มาถึงอีกตัวเด็ดที่หลาย ๆ ท่านรอคอยกับ Lenovo ThinkPad X220 ซีรีส์ใหม่ที่เข้ามาแทน X201 เดิม ด้วยสเปกที่อัปเกรดขึ้นมาให้แรงสะใจยิ่งขึ้นด้วย Sandy Bridge พร้อมการปรับปรุง Body บางส่วนให้สามารถใช้งานได้สะดวกขึ้น หลาย ๆ ท่านที่ไม่เคยใช้ Thinkpad ละก็ลองอ่านรีวิวนี้ดูนะครับ จะอธิบายให้ทราบว่าทำไม Thinkpad จึงมีราคาสูงและแตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ
เริ่มด้วยสเปกที่ Lenovo ThinkPad X220 ได้อัปเกรดความแรงมาเป็น Sandy Bridge ในเครื่องทดสอบนี้รุ่นซีพียู Core i5-2520M ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงแรงถึง 2.5 GHz และดัน Turbo Boost ไปได้ถึง 3.2 GHz เลยทีเดียว นอกนั้นก็ยังมีรุ่นอื่น ๆ ที่จำหน่ายจริงเป็น Core i3 และ Core i7 การ์ดจอก็เป็นรุ่นใหม่ที่อยู่ในซีพียู Intel HD Graphics 3000 รองรับงานต่าง ๆ ได้สบาย แรม 4 GB Bus 1,333 MHz ชิปเซตและการ์ด Wi-Fi ก็ยังรองรับเทคโนโลยี vPro อีกหนึ่งจุดเด่นด้วยจอภาพตัวใหม่ขนาด 12.5 นิ้ว ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป พกพาสะดวก
พร้อมการปรับมาเป็น 16 : 9 ที่เด็ดสุดคงจะเป็นการใช้ Panel จอภาพแบบ IPS ที่ให้สีสันสมจริงกว่าจอภาพโน๊ตบุ๊คทั่วไป (เป็นออปชันเสริม) อีกทั้งยังมาพร้อม Body พิเศษ Magnesium Alloy และฟังก์ชันต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็น Display-Port ที่ให้ความละเอียดสูงกว่า HDMI ระบบสแกนลายนิ้วมือที่เป็นเอกลักษณ์ของ Thinkpad ว่าแล้วเดี๋ยวไปดู Body กับผลเทสต์เลยครับว่าน่าสนใจเพียงใด
ขนาดของ Adapter จัดได้ว่าเล็กเลยทีเดียว พกพาได้สะดวก
ส่วนแรกจะเป็นภาพภายนอกที่มีสีดำสะดุดตา
ThinkPad X220 มากับหน้าตาเรียบ ๆ ตามสไตล์ Thinkpad ที่เน้นความทนทานกับการใช้งานเป็นหลัก ขนาดของเครื่องไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไปด้วยจอภาพ 12.5 นิ้ว เท่ากับ U260 พกพาสะดวก การออกแบบก็เน้นความแข็งแรงทนทานด้วย Body ที่ทำมาจาก Magnesium Alloy การออกแบบในทุกส่วนของ ThinkPad X220 ตัวนี้ล้วนมีเหตุผลทั้งนั้น
ผิวด้านหลังจอภาพจะเป็น Magnesium Alloy ที่ให้ความแข็งแรงมากกว่าพลาสติกทั่วไป ป้องกันรอยเปื้อนและรอยขีดข่วนได้ดี รองรับแรงกระแทกแรงอัดได้สมบูรณ์แบบ แต่ด้วยความแข็งแรงนี้จึงทำให้เครื่องมีราคาสูง ถ้าเน้นความทนทานละก็คุ้มครับ
ส่วนที่วางมือรวมถึงขอบจอภานด้านในจะเป็น ABS Plastic เพราะมีความยืดหยุ่นสูงและไม่นำไฟฟ้าด้วย
บานพับมีความแข็งแรงมาก ไม่สั่นไหวง่าย ๆ หรือจะถึงเครื่องด้วยการจับที่จอภาพก็ไม่มีปัญหา
ขอบของจอภาพโดยรอบปิดได้สนิทเรียบเนียน เป็นการออกแบบของ ThinkPad ที่ช่วยรับแรงกดอัดได้เป็นอย่างดี
จอภาพขนาด 12.5 นิ้ว แบบจอด้าน พร้อมออปชันให้สามารถเลือกเป็นจอแบบ IPS ที่ให้สีสันสมจริงระดับเครื่อง Mac พร้อมการปรับมาเป็นจอภาพแบบ 16:9 ตามสมัยนิยม
ขอบของจอภาพจะเป็นมุมโค้งขึ้นมา ช่วยให้จับจอภาพได้ถนัดไม่หลุดมือ อีกทั้งยังช่วยให้ขอบของจอภาพด้านหน้าสามารถปิดได้สนิท
อีกสิ่งหนึ่งที่มีการปรับเปลี่ยนจาก X201 คือ การเปลี่ยนระบบล็อกจอภาพจากตะขอล็อกเป็นการล็อกด้วยแม่เหล็ก ทำให้สามารถเปิดจอภาพได้สะดวกมากขึ้น
ความหนาของจอภาพจัดอยู่ในระดับค่อนข้างบางเลยทีเดียว
จอบานพับกางได้สูงสุดเกือบ 180 องศาเลยทีเดียว
หนากว่ากล่อง CD อยู่เล็กน้อย
น้ำหนักเครื่องรวมแบตเตอรี่ประมาณ 1.51 กิโลกรัม ถ้าเทียบกับขนาดเครื่องถือว่าเบาเลยทีเดียว
แม้รวม Adapter แล้วก็ยังอยู่แค่ 1.81 กิโลกรัมเท่านั้น
เป็นด้านใต้ท้องเครื่องรวมไปถึงช่องระบายความร้อนใต้ท้องเครื่อง
ใต้เครื่องจะมีฝาปิดหลักชิ้นเดียวของแรม ส่วน HDD นั้นจะเป็นช่องใส่ด้านข้างที่สามารถเปลี่ยนได้เองง่าย ๆ โดยยางรองเครื่องก็ออกแบบมาให้ช่วยรับแรงกดหรือการพิมพ์ใช้งานได้เป็นอย่างดี
ช่องระบายความร้อนตามตำแหน่งต่าง ๆ มากพอสมควร
จุดเด่นอีกจุด คือ คีย์บอร์ด ที่มีช่องสำหรับระบายน้ำออกมาได้เมื่อมีน้ำหกใส่คีย์บอร์ด แตกต่างจากยี่ห้ออื่นที่กันน้ำได้ แต่ไม่ได้ช่วยระบายน้ำออกมา และจะเห็นว่าการออกแบบช่องระบายน้ำจะเป็นวงรีแทนที่จะเป็นวงกลมเพื่อช่วยลดแรงตึงผิว ทำให้ระบายน้ำออกมาได้รวดเร็ว
ช่องระบายความร้อนของ CPU มีขนาดใหญ่ 2 ช่องทางทั้งด้านข้างและด้านหลัง พัดลมเสียงไม่ดังมากนัก