แนะนำเคสไอโฟน 13 ดีไซน์สวย เท่ ดูดี มีไสตล์ ในราคาที่น่าซื้อมาใช้งาน อัปเดต 2023
ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2021 แต่สำหรับ iPhone 13 Series ก็ยังคงเป็นรุ่นที่น่าซื้อมาใช้งานกันอยู่ แถมราคายังค่อนข้างน่าซื้ออีกด้วย อีกทั้งมีเคสให้เลือกซื้อมาใช้งานกันอีกมากมาย แต่การเลือกเคสไอโฟน 13 มาใช้งานนั้น เราควรเลือกอย่างไร และอะไรที่ต้องระมัดระวังบ้างในการเลือกเคส เพราะก็ต้องยอมรับว่าสมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่งนั้น โดยเฉพาะไอโฟนของเราก็ถือเป็นอุปกรณ์อิเล้กทรอนิกส์ที่มีราคาอยู่ในระดับกลางค่อนไปทางสูง การดูแลรักษาจึงควรต้องดีในระดับหนึ่ง เคสที่เราใช้ นอกจากที่จะให้ความสวยงามแล้ว ก็อาจจะต้องมีอีกคุณสมบัติ นั่นก็คือ การปกป้องตัวเครื่องที่ดีอีกด้วย
เลือกเคส iPhone เลือกยังไงให้เวิร์ค
ในปัจจุบัน มีเคสโทรศัพท์มือถือขายอยู่มากมายตามท้องตลาด ตั้งแต่การเน้นที่การปกป้องตัวเครื่อง ไปจนถึงเคสแฟชั่นที่เน้นความสวยงาม การเลือกเคส iPhone นั้น เราก็ควรจะต้องรู้ก่อนว่าโดยหลักๆ แล้วมีประเภทอะไรกันบ้าง
- Soft Case หรือเคสแบบนุ่ม ยืดหยุ่นได้ เคสจะแบบนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ เคสซิลิโคน และ TPU (Thermoplastic Polyurethanes) เคสมือถือชนิดนี้เป็นที่นิยมกันมาก เพราะหาซื้อง่าย ราคาถูก มีความยืดหยุ่นที่สูงมาก มีลวดลายให้เลือกได้มากมายหลากหลาย และยังสามารถพิมพ์ลวดลายลงบนเคสประเภทนี้ได้อีกด้วย อีกทั้งเคสมือถือชนิดนี้ยังรองรับแรงกระแทกได้ในระดับหนึ่ง
- เคสซิลิโคน: ข้อดีของเคสซิลิโคน คือ มีราคาถูก รับแรงกระแทกได้ดี ทำความสะอาดได้ง่าย เพราะสามารถล้างน้ำได้ ถอด – ใส่เคสก็ง่าย เพราะเคสมีความยืดหยุ่นสูง ทั้งยังเป็นเคสที่มีความกระชับมือเวลาที่เราถือใช้งานเพราะมีความหนืด แต่เคสแบบรี้ก็มีข้อเสียอยู่เช่นกัน คือ ฝุ่นเกาะง่าย เพราะเคสมีความหนืด เหนียว ทั้งยังขยายตัวได้เมื่อโดนความร้อนสูง ส่งผลให้ตัวเคสอาจจะเกิดการเสื่อมสภาพได้เมื่อใช้งานไปนานๆ นอกจากนี้ ด้วยเพราะเคสแบบนี้สามารถพิมพ์ลายต่างๆ ลงไปบนเคสได้ง่าย ก็จะมีปัญหาเรื่องสีตก สีลอกได้เหมือนกัน
- เคส TPU (TPU ย่อมาจาก Thermoplastic Polyurethanes): เป็นเคสที่มีความยืดหยุ่นที่น้อยกว่าซิลิโคนเคสซิลิโคน แต่คงรูปมากกว่า ทำให้ไม่มีปัญหาในเรื่องการเสียทรงเหมือนกับเคสซิลิโคนแม้ว่าจะใช้งานในระยะยาว ตัวเคสยังรับแรงกระแทกได้ดี (แต่น้อยกว่าซิลิโคน) มีฝุ่นเกาะยาก เนื่องจากเคสไม่มีความเหนียว สามารถสวมใส่และถอดออกมาได้ง่าย ส่วนข้อเสียของเคส TPU ก็คืออาจจะลื่นหลุดมือได้ง่ายกว่าเคสซิลิโคน เนื่องจากมีความหนืดที่น้อยกว่า และรองรับแรงกระแทกได้น้อยกว่า
- Hard Case หรือเคสแบบแข็ง ตัวเคสจะทำมาจากวัสดุที่แตกต่างกันออกไป โดยอาจจะเป็นพลาสติก หรือ Polycarbonate ฯลฯ เคสมือถือแบบนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมรองลงมาจากเคสแบบแรก โดยข้อดีของเคสแบบแข็ง คือ แข็งแรง ทนทาน ไม่เป็นรอยได้ง่าย ตัวเคสยังสามารถยึดเกาะกับตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ต้องหากตัวเคสไม่ได้คุณภาพ ก็อาจจะส่งผลในทางตรงข้าม คือทำให้ตัวเครื่องเป็นรอยได้ เนื่องจากความแข็งของเคส วัสดุที่นิยมนำมาใช้วัสดุร่วมในการผลิตเป็นเคสแบบแข็งนั้นก็คือ พลาสติก และอลูมิเนียม
- Hybrid Case จะเป็นเคสแบบผสมผสานกัน คือ การนำข้อดีของแต่ละประเภทของเคสมือถือ มารวมกัน โดยส่วนมากที่นิยมนำมาใช้ร่วมกันก็คือ เคสพลาสติก กับ ซิลิโคน ซึ่งข้อดีของเคสแบบนี้ก็จะทำให้ จับกระชับมือ รับแรงกระแทกได้ดี ไม่มีฝุ่นเกาะ ฯลฯ
- Leather Case เคสแบบหนัง เรียกได้ว่าเป็นเคสที่ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกได้ถึงความหรูหรา มีสไตล์ ตัวเคสมักจะทำมาจากหนังสัตว์หรือหนังแบบสังเคราะห์ สามารถปกป้องตัวเครื่องจากรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะรองรับแรงกระแทกได้น้อย หากทำเครื่องตก ก็อาจทำให้เครื่องได้รับความเสียหายได้ นอกจากนี้ การบำรุงดูแลรักษาเคสแบบหนังก็อาจจะทำได้ยากกว่าเคสแบบอื่นๆ เพราะผู้ใช้งานต้องดูแลเคสเสมือนดูแลเครื่องหนังอื่นๆ เช่น กระเป๋า เข็มขัด รองเท้า ฯลฯ
ซื้อเคสไอโฟนต้องดูอะไรบ้าง
เมื่อรู้จักเคสไอโฟนแต่ละแบบแต่ละประเภทคร่าวๆ กันไปแล้ว เรามาดูกันบ้างว่าการจะเลือกซื้อเคส ควาพิจารณาจากอะไร
- เริ่มต้น เราอาจจะมองหาเคสมือถือที่ตัวรัดรอบขอบโทรศัพท์เป็นยาง, ซิลิโคน หรือวัสดุใกล้เคียงที่นุ่ม และยืดหยุ่นได้ เพราะพลาสติกแบบแข็งอาจจะกัดขอบตัวเครื่องได้ง่าย โดยเฉพาะเวลาที่เราถอดหรือใส่ตัวเคส และควรมองหาเคสที่ไม่รัดขอบเครื่องจนแน่นมากเกินไป
- เลือกตามความต้องการในการใช้งาน เช่น ถ้าเราใช้งานมือถือบ่อยๆ ต้องถือคุย หรือยกมาตอบข้อความตลอด และไม่ต้องการเพิ่มน้ำหนักให้กับไอโฟนของเราที่มีน้ำหนักอยู่พอสมควรแล้ว และไม่ได้ทำงานที่เสี่ยงต่อการที่โทรศัพท์ของเราจะโดนกระแทก ก็อาจจะมองหาเป็น Soft case ซึ่งจะเป็นเคสที่มีความบางและเบา แต่ก็แลกมากับการปกป้องโทรศัพท์ที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับ Hard case ที่จะมีความหนา กันกระแทกได้ดี แต่ก็มีน้ำหนักค่อนข้างเยอะเช่นกัน
- เคสที่มีคุณภาพก็มักจะมาพร้อมกับราคาที่สูงขึ้นด้วย ซึ่งการเลือกเคสนั้น ถ้าใครที่ไม่ซีเรียสเรื่องของราคา ก็คิดว่าน่าจะเลือกเป็นเคสที่ได้คุณภาพ ได้มาตรฐาน ไปเลยดีกว่า แต่ถ้าสำหรับใครที่มีงบประมาณจำกัด รวมไปถึงชอบที่จะเปลี่ยนเคสบ่อยๆ เคสราคาประหยัดก็อาจจะตอบโจทย์มากกว่า แต่ก็อาจจะไม่ได้คุณภาพมากเท่ากับเคสมีราคา
- ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อ หากไม่ได้เป็นการสั่งเคสผ่านทางช่องทางออนไลน์ แนะนำว่าควรลองสวมใส่เคส ลองยกถือ ลองจับเครื่องและทำท่าทางการพิมพ์ เพื่อทดลองดูว่า เคสเข้ากับสีตัวเครื่องของเราไหม เคสจับถนัดมือหรือไม่ ลื่นเกินไปหรือเปล่า รวมไปถึงน้ำหนักของเคสเมื่อรวมกับไอโฟนของเราแล้ว มีน้ำหนักที่พอดีที่เราต้องการไหม เพื่อที่ว่าเมื่อเราตัดสินใจซื้อไปแล้ว จะได้ไม่ผิดหวังและต้องมานั่งมองกาเคสใหม่บ่อยๆ
- ก่อนตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่องทางออนไลน์นั้น เราควรเปรียบเทียบราคารวมไปถึงรีวิวของร้านค้า ว่ามีราคาที่เหมาะสม ถูกหรือแพงเกินไปกว่าร้านอื่นหรือเปล่า และร้านค้ามีรีวิวที่ดีไหม การบริการเป็นอย่างไร เป็นร้านที่น่าเชื่อถือได้หรือไม่
แนะนำเคสไอโฟน 13 ดีไซน์เท่ ดูดี มีไสตล์
สำหรับเคสไอโฟน 13 ที่ทีมงานนำมาแนะนำนั้น ก็จะเป็นการเลือกโดยความคิดเห็นส่วนตัวของทีมงานว่า เป็นเคสที่ค่อนข้างใช้งานได้ดี มีคุมสมบัติในการปกป้องเครื่องที่ดี และไม่ทำให้เครื่องของเรามีความร้อนจนเกินไปด้วย และที่สำคัญ อยู่ในราคาที่ไม่แพงมาก สามารถเอื้อมถึงได้อย่างไม่ยากนัก และคุ้มค่าที่จะซื้อหามาใช้งาน
ชื่อสินค้า | ราคาโดยประมาณ | คุณสมบัติเด่นๆ | ชาร์จไร้สาย | ฝาปิดช่องชาร์จ/ช่องหูฟัง | การกันน้ำ |
---|---|---|---|---|---|
UAG รุ่น Lucent 2.0 with Magnetic | 1,6xx บาท | เคสกันกระแทกแบบใสที่แนบสนิทกับตัวเครื่อง บางเบา จับถนัดมือ ผ่านการทดสอบ Droptest ที่ระดับความสูงสุดที่ 4.8 เมตร ถึง 26 ครั้ง | รองรับ | ไม่มี | ไม่รองรับ |
Telephant – NMDer Bumper Case | 5xx-1,0xx บาท | ป้องกันการกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยม บางเบา จับถนัด กระชับมือ | รองรับ | ไม่มี | ไม่รองรับ |
Nillkin – เคส iPhone รุ่น CamShield Pro | 1xx-2xx บาท | เคสดีไซน์คลาสสิกเข้ากับทุกสไตล์ กันลื่น มีฝาปิดป้องกันกล้องหลัง | ไม่ระบุ | ไม่มี | ไม่รองรับ |
HI-SHIELD เคสใสกันกระแทก | 5xx บาท | เคสใสกันกระแทก ไม่ดูดตัวเครื่อง ระบายอากาศได้ดี มีความสามารถในการป้องกันรอยขีดข่วน ป้องกันรอยนิ้วมือ | รองรับ | ไม่มี | ไม่รองรับ |
ESR เคสโพลีคาร์บอเนตใส + กรอบป้องกันรอยขีดข่วน | 2xx บาท | เคสบาง น้ำหนักเบา มีการยกขอบของตัวเคสขึ้น เพื่อปกป้องตัวเครื่อง ตัวเคสทำจากวัสดุ Acrylic ทนทานต่อแรงขีดข่วนได้ถึง 3 เท่า | รองรับ | ไม่มี | ไม่รองรับ |
ESR เคสกันกระแทก | 1xx-3xx บาท | แม้จะเป็นเคสใสแต่ใช้แล้วไม่เหลือง แข็งแรงทนทานดีเยี่ยม | รองรับ | ไม่มี | ไม่รองรับ |
Hoco เคสซิลิโคน | 3x-1xx บาท | ยืดหยุ่นแข็งแรง ป้องกันรอบด้าน เคสบางเฉียบเหมือนถือเครื่องเปล่า | ไม่ระบุ | ไม่มี | ไม่รองรับ |
OtterBox รุ่น React | 5xx – 7xx บาท | เคสเรียบง่ายแต่สวยงาม ดีไซน์รูปแบบ Ultra-Thin Design ผ่านมาตรฐาน OtterBox Certified Drop Protection าพร้อมเทคโนโลยี Microdot ที่ช่วยลดการเกิดรอยนิ้วมือ | ไม่ระบุ | ไม่มี | ไม่รองรับ |
elago iPhone 13 BT21 Case | 1,1xx – 1,2xx บาท | มีความยืดหยุ่นและทนทาน ทำความสะอาดง่าย ด้วยประสิทธิภาพจากแบรนด์ มาพร้อมลายการ์ตูน BT21 แสนน่ารัก | รองรับ | ไม่มี | ไม่รองรับ |
UAG รุ่น Lucent | 1,0xx บาท | มีความบาง เบา พกพาสะดวก ออกแบบมาอย่างเรียบง่าย ผ่านการทดสอบ Droptest ที่ความสูงกว่า 3.6 เมตร โดยผ่านเกินมาตรฐาน MIL-STD 810G-516.6 | ไม่ระบุ | ไม่มี | ไม่รองรับ |
1. UAG รุ่น Lucent 2.0 with Magnetic
เคสไอโฟน 13 จาก UAG รุ่นนี้ เป็นเคสกันกระแทกที่มีน้ำหนักเบา ด้านหลังโชว์ตัวเครื่องเล็กน้อย และมาพร้อมกับ Built-in Magnetic สามารถชาร์จร่วมกับ MagSafe ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยตัวเคสผลิตขึ้นจากวัสดุ TPU บางใส แต่แข็งแรง แนบสนิทไปกับตัวเครื่อง มี 2 สี ให้เลือกด้วยกัน คือ สีขาวและสีดำ เคส UAG รุ่น Lucent 2.0 with Magnetic นี้ มีผิวสัมผัสของตัวเคสที่นุ่ม ไม่ลื่น สามารถจับได้ถนัดมือ ขอบขอบตัวเคสทั้ง 4 ด้าน มีเทคโนโลยีมุมระบายอากาศ ทั้งยังรองรับการกระแทกได้อย่างดีด้วย นอกจากนี้ยังผ่านการทดสอบมาตรฐานการกระแทก Military Drop Tested ที่ทดสอบการตกสูงสุดที่ 4.8 เมตร ถึง 26 ครั้งอีกด้วย
ราคาประมาณ 1,6xx บาท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: Shopee
2. Telephant – NMDer Bumper Case
เคส NMDer Bumper รุ่นนี้ทางผู้ผลิตเคลมว่า มีโครงสร้างถึง 3 ชั้น โดยวัสดุชั้นนอกสุดทำจากซิลิโคนคุณภาพสูง มีความยืดหยุ่นและแข็งแรง รวมถึง Air Steel และ Anti-G Force Structure ที่เป็นโครงสร้างภายใน ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยปกป้องโทรศัพท์จากแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม และถึงแม้ว่าจะเป็นเคสที่เน้นการออกแบบเพื่อรองรับการกระแทก แต่ตัวเคสก็ออกแบบมาให้ไม่หนาเทอะทะจนเกินไป ยังคงมีความบางเบา สวมใส่กับเครื่องได้พอดีและกระชับ เป็นเคสแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ควรต้องมี อย่างไรก็ตาม ความแข็งแรงของเคสก็ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันว่า ในกรณีที่ทำตก เครื่องของเรา จะปลอดภัยแบบ 100% เพราะขึ้นอยู่กับมุมที่ตก พื้นผิว แรงเหวี่ยง หรือแรงกระแทกเวลามือถือตกด้วย
ราคาประมาณ 1,0xx บาท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: Shopee
3. Nillkin – เคส iPhone รุ่น CamShield Pro
เคสไอโฟน 13 รุ่นนี้ เป็นเคสที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันกล้องหลังของไอโฟนโดยเฉพาะ ตัวเคสมีฝาปิดที่สามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้ง่าย ใช้วัสดุ PC ที่เนื้อสัมผัสเรียบเนียน แต่จับถนัดกระชับมือ คุณสมบัติเด่นของเคสรุ่นนี้ คือ มีความทนทานต่อแรงกระแทก นอกจากนี้ ยังสามารถป้องกันรอยขีดข่วน รอยนิ้วมือ รวมไปถึงคราบน้ำมันได้ด้วย ทำให้โทรศัพท์ของเราดูดีและสะอาดตาอยู่เสมอ ส่วนช่องสำหรับเชื่อมต่อพอร์ตต่างๆ ก็ออกแบบมาให้สวมใส่เข้ากับตัวเครื่องไอโฟน ได้อย่างลงตัว ตัวเคสยังมีให้เลือกหลายเฉด หลายสี ให้เลือกกันได้ตามความชอบ ตัวเคสรุ่นนี้เหมาะกับผู้ที่ไม่ได้เน้นการใช้งานอย่างสมบุกสมบัน
ราคาประมาณ 1xx – 2xx บาท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: Shopee, Lazada
4. HI-SHIELD เคสใสกันกระแทก
เคสรุ่นนี้จาก HI-SHIELD เป็นเคสใสกันกระแทก ที่เน้นไปที่การโชว์สีของตัวเครื่อง แต่มาพร้อมความแข็งแรง ไม่ดูดตัวเครื่อง ระบายอากาศได้ดี มีความสามารถในการป้องกันรอยขีดข่วนได้ด้วย จับถือได้อย่างถนัดมือ ไม่ลื่นหลุดมือง่ายๆ อีกทั้งยังผ่านการ Drop Tested ที่ความสูง 1.5 เมตรอีกด้วย ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้เลยว่า สามารถปกป้องตัวเครื่องของเราได้เป็นอย่างดี ตัวเคสยังรองรับการชาร์จผ่าน Wireless Charge ตัวเคสใช้วัสดุ Bayer TPU จากเยอรมัน ซึ่งมีคุณภาพ ไม่ทำให้เคสเหลือง เมื่อใช้งานเป็นไปนานๆ
ราคาประมาณ 5xx บาท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: Shopee
5. ESR เคสโพลีคาร์บอเนตใส + กรอบป้องกันรอยขีดข่วน
เคสจากแบรนด์ ESR รุ่นนี้เป็นเคสเป็นอีกหนึ่งเคสใสกันกระแทกที่น่าสนใจ ตัวเคสมีความบาง น้ำหนักเบา ถอดหรือสวมใส่เข้ากับตัวเครื่องได้ง่าย มีมุม Air-Guard ที่ดูดซับแรงกระแทก อีกทั้งขอบของเคสก็มีการยกสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านหลังที่ยกสูงขึ้นกว่า 1.5 มิลลิเมตร, ด้านหน้าที่ยกสูงขึ้น 1.3 มิลลิเมตร และส่วนของบริเวณกล้องหลังที่มีการยกสูงขึ้น 0.55 มิลลิเมตร ซึ่งช่วยปกป้องหน้าจอและเลนส์จากการขีดข่วนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ เคสยังมีความยืดหยุ่น แข็งแรง และสามารถดูซับแรงกระแทกได้ดี ตัวเคสทำจากวัสดุ Acrylic ทนทานต่อแรงขีดข่วนได้ถึง 3 เท่า ทั้งยังไม่ทำให้เคสเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองเมื่อใช้งานเป็นเวลานานๆ ด้วย ทั้งยังได้รับการเคลมว่ารองรับการชาร์จไร้สายด้วย หมดความกังวลในการชาร์จไม่เข้าไปได้เลย
ราคาประมาณ 2xx บาท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: Shopee, Lazada
6. ESR เคสกันกระแทก
เคสจาก ESR รุ่นนี้ เป็นแบบแข็งอย่างดี ดีไซน์เรียบๆ แต่แข็งแรง สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดีด้วยการออกแบบมุมเคสแบบ Air-Guard ซึ่งช่วยดูดซับแรงที่ตกกระทบ ทำให้ไม่ต้องกังวลในกรณีที่เครื่องตก แต่ทั้งนี้หากตกกระแทกแรงเกินไปก็อาจจะป้องกันไม่ได้ทั้งหมด ด้านหลังของเคสเป็นวัสดุแบบแข็งคุณภาพดี ขอบเคสใช้วัสดุที่มีความยืดหยุ่น ทำให้ถอดกรือสวมใส่ตัวเครื่องได้ง่าย ไม่กินขอบเครื่อง นอกจากนี้ ด้านล่างซึ่งเป็นที่เสียบสายชาร์จและลำโพงยังเป็นอบบเปิดโล่ง ไม่มีฝาปิด ทำให้เสียบสายชาร์จำด้ง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จไม่เข้าเพราะติดฝาปิดรูพอร์ต และถึงแม้ว่าเคสรุ่นนี้จะเป็นแบบใส แต่ก็ได้รับการเคลมว่า แม้ใช้งานไประยะเวลานานเคสก็จะไม่เหลือง เพราะทำจากวัสดุอย่างดีอย่าง Crystal Clear นั่นเอง
ราคาประมาณ 1xx – 3xx บาท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: Shopee
7. Hoco เคสซิลิโคน
เคส iPhone ราคาไม่แรงจากแบรนด์ Hoco เหมาะสำหรับคนที่ชอบเคสใส เน้นโชว์สีตัวเครื่อง โดยรุ่นนี้เป็นเคสแบบใสที่ผลิตจาก TPU หรือพลาสติกโพลียูรีเทน มีคุณสมบัติยืดหยุ่นดีเยี่ยม ตัวเคสบางเพียง 0.8 มิลลิเมตร มีน้ำกนักเบา จับได้ถนัดมือเหมือนถือตัวเครื่องเปล่าๆ นอกจากนี้ เคสยังปกป้องครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ไม่กัดขอบเครื่อง และไม่ดันฟิล์มกระจก รองรับแรกกระแทกได้ระดับหนึ่ง เหมาะกับคนที่ไม่ใช้งานแบบสมบุกสมบัน แต่ข้อสังเกตคือ หากเป็กฟิล์มกระจก ตัวเคสอาจจะไม่ได้ปิดครอบคลุมถึงฟิล์ม ทำให้เวลาที่ตก ฟิล์มกระจกอาจจะแตกได้ง่าย เคสรุ่นนี้มีให้เลือกใช้งานกับไอโฟนหลายรุ่น ตั้งแต่ iPhone 5 เป็นต้นไป จนถึง iPhone 13 รุ่นล่าสุดเลย แต่ข้อเสียของเคสก็คือ เนื่องจากเป็นเคสใส ทำให้เมื่อใช้ไปนานๆ อาจจะเหลืองได้
ราคาประมาณ 3x – 1xx บาท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: Shopee, Lazada
8. OtterBox รุ่น React
เคสไอโฟน 13 จาก OtterBox รุ่น React ต้องบอกเลยว่า มีความเรียบง่ายแต่สวยงามมาก โดบดีไซน์ออกมาในรูปแบบ Ultra-Thin Design ที่บาง จับถือได้ง่าย มี 2 สีให้เลือกด้วยกัน คือ สีใสและสีดำใส ตัวเคสผลิตจากวัสดุ Polycarbonate พลาสติกแข็งแรงทนทาน และ Synthetic rubber ที่ช่วยในการรองรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ผ่านมาตรฐาน ผ่านมาตรฐาน OtterBox Certified Drop Protection ทำให้ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ในความทนทานของตัวเคส ด้านหลังของตัวเคสเป็นแบบใสเพื่อโชว์ความสวยงามของสีสันตัวเครื่อง มาพร้อมเทคโนโลยี Microdot ที่ช่วยลดการเกิดรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดี ในส่วนของปุ่มกดนั้นก็จะเป็นยางคุณภาพดี นอกจากนี้ตัวเคสยังรองรับการชาร์จไร้สาย หรือ Wireless Charge ได้โดยที่ไม่ต้องถอดเคสเลย
ราคาประมาณ 5xx – 7xx บาท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: Shopee
9. elago iPhone 13 BT21 Case
ใครที่ชอบเคสลายน่ารักๆ แต่ปกป้องตัวเครื่องได้ดี ต้องถูกใจสิ่งนี้ กับเคสจาก elago ที่มาพร้อมลายการ์ตูน BT21 ไม่ว่าจะเป็น KOYA, RJ, SHOOKY, MANG, CHIMMY, TATA, COOKY ฯลฯ ตัวเคสผลิตจากวัสดุ TPU แท้ ที่มีความยืดหยุ่นและทนทาน ทำความสะอาดง่าย ด้วยประสิทธิภาพจากแบรนด์ elago ซึ่งเป็นแบรนด์จากอเมริกา ผู้ผลิตสินค้าอุปกรณ์เสริมให้กับ Apple ตัวเคสยังออกแบบมาให้คลุมรอบตัวเครื่อง ทำให้เรามั่นใจได้เลยว่า ป้องกันรอยขีดข่วนและการกระแทกได้ดีในระดับหนึ่งเลย ตัวเคสยังรองรับการชาร์จไร้สายอีกด้วย
ราคาประมาณ 1,1xx – 1,2xx บาท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: Shopee
10. UAG รุ่น Lucent
เคสไอโฟน 13 จาก UAG รุ่น Lucent นี้ ถือว่าเป็นเคสจากทาง UAG ที่มีความเบา บาง พกพาสะดวก รวมไปถึงราคาที่ไม่สูงจนเกินไป อยู่ในช่วงราคาที่น่าเอื้อมถึงด้วย ตัวเคสผลิตจากวัสดุ TPU มีความทนทานแข็งแรงในระดับหนึ่ง ออกแบบมาอย่างเรียบง่าย เบา บางใสโชว์สีตัวเครื่อง ขอบรอบตัวเคสยกสูงขึ้นเพื่อเพิ่มการป้องกันเลนส์กล้องรวมถึงรอยขีดข่วนบนหน้าจอจากพื้นผิว เสริมลูกเล่นด้วยลวดลาย Microdot ที่ดีไซน์มาให้รับกับตัวเคส ในส่วนของวัสดุรองรับแรงตกกระแทก โดยผ่านการทดสอบ Droptest ที่ความสูงกว่า 3.6 เมตร โดยผ่านเกินมาตรฐาน MIL-STD 810G-516.6 ใครที่ชอบเคสบางแต่แข็งแรง สีสันสวยงาม ต้องไม่พลาดกับเคส UAG รุ่นนี้
ราคาประมาณ 9xx – 1,0xx บาท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: Shopee
และทั้งหมดนี้ก็คือการเลือกซื้อเคสไอโฟน และการแนะนำเคสไอโฟน 13 ที่น่าซื้อมาใช้งาน เพราะไม่เพียงแต่อยู่ในช่วงราคาที่เอื้อมถึงได้ ยังมีความสามารถในการปกป้องเครื่องของเรา โดยไม่ทำให้เครื่องร้อนมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ใครที่กำลังมองหาเคสดีๆ ราคาไม่แรงก็สามารถไปหาซื้อตามกันได้เลย