ในปัจจุบันยัง Microsoft ยังคงอัปเดต Windows 11 อยู่อย่างต่อเนื่อง (ปัจจุบันยังเหลืออัพเดท Moment 3, 4) แต่ก็มีข้อมูลเกี่ยวกับ Windows 12 ระบบปฏิบัติการใหม่ของทางบริษัทออกมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยมีชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า “Next Valley”
Panos Panay ผู้บริหารอาวุโสของ Microsoft ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ Windows 11 และรุ่นต่อไปในชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า “Next Valley” ว่าทางบริษัทจะเน้นการใช้งานระบบคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ให้มากขึ้น เพื่อความปลอดภัยทางบริษัทได้ยกเลิกระบบเก่า (Legacy component) ซึ่งเคยโดนโจมตีมาก่อนอย่าง MSDT และ VBScript ออกไปเพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตออกไปด้วย
รายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับ Windows 12
จากข้อมูลทั้งหมดซึ่งหลุดมาก่อนหน้านี้เกี่ยวกับ Windows 12 และถ้าอิงกับแพทช์เวอร์ชั่นใหม่ๆ จากทางบริษัท คาดว่าทาง Microsoft จะกลับไปใช้รูปแบบการเปิดตัวระบบปฏิบัติการราย 3 ปีอีกครั้ง (Three-year realease cycle) ซึ่งถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดนัก ระบบปฏิบัติการใหม่นี้จะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2024 นี้ก็เป็นไปได้
จากการคาดการณ์ของสื่อเยอรมันอย่าง Deskmodder คาดว่าจะอิงสเปคเดียวกันกับเวอร์ชั่นก่อนหน้ามาเป็นพื้นฐาน หากเป็นเช่นนั้นอาจต้องการสเปคดังนี้
- ซีพียูยังไม่ประกาศว่ารองรับตั้งแต่รุ่นไหน ถ้าอิง Windows 11 คาดว่าเป็น Intel 8th Gen หรือ AMD Ryzen 3000 Series ขึ้นไป
- ต้องมีชิป TPM 2.0 (อาจอนุโลมเป็นเฟิร์มแวร์ในเมนบอร์ดอย่าง fTPM 2.0)
- ชิป Microsoft Pluton security processor อาจมีหรือไม่มีก็ได้ (optional)
- จุดสังเกต คือ แรมขั้นต่ำอาจเพิ่มจาก 4GB เป็น 8GB
- ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ว่างของฮาร์ดดิสก์ว่าต้องการกี่ GB
นอกจากสเปคที่คาดการณ์เอาไว้ ทางสื่อต่างประเทศอย่าง Neowin คาดว่าทาง Microsoft อาจให้ผู้ใช้ติดตั้ง Windows ในฮาร์ดดิสก์แบบ SSD และอาจเปิดให้ผู้ใช้เลือกระบบไฟล์แบบ ReFS (Resilient File System) ได้ โดยคาดจากการที่ทาง Microsoft อัพเดทเวอร์ชั่นของ ReFS ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งข้อดีของ ReFS คือมีความเหนียวแน่นไฟล์สูงกว่า NTFS ซึ่งใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน ลดโอกาสระบบไฟล์พังได้ดีขึ้น และจุดสังเกตอื่นๆ คือ ทาง Microsoft ได้อัพเดทให้ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Build 25324 ให้รองรับ SHA-3 (Secure Hash Algorithm 3) ไปเมื่อเร็วๆ นี้ด้วย
ที่มา: Neowin