Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebookspec

IT NEWS

อยากจะหนีร้อนไปพึ่งเย็น! Google ออกฟีเจอร์ใหม่ Heat wave เพื่อสำรวจพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง

Google

ด้วยสภาวะอากาศในปัจจุบันนอกจากฝุ่น PM2.5 ที่ยังไม่หมดไป ก็ยังมีเรื่องของอุณหภูมิที่สูงขึ้นจนเกิดไฟป่าหลายแห่ง นอกจากนี้ทุกๆ ปี จะมีคนเสียชีวิตจากอากาศร้อนเกือบ 500,000 คนต่อปีและมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ทาง Google เล็งเห็นความน่ากลัวของเหตุการณ์นี้จึงได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่ทีชื่อว่า Heat Wave ให้ผู้ใช้สามารถรับรู้ได้ว่าจุดไหนเป็นจุดกที่เกิดความร้อนสูงขึ้นและควรหลีกเลี่ยงที่จะไปในจุดนั้น

Heat wave เป็นอีกเครื่องมือที่มีการนำ AI เข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งทาง Google ได้จับมือร่วมกับองค์กร Global Heat Health Information Network (GHHIN) ในการออกฟีเจอร์ใหม่นี้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยสามารถใช้งานได้ผ่านช่องค้นหา (Search) เพียงพิมพ์คำว่า Heat Wave ก็จะขึ้นข้อมูลเกี่ยวกับอุณหภูมิ, เวลาที่คาดการณ์ว่าจะเริ่มร้อน, และเวลาสิ้นสุดของคลื่นความร้อน นอกจากนี้ยังเพิ่ทเติมเคล็ดลับในการรักษาความเย็น และข้อกังวลด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องอีกด้วย

Advertisement
Heat Wave on Google Search

Google ขอสนับสนุนองค์กรที่ดำเนินการด้านสภาพอากาศ

แน่นอนว่าการที่แก้ปัญฆาด้านความร้อนสูงนั้น Google ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว ทาง Google ได้ประกาศ Google.org Impact Challenge มูลค่าการลงทุนกว่า 30 ล้านดอลลาร์ ในการเปิดโอกาสให้องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรส่งแนวคิดสำคัญสำหรับการดำเนินการด้านสภาพอากาศ ล่าสุด World Resources Institute (WRI) ได้รับเงิน 5 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนโครงการซึ่งจะใช้เซ็นเซอร์ ภาพถ่ายดาวเทียม และ AI เพื่อปิดช่องว่างข้อมูล อุณหภูมิจำลองอากาศ ความชื้น การสะท้อนแสงพื้นผิว ต้นไม้ปกคลุม และความเปราะบางจากความร้อน นอกจากความพยายามของ Google แล้ว โครงการของ WRI จะช่วยให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจเข้าใจว่าควรติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานพื้นผิวเย็นที่ใด เช่น ต้นไม้และพื้นผิวสะท้อนแสง เพื่อลดผลกระทบจากความร้อนสูง และยังมีอีก 2 องค์กรที่ทาง Google ให้ทุนสนับสนุนงานจาก Resilient Cities Catalyst ผ่าน ICLEI USA Action Fund เพื่อสร้างดัชนีความเปราะบางด้านพลังงานความร้อนที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งจะช่วยให้เมืองต่าง ๆ นับตั้งแต่เมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ทำการตัดสินใจอย่างเท่าเทียมกันเกี่ยวกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว ทั้งสององค์กรจะใช้เครื่องมือ Tree Canopy ของ Google ในการทำงาน 

นอกจากโครงการนี้แล้วทาง Google ก็สนับสนุนเกี่ยวกับเรื่องอุปกรณ์ไฟป่ากับองค์กรระดับชาติ American Forests อีกด้วย 

Tree Canopy เพิ่มความร่มเย็นด้วยพื้นที่สีเขียว

Tree Canopy by Google

นอกจากนี้ยังมีอีกฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจคือ Tree Canopy หรือพื้นที่สีเขียว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ Environmental Insights Explorer จากทาง Google ในการที่จะเพิ่มพื้นที่ให้ความเย็นตามหัวเมืองต่างๆ เพราะสาเหตุที่เกิดความร้อนหรือมีชื่อเรียกว่า “Heat Islands” เกิดจากมีพื้นที่สีเขียวน้อยลง แต่มีตึกและอาคารมากขึ้น ซึ่งวัสดุในการก่อสร้างตึกและอาคารจะก่อให้เกิดการดูดซับความร้อนแล้วระบายความร้อนออมาอีกที ทำให้อุณหภูมิในหลายๆ พื้นที่สูงขึ้นนั่นเอง และหลังจากฟีเจอร์นี้เปิดตัวออกไปผลลัพธ์ที่ได้คือมีพื้นที่ Tree Capony มากขึ้นจากเดิม 14 เมืองเป็น 350 เมืองทั่วโลก

แต่น่าเสียดายที่ในตอนนี้ประเทศไทยยังไม่สามารถใช้งาน Heat Wave ได้ในตอนนี้ แต่ในอนาคตจะมีการเปิดให้ใช้งานได้ทั่วโลกอย่างแน่นอน

ที่มา:  Google Blog

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

IT NEWS

Google เดินหน้าพัฒนา Google Translate อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประกาศเพิ่มฟีเจอร์ แปลเสียงพูดแบบเรียลไทม์ผ่านหูฟังทุกชนิด โดยใช้พลังของ Gemini AI รุ่นใหม่ ทำให้การสื่อสารข้ามภาษาเป็นเรื่องง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่จำเป็นต้องใช้หูฟังเฉพาะทางอีกต่อไป ขอแค่มีสมาร์ตโฟน Android กับหูฟังทั่วไป ก็สามารถใช้งานได้ทันที ฟีเจอร์ใหม่นี้เริ่มเปิดให้ใช้งานในรูปแบบเบต้าแล้วในบางประเทศ และถือเป็นก้าวสำคัญของ Google ในการยกระดับการแปลภาษา จากเดิมที่เน้นข้อความและเสียงแบบพื้นฐาน ไปสู่การแปลเสียงที่ “ฟังเป็นธรรมชาติ”...

IT NEWS

ก้าวใหม่ของยุค AI กับการเปิดตัว Gemini 3 Google ประกาศเปิดตัว Gemini 3 รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งบริษัทระบุว่าเป็นโมเดล AI ที่ “ฉลาดที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา” โดยเปิดให้ใช้งานในรูปแบบพรีวิวแล้ววันนี้บนแอป Gemini และในบางประเทศสามารถทดลองฟีเจอร์ขั้นสูงได้ในโหมด Advanced AI และบริการ Google AI Pro Gemini...

IT NEWS

Google ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยแบบฉุกเฉินให้กับเบราว์เซอร์ Chrome หลังตรวจพบว่าช่องโหว่ใหม่ล่าสุดถูกใช้โจมตีจริงบนอินเทอร์เน็ต โดยช่องโหว่นี้มีรหัส CVE-2025-13223 และถือเป็น Zero-day ตัวที่ 7 ของปี 2025 แล้วที่บริษัทต้องเร่งแพตช์ให้ทันทีเพื่อป้องกันการโจมตีแบบเจาะจงเป้าหมาย ช่องโหว่นี้เกิดจากอะไร? Google ระบุว่า ช่องโหว่ CVE-2025-13223 เป็นปัญหา Type Confusion ใน V8 JavaScript...

IT NEWS

Google เตรียมยกระดับมาตรฐานด้านคุณภาพและประสิทธิภาพการใช้งานบนระบบนิเวศ Android ด้วยการเพิ่มมาตรการใหม่บน Google Play Store เพื่อตรวจสอบแอปที่ทำงานเบื้องหลังมากเกินไปจนส่งผลให้แบตเตอรี่หมดเร็ว โดยหากแอปใดเข้าข่าย “ใช้ทรัพยากรเกินจำเป็น” ก็อาจถูกติดป้ายเตือนว่าเป็น “แอปกินแบต” และถูกลดโอกาสในการแสดงผลบนหน้าค้นหาหรือหน้าแนะนำแอปของ Google Play มาตรการใหม่นี้จะทำให้ผู้ใช้ Android ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น และกดดันให้นักพัฒนาต้องปรับปรุงการทำงานของแอปให้เหมาะสมขึ้นก่อนถึงเส้นตาย 1 มีนาคม 2026 Advertisement Android...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก