AMD และ Intel มาพร้อมกับการเปิดตัวหน่วยประมวลผล(CPU) รุ่นใหม่มากมายในช่วงปีที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้จะมีรุ่นไหนน่าสนใจสำหรับผู้ใช้ในแต่ละระดับบ้างไปติดตามกัน
หน่วยประมวลผลกลาง(CPU) เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดภายในคอมพิวเตอร์พีซีทุกรูปแบบเพราะเป็นสิ่งที่จัดการการคำนวณทั้งหมดสำหรับทุกสิ่งที่คุณทำบนระบบปฏิบัติการไม่ว่าจะเป็น Linux หรือ Windows ดังนั้นยิ่งคุณมี CPU ดีเท่าไร คุณก็ยิ่งสามารถทำงานได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น(และทำได้หลายๆ งานพร้อมกันไปด้วย) ในบทความนี้เราจึงขอนำเสนอ CPU ที่ดีที่สุดในขณะนี้จาก AMD และ Intel โดยคำนึงถึงงบประมาณ, ประสิทธิภาพและความคุ้มค่าที่คุณจะหาได้ในช่วงต้นปี 2023 นี้
แม้ว่า CPU สมัยใหม่ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องของการใช้งานในการเล่นเกม แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ากราฟิกการ์ดเองนั้นก็มีส่วนช่วยในการประมวลผลเรื่องกราฟิกเป็นหลักมากเช่นเดียวกัน(ติดตามได้จาก รวมสุดยอดกราฟิกการ์ดสำหรับเล่นเกมช่วงต้นปี 2023) ถึงจะเป็นเช่นนั้นในปัจจุบันก็ยังคงมีเกมบางเกมและเอ็นจิ้นเกมบางส่วนที่ใช้ CPU เข้ามามีบทบาทในการประมวลผลอยู่ด้วยไม่ว่าจะเป็น Counter-Strike: Global Offensive, Dota 2, Valorant และ Esports อื่นๆ
ในปัจจุบันนี้ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า CPU ที่เร็วที่สุดสำหรับการเล่นเกมบางรุ่นถูกสร้างขึ้นโดยเฉพาะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมให้สูงสุดเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพการทำงาน ทำให้เมื่อใช้งานในการทำงานจริงๆ แล้วนั้นคุณอาจจะรู้สึกช้าลงอยู่บ้าง(หากเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพการทำงานซึ่งมุ่งเน้นที่พลังดิบของ CPU ที่ทำงานแบบมัลติเธรดซึ่งปรับให้เหมาะสมกับปริมาณงานโดยเฉพาะ) เอาเป็นว่ามาดูกันดีกว่าว่าเราได้จัดหน่วยประมวลผล(CPU) รุ่นใดมาให้คุณได้เลือกซื้อเพื่อใช้งานตามงบประมาณกันบ้าง ว่าแล้วก็ไปดูกันได้เลย
หมายเหตุ – อย่าลืมเข้าไปดู รวมสุดยอด CPU Cooling ช่วงต้นปี 2023 เพื่อเอามาไว้ใช้งานร่วมกันด้วยล่ะ
- หน่วยประมวลผล(CPU) ที่คุ้มค่าต่อราคามากที่สุด
- หน่วยประมวลผล(CPU) ที่ดีที่สุดในทุกด้าน
- หน่วยประมวลผล(CPU) สำหรับนักพัฒนาออกแบบกราฟิก
- หน่วยประมวลผล(CPU) ที่แรงที่สุดแบบไม่เกรงใจใคร
- หน่วยประมวลผล(CPU) ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งานระดับเริ่มต้น
หน่วยประมวลผล(CPU) ที่คุ้มค่าต่อราคามากที่สุด
Cores | 6 / 8 |
Threads | 20 |
Architecture | Raptor Lake |
Process | Intel 7 |
Socket | LGA 1700 |
Base Clock Speed | 3.50 GHz / 2.60 GHz |
Boost Clock Speed | 5.10 GHz / 3.90 GHz |
Cache | 24 MB |
RAM | DDR5-5600 / DDR4-3200 |
PCIe | 5.0 |
Graphics | Intel UHD Graphics 770 |
TDP | 125 W |
Power Draw | ~181 W |
จุดเด่น | + คุ้มค่ามาก + มีแกนการประมวลผลจริงถึง 14 คอร์ + รองรับหน่วยความจำ(RAM) ทั้งแบบ DDR4 และ DDR5 |
ข้อสังเกต | – ใช้พลังงานสูงมาก |
ราคา | 12,xxx – 13,xxx บาท |
Intel Core i5-13600K เป็นหนึ่งในโปรเซสเซอร์ Core ราคาประหยัดที่สุดของ Intel จากเจนเนอเรชั่นที่ 13 แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามันเป็นหนึ่งในโปรเซสเซอร์ที่ดีที่สุดเช่นเดีัยวกัน Intel Core i5-13600K มาแทนที่รุ่นก่อนอย่าง Intel Core i5-12600K ได้เป็นอย่างดีซึ่งต้องขอบคุณที่ทาง Intel ใช้การออกแบบพื้นฐานแบบเดียวกันและปรับแต่งทำให้ Intel Core i5-13600K ดีขึ้น จริงๆ หากจะมองไปแล้ว Intel Core i5-12600K ยังคงถือว่าเป็นชิปรุ่นเก่าที่คุ้มค่าอยู่ แต่ทว่าด้วยการที่ Intel Core i5-13600K มาพร้อมกับ 14 คอร์และ 20 เธรด โดยมีการเพิ่มจำนวน E-core เป็นสองเท่าอย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับ Core i5-12600K ส่งผลให้มีแกนประสิทธิภาพทั้งหมด 8 คอร์ (E-core) และ 6 คอร์ประสิทธิภาพ (P-core) รวมเป็น 14
ประสิทธิภาพทั้งหมดที่เพ่ิมขึ้นบน Intel Core i5-13600K ทำให้มันมีค่าอัตราการคายความร้อน TDP เริ่มต้นที่ 125W โดย P-core จะจัดลำดับความสำคัญของแอปพลิเคชันเบื้องหน้าเสมอเช่น การเล่นเกม เป็นต้น ส่วนอื่นๆ นั้นจะมีการเรียกใช้ E-core เมื่อจำเป็นที่จะต้องใช้งานหรือใช้สำหรับงานที่ทำอยู่เบื้องหลัง โดยรวมแล้วนั้นก็คือ Intel Core i5-13600K ประสิทธิภาพจะโดดเด่นในงานที่มีเธรดเล็กน้อยเช่นการเล่นเกม และประสิทธิภาพการทำงานในปริมาณงานที่หนักขึ้นและการทำงานแบบมัลติเธรดเช่นสำหรับการเล่นเกม คุณจะเสียเฟรมต่อวินาทีเพียงไม่กี่เฟรมต่อวินาทีเมื่อเทียบกับ Intel Core i9 แต่คุณจะประหยัดค่าใช้จ่ายและใช้พลังงานน้อยลง(มีอัตราการคายความร้อนน้อยลง) นอกจากนี้ Intel Core i5-13600K ยังปลดล็อคมาอีกด้วยต่างหากทำให้หากคุณใช้งานคู่กับเมนบอร์ดเจ๋งๆ แล้วล่ะก็คุณสามารถดันความเร็วสัญญาณนาฬิกาหรือ Overclock ได้ไปอีกจนกระทั่งระบบระบายความร้อนของคุณจะไม่สามารถระบายความร้อนที่ระดับ TDP 181W ได้ทัน
นอกไปจากนั้นแล้วคุณยังได้สิทธิพิเศษอีกถ้าหากคุณใช้งานร่วมกับกราฟิกการ์ดอย่าง Intel Arc GPU เช่น Intel Arc A770 แล้วด้วยนั้น Intel Core i5-13600K จะสามารถใช้ iGPU ร่วมกับ Arc เพื่อปลดล็อกคุณสมบัติต่างๆ เช่น Deep Link และ Hyper Encode ให้คุณได้ใช้งานเพิ่มเติมได้อีกด้วย
หน่วยประมวลผลตัวเลือกใกล้เคียงกัน
Cores | 6 |
Threads | 12 |
Architecture | Zen 4 (Raphael) |
Process | TSMC 5nm FinFET |
Socket | AMD AM5 |
Base Clock Speed | 4.7 GHz |
Boost Clock Speed | 5.3 GHz |
Cache | 6MB L2 + 32MB L3 Cache |
RAM | DDR5-5200 |
PCIe | 5.0 |
Graphics | 2-Core AMD Radeon™ Graphics |
TDP | 105W |
Power Draw | ~116 W |
จุดเด่น | + เป็นการอัพเกรดสู่โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 5 5600X ที่คุ้มค่าอย่างแท้จริง + พร้อมรองรับ PCI-E 5.0, DDR5 และซ็อกเก็ต AM5 ใหม่ + มอบประสิทธิภาพการเล่นเกมและประสิทธิภาพการทำงานที่ดีเหนือพี่น้องรุ่นที่แล้ว + มีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยตรงในด้านการใช้พลังงาน |
ข้อสังเกต | – ไม่ได้มาพร้อมกับระบบระบายความร้อนในชุดวางจำหน่าย |
ราคา | 9,xxx – 12,xxx บาท |
AMD Ryzen 5 7600X เป็นซีพียู hexacore (หรือแกนการประมวลผลหลักจำนวน 6 แกน) ที่ยอดเยี่ยมซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลในระดับกลางของ AMD สำหรับการเล่นเกมที่มาพร้อมกับความสามารถในการโอเวอร์คล็อกด้วยต่างหาก AMD Ryzen 5 7600X มาพร้อมกับประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ดีและประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในการใช้งานทั่วไปหากคิดถึงราคาที่อยู่ที่ราวๆ ไม่เกิน 12,xxx บาท(ขึ้นอยู่กับช่วงโปรโมชันที่คุณสามารถทำการซื้อได้) ด้วยแพลตฟอร์มซ็อกเก็ต AM5 ทำให้คุณไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนเมนบอร์ใหม่ให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม(หากคุณใช้งานอยู่แล้วนะ)
นอกจากนี้ AMD Ryzen 5 7600X ยังมาพร้อมกับชิปกราฟิกชิปแบบฝังในตัวแบบ 2 คอร์ระดับเริ่มต้นที่ช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่จำเป็นต้องมีตัวเลือกกราฟิกการ์ดสำหรับการแสดงผลภายนอกเหมือนกับรุ่นก่อนหน้านี้ แม้ว่าข้อเสนอของ AMD จะค่อนข้างจำกัดในแง่ของจำนวนคอร์เนื่องจากการนำเสนอแบบ 6 แกนการประมวลผล ทว่าเชื่อเถอะว่า AMD Ryzen 5 7600X ก็ให้ประสิทธิภาพที่ไม่ได้น้อยลงไปมากนักในเรื่องของการเล่นเกม แต่ถ้าหากคุณจะต้องใช้งานในการทำงานหลายๆ งานพร้อมกันแล้วล่ะก็ ด้วยจำนวนเงินที่ต้องเสียเท่ากันเราขอแนะนำให้เลือกตัวเลือกของทาง Intel จะดีกว่า
สรุปแล้วหากคุณกำลังจะใช้ AMD(หรือใช้งานอยู่แล้วโดยมีเมนบอร์ด AM5) และบวกกับการที่คุณมีงบประมาณจำกัด AMD Ryzen 5 7600X ช่วยคุณได้เพราะคุณจะได้รับประสิทธิภาพการเล่นเกมที่มีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน
หน่วยประมวลผล(CPU) ที่ดีที่สุดในทุกด้าน
Cores | 6 |
Threads | 12 |
Architecture | Zen 4 (Raphael) |
Process | TSMC 5nm FinFET |
Socket | AMD AM5 |
Base Clock Speed | 4.5 GHz |
Boost Clock Speed | 5.1 GHz |
Cache | 6MB L2 + 32MB L3 Cache |
RAM | DDR5-5200 |
PCIe | 5.0 |
Graphics | 2-Core AMD Radeon™ Graphics |
TDP | 65W |
Power Draw | ~88 W |
จุดเด่น | + ศักยภาพการโอเวอร์คล็อกที่ยอดเยี่ยม + ทางเลือกที่ดีกว่า 7600X + TDP โดยค่าเริ่มต้นต่ำ |
ข้อสังเกต | – ไม่ได้มาพร้อมกับระบบระบายความร้อนในชุดวางจำหน่าย – ไม่รองรับหน่วยความจำแบบ DDR4 |
ราคา | 8,xxx – 9,xxx บาท |
Intel ไม่ได้เป็นเพียงรายเดียวในการนำเสนอโปรเซสเซอร์ที่คุ้มค่าในราคาที่สมเหตุสมผล และ AMD ก็มาพร้อมกับ AMD Ryzen 5 7600 แถมด้วยราคาต่ำกว่า Intel Core i5-13600K ถึงแม้ว่าคอร์และเธรดจะน้อยกว่ามาก แต่คอร์เหล่านี้บน AMD Ryzen 5 7600 เร็วกว่าในเรื่องของความเร็วสัญญาณนาฬิกาและคุณยังสามารถโอเวอร์คล็อกชิป 65W นี้ได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับ Intel Core i5-13600K AMD Ryzen 5 7600 เป็นหนึ่งในโปรเซสเซอร์ที่ดีที่สุดในแง่ของความคุ้มค่า สถาปัตยกรรม Zen 4 ใหม่สร้างขึ้นบนกระบวนการ 5 นาโนเมตร ทำให้ AMD Ryzen 5 7600 มีประสิทธิภาพอย่างเหลือเชื่อ
AMD Ryzen 5 7600 แตกต่างจากโปรเซสเซอร์รุ่นที่ 12 และ 13 ของ Intel เพราะ AMD สนับสนุนเฉพาะหน่วยความจำแบบ DDR5 RAM เท่านั้น (สำหรับโปรเซสเซอร์ Ryzen 7000 Series) ซึ่งนี่หมายความว่าคุณจะต้องมีเมนบอร์ดใหม่สำหรับซ็อกเก็ต AM5 และ DDR5 RAM หากคุณกำลังย้ายจากระบบเก่าที่มีหน่วยความจำ DDR4
อย่างไรก็ตาม AMD Ryzen 5 7600 ยังมาพร้อมกับแคชทั้งหมด 38MB (L2+L3) ซึ่งนั่นยอดเยี่ยมสำหรับการประมวลผลที่มีการทำงานในระดับหนัก แถมแกนการประมวลผลทั้ง 6 แกนยังสามารถที่จะเพิ่มความเร็วได้สูงสุด 5.1GHz ซึ่งเร็วจริงๆ(โดยไม่ได้โอเวอร์คล๊อก)
AMD Ryzen 5 7600 นั้นโดดเด่นกว่าหน่วยประมวลผลรุ่นปัจจุบันของ AMD เกือบจะทั้งหมดเว้นแต่ว่าคุณกำลังสร้างเวิร์กสเตชันหรือบางอย่างที่ต้องการเธรดการประมวลผลแล้วล่ะก็ AMD Ryzen 5 7600 อาจจะไม่ใช่หน่วยประมวลผลที่คุณควรมอง(ตัวอย่างเช่นใช้งานสำหรับการสตรีมหรืองานสร้างสรรค์ด้านกราฟิก)
หน่วยประมวลผล(CPU) สำหรับนักพัฒนาออกแบบกราฟิก
Cores | 16 |
Threads | 32 |
Architecture | Zen 4 (Raphael) |
Process | TSMC 5nm FinFET |
Socket | AMD AM5 |
Base Clock Speed | 4.5 GHz |
Boost Clock Speed | 5.7 GHz |
Cache | 16MB L2 + 64MB L3 Cache |
RAM | DDR5-5200 |
PCIe | 5.0 |
Graphics | 2-Core AMD Radeon™ Graphics |
TDP | 170W |
Power Draw | ~230 W |
จุดเด่น | + ประสิทธิภาพการทำงานแบบมัลติเธรดที่น่าทึ่ง + 16 คอร์และ 32 เธรด ป + ประสิทธิภาพต่อวัตต์ค่อนข้างดี |
ข้อสังเกต | – ไม่ได้มาพร้อมกับระบบระบายความร้อนในชุดวางจำหน่าย – ต้องการชุดระบายความร้อนที่คู่ควรใช้งานร่วมด้วยเท่านั้น(ซึ่งมีราคาแพง) – ไม่รองรับหน่วยความจำแบบ DDR4 |
ราคา | 21,xxx – 23,xxx บาท |
AMD สร้างโปรเซสเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดในตลาด และ AMD Ryzen 9 7950X นั้นดีมากพอที่จะได้รับความแรงจากหน่วยประมวลผลโดยไม่ต้องเจาะไปหาหน่วยประมวลผลสำหรับเวิร์กสเตชันโดยเฉพาะ ในขณะที่ Intel กำลังเปลี่ยนไปใช้การออกแบบคอร์แบบไฮบริด AMD ยังคงใช้ยืนยันที่จะใช้การออกแบบแบบดั้งเดิมมากกว่า และ AMD Ryzen 9 7950X นั้นมีความดั้งเดิมพอๆ กับโปรเซสเซอร์ระดับเรือธงในแบบที่ควรจะมี ไม่ว่าจะเป็นคอร์ทางกายภาพจำนวน 16 คอร์ 32 เธรด แต่จงระวังเอาไว้ให้ดี AMD Ryzen 9 7950X นั้นไม่ใช่โปรเซสเซอร์ที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกม เนื่องจากคอร์ 16 คอร์นั้นมีมากเกินไปและถึงจะใช้งานทั้งหมดก็จะทำให้ AMD Ryzen 9 7950X ทำงานหนักมาก(ซึ่งในปัจจุบันนั้นยังไม่เห็นมีเกมไหนที่ใช้จำนวนคอร์มากขนาดนี้)
สิ่งที่ AMD Ryzen 9 7950X โดดเด่นอย่างแท้จริงคืองานทางด้านการสร้างเนื้อหาไม่ว่าจะเป็นการสตรีมหรือการตัดต่อวิดีโอ หากคุณต้องการคอร์จำนวนมากสำหรับงานหนัก AMD Ryzen 9 7950X คือ CPU สำหรับงานที่คุณต้องการ เช่นเดียวกับ AMD Ryzen 5 7600X ที่ยอดเยี่ยม AMD จะรองรับแรม DDR5 เท่านั้นทำให้การซื้อคุณจะต้องเปลี่ยนหน่วยความจำเป็นรุ่นใหม่ด้วย
จากการเทียบประสิทธิภาพของ AMD Ryzen 9 7950X กับ Core i9-13900K ของ Intel นั้นพบว่าแม้ในการทดสอบแบบ single-core ซึ่งเป็นสิ่งที่ Intel ได้คะแนนสูง AMD Ryzen 9 7950X เองนั้นก็สามารถที่จะทำได้เช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามการระบายความร้อนอาจเป็นปัญหาที่ยุ่งยากหากคุณไม่มีระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแบบ AIO ที่มีประสิทธิภาพมากพออยู่ในมือดังนั้นหากคิดจะใช้ AMD Ryzen 9 7950X แล้วล่ะก็คุณควรหาระบบระบายความร้อนที่ดีมาใช้งานด้วย
หน่วยประมวลผล(CPU) ที่แรงที่สุดแบบไม่เกรงใจใคร
Intel Core i9 13900KS เป็นโปรเซสเซอร์ที่เร็วที่สุดของ Intel และเป็นโปรเซสเซอร์ขายปลีกเพียงตัวเดียวในปัจจุบันที่ผลักดันความถี่แบบ single-core ไปได้มากถึง 6GHz ทำให้เป็นโปรเซสเซอร์แบบ single-core ที่เร็วที่สุดในตลาดถึงแม้ Intel Core i9 13900KS จะเป็นเพียง Intel Core i9 13900K รุ่นอัปเกรดความเร็ว แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า Intel Core i9 13900KS นั้นมันยังคงมาพร้อมกับความสุดยอดอยู่ดี(และใช้งานได้อย่างเสถียรอีกด้วยต่างหาก)
Intel Core i9 13900KS มีอิทธิพลอย่างมากในแอพพลิเคชั่นแบบมัลติเธรดด้วย P-core 8 คอร์ที่เน้นประสิทธิภาพและ 16 คอร์ E-core ที่เน้นประสิทธิภาพซึ่งประกอบกันเป็นชิป 24 คอร์ ด้วยการรองรับ DDR5 และ PCI-E 5.0(ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทั้งชิปเซ็ต Intel Z690 และ Z790) ก็ถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้งานคู่กับ Intel Core i9 13900KS ได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วคุณจะต้องทำใจยอมรับราคาที่ค่อนข้างสูงและความร้อนของ Intel Core i9 13900KS ให้ดีก่อนที่จะซื้อ หากคุณรับได้รับรองได้เลยว่า Intel Core i9 13900KS ไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน
Cores | 16 |
Threads | 32 |
Architecture | Zen 4 (Raphael) |
Process | TSMC 5nm FinFET |
Socket | AMD AM5 |
Base Clock Speed | 4.5 GHz |
Boost Clock Speed | 5.7 GHz |
Cache | 16MB L2 + 64MB L3 Cache |
RAM | DDR5-5200 |
PCIe | 5.0 |
Graphics | 2-Core AMD Radeon™ Graphics |
TDP | 170W |
Power Draw | ~230 W |
จุดเด่น | + ประสิทธิภาพการทำงานแบบมัลติเธรดที่น่าทึ่ง + 16 คอร์และ 32 เธรด ป + ประสิทธิภาพต่อวัตต์ค่อนข้างดี |
ข้อสังเกต | – ไม่ได้มาพร้อมกับระบบระบายความร้อนในชุดวางจำหน่าย – ต้องการชุดระบายความร้อนที่คู่ควรใช้งานร่วมด้วยเท่านั้น(ซึ่งมีราคาแพง) – ไม่รองรับหน่วยความจำแบบ DDR4 |
ราคา | 21,xxx – 23,xxx บาท |
หน่วยประมวลผล(CPU) ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งานระดับเริ่มต้น
Cores | 4 |
Threads | 8 |
Architecture | Raptor Lake |
Process | Intel 7 |
Socket | LGA 1700 |
Base Clock Speed | 3.40 GHz |
Boost Clock Speed | 4.50 GHz |
Cache | 12 MB |
RAM | DDR4-3200 / DDR5-4800 |
PCIe | 5.0 |
Graphics | Intel UHD Graphics 730 |
TDP | 60 W |
Power Draw | ~89 W |
จุดเด่น | + CPU ราคาประหยัดที่ยอดเยี่ยมที่สุด + 4 P-core พร้อม Hyperthreading + TDP ต่ำ |
ข้อสังเกต | – ใช้กับงานแบบมัลติเธรดอาจจะได้ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควร |
ราคา | 5,xxx บาท |
Intel Core i3-13100 นั้นสมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการหน่วยประมวลผลราคาประหยัดเพียง 5,xxx บาท ทำให้เป็นราคาที่ไม่แพงมาก Intel Core i3-13100 นั้นมาพร้อมกับแกนการประมวลผลจำนวนทั้งหมด 4 แกนทำให้ Intel Core i3-13100 มีความเหมาะสำหรับการเล่นเกม อย่างไรก็ตามการมาพร้อมกับ P-core 4 คอร์หมายความว่า Core i3-13100 ไม่มี E-core อย่างที่เราเคยเห็นในชิป Gen 12 และ 13 ระดับไฮเอนด์รุ่นอื่นๆ การไม่มีสถาปัตยกรรมแบบไฮบริดทำให้ CPU นี้ทำงานโดยอิสระจาก Thread Director ใหม่ของ Intel ไม่ได้แบบรุ่นพี่ของมัน
นอกจากนี้ Intel Core i3-13100 ยังเป็นชิปเกมตัวเอกที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าโปรเซสเซอร์คู่แข่งของ AMD จำนวนมาก เอาจริงๆ แล้ว Intel Core i3-13100 นั้นมีประสิทธิภาพในการเล่นเกมพอๆ กับ Intel Core i5-13600K และ Ryzen 5 7600X ด้วยซ้ำไปซึ่งนั่นน่าประทับใจมาก ด้วยการปรับแต่งที่เหมาะสม Core i3-13100 จึงเป็นชิปราคาประหยัดที่ยอดเยี่ยมสำหรับระบบที่เน้นราคาประหยัดและต้องการใช้งานเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ
หน่วยประมวลผลตัวเลือกใกล้เคียงกัน
Cores | 6 |
Threads | 12 |
Architecture | Zen 3 |
Process | TSMC 7nm |
Socket | AM4 |
Base Clock Speed | 3.9 GHz |
Boost Clock Speed | 4.4 GHz |
Cache | 19 MB |
RAM | DDR4-3200 |
PCIe | 3.0 |
Graphics | AMD Radeon Vega 7 Graphics |
TDP | 65 W |
Power Draw | ~45 W |
จุดเด่น | + CPU ราคาประหยัดที่ยอดเยี่ยม + กราฟิกในตัวที่น่าทึ่ง + TDP ต่ำ |
ข้อสังเกต | – สถาปัตยกรรมเก่าอย่าง Zen 3 – PCIe 3.0 และไม่รองรับหน่วยความจำ DDR5 |
ราคา | 4,xxx – 5,xxx บาท |
Ryzen 5 5600G ของ AMD พร้อม GPU ในตัวคือตัวเลือกของเราสำหรับ CPU ราคาประหยัดที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้(อีกรุ่นหนึ่ง) มันเข้าสู่ตลาดในช่วงที่กราฟิกการ์ดขาดแคลนครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ถึงตอนนี้ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะกราฟิก Vega บน Ryzen 5 5600G นั้นยังสามารถที่จะให้ประสิทธิภาพได้ดีตราบเท่าที่คุณยอมสละความละเอียดของของภาพกราฟิกในเกม นอกไปจากนั้น Ryzen 5 5600G ยังมาพร้อมกับแกนการประมวลผลจำนวน 6 คอร์มาพร้อมกับความเร็วสัญญาณนาฬิกาฐาน 3.7 GHz และบูสต์ที่ 4.4 GHz นอกจากนี้ยังมีแคช L3 ขนาด 16MB และ Radeon RX Vega CU เจ็ดตัวที่ทำงานที่ความเร็ว 1.9 GHz อีกด้วยต่างหากเรียกได้ว่าครบจบในที่เดียวก็ว่าได้
AMD Ryzen 5 5600G มี TDP (cTDP) ที่กำหนดค่าได้ตั้งแต่ 45W ถึง 65W แม้ว่าคุณจะคาดหวังให้ทำงานที่ 65W เป็นส่วนใหญ่ แต่ด้วยระบบของมันเองนั้นมันจำทำการกำหนดให้ไม่สร้างความร้อนมากเกินไป เมื่อเทียบกับ Ryzen 5 7600 ที่มีราคาแพงกว่า AMD Ryzen 5 5600G ได้รับเอ็นจิ้นกราฟิก Radeon RX Vega เพื่อแลกกับความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่เร่งเพิ่มมาอีกสูงสุด 200 MHzแต่ว่าแคช L3 น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง สิ่งที่คุณต้องสุญเสียไปก็คือ AMD Ryzen 5 5600G นั้นเป็นเทคโนโลยีเก่าที่มาพร้อมกับ 24 เลนของ PCIe 3.0 แทน PCIe 5.0 ซึ่งทำให้แบนด์วิดธ์ในการทำงานไม่ดีนัก ตามมาด้วย DDR4-3200 ที่ AMD Ryzen 5 5600G รองรับนั้นทำให้ทั้งหมดทั้งมวลแล้วคุณสามารถที่จะเล่นเกมที่ความละเอียด 720p ในหลายๆ เกมได้โดยไม่จำเป็นต้องซื้อกราฟิกการ์ดแบบแยกเพิ่มเลย
ที่สำคัญ AMD Ryzen 5 5600G ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วยการมาพร้อมกับชุดระบายความร้อน Wraith Stealth ในชุดวางจำหน่ายอีกด้วย
ที่มา : anandtech, pcgamer, gamerant, tomshardware, xda-developers