เคล็ดลับแก้ปัญหาแบตมือถือหมดไว แบตหมดไหว แก้ไขง่ายๆ ทั้ง iOS และ Android อัปเดต 2023
สมาร์ทโฟนในปัจจุบันมีฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อทำงาน ความบันเทิง ถ่ายรูป รับชมคอนเทนต์ ไปจนถึงการเล่นเกม ยิ่งเราใช้งานเยอะ แบตเตอรี่ก็ดูเหมือนจะไม่พอ บางคนก็แบตหมดเร็วด้วย ทีมงาน NotebookSPEC ก็มีเคล็ดลับดีๆ ในการแก้ปัญหาแบตมือถือหมดไว ไปจนถึงเคล็ดลับช่วยถนอมแบตเตอรี่ให้สมาร์ทโฟน สามารถทำได้ง่ายๆ ยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้มากยิ่งขึ้น
- เคล็ดลับประหยัดแบต แก้ปัญหาแบตมือถือหมดไว
- เปิดโหมดประหยัดพลังงาน
- ปิดใช้งานแอพพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้
- ปรับลดความสว่างของหน้าจอ
- อัปเดต Software อยู่สม่ำเสมอ
- เปิดใช้งาน Dark Mode
- ปรับลดอัตรา Refresh Rate ของหน้าจอ
- พยายามไม่ไม่ให้สมาร์ทโฟนร้อนเกินไป
- ปิดการเชื่อมต่อที่เราไม่ได้ใช้งาน
- ไม่ใช้ Wallpaper ภาพเคลื่อนไหว
- ตั้งเวลาล็อกหน้าจออัตโนมัติ
- ปิดการแชร์ Location บนแอพที่ไม่ได้ใช้งาน
- ปรับค่ากราฟฟิกในเกม หรือ ปิดเสียงเวลาเล่นเกม
- ปิดการทำงานของ Background App Refresh
- ปิด Raise to Wake (ยกเครื่องขึ้นเพื่อเปิดหน้าจออัตโนมัติ)
- ปิด widgets ที่ไม่ได้ใช้
- เทคนิคการถนอมแบตเตอรี่บนสมาร์ทโฟน
เคล็ดลับประหยัดแบต แก้ปัญหาแบตมือถือหมดไว
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนั้นเทคโนโลยีบนสมาร์ทโฟนนั้นจะมีประสิทธิภาพมากขนาดไหน เร็วแรง ไหลลื่นเพียงใด แต่สิ่งที่ยังคงเป็นปัญหาอยู่นั่นก็คือปัญหาในเรื่องของแบตเตอรี่ ที่เมื่อเราใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพแล้วนั้น ก็อาจไม่เพียงพอต่อการใช้งานภายในหนึ่งวัน ทำให้เราจะต้องคอยพก Power Bank หรือที่ชาร์จที่ติดตัวไปด้วยอยู่บ่อยๆ แต่ถ้าหากเรามีเคล้ดลับในการช่วยประหยัดแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟน โดยการปิดการใช้งานที่ไม่จำเป็นไปก็จะช่วยให้ไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่ไปกับอะไรที่ไม่จำเป็น ทำให้มีแบตเพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละวันได้ หรือสามารถใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย
เปิด Power Saving Mode / Low Power Mode หรือ โหมดประหยัดพลังงาน
การเปิดโหมดประหยัดพลังงานนั้นเรียกได้ว่าเป็นทางเลือกแรกๆ สำหรับใครที่ต้องการประหยัดแบตเตอรี่สมาร์ทโฟน ซึ่งการเปิด Power Saving Mode / Low Power Mode หรือ โหมดประหยัดพลังงาน นั้นก็เป็นฟีเจอร์ที่ดีมากๆ ในการช่วยลดการใช้พลังงานของแบตเตอรี่ลง แต่ทั้งนี้ ก็แลกมาด้วยตัวสมาร์ทโฟนเอง จะลดประสิทธิภาพในการประมวลผลลงเช่นกัน จะสังเกตได้เวลา ในช่วงที่เราเปิดใช้งานโหมดนี้นั้น การแจ้งเตือน, การเล่นเกม ฯลฯ ก็อาจจะมีความล่าช้าลง แต่ถ้าใครที่ต้องการประหยัดแบตเตอรี่ไม่อยากให้แบตถือถือหมดไวก็สามารถเปิดใช้งานโหมดนี้ได้เลย
ปิดใช้งานแอพพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้
การใช้งานแอพพลิเคชันหลายๆ แอพพร้อมๆ กัน เช่น การฟังเพลงไปด้วย เล่น Instagram ไปด้วย หรือตอบแชทไปด้วยพร้อมกับดู YouTube นั้น ส่งผลให้แบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนลดลงรวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากตัวสมาร์ทโฟนใช้พลังงานในการประมวลผลที่มากขึ้น อีกทั้งการเปิดแอพพลิเคชันอื่นๆ ที่ไม่ได้ใช้งานทิ้งไว้ โดยอาจเป็นการสลับไปใช้งานแอพอื่นโดยที่ไม่ได้ปัดปิดแอพเดิมออก ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เปลืองแบตเตอรี่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Android การทำเช่นนี้จะทำให้ตัวแอพเหล่านั้นยังคงมีการทำงานอยู่ การปิดแอพพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานนั้นก็จะช่วยให้สามารถประหยัดแบตเตอรี่ได้มากยิ่งขึ้น
ในทางกลับกัน สำหรับ iPhone การปิดแอพพลิเคชั่นที่เราไม่ได้ใช้อาจจะทำให้เราคิดว่าเป็นการประหยัดแบตเตอรี่ ทำให้ระบบทำงานน้อยลง แต่ความจริงนั้นแอพพลิเคชันที่เราเปิดไปแล้วจะอยู่ในสถานะที่ถูก ‘พัก’ ไว้ ในขณะที่เราไปใช้งานแอพอื่นๆ (ยกเว้นแอพพลิเคชั่นที่มีการทำงานเบื้องหลังอย่างเช่นแอพพลิเคชันสำหรับแชท หรือโซเชียลมีเดียร์ต่างๆ ที่มีการอัปเดตข้อมูลอยู่เสมอ) แต่ถ้าหากเราทำการปิดแอพ หรือเคลียร์แอพทิ้งไปนั้น การเปิดแอพพลิเคชันแต่ละแอพขึ้นมาใหม่ จะเป็นการทำให้เปลืองแบตเตอรี่มากกว่า เพราะระบบจะต้องทำการเริ่มการทำงานของแอพใหม่ตั้งแต่ต้นนั่นเอง
ปรับลดความสว่างของหน้าจอ
ความสว่างของหน้าจอนั้น ถือเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าใช้พลังงานมากที่สุดอย่างหนึ่งบนสมาร์ทโฟนเลยก็ว่าได้ บางคนก็ใช้งานการปรับแสงสว่างหน้าจอโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะทำให้แสงสว่างของหน้าจอปรับให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เราอยู่ ณ ขณะนั้นๆ แต่นั้นนี้การใช้งานการปรับแสงสว่างของหน้าจออัตโนมัติก็สูบแบเตอรี่ของเราด้วย อีกทั้งถ้าหากเราไม่ได้อยู๋ในพื้นที่กลางแจ้ง หรือสว่างมากๆ เราก็ควรลดความสว่างของหน้าจอลงให้พอดีกับการใช้งาน เพื่อเป็นการช่วยประหยัดแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟน
สำหรับการปิดใช้งานการปรับความสว่างของหน้าจออัตโนมัตินั้น
- Android
- สามารถเข้าไปปิดฟีเจอร์นี้ได้ที่การตั้งค่า Display หรือ Brightness
- iOS
- ไปที่ Settings >> Accessibility >> Display & Text Size >> ปิด Auto-Brightness
อัปเดต Software อยู่สม่ำเสมอ
การอัปเดต Software ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชัน บน App Store หรือ Play Store อยู่สม่ำเสมอนั้น นอกจากจะช่วยในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมของทั้งตัวเครื่องและแอพพลิเคชันแล้ว ก็ยังช่วยให้การใชเงานแบตเตอรี่ของเราสามารถใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะการอัปเดตที่มีการปรับปรุง แก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้งาน
เปิดใช้งาน Dark Mode
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าความสว่างของหน้าจอนั้น ส่งผลต่อแบตเตอรี่เป็นอย่างมากเป็นอันดับต้นๆ ในปัจจุบันนั้นสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงราคาระดับกลางไปจนถึงสูง ต่างก็หันมาใช้หน้าจอ OLED หรือ AMOLED ซึ่งเป็นจอภาพที่มีลักษณะคล้ายฟิล์ม มีส่วนประกอบเป็นสารอินทรีย์ที่สามารถเปล่งแสงได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งพาแสง Backlight อีกทั้งยังไม่มีการเปล่งแสงในส่วนของบริเวณที่เป็นภาพสีดำกันแล้ว ซึ่งการเปิด Dark Mode นั้น ก็จะช่วยลดการใช้พลังงานของแบตเตอรี่ได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งการใช้งาน Dark Mode ยังช่วยถนอมสายตาของผู้ใช้งานอย่างเราๆ ได้ด้วย
ปรับลดอัตรา Refresh Rate ของหน้าจอ
หนึ่งในจุดเด่นของสมาร์ทโฟนยุคปัจจุบันนั้น นั่นก็คือ อัตราการ Refresh Rate ของหน้าจอ ที่จะช่วยให้การใช้งาน การรับชมคอนเทนต์ รวมไปถึงการเล่นเกม มีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การใช้งานโดยทั่วไปนั้น ก็อาจไม่จำเป็น แถมยังทำให้สิ้นเปลืองแบตเตอรี่อีกด้วย การจำกัดอัตรา Refresh Rate ของหน้าจอให้เหลือเพียง 60hz นั้นก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปแล้ว อีกทั้งยังช่วยให้ไม่สิ้นเปลืองเแบตเตอรี่อีกด้วย
พยายามไม่ไม่ให้สมาร์ทโฟนร้อนเกินไป
ปัญหาใหญ่ๆ ที่ทำให้แบตเตอรี่หมดไวมากๆ อีกปัญหาหนึ่งเลยก็คือ สมาร์ทโฟนเครื่องร้อน ซึ่งอาจเกิดขึ้นมาได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเล่นมือถือขณะที่ชาร์จแบตเตอรี่, การใส่เคสที่ไม่มีการระบายอากาศ, การเล่นมือถือในขณะที่อากาศร้อนจัด ฯลฯ เหล่านี้ล้วนส่งผลให้สมาร์ทโฟนของเรามีความร้อนที่สูง ยิ่งถ้าเราใช้งานหรือเล่นมือถือในช่วงที่ตัวเครื่องมีความร้อนสูงนั้น ก็จะยิ่งทำให้แบตเตอรี่ของเราหมดไวมากยิ่งขึ้น อีกทั้งปัญหาที่จะตามมาเวลาที่เราเล่นมือถือขณะที่เครื่องร้อนนั้น ก็คือ ปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมไวนั่นเอง
ปิดการเชื่อมต่อที่เราไม่ได้ใช้งาน
การเปิดการเชื่อมต่อต่างๆ ไว้อยู่ตลอดเวลานั้น ส่งผลทำให้แบตมือถือหมดไวได้ด้วย เพราะการเชื่อมต่อแบบไร้สายเองก็ต้องพึ่งพาพลังงานจากแบตเตอรี่อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ้ปิดใช้งาน 5G หรือการเปิด Wi-Fi ทิ้งไว้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ใช้งานไวไฟอยู่ก็ตาม แต่ตัวสมาร์ทโฟนก็จะยังคงค้นหาสัญญาณอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่จะทำให้การเชื่อมต่อให้เราโดยอัตโนมัติ ส่งผลให้มีการใช้งานแบตเตอรี่ที่มากยิ่งขึ้น ทางที่ดีนั้นเราควรปิดการทำงานของ Wi-Fi โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน iPhone แนะนำให้ปิดไวไฟที่อยู่ในหน้า Settings เพราะการที่เราปิดเฉพาะที่แถบ Control Center นั้น จะเป้นเพียงแค่การปิดใช้งานชั่วคราว เมื่อเจอสัญญาณ Wi-Fi ที่เราเคยเชื่อมต่อ หรือคุ้นเคย ตัวสมาร์ทโฟนก็จะเปิดใช้งานและเชื่อมต่อให้เราโดยอัตโนมัติเช่นเดิม
ไม่ใช้ Wallpaper ภาพเคลื่อนไหว
นอกจากในเรื่องของความสว่างหน้าจอแล้ว การเลือกใช้ภาพพื้นหลัง หรือ Wallpaper ก็ส่งผลกับการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าใครที่ชอบใช้งานภาพเคลื่อนไหว ก็จะยิ่งส่งผลให้แบตเตอรี่หมดไวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ภาพพื้นหลังที่อยู่ในโทนสว่าง ก็มีส่วนในการสิ้นเปลืองแบตเตอรี่เช่นกัน แต่ก็ไม่มากเท่าการใช้ภาพเคลื่อนไหว ดังนั้น หากใครที่ต้องการประหยับแบตเตอรี่ ก็แนะนำว่าให้ใช้งานภาพพื้นหลังแบบปกติที่ไม่ได้เป็นภาพเคลื่อนไหวจะดีกว่า
ตั้งเวลาล็อกหน้าจออัตโนมัติ
การเปิดหน้าจอทิ้งไว้ ไม่ล็อกหน้าจอ เป็นเวลานานๆ นั้น ก็ส่งผลให้สมาร์ทโฟนมีการเปิดใช้แสงสว่างและทำงานอยู่ตลอดเวลา จึงไม่แปลกที่แบตเตอรี่จะลดลงอย่างรวดเร็ว ทางที่ดีนั้นเราควรมีการตั้งเวลาล็อกหน้าจอโดยอัตโนมัติหลังจากไม่ใช้งาน โดยเลือกเวลาเวลาประมาณ 15 วินาที หรือ 30 วินาที ก็เพียงพอแล้ว ทั้งนี้ นอกจากการล็อกหน้าจออัตโนมัติจะช่วยในเรื่องของการประหยัดแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนแล้ว ยังช่วยให้คนอื่นไม่สามารถมายุ่งหรือใช้งานเครื่องเขาเรา เวลาที่เราลืมล็อกหน้าจอแล้วไปทำอย่างอื่นได้ด้วย เพื่อความปลอดภัยในอีกระดับหนึ่ง
- สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ Settings >> Display & Brightness >> Auto-Lock
ปิดการแชร์ Location บนแอพที่ไม่ได้ใช้งาน
หลายแอพพลิเคชันที่ติดตั้งในเครื่องนั้น มักจะมีการเปิดใช้การเข้าถึง Location ของเรา เพื่อข้อมูลที่แม่นยำ ฯลฯ ซึ่งถ้าหากเราเปิด Location อยู่ตลอดเวลา ระบบก็การค้นหาตำแหน่งก็มีการทำงานอยู่ตลอด ซึ่งก็ทำให้สิ้นเปลืองแบตเตอรี่ การปิดหรือจำกัดการค้นหา Location ปัจจุบันของเราก็จะทำให้สามาารถประหยัดการใช้พลังงานและแบตเตอรี่ได้มากยิ่งขึ้น
สามารถเข้าไปตั้งค่าได้ที่ Settings >> Privacy >> Location Service >> จะปรากฏรายการแอพพลิเคชันที่มีการใช้ Location ของเรา เราสามารถเลือกที่จะปิด หรือจะให้แอพฯ มีการขออนุญาตเราก่อน หรือจะเปิด Location เฉพาะตอนที่เราใช้งานแอพพลิเคชันอยู่ก็ได้
ปรับค่ากราฟฟิกในเกม หรือ ปิดเสียงเวลาเล่นเกม
สำหรับใครที่เป็นสายเล่นเกม ไม่ว่าจะเป็นเกมแนวไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมใหญ่ๆ ที่มีการใช้ทรัพยากรของตัวเครื่องเยอะๆ นั้น ยิ่งเราเปิดกราฟฟิกสูงๆ เปิดเสียงดังๆ ในขณะเล่นเกม ก็จะยิ่งทำให้สมาร์ทโฟนต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มากยิ่งขึ้น การปรับลดกราฟฟิกลง, ลดหรือปิดเสียงในขณะเล่นเกม ก็จะช่วยให้เราสามารถประหยัดแบตเตอรี่ของเราได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งการปิดเสียงจากลำโพงก็ยังเป็นการไม่ไปรบกวนผู้อื่นอีกด้วย
ปิดการทำงานของ Background App Refresh
แอพพลิเคชันที่มีการทำงานอยู่เบื้องหลัง จะมีการอัพเดตข้อมูลอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทำให้เครื่องของเรากินแบตเตอรี่มากขึ้น สำหรับแอพพลิเคชันไหนที่ไม่จำเป็นต้องมีการทำงานอยู่เบื้องหลัง ซึ่งวิธีการปิดการทำงานก็ทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
ในหน้าจอ Home >> Settings >> General >> Background App Refresh >> จะปรากฏรายการของแอพพลิเคชันที่มีการทำงานเบื้องหลังขึ้นมา เราสามารถเลือกปิด/เปิดสวิตช์การทำงานเบื้องหลังของแอพพลิเคชันได้ตามต้องการ
ปิด Raise to Wake (ยกเครื่องขึ้นเพื่อเปิดหน้าจออัตโนมัติ)
ต้องยอมรับว่าฟีเจอร์นี้มีประโหยดอย่างมาก โดยเฉพาะกับการที่ไม่ต้องคอยกด iPhone เพียงแค่ยกขึ้นมาหน้าจอก็ติดแล้ว แต่หลายครั้งเวลาที่เราเพียงแค่ยกมือถือขึ้นมา หรือตั้งใจเพียงแค่จะหยิบใส่กระเป๋า หน้าจอก็สว่างขึ้นมาอัตโนมัติซึ่งถ้าเป็นแบบนี้อยู่ตลอด ๆ ก็จะทำให้กินแบตเตอรี่อยู่เหมือนกัน ดังนั้นการปิดการทำงานของฟีเจอร์นี้ก็จะช่วยให้เราประหยัดแบตลงไปได้ หากเราแค่ต้องการจะดูเวลา หรือการแจ้งเตือน การกดปุ่ม Power หรือ ปุ่ม Home ก็จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ยิ่งในรุ่นที่ไม่มีปุ่ม Home แล้วนั้นก็มีฟีเจอร์การแตะที่หน้าจอเพื่อเปิดขึ้นโดยอัติโนมัติก็เป็นอีกทางเลือกที่จะประหยัดแบตได้มากกว่า
สำหรับการปิดฟีเจอร์นี้ก็สามารถเข้าไปปิดการทำงานได้ที่ Settings >> Display & Brightness >> ปิดสวิตช์ Raise to Wake
ปิด widgets ที่ไม่ได้ใช้
การที่เราเปิดใช้ widgets จำนวนมาก ทำให้ระบบภายในเครื่องทำงานมากขึ้น ถ้ามี Widgets ไหนที่เราไม่ได้ใช้ก็สามารถทำการปิดไปได้เลย จะช่วยให้ระบบทำงานน้อยลง สามารถประหยัดแบตเตอรี่ให้เราได้มากขึ้นด้วย
โดยในหน้าจอ Home ของ iPhone ให้เราปัดไปที่หน้า Widgets จากนั้นให้เลื่อลงมาด้านล่าง >> เลือก Edit >> ก็จะปรากฏหน้ารายการ Widgets ให้เราเลือกกดปิดได้เลย
เทคนิคการถนอมแบตเตอรี่บนสมาร์ทโฟน
ในเมื่อเราพูดถึงเคล็ดลับในการจัดการกับปัญหาแบตมือถือหมดไวกันไปแล้ว เราก็จะมาพูดถึงเทคนิคเล็กๆ ที่จะช่วยถนอมแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนของเรา ไม่ให้เสื่อมไว มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน กันบ้าง
- หลีกเลี่ยงการใช้งานในพื้นที่อุณหภูมิร้อนจัด หรือเย็นจัด เพราะจะส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟน รวมไปถึงการวางสมาร์ทโฟนทิ้งไว้ในรถที่จอดกลางแจ้ง
- สำหรับผู้ใช้งาน iPhone นั้น แนะนำให้เปิดใช้ ฟีเจอร์ Optimized Battery Charging ซึ่งจะเป็นการวิเคราะห์ผ่าน AI ในการชาร์จแบต โดยจะวิเคราะห์จากช่วงเวลาที่เราใช้งานมากที่สุด และน้อยที่สุด รวมไปถึงช่วงที่เราชาร์จแบตบ่อยๆ ซึ่งเมื่อระบบจดจำพฤติกรรมของเราแล้ว เวลาที่เราเสียบชาร์จทิ้งไว้ อย่างในเวลาเข้านอนนั้น ตัวเครื่องจะชาร์จแบตเตอรี่ไปจนถึง 80% และจะหยุดการชาร์จแบตเตอรี่ไว้ และเมื่อใกล้ถึงช่วงที่เราจะตื่น ตัวเครื่องจะทำการชาร์จต่ออีกครั้งจนเต็ม 100% เพื่อเป็นการช่วยชะลอการเสื่อมของแบตเตอรี่นั่นเอง
- สามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ โดยไปที่ Settings >> Battery >> Battery Health & Charging >> Optimized Battery Charging
- เลือกใช้งานอุปกรณ์สำหรับชาร์จที่เป็นของแท้ ได้มาตรฐาน เพราะจะทำให้การจ่ายไฟนั้นทำได้เสถียร มีกระแสไฟฟ้าเข้าไปยังแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ ไม่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อม ทั้งยังป้องกันปัญหากระแสไฟไหลกลับ หรือปัญหาชาร์จไปแล้วแบตเตอรี่ลด หรือความปลอดภัยอื่นๆ ด้วย
- เลือกใช้งานเคสที่ไม่สะสมความร้อน โดยเฉพาะกับเคสที่มีความหนา ทำให้ตัวเครื่องไม่สามารถระบายอากาศได้ดีเท่าที่ควร ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นเคสที่ทำมาจากยาง ดังนั้น ทางที่ดีเราอาจจะหาเคสที่สามารถระบายอากาศได้ดี หากใครกังวลว่าเคสที่บางเกินไปจะไม่กันสามารถป้องกันอะไรได้นั้น ปัจจุบันเคสกันกระแทกที่ผลิตออกมาก็มีน้ำหนักเบา แข็งแรง แถมยังระบายความร้อนได้ดีขึ้นอีกด้วย
- หลีกเลี่ยงการใช้งานขณะชาร์จแบตเตอรี่ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นก็คือ จะทำให้ตัวเครื่องเกิดความร้อนที่สูง ซึ่งความร้อนนี้เองที่จะส่งผลกับอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ อีกทั้งการเล่นไปชาร์จไปยังทำให้แบตเตอรีจะคายประจุและเก็บประจุไปพร้อมๆ กัน ส่งผลให้เกิดปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมเร็วตามมาในที่สุด
และทั้งหมดนี้ก็คือเคล็ดลับแก้ไขปัญหามือถือแบตหมดไว ทั้งสมาร์ทโฟน iOS และ Android รวมไปถึงเทคนิคเล็กๆ ในการถนอมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ที่ทีมงานได้นำมาฝากกัน สำหรับการใครที่กำลังเจอปัญหาแบตหมดไว หรือกำลังหาวิธียืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่อยู่นั้น ก็สามารถนำเคล็ดลับวิธี ที่ทีมงานได้นำมาแนะนำไปลองใช้งานกันดู เพื่อการใช้งานสมาร์ทโฟนที่ยาวานยิ่งขึ้นในหนึ่งวัน และการยืดอายุแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนไม่ให้เสื่อมไว