เปรียบเทียบ iPhone SE vs iPhone 11 ดีไซน์ สเปค ราคาล่าสุด ซื้อรุ่นไหนดี รุ่นไหนน่าใช้ อัปเดต 2022
iPhone เป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ใน iPhone รุ่นใหม่ๆ นั้นก็มักจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง หลายๆ คนก็เลยเลือกที่จะมองหา iPhone รุ่นก่อนหน้า หรือรุ่นที่มีราคาย่อมเยาว์มากกว่า และสองรุ่นที่น่าจบตามองนั่นก็คือ iPhone SE (2022) และ iPhone 11 ทีมงาน NotebookSPEC ก็อยากจะมาเปรียบเทียบ iPhone SE vs iPhone 11 ให้เห็นกันชัดๆ ว่ามีความแตกต่างกันในเรื่องใดบ้าง ซื้อรุ่นไหนดี
เปรียบเทียบ iPhone SE vs iPhone 11
เปรียบเทียบ iPhone SE กับ iPhone 11: ดีไซน์, สีสัน
มาเริ่มต้นกันในเรื่องของภาพรวม หรือดีไซน์ ของทั้ง iPhone SE (2022) และ iPhone 11 กันก่อนเลย สำหรับดีไซน์ของทั้งสองรุ่นนี้ ก็ต้องบอกเลยว่า ค่อนข้างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยใน iPhone 11 นั้น เปิดตัวในปี 2019 ดีไซน์ออกมาในรูปแบบของตัวเครื่องขอบมน ด้านหลังเป็นกระจก ดีไซน์กล้องหลังสองตัววางเรียงกันในกรอบที่มุมซ้ายด้านบน มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ Purple, Yellow, Green, Black, White และ (PRODUCT)RED ส่วน iPhone SE (2022) นั้น เปิดตัวในปี 2022 มาในรูปลักษณ์หรือดีไซน์ที่คล้ายคลึงกับ iPhone 8 เป็นอย่างมาก โดยมาพร้อมหน้าจอการแสดงผล Retina (IPS) ขนาด 4.7 นิ้ว ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกะทัดรัด ด้านหลังเป็นกระจก มาพร้อมปุ่ม Home มีให้เลือก 3 สีด้วยกัน คือ Midnight, Starlight และ (PRODUCT)RED
iPhone | ขนาด | น้ำหนัก | ดีไซน์ | สี | รอยบาก |
---|---|---|---|---|---|
iPhone SE (2022) | 5.43 x 2.63 นิ้ว หนา 7.3 มม. | 144 กรัม | คล้ายคลึงกับ iPhone 8 คือ ตัวเครื่องเป็นโลหะ ขอบมน ด้านหลังเป็นกระจก กล้องหลังหนึ่งตัวที่มุมซ้ายด้านบน | 3 สี ได้แก่ Midnight, Starlight และ (PRODUCT)RED | ไม่มีรอยบาก มีหน้าจอมาพร้อมปุ่ม Home |
iPhone 11 | 5.94 x 2.98 นิ้ว หนา 8.3 มม. | 194 กรัม | ตัวเครื่องขอบมน ด้านหลังเป็นกระจก กล้องหลังสองตัววางเรียงกันในกรอบที่มุมซ้ายด้านบน | 6 สี ได้แก่ Purple, Yellow, Green, Black, White และ Product Red | มีรอยบาก |
เปรียบเทียบ iPhone SE กับ iPhone 11: หน้าจอแสดงผล
ในส่วนของหน้าจอ การแสดงผลของ iPhone SE (2022) กับ iPhone 11 นั้น มีความแตกต่างกันเล็กน้อย โดย iPhone 11 ที่เปิดตัวในปี 2019 นั้น มาพร้อมกับ หน้าจอแสดงผลแบบ Liquid Retina HD display ด้วยขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว ส่วน iPhone SE (2022) ที่เปิดตัวในปี 2022 นั้น มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบ LCD Retina HD display ด้วยขนาดจอ 4.7 นิ้ว ส่งผลให้ความละเอียดของหน้าจอ iPhone SE (2022) จะอยู่ที่ ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล
ที่ 326 ppi ส่วน iPhone 11 จะมีความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 1792 x 828 พิกเซล
ที่ 326 ppi อีกทั้งตัวเครื่องของ iPhone SE (2022) นั้นก็ยังมีความบางกว่าตัวเครื่องของ iPhone 11 ด้วย
iPhone | ขนาดหน้าจอ | ประเภทหน้าจอ | ความละเอียด | ความสว่าง | ฟีเจอร์ |
---|---|---|---|---|---|
iPhone SE (2022) | 4.7 นิ้ว | Retina HD display | ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล ที่ 326 ppi | สูงสุด 625 นิต | – True Tone – Wide color display (P3) – Haptic Touch |
iPhone 11 | 6.1 นิ้ว | Liquid Retina HD display | ความละเอียด 1792 x 828 พิกเซลที่ 326 ppi | สูงสุด 625 นิต | – True Tone – Wide color display (P3) – Haptic Touch |
เปรียบเทียบ iPhone SE กับ iPhone 11: พอร์ตและการเชื่อมต่อ
เมื่อพูดถึงในด้านพอร์ตและการเชื่อมต่อนั้น สำหรับในส่วนของพอร์ตต่างๆ ทาง Apple ก็ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมเอาไว้ ก็คือ พอร์ต Lightning เหมือนเดิม แต่ในส่วนของเครือข่ายและการเชื่อมต่อนั้น ใน iPhone 11 รองรับการเชื่อมต่อแบบ 4G, Wi-Fi 6 (มาตรฐาน 802.11ax) พร้อม MIMO และการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 ในขณะเดียวกัน iPhone SE (2022) นั้น รองรับการเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายมือถือแบบ 5G ทำให้การเชื่อมต่อนั้นมีความรวดเร็วขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ในส่วนของการเชื่อมต่อ Wi-Fi กับ Bluetooth นั้น ใน iPhone SE (2022) ก็เป็น Wi-Fi 6 และ Bluetooth 5.0 เช่นเดียวกับ iPhone 11
เปรียบเทียบ iPhone SE กับ iPhone 11: ชิปประมวลผล
การเปิดตัวที่ห่างกัน 3 ปี นั้น ทำให้ชิปประมวลผลที่ทาง Apple ได้พัฒนาขึ้นไปพอสมควร ทั้งในเรื่องของการพัฒนาเพิ่มเติมและอัพเกรดให้กับอุปกรณ์ที่รุ่นใหม่กว่า อย่าง iPhone SE (2022) โดยใน iPhone 11 นั้น มาพร้อมชิปประมวลผล Apple A13 Bionic ที่มี CPU แบบ 6-core แบ่งเป็นด้านประสิทธิภาพ 2 คอร์ และการประหยัดพลังงานอีก 4 คอร์, GPU เป็นแบบ 4-core และ Neural Engine แบบ 8-core ที่มีความแรง และยังคงทำงานได้อย่างดีเยี่ยม
ในขณะที่ iPhone SE (2022) นั้นมาพร้อมกับชิปประมวลผลที่ใหม่กว่าอย่าง Apple A15 Bionic ที่มี CPU เป็นแบบ 6-core แบ่งเป็นด้านประสิทธิภาพ 2 คอร์ และการประหยัดพลังงานอีก 4 คอร์, GPU เป็นแบบ 4-core เช่นกัน แต่ในเรื่องของ Neural Engine นั้น ใน iPhone SE (2022) เป็นแบบ 16-core ส่งผลในเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่งขึ้นไปอีก
ในส่วนของการกันน้ำและกันฝุ่นนั้น ทั้ง 2 รุ่น แตกต่างกัน คือ ใน iPhone 11 นั้น มีความสามารถในการกันน้ำกันฝุ่นอยู่ที่ระดับ IP68 โดยทาง Apple ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า เป็น IP68 (ที่ความลึกไม่เกิน 2 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที) ตามมาตรฐาน IEC 60529 ส่วนใน iPhone SE (2022) จะเป็น IP67 (ที่ความลึกไม่เกิน 1 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที) ตามมาตรฐาน IEC 60529 ก็แสดงให้เห็นว่า iPhone 11 นั้นมีความสามารถที่จะกันน้ำในระดับที่ลึกมากกว่านั่นเอง
และในการด้านของแบตเตอรี่นั้น ทั้ง 2 รุ่น ถือว่าแบตอึดใกล้เคียงกัน อาจจะมีความแตกต่างเพียงเล็กน้อย โดยใน iPhone 11 นั้นสามารถใช้งานโดยเล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 17 ชั่วโมง ส่วน iPhone SE (2022) นั้น สามารถใช้งานโดยเล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 15 ชั่วโมง คลิปวิดีโอต่อไปนี้เป็นการทดสอบแบตเตอรี่ของ iPhone 11 และ iPhone SE (2022)
เปรียบเทียบ iPhone SE กับ iPhone 11: กล้อง
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ก็คงไม่พูดถึงเรื่องกล้องไม่ได้ เพราะทั้ง 2 รุ่นนั้น ค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควร สำหรับใน iPhone 11 นั้น มาพร้อมกล้องหลังคู่ ความละเอียด 12MP โดยจะเป็นเลนส์ Wild ที่มาพร้อมรูรับแสงขนาด ƒ/1.8 และเลนส์ Ultra-Wild ที่มีรูรับแสงขนาด ƒ/2.4 พร้อมความสามารถในการถ่ายรูปโหมดกลางคืนด้วย Deep Fusion และความสามารถในการกันสั่นแบบ Optical ทั้งยังมาพร้อม Night mode
ในส่วนของ iPhone SE (2022) นั้น ก็มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 12MP (กล้องหลัก) ที่มีรูรับแสงขนาด ƒ/1.8 พร้อมความสมารถในการถ่ายโหมดกลางคืนด้วย Deep Fusion มีการกันสั่นแบบ Optical และการถ่ายรูปด้วย HDR อัจฉริยะ 4 และซูมออปติคัลได้ 1 เท่า ในส่วนของการถ่ายวิดีโอนั้นก็สามารถที่จะถ่ายไทม์แลปส์ในโหมดกลางคืนได้
iPhone | กล้องหลัง | กล้องหน้า | การถ่ายวิดีโอ | ฟีเจอร์ |
---|---|---|---|---|
iPhone SE (2022) | กล้องหลังความละเอียด 12MP (กล้องหลัก) ที่มีรูรับแสงขนาด ƒ/1.8 | กล้อง FaceTime HD ความละเอียด 7MP มีรูรับแสงขนาด ƒ/2.2 | – บันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 24 fps, 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps – บันทึกวิดีโอระดับ HD 1080p ที่ 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps | – Optical zoom 1 เท่า – Photographic Styles – Deep Fusion – Night mode Time-lapse |
iPhone 11 | กล้องหลังคู่ ความละเอียด 12MP – เลนส์ Wild ที่มาพร้อมรูรับแสงขนาด ƒ/1.8 – เลนส์ Ultra-Wild ที่มีรูรับแสงขนาด ƒ/2.4 | กล้องหน้า TrueDepth ความละเอียด 12MP มีรูรับแสงขนาด ƒ/2.2 | – บันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 24 fps, 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps – บันทึกวิดีโอระดับ HD 1080p ที่ 25 fps, 30 fps หรือ 60 fps | – Optical zoom 5 เท่า – Digital zoom สูงสุด 5 เท่า – Night mode – Deep Fusion – Audio zoom |
เปรียบเทียบ iPhone SE กับ iPhone 11: ความจุและราคา
ในส่วนของการเปรียบเทียบในเรื่องของราคาและความจุนั้น จะเทียบเอาจากราคา ณ ปัจจุบันที่ทางเว็บไซต์ Apple ได้วางจำหน่าย
ความจุ | iPhone SE (2022) | iPhone 11 |
---|---|---|
64GB | 17,900 | 17,000 บาท |
128GB | 19,900 | 19,300 บาท |
256GB | 23,900 | 28,100 บาท* |
* สำหรับ iPhone 11 ในความจุแบบ 256GB นั้น ไม่ได้มีการนำมาวางขายแล้ว ราคาจะเป็นราคาเดิมก่อนปลดลงจากหน้าเว็บ ทั้งนี้หากใครต้องการเครื่องแบบ 256GB ก็อาจจะต้องมองหาจากร้านค้าหรือ Shop อื่นๆ ที่อาจมีสินค้า
สรุป
กล่าวโดยสรุปแล้วนั้น iPhone 11 และ iPhone SE (2022) ก็ถือเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมและเป็นรุ่นที่ใครหลายคนยังคงมองหาอยู่ในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้ ถ้าหากให้เลือกระหว่าง 2 รุ่นนี้ ในความคิดเห็นส่วนตัวของทีมงาน ก็คงจะเทใจไปทาง iPhone 11 มากกว่า เพราะถึงแม้ว่าใน iPhone SE (2022) นั้น จะมาพร้อมชิปประมวลผลที่ใหม่กว่า ตัวเครื่องที่เล็กและพกพาได้สะดวก รวมไปถึงความสามารถในการรองรับการใช้งาน 5G ที่ปัจจุบันนี้เครือข่ายผู้ให้บริการต่างก็มีโปรโมชั่นสำหรับอินเทอร์เน็ต 5G ออกมาให้บริการกันอย่างเป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับต่อการสื่อสารในอนาคตนั่นเอง แต่สำหรับใครที่ยังคิดว่าไม่จำเป็น หากต้องการเพียงสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพสูง แต่ราคาไม่แรงจนเกินไป iPhone 11 ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีมากทีเดียว ด้วยเพราะราคาในปัจจุบันที่เริ่มต้นไม่ได้สูงมากจนเกินไป แต่แลกมากับประสิทธิภาพการทำงานที่ยังอยู่กับเราไปได้อีก 3-4 ปี ก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เลย นอกจากนี้ iPhone 11 เอง ก็ยังมาพร้อมกล้องหลังคู่ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายมากกว่า หน้าจอที่มีขนาดใหญ่มองได้สบายตา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยความที่ดีไซน์ของทั้ง 2 รุ่น ค่อนข้างมีความแตกต่างกัน ทีมงานก็อยากจะแนะนำว่าให้ไปลองจับถือเครื่องจริงก่อนจะดีกว่า เพื่อให้ได้ iPhone ที่ต้องการและตอบโจทย์กับการใช้งานมากที่สุด