Logitech MX MECHANICAL Mini คีย์บอร์ดสายทำงานตัวเล็กแต่ฟีเจอร์ใหญ่คับตัว!!
เมื่อกล่าวถึงชื่อ Logitech ขึ้นมาเมื่อไหร่ เชื่อว่าเกมเมอร์และคนทำงานต้องคิดถึงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์สุดทนทาน โดยเฉพาะ Logitech MX MECHANICAL Mini คีย์บอร์ดสายทำงานตัวเล็กประหยัดพื้นที่ในซีรี่ส์ Master ของทางบริษัท ซึ่งทาง Logitech ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ชื่นชอบสัมผัสของ Mechanical Keyboard ได้เลือกซื้อ ซึ่งนอกจาก MX MECHANICAL Mini ดีไซน์ Tenkeyless แล้ว ยังมีคีย์บอร์ดขนาด Full-size เท่ากับคีย์บอร์ดมาตรฐานให้เลือกด้วย เอาใจผู้ใช้ที่ต้องการคีย์บอร์ดเล็กประหยัดพื้นที่หรือขอแบบตัวเต็มฟังก์ชั่นครบก็เลือกซื้อได้ตามชอบ
จุดประทับใจของ MX MECHANICAL Mini อย่างแรกคือระยะเวลาใช้งานด้วยแบตเตอรี่ซึ่งทนทานใช้ได้นานต่อเนื่อง 15 วัน กรณีเปิดไฟ LED Backlit สีขาวด้วย หากปิดไฟก็อยู่ได้นานขึ้นถึง 10 เดือน, เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ 3 เครื่องด้วย Logi Bolt และ Bluetooth และสลับการใช้งานได้ตามต้องการด้วยชุดปุ่ม Easy Switch บริเวณปุ่ม F1~F3 รองรับระบบปฏิบัติการหลากหลายทั้ง Windows, macOS, Android, iOS, iPadOS, Linux, Chrome OS ก็ใช้งานได้หมด เรียกว่ามีคีย์บอร์ดนี้ตัวเดียวใช้ได้ครอบจักรวาล
ซอฟท์แวร์ของ Logitech MX MECHANICAL และ MX MECHANICAL MINI ก็มี Logi Options+ ซึ่งนอกจากใช้ตั้งค่าอัพเดทซอฟท์แวร์ให้อุปกรณ์ตระกูล Master ได้แล้ว ยังตั้งปุ่มบนคีย์บอร์ดให้เป็นคำสั่งใช้งานประจำได้, รองรับ Logitech Flow ซึ่งถ้าใครใช้เมาส์ตระกูล Logitech MX Series คู่กับคีย์บอร์ดนี้ ก็ใช้เมาส์และคีย์บอร์ดคุมคอมพิวเตอร์ 2~3 เครื่องพร้อมกันและโอนถ่ายไฟล์ข้ามเครื่องผ่านเครือข่าย Wi-Fi เดียวกันได้ทันทีโดยไม่เกี่ยงระบบปฏิบัติการ แม้จะใช้ Windows PC กับ MacBook อยู่ก็โอนถ่ายไฟล์ได้ไม่มีปัญหา
NBS Verdicts
Logitech MX MECHANICAL Mini เป็นคีย์บอร์ดไร้สายไซซ์ TKL ที่แม้ขนาดจะเล็กแต่ฟีเจอร์จัดว่าล้นตัว รองรับหลากหลายระบบปฏิบัติการ ทั้ง Windows, macOS, Android, iOS หรือแม้แต่ Chrome OS ก็ได้และยังจับคู่ได้มากถึง 3 อุปกรณ์ กดสลับเครื่องไปมาได้ตามสะดวก และถ้าใครใช้เมาส์ตระกูล Master ร่วมด้วยอย่าง Logitech MX Master 3 เมื่อกดสลับเครื่องแล้ว เมาส์และคีย์บอร์ดจะสลับไปคุมอีกเครื่องทันที หากถ้าใครเอาโน๊ตบุ๊คส่วนตัวมาทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์ของทางบริษัทก็ใช้งานได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุด
นอกจากนี้แบตเตอรี่ยังใช้งานได้นานมาก ซึ่งถ้าเปิดไฟ LED Backlit ไว้ก็ใช้งานได้ถึง 15 วัน หรือถ้าใครเลือกปิดไฟทิ้งก็ใช้ได้ยาวนานถึง 10 เดือน และยังชาร์จแบตเตอรี่ให้มันได้ด้วยสาย USB-C ได้ด้วย และเมื่อใช้งานคู่กับโปรแกรม Logi Options+ ก็สามารถตั้งค่าปุ่ม Function Hotkey บริเวณ F4~F12 เพื่อตั้งคีย์ลัดใช้งานบ่อยมาตั้งเอาไว้เผื่อเรียกใช้งานได้ด้วย และยังรองรับ Logitech Flow ฟีเจอร์พิเศษในโปรแกรม Logi Options+ โดยใช้เมาส์คีย์บอร์ดเซ็ตเดียวคุมอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมกันได้ 3 ชิ้นและยังโอนไฟล์จากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปอีกเครื่องได้ทันทีโดยไม่เกี่ยงระบบปฏิบัติการว่าจะเป็น Windows หรือ macOS ก็ได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม Logitech MX MECHANICAL Mini ยังมีเรื่องการออกแบบที่น่าจะไม่ถูกใจผู้ใช้บางประเภทอยู่บ้าง ได้แก่ดีไซน์คีย์บอร์ด Low Profile ซึ่งตัวปุ่มเตี้ยและเป็นระนาบเดียวกันหมด อย่างมากก็มี Marking ตรงปุ่ม F, J ให้วางมือได้ถูกต้องก่อนเริ่มใช้งาน ถ้าใครชอบแป้นเตี้ยระนาบเดียวแบบคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คอาจจะชอบ แต่คนใช้คีย์บอร์ดมาตรฐานมานานก็ต้องปรับตัวสักระยะแต่ยังพอกางขาตั้งเพื่อทำให้แป้นชันขึ้นเล็กน้อยแล้วกะระยะพิมพ์ได้สะดวกขึ้น
อีกส่วนที่ต้องคิด คือ ตัวแป้นมีความสูงระนาบเดียวจึงทำให้ผู้ใช้ที่เคยใช้คีย์บอร์ด Cherry Profile, OEM Profile มาก่อนจะกะระยะนิ้วตอนพิมพ์สัมผัสได้ไม่ค่อยสะดวก และยังเป็นแป้นคีย์ภาษาอังกฤษล้วนอีกด้วย หากใครพิมพ์สัมผัสยังไม่คล่องก็น่าจะใช้งานไม่สะดวก ต้องหาสติ๊กเกอร์มาติดเพื่อบอกว่าปุ่มไหนเป็นอักษรอะไร
ข้อดีของ Logitech MX MECHANICAL Mini
- เชื่อมต่ออุปกรณ์ใช้งานพร้อมกันได้มากสุด 3 ชิ้น กดสลับใช้งานได้สะดวก
- เมื่อใช้กับเมาส์ตระกูล Master เมื่อลากเมาส์ข้ามไปคุมอีกอุปกรณ์ คีย์บอร์ดจะข้ามตามไปด้วย
- ซอฟท์แวร์ Logi Options+ ตั้งค่าปุ่มลัดบนคีย์บอร์ดได้ตามสะดวก
- ฟีเจอร์ Logitech Flow เพียงต่อพีซีเอาไว้ในเครือ Wi-Fi เดียวกันโอนไฟล์ข้ามเครื่องได้ทันที
- ใช้งานได้หลายระบบปฏิบัติการ รองรับ Windows, macOS, สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตได้
- มีไฟ LED Backlit ช่วยให้พิมพ์งานในที่แสงน้อยได้สะดวกขึ้น
- เมื่อเปิดไฟ LED Backlit ใช้งานได้นาน 15 วัน ถ้าปิดไฟใช้ได้ 10 เดือน
- หากไซซ์ TKL ใช้งานไม่ถนัดก็มีขนาด Full-size ให้เลือกซื้อด้วย
- สวิตช์ Linear และ Tactile Silent เสียงไม่ดังมาก ไม่รบกวนเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศ
ข้อสังเกตของ Logitech MX MECHANICAL Mini
- คีย์บอร์ดยังเป็นภาษาอังกฤษล้วน ไม่มีภาษาไทยสกรีนติดมาให้ใช้งาน
- แป้น Low Profile ถึงจะพิมพ์สะดวกแต่ถ้าใครใช้คีย์บอร์ดทั่วไปมาจนชินต้องปรับตัวเยอะ
- ไม่มีที่เก็บ Logi Bolt หรือ USB 2.4GHz Dongle ติดมาให้ ต้องระวังทำตกหาย
รีวิว Logitech MX MECHANICAL Mini
Unboxing
กล่องของ Logitech MX MECHANICAL Mini จะสกรีนรูปสินค้าไว้ข้างหน้ากล่องกับรูปร่างของสวิตช์ที่สกรีนติดเอาไว้มุมบนขวา ข้างซ้ายจะเป็นภาพคีย์บอร์ดเมื่อมองจากด้านข้าง ซึ่งดีไซน์เป็น Low Profile ด้านขอบกล่องจะมีสัญลักษณ์แสดงสิ่งของในกล่อง ได้แก่ คีย์บอร์ด, สาย USB-C to A, USB 2.4GHz “Logi Bolt” และกระดาษคู่มือวิธีใช้งานแถมมาให้ในกล่องและมีสัญลักษณ์ Bluetooth, Logi Bolt เพื่อบอกผู้ใช้ว่าคีย์บอร์ดนี้รองรับการเชื่อมต่อแบบใดบ้าง
เมื่อเปิดกล่องจะมีคีย์บอร์ดและภาพแสดงวิธีการเชื่อมต่อ ซึ่งดูเข้าใจได้ง่ายไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆ ให้เยอะนักรวมทั้งแสดงสรรพคุณเอาไว้ครบถ้วนอีกด้วย และหลังจากดึงคีย์บอร์ดนี้ออกมาจะเห็นกล่องเล็กซึ่งใส่สาย USB-C to A กับคู่มือเอาไว้ข้างในและด้านบนเจาะเป็นช่องสอดเก็บ Logi Bolt หรือ USB 2.4GHz ไว้เชื่อมต่อ MX MECHANICAL Mini เข้ากับคอมพิวเตอร์เครื่องที่ใช้งานเป็นประจำได้ทันที และถ้าแบตเตอรี่หมดก็ใช้สาย USB เสียบชาร์จไว้สักพักก็ใช้งานต่อได้
Specification
คีย์บอร์ด Logitech MX MECHANICAL Mini จะมีรุ่น MX MECHANICAL แบบ Full-size ให้เลือกซื้อด้วย ซึ่งสเปคและคุณสมบัติจะเหมือนกันทั้งหมดต่างแค่จำนวนปุ่มเท่านั้น ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
สเปคของ logitech mx mechanical mini
- Switch : Tactile Quiet, Linear, Clicky
- Supported OS
- Bluetooth – Windows 10-11, macOS 10.15, Android, iOS 14, iPadOS 14, Linux, ChromeOS
- Logi Bolt – Windows 10-11, macOS 10.15, Linux, Chrome OS
- Software – Logi Options+
- Battery Life – 15 วัน (เปิดไฟ LED Backlit) หรือ 10 เดือน (ปิดไฟ LED Backlit)
- Height*Width*Depth – 26.1*312.6*131.55 mm.
- Weight – 612 กรัม
- Price – 5,490 บาท (Progadget Shopee Mall)
Design&Keyboard Type
ดีไซน์คีย์บอร์ดขนาด Tenkeyless ของ Logitech MX MECHANICAL Mini จัดว่าเล็กและประหยัดพื้นที่ เลย์เอ้าท์ปุ่มเป็นแบบ ANSI ซึ่งปุ่ม Enter จะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไม่ได้เป็นตัว L หัวคว่ำแบบเลย์เอ้าท์ ISO ทำให้มีพื้นที่เซ็ตปุ่มเยอะขึ้นนั่นเอง สักเกตว่าปุ่มลูกศรจะถูกอัดเข้ามาชิดกับปุ่ม Shift ขวามือและปุ่ม Function Key ด้วย และมีมาร์กกิ้งที่ลูกศรชี้ขวาให้ผู้ใช้วางนิ้วได้อย่างถูกต้อง
วัสดุทำบอดี้คีย์บอร์ดเป็นแผ่นอลูมิเนียมซ้อนอยู่บนบอดี้พลาสติกสีดำเทา มีไฟ LED Backlit สีขาวและปรับเอฟเฟคแสงได้โดยกด Fn ค้างแล้วกดปุ่มรูปหลอดไฟถัดจากปุ่ม F12 เพื่อปรับรูปแบบแสงได้ ส่วนบอดี้ตัวเครื่องขอบบนเหนือ F7~F8 จะมีโลโก้ Logi สกรีนเอาไว้และมีไฟเขียวแสดงสถานะเปิดปิดคีย์บอร์ดติดอยู่มุมบนขวามือ พอมองถัดลงมาตรงขอบบนคีย์บอร์ดจะมีสวิตช์และพอร์ต USB-C ติดเอาไว้ใช้เปิดปิดคีย์บอร์ดและชาร์จแบตเตอรี่ได้ด้วย
การจับคู่คีย์บอร์ด Logitech MX MECHANICAL Mini กับอุปกรณ์อื่น ให้กด Fn กับปุ่ม F1~F3 ปุ่มใดปุ่มหนึ่งค้างเอาไว้จนปุ่มดังกล่าวกระพริบแล้วไปกดเชื่อมต่อจากพีซีหรือสมาร์ทโฟนเครื่องที่ต้องการใช้งานคู่กับคีย์บอร์ดนี้เพื่อเริ่มการเชื่อมต่อ จากนั้นคีย์บอร์ดจะให้เจ้าของกดตัวเลข 6 หลักเพื่อยืนยันการจับคู่แล้วเริ่มใช้งานได้ทันที
ตัว Logitech MX MECHANICAL Mini หากไม่กางขาตั้งจะทำมุมราว 3 องศากับมือของผู้ใช้ หากกางขาตั้งจะชันเพิ่ม 8 องศา ซึ่งในส่วนนี้ช่วยให้ผู้ใช้ที่ไม่ชอบแป้นเตี้ยและแบนราบสามารถพิมพ์งานได้สะดวกขึ้น ทว่าดีไซน์คีย์บอร์ดแบบ Low Profile เมื่อมองด้านข้างจะเห็นว่าคีย์แคปแต่ละบรรทัดจะแบนราบไปจนหมด ไม่มีการแบ่งแยกขั้นบันไดและความสูงของคีย์แคปทุกปุ่มอย่างชัดเจน กล่าวคือเอาแป้นคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คมาทำเป็นคีย์บอร์ดตั้งโต๊ะก็คงไม่ผิดนัก
จากการใช้งานจริงและความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนด้วย หากใครใช้คีย์บอร์ดมาตรฐานซึ่งใช้คีย์แคปปุ่มเป็น Cherry, OEM Profile มาก่อนก็ต้องอาศัยการปรับตัวสักพักเพื่อให้รู้ระยะของปุ่มว่าปุ่มต่างๆ ถูกเซ็ตเอาไว้ตรงไหน
กลับกันผู้ใช้บางท่านที่คุ้นเคยกับแป้นคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คแล้วคิดว่าไม่น่ามีปัญหากับแป้นคีย์บอร์ด Low Profile นัก ก็คิดภาพตามว่าตอนพิมพ์ด้วยโน๊ตบุ๊คเราจะต้องวางมือบนตัวเครื่องแล้วพิมพ์ ทำให้ปุ่มอยู่เตี้ยกว่านิ้วจึงพอจับระยะได้ง่าย กลับกันกับแป้นคีย์บอร์ด Low Profile ซึ่งชันสูงขึ้นไปแต่ไม่มีความสูงแยกชัดเจน นอกจากต้องยกข้อมือขึ้นแล้ว ก็ต้องจับระยะวางนิ้วมือด้วย ซึ่งยุ่งยากกว่าเล็กน้อย
ด้านหลังของ Logitech MX MECHANICAL Mini จะมีแถบยางยาวหนึ่งเส้นอยู่ด้านล่างเพื่อกันคีย์บอร์ดลื่นแล้วไถลไปมากับขาตั้งสำหรับปรับความสูงคีย์บอร์ดให้พิมพ์ได้ถนัดมือขึ้น ตรงกลางมีแผ่นสติ๊กเกอร์สกรีนข้อมูลของตัวคีย์บอร์ดขนาดใหญ่ติดเอาไว้แผ่นหนึ่งด้วย
นอกจากแบบ Tenkeyless ในบทความนี้แล้ว MX MECHANICAL ยังมีแบบ Full-size ให้เลือกซื้อด้วย เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการ Function Key ทุกปุ่มและ Numpad ติดมาให้ใช้งาน แต่ราคาจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและไม่มี Clicky Switch ให้เลือก
Keycap Profile&Switch
สวิตช์และคีย์แคปของ Logitech MX MECHANICAL Mini จะเป็นคีย์แคปแบบแผ่นพลาสติกชิ้นเดียวครอบลงบนหัวสวิตช์ที่มีกรอบวงกลมล้อมตัวก้านบวกของสวิตช์เอาไว้ ข้อดีของสวิตช์ดีไซน์นี้ จะเสริมให้คีย์แคปแบบแผ่นกดได้มั่นคงยิ่งขึ้น
หากดูภาพตัดขวางแล้วจะเห็นว่า MX MECHANICAL Mini สวิตช์ Low Profile จะมีโครง Top Housing หรือกรอบบนของสวิตช์เตี้ยและระยะกดสั้นมาก ใช้แรงกดเล็กน้อยปุ่มก็ทำงานทันที มีสวิตช์จะมีให้เลือก 3 แบบ คือ Tactile Quiet ซึ่งเสียงจะเบาไล่เลี่ยกับสวิตช์ Linear และสวิตช์ Clicky ซึ่งเป็นเสียงจำของสวิตช์แบบเมคานิคซึ่งหลายคนคุ้นเคยดี
Software
ซอฟท์แวร์ Logi Options+ สำหรับตั้งค่าและอัพเดทเฟิร์มแวร์ของคีย์บอร์ดจะมี Logitech Flow ฟังก์ชั่นควบคุมคอมพิวเตอร์ 2 เครื่องพร้อมโอนถ่ายไฟล์ข้ามไปมาระหว่างกันได้ติดมาให้ใช้ด้วย โดยมีเงื่อนไขว่าคอมพิวเตอร์ทั้งสองเครื่องต้องมีซอฟท์แวร์นี้ติดตั้งไว้และเชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกันอยู่ ก็เปิด Flow แล้วใช้งานได้ทันที
หน้าแรกของซอฟท์แวร์นอกจากแสดงอุปกรณ์ที่ใช้งาน Logi Options+ ได้ เมื่อเลือกคีย์บอร์ดแล้วเอาเมาส์ไปชี้ตรงแบตเตอรี่มุมล่างซ้าย โปรแกรมจะโชว์เราว่าตอนนี้คีย์บอร์ดเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นด้วย Logi Bolt หรือ Bluetooth อยู่
เมื่อคลิ๊กปุ่มที่มีกรอบขาวบนภาพคีย์บอร์ด จะเปิดฟังก์ชั่นเปลี่ยนคำสั่งของแต่ละปุ่มขึ้นมา ซึ่ง MX MECHANICAL และ MX MECHANICAL Mini จะมีคำสั่งอื่นนอกจากที่ทางบริษัทเซ็ตอัพมาให้จากโรงงานให้เลือกอีกมากมายในหมวด Other Actions และสังเกตว่าตั้งแต่ F4~F12, ปุ่มข้าง F12 อีก 2 ปุ่ม, Home, End, Page Up, Page Down สามารถตั้งค่าคีย์ลัดใหม่ได้ทั้งหมด
การปรับเอฟเฟคไฟจะมีคีย์ลัดโดยเฉพาะของตัวเองติดตั้งมาให้ โดยหน้า Backlighting ใน Options+ จะมีเอาไว้แสดงตัวอย่างเอฟเฟคเป็นหลักเท่านั้น ถ้าต้องการปรับให้กด Fn ค้างแล้วกดปุ่มข้างขวาของ F12 เพื่อปรับเอฟเฟคที่ต้องการได้เลย
หน้าฟีเจอร์ Easy-Switch จะมีไว้แสดงการเชื่อมต่อว่า MX MECHANICAL Mini เชื่อมอยู่กับพีซีเครื่องใดบ้าง โดยแสดงข้อมูลเป็น 3 บรรทัด มีชื่อของคอมพิวเตอร์เครื่องที่เชื่อมต่อ, ระบบปฏิบัติการ, รูปแบบการเชื่อมต่อ ซึ่งในภาพจะเห็นว่าเป็น Bolt Receiver ทั้งคู่ เพราะตัวโปรแกรมจะจำรูปแบบการเชื่อมต่อล่าสุดระหว่างคีย์บอร์ดและคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นเอาไว้ กล่าวคือ ผู้เขียนนำ Bolt Receiver ไปเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ทั้งสองเครื่องโดยถอดย้ายเครื่องข้ามไปมา คีย์บอร์ดก็จะจำค่าการเชื่อมต่อเอาไว้เพื่อให้เชื่อมต่อแล้วทำงาไนด้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นถ้าใครเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth บรรทัดล่างสุดก็จะเปลี่ยนเป็น Bluetooth แทน
ข้อสุดท้ายอย่าง Settings จะรวมรายละเอียดการตั้งค่าคีย์บอร์ดเอาไว้และมีตัวเลือกอัพเดทเฟิร์มแวร์ให้คีย์บอร์ดอยู่ในหมวดนี้ด้วย นอกจากนี้ฟีเจอร์ Logitech Flow ก็รวมอยู่ในหน้าต่างนี้เช่นกัน หากใครใช้คอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊ค 2~3 เครื่องเพื่อทำงานแล้วไม่อยากหาเมาส์คีย์บอร์ดต่อแยกให้วุ่นวาย ก็ใช้ฟีเจอร์นี้ควบคุม
User Experience
ในฐานะที่ผู้เขียนใช้คีย์บอร์ด Mechanical แบบ OEM, Cherry Profile เป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อลองใช้ปุ่มแบบ Low Profile ก็ต้องปรับตัวระดับหนึ่ง นั่นเพราะดีไซน์ของปุ่มจะเป็นระนาบเดียวทุกบรรทัด ทำให้ผู้ที่เปลี่ยนจากคีย์บอร์ดมาตรฐานมาใช้คีย์บอร์ดแบบนี้ต้องปรับตัวค่อนข้างเยอะ แม้จะกางขาตั้งเพิ่มองศาให้สูงขึ้นอีก 8 องศาก็ยังพอช่วยเรื่องความชันของคีย์บอร์ดให้ผู้ใช้ที่เคยใช้คีย์บอร์ดมาตรฐานปรับตัวได้ง่ายขึ้นเล็กน้อย และการวางเลเยอร์ปุ่มอาจจะชิดกันอาจจะเกิดปัญหากดผิดปุ่มบ้างตอนเริ่มใช้งานใหม่ๆ
นอกจากนี้ เรื่องการใช้งานและฟีเจอร์ของ Logitech MX MECHANICAL Mini ต้องถือว่าน่าประทับใจมาก โดยเฉพาะถ้าใครใช้อุปกรณ์ตระกูล Master เช่น เมาส์ Logitech MX Master 3 พอจับคู่กับคีย์บอร์ดตัวนี้แล้วใช้ฟีเจอร์ Logitech Flow มันจะทำงานร่วมกับเมาส์ไปเลย โดยเริ่มต้นเปิด Logitech Flow ใน Options+ ของคอมพิวเตอร์ทั้งสองเครื่องให้เรียบร้อย จากนั้นเมื่อเมาส์คลิ๊กใช้งานบนคอมพิวเตอร์เครื่องไหน Logitech MX MECHANICAL Mini จะสลับไปเชื่อมต่อและทำงานกับคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นทันที นอกจากนี้ Logitech Flow ยังมีฟีเจอร์โอนไฟล์ข้ามคอมพิวเตอร์โดยไม่เกี่ยงระบบปฏิบัติการว่าต้องเป็นแบบเดียวกัน ดังนั้นถ้าใครใช้ MacBook กับ Windows PC อยู่ ก็รับส่งไฟล์ข้ามเครื่องได้ทันที แค่เชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi เดียวกันเท่านั้นก็ใช้งานได้เลย
ฟังก์ชั่นตั้งค่าคีย์ลัดบนคีย์บอร์ดเป็นปุ่มใช้งานบ่อยก็ถือว่าดีมาก เพราะแต่ละคนมีงานแตกต่างกันจะให้คีย์ลัดแต่ละตัวเป็นแบบเดียวกันหมดก็ทำงานไม่สะดวก แต่พอตั้งค่าปุ่มใน Options+ ได้ก็ยิ่งใช้งานสะดวก ส่วนระยะเวลาใช้งานด้วยแบตเตอรี่ก็ถือว่าน่าประทับใจ ต่อให้เปิดไฟ LED Backlit ก็ยังอยู่ได้นาน 15 วัน หรือถ้าปิดก็ใช้งานได้ยาวไป 10 เดือน ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ก็ได้ ซึ่งถ้าไม่มีปัญหากับปุ่มแบบ Low Profile อย่างที่ผู้เขียนกล่าวถึง ก็ถือว่า Logitech MX MECHANICAL Mini เป็นคีย์บอร์ดสายทำงานที่น่าใช้มากรุ่นหนึ่ง
Summary
Logitech MX MECHANICAL Mini เป็นคีย์บอร์ดทำงานฟีเจอร์ครบเครื่อง ทั้งแบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุด 10 เดือนโดยปิดไฟ LED Backlit เอาไว้ มีคีย์ลัดติดมาให้ใช้งานและปรับแต่งคำสั่งของปุ่มนั้นๆ ได้ด้วยซอฟท์แวร์ Logitech Options+ แถมยังเชื่อมต่อได้ 3 อุปกรณ์และสลับใช้งานได้ตามสะดวกอีกด้วย ยิ่งใช้งานคู่กับเมาส์ตระกูล Master อย่าง Logitech MX Master 3, 3S, MX Anywhere 3 เมื่อไหร่ ก็ใช้เซ็ตนี้คุมอุปกรณ์ที่จับคู่อยู่ได้ทันที ลดอุปกรณ์ซ้ำซ้อนเพิ่มพื้นที่ใช้งานบนโต๊ะทำงานให้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม คีย์บอร์ดทำงานราคา 5,490 บาท ก็ถือว่าสูงจนผู้ใช้บางคนต้องหันกลับมาคิดก่อนซื้อ ยิ่งถ้าจะเอาเมาส์ตระกูล Master ด้วย ก็ต้องเตรียมเงินเอาไว้อีกราว 3,000 บาท ถือว่าราคาต่อเซ็ตสูงจนตัดสินใจยาก แต่หากคำนวณเรื่องฟีเจอร์กับฟังก์ชั่นและประสบการณ์ใช้งานอันลื่นไหลเมื่อใช้อุปกรณ์แบบครบเซ็ตก็ถือว่ายอมรับได้และยังเพิ่ม Productivity ตอนทำงานได้อีก ก็ถือว่าน่าลงทุนไม่น้อยเลย