Connect with us

Hi, what are you looking for?

CONTENT

จัดอันดับ Windows จากแย่ไปดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา

Windows ระบบปฎิบัติการที่มีผู้ใช้มากที่สุดจาก Microsoft มีอายุมาอย่างยาวนานและมีออกมาให้ใช้หลายเวอร์ชั่น มาดูกันดีกว่าว่านับตั้งแต่ Y2K มาเราผ่าน Windows อะไรกันมาบ้าง

Windows
จัดอันดับ Windows ตั้งแต่ Y2K

เชื่อไหมว่าคุณสามารถบอกอายุของคนอื่นๆ ได้ด้วยการถามว่า Windows เวอร์ชันใดที่พวกเขาชื่นชอบ เพราะ Windows นั้นอยู่กับวงการคอมพิวเตอร์มาอย่างยาวนานและยังไม่จางหายไปได้อย่างง่ายๆ ในขณะที่หลายๆ คนอาจจะบอกว่า Windows นั้นเหมือนจะไร้คู่แข่ง แต่จริงๆ แล้ว Windows นี่แหละที่แข่งกันเองภายใน Microsoft

การจัดอันดับเวอร์ชันต่างๆ ของ Windows นั้นเป็นมากกว่ายุคของคอมพิวเตอร์ที่คุณเติบโตมา มีบางอย่างที่เป็นความผิดร้ายแรงมากในบางระบบปฎิบัติการ Windows ของ Microsoft เช่นเดียวกับที่มีสุดยอดแห่งระบบปฎิบัติการรวมอยู่ด้วยเช่นกัน แต่ไม่ว่าคุณจะมองย้อนกลับไปถึงการเปิดตัวครั้งร้ายแรงของ Microsoft ด้วยสายตาอย่างไรก็ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า Windows นั้นเกือบจะเป็นของตายสำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ PC ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Advertisement

จะยังไงก็แล้วแต่นี่คือ Windows ทุกเวอร์ชันที่จัดอันดับจากดีที่สุดไปหาแย่ที่สุดนับตั้งแต่ในยุค Y2K เป็นต้นมา มาดูกันว่าอันดับที่เรายกมานั้นจะตรงใจคุณไหม



Windows 8 (2012)

windows8 01
ติดตั้งผ่านทาง(ตามมาตรฐานของ Microsoft)DVD 8GB, USB Flash drive และ Windows Update
พื้นที่แหล่งเก็บข้อมูลที่ใช้หลังติดตั้ง20GB

จาก Windows 7 ที่สวยงาม, ประสบความสำเร็จและเป็นที่รักของผู้ใช้ Microsoft ทำในสิ่งที่แทบจะอภัยให้ไม่ได้นั่นก็คือทำทุกอย่างให้พังใน Windows 8 ด้วยการก้าวพลาดที่เห็นได้ชัดของ Windows 8 ซึ่งมันทำให้เข้าใจถึงปัญหาหลังเหตุการณ์ต้นปี 2010 ได้เป็นอย่างดีว่าช่วงนั้นเป็นเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการไอที แถมการเปลี่ยนแปลงครั้งนั้นก็รวดเร็วสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจากความสำเร็จของการมาถึงของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต(โดยเฉพาะ iPhone และ iPad) ทุกอย่างจำเป็นต้องมีหน้าจอสัมผัส ทำให้ Microsoft มองไปที่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของธุรกิจซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของ Apple โดยเฉพาะ App Store และกล่าวว่า “เราต้องการสิ่งนั้น” บ้างเช่นเดียวกัน

จากเหตุผลข้างต้นทำให้ Windows เวอร์ชันที่แย่ที่สุดถือกำเนิดขึ้น Windows 8 เป็นระบบปฏิบัติการที่สร้างขึ้นสำหรับทั้งเดสก์ท็อปและโน๊ตบุ๊คแบบจอสัมผัสที่ไม่ได้เก่งในด้านใดด้านหนึ่ง มันเป็นระบบปฏิบัติการที่ต้องการการควบคุม(และขาย) แอปพลิเคชันทั้งหมดผ่าน Microsoft Store ที่เป็นของใหม่ ซึ่งพอทำออกมาแล้วกลับกลายเป็นว่าสร้างประสบการณ์ในการใช้งานที่เลวร้ายที่สุดให้กับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในยุคนั้นได้ออกมาบ่นกันในวงกว้าง

ถึงแม้ Microsoft พยายามแก้ปัญหา UI ที่เลวร้ายที่สุดของ Windows 8 ด้วยการเปิดตัว Windows 8.1 ในปี 2013 ด้วยการใช้วิธี backpedaling เพื่อนำปุ่ม Start ของแถบงานกลับมาให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ใช้กัน การกระทำดังกล่าวนั้นทำให้ Windows 8.1 ใช้งานได้ดีมากขึ้น แต่ก็ยังเป็นการผสมผสานระหว่างอินเทอร์เฟซเดสก์ท็อปและแท็บเล็ตที่น่าอึดอัดใจในความคิดของใครหลายๆ คน

ผลของความเลวร้ายในครั้งนี้เห็นได้จากตอนที่ทาง NetMarketshare ได้เผยส่วนแบ่งในตลาดของ Windows ในช่วงปี 2015 ก่อนที่ Windows 10 จะวางจำหน่ายซึ่งพบว่า Windows 8 และ Windows 8.1 รวมกันมีส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์พีซีเพียง 14% ในขณะที่ Windows 10 สามารถที่จะผ่าน 14% ได้ภายในหนึ่งปีเท่านั้น


Windows Me (2000)

windowsme01
ติดตั้งผ่านทาง(ตามมาตรฐานของ Microsoft)1 CD-ROM
พื้นที่แหล่งเก็บข้อมูลที่ใช้หลังติดตั้ง320MB

มันไม่ใช่สัญญาณที่ดีแน่ๆ เมื่อ Windows เวอร์ชันหนึ่งมีอายุการใช้งานน้อยกว่าหนึ่งปีซึ่งแน่นอนว่าทาง Microsoft ได้เจอกับสัญญาณนั้นผ่านทาง Windows Millennium Edition ที่ชื่อของมันควรจะเป็นการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่อย่างสมบูรณ์ทว่าในความเป็นจริงแล้วมันกลับเป็นระบบปฎิบัติการที่ล้าสมัยอย่างแท้จริงไม่เหมาะสมกับยุค 2000 เลยแม้แต่น้อย ซึ่งที่ทำให้เห็นว่า Windows ME ก้าวเข้าสู่ปี 2000 อย่างแท้จริงคงอาจจะมีแค่ซีดีการติดตั้งที่เป็นโฮโลแกรมเพียงเท่านั้น

Windows ME ถูกกำหนดให้เป็นตัวตายตัวแทนของ Windows 95/98 แต่มันล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ที่มันรวบรวมข้อบกพร่องและปัญหาทั้งหมดของ Windows 95 / 98 เข้าด้วยกันจนผู้ใช้ต้องเจอกับหน้าต่างแสดงข้อผิดพลาดเวลาที่ใช้งานอยู่บ่อยๆ

ในทางปฏิบัติดูเหมือนว่าจะ Windows ME จะเหมือนกับ Windows 98 แบบแยกกันไม่ได้เพราะมันไม่มีฟีเจอร์ใหม่ใดที่เปิดตัวมาชดเชยความไม่เสถียรที่น่าอับอายของ Windows 98 ได้มากนัก นอกไปจากนั้น Windows ME ยังกลับทำให้ Windows 95 ดูเสถียรขึ้นมาเป็นอย่างมากเลยทีเดียวหากเอามาเทียบกัน

บางทีความเลวร้ายที่ร้ายแรงที่สุดที่ Windows ME กระทำคือการจำกัดการเข้าถึงของผู้ใช้ไปยัง DOS จริงๆ แล้วสิ่งนี้อาจจะพอเข้าใจได้เพราะ Windows ME เป็นระบบปฏิบัติการ Windows สุดท้ายที่สร้างขึ้นจาก DOS โดยทาง Microsoft เองต้องการที่จะให้ผู้ใช้ได้เห็นว่าทาง Microsoft มีความต้องการในการอัปเกรดระบบ UI ให้มาเป็น Windows ทั้งหมด แต่ในการใช้งานจริงนั้นผู้ใช้เองก็ยังคงเรียกร้องหาหนทางที่จะเข้าถึง Dos อยู่ดีอันเนื่องมาจากความเคยชินในการใช้งานเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ดีกว่าระบบ UI ที่ Windows Me มี

โชคยังดีที่ทาง Microsoft ก็จัดการแก้เกมได้ทันด้วย Windows XP ที่มาพร้อมกับเสียงตอบรับแบบโครมครามในอีกหนึ่งปีต่อมาซึ่งถือว่าเป็นการตอกตะปูฝาโลงให้กับ Windows ME ไปในทันที


Windows Vista (2006)

CFSAaWcQHkojeeCdg7VFHm 970 80
ติดตั้งผ่านทาง(ตามมาตรฐานของ Microsoft)1 DVD
พื้นที่แหล่งเก็บข้อมูลที่ใช้หลังติดตั้ง20GB

ทุกวันนี้หากมองย้อนกลับไปที่ Vista แล้วหลายๆ คนอาจจะมองมันด้วยความเห็นอกเห็นใจ เพราะจริงๆ แล้ว Vista ไม่สมควรได้รับคำวิจารณ์แย่ๆ เลย แต่ก็นั่นแหละช่วงที่มันออกวางจำหน่ายให้ผู้คนได้ใช้งานนั้นมันกลับได้รับแต่คำวิจารณ์แย่ๆ อยู่ตลอด

Windows Vista มีปัญหาด้านประสิทธิภาพที่ไม่น่าให้อภัยในช่วงเริ่มต้นกางวางจำหน่ายเพราะ Vista นั้นต้องการฮาร์ดแวร์ระบบมากกว่า Windows XP เป็นอย่างมากและบางระบบ(ฮาร์ดแวร์) ที่ได้รับการขนานนามว่าสามารถใช้งาน Vista ได้นั้นจริงๆ แล้วก็ยังไม่สามารถใช้งานได้อย่างที่ควรจะเป็น(หรือจะทำได้ก็ต่อเมื่อคุณปิดกราฟิกที่สวยงามทั้งหมดเช่น เอฟเฟ็กต์ความโปร่งแสงของ Aero รวมถึงการแสดงภาพพื้นหลังแบบเคลื่อนไหวที่น่าประทับใจแต่ใช้หน่วยความจำมากแบบสุดๆ)

Vista เป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่ของระบบปฏิบัติการที่มาจาก XP เพราะ Vista ต้องการไดรเวอร์ใหม่ทั้งหมดแถมไดรเวอร์ใหม่นั้นๆ ก็ยังถูกปล่อยออกมาช้า นั่นหมายความว่าฮาร์ดแวร์บางตัวอาจใช้งานไม่ได้กับ Vista(ในช่วงแรก) และหลายเกมทำงานได้แย่กว่า XP ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้ Vista เปิดตัวได้แย่มาก(อันเป็นเหตุผลว่าทำไม Vista ถึงโดนวิจารณ์แย่ๆ แบบหนักหน่วงในช่วงแรก)

ป๊อปอัปการควบคุมบัญชีผู้ใช้(UAC) คือสิ่งยอดเยี่ยมที่ทาง Microsoft พยายามเสนอ ทว่าในทางปฏิบัติผู้ใช้เกือบทุกคนเกลียดมันและไม่มีใครเข้าใจว่าเหตุใด Vista จึงครอบครองหน้าจอทั้งหมดของผู้ใช้เพื่อเตือนคุณทุกครั้งที่คุณพยายามเปลี่ยนการตั้งค่าในแผงควบคุมหรือเปิดโปรแกรม(ระบบนี้ยังมีมาจนถึงปัจจุบันแต่ทว่าหลังจาก Vista มานั้นผู้ใช้สามารถที่จะปรับการตั้งค่าดังกล่าวนี้ได้เอง)

ภายใต้ข้อบกพร่องที่เห็นได้ชัดเหล่านี้อันที่จริง Vista ได้แนะนำคุณสมบัติใหม่จำนวนมากและดูล้ำสมัยเมื่อเอาไปเทียบกับ XP มันยกเครื่องแทบทุกระบบของ Windows จาก XP ทำให้ตัว Vista เองเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ แต่เพื่อที่จะให้ได้ในสิ่งที่ใหม่มากขึ้นกว่าเดิมนั้นผู้ใช้ต้องทนกับเกมที่แย่ลง, เครื่องพิมพ์ไม่ทำงานและป๊อปอัปรบกวนคุณตลอดเวลาก็เท่านั้น

สิ่งที่ดีที่สุดที่สามารถพูดได้สำหรับ Vista คือการปรับปรุงพื้นฐานส่วนใหญ่ถูกนำกลับมาแทบไม่เปลี่ยนแปลงใน Windows 7 เพียงไม่กี่ปีต่อมา แถม Windows 7 ก็ได้รับการตอบรับที่ดีโดยยังคงมีคนใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน


Windows 98 (1998)

VPFbBEpSEXsZXhzLgtPWma 970 80
ติดตั้งผ่านทาง(ตามมาตรฐานของ Microsoft)1 CD-ROM หรือ 38 floppy disks
พื้นที่แหล่งเก็บข้อมูลที่ใช้หลังติดตั้ง255MB

Windows 98 มาถึงพร้อมกับการเปิดตัว Internet Explorer และพัฒนาเป็นเวอร์ชัน 4.0

ย้อนกลับไปในปี 1995 Microsoft เพิ่งเริ่มเข้าใจว่าอินเทอร์เน็ตอาจเป็นสิ่งที่จำเป็นจริงๆ สำหรับการใช้งานคอมพิวเตอร์พีซีในครัวเรือน ทว่าทาง Microsoft ก็ไม่สามารถทำให้ Internet Explorer เสร็จทันเวลาที่จะเปิดตัวพร้อมกับ Windows 95 ได้ พอมาถึงภายในปี 1998 อินเทอร์เน็ตกลายเป็นส่วนสำคัญของระบบปฏิบัติไปเป็นที่เรียบร้อยด้วยการที่ทาง Microsoft ได้ฝัง IE เข้ากับตัวระบบปฎิบัติการโดยตรง(ซึ่งมันดันกลายเป็นแรงผลักดันให้เกิดคดีต่อต้านการผูกขาดครั้งใหญ่ที่ Microsoft ต้องเผชิญ) อย่างไรก็ตาม Windows 98 โดยรวมได้รับการออกแบบมาให้ดีขึ้นสำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะ

Windows 98 ดูค่อนข้างเหมือนกันกับ Windows 95 ทว่ามันมีการแนะนำคุณสมบัติที่สำคัญบางอย่างเพิ่มขึ้นเช่นโมดูลไดรเวอร์ Windows และการรองรับ USB ที่ดีกว่า นอกจากนั้นหลังจากที่ Windows 98 Second Edition ของปี 1999 ถูกปล่อยออกมามันก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า Windows 98 ได้รับการปรับปรุงให้เป็นระบบปฏิบัติการที่ดียิ่งขึ้น

หากมองย้อนกลับไปแล้ว Windows 98 คือรุ่นอัปเดทที่เพียงแค่มีการปรับปรุงเฉพาะในส่วนของระบบต่างๆ ของตัวระบบปฎิบัติการจาก Windows 95 เท่านั้น ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าในความเป็นจริงแล้ว Windows 98 ไม่ได้แปลกใหม่ไปจาก Windows 95 เลยนอกเหนือไปจากการอัปเกรดที่สำคัญสำหรับส่วนของระบบเพื่อที่จะทำให้ระบบปฎิบัติการ Windows สามารถแข่งขันได้รวมถึงการยกระดับการเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์รุ่นล่าสุดในตลาดซึ่งช่วงเวลานั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเป็นอย่างมาก


Windows 11 (2021)

windows 11 sunrise theme
ติดตั้งผ่านทาง(ตามมาตรฐานของ Microsoft)DVD 8GB, USB Flash drive และ Windows Update
พื้นที่แหล่งเก็บข้อมูลที่ใช้หลังติดตั้ง25GB

น้องใหม่ล่าสุดในกลุ่มนี้มีอะไรให้พิสูจน์อีกมาก อย่างไรก็ตามปฎิเสธไม่ได้เลยว่า Windows 11 อาจมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับ Windows 8 อยู่ในด้านของการเป็น ระบบปฎิบัติการที่ทาง Microsoft พยายามยก UI ใหม่มานำเสนอ แต่หากมองกันจริงๆ แล้วก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า Windows 11 นั้นยังคงเอา UI ของ Windows 10  มาใช้งานเป็นหลักอยู่

สิ่งที่ Microsoft พยายามนำเสนอเป็นอย่างมากใน Windows 11 ก็คือการพยายามนำเอาอินเทอร์เฟซ Windows 7 ที่เป็นของเก่าไปแล้วบางส่วนออกและพยายามทำให้ประสบการณ์โดยรวมในการใช้งานมีความเป็นหนึ่งเดียวกันและน่าดึงดูดยิ่งขึ้นโดยหยิบยืมเอฟเฟกต์ความโปร่งใสจากคู่แข่ง Windows บางราย(ที่เราจะขอไม่กล่าวถึงในบทความนี้) มาใช้งาน เหนือสิ่งอื่นใดก็คือทาง Microsoft ยังคงเห็นใจผู้ใช้รุ่นเก๋าด้วยการอนุญาติให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้เดสก์ท็อปหลายเวอร์ชันของ Windows อย่าง Windows 7 และ Windows 10 มาใช้งานได้ แถม Microsoft ยังยกระดับมากขึ้นด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการแบ่งส่วนหน้าจอรวมเข้ามาใน Windows 11 ให้ผู้ใช้ได้ใช้งานกันได้ด้วยอีกต่างหาก

แอปพลิเคชัน Android มีการรองรับ Windows 11 แบบเนทีฟ ทำให้ Windows 11 มีความเข้าใกล้กับ Chrome OS มากขึ้นและแม้ว่า Microsoft Store จะไม่ได้ถูกเร่งรีบหรือบีบบังคับให้ผู้ใช้ต้องใช้งานมากนักใน Windows 11(ไม่เหมือนสมัย Windows 8) ทว่าทาง Microsoft ก็ขยายขอบเขตของ Store ของตัวเองด้วยการสนับสนุนแอปพลิเคชัน Win32 เช่น Epic Games Store และ Firefox ซึ่งผู้ใช้สามารถที่จะติดตั้งได้โดยตรงจาก Store ของทาง Microsoft แล้ว

อย่างไรก็ตามปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Windows 10 กลายเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับนักเล่นเกมพีซียุคใหม่ไปแล้ว ดังนั้น Microsoft จึงพยายามที่จะทำให้ Windows 11 ดึงดูดใจนักเล่นเกมพีซีด้วยการเพิ่มคุณสมบัติใหม่สองสามอย่างเข้ามาบน Windows 11 อย่างเช่นมีการเพิ่มประสิทธิภาพที่ดีขึ้นสำหรับการรันเกมในโหมดหน้าต่าง, เพิ่มการรองรับสำหรับ AutoHDR และ DirectStorage

อาจใช้เวลาหลายปีกว่าที่ Windows 11 จะเข้ามาแทนที่ Windows 10 แต่หากอัตราการนำไปใช้ยังคงลดลง สักวันหนึ่ง Windows 11 จะกลายเป็นสิ่งที่น่าผิดหวังอันดับต้นๆ ที่ Microsoft ต้องเอาไปทำเป็นการบ้านชิ้นโตเพื่อพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเองออกมาใหม่อีกครั้ง


Windows 2000 (2000)

dYUpK4zALQMfWYjUh9pYJ3 970 80
ติดตั้งผ่านทาง(ตามมาตรฐานของ Microsoft)1 CD-ROM
พื้นที่แหล่งเก็บข้อมูลที่ใช้หลังติดตั้ง1GB

มี Windows หลายรุ่นที่ไม่รวมอยู่ในบทความนี้ เนื่องจากไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะจัดอันดับ Windows Server 2003 ซึ่งเป็นระบบปฎิบัติการของเครื่อง Server มาร่วมกับทุกเวอร์ชันของ Windows ที่ออกมาให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้กันจริงๆ ทว่า Windows 2000 นั้นคงต้องถือเป็นข้อยกเว้น เนื่องจากเป็น Windows เวอร์ชันที่ไม่ได้เน้นการทำงานกับ Server เพียงอย่างเดียวเพราะในความเป็นจริงแล้วมันถูกผู้ใช้ทั่วไปนำมาใช้งานกันบ้างด้วย นอกจากนี้ Windows 2000 ยังเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Windows อีกด้วยต่างหาก

ในปี 2000 Microsoft ได้เปิดตัวทั้ง Windows Me(สร้างขึ้นบนฐานรหัส 95/98) และ Windows 2000 ซึ่งสร้างขึ้นบน Windows NT คุณสามารถลองค้นหารายละเอียดทางเทคนิคและพยายามเรียนรู้ความแตกต่างระหว่าง Windows ทั้ง 2 นี้ได้เองแต่เราจะขอบอกเป็นเบื้องต้นเพียงแค่ว่า Windows 95 นั้นเน้นการใช้งานกับผู้ใช้ทั่วส่วน Windows NT เน้นการใช้งานกับเครื่อง Server ที่ต้องการเสถียรภาพสูง กับอีกรายละเอียดที่บอกได้มากที่สุดก็คือเมื่อ Windows XP เปิดตัวในช่วงปลายปี 2001 นั้นกลายเป็นว่าทาง Microsoft ใช้เคอร์เนลของ Windows NT มาเป็นแกนหลักของระบบปฏิบัติการไปแทน ซึ่งนั่นถือว่าเป็นจุดสิ้นสุดของ Windows ที่สร้างขึ้นบน MS-DOS อย่างแท้จริง

Windows 2000 ดูเหมือน Windows 95 และ 98 มาก แต่ภายใต้ความเหมือนที่แตกต่างนั้นก็คือระบบปฏิบัติการที่เสถียรกว่ามาก รวมทั้งยังอัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติที่จะทำให้สามารถใช้งานได้นานหลายปี

Windows 2000 สามารถไฮเบอร์เนตได้, Windows 2000 รองรับอุปกรณ์ USB มากมาย (และ Firewire) มันมาพร้อมกับระบบปลั๊กแอนด์เพลย์ที่ใช้งานง่าย ในส่วนชองทางด้านเกมนั้น Windows 2000 ยังรองรับการเล่นเกมผ่านทาง DirectX ด้วยอีกต่างหากโดยในตอนเริ่มต้นตัวระบบปฎิบัติการจะมาพร้อมการสนับสนุน DirectX 7 ซึ่งได้รับการอัปเดตสูงสุดอยู่ที่เวอร์ชัน 9.0c(ใช้เล่นเกมได้จนถึงปี 2010)

Windows 2000 ได้เพิ่ม Event Viewer ซึ่งเป็นเครื่องมือบันทึกระบบ ซึ่งเอาจริงๆ แล้วผู้ใช้ทั่วไปหลายคนคงได้แต่หวังว่าจะไม่ต้องใช้ ทว่าในความเป็นจริงแล้วหากคุณได้ลองใช้มันคุณน่าจะชอบฟีเจอร์ดังกล่าวนี้ได้เลยเพราะมันทำให้การแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆ ในสมัยนั้นง่ายมากขึ้นเป็นกอง

Windows 2000 ยังรองรับการเข้ารหัสและมีตัวจัดการฮาร์ดดิสก์แบบลอจิคัลซึ่งเป็นกุญแจสำคัญสำหรับยุคที่การใส่ฮาร์ดไดรฟ์ในรูปแบบ RAID เป็นวิธีหลักในการเพิ่มความเร็วพื้นที่แหล่งเก็บข้อมูล นอกไปจากนั้น  Windows 2000 ยังแนะนำคุณสมบัติการช่วยเหลือเบื้องต้นสำหรับผู้ใช้งานหรือระบบ Troubleshoots ซึ่งถูกใช้งานมาเรื่อยๆ จนถึงยุคปัจจุบัน

หากไม่ใช่เพราะหน้าตาแบบธรรมดาของ Windows 2000 ไม่แน่ว่า Windows 2000 อาจได้รับความนิยมจากผู้ใช้งาน Windows XP ไปเต็มๆ แบบมากกว่านี้


Windows 10 (2015)

GpN96xngcgCrmrEgcHadoB 970 80
ติดตั้งผ่านทาง(ตามมาตรฐานของ Microsoft)USB Flash drive 8GB+
พื้นที่แหล่งเก็บข้อมูลที่ใช้หลังติดตั้ง20GB

Windows 10 เป็นระบบปฎิบัติการที่ดีอันหนึ่งของ Microsoft ถึงแม้ว่า Microsoft ได้ทำผิดพลาดบ้างกับ Windows 10 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอย่างการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวทั้งหมดของผู้ใช้ถูกตัดทิ้งไปในช่วงแรกของการเปิดตัว, การพยายามบังคับให้ผู้ใช้สั่งงานด้วยเสียงไปยัง Cortana เพื่อเข้าสู่ระบบปฏิบัติการรวมถึงการดำเนินการติดตั้งโปรแกรมต่างๆ (ซึ่งฟีเจอร์ต่างๆ เหล่านี้อาจจะดูเหมือนว่าไม่มีใครต้องการ) 

นอกจากนั้นบน Windows 10 ยังมีบางเมนูที่ไม่เปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ปี 2005 แต่ส่วนใหญ่แล้วเชื่อเหลือเกินว่า Windows 10 นั้นเป็นอีกระบบปฎิบัติการหนึ่งที่ผู้ใช้เลือกที่จะใช้อย่างเต็มใจ

ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะส่วนใหญ่ Windows 10 ทำงานได้ดี, รวดเร็วและอินเทอร์เฟซของ Windows 10 ค่อนข้างสะอาด อีกทั้ง Windows 10 ยังมีเมนู Start ที่ถูกเรียกร้องให้กลับมา(ถึงแม้จะไม่เหมือนเดิม) วิธีที่ผู้ใช้สามารถย้อมสีหน้าต่างของคุณและนำไปใช้อย่างสม่ำเสมอทั่วทั้ง UI นั้นเป็นสิ่งที่ดีจริงๆ เพราะมันหมายถึงการใช้งานที่ไม่ต้องเบื่อหน่ายเมื่อต้องอยู่หน้าจอในทุกๆ วันเนื่องจากผู้ใช้มีตัวเลือกในการปรับแต่งหน้าจอมาตรฐานได้มากขึ้นกว่าเดิม

ฟีเจอร์รูปถ่ายบนหน้าจอล็อกนั้นมีประโยชน์จริงๆ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้ใช้ต้องเข้าสู่ระบบทุกวัน) และ Microsoft ก็ทำได้ดีในการปรับตัวให้เข้ากับยุคการแสดงผลความละเอียดสูง ด้วยการปรับขนาดหน้าต่างและโปรแกรมที่ใช้งานได้แบบไม่ยุ่งยากมากเกินไป งานนี้เรียกได้ว่า Windows 10 งานนี้เรียกได้ว่าก็มีส่วนที่เอาใจผู้ใช้งานอยู่เยอะ

จุดที่น่าผิดหวังที่สุดคงหนีไม่พ้น Microsoft Store ที่ห่วยแตกแถม Microsoft ยังไม่สามารถที่จะพยายามทำให้ผู้พัฒนาโปรแกรมหันไปพัฒนาโปรแกรมลงใน Microsoft Store ได้เหมือนเดิม


Windows XP (2001)

pRc5YPmae9Noxi9tJJsdfS 970 80
ติดตั้งผ่านทาง(ตามมาตรฐานของ Microsoft)1 CD-ROM
พื้นที่แหล่งเก็บข้อมูลที่ใช้หลังติดตั้ง1.5GB

คงไม่มี Windows เวอร์ชันใดที่ให้ความรู้สึกว่ามันคือระบบปฎิบัติการ Windows อย่างที่ Windows ควรจะเป็นมากไปกว่า Windows XP เพราะไม่ว่าจะไปที่ในในยุคสมัยนั้นก็จะพบแต่ผู้คนที่ใช้งานมัน(แถมยังมีการใช้งานยาวมาจนถึงปัจจุบันถึงแม้จะน้อยลงเพราะทาง Microsoft ได้เลิกให้การสนับสนุนเรื่องความปลอดภัยไปแล้ว)

Windows XP สามารถขายได้ประมาณ 500 ล้านชุดจากการนับจำนวนเมื่อตอนที่ Microsoft เลิกสนับสนุน Windows XP ในช่วงปี 2014

Windows XP ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเป็นส่วนตัวด้วยโปรไฟล์ผู้ใช้แต่ละคนและธีมสีน้ำเงินและสีเขียวตัวหนาที่คุณสามารถเปลี่ยนสกินใหม่ได้หากต้องการ นอกไปจากนั้นสำหรับผู้คนหลายล้านคน Windows XP ยังเป็นประตูสู่อินเทอร์เน็ตในยุคที่การออนไลน์เฟื่องฟูไม่ว่าจะเป็น AIM, MSN Messenger, Limewire, Winamp และ Myspace ซึ่งล้วนเป็นส่วนสำคัญของยุค Windows XP แม้ว่าในปัจจุบันจะล้มหายตายจากไปเกือบหมดแล้วก็ตาม

แต่ถ้ามองในมุม Microsoft แล้ว Windows XP อาจจะไม่ใช่ความทรงจำที่ดีนักเพราะทาง Microsoft ต้องโดนคดีต่อต้านการผูกขาดซึ่งนั่นหมายความว่า Microsoft ต้องแกะซอฟต์แวร์บางส่วนออกแทนที่จะรวมไว้ใน Windows XP แต่ถึงกระนั้น Windows XP ยังคงมีซอฟต์แวร์ที่อัดแน่นอยู่มากมายทำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไปสามารถทำทุกอย่างที่ต้องการได้โดยไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อโปรแกรมใหม่เพิ่มเติม

Windows Movie Maker และ Windows Media Player นั้นเป็นโปรแกรมที่เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมในช่วงยุคนั้น คุณสามารถเบิร์นซีดีและดีวีดีได้โดยตรงจากตัวสำรวจไฟล์ อีกทั้ง Windows XP ยังได้เอาระบบ Service Packs ขึ้นมาเพื่อนำเสนอแนวคิดของการอัปเดตที่ดาวน์โหลดได้สำหรับ Windows ซึ่งระบบดังกล่าวนี้ถูกใช้งานต่อเนื่องมาจนถึงในปัจจุบัน

Windows XP ยังแก้ไขข้อบกพร่องของระบบปฎิบัติการ Windows ก่อนหน้าและเพิ่มคุณสมบัติใหม่เช่นรองรับ USB 2.0 พร้อมด้วยโหมดความปลอดภัย wi-fi ที่ผู้ใช้งานสามารถทำการปรับแต่งได้ สิ่งนี้ช่วยยืดอายุการใช้งานของ Windows XP เป็นเวลาหลายปี(อาจนานกว่าที่ Microsoft ต้องการจริงๆ เพราะในปัจจุบันยังมีผู้ใช้งาน Windows XP อยู่) ทั้งหมดทั้งมวลนั้นทำให้ Windows XP เป็น Windows เวอร์ชันที่คนส่วนใหญ่ใช้งานเป็นระยะเวลานานที่สุด

Windows XP มีความเสถียรและสะดวกในการใช้งานทำให้มันเป็น Windows เวอร์ชันที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา… จนถึงปี 2009


Windows 7 (2009)

2nPDxP3mqzyeJic6UAnLBi 970 80
ติดตั้งผ่านทาง(ตามมาตรฐานของ Microsoft)USB Flash drive 4GB+
พื้นที่แหล่งเก็บข้อมูลที่ใช้หลังติดตั้ง20GB

อดีตที่น่าหลงใหลและพื้นฐานที่ Windows ควรจะเดินรอยต่อในอนาคต

Windows 7 คือระบบปฎิบัติการที่ช่วยชีวิตผู้ใช้งานจากระบบการควบคุมบัญชีผู้ใช้(UAC) ที่น่ารำคาญของ Windows Vista และปล่อยให้ผู้ใช้ได้ทำงานได้อย่างอิสระมากขึ้นกว่าเดิมในขณะที่ตัวระบบปฎิบัติการยังคงมีความปลอดภัยอยู่ Windows 7 นั้นเร็วและมีเสถียรภาพสูง มันทำทุกอย่างที่ Windows จำเป็นต้องทำได้

นอกไปจากนั้น Windows 7 ยังมาพร้อมกับการยกระดับให้ระบบปฏิบัติการ Windows สวยขึ้นในขณะที่สามารถใช้งานง่ายขึ้นโดยไม่รบกวนประสบการณ์การใช้งานในส่วนอื่นๆ ตัวระบบ Aero ที่เป็นกราฟิก UI ยังคงดูลื่นไหลในทศวรรษต่อมา(แม้ว่าการออกแบบร่วมสมัยจะเปลี่ยนไปใช้การแรเงาสมัยใหม่ก็ตาม) ปิดท้ายด้วยชุดรูปแบบที่ช่วยให้คุณปรับใช้รูปลักษณ์ที่สอดคล้องกันกับระบบปฏิบัติการทั้งหมดตามเดสก์ท็อปของคุณอย่างที่คุณต้องการ

การปรับแต่งเล็กๆ น้อยๆ มากมายทำให้คุณลักษณะของ Windows เก่าดีขึ้น การปักหมุดรายการบนทาสก์บาร์ทำให้คุณมีไอคอนที่สวยงามและคลิกได้ง่าย, การซ้อนหน้าต่างเบราว์เซอร์และตัวสำรวจไฟล์ไว้ในไอคอนเดียวช่วยให้สิ่งต่างๆ เป็นระเบียบ, ระบบ Jumplists ช่วยให้เข้าถึงคุณสมบัติภายในโปรแกรมได้อย่างรวดเร็วรวมไปถึงภาพตัวอย่างขนาดย่อในฟอร์เดอร์ช่วยให้คุณวางเมาส์เหนือหน้าต่างเพื่อดูข้อมูลของไฟล์นั้นๆ ได้โดยไม่ต้องคลิกให้เสียเวลา

ระบบไลบรารี(Library) แบบใหม่ทำให้การจัดกลุ่มไฟล์เข้าด้วยกันง่ายขึ้นใน Windows Explorer ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องสนใจการตั้งค่าโฟลเดอร์ “My Documents” แบบเก่าที่การจัดการไฟล์ใน “My Documents” นั้นวุ่นวายมากกว่า

Windows 7 อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดของระบบปฎิบัติการที่ Microsoft ทำขึ้นในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา

สิ่งที่ทำให้ Windows 7 ยอดเยี่ยมนั้นจริงๆ มีอยู่แล้วใน Vista แต่ไมโครซอฟต์ได้กำจัดสิ่งที่เป็นข้อเสียแล้วแก้ไขใหม่เพื่อให้ระดับเดิมใน Windows Vista เปล่งประกายออกมาบน Windows 7 ตัวอย่างเช่นเพียงแค่กดปุ่มคีย์บอร์ด Windows และพิมพ์ชื่อโปรแกรมที่ต้องการลงไป การเปิดโปรแกรมใดๆ ที่คุณลงไว้บนเครื่องของคุณก็กลายเป็นเรื่องง่ายแบบที่ไม่ต้องมานั่งหากันให้ปวดหัวอีกต่อไป(เชื่อเถอะว่าผู้ใช้ Windows ก่อนหน้า Windows 7 นั้นต้องคลิ๊กหลายครั้งมากๆ เพื่อที่จะเปิดโปรแกรมที่ลงไว้) อีกทั้งยังเพิ่มแป้นพิมพ์ลัดสำหรับคุณสมบัติต่างๆ เช่นการจับภาพหน้าจอซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

หาก Windows 10(หรือ Windows 11) เป็นเพียง Windows 7 ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยกเว้นการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและการอัปเดตสำหรับฮาร์ดแวร์สมัยใหม่ เชื่อเหลือเกินว่าอาจจะไม่มีใครอยากละทิ้งการใช้งานจาก Windows 7 

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทาง Microsoft จะให้ Windows 7 เป็นมาตรฐานของระบบปฏิบัติการที่จะได้รับการปรับแต่งสำหรับฮาร์ดแวร์สมัยใหม่และความปลอดภัยในอนาคต


ที่มา : howtogeek, digitaltrends, pcgamer

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Accessories review

ถ้าคุณเป็นครีเอเตอร์ Lexar Portable SSD SL400 คือไอเท็มสำคัญควรมีติดกระเป๋า! ในวงการหน่วยความจำแล้ว Lexar ก็เป็นผู้ผลิตหน่วยความจำระดับโลกซึ่งมีสินค้าหลากหลายแบบให้เลือกใช้ เช่น Lexar Portable SSD SL400 สำหรับครีเอเตอร์ยุคใหม่เจ้าของ iPhone 15 Pro และ 16 Pro Series ได้ถ่ายคลิปเก็บไอเดียสร้างสรรค์ไว้ทำงานต่อได้หรือพกคู่มือถือ Android...

Buyer's Guide

คอม All in One 7 รุ่นเด็ด จอใหญ่ ดีไซน์สวย สเปคดี ซีพียูแรง แรม 16GB พร้อม Windows 11 เน้นทำงานและความบันเทิง คอม All in One หรือ ออลอินวันพีซี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพีซีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมตั้งโต๊ะ แต่ประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า...

Mac Corner

ถ้าใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำ ไม่ว่าจะ Windows หรือ MacBook ทุกคนย่อมกดคีย์ลัดสั่งการให้คอมของตัวเองทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นแน่นอน ถ้าใช้คอมมานานแล้ว คีย์ลัด Mac ก็ยังใช้วิธีกดปุ่มคำสั่ง 2-3 ปุ่มรวมกัน แค่เปลี่ยนชื่อกับภาพไอคอนปุ่มคำสั่ง (Modifier) บางปุ่มให้เป็นตามแบบฉบับของ Apple เอง คนที่ย้ายจาก Windows มาใช้ macOS ก็ใช้เวลาปรับตัวเรียนรู้คีย์ลัดสักระยะก็ใช้งานได้ถนัดอย่างแน่นอน ก่อนจะเริ่มใช้งานคีย์ลัด Mac...

How to

โลกในตอนนี้ไม่สามารถตัดขาดจากอินเทอร์เน็ตได้เลยไม่ว่าจะเรื่องงานหรือความบันเทิงก็ต้องใช้มันทั้งนั้น แต่อุปกรณ์ไอทีทุกชิ้นต่างต้องรีเซ็ตสัญญาณเน็ตบ้างให้อุปกรณ์ได้โหลดการตั้งค่ากลับมาใหม่อีกครั้งเป็นระยะๆ เพื่อให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งวิธีการรีเซ็ตสัญญาณจะคล้ายกับวิธีการแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ต่อ Wi-Fi ไม่ได้ แต่ในบทความนี้จะเน้นเรื่องลำดับขั้นตอนการแก้ปัญหาเน็ตบ้านหรือเน็ตออฟฟิศใช้งานไม่ได้ด้วยตัวเองตั้งแต่ต้นก่อนติดต่อช่างให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในภายหลัง เมื่อไหร่ต้องรีเซ็ตสัญญาณเน็ต? ทำแล้วดีอย่างไร? การรีเซ็ตสัญญาณอินเทอร์เน็ตนอกจากการปิดเปิดเราเตอร์ ก็รวมถึงการรีเซ็ตในระบบปฏิบัติการด้วย ถ้าไดรเวอร์มีปัญหาสามารถกด Roll Back driver หรือโหลดมาติดตั้งใหม่จะช่วยแก้ปัญหาได้ ถ้ารีเซ็ตสัญญาณแล้วใช้งานไม่ได้ อาจเกิดปัญหาจาก Node กระจายสัญญาณของผู้ให้บริการก็ได้ เมื่อติดตั้งเน็ตบ้านเอาไว้แล้ว แนะนำให้ขอบัญชีและรหัสผ่านเอาไว้เข้าไปตั้งค่าเราเตอร์เผื่อไว้ด้วย 6 วิธีรีเซ็ตสัญญาณเน็ตด้วยตัวเอง...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก