini-HDMI (ซึ่งในตัวเลือกมอนิเตอร์พกพาอื่นๆ จะมีพอร์ตนี้มาให้) นอกไปจากนี้อีกหนึ่งข้อเสียของ Lenovo ThinkVision M14d ก็คือมันไม่มีแบตเตอรี่หรือลำโพงในตัวทำให้การดูไฟล์วิดีโอผ่านอุปกรณ์ต่างๆ นั้นไม่สะดวกมากเท่าไรนัก นอกจากนี้ด้วยอัตรารีเฟรชสูงสุดที่เพียง 60Hz ทำให้เกมเมอร์อาจต้องดูมินิเตอร์พกพารุ่นอื่นๆ ที่มีอัตราการรีเฟรชที่ดีกว่า แม้จะมีข้อเสียไปบ้าง แต่ Lenovo ThinkVision M14d ก็ยังคงเป็นจอแสดงผลที่ให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่ยอดเยี่ยมด้วยอัตราส่วนภาพ, จอแสดงผลที่สว่างสดใส, ความแม่นยำของสีและความสามารถในการพกพาที่โดยรวมแล้วก็ถือว่าเหมาะสมกับราคาที่ต้องจ่ายไป
LG Gram +View
จุดเด่น | + ประสิทธิภาพสีที่ยอดเยี่ยม + คุณภาพการสร้างยอดเยี่ยม + จอแสดงผลดีกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ |
จุดสังเกต | – อัตรารีเฟรชเรทต่ำและเวลาตอบสนองช้า – ราคาแพงสำหรับจอภาพแบบพกพา |
ราคา | 12,xxx – 15,xxx บาท (และต้องสั่งจากต่างประเทศซึ่งอาจจะมีค่าภาษีนำเข้าเพิ่ม) |
LG Gram +View เป็นจอมอนิเตอร์พกพาที่คุณจะหลงรักตั้งแต่แรกเห็นแค่เพียงได้ดูที่หน้าจอและคุณภาพงาานสร้างของมันเท่านั้น LG Gram +View มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 16 นิ้วที่มีขอบบางเฉียบซึ่งทำให้ LG Gram +View มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการทำงานและการใช้งานทางด้านการสร้างความคิดสร้างสรรค์ การพกพา LG Gram +View ไปไหนมาไหนจะไม่เป็นเรื่องยุ่งยากเนื่องจากมี LG Gram +View มีน้ำหนักเพียง 907g และมีความหนาประมาณ 0.3 นิ้วเท่านั้น นอกไปจากนั้นมันยังมีปกยกที่ใช้เป็นขาตั้งเมื่อพับเป็นรูปสามเหลี่ยมได้ในตัวอีกด้วยต่างหาก
การเชื่อมต่อจอมอนิเตอร์พกพา LG Gram +View นี้เข้ากับโน๊ตบุ๊คนั้นง่ายเหมือนปลอกกล้วย สิ่งที่คุณต้องทำก็เพียงแค่เสียบสาย USB-C เท่านี้ก็พร้อมที่จะใช้งานได้ในทันที น่าเสียดายที่ LG Gram +View มาพร้อมกับอัตรารีเฟรชเรืแค่เพียง 60Hz และเวลาตอบสนองสูงมากถึง 30ms ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานสำหรับการเล่นเกม แถม LG Gram +View ก็ยังไม่มีลำโพงในตัวอีกด้วยต่างหาก
อย่างไรก็ตามความละเอียด 2460×1600 pixels (WQXGA), ความสว่าง 350 cd/m2 และอัตราส่วนคอนทราสต์ 1200:1 ของ LG Gram +View ช่วยชดเชยข้อบกพร่องด้วยการมอบความชัดเจนของข้อความ, ความสว่างและการเปรียบเทียบของสีในมาตรฐานต่างๆ ที่ยอดเยี่ยมเนื่องจากรองรับ 100% sRGB, 99% DCI-P3 และค่าเฉลี่ย deltaE ที่ 1.99 คุณจึงสามารถทำงานทางด้านการสร้างเนื้อหาและแก้ไขเกี่ยวกับภาพกราฟิกได้โดยไม่มีปัญหา หากคุณเป็นนักทำกราฟิกมืออาชีพที่อยากได้จอแสดงผลรองที่สวยงาม, ใช้งานได้จริง และมีหน้าจอที่คมชัดพร้อมคุณภาพของภาพระดับสูงสุดแล้วล่ะก็ LG Gram +View คือตัวเลือกที่ควรค่าแก่การพิจารณา
Viewsonic 15.6-inch IPS portable monitor
จุดเด่น | + น้ำหนักเบาและพกพาได้ + ค่อนข้างถูก |
จุดสังเกต | – ลำโพงบางเกินไป – เวลาตอบสนองช้า |
ราคา | 5,xxx – 10,xxx บาท |
สำหรับฟรีแลนซ์หลายๆ คน สิ่งสำคัญคือต้องหาอุปกรณ์เสริมสำหรับคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานได้จริงและอยู่ในงบประมาณจำกัด Viewsonic 15.6-inch IPS portable monitor จึงถือได้ว่าเป็นอุปกรณ์เสริมหนึ่งชิ้นที่ให้ความสมดุลในทุกๆ ด้านอย่างสมบูรณ์แบบ Viewsonic 15.6-inch IPS portable monitor มาพร้อมฟังก์ชันการทำงานที่ยอดเยี่ยมกับราคาประหยัด
Viewsonic 15.6-inch IPS portable monitor นี้มาพร้อมกับพาเนลหน้าจอความละเอียด 1920×1080 pixels และความสว่างสูงสุด 250 nits คุณจึงอ่านข้อความ, ดูรูปภาพและดูวิดีโอได้ง่าย Viewsonic 15.6-inch IPS portable monitor เป็นจอแสดงผลอเนกประสงค์ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วที่ใช้งานได้กับ Mac, Windows และ Android 10 ขึ้นไปคุณจึงสามารถใช้งาน Viewsonic 15.6-inch IPS portable monitor ได้เกือบทุกที่ การต่อ Viewsonic 15.6-inch IPS portable monitor นี้เข้ากับคอมพิวเตอร์ของคุณนั้นง่ายมาก เพียงเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งสองผ่านหนึ่งในสองพอร์ต USB-C หรือพอร์ต mini-HDMI ที่อยู่บน Viewsonic 15.6-inch IPS portable monitor เท่านั้นคุณก็พร้อมที่จะใช้งานได้อย่างทันที
แม้ว่าจอภาพจะรองรับหน้าจอสัมผัส แต่ Viewsonic 15.6-inch IPS portable monitor นั้นก็มีฟังก์ชันการสัมผัสที่ไม่น่าเชื่อถือ คุณอาจประสบปัญหาในการใช้อินพุตแบบสัมผัสที่เชื่อมต่อจอภาพนี้กับ MacBook อย่างไรก็ตาม Viewsonic 15.6-inch IPS portable monitor นี้มีลำโพงในตัวด้วย ทว่าลำโพงที่ติดมากับ Viewsonic 15.6-inch IPS portable monitor นั้นก็ไม่ได้มีคุณภาพดีมากเท่าไรนัก น่าเสียดายที่เวลาตอบสนองบน Viewsonic 15.6-inch IPS portable monitor นี้ก็ช้าเช่นเดียวกัน ดังนั้นเหล่าเกมเมอร์ควรจะต้องทำการพิจารณาเลือกมอนิเตอร์พกพาอื่นๆ เพื่อใช้งานทดแทนหากคิดจะเล่นเกมกับมอนิเตอร์แบบพกพา นอกไปจากนี้แล้วการควบคุมระดับเสียงไม่สามารถเข้าถึงได้โดยง่ายคุณจะต้องเปิดเมนูการตั้งค่าเพื่อควบคุมระดับเสียงของลำโพงซึ่งการเข้าถึงตามเมนู OSD ของ Viewsonic 15.6-inch IPS portable monitor นั้นกว่าจะไปถึงจุดที่ทำการตั้งค่าเรื่องเสียงของลำโพงจะต้องใช้เวลานานเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามแม้ Viewsonic 15.6-inch IPS portable monitor จะมีข้อเสียพอสมควร แต่ Viewsonic 15.6-inch IPS portable monitor ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีทางด้านราคาเพราะในเมืองไทยนั้นคุณสามารถที่จะหาราคาต่ำสุดในบางร้านค้าที่ราวๆ เพียงแค่ 5,xxx บาทเท่านั้น นอกไปจากนั้นคุณจะได้รับปลอกป้องกันตัวหน้าจอ, ความสามารถในการชาร์จผ่านสาย USB-C ด้วยพอร์ตใดพอร์ตหนึ่งที่กำลังไฟฟ้าสูงสุดถึง 60W และขาตั้งของ Viewsonic 15.6-inch IPS portable monitor เองนั้นก็มาพร้อมกับความทนทานทำให้สามารถตั้งเอาไว้เพื่อดูเนื้อหาที่คุณต้องการได้ทั้งในโหมดแนวตั้งและแนวนอน นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบาเพียง 680g และมีความหนาอยู่ที่ 0.7 นิ้ว ดังนั้นการพกพา Viewsonic 15.6-inch IPS portable monitor ติดตัวไปกับคุณในที่ต่างๆ นั้นก็ไม่น่าจะก่อให้เกิดปัญหาเช่นเดียวกันอีกด้วย
Nexigo NG17FGQ 300Hz
จุดเด่น | + มาพร้อมประสิทธิภาพที่รองรับการเล่นเกมแบบยอดเยี่ยม + สามารถแสดงผลไฟล์วิดีโอได้ดีมากๆ + อัตรารีเฟรชสูงและความล่าช้าในการป้อนข้อมูลต่ำ + ความแม่นยำของสีที่ยอดเยี่ยม |
จุดสังเกต | – ไม่มีแบตเตอรี่ในตัว – แพง |
ราคา | 3x,xxx บาท (และต้องสั่งจากต่างประเทศซึ่งอาจจะมีค่าภาษีนำเข้าเพิ่ม) |
เมื่อคนส่วนใหญ่ตัดสินใจซื้อจอภาพที่มีอัตรารีเฟรช 300Hz พวกเขาจะเริ่มเรียกดูผ่านมอนิเตอร์เดสก์ท็อปก่อนทันที Nexigo ได้ก้าวนำเอาความคิดของผู้ซื้อแบบนั้นมาใช้ในการสร้าง Nexigo NG17FGQ 300Hz ซึ่งเป็นจอภาพแบบพกพาขนาดเล็กกว่าแต่มาพร้อมอัตรารีเฟรชเรทสูงมากถึง 300Hz พร้อมกับพาเนลหน้าจอความละเอียดที่ระดับ 1080p ด้วยขนาดหน้าจอใหญ่ถึง 17.3 นิ้วซึ่งสามารถที่จะเชื่อมต่อกับโน๊ตบุ๊คและอุปกรณ์อื่นๆ ผ่านทาง USB-C และ HDMI ทำให้มีความสามารถเพียงพอสำหรับการเล่นเกมและการทำงานของคุณได้แบบเต็มตา ซึ่งทำให้มันเหมาะสมที่สุดกับการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คของคุณ
อย่างไรก็ตามเพื่อให้ได้อัตรารีเฟรชเรทที่ 300Hz แบบเต็มๆ คุณจะต้องมีทำการเชื่อมต่อผ่านทางพอร์ต USB-C ถึงจะได้ความสามารถด้านแบนด์วิธเต็มรูปแบบเท่านั้น ถ้าคุณใช้การเชื่อมต่อแบบ HDMI คุณจะได้รับอัตรารีเฟรชเรทที่ 240Hz แทน ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็ยังคงถือว่ายอดเยี่ยมอยู่สำหรับมอนิเตอร์พกพา นอกไปจากนั้นแล้วเวลาตอบสนองที่ 3ms ของ Nexigo NG17FGQ 300Hz นั้นก็ถือว่ายอดเยี่ยมสำหรับการเล่นเกม Nexigo NG17FGQ 300Hz ยังมาพร้อมกับความในด้านความแม่นยำของสีเมื่อได้ทำการปรับเทียบอย่างถูกต้องแล้ว นอกจากนี้ Nexigo NG17FGQ 300Hz มาพร้อมกับความสว่างสูงสุดที่ 300 nits คุณจึงสามารถเห็นคู่ต่อสู้, แผนที่และคุณสมบัติอื่นๆ ในเกมได้อย่างง่ายดาย
มอนิเตอร์พกพา Nexigo NG17FGQ 300Hz นี้ยังมีลำโพงแบบคู่ ที่ให้คุณเพลิดเพลินไปกับเพลงได้ในระดับคุณภาพที่ดีขณะเดินทางไปไหนมาไหน เมนู OSD ของ Nexigo NG17FGQ 300Hz นั้นใช้งานง่ายด้วยรีโมทที่รวมอยู่ในแพ็คเกจวางจำหน่าย แต่ข้อเสียของ Nexigo NG17FGQ 300Hz นั้นก็คืิอไม่มีแบตเตอรี่ในตัว ดังนั้นคุณจะต้องใช้แหล่งพลังงานภายนอกเพื่อทำการใช้งานมัน แม้ว่า Nexigo NG17FGQ 300Hz จะไม่ใช่จอภาพที่เบาที่สุดในบทความนี้ แต่ความหนา 0.39 นิ้วและน้ำหนัก 966g ก็ไม่น่าเป็นปัญหาเมื่อคุณนำมันไปเล่นเกมกับเพื่อนนอกสถานที่ เชื่อเถอะว่าคุณจะพบว่า Nexigo NG17FGQ 300Hz นี้มีประโยชน์สำหรับทั้งการเล่นเกมและการทำงานของคุณได้อย่างลงตัว
ASUS ProArt PA148CTV 14-inch Portable Monitor
จุดเด่น | + คุณสมบัติการปรับเทียบหน้าจอสัมผัสที่มีคุณภาพ + สามารถที่จะสร้างสีออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม + การควบคุมเมนูที่ใช้งานง่าย |
จุดสังเกต | – อัตราการรีเฟรช 60Hz ทำให้การเล่นเกมไม่เป็นรองใคร – แพงเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้ |
ราคา | 16,xxx บาท |
ASUS ProArt PA148CTV 14-inch Portable Monitor มีความสว่างสูงสุด 300 nits รวมเข้ากับเทคโนโลยีป้องกันแสงสะท้อนและการจัดการแสงสะท้อนทำให้ ASUS ProArt PA148CTV 14-inch Portable Monitor มาพร้อมเป็นมอนิเตอร์พกพาที่ใช้งานได้ในทุกสภาพแวดล้อม(แม้ในสถานการณ์ที่มีแสงสว่างมากเกินไปก็ไม่ใช่ปัญหา) ASUS ProArt PA148CTV 14-inch Portable Monitor มีความหนาอยู่ที่ 0.47 นิ้ว และหนักเพียง 648g ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถพกพา ASUS ProArt PA148CTV 14-inch Portable Monitor ติดตัวไปทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา ASUS ProArt PA148CTV 14-inch Portable Monitor นี้มีพอร์ต USB-C สองพอร์ตและพอร์ต micro HDMI หนึ่งพอร์ต ทำให้สามารถใช้กับโน๊ตบุ๊คสมัยใหม่หรือคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าได้แบบสบายๆ แม้ว่าอัตรารีเฟรชเรท 60Hz จะถือว่าไม่เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักเล่นเกมเท่าไรนัก แต่สำหรับนักเล่นเกมทั่วไป ASUS ProArt PA148CTV 14-inch Portable Monitor ก็ยังคงเหมาะสำหรับการใช้งานอยู่ดี
หากคุณต้องการมอนิเตอร์พกพาสำหรับใช้งานกับผลิตภัณฑ์ของ Adobe เช่น Photoshop หรือ Premiere Pro และ ProArt แล้วล่ะก็ ASUS ProArt PA148CTV 14-inch Portable Monitor นั้นถือว่าเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมมาก ASUS ProArt PA148CTV 14-inch Portable Monitor นี้รวมเข้ากับผลิตภัณฑ์ของ Adobe ทำให้เป็นแผงควบคุมที่เหมาะสำหรับซอฟต์แวร์อย่างเช่น Photoshop และอื่นๆ ของ Adobe โดยเฉพาะ นอกจากนี้ ASUS ProArt PA148CTV 14-inch Portable Monitor ยังให้ความแม่นยำของสีที่ยอดเยี่ยมด้วย 100% sRGB/Rec.709
อย่างไรก็ตาม ASUS ProArt PA148CTV 14-inch Portable Monitor ไม่มีแบตเตอรี่ในตัวและผู้ใช้ Mac อาจประสบปัญหาในการใช้งานกับมอนิเตอร์พกพารุ่นนี้ เนื่องจากอินพุตแบบสัมผัสมักถูกปิดใช้การใช้งานเมื่อเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ Mac และคุณสมบัติบางอย่างเช่นแบบอักษรอาจโหลดได้ไม่ดีเท่าไรนัก
ASUS ZenScreen MB16AMT
จุดเด่น | + แบตเตอรี่ความจุสูง + รองรับระบบสัมผัส 10 จุด + อัตราส่วนความสว่างและความคมชัดที่ยอดเยี่ยม |
จุดสังเกต | – สีค่อนข้างจืดชืด – การรองรับการสัมผัสไม่แม่นเหมือนกับที่โฆษณา |
ราคา | 16,xxx บาท |
ASUS ZenScreen MB16AMT เป็นมอนิเตอร์พกพายอดนิยมด้วยเหตุผลสองประการ ประการแรกคือ ASUS ZenScreen MB16AMT นั้นมีหน้าจอแบบมัลติทัชที่รองรับการป้อนข้อมูลด้วยปากกาแบบโต้ตอบ ช่วยให้คุณทำงานได้อย่างแม่นยำ ส่วนประการที่สองก็คือ ASUS ZenScreen MB16AMT นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 7,800mAh ในตัวซึ่งสามารถใช้งานได้นานถึงสี่ชั่วโมงต่อการชาร็จเต็มหนึ่งครั้งที่ความสว่างเต็มที่และมากกว่าห้าชั่วโมงที่ความสว่างปานกลาง
ASUS ZenScreen MB16AMT มีขนาดหน้าจอแสดงผลอยู่ที่ 15.6 นิ้วพร้อมกับความละเอียด 1080p ที่ความสว่างสูงสุด 250 nits ทำให้ ASUS ZenScreen MB16AMT นั้นมีพื้นที่หน้าจอเพียงพอสำหรับการทำงานอย่างราบรื่นและให้ประสบการณ์ในการรับชมสื่อต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ว่าคุณอาจประสบปัญหาในการใช้ ASUS ZenScreen MB16AMT นี้กลางแสงแดดโดยตรงอยู่บ้างเพราะความสว่างของมันนั้นไม่มากเท่าไรนัก ในด้านการเชื่อมต่อ ASUS ZenScreen MB16AMT นี้มีพอร์ตการเชื่อมต่อ micro-HDMI หนึ่งพอร์ตและพอร์ต USB-C สัญญาณไฮบริดที่จะทำให้คุณเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้อีกเป็นจำนวนมาก ASUS ZenScreen MB16AMT สามารถใช้งานได้กับกล้อง, เครื่องเกมคอนโซล, โน๊ตบุ๊ค, แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน
ASUS ZenScreen MB16AMT มีหน้าจอสัมผัสที่ดีเยี่ยมสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่สำหรับคนทำงานทางด้านครีเอทีฟโฆษณาต่างๆ แล้วนั้นอาจไม่ชอบการสัมผัสที่ได้จาก ASUS ZenScreen MB16AMT นี้เพราะไม่ค่อยมีความแม่นยำสำหรับงานดังกล่าวสักเท่าไรนัก ASUS ZenScreen MB16AMT ยังมีการครอบคลุมสีที่จำกัดซึ่งหมายความว่าสีบางสีเช่นสีแดงและสีม่วงมีแนวโน้มที่จะดูจืดชืดกว่าปกติ นอกจากนี้ ASUS ZenScreen MB16AMT ยังค่อนข้างที่จะหนักเล็กน้อยสำหรับมอนิเตอร์พกพากับน้ำหนัก 861g แม้ว่าความหนาของตัวเครื่องจะอยู่ที่ 0.4 นิ้วซึ่งทำให้เลื่อนเข้าไปในเป้สะพายหลังและกระเป๋าต่างๆ ได้ง่าย ทว่าด้วยราคาของมันแล้วนั้น ASUS ZenScreen MB16AMT ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่ราคาค่อนข้างจะสูงไปหน่อย
ที่มา : rtings, xda-developers, nytimes, tomshardware