Notebook ของเราๆ ท่านๆ นั้นถือว่าเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งที่อาจเกิดความเสียหายขึ้นมาได้อย่างง่ายๆ ในวันนี้เราขอยกเอา 5 ข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจทำให้ Notebook ของคุณถึงขึ้นเสียใช้งานอีกไม่ได้ มาให้ทุกท่านได้ศึกษากัน
เชื่อว่าคงไม่มีใครที่อยากจะเสียเงินซื้อโน๊ตบุ๊คเจ๋งๆ แรงๆ เพื่อมาพังทิ้งในเวลาอันรวดเร็วอย่างแน่นอน จริงๆ แล้วโน๊ตบุ๊คเองนั้นหากดูแลรัักษาดีๆ ก็สามารถที่จะใช้งานได้ยาวนานหลายปี(เว้นเสียแต่คุณจะเป็นคนที่เบื่อง่ายแล้วอยากเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คทุกๆ ปีเพื่อให้ได้เครื่องที่แรงที่สุด) ทว่าในการใช้งานโน๊ตบุ๊คจริงๆ แล้วนั้นผู้ใช้ส่วนใหญ่มักจะทำการพกพาโน๊ตบุ๊คสุดรักไปไหนมาไหนเพื่อทำงานด้วยตลอดเวลา(โดยเฉพาะกับนักเรียนนักศึกษาและมนุษย์อ๊อฟฟิต)
ด้วยสาเหตุดังกล่าวนี้เองนั้นทำให้ความทนทานของโน๊ตบุ๊คแตกต่างไปจากเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะเพราะโน๊ตบุ๊คแสนรักมักจะต้องเดินทางไปไหนมาไหนกับเราๆ ท่านๆ ตลอดเวลานั่นเอง สิ่งหนึ่งที่ต้องไม่ลืมก็คือโน๊ตบุ๊คนั้นถึงจะสร้างขึ้นมาเพื่อให้สามารถพกพาไปไหนมาไหนอยู่แล้ว ทว่าภายในกรอบพลาสติก(หรือโลหะ) นั้นก็มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์อยู่ภายในซึ่งมันไม่ชอบที่จะอยากโดนเคลื่อนย้ายสถานที่บ่อยๆ มากเท่าไรนนัก
เพื่อรักษาให้โน๊ตบุ๊คแสนรักแสนหวงอยู่กับเราๆ นานๆ ในวันนี้ทาง NBS ขอำนเสนอ 5 ความผิดพลาดง่ายๆ ที่อาจทำให้โน๊ตบุ๊คของคุณใช้งานไม่ได้อีกต่อไปให้ทุกท่านได้ทราบเพื่อที่จะได้ป้องกันกันได้ทัน จะมีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลย
- ความร้อน(แรง)ที่ทำให้โน๊ตบุ๊คถึงจุดจบ
- ความผิดพลาดที่อาจทำให้แหล่งเก็บข้อมูลในโน๊ตบุ๊คเสียหาย
- การจัดการผิดวิธีอาจทำให้โน๊ตบุ๊คของคุณเสียก่อนเวลาอันควร
- สายไฟ … อีกส่วนประกอบสำคัญที่ควรระวัง
- การเคลื่อนย้ายที่ไม่เหมาะสมทำให้โน๊ตบุ๊คของคุณเสื่อมเร็วขึ้น
ความร้อน(แรง)ที่ทำให้โน๊ตบุ๊คถึงจุดจบ
ต้องยอมรับกันว่าจุดผิดพลาดที่อาจทำให้โน๊ตบุ๊คของเราๆ ท่านๆ ถึงจุดจบก่อนเวลาอันสมควรที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน(โดยเฉพาะกับผู้ใช้ในเมืองร้อนอย่างเราๆ ท่านๆ) นั้นก็คือความร้อนของตัวเครื่องที่เกิดมาจากฮาร์ดแวร์ภายในของตัวเครื่องโน๊ตบุ๊คเองไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผล, ชิปกราฟิก, หน่วยความจำไปจนกระทั่งแหล่งเก็บข้อมูล
ในปัจจุบันนั้นฮาร์ดแวร์ต่างๆ มีความแรงเพิ่มมากแต่ก่อนเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าเมื่อแรงมากแล้วความร้อนสะสมที่จะเกิดขึ้นนั้นก็มากตามไปด้วย อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้นสิ่งหนึ่งที่ยังเป็นปัญหาอยู่บนโน๊ตบุ๊คก็คือเรื่องของความร้อนสะสมที่ต้องยอมรับกันจริงๆ ว่าหากเทียบกับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะแล้วนั้น สำหรับโน๊ตบุ๊คที่มีขนาดเล็กกว่าการระบายความร้อนต่างๆ นั้นย่อมทำได้ไม่ดีเท่าไรนัก
ถึงแม้ว่าโน๊ตบุ๊ตจะมีพัดลมระบายความร้อนและช่องระบายอากาศออกจากตัวเครื่องแบบเดียวกับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ทว่าในความเป็นจริงแล้วประสิทธิภาพในการระบายความร้อนของมันทำได้ไม่ค่อยดีมากเท่าไรนัก แล้วยิ่งหากมาเจอกับสภาพอากาศร้อนๆ อย่างในเมืองไทยเราเองด้วยแล้วนั้นทำให้ความร้อนสะสมในตัวเครื่องโน๊ตบุ๊คจึงไม่สามารถที่จะระบายออกมาได้มากอย่างที่ควรจะเป็นเข้าไปอีก
ฮาร์ดแวร์ต่างๆ บนโน๊ตบุ๊คนั้นจะมีจุดจำกัดของอุณหภูมิที่สะสมในตัวเครื่องซึ่งหากถึงจุดนั้นแล้วการทำงานต่างๆ จะช้าลงหรืออาจจะถึงขั้นที่ปิดการทำงานตัวเองไปเลยเพื่อไม่ให้ฮาร์ดแวร์ต่างๆ เหล่านั้นได้รับความเสียหายมากจนเกินไป หากสิ่งนี้เกิดขึ้นกับโน๊ตบุ๊คของท่านบ่อยๆ แล้วล่ะก็ให้รู้ไว้เลยว่ามันคือสัญญาณเตือนที่เด่นชัดมากที่ตัวเครื่องโน๊ตบุ๊คนั้นกำลังประสบกับปัญหาเรื่องของการระบายความร้อนเข้าแล้ว
เรื่องความร้อนนี้นั้นถือได้ว่าเป็นปัญหาโลกแตกเลยก็ว่าได้เพราะว่าการบำรุงรักษาเรื่องดังกล่าวนี้นั้นทำได้ค่อนข้างยาก สิ่งที่ท่านสามารถที่จะทำได้ดีที่สุดก็คือใช้งานโน๊ตบุ๊คในบริเวณที่ไม่มีความร้อนมากจนเกินไป การให้โน๊ตบุ๊คมีทางออกของควารมร้อนจากเครื่องอย่างรวดเร็วก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรระลึกอยู่เสมอ คุณไม่ควรเอาอะไรมาวางกั้นช่องทางระบายความร้อนของโน๊ตบุ๊คและหากเป็นไปได้ควรหาอุปกรณ์เสริมที่ช่วยยกโน๊ตบุ๊คขึ้นจากพื้นเรียบในขณะที่คุณทำงานเพื่อให้โน๊ตบุ๊คมีช่องทางระบายอากาศที่ดีมากยิ่งขึ้น
ฝุ่นก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องของการระบายความร้อนออกจากโน๊ตบุ๊คซึ่งเราๆ ท่านๆ คงจะป้องกันกันได้ยากหน่อย ทั้งนี้หากท่านไม่มีความรู้เรื่องของฮาร์ดแวร์มากเท่าไรนักอย่างน้อย 1 – 2 ปีก็ควรจะนำเอาโน๊ตบุ๊คของคุณไปให้ช่างที่ไว้ใจได้ทำการแกะตัวเครื่องโน๊ตบุ๊คออกมาเพื่อทำการกำจัดฝุ่นออกจากตัวเครื่องบ้างเพื่อช่วยให้การระบายความร้อนยังสามารถทำงานได้ดี
หมายเหตุ – การสังเกตว่าภายในเครื่องโน๊ตบุ๊คมีความร้อนหรือฝุ่นสะสมมากหรือไม่คุณอาจจะทำได้จากการคอยฟังเสียงพัดลมระบายความร้อนภายในตัวเครื่องโน๊ตบุ๊ค โดยเมื่อไรก็ตามที่พัดลมระบายความร้อนมีการทำงานที่มีเสียงดังมากขึ้นเรื่อยๆ คุณควรที่จะทำการทำความสะอาดช่องทางระบายความร้อนให้กับตัวเครื่องหรือหากไม่มั่นใจที่จะทำเองก็ลองให้ช่างผู้ชำนาญช่วยจะเป็นการรักษาโน๊ตบุ๊คแสนรักให้อยู่กับคุณได้ยาวนานมากขึ้นกว่าเดิม
ความผิดพลาดที่อาจทำให้แหล่งเก็บข้อมูลในโน๊ตบุ๊คเสียหาย
ในปัจจุบันนั้นโน๊ตบุ๊คส่วนใหญ่มีไดรฟ์โซลิดสเทต (SSD) หรือที่แฟลชอื่นๆ เป็นแหล่งเก็บข้อมูลหลักเนื่องจาก SSD ไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวภายใน จึงทนทานต่อการเคลื่อนไหวมากกว่า อย่างไรก็ตาม โน๊ตบุ๊ครุ่นเก่าและราคาถูกจำนวนมากยังคงมีแหล่งเก็บข้อมูลเป็นแบบจานหมุนหรือฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ซึ่งเจ้าแหล่งเก็บข้อมูลแบบนี้สามารถรับความเสียหายทางกายภาพได้หากเขย่ามากเกินไป
ช่องโหว่ของฮาร์ดไดรฟ์ที่หมุนได้นี้เกิดจากการใช้ชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว HDD มีหัวอ่าน/เขียนที่ต้องเคลื่อนที่เพื่อโต้ตอบกับดิสก์ ซึ่งจะหมุน ชิ้นส่วนเหล่านี้มีความเฉื่อยในตัวเอง ดังนั้นหากคุณเคลื่อนย้ายโน๊ตบุ๊คขณะที่กำลังทำงานอยู่ ชิ้นส่วนเหล่านี้จะพยายามเคลื่อนไปตามทิศทางเดิม ซึ่งอาจทำให้เกิดการสัมผัสกันระหว่างส่วนประกอบของฮาร์ดดิสก์ภายใน ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลของคุณเสียหายได้
คุณสามารถลดความเสี่ยงของความล้มเหลวของ HDD ได้โดยการปรับโน๊ตบุ๊คของคุณเบาๆ และไม่ขยับเมื่อรันโปรแกรมที่เข้าถึงฮาร์ดไดรฟ์บ่อยๆ ปฏิบัติต่อโน๊ตบุ๊คของคุณอย่างอ่อนโยนโดยไม่มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แม้ว่าคอมพิวเตอร์ของคุณจะมี SSD คุณควรทราบสัญญาณของความล้มเหลวของ SSD เพื่อตรวจหาปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ
หมายเหตุ – ถึงแม้ว่าโน๊ตบุ๊คในปัจจุบันจะใช้แหล่งเก็บข้อมูลเป็นแบบ SSD แล้วก็ตาม ทว่าสิ่งที่คุณยังควรต้องระวังก็คือเรื่องของไฟกระชากที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายให้กับแหล่งเก็บข้อมูลแบบนี้ได้ สามารถศึกษาได้จาก
การจัดการผิดวิธีอาจทำให้โน๊ตบุ๊คของคุณเสียก่อนเวลาอันควร
หากคุณสงสัยว่าจะทำให้โน๊ตบุ๊คดีๆ พังอย่างรวดเร็วได้อย่างไร ให้ลองหยิบโน๊ตบุ๊คขึ้นมาจากทางด้านที่เป็นหน้าจอของตัวเครื่องแล้วถือไว้ตามมุมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยมือข้างเดียวแบบหลวมๆ นี่ถือว่าเป็นความคิดที่ไม่ดีอย่างยิ่งเพราะแม้แต่โน๊ตบุ๊คระดับพรีเมียมก็สามารถยอมจำนนต่อการกระทำที่โหดร้ายดังกล่าวนี้ได้อย่างง่ายดาย
เมื่อโน๊ตบุ๊คปิดอยู่ วิธีที่ดีที่สุดในการหยิบขึ้นมาคือจับที่ด้านหน้าหรือด้านหลังของอุปกรณ์ มันจะดีกว่ามากหากคุณหยิบโน๊ตบุ๊คด้วยมือทั้งสองข้างเพื่อความปลอดภัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเมื่อโน๊ตบุ๊คของคุณยังคงเปิดทำงานอยู่ คุณควรหยิบโน๊ตบุ๊คด้วยมือทั้งสองข้าง (ข้างละ 1 ข้าง)
ดังนั้นอย่าหยิบโน๊ตบุ๊คจากจอแสดงผล หากโน๊ตบุ๊คของคุณยังมีออปติคัลไดรฟ์(ไดรฟ์สำหรับใส่ดิสก์เช่น DVD หรือ CD) แล้วอย่าถือไว้ข้างเดียวเช่นกัน หากเป็นไปได้คุณควรวางโน๊ตบุ๊คไว้บนพื้นผิวเรียบและมั่นคงทุกครั้งที่ทำได้ วิธีนี้จะป้องกันไม่ให้งอจนผิดรูป
โน๊ตบุ๊คบางรุ่นจะถูกออกแบบมาให้ทำการใช้งานในรูปแบบการหมุนหน้าจอ(หรือพับ) ได้ ทว่าบางเครื่องอาจพบปัญหาในไม่ช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหยิบโน๊ตบุ๊คจากหน้าจอจะทำให้เกิดความเครียดอย่างมากกับบานพับ ให้จำไว้เสมือว่าบานพับหน้าจอไม่ได้เกิดมาเพื่อจัดการเรื่องนั้นอยู่ตลอดเวลา การทำเช่นนั้นอาจทำให้บานพับหรือวัสดุรอบๆ เสียหาย ทำให้บานพับหักหรือหน้าจอหยุดทำงาน
หมายเหตุ – การเปลี่ยนหน้าจอใหม่เป็นเรื่องที่น่าปวดหัวเพราะราคาของมันนั้นอาจจะพอๆ กับการที่คุณต้องเสียเงินเพิ่มอีกนิดเพื่อซื้อเครื่องใหม่ได้เลย
สายไฟ … อีกส่วนประกอบสำคัญที่ควรระวัง
หากคุณต้องการทำลายคอมพิวเตอร์ของคุณ (หรืออย่างน้อยก็ใช้งานได้ตามปกติ) ให้จัดการสายของมันเหมือนเป็นขยะ ล้อมรอบทุกสิ่งที่มองเห็น บิดเป็นมุมแปลก ๆ และรอให้มีบางอย่างแตกหัก รับรองว่าความเสียหายมันจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คุณคิด
คุณอาจคิดว่าสายไฟสามารถรองรับการบิดและงอได้หลายครั้ง แต่จริงๆ แล้วมันมักทำไม่ได้ โน๊ตบุ๊คเป็นอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นหลัก ดังนั้นจึงมีเหตุผลที่ดีที่จะทำให้สายไฟบาง เบา และเคลื่อนย้ายสะดวก รูปแบบทั่วไปของปัญหานี้เกิดขึ้นเมื่อมีคนพันสายไฟบนวัตถุอื่นเพื่อให้รวมเข้าด้วยกัน บางครั้งวัตถุนั้นมีขอบคมซึ่งบาดเข้าไปในสายไฟ ซึ่งนี่ไม่ใช่แค่ความผิดพลาดที่เห็นได้ชัดเจน เช่น มีดเท่านั้นเพราะลองเอาสายไฟพันรอบขอบพลาสติกแข็งก็เพียงพอแล้วที่จะเห็นความเสียหาย(ในบางกรณีอะแดปเตอร์แปลงไฟอาจทำให้สายเคเบิลเสียหายได้หากคุณพันสายไฟไว้รอบๆ มัน)
หลีกเลี่ยงปัญหานี้ด้วยการมัดสายไฟไว้เหนือตัว สายไฟส่วนใหญ่จะบรรจุในลักษณะนี้เมื่อคุณได้รับ และบางส่วนมีแถบตีนตุ๊กแกเล็กๆ ที่คุณสามารถใช้เพื่อเก็บสายไฟเข้าด้วยกัน หากสายของคุณไม่มีแถบตีนตุ๊กแก คุณสามารถหาซื้อเองได้ในราคาถูกหรือใช้สายรัดแบบปรับได้ ให้รู้วิธีม้วนสายเคเบิลโดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายเพราะไม่เพียงแค่กับโน๊ตบุ๊คเท่านั้นคุณยังสามารถใช้หลักนี้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ได้อีกด้วย
คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ทำให้สายคอมพิวเตอร์ตึงมากเกินไป หลีกเลี่ยงการปล่อยให้อะแดปเตอร์ AC ค้างกลางอากาศ สิ่งนี้จะสร้างความเครียดให้กับปลั๊กที่ต่อเข้ากับโน๊ตบุ๊คของคุณ เมื่อเวลาผ่านไป การทำเช่นนี้จะทำให้ปลั๊กอ่อนลงและอาจทำให้ซ็อกเก็ตเสียหาย ทำให้คุณไม่สามารถชาร์จคอมพิวเตอร์ได้ การมีสายหย่อนเล็กน้อยเป็นสิ่งสำคัญ
การใช้เวลาไปกับการทำความสะอาดสายเคเบิลที่รกรุงรังจะช่วยให้แล็ปท็อปของคุณทำงานได้ยาวนาน เชื่อเถอะว่าราคาของอะแดปเตอร์ AC ของโน๊ตบุ๊คนั้นคงไม่ใช่เรื่องที่ดีกับกระเป๋าเงินของคุณแน่ๆ
การเคลื่อนย้ายที่ไม่เหมาะสมทำให้โน๊ตบุ๊คของคุณเสื่อมเร็วขึ้น
ดังที่เราได้พิจารณาไปข้างต้น โน๊ตบุ๊คไม่ชอบการสั่นใดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าคุณจะคิดอย่างไรกับภาพยนตร์แต่คุณไม่สามารถใช้มันบนหลังมอเตอร์ไซค์หรือขณะวิ่งหนีพวกที่มีปืนกลได้อย่างเหมาะสม(หรือใช้หลังรถขณะที่มี RPG กำลังไล่ยิงตามทางที่คุณผ่าน)
ถึงแม้เราๆ ท่านๆ จะไม่ได้บ้าจี้ใช้งานโน๊ตบุ๊คกันแบบในภาพยนตร์
ผู้คนจำนวนมากซื้อกระเป๋าใส่โน๊ตบุ๊คเพื่อลดการกระแทกต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ซึ่งนั่นเป็นขั้นตอนแรกที่ดีมาก แต่คุณต้องแน่ใจว่ากระเป๋าที่คุณซื้อมานั้นมีการป้องกันให้กับโน๊ตบุ๊คจริงๆ กระเป๋าโน๊ตบุ๊คราคาถูกอาจมีช่องขนาดเท่าโน๊ตบุ๊คแต่มักจะขาดการป้องกันที่ดี บางทีถึงแม้ว่ากระเป๋าทางด้านข้างจะมีบุนวม(หรือวัสดุกันกระแทกอื่นๆ) แต่หากละเลยการปกป้องทางด้านบนหรือด้านล่างแล้วล่ะก็สุดท้ายมันก็ไม่สามารถที่จะช่วยป้องกันโน๊ตบุ๊คสุดรักของคุณได้
อีกทางเลือกหนึ่งคือวางแล็ปท็อปไว้ในปลอกบุนวม สิ่งนี้สามารถปกป้องโน๊ตบุ๊คของคุณจากการกระแทกในขณะที่ยังช่วยป้องกันสิ่งของในกระเป๋าของคุณไม่ให้ขีดข่วนด้านนอกของตัวเครื่องโน๊ตบุ๊คด้วย ขอเพียงตรวจสอบให้แน่ใจว่าปลอกหุ้มที่คุณซื้อมาใช้นั้นมีการบุนวม
ระวังให้ดีปลอกโน๊ตบุ๊คราคาถูก เช่น กระเป๋าห่วยๆ มักจะบางเกินกว่าจะป้องกันโน๊ตบุ๊คของคุณได้ และนั่นจะเป็นการเสียเงินซื้ออุปกรณ์เสริมไปอย่างใช่เหตุ
ป้องกันโน๊ตบุ๊คสุดรักไม่ให้ลาโลกเร็วจนเกินไป
โดยสรุปแล้ว การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เป็นสิ่งสำคัญ มิฉะนั้น โน๊ตบุ๊คของคุณอาจตายอย่างช้าๆ จากความเสียหายที่บานพับ, แหล่งเก็บข้อมูล, ชิ้นส่วนภายนอกหรือส่วนประกอบอื่นๆ แม้แต่การกระทำที่ดูเหมือนเล็กน้อย เช่น เศษอาหารที่หล่นอยู่ใต้แป้นพิมพ์อาจทำให้เกิดปัญหาร้ายแรงกับโน๊ตบุ๊คของคุณเมื่อเวลาผ่านไปได้
คุณจะได้อ่านเรื่องราวของผู้คนที่ทำโน๊ตบุ๊คหล่นในสระน้ำ, ทำเครื่องดื่มหกใส่หรือทำตกจากระเบียงชั้นที่สี่ โศกนาฏกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นจริง แต่อุบัติเหตุร้ายแรงไม่ใช่ความเสียหายส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น โน๊ตบุ๊คมักจะล้มเหลวเนื่องจากข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ รวมกัน ซึ่งบางข้อผิดพลาดอาจไม่มีผลใดๆ ในตอนแรก
แม้ว่าเราจะมุ่งเน้นไปที่ความเสียหายร้ายแรงของโน๊ตบุ๊คในบทความนี้ที่นี่ แต่อย่าลืมว่าการดูแลแบตเตอรี่ของโน๊ตบุ๊คเมื่อเวลาผ่านไปก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกันซึ่งเราจะนำเอามาเสนอให้ทุกท่านได้ศึกษากันต่อไป
ที่มา : makeuseof