Razer BlackWidow V4 Pro คีย์บอร์ดเกมมิ่งเรือธง ฟีเจอร์เฟี้ยวฟ้าวกว่าใคร!
นอกจากประกอบเกมมิ่งพีซีสเปคแรง ก็ต้องมีเกมมิ่งเกียร์โดยเฉพาะคีย์บอร์ดเกมมิ่งดีๆ เอาไว้ต่อคอมใช้คู่กัน อย่าง Razer BlackWidow V4 Pro จาก Razer เกมมิ่งคีย์บอร์ดเรือธงตัวใหม่นี้จัดเป็นตัวฟีเจอร์ล้นน่าใช้ ได้ไฟ RGB สวยงามตามแบบฉบับเกมมิ่งเกียร์ ติด Multimedia Key มาให้ใช้งานตามสไตล์เกมมิ่งคีย์บอร์ด Full-size แล้ว ยังได้ฟีเจอร์ทีเด็ดติดตัวมาเพียบ ทั้งอัตราตอบสนองไวด้วยค่า Polling Rate 8,000Hz ซึ่งเร็วกว่าคีย์บอร์ดทั่วไปถึง 8 เท่า, มีพอร์ต USB Passthrough เอาไว้ต่อฮาร์ดดิสก์หรือเมาส์เกมมิ่งได้โดยไม่ต้องเอื้อมไปยังเครื่องพีซีก็ได้ ช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้นหลายเท่าอีกด้วย
ลูกเล่นพิเศษของ BlackWidow V4 Pro ที่เกมเมอร์น่าจะถูกใจ นอกจากปุ่มมาโคร M1~M5 ก็มีปุ่มพิเศษเสริมเข้ามาข้างคีย์บอร์ดอีก 3 ปุ่มพร้อมคำสั่งตั้งต้นจากโรงงาน และมี Razer Command Dial ลูกบิดพิเศษซึ่งทาง Razer ออกแบบมาอย่างดี ติดฟีเจอร์ใช้งานบ่อยมาให้ถึง 8 แบบ และยังเซ็ตคำสั่งใช้ง่านบ่อยเสริมเข้าไปได้ตามต้องการและเปิดใช้งานพร้อมกันได้ตามชอบ จัดเป็นฟีเจอร์เด็ดที่ไม่มีใครเหมือนแถมยังใช้งานได้ถนัดมือดีมาก แค่เสียเวลาปรับแต่งเล็กน้อยก็ใช้ทำงานและเล่นเกมได้ดีแน่นอน
NBS Verdicts
ในฐานะที่ผู้เขียนก็เคยเป็นเจ้าของคีย์บอร์ด Razer BlackWidow Ultimate 2013 มาก่อนแล้วห่างหายไม่ได้ใช้คีย์บอร์ดเมคานิคอลของแบรนด์นี้มานานปีก็จริง แต่พอได้ลองเล่น Razer BlackWidow V4 Pro ก็เหมือนได้กลับมาเจอเพื่อนเก่าที่คุ้นเคยแต่ความสามารถและลูกเล่นแพรวพราวขึ้น และยังคงมีจุดน่ารักของตัวเองอยู่เช่นเดิมอย่างปุ่มมาโคร M1~M5 และปุ่มเสริมพิเศษด้านข้างอีก 3 ปุ่ม พร้อมคำสั่งตั้งต้นจากโรงงานอีกชุด และยังเซ็ตตั้งค่าคีย์ลัดเพิ่มลดได้ตามความต้องการ
ด้านลูกเล่นก็ถือว่าครบเครื่อง ไม่ว่าจะ Multimedia Key สำหรับจคุมการเล่นหรือหยุดเพลงและคลิปที่ดูอยู่ได้อย่างอิสระแล้ว ต้องยกให้ Razer Command Dial ด้านข้างปุ่ม Esc ซึ่งเป็นลูกบิดแบบกดเปลี่ยนคำสั่งที่เซ็ตเอาไว้ใน Razer Synapse 3 ได้ตามใจ ซึ่งนอกจากคำสั่งพื้นฐานแล้วยังเซ็ตเพิ่มได้ตามต้องการ จะใช้คำสั่งไหนก็เปิดโปรแกรมทำได้ตามใจชอบแถมยังตั้งค่า Polling Rate ได้เร็วสุด 8,000Hz ให้กดปุ่มแล้วตอบสนองได้เร็วทันใจขึ้น แถมยังมีช่อง USB Passthrough ติดมาด้านหลังคีย์บอร์ดสำหรับต่ออุปกรณ์อื่นๆ ได้ รวมไปถึง External Harddisk อีกด้วย แม้จะเร็วเท่า USB 2.0 ก็ตาม แต่ก็ใช้งานได้สะดวกไม่ต้องลุกจากเก้าอี้หรือเอื้อมไปหาคอมพิวเตอร์ก็ได้
จุดประทับใจถัดมาคืองานประกอบซึ่งดีล้ำหน้าคีย์บอร์ดเมคานิคอลหลายๆ รุ่น โดย Razer เสริมโฟม EVA เข้ามาในตัวคีย์บอร์ด 2 ชั้น ซึ่งเหตุผลคือเรื่องเสียงตอนใช้งาน ให้ได้เสียงแน่น เวลากดปุ่มไหนๆ บนคีย์บอร์ดจะเป็นเสียงคีย์แคปกับสวิตช์เคาะลงไปบนเฟรมอลูมิเนียมอัลลอยด์ 5052 โดยไม่มีเสียงกลวง (Hollow) ซ่อนมา ซึ่งเป็นเสียงที่คนประกอบ Custom Keyboard ไม่ชอบเป็นที่สุดและสวิตช์ Razer Yellow Linear ดีไซน์ Box Switch ซึ่งมีปีกข้างรับคีย์แคป Double Shot PBT ก็กดได้เร็วและมั่นคงใช้งานได้น่าประทับใจ มีที่รองข้อมือเฉพาะของ BlackWidow V4 Pro แถมมาให้ต่อเพิ่มได้ซึ่งนุ่มและหนาวางมือดี วางมือพิมพ์งานและเล่นเกมได้นุ่มจนอยากให้ทาง Razer เอาที่วางข้อมือนี้มาพัฒนาต่อขายแยกมากๆ
ข้อสังเกตของ Razer BlackWidow V4 Pro อย่างแรกคือคีย์แคปเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ซึ่งถ้าพิมพ์สัมผัสได้ก็ไม่มีปัญหา หรือไม่ก็หาสติ๊กเกอร์แป้นพิมพ์ภาษาไทยมาติดเพิ่มก็ช่วยได้ และจุดติดตั้ง Razer Command Dial กับปุ่ม Esc อยู่ค่อนข้างชิดกันทำให้กดผิดได้บ้าง แนะนำว่ารุ่นต่อไปแนะนำให้ขยับปุ่ม Esc เลื่อนมาทางขวาใกล้กับปุ่ม F1 อีกนิดสัก 0.5~1 เซนติเมตร จะดีมาก
ส่วนที่ชอบแต่ก็ยังติดใจ ด้านดีคือ BlackWidow V4 Pro เปลี่ยนดีไซน์จากสายฝังเป็นพอร์ต USB-C แบบถอดสายได้แล้ว ทำให้ตอนสายพังก็ไม่ต้องส่งเคลมให้วุ่นวายเพราะเอาสาย USB-C เส้นไหนมาต่อก็ได้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าจะใช้ USB Passthrough ก็ต้องต่อ USB-C อีกเส้นแทน ซึ่งจริงๆ แล้วพอร์ตนี้มีสามารถรวมทั้งสองฟังก์ชั่นเอาไว้ในตัวได้ ก็เป็นเรื่องน่าฉงนสงสัยอยู่บ้าง
ข้อดีของ Razer BlackWidow V4 Pro
- งานประกอบคีย์บอร์ดดีและแข็งแรงมาก ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียมอัลลอยด์ 5052
- คีย์บอร์ดเสริมโฟมมาในตัว 2 ชั้นและ Lube สวิตช์มาให้พร้อมใช้ สัมผัสดีไม่แพ้ Custom Keyboard
- สวิตช์ Razer Yellow Linear เป็นปุ่ม Box Switch กดได้มั่นคงและลื่นตอบสนองดีมาก
- เชื่อมต่อด้วยสาย USB-C แล้ว สามารถหาสายเชื่อมต่อใช้งานได้ง่ายมาก
- มีขาตั้ง (Kickstand) ให้ปรับความสูงได้ 2 ระดับ ที่ 6 หรือ 9 องศา ปรับความชันได้ตามถนัด
- มีที่วางข้อมือแถมมาให้และติดไฟ RGB ล้อมกรอบมาแบบ Ambient รอบแป้นดูสวยงามมาก
- ปรับแต่งตัวคีย์บอร์ดได้ด้วย Razer Synapse 3 เซ็ตอัพให้เข้ากับโปรแกรมหรือเกมได้สะดวก
- มีช่อง USB Passthrough ติดมาให้ใช้ เอาไว้เชื่อมต่อโอนไฟล์หรือต่อเกมมิ่งเกียร์ชิ้นอื่นได้
- ความเร็ว Polling Rate สูงถึง 8,000 Hz ตอบสนองตอนใช้งานได้รวดเร็วทันใจ
- ปุ่ม Razer Command Dial ติดคำสั่งใช้งานบ่อยมาให้และเซ็ตคำสั่งใช้บ่อยเพิ่มได้ด้วย
- ติดตั้ง Multimedia Key มาให้ กดควบคุมเครื่องตอนฟังเพลงและเล่นเกมได้สะดวกมาก
- มีปุ่มมาโคร 5 ปุ่มหลักให้ตั้งค่าใช้งานได้และปุ่มข้างเสริมอีก 3 ปุ่ม กดใช้งานได้สะดวกดีมาก
ข้อสังเกตของ Razer BlackWidow V4 Pro
- สาย USB เส้นหลักแยกกับสาย USB Passthrough น่าทำเป็นเส้นเดียวแล้วแยกเป็น 2 หัวแทน
- คีย์บอร์ดเป็นคีย์ภาษาอังกฤษเท่านั้น ถ้าจะใช้ภาษาไทยต้องเอาสติ๊กเกอร์ภาษาไทยติดเพิ่มเอง
- ปุ่ม Razer Command Dial ติดมาชิดกับปุ่ม Esc ไป แนะนำให้เลื่อนปุ่ม Esc เข้ามาใกล้ๆ F1 ดีกว่า
รีวิว Razer BlackWidow V4 Pro
Unboxing
กล่องของ Razer BlackWidow V4 Pro ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์งูเขียวเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ยืนพื้นใช้สีกล่องเป็นดำตัดเขียวและสกรีนรูปสินค้าเอาไว้ที่หน้ากล่องส่วนด้านหลังเป็นคุณสมบัติของสินค้า และตามมุมต่างๆ จะเขียนฟีเจอร์, รายละเอียดต่างๆ เอาไว้จนครบ รวมไปถึงลงข้อมูลสวิตช์ Razer Yellow Linear ซึ่งตอบสนองได้รวดเร็วและดีไซน์เป็น Box Switch ต่างจากสวิตช์ปกติที่จะเป็นก้าน Stem ยื่นขึ้นมาตรงกลางอย่างเดียว พอมีปีกเสริมด้านข้างสวิตช์จะช่วยพยุงข้างคีย์แคปให้มั่นคงและให้เสียงแน่นขึ้นและทางบริษัทก็การันตีไว้ว่ามันสามารถกดได้กว่า 100 ล้านครั้งอีกด้วย
นอกจากคีย์บอร์ด ภายในกล่องจะมีสาย USB-C to A แถมมาให้ 2 เส้น, แท่นรองข้อมือแบบโฟมยางหนานุ่ม มีแม่เหล็กดูดติดเข้ากับคีย์บอร์ดได้ทันที, สมุดคู่มือวิธีใช้งานและสติ๊กเกอร์ของทาง Razer อีกแผ่น ตัวสายเป็นสายถักพร้อมสายยางรัดพร้อมปลอกกันฝุ่น เมื่อถอดปลอกยางแล้วจะเห็นว่าหัวสายทำสีเขียวตามสีของทางบริษัทด้วย
แป้นรองข้อมือด้านหน้าจะเป็นผ้าสีดำลายคาร์บอนไฟเบอร์แกะลายโลโก้ Razer เอาไว้ตรงกลางแป้น พอหันมาด้านหลังจะมีแถบยางกันลื่นติดมาให้ 7 ชิ้น สังเกตว่าตรงกลางแป้นจะมีลิ้นติดตัว Connector ไว้ต่อเข้ากับคีย์บอร์ดให้มีไฟ RGB ติดรอบกรอบตัวที่รองข้อมือด้วย
ความนุ่มแน่นของที่รองข้อมือ Razer BlackWidow V4 Pro ถือว่ายอดเยี่ยมน่าประทับใจมากจนอยากให้ทาง Razer ผลิตมาขายแยกเลย ตัวโฟมฟองน้ำนอกจากแข็งนุ่มกำลังดีรับน้ำหนักแขนได้พอเหมาะและไม่ยวบเกินไป ทำให้วางแขนได้พอดีกดปุ่มบนคีย์บอร์ดตอนพิมพ์งานหรือเล่นเกมได้พอเหมาะพอดีมาก
Specification
Razer BlackWidow V4 Pro เกมมิ่งคีย์บอร์ดรุ่นเรือธงตัวใหม่ของทาง Razer ซึ่งใช้เล่นเกมและทำงานได้เป็นอย่างดี สำหรับสเปคมีรายละเอียดดังนี้
| Keyboard Layout | Full Size |
| Switch Type | Razer Green (Clicky) / Razer Yellow (Linear) |
| Function Key | Macro x 5 ปุ่ม, ปุ่มแยก 3 ปุ่มข้างคีย์บอร์ด, Multimedia Key Razer Command Dial |
| Polling Rate | สูงสุด 8,0000 Hz |
| Connectivity | USB-C to A x 2 แยกเป็น Data กับ USB Passthrough USB Passthrough เป็น USB 2.0 |
| Onboard Memory | 5 โปรไฟล์ |
| Software | Razer Synapse 3, Razer Chroma RGB |
| Price | 8,990 บาท (Razer Shopee Mall) |
Design & Keyboard Type
ดีไซน์ของ Razer BlackWidow V4 Pro เป็นแบบ Full Size พร้อมปุ่มฟังก์ชั่นพิเศษติดมาให้ตามส่วนต่างๆ ของคีย์บอร์ด ด้านซ้ายมีลูกบิด Razer Command Dial ถัดลงมาเป็นปุ่มมาโคร M1~M5 สำหรับเซ็ตตั้งค่าคีย์ลัดได้ตามสะดวก ฝั่งขวาเป็น Multimedia Key 4 ปุ่ม พร้อมลูกล้อปรับเพิ่มลดเสียงแถบยาวและสลักชื่อ Razer เอาไว้ตรงกลางขอบล่างคีย์บอร์ด แต่ถ้าติดที่รองข้อมือเมื่อไหร่จะปิดชื่อแบรนด์พอดี
ตัวปุ่ม Razer Command Dial ตรงมุมบนซ้ายเป็นลูกบิดแบบกดได้ เวลากดแล้วจะเปลี่ยนคำสั่งใช้งานและสีไฟรอบตัวลูกบิดไปเรื่อยๆ ตามโปรไฟล์ที่ตั้งไว้ โดยพื้นฐานแล้วทาง Razer จะตั้งค่ามาให้ 8 แบบ แล้วและเซ็ตเพิ่มใน Razer Synapse 3 ได้เลย เป็นลูกเล่นที่ใช้งานได้ดีพอควร ซึ่งฟังก์ชั่นนี้จะเหมาะกับคำสั่งแบบใช้งานคู่กันอย่าง Copy/Paste หรือเอาไว้เลื่อนหน้าจอขึ้นลงแทนก็สะดวกดี
ปุ่มฟังก์ชั่นหลักของ Razer BlackWidow V4 Pro จะมีอยู่ 4 ปุ่ม ตรง F9~F12 เรียงจากซ้ายมีปุ่ม M สำหรับบันทึกมาโครสดระหว่างใช้งาน (on th fly), ปุ่ม G เป็นปุ่ม Gaming Mode โดยโหลดโปรไฟล์ที่เหมาะกับการเล่นเกมและปิดบางปุ่มที่ขัดจังหวะตอนเล่นเกมทิ้ง เช่น ปุ่ม Windows, Alt+F4 เป็นต้น ซึ่งเซ็ตคำสั่งทั้งหมดได้ใน Razer Synapse 3 เช่นกัน อีกสองปุ่มที่เหลือเอาไว้ปรับความสว่างของไฟ RGB และปุ่ม Sleep Mode ซึ่งรวมอยู่กับปุ่ม Pause และตอนกด Fn ค้าง ไฟทั้งหมดจะดับเหลือแต่ไฟขาวของ Function Hotkey เรืองขึ้นมาให้ผู้ใช้เลือกกดได้ตามถนัด เป็นลูกเล่นเล็กๆ ที่ใส่ใจผู้ใช้ดีทีเดียว
ด้านใต้คีย์บอร์ดจะมีแผ่นยางกันลื่นติดเอาไว้พร้อมกับขาตั้งปรับความชันอีก 2 ฝั่ง เลือกได้ 2 ระดับ คือ 6 หรือ 9 องศา สลักคำขวัญของบริษัทเอาไว้ว่า “FOR GAMERS” เอาไว้ทั่วตัวใต้ตัวคีย์บอร์ด ซึ่งตอนใช้งานถ้าต่อที่วางข้อมือเอาไว้แล้วกางความชัน 6 องศาจะพอดีมือไม่สูงมาก แต่ถ้าปรับเป็น 9 องศาแล้วจะค่อนข้างชันนิ้วอยู่บ้าง
ถัดลงมาข้างล่างจะเห็นว่ามีแถบ Connector สีทองติดอยู่และเว้นกรอบวางเอาไว้ให้ลิ้นของแท่นวางข้อมือต่อเข้ากับตัวคีย์บอร์ด พอต่อกันแล้วที่วางข้อมือจะมีแถบไฟ RGB ติดขึ้นมาด้วยและเปลี่ยนเอฟเฟคสีตามเอฟเฟคแสงของคีย์บอร์ดด้วย แต่บางเอฟเฟคจะไม่ทำงานเช่นแบบ Reactive เป็นต้น
พอร์ตเชื่อมต่อของ Razer BlackWidow V4 Pro จะอยู่ตรงกับปุ่ม F1~F2 พอดี ฝั่งซ้ายรูปสายฟ้าเป็นหัว Data เอาไว้ต่อคีย์บอร์ดใช้งาน ฝั่งขวาเขียน USB พอต่อกับคอมแล้วจะใช้หัว USB Passthrough ที่อยู่ข้างๆ ได้ ความเร็วระดับ USB 2.0 เท่านั้น ซึ่งเมื่อทาง Razer ทำพอร์ตเชื่อมต่อเป็น USB-C แทนสายฝังแบบทั่วไปก็มีข้อดี กรณีสายเสียหรือหักในก็ไม่ต้องส่งคีย์บอร์ดเคลมทั้งตัว แต่ส่งแค่สายอย่างเดียวก็พอ หรือจะเอาสาย USB-C Coild Cable ที่ชาวจัดโต๊ะคอมมาต่อก็ใช้งานได้ตามปกติเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนคิดว่าทาง Razer น่าทำให้สาย USB-C เหลือหัวเดียวแล้วใช้ USB Passthrough ได้ด้วยจะดีกว่า นอกจากลดปริมาณสายให้เหลือเส้นเดียวไม่สับสนวุ่นวายแล้ว ตัวสาย USB-C ก็ดีไซน์ให้ใช้ต่ออุปกรณ์ได้หลากหลายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อาจจะเพิ่มคอนโทรลเลอร์เข้าไปอีกตัวก้ใช้งานได้เลย
ความเร็วตอนถ่ายโอนไฟล์เข้าออก External Harddisk หลังจากทดสอบด้วย CrystalDiskMark 8 จะมีความเร็วระดับพอใช้โอนไฟล์ได้แต่ไม่เร็วมาก เน้นเอาความสะดวกไม่ต้องเอื้อมไปที่คอมให้วุ่นวายเผื่อตัวเคสวางอยู่พื้นห้องแล้วไม่สะดวกก้มไปหาหรือจะเอาไว้ต่อเกมมิ่งเกียร์ชิ้นอื่นๆ ก็ได้
น้ำหนักของคีย์บอร์ดอย่างเดียวอยู่ที่ 1.12 กิโลกรัม เท่ากับโน๊ตบุ๊คบางเบาในปัจจุบันนี้ รวมที่วางข้อมือและสาย USB-C to A ทุกเส้นจะมีน้ำหนัก 1.63 กิโลกรัม ซึ่งน้ำหนักระดับนี้ช่วยให้ตัวแป้นไม่ไถลไปไหนมาไหนและได้สัมผัสมั่นคงเวลาใช้งานด้วย
Keycap Profile&Switch
สวิตช์ Razer Yellow ของ Razer BlackWidow V4 Pro เป็น Box Switch แบบ Linear ซึ่งนอกจากก้าน Stem ตรงกลางจะมีปีกข้างซัพพอร์ตตัวคีย์แคปทำให้กดปุ่มได้มั่นคงยิ่งขึ้น และทาง Razer เคลมว่ากดได้ 100 ล้านครั้ง ส่วน Top Housing ครึ่งบนสวิตช์เป็นแบบใสให้ไฟ RGB ลอดได้เต็มที่ สัมผัสตอนใช้ทำงานและเล่นเกม ตัว Box Switch ให้สัมผัสมั่นคงและตัวสวิตช์เป็น Linear ทำให้เสียงไม่ดังรบกวนเพื่อนร่วมห้องหรือหนวกหูตัวเองเวลาใช้งานด้วย
คีย์แคปแบบฉีดพลาสติกสองชั้น Double Shot PBT ของ BlackWidow V4 Pro ตัวที่ได้รับมาทดสอบเป็นคีย์ภาษาอังกฤษแสงลอดบริเวณตัวอักษรอย่างเดียวแต่ยังพอมีแสงเรืองลอดมาขอบปุ่มบ้าง โปรไฟล์ OEM เนื้อแบบสากกดได้ถนัดมือเนื้องานเรียบร้อยใช้งานดี แต่ผู้ใช้ที่ยังพิมพ์สัมผัสไม่คล่องแนะนำให้หาสติ๊กเกอร์อักษรไทยแบบข้างปุ่มมาติดให้แต่ละปุ่มจะใช้งานได้สะดวกขึ้น
Software
พอต่อ Razer BlackWidow V4 Pro เข้ากับคอมพิวเตอร์แล้ว ตัวคีย์บอร์ดจะเริ่มติดตั้งโปรแกรม Razer Synapse 3 สำหรับควบคุมและตั้งค่าเกมมิ่งเกียร์ของ Razer ให้โดยอัตโนมัติ และในหน้าแรกจะโชว์เกมมิ่งเกียร์ทุกชิ้นที่เชื่อมต่ออยู่ให้เลือกตั้งค่าได้
ตัว BlackWidow V4 Pro ในหน้าแรกจะเป็นการตั้งค่าปุ่มบนคีย์บอร์ดว่าจะเซ็ตให้แต่ละปุ่มทำหน้าที่อะไรบ้าง โดยจะโชว์ตัวแป้นคีย์บอร์ดทั้งด้านหน้าและปุ่มพิเศษข้างเครื่องอีก 3 ปุ่มให้เลือกได้ตามต้องการ เมื่อกดแล้วจะเข้าหน้าตั้งค่า ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้ทุกปุ่มไม่จำกัดว่าต้องเป็นปุ่มมาโครหรือปุ่มข้างที่ติดแยกเอาไว้เท่านั้น ทำให้เกมเมอร์สามารถเซ็ตคำสั่งและคีย์ลัดเข้าไปได้ตามต้องการไม่ว่าจะคำสั่งสำหรับเล่นเกมหรือทำงานก็ได้เช่นกัน
หน้าคำสั่ง Profile จะรวมเกมทั้งหมดในเครื่องขึ้นมาให้ตั้งค่าคำสั่งคีย์ลัดเฉพาะสำหรับเกมนั้นๆ ได้และยังเลือกโปรไฟล์ไฟ ARGB เฉพาะสำหรับเกมที่ต้องการได้โดยเลือกในหมวด Chroma Studio ได้ เพราะบางเกมอาจต้องการเอฟเฟคแสงเยอะๆ เพื่อความสวยงามหรือบางเกมต้องการแบบ Reactive ให้แสงน้อย สว่างแค่ปุ่มที่กดอย่างเดียวไม่ให้กวนสมาธิก็ตั้งได้
ส่วนการตั้ง Polling Rate ของคีย์บอร์ดเพื่อให้ตอบสนองได้เร็วขึ้นซึ่งเกมเมอร์สาย FPS ต้องการใช้งานเช่นกันจะอยู่ในหน้านี้ด้วยแต่ต้องเลื่อนลงมาเล็กน้อย จะมีคำสั่งตั้งค่ารวมอยู่ในคำสั่ง Gaming Mode ซึ่งอัตรา Polling Rate จะปรับขึ้นลงทีละระดับ เริ่มจาก 125 / 250 / 500 / 1,000 / 2,000 / 4,000 / 8,000 Hz เป็นค่าสำเร็จรูปมาจากโรงงานและด้านข้างจะมีคำสั่ง Razer Command Dial อยู่ด้วย
Command Dial ตั้งต้น ปรับแต่งปุ่ม Command Dial
หน้าคำสั่งของ Razer Command Dial จะมีคำสั่งตั้งต้นจากโรงงานทั้งหมด 8 อย่าง เลือกเปิดปิดได้ตามชอบและตั้งสีเฉพาะของแต่ละคำสั่งได้ด้วย มีคำสั่งดังนี้
- Keyboard Brightness – ปรับความสว่างคีย์บอร์ด
- Windows Zoom – ซูมหน้าจอเข้าออกทั้งหน้า Windows และโปรแกรมต่างๆ
- Switch Applications – เปลี่ยนโปรแกรมต่างๆ ไปมาเหมือนกด Alt+Tab
- Track Jogging – เลื่อนเวลาของเพลงที่เล่นอยู่ว่าจะไปข้างหน้าหรือถอยกลับ
- Track Selector – เลื่อนเปลี่ยนเพลงไปมาว่าจะเล่นเพลงก่อนหน้าหรือเพลงถัดไป
- Vertical Scrolling – เลื่อนหน้าต่างโปรแกรมขึ้นหรือลง
- Horizontal Scrolling – เลื่อนหน้าต่างโปรแกรมซ้ายขวาเหมือนกด Shift ค้างแล้วหมุนสกรอล์เมาส์
- Switch Browser Tabs – เปลี่ยนแท็บของเว็บเบราเซอร์ที่เปิดอยู่ว่าจะเลื่อนไปซ้ายหรือขวา
นอกจากทั้ง 8 คำสั่งนี้ ผู้ใช้ยังตั้งค่าเพิ่มคำสั่งอื่นๆ และกำหนดสีเฉพาะแต่ละคำสั่งได้ตามต้องการ ถ้าคิดภาพตามง่ายๆ ตัว Razer Command Dial ก็เป็นคำสั่ง Macro ประเภทหนึ่งแต่เซ็ตได้ 2 แบบ แนะนำว่าตอนตั้งค่าใช้เป็นคำสั่งคู่กันอย่าง Copy/Paste, Page Up/Page Down ประเภทนี้จะดีและเข้าใจง่ายสุด
ส่วนปริมาณคำสั่งของ Command Dial ไม่มีโควต้าจำกัดเอาไว้ ถ้ามีคำสั่งอยากใช้งานเยอะเกิน 8 แบบก็เปิดพร้อมกันแล้วตั้งสีเฉพาะได้เลย จากที่ทดสอบมาแล้วเปิดใช้คำสั่งไปราว 12 คำสั่งก็ยังใช้งานได้ตามปกติ ขอแค่ตั้งสีของคำสั่งต่างๆ ให้แยกกันออกก็พอแล้ว
เวลาใช้ Razer Command Dial เวลากดตัวปุ่มลูกบิด (Knob) แล้ว จะมีหน้าต่างแจ้งเตือนขึ้นมาตรงขอบล่างขวาของหน้าจอเพื่อบอกผู้ใช้ว่าตอนนี้เป็นคำสั่งอะไรและไฟรอบวงลูกบิดจะเปลี่ยนสีตามด้วย เช่น ในภาพลูกบิดเป็นไฟสีแดงก็เป็นคำสั่ง Windows Zoom ถัดลงมาจะมีคำสั่งบอกว่าหมุนตามหรือทวนเข็มนาฬิกาจะเป็นคำสั่งอะไรบ้าง ซึ่งถ้าเป็นคำสั่งของผู้ใช้เองหน้าต่างนี้ก็จะโชว์ชื่อและคำสั่งตอนหมุนลูกบิดตามที่ตั้งค่าเอาไว้ด้วย
User Experience
งานประกอบของ Razer BlackWidow V4 Pro ในฐานะเกมมิ่งคีย์บอร์ดระดับเรือธงถือว่าทำมาได้ดีมากๆ ทั้งเนื้องานเนี๊ยบ วัสดุแข็งแรงทำจากอลูมิเนียม 5052 เนื้อแข็งแรงทนทานและยังใส่ Dampening Foam เอาไว้ซับเสียงตอนกดปุ่มคีย์บอร์ดแล้วตัวปุ่มกับคีย์แคปกระทบกันไม่ให้สะท้อนหรือก้องเพราะตัวโครงมีช่องว่างอยู่ถึง 2 ชั้น คั่นไว้ใต้แผ่นวงจรและตัวโครงคีย์บอร์ดส่วนบนกับสวิตช์ เวลากดปุ่มก็ได้เสียงแน่นดีมีน้ำหนัก แถมสวิตช์ Razer Yellow Linear ก็ Lubed ทาน้ำมันหล่อลื่นมาจากโรงงานแล้ว สัมผัสตอนกดจึงลื่นกดดีไม่แพ้สวิตช์ Custom Keyboard บางรุ่นที่ทำมาจากโรงงาน อาจจะมีเสียงก้าน Stabilizer เคาะเล็กน้อย แต่ก็บาลานซ์มาน่าประทับใจพอตัว
สิ่งที่ดีต่อจากตัวคีย์บอร์ด ต้องยกให้แท่นวางข้อมือโฟมหนานุ่มแบบดูดติดเข้ากับคีย์บอร์ดด้วยแม่เหล็กแล้วมีไฟ ARGB รอบตัวแท่นวางข้อมือ นอกจากเรื่องเอฟเฟคไฟต้องยกให้ความนุ่มวางมือสบายมากแต่ก็ไม่ยวบจนเกินไปทำให้ใช้ทำงานและเล่นเกมได้สบายแขนมาก จนอยากให้ Razer ผลิตออกมาขายแยกเสียด้วยซ้ำ
ลูกเล่นนอกจากปุ่มมาโครและ Multimedia Key ซึ่งมีติดมากับคีย์บอร์ดตระกูล BlackWidow มาตั้งแต่สมัยก่อนก็ยังมีให้ครบถ้วน แต่เสริมปุ่มข้างมาให้ 3 ปุ่มพร้อมตั้งค่ามาให้จากโรงงานพร้อมคำสั่งตั้งต้นมาให้ถ้าอยากได้คำสั่งอื่นก็เซ็ตเพิ่มเติมได้ จะเซ็ตให้เป็นปุ่มมาโครเสริมเอาไว้กดตอนเล่นเกมหรือใส่คำสั่งที่ใช้ทำงานบ่อยๆ ก็ดี แถมลูกบิด Razer Command Dial ที่ไม่มีเกมมิ่งคีย์บอร์ดตัวไหนเหมือนและยังมีคีย์ลัดจากทาง Razer ถึง 8 แบบและเซ็ตเพิ่มได้ด้วยโดยคำสั่งดั้งเดิมอย่างเลื่อนหน้าจอแนวตั้งแนวนอน, เปลี่ยนแท็บไปมา ฯลฯ แถมยังเซ็ตเพิ่มได้เป็นลูกเล่นที่ดีมาก ช่วยให้มือประจำอยู่กับคีย์บอร์ดได้แทบจะตลอดเวลา ไม่ต้องเปลี่ยนไปจับเมาส์เลยก็ยังได้
สัมผัสเวลาใช้งานถือว่าสวิตช์ Razer Yellow Linear ตอบสนองดีและดีไซน์ Box Switch มีปีกเสริมทำให้ตอนกดแต่ละปุ่มรู้สึกแน่นไม่โยกและตอบสนองเร็ว ตอนใช้ทำงานถือว่าตอบสนองดีโดยเฉพาะถ้าใครพิมพ์งานเยอะทั้งวันหยิบไปใช้ที่ออฟฟิศไม่มีปัญหาแน่นอน ส่วนตอนเล่นเกมการปรับ Polling Rate ขึ้นไประดับ 8,000 Hz จะเห็นผลชัดสุดคือตอนเล่นเกมแนว FPS เวลาถอนนิ้วหรือกดปุ่มไหนกลับไปจะตอบสนองได้เร็วขึ้นระดับหนึ่งโดยเฉพาะช่วงเฉือนกันในเสี้ยววินาทีนับว่ามีประโยชน์มาก แต่ถ้าไม่ได้เล่นเกมเร็วๆ ปรับเอาไว้ 1,000~2,000 Hz ก็ตอบสนองได้เร็วกำลังดี
จุดสังเกตมีเรื่องสาย USB-C ที่แยกออกเป็น 2 เส้น ซึ่งถ้ารวบเป็น 1 เส้นให้ใช้ USB Passthrough และต่อคีย์บอร์ดใช้งานได้รวมกันเลยจะดีมาก นอกจากลดความสับสนยังลดสายและพอร์ต USB ได้พร้อมกัน และถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ Razer ขยับปุ่ม Esc เข้ามาใกล้ปุ่ม F1 อีกสักนิดประมาณ 0.5~1 เซนติเมตรให้ห่างจากตัว Command Dial สักหน่อยจะได้ใช้งานสะดวกขึ้น
Summary
Razer BlackWidow V4 Pro ยังคงรักษาคุณภาพและใส่ฟีเจอร์มาสมฐานะเกมมิ่งคีย์บอร์ดรุ่นเรือธงของค่ายงูเขียวได้เป็นอย่างดี ยังได้งานประกอบแน่นหนาสมค่าตัว 8,990 บาท แล้วเสริมลูกเล่นใหม่ๆ เข้ามาให้มากกว่าเดิมทั้ง Command Dial, Multimedia Key และที่รองข้อมือที่หนานุ่ม ช่วยให้ใช้งานได้นานโดยไม่เมื่อยล้าไปเสียก่อน ซึ่งทั้งฟีเจอร์และงานประกอบดีระดับที่ลงทุนไปไม่ผิดหวัง จะซื้อใช้เองหรือจะแนะนำให้คนใกล้ตัวก็ดีทั้งคู่
Award
Best Features
BlackWidow V4 Pro ใส่ฟีเจอร์ใหม่มาให้ นอกจาก Multimedia Key ก็เพิ่มลูกเล่นใหม่ไม่มีใครเหมือนอย่างปุ่มข้างคีย์บอร์ด, Command Dial มาให้ซึ่งได้ใช้งานจริง ตอบโจทย์คนทำงานและเกมเมอร์มาก
Best Gaming
เกมมิ่งคีย์บอร์ดนอกจากฟังก์ชั่น Anti-Ghosting หรือ N-Key Rollover แล้ว Razer BlackWidow V4 Pro นั้นถือว่าเหมาะกับเกมทุกประเภททั้ง FPS เพราะปรับค่า Polling Rate ได้สูงสุด 8,000 Hz หรือจะแนว RPG, MOBA ก็ได้เพราะมีปุ่มมาโครหลัก 5 และ 3 ปุ่มพิเศษ จึงใช้เล่นเกมได้ทุกสไตล์แน่นอน
