เมื่อประมาณปี 2020 มีข่าวการรายงานว่า โหมด Autopilot ของ Testa ทำงานผิดพลาด ผู้ใช้งานดังกล่าวจึงขอเรียกร้องค่าเสียหายไปกว่า 3 ล้านเหรียญสหรัฐ จนในที่สุดวันนี้ทางเทสลาก็ประกาศออกมาว่าตอนนี้เขาได้ชนะคดีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว Justine Hsu ฟ้องเทสลาเนื่องจากเธอใช้โหมด Autopilot ในรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model S จู่ๆ ก็หักเลี้ยวเข้าศูนย์บนถนนในนครลอสแองเจลิส โดยที่เธอไม่ได้ตั้งค่าไว้ ซึ่งเธอมองว่าข้อบกพร่องนี้เกิดจากซอฟต์แวร์และการออกแบบถุงลมนิรภัยของเทสลาจึงขอเรียกร้องค่าเสียหายไปมากกว่า 3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 100 กว่าล้านบาท แต่ทางเทสลาออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ จึงเกิดการฟ้องร้องต่อมาเป็นเวลายาวนาน
สุดท้ายผลของคดีก็ออกมาเป็นที่สรุปเมื่อวันที่ศุกร์ที่ 21 เมษายนที่ผ่านมาว่าทางเทสล่าไม่มีความผิดใดๆ คณะลูกขุนตัดสินให้ Hsu ไม่มีความเสียหายใดๆ เนื่องจากผู้ขับขี่ใช้ Autopilot บนถนนในเมือง ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่บริษัทเตือนไว้ในคู่มือผู้ใช้ของซอฟต์แวร์ และกล่าวว่าผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ไม่ได้จงใจละเลยที่จะเปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ Autopilot จึงไม่มีส่วนผิดใดๆ
แม้ผลของคดีจะออกมาแบบนี้แต่คาดว่าก็ไม่น่ามีผลกระทบใดๆ กับที่ตอนนี้เทสลากำลังเผชิญกับปัญหาการเรียกร้องให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวข้องกับการอ้างสิทธิ์เกี่ยวกับ Autopilot และซอฟต์แวร์ “Full Self-Driving” จากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เมื่อต้นปีซึ่งตอนนี้อยู่ในหว่างการตรวจสอบ ส่วนประเทศไทยยังไม่ต้องกังวลปัญหานี้เพราะในกรุงเทพรถน่าจะติดเกินกว่าจะใช้ Autopilot ได้อยู่แล้ว (หยอกๆ)
ที่มา: Engadget