RTX 4080 กราฟิกการ์ดระดับบนรุ่นใหม่ของทาง NVIDIA กับผลรวมการทดสอบที่แรงกว่า RTX 3080 ถึง 33% แต่ประสิทธิภาพต่อราคาน้อยลงกว่าเดิมเป็นกอง
วางจำหน่ายมาได้สักพักแล้วกับกราฟิกการ์ดระดับบนรุ่นกลางของทาง NVIDIA อย่าง NVIDIA GeForce RTX 4080 ซึ่งต้องบอกเลยว่านอกจากของจะหาได้ค่อนข้างยากมากแล้ว อีกส่วนหนึ่งที่ทาง NVIDIA ยังคงไม่สามารถทำการแก้ไขปัญหาได้ก็คือตัวกราฟิกการ์ดรุ่นนี้ยังคงมีราคากลางในการวางจำหน่ายค่อนข้างที่จะสูงมากกว่ากราฟิกการ์ดรุ่นพี่ที่อยู่ในระดับเดียวกันอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3080
ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นทว่า NVIDIA GeForce RTX 4080 ก็ยังถือว่าเป็นกราฟิกการ์ดที่นักเล่นเกมให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก ในวันนี้เราจึงขอนำเสนอผลการทดสอบของกราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce RTX 4080 เทียบกับรุ่นพี่อย่าง NVIDIA GeForce RTX 3080 ทั้งในด้านของประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ระดับ 4K, ประสิทธิภาพในการใช้งานฟีเจอร์ Raytracing, ประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับกำลังไฟฟ้าที่ใช้และประสิทธิภาพต่อราคา ก่อนที่จะเข้าสู่ผลการทดสอบนั้นมาดูกันก่อนว่า NVIDIA GeForce RTX 4080 พกสเปคมาแรงแค่ไหน
- ผลิตภายใต้กระบวนการผลิตที่ระดับ 4nm โดย TSMC
- มีจำนวน Transistor ทั้งหมด 45,900 ล้านตัว
- 9,728 CUDA cores
- 304 TMUs
- 112 ROPs
- 76 SM
- 76 RT Cores
- 304 Tensor Cores
- L1 Cache ขนาด 128 KB/SM
- L2 Cache ขนาด 64 MB
- Base clock 2205 MHz / Boost clock 2505 MHz
- 16 GB GDDR6X @ 1400MHz (Effective 22400 MHz)
- Memory bus 256 bits / up to 716.8GB/s Memory Banwidth
- PCIe 4.0 x16 Interface
- 320W TDP
- Support DirectX 12.0 Ultimate/ OpenGL 4.6/ OpenCL 3.0/ Vulkan 1.3/ CUDA 8.9
- Support AV1 Video Encoder & Decoder
- ราคากลาง $1,199 (ราคาในไทยอยู่ที่ราวๆ 5x,xxx บาทในช่วงเปิดตัวและขึ้นอยู่กับยี่ห้อ)
- ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ความละเอียด 4K เมื่อเปิด Raytracing
- ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ระดับ 2K เมื่อเปิด Raytracing
- ประสิทธิภาพเทียบกับกำลังไฟฟ้าที่ใช้งาน
- ประสิทธิภาพเทียบกับราคา
ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ความละเอียด 4K เมื่อเปิด Raytracing
ก่อนอื่นเลยนั้นมาดกันที่ประสอทธิภาพของการเล่นเกมที่ความละเอียดระดับ 4K โดยยังไม่เปิด Raytracing ไปด้วยก่อน โดยจากการรวบรวมข้อมูลการรีวิวจากหลายๆ สำหนักทั้งหมดแล้วนั้นพบว่า NVIDIA GeForce RTX 4080 มีประสิทธิภาพรวมเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับกราฟิกการ์ดรุ่นท๊อปของทาง NVIDIA และ AMD ในรุ่นก่อนหน้าแล้วเป็นดังต่อไปนี้
- แรงกว่า NVIDIA GeForce RTX 3090 Ti ราวๆ 15%
- แรงกว่า NVIDIA GeForce RTX 3090 ราวๆ 23%
- แรงกว่า NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti ราวๆ 25%
- แรงกว่า NVIDIA GeForce RTX 3080 ราวๆ 33%
- แรงกว่า AMD RX 6950 XT ราวๆ 26%
- แรงกว่า AMD RX 6900 XT ราวๆ 30%
- แรงกว่า AMD RX 6800 XT ราวๆ 36%
ทั้งนี้หากเทียบกับรุ่นใหญ่จากค่ายเดียวกันเองอย่าง NVIDIA GeForce RTX 4090 แล้วนั้นพบว่า NVIDIA GeForce RTX 4080 จะช้ากว่า NVIDIA GeForce RTX 4090 อยู่ที่ราวๆ 32.3% ซึ่งหากจะมองไปแล้วนั้นก็ถือว่าไม่ได้น่าเกลียดอะไรนักเพราะหากเทียบกันตามสเปคแล้วนั้นจะพบว่าบน NVIDIA GeForce RTX 4080 นั้นทาง NVIDIA ได้ทำการลด CUDA Cores ลงจากรุ่น NVIDIA GeForce RTX 4090 ไปถึง 68% เลยทีเดียว
และจากการโฆษณาของทาง NVIDIA ที่บอกว่า NVIDIA GeForce RTX 4080 นั้นรองรับการเล่นเกมที่ความละเอียดระดับ 4K พร้อมกับเปิด Raytracing ไปพร้อมๆ กันได้อย่างเต็มรูปแบบนั้นถือว่าไม่ใช่เรื่องที่โอ้อวดเกินจริงแต่อย่าง โดยจากการรวมผลรีวิวนั้นพบว่า NVIDIA GeForce RTX 4080 มีประสิทธิภาพรวมเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับกราฟิกการ์ดรุ่นท๊อปของทาง NVIDIA และ AMD ในรุ่นก่อนหน้าแล้วเป็นดังต่อไปนี้
- แรงกว่า NVIDIA GeForce RTX 3090 Ti ราวๆ 17%
- แรงกว่า NVIDIA GeForce RTX 3090 ราวๆ 25%
- แรงกว่า NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti ราวๆ 27.4%
- แรงกว่า NVIDIA GeForce RTX 3080 ราวๆ 38.1%
- แรงกว่า AMD RX 6950 XT ราวๆ 47%
- แรงกว่า AMD RX 6900 XT ราวๆ 50%
- แรงกว่า AMD RX 6800 XT ราวๆ 54.5%
ทั้งนี้หากเทียบกับรุ่นใหญ่จากค่ายเดียวกันเองอย่าง NVIDIA GeForce RTX 4090 แล้วนั้นพบว่า NVIDIA GeForce RTX 4080 จะช้ากว่า NVIDIA GeForce RTX 4090 อยู่ที่ราวๆ 39%
ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ระดับ 2K เมื่อเปิด Raytracing
ในส่วนของประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ความละเอียดระดับ 2K นั้นเรียกได้ว่าเป็นในทิศทางเดียวกันกับการใช้งานที่ความละเอียดระดับ 4K ซึ่งจะสามารถสรุปการเปรียบเทียบได้ดังต่อไปนี้
- ช้ากว่า NVIDIA GeForce RTX 4090 ราวๆ 19%
- แรงกว่า NVIDIA GeForce RTX 3090 Ti ราวๆ 17%
- แรงกว่า NVIDIA GeForce RTX 3090 ราวๆ 22%
- แรงกว่า NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti ราวๆ 24.2%
- แรงกว่า NVIDIA GeForce RTX 3080 ราวๆ 31.1%
- แรงกว่า AMD RX 6950 XT ราวๆ 22%
- แรงกว่า AMD RX 6900 XT ราวๆ 26%
- แรงกว่า AMD RX 6800 XT ราวๆ 31.7%
เมื่อทำการเปิดฟีเจอร์ Raytracing ไปด้วยเมื่อทำการเล่นเกมที่ความละเอียดระดับ 2K นั้นจะมีความเร็วแตกต่างจากกราฟิกการ์ดรุ่นอื่นๆ ดังต่อไปนี้
- ช้ากว่า NVIDIA GeForce RTX 4090 ราวๆ 26%
- แรงกว่า NVIDIA GeForce RTX 3090 Ti ราวๆ 18%
- แรงกว่า NVIDIA GeForce RTX 3090 ราวๆ 24%
- แรงกว่า NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti ราวๆ 26.6%
- แรงกว่า NVIDIA GeForce RTX 3080 ราวๆ 33.7%
- แรงกว่า AMD RX 6950 XT ราวๆ 44%
- แรงกว่า AMD RX 6900 XT ราวๆ 47%
- แรงกว่า AMD RX 6800 XT ราวๆ 51.3%
ประสิทธิภาพเทียบกับกำลังไฟฟ้าที่ใช้งาน
ด้วยความแรงและสเปคที่ดีดขึ้นมาจากรุ่นพี่อย่าง NVIDIA GeForce RTX 3000 Series เป็นอย่างมากนั้นหลายๆ ท่านอาจจะคิดว่า NVIDIA GeForce RTX 4080 จะต้องใช้กำลังไฟฟ้าในการทำงานมากขึ้นแน่นอน ทว่าด้วยกระบวนการผลิตที่เล็กลงกว่าเดิม(ที่ระดับ 4nm) ทว่าในเรื่องของการใช้กำลังไฟฟ้านั้น NVIDIA GeForce RTX 4080 ก็มีอัตราการคายความความร้อนสูงสุด(เมื่อมีการใช้งานไฟฟ้า) น้อยกว่ารุ่นพี่ที่อยู่ในระดับเดียวกันอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3080 คืออยู่ที่ 320W เท่านั้น(NVIDIA GeForce RTX 3080 จะอยู่ที่ 325W)
ดังนั้นหากมามองดูในส่วนของประสิทธิภาพต่อการใช้กำลังไฟฟ้า(เมื่อรันเกมที่ความละเอียดระดับ 4K) นั้นจะสามารถสรุปได้ว่า
- มีประสิทธิภาพดีกว่า NVIDIA GeForce RTX 3090 Ti (462W) ที่ราวๆ 46%
- มีประสิทธิภาพดีกว่า NVIDIA GeForce RTX 3090 (359W) ที่ราวๆ 36%
- มีประสิทธิภาพดีกว่า NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti (350W) ที่ราวๆ 36%
- มีประสิทธิภาพดีกว่า NVIDIA GeForce RTX 3080 (325W) ที่ราวๆ 39%
- มีประสิทธิภาพดีกว่า AMD RX 6950 XT (348W) ที่ราวๆ 37%
- มีประสิทธิภาพดีกว่า AMD RX 6900 XT (303W) ที่ราวๆ 46%
- มีประสิทธิภาพดีกว่า AMD RX 6800 XT (298W) ที่ราวๆ 36%
ประสิทธิภาพเทียบกับราคา
จะเห็นได้ว่า NVIDIA GeForce RTX 4080 นั้นแรงอย่างที่ควรจะเป็น ทว่าสิ่งที่ทำให้หลายๆ ท่านอาจจะต้องนั่งกุมขมับในการเลือกซื้อจริงๆ แล้วนั้นก็คือราคาค่าตัวของเจ้า NVIDIA GeForce RTX 4080 ที่ถือว่าสูงขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก กับราคาในไทยที่เปิดตัวออกมาเกือบจะเท่า NVIDIA GeForce RTX 3090 เลยนั้นเชื่อเลยว่าหลายๆ ท่านอาจจะต้องคิดหนักกันหน่อยในเรื่องของการซื้อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วก็ต้องเข้าใจทาง NVIDIA ด้วยเช่นกันเนื่องจากว่าในปัจจุบันนี้นั้นเรายังคงอยู่ในช่วงที่โรงงานผลิตชิปต่างๆ ไม่สามารถที่จะผลิตชิปได้มากตามความต้องการในตลาดอันเนื่องมาจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ยังคงตามมาหลอกหลอนกันถึงในปัจจุบัน
สำหรับประสิทธิภาพต่อราคาของ NVIDIA GeForce RTX 4080 เมื่อเทียบกับกราฟิกการ์ดในระดับใกล้เคียงกันนั้นจะเป็นดังต่อไปนี้
- มีประสิทธิภาพต่อราคาดีกว่า NVIDIA GeForce RTX 4090 ที่ราวๆ 9%
- มีประสิทธิภาพต่อราคาดีกว่า NVIDIA GeForce RTX 3090 Ti ที่ราวๆ 18%
- มีประสิทธิภาพต่อราคาดีกว่า NVIDIA GeForce RTX 3090 ที่ราวๆ 11%
- มีประสิทธิภาพต่อราคาดีกว่า NVIDIA GeForce RTX 3080 Ti ที่ราวๆ 10%
- มีประสิทธิภาพต่อราคาแย่กว่า NVIDIA GeForce RTX 3080 ที่ราวๆ 31%
- มีประสิทธิภาพต่อราคาแย่กว่า AMD RX 6950 XT ที่ราวๆ 24%
- มีประสิทธิภาพต่อราคาแย่กว่า AMD RX 6900 XT ที่ราวๆ 40%
- มีประสิทธิภาพต่อราคาแย่กว่า AMD RX 6800 XT ที่ราวๆ 44%
หากจะให้สรุปแล้วนั้น NVIDIA GeForce RTX 4080 ยังถือว่าเป็นกราฟิกการ์ดที่มีราคาค่อนข้างสูง หากท่านไม่ได้ต้องการของใหม่ล่าสุดรวมทั้งยังเล่นเกมที่ความละเอียดระดับ 2K หรือ 1080p อยู่แล้วล่ะก็ กราฟิกการ์ดในรุ่นเก่าอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3000 Series หรือ AMD RX 6000 Series ยังถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในด้านของราคาและประสิทธิภาพโดยรวมที่ได้
ทว่าหากท่านต้องการของสดใหม่และไม่ได้มีข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณแล้วล่ะก็ NVIDIA GeForce RTX 4080 ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวที่จะนำมาใช้ในการเล่นเกมที่ความละเอียดระดับ 4K หรือ 2K อย่างไรก็ตามแต่แล้วนั้นในการเลือกซื้ออยากจะแนะนำให้ท่านดูองค์ประกอบฮาร์ดแวร์อื่นๆ ของเครื่องท่านเป็นตัวร่วมในการตัดสินใจด้วยว่าจะแรงมากพอที่จะขับประสิทธิภาพของ NVIDIA GeForce RTX 4080 ออกมาได้อย่างเต็มที่หรือไม่
และที่ลืมไปไม่ได้เลยนั้นก็คือเรื่องหน้าจอมอนิเตอร์ที่ท่านใช้ในการเล่นเกมนั้นรองรับ refresh rate ที่มากกว่า 120Hz@4K ขึ้นไปรึเปล่า เพราะถ้าหากไม่รองรับแล้วนั้นการซื้อ NVIDIA GeForce RTX 4080 มาใช้ร่วมด้วยก็ดูเหมือนกับว่าจะเป็นการลงทุนที่ไม่เหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจในช่วงปัจจุบันนี้เท่าไร
หมายเหตุ – หากท่านมีงบจำกัดแต่อยากเล่นเกมที่ความละเอียดระดับ 1080p ได้แบบสบายๆ แล้วล่ะก็ในช่วงนี้กราฟิกการ์ดมือสองอย่าง RTX 2000 Series หรือ RTX 3000 Series กำลังมีราคาตกลงเป็นอย่างมาก ทว่าสิ่งที่ต้องดูให้ดีเลยนั้นก็คือต้องดูร้านที่ไว้ใจได้ว่าจะไม่นำกราฟิกการ์ดที่เป็นตัวที่ถอดออกมาจากเหมือง Crypto มาทำการจำหน่ายให้ท่านหรือไม่(นอกไปจากนั้นแล้ว GTX 1080 Ti ก็ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยเพราะมีความแรงในระดับเดียวกันกับ RTX 3060 Ti แต่ราคามือสองนั้นต่างกว่ากันเกือบครึ่ง)
ที่มา : notebookcheck