Connect with us

Hi, what are you looking for?

CONTENT

วิธีแก้ error 0x8007045d บน Windows 10/11

error 0x8007045d ปัญหาใหญ่ของระบบปฎิบัติการ Windows ที่ใครๆ ก็อาจจะเจอได้ มันคืออะไร? สาเหตุมาจากไหน? และจะแก้ปัญหาได้อย่างไร มาลองติดตามกัน

error 0x8007045d
error 0x8007045d ปัญหาข้อผิดพลาดสุดโหดที่คุณควรรู้

Windows เป็นระบบปฎิบัติการที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก แน่นอนว่าเป็นเรื่องปกติที่มันจะตามมาด้วยการพับเจอปัญหามากมาย บางข้อผิดพลาดผู้ใช้ก็ยังสามารถที่จะใช้งานระบบต่อไปได้ แต่บางข้อผิดพลาดก็อาจจะถึงขึ้นทำให้ระบบล่มจนสามารถใช้งานต่อเนื่องไม่ได้

ในวันนี้เราขอยกเอาอีกปัญหาหนึ่งอย่าง error 0x8007045d ที่ใครๆ ก็สามารถที่จะเจอกับปัญหานี้ได้(หรืออาจจะเคยเจอมาก่อนแล้ว) มาดูกันว่าเจ้า error 0x8007045d มันคืออะไร มีต้นเหตุมาจากไหน? พร้อมวิธีการแก้ไขเบื้องต้นที่คุณสามารถทำได้เองกัน จะเป็นเช่นไรนั้นไปติดตามกันได้เลย

Advertisement


Error 0x8007045d คืออะไร?

error 0x8007045d 1

error 0x8007045d หรือข้อผิดพลาด 0x8007045d เป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ใช้ Windows ที่สามารถพบกันได้ทุกคน โดยปกติิแล้วข้อผิดพลาดนี้มักเกิดขึ้นเมื่อคุณพยายามสำรองไฟล์(หรืออาจจะทั้งโฟลเดอร์) ด้วยอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก 

หากจะว่ากันไปแล้วข้อผิดพลาด 0x8007045d บน Windows นั้นสามารถที่จะเกิดขึ้นได้จาก 2 สาเหตุใหญ่ๆ คือ

  1. เกิดขึ้นเมื่อระบบปฏิบัติการของคุณไม่สามารถค้นหาหรืออ่านไฟล์ในคอมพิวเตอร์ของคุณได้
  2. เกิดขึ้นเมื่อระบบปฎิบัติการของคุณไม่สามารถที่จะทำการบันทึกไฟล์ลงไปในแหล่งเก็บข้อมูลที่คุณต้องการจัดเก็บได้

ต้นเหตุของปัญหา Error 0x8007045d

hard drive head damage

โดยปกติคุณจะพบข้อผิดพลาด 0x8007045d ขณะคัดลอกไฟล์เดียวหรือหลายไฟล์ผ่านแหล่งเก็บข้อมูลภายนอก ซึ่งโดยปกติแล้วจะเป็น USB Flash หรือแหล่งเก็บข้อมูลแบบ CD/DVD/Blu Ray ทว่าการเกิดขึ้นของข้อผิดพลาด 0x8007045d บน Windows 10 และ Windows 11 ที่พบได้มากที่สุดก็คือตามอที่ระบบปฎิบัติการกำลังทำการโหลดอัปเดต(หรือระหว่างการอัปเดท) ตัวระบบปฎิบัติการ Windows แต่อย่างไรก็ตามข้อผิดพลาดนี้ยังปรากฏขึ้นระหว่างการถ่ายโอนไฟล์ที่ผิดพลาดหรือการสำรองข้อมูลได้ด้วยอีกต่างหาก

ข้อผิดพลาดอาจปรากฏเป็นการแจ้งเตือนได้ดังต่อไปนี้

  • Windows cannot install the required files. Make sure all the files necessary for installation are available, and restart the installation. Error code: 0x8007045D
  • Error 0x8007045D: The request could not be performed because of an I/O device error.

ข้อผิดพลาด 0x8007045d ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเมื่อคอมพิวเตอร์ของคุณไม่สามารถค้นหาหรืออ่านไฟล์ของคุณได้ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณแรกที่บ่งบอกว่าแหล่งเก็บข้อมูลที่คุณทำการเก็บไฟล์นั้นอยู่อาจจะมีปัญหา หรือในบางกรณีเองนั้น ข้อผิดพลาด 0x8007045d อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้อีกเช่นซอฟต์แวร์ที่มีปัญหาระหว่างการติดตั้งหรือฮาร์ดแวร์อย่างแหล่งเก็บข้อมูลเกิดการเสียหาย ทั้งนี้อาการที่คุณจะพบได้ก็คือการไม่สามารถอ่านไฟล์หรือเกิดข้อผิดพลาดในการคัดลอกไฟล์เหล่านั้นในทุกๆ ครั้ง

หากจะให้พูดกันตรงๆ แล้วนั้นรหัสข้อผิดพลาด 0x8007045d มีสาเหตุหลายประการที่ทำให้ผู้ใช้เจอได้ซึ่งสามารถที่จะแยกออกมาได้ดังต่อไปนี้

  • Registry Editor เกิดความเสียหาย
  • ไฟล์ระบบปฎิบัติการหรือโปรแกรมเกิดความเสียหาย(บางไฟล์)
  • ไฟล์ที่คุณดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ตอาจจะเกิดข้อผิดพลาดขึ้นระหว่างการโหลด
  • แหล่งเก็บข้อมูลภายนอกของคุณอย่าง external hard drive, USB drive, CD, DVD หรือ Blu ray มีปัญหาซึ่งอาจจะเกิดขึ้นจากช่องเชื่อมต่อส่วนใหญ่คือ USB หรือตัวแหล่งเก็บข้อมูลนั้นๆ มีปัญหา(ตัวอย่างเช่นหากเป็นแผ่น CD/DVD นั้นก็อาจจะมาจากการที่ตัวแผ่นได้รับการเก็บรักษาไม่ดีจนทำให้เกิดรอยขึ้นทางด้านหลังของแผ่น)
  • หน่วยความจำของตัวเครื่อง(หรือ RAM) ของคุณอาจจะมีปัญหา
  • พอร์ต USB ที่คุณใช้ในการเชื่อมต่อมีปัญหา

ข้อผิดพลาด 0x8007045d เป็นเรื่องปกติและไม่มีผลกระทบระยะยาวกับคอมพิวเตอร์ของคุณ ดังนั้นเมื่อเกิดข้อผิดพลาดคุณต้องลองใช้วิธีการที่มีอยู่ทั้งหมดทีละวิธีจนกว่าจะแก้ไขได้

แต่หากคุณลองทุกวิธีการแล้วยังพบปัญหาเดิมอยู่นั่นอาจจะเป็นสัญญาณว่าเซ็กเตอร์ใน Hard disk ที่คุณใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คของคุณเกิดความเสียหาย ซึ่งการเสียหายนี้นั้นถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่มีผลเสียต่อความสมบูรณ์โดยรวมของไฟล์ทั้งหมดที่อยู่ใน Hard disk นั้นๆ ดังนั้นคุณควรสำรองไฟล์อื่นๆ ที่สำคัญทั้งหมดเอาไว้ที่อื่นแล้วรีบไปหาช่างที่คุณไว้ใจได้เพื่อเช็คอาการดูโดยด่วย


วิธีแก้ไขปัญหา Error 0x8007045d เบื้องต้นที่คุณทำได้

1. Restart Windows

Ewfvt

หากคุณพบข้อผิดพลาด 0x8007045d ให้ลองรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คของคุณเพื่อแก้ไขดูก่อนเป็นลำดับแรก  โดยทั่วไปแล้ววิธีการนี้ใช้ได้ผลเสมอกับปัญหาส่วนใหญ่ของ Windows ดังนั้นการรีสตาร์ท Windows จึงถือว่าเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดและสิ่งแรกที่คุณควรจะลองทำเมื่อเจอปัญหาใดๆ ก็ตามบนระบบปฎิบัติการ Windows

ทั้งนี้หากทำการรีสตาร์ทแล้วยังพบข้อผิดพลาดอยู่นั่นอาจจะหมายความว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณเริ่มมีปัญหาที่ใหญ่มากกว่าการที่ระบบปฎิบัติการ Windows ที่ได้รับการเริ่มต้นการทำงานใหม่ผ่านการรีสตาร์ทไม่สามารถช่วยได้เช่นเครื่องของคุณอาจจะมีข้อผิดพลาดของอุปกรณ์ I/O ให้คุณลองวิธีการต่อไป

2. ทำการอัปเดต Windows

windows update 1

วิธีการแก้ไขปัญหาที่ง่ายที่สุดรองลงมาที่คุณควรทำเป็นอย่างที่สองเลยก็คือลองทำการอัปเดทระบบปฎิบัติการ Windows ผ่านทาง Windows Update โดยตรง เพราะการอัปเดทระบบปฎิบัติการ Windows ในแต่ละครั้งนั้นจะมีการเขียนบันทึกไฟล์ระบบใหม่ลงไปด้วย สำหรับวิธีการนั้นให้คุณทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. กดปุ่ม Win + I เพื่อเปิด Windows Settings
  2. คลิกที่ Windows Update
  3. จากนั้นคลิกที่ Check for updates
  4. คลิกที่ Download & install เพื่อเสร็จสิ้นการติดตั้งระบบปฎิบัติการ Windows เวอร์ชันใหม่ที่ได้รับการอัปเดทและเพิ่มการแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆ

3. ลองใช้พอร์ต USB อื่น

usb flash drive ports latptop

จริงๆ แล้ววิธีการนี้ควรเป็นวิธีการแรก แต่ที่เรานำมาเอาไว้เป็นขั้นตอนที่ 3 นั้นก็เนื่องมาจากว่าหากคุณพบว่าพอร์ต USB ของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คมีปัญหานั่นเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าอาร์ดแวร์หลักของเครื่องอย่างเมนบอร์ดอาจจะเกิดข้อผิดพลาดซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุเอามากๆ ไม่ว่าจะเป็นเมนบอร์ดเสียหายเองหรือแหล่งจ่ายไฟมีปัญหา

และที่สำคัญเลยนั้นก็คือวิธีการนี้จะใช้งานได้เฉพาะก็ต่อเมื่อคุณเกิดข้อผิดพลาด 0x8007045d กับแหหล่งเก็บข้อมูลภายนอกที่เชื่อมต่อผ่าน USB เท่านั้น วิธีการก็คือให้คุณลองทำการเสียบแหล่งเก็บข้อมูลภายนอกเข้ากับพอร์ต USB อื่นที่มีอยู่ทั้งหมดบนคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คของคุณทีละพอร์ตๆ หากลองเปลี่ยนพอร์ต USB แล้วพบว่าพอร์ต USB ใหม่นั้นสามารถใช้งานได้โดยไม่พบข้อผิดพลาด 0x8007045d เราขอให้คุณทำการรีบสำรองข้อมูลให้หมดแล้วให้คุณนำเครื่องไปหาช่างที่เชี่ยวชาญที่คุณไว้ใจเพื่อทำการบอกปัญหาโดยด่วนเพื่อทำการตรวจสอบดูว่าปัญหาดังกล่าวนี้เกิดขึ้นจากฮาร์ดแวร์ของตัวเครื่องหรือไม่(ควรทำเป็นอย่างยิ่งหากเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คของคุณยังอยู่ในประกัน)

บางครั้งการใช้ USB HUB หรือตัวขยายพอร์ต USB ก็อาจจะก่อให้เกิดข้อผิดพลาด 0x8007045d นี้ขึ้นได้เช่นกันดังนั้นเพื่อไม่ประมาทคุณควรต่อแหล่งเก็บข้อมูลภายนอกกับพอร์ต USB ของคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คของคุณโดยตรงดู

4. ดาวน์โหลดไฟล์ที่ได้รับผลกระทบอีกครั้ง

asdasdasvv easfdsfsdf

หากข้อผิดพลาด 0x8007045d ปรากฏขึ้นขณะพยายามเปิดไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาจากทั้งอินเทอร์เน็ตหรือไฟล์ที่อยู่ใน Flash Drive เองแล้วนั้นบางทีปัญหาทั้งหมดอาจจะเกิดขึ้นจากความผิดพลาดระหว่างการดาวน์โหลดหรือบันทึกไฟล์ลงแหล่งเก็บข้อมูลนั้นๆ ซึ่งทำให้ไฟล์นั้นๆ ที่มีปัญหานี้ไม่สมบูรณ์ อันเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณเจอข้อผิดพลาด 0x8007045d ได้

หากเป็นกรณีนี้ วิธีที่ดีที่สุดคือดาวน์โหลดไฟล์ของคุณจากแหล่งเก็บข้อมูลต้นฉบับใหม่ โดยหากเป็นไปได้หากไฟล์ดังกล่าวนั้นเป็นไฟล์งานคุณควรลองเปิดไฟล์ดังกล่าวจากเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คที่เป็นแหล่งของต้นฉบับไฟล์นั้นดูก่อนว่าสามารถเปิดใช้งานได้ปกติหรือไม่(หากเป็นไฟล์ที่โหลดจากอินเทอร์เน็ตเราขอแนะนำให้คุณทำการดาวน์โหลดไฟล์นั้นใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง)

5. เรียกใช้ Hardware and Device Windows Troubleshooter

hardware and device

Microsoft ได้จัดทำเครื่องมือมากมายที่ช่วยให้คุณทำการแก้ไขข้อผิดพลาดเบื้องต้นต่างๆ บนระบบปฎิบัติการ Windows ได้ด้วยตัวของคุณเอง โดยตัว Hardware and Device troubleshooter นั้นจะทำการวินิจฉัยคอมพิวเตอร์ของคุณทั้งในส่วนของระบบไฟล์ของตัวระบบปฎิบัติการ(เช่น Driver) รวมถึงวินิจฉัยฮาร์ดแวร์ที่ทำการเชื่อมต่อที่มีปัญหาและสามารถที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเบื้องต้นบนคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คระบบปฎิบัติการ Windows ของคุณได้

สำหรับขึ้นตอนต่อไปนี้เราขอแนะนำให้คุณทำเมื่อคุณพบปัญหาข้อผิดพลาด 0x8007045d กับแหล่งเก็บข้อมูลภายนอก(อย่าง USB Flash, External Hard disk หรือแหล่งเก็บข้อมูลแบบ CD/DVD/Blu Ray) เนื่องจากเป็นไปได้ว่าข้อผิดพลาด 0x8007045d นั้นอาจเกิดจากฮาร์ดแวร์ของแหล่งเก็บข้อมูลภายนอกเอง วิธีการก็คือให้คุณเชื่อมต่อแหล่งเก็บข้อมูลที่พบข้อผิดพลาด 0x8007045d แล้วทำตามขั้นตอนดังนี้

  • ไปที่แถบค้นหา(ไอคอนแว่นขยาย) ที่ Start พิมพ์ ‘cmd’ แล้วเลือก Command Prompt
  • จากนั้นให้ทำการพิมพ์คำสั่งต่อไปนี้แล้วกด Enter (หรือจะคัดลอกไปวางเลยก็ได้)

msdt.exe -id DeviceDiagnostic

Windows จะทำการเด้งหน้าจอ นี่Hardware and Devices ขึ้นมาจากนั้นให้คุณทำการเลือก Next แล้วตัวซอฟต์แวร์จะเริ่มสแกน Windows ของคุณเพื่อหาปัญหา ทันทีที่พบข้อผิดพลาดเครื่องมือจะแก้ไขทันทีโดยอัตโนมัติ หลังจากเสร็จสิ้นให้ลองตรวจสอบดูว่าข้อผิดพลาด 0x8007045d ยังคงอยู่หรือไม่

6. ปิดใช้งานซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและไฟร์วอลล์

ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสขึ้นชื่อเรื่องการแทรกแซงการอัปเดตและการติดตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณพยายามสำรองข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับระบบปฎิบัติการของซึ่งในที่สุดอาจจะก่อให้เกิดข้อผิดพลาด 0x8007045d ขึ้นมาได้อันเนื่องมาจากว่าไฟล์ดังกล่าวนั้นๆ ไม่สามารถที่จะบนทึกลงไปในแหล่งเก็บข้อมูลหลักของคุณได้

หากคุณคิดว่าข้อผิดพลาด 0x8007045d เกิดปัญหาขึ้นจากซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสหรือไฟร์วอลล์นี้ให้คุณลองปิดการทำงานของซอฟ์ตแวร์ป้องกันไวรัส(ที่คุณใช้)ดูแล้วตามด้วยการปิดไฟร์วอลล์ดังวิธีการต่อไปนี้

ขอให้คุณตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่าไฟล์ที่เกิดข้อผิดพลาด 0x8007045d นั้นไม่ได้ติดไวรัสก่อนที่คุณจะดำเนินการใดๆ ต่อไป

error 0x8007045d 5
  • เปิด Control Panel จากนั้นมองหาและคลิกที่ Windows Defender Firewall
error 0x8007045d 6
  • คลิกตัวเลือก Turn Windows Defender Firewall on or off เพื่อดำเนินการต่อ
error 0x8007045d 7
  • ทำเครื่องหมายที่ตัวเลือก Turn off Windows Defender Firewall ในการตั้งค่าเครือข่ายส่วนตัว และคลิก OK เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง

หลังจากปิดใช้งานซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและไฟร์วอลล์แล้ว ให้ตรวจสอบว่าข้อผิดพลาด 0x8007045d Windows ได้รับการแก้ไขแล้วหรือไม่ หากข้อผิดพลาดยังคงอยู่ ให้เปิดใช้งานโปรแกรมป้องกันไวรัสและไฟร์วอลล์กลับเพื่อป้องกันคอมพิวเตอร์ของคุณจากการถูกโจมตีจากนั้นลองใช้วิธีอื่นต่อไป

7. บูตคอมพิวเตอร์เพื่อเข้าใช้งานผ่าน Safe Mode

ในกรณีที่คุณไม่สามารถปิดปิดการทำงานของซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยได้(ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม) การเข้าสู่ Safe Mode เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาทำเพื่อทำการทดสอบดูว่าข้อผิดพลาด 0x8007045d นั้นจะเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะ Safe Mode นี้รันโปรแกรมและบริการต่างๆ ของระบบปฎิบัติการ Windows และซอฟต์แวร์ที่คุณติดตั้งน้อยที่สุด สำหรับวิธีการเข้าสู่ Safe Mode นั้นให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

error 0x8007045d 8
  1. เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของคุณด้วยผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบ
  2. คลิก Start แล้วเปิด Run พิมพ์ msconfig ตามด้วยกด Enter
  3. คลิกปุ่ม Boot ในแอปเพล็ต Systems Configuration จากนั้นคลิก Safe Boot แล้วเลือกตัวเลือก Minimal จากนั้นให้คลิก OK เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง
  4. คลิกปุ่ม Restart เพื่อรีบูตระบบของคุณในหน้าต่างป๊อปอัป จากนั้นตรวจสอบว่าข้อผิดพลาด 0x8007045d Windows ได้รับการแก้ไขแล้วหรือไม่

8. ลองทำการ Update Driver ของแหล่งเก็บข้อมูลที่มีปัญหา

device manager 1

เอาจริงๆ แล้วนั้นข้อผิดพลาด 0x8007045d นั้นมักจะไม่ค่อยมีสาเหตุมาจากข้อผิดพลาดของไดรเวอร์แหล่งเก็บข้อมูลสักเท่าไรนัก แต่ก็มีความเป็นไปได้อยู่เช่นเดียวกันว่าไดรเวอร์ของแหล่งเก็บข้อมูลอาจจะเกิดความเสียหายขึ้นโดยที่คุณไม่รู้ตัว ดังนั้นหากมีปัญหากับไดรเวอร์ CD/DVD หรือแหล่งเก็บข้อมูลที่ใช้การเชื่อมต่อแบบ USB ให้คุณลองทำการอัปเดทไดร์เวอร์ของมั้นดูโดยทำการขึ้นตอนต่อไปนี้

  1. ไปที่แถบค้นหา(ไอคอนรูปแว่นขยาย) ของ Start menu พิมพ์ ‘device manager’ แล้วคลิกเลือกเพื่อเปิด
  2. ใน Device manager ให้ไปที่ DVD/USB Drivers จากนั้นคลิกขวาที่ไดรเวอร์นั้น
  3. เลือก Update driver เพื่อเริ่มอัปเดตไดรเวอร์ของคุณ

ตัวช่วยทำการอัปเดตจะเปิดขึ้นมา ให้คุณเลือกตัวเลือก Search automatically for drivers เมื่อเสร็จสิ้นให้ลองดูว่าข้อผิดพลาด 0x8007045d ถูกแก้ไขไปแล้วหรือยัง

9. ตรวจสอบไดรฟ์

9192e0aa 120d 91d6 131f b5f2f604819b

ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่เราไม่อยากให้คุณได้พบเจอนั่นก็คือการเสียหายของเซกเตอร์บนพื้แหล่งเก็บข้อมูลหลักของคุณซึ่งหากคุณเจอกับปัญหานี้จริงข้อผิดพลาด 0x8007045d ก็อาจจะเกิดขึ้นกับคุณได้ โชคดีที่คุณสามารถใช้การตรวจสอบไดรฟ์เพื่อทำการค้นหาเซกเตอร์เสียของแหล่งเก็บข้อมูลได้โดยให้เปิด My Computer เลือกไปที่ไดรฟ์ที่คุณต้องการจัดเก็บข้อมูล(ที่มีปัญหาข้อผิดพลาด 0x8007045d) แล้วคลิกขวาจากนั้นเลือก Properties แล้วเลือกไปที่แท็บ Tools จากนั้นตรง Error-checking ให้เลือก Check now แล้วรอดูว่าระบบแจ้งว่ามีข้อผิดพลาดกับไดวฟ์ที่จะจัดเก็บข้อมูลของคุณหรือไม่

หากคุณเจอแจ้งเตือนว่าพบปัญหาเราขอแนะนำให้รีบสำรองข้อมูลของคุณลงไดรฟ์อื่นให้หมดแล้วรีบนำเครื่องคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คของคุณไปหาช่างผู้เชี่ยวชาญโดยด่วนเพราะนี้อาจจะเป็นสัญญาณว่าแหล่งเก็บข้อมูลหลักของคุณเกิดปัญหาขึ้นแล้ว

หากตัวขั้นตอนทางด้านบนตรวจไม่พบแต่คุณก็ยังเจอปัญหาข้อผิดพลาด 0x8007045d อยู่ตลอดเวลาเราอยากให้คุณลองใช้ฟีเจอร์ Surface Test ของ MiniTool Partition Wizard ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ฟรีที่จะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบการเสียหายของเซกเตอร์บนแหล่งเก็บข้อมูลหลักได้อย่างง่ายดาย (นอกไปจากนั้นยังมีฟีเจอร์เด่นๆ ที่ช่วยจัดการแหล่งเก็บข้อมูลได้อีกเช่น Format Partition, Data Recovery, Check File System, Disk Benchmark และอื่นๆ) หลังจากดาวน์โหลดและติดตั้ง MiniTool Partition Wizard Free Edition ลงในคอมพิวเตอร์ของคุณ ให้เปิดใช้งานโปรแกรมแล้วทำตามขั้นตอนด้านล่างต่อไปนี้

error 0x8007045d 2
  • เลือกไดรฟ์เป้าหมาย จากนั้นคลิก Surface Test ในแผงการทำงานด้านซ้าย
error 0x8007045d 3
  • คลิกปุ่ม Start Now เพื่อเริ่มการสแกน จากนั้นรอให้กระบวนการสแกนเสร็จสิ้นอย่างใจเย็น(เพราะการทำงานนี้จะใช้เวลามากน้อยตามขนาดพื้นที่ทั้งหมดของไดรฟ์ที่คุณทำการสแกน) หากผลการสแกนเป็นสีแดง แสดงว่ามีเซกเตอร์เสียในไดรฟ์และคุณจำเป็นต้องซ่อมแซมแหล่งเก็บข้อมูลนั้นอย่างเร่งด่วนโดยการนำเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน๊ตบุ๊คไปหาผู้เชี่ยวชาญพร้อมบอกปัญหา หากไม่มีเซกเตอร์เสียในไดรฟ์คุณควรตรวจสอบที่อื่นเพื่อหาต้นตอของข้อผิดพลาด

10. ลดขนาด Hard Drive

error 0x8007045d 4

สำหรับผู้ที่พบข้อผิดพลาด 0x8007045d เมื่อคัดลอก/ถ่ายโอนข้อมูลไปยังอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก การลดขนาดฮาร์ดไดรฟ์อาจจะมีผลทำให้ข้อผิดพลาด 0x8007045d หายไปได้

ก่อนลดขนาดฮาร์ดไดรฟ์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีสิทธิ์ระดับผู้ดูแลระบบและควรมั่นใจว่าคุณรู้จักขั้นตอนดังกล่าวนี้ดี หากคุณไม่มั่นใจแล้วอย่าทำขั้นตอนนี้เพราะอาจก่อให้เกิดความผิดพลาดกับไฟล์ที่อยู่ในไดรฟ์ไฟล์อื่นๆ ได้

หากคุณมั่นใจว่าคุณแกร่งพอให้คุณทำตามวิธีการข้างล่างต่อไปนี้

  1. พิมพ์ control panel ในช่องค้นหา จากนั้นคลิกที่ Control Panel จากผลการค้นหาเพื่อเปิด
  2. คลิกที่ตัวเลือก System and Security ใน Control Panel เพื่อดำเนินการต่อ
  3. ในหน้า System and Security คลิก Create and format hard disk partitions เพื่อดำเนินการต่อ
  4. จากนั้น Disk Management จะเปิดขึ้น คลิกขวาที่ไดรฟ์ที่คุณต้องการลดขนาด จากนั้นเลือกตัวเลือก Shrink Volume จากรายการ จากนั้นการดำเนินการจะเสร็จสิ้นโดยอัตโนมัติ

11. ถ่ายโอนไฟล์ผ่านคลาวด์

02 secure file transfer

หากคุณไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ผ่านแหล่งเก็บข้อมูลภายนอกได้เลยหลังจากที่ลองทุกอย่างแล้ว แหล่งเก็บข้อมูลภายนอกนั้นๆ ของคุณอาจเสียหายทางกายภาพอย่างรุ่นแรงจนไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ทางเลือกที่ดีที่สุดหากคุณรีบแล้วล่ะก็เราขอแนะนำให้คุณส่งไฟล์ไปยังคอมพิวเตอร์ของคุณผ่าน Cloud Service เช่น Google Drive, Dropbox หรือ One Drive แทนด้วยวิธีนี้ คุณจะข้อผิดพลาดดังกล่าว(แต่ต้องมั่นใจว่าไฟล์ต้นฉบับของคุณไม่มีปัญหาเท่านั้นนะ)


สรุป

อย่างที่เราบอกไปในตอนต้นว่าข้อผิดพลาด 0x8007045d นั้นเป็นข้อผิดพลาดที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเวลาที่เกิดและต้นเหตุของปัญหานั้นอาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ดังนั้นแล้วเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้คุณควรรักษาแหล่งเก็บข้อมูลภายนอกที่คุณใช้ในการโอนถ่ายไฟล์สำหรับการทำงานต่างๆ ให้ดี การเก็บไฟล์ไว้บนระบบ Cloud ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยรักษาข้อมูลที่สำคัญให้กับคุณได้(แต่อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากคุณต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลปริมาณมาก)

ทั้งนี้เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับข้อผิดพลาด 0x8007045d ได้

ที่มา : lifewire, makeuseof, partitionwizard

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

CONTENT

10 วิธีแก้คอมช้า เพิ่มความเร็วให้คอมเก่า Windows 10, 11 Speed up ทำเองได้ เล่นเกมลื่นขึ้น 10 วิธีแก้คอมช้า ที่นำไปลองทำเองได้ในช่วงปลายปี 2025 นี้ เพิ่มความเร็วคอมเครื่องเก่าได้ทั้ง Windows 10 และ Windows 11 เล่นลื่นกว่าเดิม ไม่ต้องโอเวอร์คล็อก ไม่ต้องปรับแต่งให้ยุ่งยาก...

Accessories review

ถ้าคุณเป็นครีเอเตอร์ Lexar Portable SSD SL400 คือไอเท็มสำคัญควรมีติดกระเป๋า! ในวงการหน่วยความจำแล้ว Lexar ก็เป็นผู้ผลิตหน่วยความจำระดับโลกซึ่งมีสินค้าหลากหลายแบบให้เลือกใช้ เช่น Lexar Portable SSD SL400 สำหรับครีเอเตอร์ยุคใหม่เจ้าของ iPhone 15 Pro และ 16 Pro Series ได้ถ่ายคลิปเก็บไอเดียสร้างสรรค์ไว้ทำงานต่อได้หรือพกคู่มือถือ Android...

Buyer's Guide

คอม All in One 7 รุ่นเด็ด จอใหญ่ ดีไซน์สวย สเปคดี ซีพียูแรง แรม 16GB พร้อม Windows 11 เน้นทำงานและความบันเทิง คอม All in One หรือ ออลอินวันพีซี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพีซีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมตั้งโต๊ะ แต่ประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า...

CONTENT

พบกับ 7 วิธีแก้ปัญหาหน้าจอมือถือมีอาการแสดงภาพบนหน้าจอแล้วกระพริบ(Flickering) อยู่ตลอดเวลา วิธีเบื้องต้นที่คุณสามารถทำเองได้ Flicker คืออาการที่ไฟส่องแสงออกมาไม่สม่ำเสมอ มีทั้งช่วงที่แสงจ้าและช่วงที่แสงอ่อน แต่ตาของคนเราอาจจะรับรู้ความแตกต่างได้ไม่มากนัก ซึ่งหากใช้ชีวิตอยู่กับแสงที่มี flicker เป็นเวลานาน ก็ออาจทำให้ปวดตา หรือตาอ่อนล้าได้ หน้าจอ iPhone หรือโทรศัพท์ Android ของคุณมีอาการหน้าจอกระพริบหรือ Flickering รึเปล่า หากเป็นเช่นนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกหรือสิ้นหวังอีกต่อไป เพราะในบทความเคล็ดลับบางประการที่คุณสามารถลองหยุดหน้าจอโทรศัพท์ไม่ให้กะพริบได้...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก