จะเลือกลำโพงคอมยี่ห้อไหนดีไม่ต้องสงสัย รวมวิธีดูสเปคและรุ่นเด็ดมาให้ดูแล้ว!
ลำโพงคอมเป็นอุปกรณ์อีกชิ้นที่เกมเมอร์และผู้ใช้หลายๆ คนมักสงสัยว่าจะซื้อลำโพงคอมยี่ห้อไหนดีมาใช้กับเซ็ตคอมพิวเตอร์ของเรา ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่าแค่ซื้อมาใช้ให้ดูหนังฟังเพลงได้ระดับหนึ่งก็พอจะใช้รุ่นไหนก็ได้ แต่ก็จะมีผู้ใช้กลุ่มที่อยากได้ลำโพงเสียงดีเอาไว้ใช้กับคอมพิวเตอร์เพื่อดูหนังฟังเพลงให้ได้อรรถรสยิ่งขึ้น ก็จะมองหาลำโพงจากแบรนด์ผู้ผลิตลำโพงชั้นนำของโลกมาใช้โดยไม่เสียดาย ขอแค่คุณภาพเสียงดีเป็นอันพอ
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยว่าลำโพงตัวนั้นๆ จะได้เสียงดี มีมิติหรือไม่นอกจากเรื่องไดรเวอร์และการปรับจูนเสียงจากทางผู้ผลิตแล้ว ยังมีปัจจัยอีกหลากหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องสายนำเสียง, DAC, ประเภทลำโพงว่าเป็น Active หรือ Passive ไปจนเรื่องเล็กน้อยอย่างขนาดห้องและกำลังขับของลำโพงก็มีผลต่อเสียงทั้งหมด ดังนั้นนอกจากสเปคหน้ากระดาษก็ต้องคำนึงถึงรายละเอียดส่วนนี้เพิ่มด้วย
จะเลือกลำโพงคอมยี่ห้อไหนดี มีวิธีเลือกมาฝาก!
ก่อนจะไปเริ่มเลือกลำโพงคอมตัวใหม่มาใช้งาน สิ่งที่ผู้เขียนอยากให้ผู้อ่านทำความเข้าใจและเคล็ดลับง่ายๆ ก่อนเลือกซื้อลำโพงไม่กี่ข้อ จะได้เลือกลำโพงให้ถูกใจตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งมีจุดที่ต้องใส่ใจดังนี้
- Active หรือ Passive – เป็นจุดที่ใช้บอกว่าลำโพงแต่ละตัวเป็นแบบใด โดยลำโพงคอมแบบ Active คือลำโพงที่ฝัง Amplifier มาให้ใช้ขยายเสียงในตัวโดยรับสัญญาณมาจาก DAC (Digital-to-Analog Computer) เพื่อแปลงสัญญาณจากดิจิตอลเป็นอนาล็อค (เสียง) เวลาใช้งานแค่เสียบปลั๊กก็ใช้งานได้ทันที ส่วน Passive จะต้องต่อ Amplifier หรือ Mixer แยกเพื่อใช้งาน ซึ่งแบบ Passive จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมอีกมากพอควร ซึ่งผู้ใช้ต้องเลือก Amplifier ให้เข้ากับตัวลำโพง, ดูค่า Impedance และ Power Rating ให้ดี ไม่อย่างนั้นลำโพงอาจจะเสียหายได้
- ด้านของแอมป์จะมีแยกอีก 2 ประเภท คือ Preamplifier หรือ “พรีแอมป์” เป็นตัวปรับจูนค่าสัญญาณเสียงที่อ่อนให้มีกำลังสัญญาณดียิ่งขึ้นและลด Noise และเพิ่มคุณภาพของเสียงให้ดียิ่งขึ้นก่อนตรงเข้า Power Amplifier หรือแอมป์ขยายเสียงให้กำลังขับและเสียงมีคุณภาพดียิ่งขึ้นก่อนส่งตรงไปยังลำโพงคอมแบบ Passive หรือหูฟังของเรา ทำให้เนื้อเสียงมีกำลังขับดียิ่งขึ้น
- ลำดับขั้นการทำงานของ preamp และ Power Amplifier จะมีลำดับขั้นของการทำงาน คือ
ไมค์ > Preamp > Voltage Amp > Tone & Volume Controls (ลูกบิดปรับตั้งค่าเสียง) > Power Amp > ลำโพง
กล่าวคือ เมื่อไมค์รับเสียงของผู้ใช้แล้วจะแปลงเป็นสัญญาณซึ่งมีกำลังระดับหนึ่ง แต่ไม่สูงพอใช้ใน Power Amplifier จึงต้องผ่านทางวงจร preamp, Voltage Amp และ Tone & Volume Controls เพื่อปรับแต่งให้กลายเป็นคลื่นเสียงที่เหมาะสมก่อนส่งเข้า Power Amplifier แล้วออกลำโพงในขั้นตอนสุดท้ายให้ได้เสียงที่ต้องการ
- Power Handling หรือค่า Wattage ของลำโพง – เป็นค่าวัตต์สูงสุดที่ลำโพงและ Subwoofer รับได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดความเสียหาย แสดงเป็นคำว่า RMS (root mean square) ซึ่งเป็นค่าวัตต์จริงที่ลำโพงตัวนั้นรับได้โดยไม่เกิดความเสียหาย, เสียงยังคมชัดและไม่เกิดการ Distort ส่วนค่า Peak หรือค่าวัตต์สูงสุดที่ลำโพงรับได้ในระยะเวลาสั้นๆ โดยที่ลำโพงยังไม่เสียหาย หากลำโพงอยู่ในช่วง Peak Wattage ต่อเนื่องจะทำให้คอยล์เสียงร้อนจนเสียหายและเสียงเกิดการ Distort ซึ่งค่า Power Handling จะมีผลต่อการเลือกและใช้ Amplifier ด้วย
- การเชื่อมต่อ – เมื่อเลือกลำโพงประเภทที่ต้องการได้แล้ว ให้ดูการเชื่อมต่อว่าเราต้องการพอร์ตแบบไหนบ้าง ซึ่งลำโพงแบบ Active ในปัจจุบันนี้จะรองรับการเชื่อมต่อหลากหลายแบบ นอกจากช่อง Audio Jack 3.5 มม. แล้ว ยังรองรับ USB, Bluetooth, RCA ฯลฯ อีกด้วย ซึ่งหัวข้อนี้ผู้เขียนแนะนำให้ดูว่าเราต้องการเชื่อมต่อด้วยอะไรบ้างแล้วค่อยเชื่อมต่อ
- ดีไซน์และพื้นที่ใช้งาน – รูปลักษณ์และชุดลำโพงก็เป็นส่วนสำคัญที่ต้องใส่ใจ นั่นเพราะบางตัวมีแค่ชุดลำโพง 2 ตัว แค่วางข้างหน้าจอก็ใช้งานได้เลยแต่บางตัวก็มี Subwoofer ติดมาเพื่อเสริมมิติเสียงและกำลังขับของลำโพง ดังนั้นต้องดูพื้นที่ใช้งานให้ดีว่าโต๊ะของเรามีพื้นที่ไว้วางลำโพงหรือแม้แต่ชุดแอมป์ทั้งเซ็ตได้หรือไม่ แล้วค่อยตัดสินใจซื้อก็ได้
- แชนแนลเสียงและคุณภาพเสียง – หลายคนจะเห็นหน้าสเปคว่าลำโพงแต่ละตัวมีข้อมูลเขียนว่าได้เสียงแบบ 2.0, 2.1, 5.1, 7.1 แชนแนล ซึ่งตัวเลขเหล่านี้หมายถึงลำโพงในเซ็ตมีกี่ตัวบ้าง โดยตัวหน้าเอาไว้บอกจำนวน Satellite Speakers หรือดอกลำโพงหลัก คั่นด้วยเครื่องหมายมหัพภาค (.) และมักจะมีเลข 0, 1 อยู่ หมายความว่ามี Subwoofer หรือไม่ ตัวอย่างเช่นลำโพงนี้มี 2.0 แชนแนล คือ มีลำโพง Satellite Speakers ทั้งหมด 2 ตัว ไม่มี Subwoofer เอามาเสริมเสียงในความถี่ต่ำ หรือถ้าเป็น 5.1 แชนแนล ก็มีลำโพง Satellite Speakers อยู่ 5 ตัว และ Subwoofer อีก 1 ตัว นั่นเอง ซึ่งการมี Satellite Speakers อยู่มาก ยิ่งจำลองเสียงได้รอบทิศทางมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องคุณภาพเสียง ในส่วนนี้นอกจากดูรีวิวแล้ว ผู้เขียนแนะนำให้ไปลองฟังเสียงตามร้านค้าที่มีลำโพงรุ่นที่สนใจขายอยู่ ว่าเสียงลำโพงเมื่อเปิดเพลงสไตล์ที่ชอบนั้นถูกหูหรือไม่ ถ้าถูกใจค่อยตัดสินใจซื้อ
- ชุดควบคุมลำโพง – เป็นฟังก์ชั่นเสริมเพื่อความสะดวก ตัวอย่างเช่นรีโมตแบบมีหรือไร้สาย เพื่อปรับความดัง, เล่น/หยุด หรือข้ามไปเพลงก่อนหน้าและเพลงถัดไป ซึ่งอุปกรณ์ชิ้นนี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่กับความชอบและความสะดวกของผู้ใช้แต่ละคนได้เลย
สรุปสเปคลำโพงคอมยี่ห้อไหนดีทั้ง 7 รุ่นเด็ด ฟังเพลงก็ดีเล่นเกมก็เจ๋ง!
สเปคลำโพงคอมยี่ห้อไหนดี | ประเภทลำโพง แชนแนลเสียง |
กำลังขับ | การเชื่อมต่อ | ราคา (บาท) |
Logitech Z120 | Active Speaker 2.0 แชนแนล |
1.2 วัตต์ (RMS) | USB Audio Jack 3.5 มม. Volume Control |
360 |
Creative Pebble 2.0 | Active Speaker 2.0 แชนแนล |
8 วัตต์ (RMS) | USB Audio Jack 3.5 มม. Volume Control |
790 |
SAAG Saturn EM-3085F | Active Speaker 2.1 แชนแนล |
49 วัตต์ มีตัวปรับแอมป์ |
USB AUX In SD Card Reader Bluetooth Remote Control รับวิทยุ FM ได้ |
1,590 |
Microlab M-600BT |
Active Speaker 2.1 แชนแนล |
40 วัตต์ (RMS) | Bluetooth AUX RCA Stereo Volume Knob |
1,890 |
Edifier G2000 | Active Speaker 2.0 แชนแนล |
16 วัตต์ (RMS) | Bluetooth AUX USB |
2,490 |
Edifier G5000 | Active Speaker 2.0 แชนแนล เสียง Hi-Res มี DSP ฝังในตัว |
88 วัตต์ (RMS) | Bluetooth 5.0 AUX USB Optical Coaxial |
9,900 |
Audioengine A2+ | Active+Passive Speaker 2.1 แชนแนล Hi-Fi |
60 วัตต์ (RMS) | MicroUSB AUX RCA Stereo Bluetooth 5.0 รองรับ aptX |
11,500 |
7 ลำโพงคอมยี่ห้อไหนดี ถ้าเลือกไม่ถูกมาดูรุ่นเด็ดเหล่านี้ได้เลย!
หลังจากทราบวิธีเลือกว่าจะซื้อลำโพงคอมยี่ห้อไหนดี ณ ตอนนี้ผู้เขียนก็ได้รวบรวมลำโพงคอมทั้งหมด 7 รุ่น น่าใช้มาแนะนำตั้งแต่ราคาหลักร้อยบาทต้นไปจนหลักหมื่น ซึ่งลำโพงแต่ละตัวจะเหมาะกับการต่างกันไป ซึ่งลำโพงแต่ละรุ่นที่เลือกมาแนะนำจะมีดังนี้
- Logitech Z120 (360 บาท)
- Creative Pebble 2.0 (790 บาท)
- SAAG Saturn EM-3085F (1,590 บาท)
- Microlab M-600BT (1,890 บาท)
- Edifier G2000 (2,490 บาท)
- Edifier G5000 (9,900 บาท)
- Audioengine A2+ (11,500 บาท)
1. Logitech Z120 (360 บาท)
Logitech Z120 เป็นลำโพงคอมแบบ Active Speaker ราคาไม่แพงหาซื้อง่ายแต่คุณภาพเสียงถือว่าค่อนข้างดี จะใช้ดูหนังฟังเพลงหรือเล่นเกมทั่วไปก็ได้ ลำโพงตัวนี้เป็นแบบ 2.0 แชนแนล กำลังขับ 1.2 วัตต์ (RMS) และมีพอร์ต USB สำหรับจ่ายไฟคู่กับ Audio Jack 3.5 มม. อีกเส้นเอาไว้ต่อรับสัญญาณเสียงได้ มีปุ่ม Volume Control ตรงหน้าลำโพงให้ใช้ และถ้าสายไฟยาวเกินไปก็มีตัวพันเก็บสายติดอยู่ด้านหลังลำโพงให้ใช้ด้วย หากใครคิดว่าจะซื้อลำโพงคอมยี่ห้อไหนดี เอาไม่ต้องแพงมากไว้ใช้งานทั่วไป ผู้เขียนก็แนะนำให้เริ่มกับลำโพงตัวนี้ก่อนได้เลย
สเปคของ Logitech Z120
- ประเภทของลำโพงและแชนแนลเสียง – Active Speaker เสียง 2.0 แชนแนล
- กำลังขับ – 1.2 วัตต์ (RMS)
- การเชื่อมต่อ – USB, Audio Jack 3.5 มม. พร้อม Volume Control
- ราคา – 360 บาท (jagaminggear Shopee)
2. Creative Pebble 2.0 (790 บาท)
หากต้องการลำโพงดีรอบด้านทั้งฟังเพลงและเล่นเกม และได้รับเสียงชื่นชมจากสื่อคอมพิวเตอร์หลายๆ เจ้าล่ะก็ Creative Pebble 2.0 ตัวนี้เป็นลำโพง Active Speakers ดีไซน์สวยเรียบง่ายและมี Volume Control ปรับความดังเสียงติดมาให้ด้านหน้าลำโพงเช่นกัน ตัวลำโพงออกแบบให้ดอกลำโพงเฉียงขึ้น 45 องศา แชนแนลเสียงมี 2.0 แชนแนล กำลังขับรวม 8 วัตต์ มีพอร์ต USB สำหรับจ่ายไฟและ Audio Jack 3.5 มม. ติดตั้งมาให้ ซึ่งถ้าใครมีเพื่อนถามหาว่าจะซื้อลำโพงคอมยี่ห้อไหนดีล่ะก็ Creative Pebble 2.0 ตัวนี้จัดว่าน่าใช้และราคาไม่แพงมากอีกด้วย
สเปคของ Creative Pebble 2.0
- ประเภทของลำโพงและแชนแนลเสียง – Active Speaker เสียง 2.0 แชนแนล
- กำลังขับ – 8 วัตต์ (RMS)
- การเชื่อมต่อ – USB, Audio Jack 3.5 มม. พร้อม Volume Control
- ราคา – 790 บาท (JIB Shopee Mall)
3. SAAG Saturn EM-3085F (1,590 บาท)
หากใครอยู่ในวงการคอมพิวเตอร์มาระยะหนึ่งแล้วน่าจะคุ้นชื่อแบรนด์ SAAG หรือลำโพงร้านคอมที่หน้าตาเรียบๆ คุณภาพเสียงดี ณ ตอนนี้มี SAAG Saturn EM-3085F ให้เลือก เป็นลำโพง Active Speakers 2.1 แชนแนล กำลังขับ 49 วัตต์ โดยมีลำโพง Satellite 2 ตัว กับ Subwoofer ทำงานคู่กัน เชื่อมต่อด้วย USB, AUX In, SD Card Reader, Bluetooth ได้ มี Remote Control รับวิทยุ FM ได้ในตัว ส่วนด้านหลัง Subwoofer มีตัวปรับแอมป์ลำโพงติดมาให้ด้วย นับเป็นลำโพงคอมที่ดีมากรุ่นหนึ่ง แต่ชุดลำโพงนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่และตู้ดอกลำโพงยื่นไปข้างหลังค่อนข้างมาก หากอยากได้มาใช้งานแนะนำให้วัดพื้นที่ให้เรียบร้อยก่อน
สเปคของ SAAG Saturn EM-3085F
- ประเภทของลำโพงและแชนแนลเสียง – Active Speaker เสียง 2.1 แชนแนล
- กำลังขับ – 49 วัตต์ (RMS) มีตัวปรับแอมป์ลำโพง
- การเชื่อมต่อ – USB, AUX In, SD Card Reader, Bluetooth, Remote Control รับวิทยุ FM ได้ในตัว
- ราคา – 1,590 บาท (Mercular)
4. Microlab M-600BT (1,890 บาท)
นอกจาก SAAG ในข้อก่อนก็มี Microlab ลำโพงคอมคุณภาพดีแต่ราคาเข้าถึงง่ายให้เลือก เช่น Microlab M-600BT ตัวนี้ก็น่าสนใจ โดยมันเป็นลำโพง Active Speaker 2.1 แชนแนล กำลังขับรวม 40 วัตต์ (RMS) มี X-Bass เสริมเสียงเบสให้หนักแน่น เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth, AUX, RCA Stereo และยังมีลูกบิดปรับเสียงติดมาให้วางด้านหน้าและติดไว้หลังลำโพงด้วย ซึ่ง Microlab ชุดนี้ใช้งานได้หลากหลายแบบทั้งดูหนัง, ฟังเพลงหรือเล่นเกมก็ดีทั้งนั้น หากใครคิดว่าจะซื้อลำโพงคอมยี่ห้อไหนดีให้คุ้ม ดีไซน์สวยแต่งห้องได้ด้วย ผู้เขียนก็แนะนำรุ่นนี้เป็นพิเศษเลย
สเปคของ Microlab M-600BT
- ประเภทของลำโพงและแชนแนลเสียง – Active Speaker เสียง 2.1 แชนแนล
- กำลังขับ – 40 วัตต์ (RMS) มีตัวปรับ Volume Control ด้านหน้าและหลังลำโพง
- การเชื่อมต่อ – Bluetooth, AUX, RCA Stereo, Volume Knob
- ราคา – 1,890 บาท (Mercular)
5. Edifier G2000 (2,490 บาท)
Edifier G2000 เป็นลำโพงคอมรุ่นเน้นการเล่นเกมโดยเฉพาะ ซึ่งตัวลำโพงจะเน้นเสียงเบสหนัก มีไฟ RGB ปรับเอฟเฟคได้ 12 แบบและมีก้านปรับเพิ่มลดเสียงติดไว้ด้านข้างตัวลำโพงและมีชิป EQ รุ่น Hecate ของทางบริษัทติดตั้งมาให้ ตัวลำโพงเป็นแบบ Active Speaker 2.0 แชนแนล กำลังขับรวม 16 วัตต์ ปรับพีคเสียงได้สูงสุดรวม 32 วัตต์ เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth, AUX, USB เข้ากับอุปกรณ์ได้หลากหลายแบบ หากใครคิดว่าจะซื้อลำโพงคอมยี่ห้อไหนดีเน้นเล่นเกมเป็นพิเศษก็แนะนำรุ่นนี้เป็นพิเศษ เพราะราคาไม่แพงแต่คุณภาพเสียงดีอย่างแน่นอน
สเปคของ Edifier G2000
- ประเภทของลำโพงและแชนแนลเสียง – Active Speaker เสียง 2.0 แชนแนล
- กำลังขับ – 16 วัตต์ (RMS) มีตัวปรับ Volume Control ด้านข้างลำโพง
- การเชื่อมต่อ – Bluetooth, AUX, USB
- ราคา – 2,490 บาท (Edifier Shopee Mall)
6. Edifier G5000 (9,900 บาท)
Edifier G5000 ตัวนี้จะอัพเกรดจากรุ่น G2000 ขึ้นมามากพอสมควร นอกจากเอฟเฟคไฟ RGB 11 แบบหน้าลำโพงและดีไซน์เกมมิ่งแล้ว มันยังมี DSP (Digital Signal Processing) ฝังไว้ในตัว ให้เสียง Hi-Res แบบ 24-bits/192kHz ตัวลำโพงเป็น Active Speaker 2.0 แชนแนล กำลังขับ 88 วัตต์ แบ่งเป็นลำโพง 12 กับ 32 วัตต์ จับคู่กันข้างละชุด มีปุ่ม Volume และปุ่มเปลี่ยนโหมดเสียงให้เข้ากับสื่อนั้นๆ ไม่ว่าจะฟังเพลง, เล่นเกมหรือดูหนังก็ได้ รองรับการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0, AUX, USB, Optical, Coaxial ถ้าเชื่อมต่อ Bluetooth จะรองรับ aptX HD, aptX, SBC อีกด้วย จัดเป็นลำโพงเกมมิ่งคุณภาพคับแก้ว ประสิทธิภาพสมราคาน่าแนะนำให้เพื่อนที่กำลังคิดอยู่ว่าจะซื้อลำโพงคอมยี่ห้อไหนดีหรือจะซื้อไว้ใช้เองก็น่าสนใจ
สเปคของ Edifier G5000
- ประเภทของลำโพงและแชนแนลเสียง – Active Speaker เสียง 2.0 แชนแนล เสียง Hi-Res รองรับ aptX HD มี DSP ฝังไว้ในตัว
- กำลังขับ – 88 วัตต์ (RMS) มีตัวปรับ Volume Control และโหมดเสียง
- การเชื่อมต่อ – Bluetooth 5.0, AUX, USB, Optical, Coaxial
- ราคา – 9,900 บาท (Edifier Shopee Mall)
7. Audioengine A2+ (11,500 บาท)
ลำโพงรุ่นสุดท้ายเป็น Audioengine A2+ จากสหรัฐอเมริกา คุณภาพระดับพรีเมี่ยมเชื่อมต่อแบบมีหรือไร้สายก็ได้ ด้วย MicroUSB, AUX, RCA Stereo, Bluetooth 5.0 รองรับ aptX เป็นลำโพง Active Speakers 2.1 แชนแนล กำลังขับรวม 60 วัตต์ แยกเป็นลำโพง 15W RMS/30W ต่อข้าง โดยฝั่งซ้ายเป็น Active ส่วนฝั่งขวาเป็น Passive Speaker ได้เสียงแบบ Hi-Fi เนื้อเสียงหนักแน่นเหมาะกับการใช้ฟังเพลงโดยเฉพาะ มี Volume Control ปรับเสียงได้ โดยทางสื่อต่างประเทศแนะนำให้ต่อฟังเพลงผ่านสาย MicroUSB เพื่อให้ผ่าน DAC ในตัว จะได้คุณภาพเสียงดียิ่งขึ้น ถ้าใครต้องการลำโพงคุณภาพเสียงดีอิ่มหูฟังเพลงสนุกล่ะก็ Audioengine ตัวนี้จัดเป็นลำโพงที่น่าซื้อเป็นอย่างมาก
สเปคของ Audioengine A2+
- ประเภทของลำโพงและแชนแนลเสียง – Active+Passive Speaker เสียง 2.1 แชนแนล, Hi-Fi
- กำลังขับ – 60 วัตต์ (RMS) มีตัวปรับ Volume Control
- การเชื่อมต่อ – MicroUSB, AUX, RCA Stereo, Bluetooth 5.0 รองรับ aptX
- ราคา – 11,500 บาท (BaNANA)
แม้จะผู้เขียนจะแนะนำว่าถ้าอยากเปลี่ยนลำโพงที่บ้านแล้วจะซื้อลำโพงคอมยี่ห้อไหนดีไปถึง 7 รุ่นแล้วก็ตาม แต่ลำโพงกับหูฟังเป็นสินค้าแบบอ่านสเปคแล้วซื้อเลยไม่ค่อยได้เพราะมีเรื่องรสนิยมมาเกี่ยวข้องด้วยว่าชอบโทนเสียงแบบไหน ส่วนตัวผู้เขียนแนะนำให้ลองหาลำโพงตัวจริงฟังดูว่าโทนเสียงของมันถูกใจหรือไม่แล้วค่อยตัดสินใจซื้อจะดีที่สุด