ไม่นานมานี้มีการเปิดตัว Windows 365 Frontline ของไมโครซอฟต์ เพื่อให้ผู้ที่ทำธุรกิจและต้องจ้างพนังงานเป็นกะไม่จำเป็นต้องเสียเงินเพื่อซื้อ PC ให้เท่ากับจำนวนพนักงานที่มี แต่ซื้อให้เท่ากับจำนวนพนักงานที่ทำงานในเวลานั้นๆ ก็พอ เพื่อลดประมาณการปล่อยแก๊ซเรือนกระจกและมลพิษที่จะเกิดขึ้นได้
Windows 365 Frontline คืออะไร?
ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 3 สัปดาห์ที่แล้วไมโครซอฟต์ได้เปิดตัว Frontline ฟีเจอร์ใหม่ของ Windows 365 ที่ไมโครซอฟต์คิดค้นขึ้นสำหรับองค์กรหรือธุรกิจที่ต้องจ้างพนักงานเป็นกะให้ทำงานแบบ 24/7 โดยอาจจะแบ่งออกเป็น 3 กะ กะละ 8 ชม. (อันนี้ก็แล้วแต่หน่วยงาน) โดยแต่ละกะจะต้องใช้พนักงาน 100 คน ดังนั้น 3 กะก็จะมีพนักงานทั้งหมด 300 คน และเพื่อให้พนักงานเหล่านี้ทำงานได้อย่างเต็มที่ก็จำเป็นที่ต้องซื้อคอมพิวเตอร์หรือโน็ตบุ๊กให้เพียงพอกับพนักงาน (ประมาณ 300 เครื่อง) แต่ Frontline จะเข้ามาช่วยตรงนี้คือคุณซื้อคอมเพียง 100 เครื่องแล้วเวลาพนักงานมาทำงานก็ล็อกอินด้วย User ของตัวเองบนคอมที่มีให้ในสถานที่ทำงานก็เพียงเท่านี้ก็สามารถทำงานได้แล้ว
ประโยชน์ที่ไมโครซอฟต์คิดไว้คือจะช่วยให้ผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องซื้อคอมพิวเตอร์หรือโน็ตบุ๊กจำนวนมากเพื่อให้เพียงพอต่อพนักงานและให้พนักงานสามารถทำงานสามารถทำงานร่วมกันบน Cloud PC ได้ เหมาะกับหน่วยธุรกิจที่ต้องมีคนดูแล 24/7 แต่ก็มีข้อโต้แย้งมาว่ามันจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้จริงๆ เหรอ?
ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้จริง ขอยืนยันด้วยงานวิจัย!
เพื่อขจัดข้อโต้แย้งดังกล่าว Microsoft จึงได้เปิดเผยงานวิจัยสำหรับ Windows Frontline ที่ได้รวบรวมงานวิจัย [PDF] โดย Px3 ที่ปรึกษาด้านความยั่งยืนทางเทคโนโลยีที่พยายามตอบคำถามว่า “แอปพลิเคชันการทำงานที่ทันสมัยและอุปกรณ์ปลายทางสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ End-User และขับเคลื่อนการดำเนินการด้านสภาพอากาศได้หรือไม่?” คำตอบคือ “ใช่”
จากงานวิจัยดังกล่าวพบว่าการทำงานร่วมกันบนคลาวน์สามารถลดจำนวนการใช้พลังงานและปริมาณของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอทีต่างๆ แบบบางได้ นอกจากนี้ยังลดความจำเป็นในการสั่งซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวลดลง ส่งผลให้ขยะอิเล็กทรอนิกส์ลดลงไปด้วย นอกจากนี้ทาง Px3 ยังเสริมอีกด้วยว่าการทำเช่นนี้จะช่วยให้ระยะเวลาการสั่งซื้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกนี้นานออกไปถึง 8 ปี!
ด้วยเหตุนี้การใช้บริการฟีเจอร์นี้จาก Microsoft จึงมีความคุ้มค่าอย่างมากสำหรับผู้ประกอบการแถมยังช่วยลดต้นทุนได้อีกมากมาย แต่เหล่าพันธมิตรของ Microsoft อย่าง Intel, AMD, Dell, HP และ Lenovo คงไม่ถูกใจสิ่งนี้
ที่มา: The Register, Microsoft 365 Blog