MSI Raider GE78 HX 13V เกมมิ่งตัวแรงอีกรุ่นพร้อมไฟ Mystic Light สวยๆ ถูกใจเกมเมอร์
ถ้า MSI Titan GT77 HX 13V เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คตัวเทพจากทาง MSI ล่ะก็ MSI Raider GE78 HX 13V เรียกว่าไม่น้อยหน้ากันแต่ราคาถูกลง หาซื้อได้ง่ายกว่าและยังทรงพลังพร้อมเล่นเกมฟอร์มใหญ่ในปัจจุบันได้ทุกเกมด้วยซีพียู Intel 13th Gen ซึ่งมีฟีเจอร์ Intel ABT/TVB ไว้เร่งประสิทธิภาพของซีพียูให้ดีขึ้นและทำงานโดยอัตโนมัติคู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4000 Series ซึ่งสามารถเล่นทุกเกมบนจอ 4K UHD ได้สบายๆ และมีฟีเจอร์ใหม่อย่าง DLSS 3, Ray Tracing, NVIDIA Reflex เสริมเข้ามาและคุมด้วยชิป MUX Switch ให้เลือกใช้การ์ดจอแยกและออนบอร์ดได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ MSI Raider GE78 HX 13V ก็มี MSI OverBoost Ultra ซึ่งรองรับค่าวัตต์รวม 250 วัตต์และตัวระบบจะจัดการถ่ายโอนค่าวัตต์ระหว่างการ์ดจอและซีพียูไปมาอย่างเหมาะสมได้อีกด้วย
นอกจากพระเอกทั้งสองข้างต้นแล้ว ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ใน MSI Raider GE78 HX 13V ก็ถูกอัพเกรดให้ทำงานได้ดีขึ้นโดยมีฮีตไปป์ 6 เส้น จับคู่กับพัดลมโบลวเวอร์อีก 2 ตัว ช่วยระบายความร้อนได้ดีและยังติดตั้งหน้าจอขนาด 17.3 นิ้ว ความละเอียด QHD+ พาเนล IPS ค่า Refresh Rate สูง 240Hz มาให้และยังเชื่อมต่อหน้าจอแยกเพิ่มได้สูงสุด 3 จอ ด้วยฟีเจอร์ Matrix Display ได้และเสริมด้วยลำโพง DYNAUDIO ทั้ง 6 ตัว กับระบบเสียง Nahimic จาก SteelSeries ให้ได้คุณภาพเสียงดีทั้งดูหนังฟังเพลงและเล่นเกม การันตีด้วยการรับรองเสียง Hi-Res Audio
ส่วนความสวยงามก็ไม่น้อยหน้าด้วยไฟ MSI Mystic Light บนเครื่องนี้ก็ยังสวยจัดเต็มเช่นเดิมทั้ง Matrix Lightbar ดีไซน์ใหม่, ไฟ RGB บนโลโก้มังกร MSI บนฝาหลังเครื่อง รวมไปถึงไฟ Per-Key RGB บนคีย์บอร์ด SteelSeries จัดว่าดึงดูดสายตาได้ยอดเยี่ยมถูกใจเกมเมอร์ที่แต่งโต๊ะเกมมิ่งให้มีเอฟเฟคไฟสวยงามอยู่แล้ว เมื่อเสริมเจ้า MSI Raider GE78 HX 13V เข้าไป นอกจากเข้ากันได้ดียังเสริมความโดดเด่นให้มากยิ่งขึ้นอีกหลายเท่า
NBS Verdicts
MSI Raider GE78 HX 13V เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คซีรี่ส์เรือธงตัวเด่นอีกรุ่นไม่แพ้กันกับพี่ใหญ่อย่าง Titan GT77 HX 13V เลย ด้วยสเปคแรงต่อจอแยกได้ 3 จอ ระบายความร้อนดีแถมยังได้ไฟ RGB อีก เรียกว่าแทนเกมมิ่งพีซีได้สบายๆ และยังพกติดตัวไปไหนมาไหนได้อีก ด้วยราคา 169,990 บาท ก็ถือว่าเป็นตัวจบสำหรับเกมเมอร์หลายๆ คนที่ไม่อยากเสียเวลาประกอบคอมเอง แค่หาเกมมิ่งเกียร์มาใช้ร่วมกันกับมันก็เหลือเฟือแล้วและสเปคเดิมๆ จากโรงงานจัดว่าแรงพอเล่นเกมบนจอแยก 4K UHD ปรับสุดได้หมดด้วย
นอกจากนี้ ฟีเจอร์ติดตัวหลายๆ อย่างก็ครบเครื่องไม่ว่าจะ Matrix Display ต่อจอแยก 3 หน้าจอได้, ไฟ RGB “Mystic Light” ทั้งบนคีย์บอร์ดและ Matrix Lightbar ขอบหน้าตัวเครื่อง, กล้องเว็บแคมแบบสแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้ซึ่งประสานงานกับระบบ Windows Hello และยังได้หน้าจอขนาด 17.3 นิ้ว ความละเอียด QHD+ พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 240Hz จากโรงงาน เมื่อทดสอบแล้วก็ได้ขอบเขตสีกว้างพร้อมใช้ทำงานครีเอเตอร์ได้สบายๆ นอกจากเกมเมอร์แล้วครีเอเตอร์ทำงานใหญ่ๆ ตัดต่อวิดีโอความละเอียดสูง ปั้นโมเดล 3D รายละเอียดเยอะรับรองว่า Raider GE78 HX 13V เครื่องนี้รับมือได้ดีอย่างแน่นอน
ด้านข้อสังเกตของ MSI Raider GE78 HX 13V มีจุดสังเกตหลักๆ คล้ายกับ MSI Titan อยู่บ้าง ได้แก่ แป้น Numpad ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าปกติเพราะต้องเว้นพื้นที่ให้กับลำโพงทั้ง 2 ข้าง แม้จะใช้งานได้แต่ต้องปรับตัวอยู่ระยะหนึ่งถึงจะใช้ได้ถนัด และแม้การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 4080 จะทรงพลังมากก็ตาม แต่สำหรับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคา 169,990 บาท ก็อยากให้ทางบริษัทติดตั้งการ์ดจอแยก GeForce RTX 4090 เข้ามาเลยดีกว่า ส่วนถ้าเกมเมอร์คนไหนอยากได้สเปคอัพเกรดเพิ่มได้เยอะ ได้ใช้คีย์บอร์ดสวิตช์ CHERRY MX ULP ก็ค่อยขยับขึ้นไป MSI Titan แทนก็ได้เช่นกัน
ข้อดีของ MSI Raider GE78 HX 13V
- ได้ SSD 4TB กับ RAM 64GB DDR5 เป็นความจุสูงสุดจากโรงงาน ไม่ต้องเพิ่มก็ได้
- ติดตั้ง Intel Core i9-13980HX ประสิทธิภาพสูงสุดมาให้ใช้ ทำงานดีเล่นเกมได้ไหลลื่น
- หน้าจอ 17.3 นิ้ว ความละเอียด QHD+ พาเนล IPS ค่า Refresh Rate สูง 240Hz เล่นเกมดีมาก
- ได้จอขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ใช้ทำงานครีเอเตอร์ได้ดี สีสันสวยงามและแม่นยำ
- เชื่อมต่อจอได้ 3 จอพร้อมกันด้วยฟีเจอร์ Matrix Display มีพื้นที่ใช้งานเพิ่มมากขึ้น
- ติดตั้งพอร์ต HDMI 2.1 มาให้ เชื่อมต่อจอแยกความละเอียดสูงสุด 8K 60Hz ได้ทันที
- เชื่อมต่อ Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.3 ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดได้ด้วย
- ชิป Wi-Fi เป็น Intel Killer E3100G รับส่งข้อมูลตอนเล่นเกมได้รวดเร็วไม่สะดุดแน่นอน
- ติดตั้งกล้องสแกนใบหน้า IR Camera มาให้ เพิ่มความปลอดภัยและสะดวกให้เจ้าของเครื่อง
- ติดตั้งลำโพง DYNAUDIO มา 6 ตัว มิติเสียงดีมาก ฟังเพลงก็สนุกเล่นเกมก็ได้อารมณ์
- ไฟ RGB “Mystic Light” ทั้งคีย์บอร์ดและแถบ Matrix Lightbar ได้เอฟเฟคไฟสวยงาม
- ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ระบายความร้อนดีประสิทธิภาพไม่ลดลงตอนใช้งานหนัก
ข้อสังเกตของ MSI Raider GE78 HX 13V
- การ์ดจอสำหรับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคา 169,990 บาท น่าใส่ GeForce RTX 4090 มาให้
- แป้น Numpad แม้จะใช้งานได้แต่ก็ต้องปรับตัวระดับหนึ่งถึงใช้งานได้ถนัด
- น้ำหนักสูงถึง 3.1 กิโลกรัม ควรหากระเป๋าเป้สำหรับโน๊ตบุ๊คเครื่องใหญ่มาใช้โดยเฉพาะ
รีวิว MSI Raider GE78 HX 13V
- Specification
- Hardware & Design
- Screen & Speaker
- Keyboard & Touchpad
- Connector / Thin & Weight
- Inside&Upgrade
- Performance & Software
- Battery & Heat & Noise
- User Experience
- Conclusion & Award
Specification
MSI Raider GE78 HX 13V เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสเปคแรงพร้อมไฟ RGB สวยงามและสเปคคุ้มพร้อมเล่นเกมฟอร์มใหญ่ในปัจจุบันได้สบายๆ โดยรุ่นย่อยที่ได้รับมาทดสอบเป็นตัวท็อปซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
สเปคของ MSI Raider GE78 HX 13VH-050TH
CPU | Intel Core i9-13980HX แบบ 24 คอร์ 32 เธรด (8P+16E) ความเร็วสูงสุด 5.6GHz |
GPU | NVIDIA GeForce RTX 4080 แรม 12GB GDDR6 |
SSD | M.2 NVMe SSD 4TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 |
RAM | 64GB DDR5 บัส 5600MHz |
Display | 17.3 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 240Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 |
Connectivity | Thunderbolt 4 รองรับ DisplayPort x 1, USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ DisplayPort x 1, USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery x 1, USB-A 3.2 x 2, SD Card Reader x 1, HDMI 2.1 รองรับจอ 8K 60Hz x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.3 |
Software | Windows 11 Home |
Weight | 3.1 กิโลกรัม |
Price | 169,900 บาท ชมสเปคโดยละเอียดคลิ๊กที่นี่ |
นอกจากนี้ MSI Raider GE78 HX 13V ยังมีสเปคย่อยที่วางจำหน่ายในประเทศไทยอีก โดยมีรุ่นย่อยเป็นจอ 17.3 นิ้ว 1 รุ่นและจอ 16 นิ้วอีก 2 รุ่น โดยมีสเปคและรหัสรุ่นย่อยดังนี้
สเปคของ MSI GE78HX Raider 13VH-043TH
CPU | Intel Core i7-13700HX แบบ 16 คอร์ 24 เธรด (8P+8E) ความเร็วสูงสุด 5.0GHz |
GPU | NVIDIA GeForce RTX 4080 แรม 12GB GDDR6 |
SSD | M.2 NVMe SSD 2TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 |
RAM | 64GB DDR5 บัส 5600MHz |
Display | 17.3 นิ้ว ความละเอียด QHD+ พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 240Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 |
Connectivity | Thunderbolt 4 รองรับ DisplayPort x 1, USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ DisplayPort x 1, USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery x 1, USB-A 3.2 x 2, SD Card Reader x 1, HDMI 2.1 รองรับจอ 8K 60Hz x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.3 |
Software | Windows 11 Home |
Weight | 3.1 กิโลกรัม |
Price | 119,900 บาท ชมสเปคโดยละเอียดคลิ๊กที่นี่ |
สเปคของ MSI GE68HX Raider 13VG-022TH
CPU | Intel Core i7-13700HX แบบ 16 คอร์ 24 เธรด (8P+8E) ความเร็วสูงสุด 5.0GHz |
GPU | NVIDIA GeForce RTX 4070 แรม 8GB GDDR6 |
SSD | M.2 NVMe SSD 2TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 |
RAM | 16GB DDR5 บัส 5600MHz |
Display | 16 นิ้ว ความละเอียด UHD+ (3840×2400) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 |
Connectivity | Thunderbolt 4 รองรับ DisplayPort x 1, USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ DisplayPort x 1, USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery x 1, USB-A 3.2 x 2, SD Card Reader x 1, HDMI 2.1 รองรับจอ 8K 60Hz x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.3 |
Software | Windows 11 Home |
Weight | 2.7 กิโลกรัม |
Price | 88,900 บาท ชมสเปคโดยละเอียดคลิ๊กที่นี่ |
สเปคของ MSI GE68HX Raider 13VG-023TH
CPU | Intel Core i7-13700HX แบบ 16 คอร์ 24 เธรด (8P+8E) ความเร็วสูงสุด 5.0GHz |
GPU | NVIDIA GeForce RTX 4070 แรม 8GB GDDR6 |
SSD | M.2 NVMe SSD 2TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 |
RAM | 32GB DDR5 บัส 5600MHz |
Display | 16 นิ้ว ความละเอียด QHD+ พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 240Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 |
Connectivity | Thunderbolt 4 รองรับ DisplayPort x 1, USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ DisplayPort x 1, USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery x 1, USB-A 3.2 x 2, SD Card Reader x 1, HDMI 2.1 รองรับจอ 8K 60Hz x 1, LAN x 1, Audio combo x 1 Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.3 |
Software | Windows 11 Home |
Weight | 2.7 กิโลกรัม |
Price | 89,900 บาท ชมสเปคโดยละเอียดคลิ๊กที่นี่ |
Hardware & Design
ดีไซน์ของ MSI Raider GE78 HX 13V หากเทียบกับรุ่นก่อนรหัส GE76 12U จะเห็นว่าทาง MSI ปรับดีไซน์จากรุ่นก่อนมาหลายส่วนและได้กลิ่นอายของ Titan GT77 HX 13V พอควร จากรุ่นก่อนที่ขาหน้าจอติดอยู่กับฐานตัวเครื่องและมีแผ่นประกบขนาดใหญ่ตรงฝาหลังหน้าจอ เปลี่ยนเป็นขาฐานจอแบบก้านขนาดค่อนข้างใหญ่ติดอยู่ 2 ฝั่งของขอบล่างจอทั้งฝั่งซ้ายและขวาแทน พอกางหน้าจอจะเห็นครีบตกแต่งเดินเส้นสีแดงเอาไว้เป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมูคล้ายกับ MSI Titan พอพับหน้าจอลงมาแล้วก็จะเห็นครีบชุดนี้ด้านนอกตัวเครื่องด้วย นอกจากนี้ MSI ยังเดินเส้นสีแดงตรงขอบล่างด้านหลังหน้าจอให้ดูต่อเนื่องกัน ถัดลงมาจากฝาประกบสีดำจะมีเส้นสีทองเดินตัดเอาไว้อีกแนวหนึ่ง ดูสวยงามมีมิติกว่ารุ่นก่อน
ถัดลงมาเป็น Matrix Lightbar ดีไซน์ใหม่แบบเป็นหลอด LED หลายหลอดเรียงติดกัน 3 ชั้น แทนแบบแถบไฟแผงเดียวในรุ่นก่อนหน้านี้ ซึ่งถือว่าสวยงามไปอีกแบบและยังให้สีสันคมชัดและเข้มกว่ารุ่นก่อนมากและทางดีไซน์ให้มันเป็นขอบด้านหน้าของตัวเครื่องชิ้นเดียวไปเลย ไม่ได้ติดเอาไว้กับฝาใต้ตัวเครื่อง ถ้าใครต้องการเปิดฝาทำความสะอาดหรือเปลี่ยนชิ้นที่เสียหายก็ไม่ต้องกังวลว่าจะทำสายแพขาดโดยไม่ตั้งใจเลย
ตัวบานพับหน้าจอจะเห็นว่าทาง MSI ใช้ก้านขาหน้าจอขนาดใหญ่ประกบกับฐานขาตั้งหน้าจอที่ซ่อนอยู่ในบานประกบด้านหลังตัวเครื่องทั้ง 2 ฝั่ง เวลาพับจอแล้วตัวก้านจะถูกผลักเข้าไปเก็บด้านในและกางออกมาก็แข็งแรงมาก หน้าจอไม่มีอาการโยกสั่นแม้แต่น้อยและกางได้กว้างราว 120 องศา สามารถวางบนโต๊ะทำงานหรือขึ้นแท่นวางโน๊ตบุ๊คก็จัดมุมองศาหน้าจอให้มองเห็นได้ง่ายชัดเจนดี
ด้านหลังของ MSI Raider GE78 HX 13V เทียบกับรุ่นก่อนจะดูเรียบง่ายกว่าเดิม เป็นฝาหลังเรียบๆ มีแค่โลโก้ MSI แบบมีไฟ RGB ติดเอาไว้ตรงกลางค่อนบนของฝาหลังอันเดียวและถัดลงมาแทนที่จะมีเพลตประกบขนาดใหญ่เหมือนรุ่นก่อนก็กลายเป็นฝาหลังหน้าจอเรียบๆ ติดเส้นสีแดงเอาไว้ทั้งสองฝั่งส่วนขอบล่างหน้าจอแทนเพื่อให้รับกับเส้นสีแดงตรงฐานตัวเครื่องเอาไว้ ถัดลงมาจะมีเส้นสีทองคั่นแบ่งตัวเครื่องส่วนบนกับช่องระบายความร้อนและพอร์ตหลังเครื่องอยู่
ด้านใต้เครื่องจะมีแถบยาง 3 เส้น แบ่งเป็นเส้นยาว 1 เส้นด้านล่าง ส่วนบนเป็นแถบ 2 เส้น ใกล้กับช่องนำลมเข้าไประบายความร้อนในชุดระบายความร้อน Cooler Boost 5 และจะเห็นว่าทาง MSI สกรีนคำว่า RAIDER ที่เป็นชื่อรุ่นเอาไว้ด้วย ถัดลงมาเป็นชิ้นพลาสติกตัดดีไซน์เป็นคำว่า MSI เหนือจุดสามเหลี่ยมสีแดง ส่วนข้างๆ กันจะสลักคำว่า LIGHT’EM UP ไว้ มีน็อตขันล็อคฝาใต้ตัวเครื่องเป็นหัว Philips Head ทั้งหมด 13 ดอก
Screen & Speaker
หน้าจอขนาด 17.3 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 240Hz ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 เป็นหน้าจอขอบบางสองฝั่งทั้งซ้ายและขวา ส่วนขอบบนติดตั้งกล้องเว็บแคมความละเอียด Full HD เอาไว้และมีฟังก์ชั่น IR Camera เอาไว้สแกนหน้าปลดล็อคตัวเครื่องให้ใช้งานได้แถมยังมี Privacy Shutter สำหรับสไลด์ปิดกล้องเวลาไม่ใช้งานได้ด้วย ถือว่าทาง MSI ให้มาครบเครื่อง ได้ทั้งความปลอดภัยและความสะดวกไปในตัว
นอกจากนี้พาเนล IPS ของ MSI Raider GE78 HX 13V ก็มีคุณภาพดีมีองศาการมองกว้าง 178 องศา ถึงจะมองในมุมอื่นนอกจากหน้าตรงก็ยังมองเห็นชัดไม่มีเงาตกกระทบบนหน้าจอเลย สำหรับพาเนลจอนี้ผลิตโดย AU Optronics หรือ AUO บริษัทสัญชาติไต้หวันหนึ่งในบริษัทผลิตพาเนลจอชั้นนำของโลก
เมื่อทดสอบด้วยโปรแกรม DisplayCal 3 กับเครื่อง Colorchecker ของ Calibrite ได้ Gamut coverage หรือค่าขอบเขตสีจริงของหน้าจอได้สีกว้างถึง 99.6% sRGB, 83.5% Adobe RGB, 97.3% DCI-P3 ส่วน Gamut volume หรือขอบเขตสีองค์รวมได้ 140.6% sRGB, 96.8% Adobe RGB, 99.6% DCI-P3 ค่าความเที่ยงตรงสี Delta-E เฉลี่ย 0.08~0.96 ต้องถือว่าพาเนล IPS ของ Raider GE78 HX รุ่นนี้ก็ยังคงทำได้ยอดเยี่ยมเช่นเดิม ถ้าใช้งานทั่วไปก็ได้สีสันสวยงามหรือเอาไว้ทำงานครีเอเตอร์ก็ทำได้สบายๆ เรียกว่ามีไว้เครื่องเดียวใช้ประโยชน์ได้รอบด้าน
หน้าจอเมื่อปรับความสว่างสูงสุด 100% แล้ว วัดความสว่างได้ 432.41 cd/m2 ถือว่าสว่างมากสู้แสงแดดสะท้อนหน้าจอได้สบายๆ จะพกไปทำงานตามร้านกาแฟก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเล่นเกมหรือทำงานในอาคารสถานที่แนะนำว่าปรับความสว่างไว้แค่ 50% ก็สว่างพอใช้งานได้สบายๆ แล้ว
ลำโพงของ MSI Raider GE78 HX 13V ทั้ง 6 ตัว มีกำลังขับดอกละ 2 วัตต์ แยกเป็นลำโพง 2 ตัวกับ Woofer อีก 4 ตัว ติดตั้งเอาไว้ด้านใต้เครื่องกับขอบบนข้างคีย์บอร์ดพร้อมเจาะรูเห็นเป็นโลโก้ MSI ลางๆ ทั้งสองฝั่งด้วย เสียงปรับจูนโดย DYNAUDIO ได้รับการรับรองเสียง Hi-Res แล้ว ซึ่งเนื้อเสียงจัดว่าดีคุ้มค่าตัว ตอนเล่นเกมถือว่าเสียงดีมีมิติแยกทิศทางเสียงได้ชัดเจนรู้มุมของศัตรูได้ชัดเจนและเสียงเอฟเฟคในเกมทั้งเสียงระเบิดเสียงกระสุนปืนหนักหน่วงชัดเจนดี
ด้านการฟังเพลงถือว่าเสียงดีมีมิติใช้ได้ โดยเนื้อเสียงจะได้สเตจค่อนข้างกว้างและเน้นเสียงใสกับเสียง Vocal เน้นนักร้องเป็นหลัก มีเบสซัพพอร์ตชัดเจนเนื้อเสียงไม่บวมแต่แรงปะทะอาจจะไม่หนักหน่วงแต่ก็ฟังเพลงได้สนุกและฟังเพลงได้อิ่มหูหลากหลายแนวโดยไม่ต้องต่อลำโพงเพิ่มก็ได้ เรียกว่าลำโพงเดิมๆ ก็ฟังเพลงหรือเล่นเกมได้ดีมากแล้ว ยกเว้นว่าใครอยากต่อลำโพงแบบ 7.1 แชนแนลเพิ่มเติมก็ค่อยซื้อมาต่อแยกเพิ่มมิติและแชนแนลเสียงก็ได้
Keyboard & Touchpad
คีย์บอร์ดของ MSI Raider GE78 HX 13V เป็นคีย์บอร์ด Full-size พัฒนาร่วมกับทาง SteelSeries มีไฟ RGB “Mystic Light” ติดมาให้ เป็น Per-Key RGB มีเอฟเฟคแสงหลากหลายแบบและปุ่ม WASD เป็นแบบปุ่มใสให้แสงไฟลอดได้เต็มที่และยังคงดีไซน์ให้ปุ่ม Ctrl, Shift ฝั่งซ้ายกว้างเท่ากัน โดยทั้งสองปุ่มนี้เป็นปุ่มใช้เป็นประจำของเกมเมอร์อยู่แล้ว ดังนั้นทางบริษัทจึงทำให้กว้างเท่ากัน จะได้กดได้ง่ายขึ้น ช่วยลดโอกาสกดพลาดเวลาเล่นเกมได้ระดับหนึ่งแล้วย้ายปุ่ม Fn ไปไว้ข้าง Ctrl ฝั่งขวามือติดปุ่มลูกศรแทน
ปุ่มฟังก์ชั่นอื่นๆ ของ MSI Raider GE78 HX 13V จะอยู่ถัดจากปุ่ม F12 ไปทางฝั่งขวามือ มีปุ่ม Print Screen, Insert, Delete ติดมาให้ใช้ แต่ปุ่มอื่นๆ อย่าง Page Up, Page Down, Home, End จะรวมอยู่ในชุด Numpad แทน ถ้าสังเกตจะเห็นว่าเลย์เอ้าท์คีย์บอร์ดของ MSI Raider จะดูเหมือนกับแบบของ MSI Titan ไม่ผิด ดังนั้นมันจึงมีข้อสังเกตเดียวกัน คือ Numpad แม้จะมีให้ใช้แต่ก็กดได้ค่อนข้างยาก ดังนั้นในช่วงแรกๆ จำเป็นต้องปรับตัวสักระยะหนึ่งก่อนถึงจะใช้งานได้ง่ายขึ้น
ส่วนปุ่ม Power แม้จะถูกติดตั้งรวมเอาไว้กับปุ่มอื่นๆ บนคีย์บอร์ดก็ตาม แต่ทาง MSI ยังทำเป็นปุ่มใสให้มองเห็นได้ชัดเจนและต่างจากปุ่มอื่นๆ บนคีย์บอร์ดพอสมควรช่วยลดโอกาสกดผิดระหว่างปุ่ม Num Lock กับ Power ไปได้ระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามถ้าเป็นไปได้ก็ขอแนะนำให้ย้ายปุ่ม Power ออกแล้วทำเป็นปุ่มเฉพาะอีกปุ่มแทนจะดีกว่า
Function Hotkey ถูกเซ็ตรวมเอาไว้กับปุ่ม F1~F12 สามารถกดสลับเลเยอร์ไปมาได้โดยกด Fn+Esc แต่น่าเสียดายว่า MSI ปล่อยให้ปุ่ม F12 ว่างเอาไว้ ไม่ได้มีคีย์ลัดอะไรติดตั้งมาให้เป็นพิเศษ ซึ่งถ้าตั้งให้เป็นปุ่มสลับค่า Refresh Rate หน้าจอหรือคำสั่งอื่นๆ ที่น่าจะได้ใช้งานบ่อยๆ อย่าง Snipping Tool ก็ดี ส่วนคีย์ลัดจะมีดังนี้
- F1~F3 – ปิด, ลดหรือเพิ่มเสียง
- F4 – ปิดหรือเปิดทัชแพด
- F5 – ปิดหรือเปิดไมโครโฟน
- F6 – ปิดปรือเปิดเว็บแคม
- F7 – ปุ่ม MSI Center สำหรับใช้ปรับโหมดตัวเครื่อง
- F8 – ปรับความสว่างไฟ LED Backlit ของคีย์บอร์ด
- F9~F10 – ลดหรือเพิ่มความสว่างหน้าจอ
- F11 – ปุ่ม Project ตั้งค่าหน้าจอหลักและจอเสริม
ส่วนตัวผู้เขียนอยากเสนอให้ MSI เซ็ตปุ่ม F12 ที่ไม่มี Function Hotkey ให้เป็นคำสั่ง Windows Lock หรือเป็นคำสั่งปรับค่า Refresh Rate หน้าจอ คำสั่งใดคำสั่งหนึ่งหรือรวมทั้งสองคำสั่งแล้วตั้งชื่อให้จดจำได้ง่ายๆ อย่าง Gaming Mode ก็น่าสนใจ เพราะทั้งสองฟังก์ชั่นนี้เชื่อว่าเกมเมอร์น่าจะต้องการใช้อย่างแน่นอน อาจเซ็ตตอนเปิดให้ล็อคปุ่ม Windows พร้อมปรับค่า Refresh Rate จอไป 240Hz และเปลี่ยนโหมดตัวเครื่องให้เป็น Extreme Performance ในรวดเดียว พอปิดก็เปลี่ยนเป็นโหมดประหยัดพลังงานและจอ 60Hz สำหรับใช้ทำงานและเน้นระยะเวลาใช้งานด้วยแบตเตอรี่ให้นานที่สุดแทน
ทัชแพดของ MSI Raider GE78 HX 13V จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่และค่อนไปทางขวา พอวางมือลองใช้งานแล้วถือว่าทาง MSI เซ็ตมาได้ค่อนข้างดีแล้วสันมือไม่ทาบบนแป้นทัชแพดมากนัก แค่แตะโดนขอบตัวแป้นเท่านั้นซึ่งไม่มีอาการทัชแพดลั่นรบกวนเวลาใช้งานเลย ถ้าไม่ต้องการใช้งานก็กดปิดทัชแพดทิ้งไปก็ได้เช่นกันโดยเฉพาะเวลาเล่นเกมก็กด Fn+F4 ปิดก็ได้ เวลาใช้งานแล้วทัชแพดรองรับ Gesture Control และตอบสนองได้เป็นอย่างดี เผื่อเวลายกไปประชุมงานหรือเข้าห้องเรียนแล้วโต๊ะมีพื้นที่ไม่พอวางเมาส์ก็ใช้ทัชแพดทำงานได้เลย
Connector / Thin & Weight
พอร์ตและการเชื่อมต่อของ MSI Raider GE78 HX 13V จะแยกพอร์ตต่างๆ เอาไว้ 3 ด้านรอบเครื่อง และพอรวมกับการเชื่อมต่อไร้สายจะมีพอร์ตให้ใช้งานดังนี้
- พอร์ตฝั่งซ้ายจากซ้ายมือ – Thunderbolt 4 รองรับ DisplayPort, SD Card Reader, Audio combo
- พอร์ตฝั่งขวาจากซ้ายมือ – USB-A 3.2 x 2, USB-C 3.2 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery
- พอร์ตด้านหลังเครื่อง – LAN, HDMI 2.1 รองรับจอ 8K 60Hz, USB-C รองรับ DisplayPort, ช่องอแดปเตอร์
- การเชื่อมต่อไร้สาย – Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และ Bluetooth 5.3
จะเห็นว่าพอร์ตของ MSI Raider GE78 HX 13V มีพอร์ต USB-C ทั้งเวอร์ชั่น 3.2 และ Thunderbolt 4 ให้ใช้งานถึง 3 ช่องทีเดียวและรองรับ DisplayPort ทุกช่อง แต่ถ้าต่อหน้าจอแยก ฟีเจอร์ Matrix Display จะรองรับมากสุด 3 ช่องเท่านั้น โดยยืนพื้นเป็นพอร์ต HDMI 2.1 และ USB-C อีก 2 ช่อง แต่ได้ระดับนี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้วไม่ว่าจะครีเอเตอร์, เกมเมอร์ที่ใช้จอเกมมิ่งกับจอเสริมสำหรับดูแจ้งเตือนต่างๆ หรือถ้าเป็นสตรีมเมอร์ก็ต่อจอเสริมเอาไว้ดูช่องแชตไปพร้อมกันก็ยังได้
อย่างไรก็ตาม น้ำหนักของ MSI Raider GE78 HX 13V เฉพาะเครื่องอย่างเดียวก็หนัก 3 กิโลกรัมเข้าไปแล้ว ถ้ารวมอแดปเตอร์อีก 1.16 กิโลกรัมเข้าไปก็สุทธิที่ 4.2 กิโลกรัมทีเดียว ถึงจะพอพกไปไหนมาไหนได้ก็ตาม แต่แนะนำให้หากระเป๋าเป้สำหรับโน๊ตบุ๊ค 17.3 นิ้วโดยเฉพาะเท่านั้นและควรเน้นดูสายสะพายให้หนาระดับหนึ่งเพื่อไม่ให้สายบาดไหล่เกินไปและบาลานซ์น้ำหนักที่ลงไหล่ได้อย่างเหมาะสมด้วย ซึ่งจากที่ผู้เขียนลองเอา Raider GE78 HX ตัวนี้ไปลองใส่กระเป๋าสำหรับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วดูแล้ว มันใหญ่และปิดกระเป๋าเป้ไม่ได้เลย
Inside&Upgrade
วิธีการแกะ MSI Raider GE78 HX 13V นอกจากขันน็อต Philips Head ทั้ง 13 ตัวออกแล้ว ต้องแกะฝาประกบด้านหลังเครื่องออกถึงจะเห็นตะเข็บสำหรับเปิดฝาใต้ตัวเครื่อง ถ้าฝืนดึงหรือแกะฝาข้างเครื่องไปก็อาจเกิดความเสียหายได้
เมนบอร์ดของ MSI Raider GE78 HX 13V ถือว่าจัดสัดส่วนมาได้ค่อนข้างเรียบร้อย ครึ่งบนเป็นระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 ถัดลงมาฝั่งซ้ายจะมีการ์ด Wi-Fi PCIe ติดอยู่ฝั่งซ้ายสุด ถัดมาเป็น M.2 NVMe SSD ทั้งหมด 2 ช่อง เป็น PCIe 5.0 กับ 4.0 ปิดแผ่นป้องกันไฟฟ้าสถิตย์เอาไว้
ตรงกลางในกรอบอลูมิเนียมปิดแรม 64GB DDR5 เอาไว้และเป็นความจุสูงสุดที่ MSI Raider รองรับแล้ว ช่วยป้องกันและลดโอกาสเกิดไฟฟ้าสถิตย์หรืออุบัติเหตุเวลาพกเครื่องไปไหนมาไหนได้เป็นอย่างดี ซึ่งถ้าซื้อตัวท็อปราคา 169,990 บาทมาก็ไม่ต้องอัพเกรดเพิ่มก็ได้
Performance & Software
ซีพียูใน MSI Raider GE78 HX 13V เป็น Intel Core i9-13980HX แบบ 24 คอร์ 32 เธรด (8P+16E) ความเร็วสูงสุด 5.6GHz เป็นซ็อคเก็ต LGA 1700 สถาปัตยกรรม Raptor Lake มีค่า TDP 55 วัตต์ เมื่อใช้ฟีเจอร์ MSI OverBoost Ultra แล้ว จะเร่งค่า TDP ไปได้สูงสุด 75 วัตต์ รองรับชุดคำสั่งพื้นฐานต่างๆ ครบถ้วนสำหรับใช้ทำงานและเล่นเกมก็ได้
ตัวเมนบอร์ดผลิตโดย MSI เอง รองรับ M.2 PCIe 5.0 กับ 4.0 อย่างละช่อง ติดตั้งแรมมาให้จากโรงงานสูงสุด 64GB DDR5 บัส 5600MHz CL42 และรองรับสูงสุด 64GB DDR5 เช่นกัน ซึ่งถือว่ามีความจุมากพอจะใช้ทำงานและเล่นเกมได้อีกหลายปีอย่างแน่นอน ชิปแรมผลิตโดยบริษัท SK Hynix
การ์ดจอแยกติดตั้งรุ่น NVIDIA GeForce RTX 4080 แรม 12GB GDDR6 มาให้ ค่า TDP 175 วัตต์ ใช้ดีไซน์ NVIDIA Max-Q รุ่นใหม่ล่าสุดรองรับ Dynamic Boost ช่วยเร่งประสิทธิภาพให้สูงขึ้นได้ มี CUDA Cores จำนวน 7,424 CUDA ความเร็วสูงสุด 2,280MHz รองรับ DirectX 12 และชุดคำสั่งใช้งานทั้ง OpenCL, OpenGL 4.6, CUDA, DirectCompute, DirectML, Vulkan, Ray Tracing และ PhysX อีกด้วย ดังนั้นจะใช้ทำงานหรือเล่นเกมก็ดีอย่างแน่นอน
หลังจากเช็คใน Device Manager จะเห็นว่าตัว MSI Raider GE78 HX 13V ติดตั้งพาร์ทชั้นนำต่างๆ มาให้ใช้งานครบเครื่องไม่ว่าจะชิป TPM 2.0 สำหรับรักษาความปลอดภัยตัวเครื่อง ทำงานร่วมกับ Windows 11 Home และมีเซนเซอร์สแกนใบหน้าสำหรับประสานงานกับระบบ Windows Hello ติดตั้งมาให้
Wi-Fi PCIe Card ขนาด M.2 2230 เป็นรุ่น Intel Killer AX1690i แบนด์วิธ 160MHz มาให้ เป็น Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับคลื่น Wi-Fi 2.4 / 5 / 6GHz ได้ รองรับเทคโนโลยี MU-MIMO, OFDMA ในตัว รองรับ Bluetooth 5.3 ในตัว จุดน่าสนใจอีกอย่างคือพอร์ต LAN ก็เป็น Intel Killer ประสิทธิภาพสูงเน้นเล่นเกมเป็นหลัก รุ่น Intel Killer E3100G แบบ 2.5GbE ดังนั้นจะต่อ Wi-Fi หรือ LAN ก็เล่นเกมได้ลื่นไหลไม่มีอาการสะดุดอย่างแน่นอนและใช้ทำงานได้ดีมากด้วย
M.2 NVMe SSD มีความจุ 4TB ทำ RAID 0 มาให้จากโรงงาน เมื่อทดสอบด้วย CrystalDiskMark 8 แล้ว ได้ความเร็ว Sequential Read 12,380.33 MB/s และ Sequential Write 8,428.55 MB/s จัดว่าเร็วมากจนไม่ต้องอัพเกรดก็ได้เพราะได้ทั้งความเร็วสูงและความจุเยอะจนติดตั้งเกมและโปรแกรมต่างๆ ที่เกมเมอร์ต้องการได้แทบทั้งหมดอย่างแน่นอน
ประสิทธิภาพเวลาเล่นเกมเมื่อทดสอบด้วย 3DMark Time Spy แล้ว ได้คะแนนเฉลี่ย 17,810 คะแนน เมื่อแยกเป็นหมวดหมู่จะได้คะแนน CPU score 13,642 คะแนน และ Graphics score 18,832 คะแนน จัดว่าระดับคะแนนนั้นสูงมากจนเล่นเกมฟอร์มใหญ่ในปัจจุบันแบบปรับกราฟิคสูงสุดได้ทุกเกม บนความละเอียดจอได้จน 2K QHD แบบไม่เปิดฟังก์ชั่น NVIDIA DLSS เข้ามาเสริม ถ้าจอ 4K UHD ก็แนะนำให้เปิดเพิ่มสักหน่อยจะช่วยเพิ่มเฟรมเรทระหว่างเล่นให้ไหลลื่นยิ่งขึ้น
อิงจากโปรแกรม 3DMark Time Spy จะเห็นว่าตัว MSI Raider GE78 HX 13V ทรงพลังมาก สามารถเล่นเกมฟอร์มใหญ่ปรับกราฟิคสูงสุดแบบไม่เปิด NVIDIA DLSS เข้ามาเสริมบนจอ QHD ของตัวเครื่องได้สบายๆ และได้เฟรมเรทเฉลี่ยเกิน 60 Fps ขึ้นไปทั้งหมดและบางเกมก็ได้เกิน 100 Fps ด้วยซ้ำ ดังนั้นถ้าจะต่อจอแยก 4K 120~144Hz ไว้เล่นเกมก็ไม่มีปัญหาแต่ขอแนะนำให้เปิด NVIDIA DLSS เสริมเข้ามาอีกสักนิดจะช่วยเร่งเฟรมเรทให้สูงขึ้นได้อีกพอสมควรอย่างแน่นอน ดังนั้นขอแนะนำว่าถ้าซื้อจอแยกก็ไปเริ่มกับจอเกมมิ่งความละเอียด QHD เลยก็ได้ไม่มีปัญหา
ด้านการทดสอบทำงานโดยโปรแกรมตระกูล CINEBENCH จะได้คะแนนในระดับสูงพอใช้ทำงานกราฟิคต่างๆ ได้อย่างไหลลื่นไม่ว่าจะตัดต่อวิดีโอ, แต่งภาพหรือทำโมเดล 3D ด้วยโปรแกรมต่างๆ ก็ทำได้อย่างแน่นอน โดยแบ่งผลคะแนนได้ดังนี้
- R23 ใช้ทดสอบกำลังประมวลผลของซีพียูโดยเฉพาะ มีความละเอียดแม่นยำสูง ได้คะแนน Multi Core 28,537 pts และ Single Core อีก 2,115 pts
- R20 ใช้ทดสอบกำลังประมวลผลของซีพียูเช่นกัน ได้คะแนน CPU 11,500 pts
- R15 ใช้ทดสอบซีพียูและกราฟิคการ์ดว่าสามารถเรนเดอร์ได้ไหลลื่นหรือไม่ คะแนน OpenGL 273.64 fps และ CPU 4,706 cb
ผลคะแนนที่ได้ถือว่า MSI Raider GE78 HX 13V นั้นทรงพลังทั้งในฐานะของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คและยังใช้ทำงานครีเอเตอร์ได้ดีอีกด้วย โดยผลคะแนนจากโปรแกรมทดสอบทั้ง 3 ตัวนี้ก็ทำได้ในระดับสูงมาก ดังนั้นนอกจากเล่นเกมแล้ว ครีเอเตอร์ก็ซื้อไปใช้งานได้ดีอย่างแน่นอน
ผลการทดสอบจากโปรแกรม PCMark 10 สำหรับทดสอบด้านการทำงานโดยเฉพาะได้คะแนนเฉลี่ยสูงถึง 8,667 คะแนน กล่าวคือสูงมากใช้ทำงานได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะงานทั่วไปอย่างงานเอกสาร, เรียกใช้โปรแกรมต่างๆ, เปิดเบราเซอร์ทำงาน โดยเฉพาะสาย Digital Content Creation ยิ่งโดดเด่น โดยทำคะแนนเฉพาะหมวดนี้ได้สูงที่สุดอีกด้วย และสังเกตหมวดย่อยจะเห็นว่า MSI Raider GE78 HX 13V จะเก่งเรื่องงานแต่งภาพหรือปั้นโมเดล 3D เป็นพิเศษหรือแม้แต่งานตัดต่อวิดีโอก็ทำได้ดีจบงานเร็วเช่นกัน
สำหรับโปรแกรมปรับแต่งตัวเครื่องอย่าง MSI Center ก็สำคัญและช่วยรีดพลังของ MSI Raider GE78 HX 13V ออกมาได้สูงสุด เพียงแค่เลือกหมวด User Scenario ตั้งค่าให้เป็น Extreme Performance และเลือกหมวด GPU Switch ให้เป็น Discrete Graphics Mode เท่านี้ก็ทำเฟรมเรทได้สูงมากแล้ว แต่แนะนำให้ตั้งค่าแบบนี้เฉพาะตอนนั่งโต๊ะทำงานหรือเล่นเกมแล้วจะดีที่สุด ส่วนเวลาใช้งานตามปกติควรตั้งให้เป็นโหมด Smart Auto และ MSHybrid Graphics Mode จะดีกว่า และนอกจากใช้ตั้งค่าเครื่องได้แล้ว MSI Center ยังใช้มอนิเตอร์ส่วนต่างๆ ในเครื่อง, อัพเดทเฟิร์มแวร์ ฯลฯ ได้อีกด้วย จึงขอแนะนำให้เกมเมอร์เปิดโปรแกรมนี้คอยเช็คเครื่องเป็นระยะๆ จะทำให้ MSI Raider ทำงานได้ดีสุดเสมอ
Battery & Heat & Noise
แบตเตอรี่แบบลิเธียมโพลีเมอร์ของ MSI Raider GE78 HX 13V เป็นแบตเตอรี่ลูกใหญ่วางตัวยาวติดกับลำโพงทั้งสองข้างของตัวเครื่อง มีความจุแบบ Typical Capacity 6578mAh (99.99Wh) และ Rated Capacity 6250mAh (95Wh) ซึ่งเป็นความจุสูงสุดเท่าที่พกติดตัวขึ้นเครื่องบินได้โดยไม่ต้องโหลดใต้เครื่องแล้ว ความจุแบตเตอรี่นี้สามารถใช้งานต่อเนื่องโดยไม่ต่ออแดปเตอร์ได้นานระดับหนึ่ง
จากการทดสอบตามมาตรฐานของทางเว็บไซต์ โดยตั้งค่าตัวเครื่องให้ใช้การ์ดจอออนบอร์ดและใช้โหมด Super Battery ตั้งค่าความสว่างหน้าจอ 50% และให้เสียงลำโพงดัง 10% แล้วใช้ Microsoft Edge ดูคลิป YouTube นาน 30 นาทีแล้ว MSI Raider GE78 HX 13V จะใช้งานด้วยแบตเตอรี่ได้นานสุด 4 ชั่วโมง 36 นาที ถือว่านานพอใช้ประชุมงานหรือเข้าเลคเชอร์จบได้ 1 วิชาพอดี ซึ่งถือว่านานพอสมควรเกาะกลุ่มกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงหลายๆ รุ่นในปัจจุบันนี้
ข้อสังเกตหนึ่งที่ผู้เขียนพบระหว่างทดสอบระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่คือ ถ้าตั้งค่าตามที่ได้อธิบายไปข้างต้นก็สามารถใช้งานได้นานไม่มีปัญหาใดๆ แต่ถ้ากดโหมด Battery saver ของ Windows 11 แล้ว ระยะเวลาใช้งานจะลดลงจนเหลือราว 3 ชั่วโมง ซึ่งน้อยกว่าที่ตั้งค่าไว้ราว 1 ชั่วโมงครึ่งทีเดียว ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ขอแนะนำว่าอย่ากดโหมดนี้ แต่ใช้วิธีกด Fn+F7 ปรับโหมดตัวเครื่องเป็น Super Battery ของ MSI เองจะดีที่สุด
ระบบระบายความร้อน Cooler Boost 5 รุ่นอัพเดทปรับปรุงระบบให้ระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้นโดยมีฮีตไปป์ 6 เส้น กับพัดลมระบายความร้อน 2 ตัว ระบายความร้อนออกด้านข้างและหลังตัวเครื่องฝั่งละ 2 ช่อง ช่วยระบายความร้อนได้ดี ทำให้เครื่องเย็นตลอดเวลาและไม่เกิดอาการ Throttle Down ประสิทธิภาพตกตอนใช้งานเลย แต่เสียงพัดลมเวลาทำงานเต็มที่ถือว่าค่อนข้างดังระดับหนึ่งพอจะได้ยินชัดเจน พอวัดด้วยเครื่องวัดเสียงแล้วอยู่ราว 60~70dB ซึ่งถือว่าค่อนข้างดังได้ยินชัดเจนทั้งเจ้าของเครื่องและเพื่อนร่วมออฟฟิศอย่างแน่นอน
อุณหภูมิเมื่อวัดด้วยโปรแกรม CPUID HWMonitor จะเป็นตามตารางดังนี้
อุณหภูมิ / ชิ้นส่วน | ใช้งานปกติ (เซลเซียส) |
เฉลี่ย (เซลเซียส) |
เล่นเกม (เซลเซียส) |
เฉลี่ย (เซลเซียส) |
ซีพียู | 55~85 | 57 | 55~100 | 60 |
การ์ดจอ | 45~48 | 45 | 44~86 | 49 |
จะเห็นว่าอุณหภูมิของ MSI Raider GE78 HX 13V แม้จะสูงสุดถึง 100 องศาเซลเซียสก็ตาม แต่เกิดขึ้นแค่เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ไม่เกิน 2 วินาทีเท่านั้นแล้วระบบ Cooler Boost 5 ก็จัดการระบายความร้อนลงไปได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน จึงไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนเกินจนตัวเครื่องประสิทธิภาพลดลงเลย และข้อดีคือ แม้เครื่องจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นก็ตามแต่บริเวณที่วางข้อมือไปจนคีย์บอร์ดก็แค่อุ่นขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนช่องระบายความร้อนหลังเครื่องจะร้อนขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น
User Experience
ในแง่ประสิทธิภาพ MSI Raider GE78 HX 13V นับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเรือธงได้เต็มปาก ทั้งสเปคและความแรงทรงพลังระดับที่พร้อมเล่นเกมฟอร์มใหญ่หรือทำงานหนักๆ ก็ได้ไม่มีปัญหา ยิ่งถ้าเป็นตัวท็อปสุดราคา 169,990 บาท เรียกว่าจบจากโรงงานก็ไม่ผิดเพราะทาง MSI ใส่ SSD มาเยอะถึง 4TB จนไม่ต้องอัพเกรดเพิ่มก็ได้ ส่วนแรมก็จุมากจนถึงระดับสูงสุดที่ตัวเครื่องรองรับได้แล้ว ดังนั้นถ้าใครมีงบประมาณทุ่มลงกับคอมพิวเตอร์เยอะหลักแสนบาทแล้วไม่อยากเสียเวลาอัพเกรดและไม่อยากประกอบพีซีสักเครื่องก็เอาเงินมาลงกับ MSI Raider ตัวนี้ได้เลย แล้วหาอุปกรณ์เสริมอย่างหน้าจอแยก, เมาส์, คีย์บอร์ดเกมมิ่งดีๆ สักชุดมาต่อเสริมเท่านี้ก็เหลือเฟือแล้ว
ด้านการเล่นเกม ถ้าจะซื้อหน้าจอแยกมาต่อทำงานหรือเล่นเกมก็เริ่มกับความละเอียดหน้าจอ 2K QHD ได้เลย เพราะพลังของ Intel Core i9-13980HX และ NVIDIA GeForce RTX 4080 แม้จะปรับกราฟิคสุดหมดโดยไม่เปิด NVIDIA DLSS เสริมก็ยังทำเฟรมเรทได้สูงมาก หลายๆ เกมเฉลี่ยเกิน 80~100 Fps ได้สบายๆ เอฟเฟคแสงเงาในเกมเรียกว่าแทบไม่ทำให้เฟรมเรทตกเลย หรือถ้าใครมีจอเกมมิ่ง 4K UHD ก็เล่นได้ไม่มีปัญหา แต่แนะนำให้เปิด NVIDIA DLSS เสริมเพื่อเพิ่มเฟรมเรทให้เกิน 60 Fps ขึ้นไปจะได้เล่นเกมได้ไหลลื่นขึ้น และขอแนะนำว่าถ้าจะใช้หน้าจอไหนเล่นเกมหรือต่อจอความละเอียดสูงควรต่อผ่านพอร์ต HDMI 2.1 จะดีที่สุด เพราะรองรับความละเอียดจอระดับ 8K 60Hz ส่วนจออื่นๆ อย่างจอเสริมอื่นๆ อีก 2 หน้าจอก็ต่อผ่าน USB-C ไปดีกว่า จะได้ใช้ประโยชน์จากพอร์ต HDMI 2.1 ได้อย่างเต็มที่
อุณหภูมิตอนใช้งานทั่วไป เช่นทำงานเอกสาร, จดเลคเชอร์หรือเปิดเว็บท่องอินเตอร์เน็ต ก็เปิดโหมดประหยัดพลังงานให้ใช้งานได้หลายชั่วโมงก็ได้เพราะโปรแกรมเหล่านั้นไม่กินทรัพยากรเครื่องมากและต้องยกอานิสงค์ให้ Intel Core i9-13980HX ที่ประสิทธิภาพสูงพอตัวซึ่งมันใช้ทำงานได้ลื่นไหลดีทีเดียว แต่ถ้าทำงานกราฟิค, เล่นเกมหรือนั่งอยู่ในบ้านในออฟฟิศเมื่อไหร่ค่อยเปิดโหมด Extreme Performance ก็ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามจุดสำคัญที่ขอแนะนำเป็นส่วนตัว คือเวลาพกเครื่องติดตัวไปประชุมงานหรือเข้าห้องเรียนแนะนำว่าให้ใส่กระเป๋าเป้สำหรับโน๊ตบุ๊คขนาด 17.3 นิ้วเท่านั้น จากที่ลองเอาใส่กระเป๋าเป้สำหรับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วดูแล้ว มันใส่ในช่องโน๊ตบุ๊คที่มีโฟมซัพพอร์ตไม่ได้เลยจนต้องย้ายมาใส่ในช่องรวมอุปกรณ์เสริมแทน ไม่อย่างนั้นจะรูดซิปปิดกระเป๋าไม่ได้ แถมตัวเครื่องอย่างเดียวหนัก 3 กิโลกรัม ถ้ารวมอแดปเตอร์ด้วยก็มี 4 กิโลกรัมขึ้นไป จะถือติดมือเหมือนสมาร์ทโฟนสักเครื่องก็ไม่สะดวกแถมอาจเกิดพลาดหลุดมือตกเสียหายก็คงไม่มีความสุขอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าตัดสินใจว่าจะซื้อ MSI Raider GE78 HX 13V เมื่อไหร่ แนะนำให้ลงทุนซื้อกระเป๋าเป้ดีๆ สักใบมาใช้เลยจะปลอดภัยและซัพพอร์ตหลังกับไหล่ได้ดีอย่างแน่นอน
จุดสังเกตเล็กน้อยนอกจากเรื่อง Numpad มีขนาดเล็กกว่าปกติแล้วกดไม่ถนัดเท่าไซซ์มาตรฐาน แต่จำเป็นต้องเล็กลงเพราะต้องเว้นพื้นที่ไว้ติดตั้งลำโพงเสริมอีก 2 ฝั่งคีย์บอร์ดก็ถือว่าพอรับได้ อีกจุดคือการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 4080 ใน MSI Raider GE78 HX 13V นั้น แม้จะแรงพอเล่นเกมและทำงานกราฟิคได้ยอดเยี่ยมมากแล้วก็ตาม แต่พอประกอบกับราคา 169,990 บาท ก็อยากให้ MSI ใส่ GeForce RTX 4090 มาให้เลยดีกว่า แล้วจะลดความจุ SSD เหลือ 2TB เพื่อคุมต้นทุนให้ไม่เกินราคาตั้งตอนนี้ก็น่าจะดึงดูดใจเกมเมอร์ส่วนใหญ่ที่อยากได้สเปคแรงสุดๆ ให้คุ้มเงินที่จ่ายไปได้สบายๆ แต่ถ้าดูกับรายละเอียดโดยรวมของตัวเครื่องก็พอเข้าใจได้ว่าสเปคกับราคานี้ก็ถือว่าสมเหตุสมผลพอสมควร
Conclusion & Award
ในบรรดาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงที่มีจำหน่ายในประเทศไทย ณ ตอนนี้ MSI Raider GE78 HX 13V ถือเป็นตัวแรงไม่น่ามองข้ามอีกรุ่น เพราะนอกจากสเปคแรงจบจากโรงงานแล้วทางบริษัทก็ใส่องค์ประกอบดีๆ เข้ามาให้อีกหลายอย่าง ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้หลากหลายแบบไม่ว่าจะจอ 100% DCI-P3 เพื่อชาวครีเอเตอร์ที่ต้องการหาโน๊ตบุ๊คแรงๆ เอาไว้รันโปรเจคใหญ่ๆ ให้ลื่นไหลต่อเนื่องและมี SSD เอาไว้เซฟงานในตัวได้มหาศาลระดับ 4TB หรือแม้แต่พอร์ต HDMI 2.1 ซึ่งต่อจอ 8K 60Hz ได้ แต่ถ้าจะต่อหลายๆ จอ ก็มี Thunderbolt 4 กับ USB-C แบบรองรับ DisplayPort และ Power Delivery ติดมาให้ แถมยังทำงานคู่กับฟีเจอร์ Matrix Display ต่อได้พร้อมกัน 3 จอ และยังสแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้ด้วย เรียกว่าครบถ้วนแบบลงทุนซื้อมาก็ใช้ได้หลายปีแน่นอน
award
best design
ดีไซน์ของ Raider GE78 HX 13V ได้ความเรียบหรูสวยงามขึ้นกว่ารุ่นก่อนและเพิ่มความหรูหราขึ้นมาอีกระดับหนึ่งแถมยังมีไฟ MSI Mystic Light สวยงามลงตัวมาก
best performance
ด้วยสเปคระดับเรือธงของ MSI Raider GE78 HX 13V ถือว่าแรงไม่น้อยหน้าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจากแบรนด์คู่แข่งเลย จะเล่นเกมหรือทำงานหนักๆ ก็ไม่มีปัญหา เอาอยู่แน่นอน
best gaming
สเปคของ MSI Raider GE78 HX 13V นั้นถือว่าแรงเหลือเฟือ เล่นเกมฟอร์มยักษ์บนจอ Full HD ไปจน QHD ปรับกราฟิคสูงสุดได้หมดสบายๆ แล้ว ยังเปิด NVIDIA DLSS เสริมให้เล่นบนจอ 4K ได้สบายๆ อีกด้วย จัดว่าแรงหายห่วงแน่นอน