Connect with us

Hi, what are you looking for?

รีวิว Acer

รีวิว Acer Swift Edge จอใหญ่ 16″ 4K เบาสุดๆ แค่ 1.17 กก. หัวใจ Ryzen 6000 Series แรงดีเริ่มแค่ 45,990 บาท

Acer Swift Edge โน๊ตบุ๊ค AMD Ryzen 6000 Series ใหม่ บาง เบา แรง!

Share image Edit Name 1swift 1

Acer Swift Edge เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาแต่หน้าจอใหญ่รุ่นใหม่ในตระกูล Acer Swift ซึ่งดีไซน์ยังดูเรียบง่ายสวยงามจนได้รับรางวัล reddot winner 2022 และ Good Design Award 2022 มาครองไม่พอ ทางบริษัทยังจัดการขยายขนาดจอให้ใหญ่ขึ้นเป็น 16 นิ้ว ความละเอียด UHD (3840×2400) พาเนล OLED ทำอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง (Screen-to-Body Ratio) ได้กว้างถึง 92% ขอบเขตสีหน้าจอกว้าง 100% DCI-P3 ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR True Black 500 การันตีค่า Contrast และความดำสนิทบนหน้าจออีกด้วย หากใครจะทำงานอาร์ตก็ไม่มีปัญหา และทำงานทั้งวันก็สบายตาด้วยการการันตี TUV Rheinland eyesafe Certified ด้วย 

Advertisement

ด้านความแข็งแรง บอดี้ของ Acer Swift Edge ทำจากแม็กนีเซียมอัลลอยด์ที่แข็งแรงแต่เบากว่าอลูมิเนียมถึง 20% ซึ่งทางบริษัทเคลมน้ำหนักเอาไว้ 1.17 กิโลกรัมและหนาสุดเพียง 12.95 มม. เท่านั้น หากใครมีกระเป๋าโน๊ตบุ๊คที่ใส่เครื่องขนาด 15.6 นิ้วได้ ก็ใส่ Swift Edge แล้วพกไปไหนมาไหนได้สบายๆ อย่างแน่นอน นอกจากนี้ทาง Acer ยังติดตั้งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้โดยรวมไว้กับปุ่ม Power แล้วเสริมความปลอดภัยด้วยชิป TPM 2.0 กับ Microsoft Pluton Security Processor ชิปเซ็ตสำหรับป้องกันการเจาะข้อมูลจากผู้ไม่ประสงค์ดี ซึ่งเมื่อมีชิปทั้งสองตัวนี้ติดตั้งไว้ในเครื่องแล้ว ก็นับว่า Acer Swift Edge นั้นปลอดภัยกว่าโน๊ตบุ๊คหลายรุ่นในท้องตลาด ณ ตอนนี้ได้เลย

สเปคและฟังก์ชั่นก็ยอดเยี่ยม นั่นเพราะทางบริษัทติดตั้งชิปเซ็ต AMD Ryzen 6000 Series ใหม่ล่าสุดมาให้ ซึ่งประสิทธิภาพจัดว่ายอดเยี่ยม ติดตั้งพอร์ต USB-C 3.2 Gen 2 x 2 ช่อง ใช้ชาร์จแบตเตอรี่แบบ Power Delivery และต่อหน้าจอแยกแบบ DisplayPort Alternate Mode แล้วยังโอนไฟล์ได้รวดเร็ว ประกบคู่กับพอร์ต HDMI 2.1 ที่รองรับหน้าจอความละเอียดสูงสุด 10K แถมยังเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax และรองรับคลื่นความถี่ 6GHz แถมยังได้กล้องเว็บแคมความละเอียด Full HD พร้อม Acer TNR ช่วยลด Noise ในภาพลงอีกด้วย ดังนั้นจะกล่าวว่านี่คือ Acer Swift รุ่นที่ดีสุด ณ ตอนนี้ก็ได้

Acer Swift Edge

NBS Verdicts

Acer Swift Edge DSC00768

Acer Swift Edge เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอใหญ่เต็มตา ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD (3840×2400) พาเนล OLED มาให้จากโรงงานแล้ว มันจึงใหญ่เต็มตาทำงานสะดวก แสดงผลได้สวยงามยอดเยี่ยม ตอบโจทย์ผู้ใช้สายศิลปินทุกท่านแน่นอน เพราะขอบเขตสีจอนี้กว้างถึง 100% DCI-P3 ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR True Black 500 มาแบบครบถ้วน เป็นหนึ่งในโน๊ตบุ๊คที่หน้าจอดี สีสันสวยงามทำงานอาร์ตได้สบายๆ

สเปคและพอร์ตเชื่อมต่อก็ยอดเยี่ยม ได้ซีพียู AMD Ryzen 6000 Series รวมไปถึงพอร์ต USB-C 4, HDMI 2.1, Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax ครบถ้วน จะเชื่อมต่อหน้าจอ, โอนไฟล์ทำงานใดๆ ก็สะดวกไปหมด และตัวเครื่องก็เบาเพียง 1.17 กิโลกรัมเท่านั้น จึงพกไปไหนมาไหนได้ง่ายมากและมีชิป TPM 2.0 และ Microsoft Pluton Security Processor ติดตั้งมา จึงปลอดภัยไร้กังวลตอนเปิดเว็บไซต์และทำงานอยู่อย่างแน่นอน ซึ่งผู้เขียนเองก็ตกหลุมรักโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยด้วยความครบเครื่องและทรงพลังของมัน

แต่จุดสังเกตที่คาดว่าจะได้รับการแก้ไขในเร็วๆ นี้ คือ ระบบจัดการพลังงานแบตเตอรี่ของ Acer Swift Edge นั้นยังไม่ถึงกับน่าประทับใจ เพราะผู้เขียนคาดหวังว่ามันจะใช้งานได้นานเกิน 10 ชั่วโมง แต่เมื่อทดสอบตามมาตรฐานของทางเว็บไซต์แล้วใช้ได้นานสุดเพียง 8 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งผู้เขียนคาดหวังว่าทาง Acer จะอัพเกรดแบตเตอรี่ให้มีความจุมากขึ้นเป็นราว 75Wh จะได้ใช้งานได้นานขึ้น

ส่วนอีกจุดน่าเสียดาย คือ แม้ตัวเครื่องจะใหญ่ระดับ 16 นิ้ว แต่คีย์บอร์ดยังเป็น Tenkeyless ไม่ใช่ Full-size แต่เมื่อดูองค์รวมก็เข้าใจได้ว่าทางบริษัทน่าจะโฟกัสความสวยงามลงตัวก่อนเป็นอย่างแรก ซึ่งถ้าใครไม่คิดมากในเรื่องนี้ก็ไม่น่าเป็นประเด็นปัญหาตอนใช้งานอย่างแน่นอน

ข้อดีของ Acer Swift Edge
  1. บอดี้ทำจากแม็กนีเซียมอัลลอยด์ แข็งแรงและเบากว่าอลูมิเนียมทั่วไปและงานประกอบแข็งแรงทนทาน งานประกอบแน่นหนา
  2. ตัวเครื่องใหญ่ถึงขนาด 16 นิ้ว แต่เบาเพียง 1.17 กิโลกรัมเท่านั้น พกพาง่ายมาก
  3. หน้าจอขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด WQUGA (3840×2400) พาเนล OLED อัตราส่วนหน้าจอ 16:10 ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR True Black 500, TUV Rheinland eyesafe Certified ครบถ้วน
  4. มี USB-C 3.2 Gen 2 Full-Function x 2 ช่อง รองรับ Power Delivery, DisplayPort Alternate mode และโอนไฟล์ได้รวดเร็ว
  5. พอร์ต HDMI 2.1 ต่อจอแยกระดับ 10K ได้ ใช้งานกับหน้าจอต่างๆ ในปัจจุบันได้แน่นอน
  6. เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6E คลื่น 6GHz ทำงานได้เร็วและเสถียรมาก
  7. ติดตั้งกล้องเว็บแคมมีความละเอียด 1080p Full HD พร้อมฟีเจอร์ Acer TNR
  8. ซีพียูเป็น AMD Ryzen 6000 Series เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ประสิทธิภาพดีทำงานลื่นไหล 
  9. มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ผสานงานกับชิป TPM 2.0 และ Microsoft Pluton Security Processor ได้ความปลอดภัยสูงสุด
  10. ติดตั้ง Windows 11 Home และ Microsoft Office Home & Student 2021 มาให้
  11. มีซอฟท์แวร์ถนอมการใช้งานพาเนล OLED ติดตั้งมาให้ โดยระบบจะแจ้งผู้ใช้อัตโนมัติ
ข้อสังเกตของ Acer Swift Edge
  1. แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสุดประมาณ 8 ชั่วโมง ควรให้แบตเตอรี่ลูกใหญ่กว่านี้ให้ใช้งานได้นานเกิน 10 ชั่วโมง
  2. ขนาดตัวเครื่องใหญ่ถึง 16 นิ้ว แต่ไม่มีแป้น Numpad ติดตั้งมาให้ใช้งาน
  3. ไม่มีพอร์ต MicroSD Card Reader ติดตั้งมาให้ ต้องต่อผ่านตัวอ่านการ์ดแทน

รีวิว Acer Swift Edge

Specification

acer laptop swift edge the design

Acer Swift Edge นั้นเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบารุ่นใหม่ล่าสุดที่ขนาดใหญ่และจอมีความละเอียดสูงสุด ณ ตอนนี้ในซีรี่ส์ Swift เลย ยิ่งไปกว่านั้นทางบริษัทยังจับคู่ซีพียู AMD Ryzen 6000 Series มาให้และเลือกได้ 2 สี คือ สีขาว Flax White (เครื่องรีวิว) หรือสีดำ Olivine Black ก็ได้ ซึ่งสเปคของรุ่นที่นำมาจำหน่ายในไทยจะเป็นดังนี้

สเปคของ Acer Swift Edge
  • CPU : แยกเป็น 2 รุ่น ได้แก่
    • AMD Ryzen 5 6600U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.9-4.5GHz
    • AMD Ryzen 7 6800U แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 2.7-4.7GHz
  • GPU : แยกเป็น 2 รุ่น ได้แก่
    • AMD Ryzen 5 6600U เป็นการ์ดจอ AMD Radeon 660M
    • AMD Ryzen 7 6800U เป็นการ์ดจอ AMD Radeon 680M
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 1TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4
  • RAM : ออนบอร์ด ความจุ 16GB LPDDR5
  • Display : 16 นิ้ว ความละเอียด WQUGA (3840×2400) พาเนล OLED อัตราส่วนจอ 16:10 ขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR True Black 500, TUV Rheinland eyesafe Certified
  • Ports : USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ DisplayPort alt-mode และ Power Delivery, USB-A 3.2 Gen 1 x 2, HDMI 2.1 x 1, Audio combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax คลื่น 6GHz รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 1080p Full HD Camera, Acer TNR
  • Software : Windows 11 Home, Microsoft Office Home & Student 2021
  • Weight : 1.17 กิโลกรัม
  • Price : แยกตามซีพียู เลือกได้ระหว่างสีขาว Flax White หรือดำ Olivine Black 

Hardware & Design

Acer Swift Edge DSC00762

ดีไซน์ของ Acer Swift Edge เมื่อมองหน้าตรงก็จะคล้ายไปกับซีรี่ส์ Swift รุ่นอื่น แต่ขนาดตัวเครื่องใหญ่ขึ้นและกรอบหน้าจอบางลงและเน้นความสวยเรียบง่ายไม่หวือหวานัก ติดสติกเกอร์แสดงคุณสมบัติเอาไว้บนที่วางข้อมือครบถ้วน ทั้งซีพียูและการ์ดจอตรงที่วางข้อมือฝั่งซ้ายและสติ๊กเกอร์รับประกันดูแลถึงที่ภายใน 3 ชั่วโมงของ Acer ส่วนฝั่งขวามือเป็นสติ๊กเกอร์คุณสมบัติเด่นของ Swift Edge และจะเห็นว่ามีสติ๊กเกอร์ TUV Rheinland eyesafe Certified ติดมาด้วยเพื่อการันตีว่าหน้าจอนี้ถนอมสายตาของผู้ใช้ได้ดี ทำงานต่อเนื่องหลายชั่วโมงก็ไม่มีปัญหา ส่วนมุมบนขวาจะมีสติ๊กเกอร์ลายนิ้วมือเพื่อบอกผู้ใช้ว่าปุ่ม Power นี้สแกนลายนิ้วมือปลดล็อคเครื่องได้ด้วย

ขอบล่างของตัวเครื่องถัดลงมาจากทัชแพดจะเป็นขอบตัวเครื่องตัดเฉียงเล็กน้อยให้ใช้นิ้วดึงกางหน้าจอได้ มีความกว้างเท่ากับตัวทัชแพดและทาง Acer ก็ทำบาลานซ์น้ำหนักตัวเครื่องและทำตัวบานพับมาได้แข็งแรงดี จึงใช้นิ้วเดียวกางเปิดหน้าจอได้โดยเครื่องไม่กระดกขึ้นมาอีกด้วย

Acer Swift Edge DSC00721

ถัดขึ้นมาเหนือขอบชุดแป้นคีย์บอร์ด จะเป็นช่องลมเข้าเพื่อดึงอากาศเย็นเข้าเครื่องไประบายความร้อนและมีช่องระบายความร้อนซึ่งเป่าออกในส่วนขอบบนของตัวเครื่อง สังเกตว่าฝั่งซ้ายจะเป็นช่องเปิดโล่งเพราะเป็นช่องสำหรับพัดลมโบลวเวอร์เป่าออก ส่วนฝั่งขวามือเป็นช่องระบายความร้อนแบบติดครีบซึ่งในส่วนนั้นจะตรงกับ M.2 NVMe SSD ในเครื่องพอดี

Acer Swift Edge DSC00719

ก้านบานพับของตัวเครื่องจะเป็นแบบก้านเหล็กสั้น ต่อเข้ากับตัวฐานรับก้านบานพับภายในเครื่องอีกทีหนึ่ง ซึ่งสามารถกางออกหรือพับเก็บได้อย่างแข็งแรงทนทานและมีก้านพลาสติกติดไว้ตรงขอบล่างด้านหลังหน้าจอเพื่อป้องกันขอบตัวเครื่องถูกกับพื้นโต๊ะโดยตรงตอนเปิดเครื่องใช้งาน และมันยังช่วยยกแป้นคีย์บอร์ดของ Acer Swift Edge ให้สูงขึ้นเล็กน้อย ทำให้พิมพ์งานได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

Acer Swift Edge DSC00723

หน้าจอของ Acer Swift Edge จะกางได้กว้างสุดประมาณ 120 องศา ไล่เลี่ยกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบันนี้ และสังเกตว่าขอบล่างหน้าจอนั้นดันตัวเครื่องให้เฉียงขึ้นเล็กน้อยด้วย เวลาวางเครื่องไว้บนโต๊ะทำงานตามปกติก็สามารถพิมพ์งานได้ง่ายขึ้น หรือจะวางบนแท่นวางโน๊ตบุ๊คก็กางหน้าจอให้เข้ากับมุมสายตาของผู้ใช้ได้ง่ายขึ้นด้วย

Acer Swift Edge DSC007131

ส่วนฝาหลังของ Acer Swift Edge จะได้ความเรียบง่ายเหมือนกับ Acer Swift รุ่นใหม่นี้ โดยมีแค่โลโก้ Acer อลูมิเนียมติดเอาไว้ตรงกลางส่วนบนของฝาหลังเพียงอันเดียวเท่านั้น นอกจากนั้นเป็นสีขาว Flax White ทั้งหมด ไม่มีลวดลายใดๆ แม้แต่ช่องระบายความร้อนก็กางออกมาปิดจนหมด ดูสวยเรียบร้อย

Acer Swift Edge DSC006751

ด้านใต้ตัวเครื่องจะมีช่องรับลมเย็นเข้าเป็นแถบแนวยาวสองชั้นอยู่ในส่วนบนเหนือสติ๊กเกอร์ประกันของทาง Acer ซึ่งใต้สติ๊กเกอร์นี้จะมีหัวน็อตทรงดาว (Trox) อยู่ 1 จาก 10 ดอกด้วย มีขอบยางติดเอาไว้ทั้ง 4 มุมเพื่อยกตัวเครื่องและป้องกันการไถล แต่สังเกตว่าลำโพงของ Acer Swift Edge จะไม่ได้ติดอยู่ตรงขอบล่างตัวเครื่องเหมือนโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ แต่เลื่อนขึ้นมาอยู่เกือบตรงกลางเครื่องพอดีแทน 

Screen & Speaker

Acer Swift Edge DSC007481

หน้าจอขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด WQUGA (3840×2400) พาเนล OLED ของ Acer Swift Edge มีอัตราส่วนจอ 16:10 ซึ่งได้พื้นที่ในแนวตั้งมากกว่าหน้าจอปกติเล็กน้อย แสดงขอบเขตสีได้กว้าง 100% DCI-P3 ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR True Black 500, TUV Rheinland eyesafe Certified แล้ว และหน้าจอพาเนล OLED ก็มีขอบเขตการแสดงผลกว้าง 178 องศาเหมือนกับพาเนล IPS ดังนั้นจะมองจากมุมแนวนอนหรือแนวตั้งสีสันก็ไม่เพี้ยนอย่างแน่นอน แต่หน้าจอนี้จะเป็นจอกระจกสะท้อนแสง ดังนั้นเวลาใช้งานอาจมีปัญหาเงาสะท้อนได้บ้าง

ขอบบนของหน้าจอจะมีลำโพงทั้งหมด 2 ตัวและกล้องเว็บแคมความละเอียด Full HD ติดตั้งมาให้ พร้อมฟีเจอร์ Acer TNR ช่วยลด Noise ในภาพที่กล้องจับได้ ช่วยให้ภาพสวยคมชัดยิ่งขึ้น ด้านอัตราส่วนหน้าจอกับตัวเครื่อง (Screen-to-Body ratio) ของจอนี้อยู่ที่ 92% ซึ่งกรอบหน้าจอที่มีอัตราส่วนเหลือเพียง 8% จะเป็นกรอบจอที่บางทั้ง 4 ด้าน และเห็นโลโก้ Acer ตรงขอบล่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งผู้เขียนเมื่อชมคอนเทนต์และทำงานด้วยหน้าจอนี้ต้องถือว่ามันกว้างดีมาก เห็นหน้าจอเต็มตาไม่มีขอบหน้าจอมาเกะกะสายตาแม้แต่น้อย

display resolution

ขอบเขตสีหน้าจอที่ทางบริษัทเคลมไว้ Acer Swift Edge จะมีขอบเขตสีกว้าง 100% DCI-P3 ซึ่งถือว่ากว้างทีเดียว แต่เมื่อทดสอบด้วยโปรแกรม DisplayCal 3 กับเครื่อง Colorchecker ของ Calibrite วัดได้ ค่า Gamut coverage ซึ่งเป็นค่าขอบเขตสีจริงของหน้าจอนี้จะได้ 100% sRGB, 94.5% Adobe RGB, 99.2% DCI-P3 ส่วนค่า Gamut volume ซึ่งเป็นขอบเขตสีทั้งหมดโดยรวมซึ่งหน้าจอนี้แสดงได้จะอยู่ที่ 167.8% sRGB, 115.6% Adobe RGB, 118.9% DCI-P3 มีค่าความเที่ยงตรงของสีบนหน้าจอ (Delta-E) เฉลี่ย 0.15 เท่านั้น ถือว่าจอของ Acer Swift Edge นั้นเที่ยงตรงพอใช้แต่งภาพถ่ายหรือจะพรู้ฟสีอาร์ตเวิร์คก็ได้สบายๆ

 ความสว่างหน้าจอของ Acer Swift Edge นี้ ทางบริษัทเคลมค่าสูงสุดเอาไว้ที่ 500 Nits แต่ความสว่างที่วัดได้ด้วยโปรแกรม DisplayCal 3 ได้ที่ 404.59 cd/m2 ซึ่งถึงจะน้อยกว่าที่เคลมในหน้าสเปคเอาไว้ แต่ตอนใช้งานจริงถือว่าจอนี้สว่างมากไม่กลัวแดดแม้แต่น้อย สามารถเร่งความสว่างสู้แดดที่สะท้อนหน้าจอได้เลย แต่ถ้านั่งทำงานในออฟฟิศอยู่แนะนำให้ปรับความสว่างไว้ที่ 50~60% ก็สว่างพอใช้งานได้สบายๆ

ลำโพง DTS ของ Acer Swift Edge ถูกติดตั้งไว้ใต้ตัวเครื่องแต่เลื่อนขึ้นมาอยู่ตรงกลางแทน เพราะชุดลำโพงมีขนาดใหญ่ทีเดียว ซึ่งเสียงตอนฟังเพลงจะเด่นด้านเสียงเครื่องดนตรีและนักร้องและมีเสียงเบสซัพพอร์ตระดับหนึ่ง เนื้อเสียงเคลียร์ใสฟังชัดแต่แรงปะทะของเบสจะไม่หนักหน่วงแค่พอซัพพอร์ตเสียงเพลงโดยรวมเท่านั้น แต่ในทางกลับกัน เสียงลำโพงตอนดูหนังนั้นมีมิติเสียงที่ดี เสียงตัวละครได้ยินชัดเจนและโทนเสียง BGM ในหนังก็ได้ยินชัดเจนทีเดียว

Keyboard & Touchpad

Acer Swift Edge DSC007241

คีย์บอร์ดของ Acer Swift Edge เป็นแป้นคีย์บอร์ดแบบ Tenkeyless สำหรับโน๊ตบุ๊ค 14 นิ้ว ซึ่งเลย์เอ้าท์ทั้งหมดนั้นยกจาก Acer Swift 3 ซีพียู Intel 12th Gen ซึ่งได้รีวิวไปก่อนหน้านี้มาใช้เลย ไม่ได้ปรับแต่งดีไซน์ใดๆ เพิ่มเติม ซึ่งแม้จะสะดวกและใช้ชิ้นส่วนร่วมกันได้เลยก็ตาม แต่ก็อยากให้ทาง Acer ขยับแป้นคีย์บอร์ดทางขวาแล้วติดตั้งชุด Numpad เพิ่มเข้ามาจะตอบโจทย์ผู้ใช้ที่เป็นพนักงานบัญชียิ่งขึ้น

ปุ่มคีย์บอร์ดจะมีไฟ LED Backlit ติดตั้งมาให้ แต่เป็นไฟเรืองขอบปุ่มเท่านั้น ไม่ได้สว่างลอดตัวอักษรขึ้นมา มีปุ่ม Function ติดตั้งเอาไว้รวมกับปุ่มต่างๆ ได้แก่ ปุ่มลูกศร 4 ปุ่มที่มีคำสั่ง Home, End, Page Up, Page Down อยู่ ส่วนด้านบนมีปุ่ม Delete กับ Insert และ Print Screen กับคำสั่งเรียกโปรแกรม Snipping Tool ด้วย ส่วนปุ่มลัดสำหรับปรับโหมดตัวเครื่อง ให้กด Fn+F จะสลับระหว่างโหมดประหยัดพลังงาน, ใช้งานตามปกติและเร่งการทำงานของตัวเครื่องได้

Acer Swift Edge DSC007301

ส่วนปุ่ม Power ส่วนมุมบนขวาของคีย์บอร์ดจะรวมกับฟังก์ชั่นสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งตัวปุ่มนี้จะแข็งและแม้จะเผลอกดโดนครั้งหนึ่งเครื่องก็ไม่ปิดทันที ซึ่งในยุค New Normal เช่นนี้ ผู้เขียนเห็นว่ามันใช้ยืนยันตัวได้สะดวกกว่าใช้กล้องสแกนใบหน้ามากและทำงานได้รวดเร็วอีกด้วย

Acer Swift Edge DSC00733

ส่วนของ Function Hotkeys ตรงปุ่ม F1~F11 นั้นจะมีคีย์ลัดแบบเดียวกับ Acer Swift 3 และไม่มี Hotkeys ตรงปุ่ม F12 เหมือนกันอีกด้วย ซึ่งผู้เขียนเห็นว่าทาง Acer น่าจะมีฟังก์ชั่นเปิดให้ผู้ใช้เซ็ตตั้งค่าปุ่มดังกล่าวได้ตามต้องการจะมีประโยชน์ต่อผู้ใช้ยิ่งกว่านี้แน่นอน โดยคีย์ลัดทั้งหมดมีดังนี้

  • F1~F3 – ปิด, ลดหรือเพิ่มเสียงลำโพง
  • F4 – ปิดหรือเปิดไมโครโฟน ถ้าปิดอยู่จะมีไฟ LED สีขาวติดอยู่
  • F5~F6 – ลดหรือเพิ่มความสว่างหน้าจอ
  • F7 – ปุ่ม Project ตั้งค่าการแสดงผลหน้าจอหลักและเสริม
  • F8 – ปุ่ม Log Out กลับมาหน้า Lock Screen
  • F9 – Airplane Mode
  • F10 – ปิดหรือเปิดการทำงานทัชแพด
  • F11 – ปรับความสว่าง LED Backlit ของคีย์บอร์ด

ทัชแพดของ Acer Swift Edge จะมีขนาดใหญ่และรองรับ Gesture Control ของ Windows ครบถ้วน สามารถลากนิ้วเพื่อเลื่อนเคอร์เซอร์เมาส์จากขอบหน้าจอฝั่งหนึ่งสู่อีกฝั่งได้สบายๆ แต่แป้นนั้นมีขนาดใหญ่มาก ดังนั้นสันมือซ้ายจะพาดลงตัวแป้นทัชแพดอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ไม่มีอาการทัชแพดลั่นเมื่อพิมพ์งานอยู่ แต่ก็กด F10 เพื่อล็อคการทำงานได้

Connector / Thin & Weight

พอร์ตและการเชื่อมต่อของ Swift Edge จะติดตั้งเอาไว้สองฝั่งของตัวเครื่อง โดยเน้นฝั่งซ้ายเป็นหลัก ซึ่งมี USB-A 3.2 Gen 2 Full Function x 2 ช่อง ซึ่งใช้โอนไฟล์, ต่อหน้าจอแยกแบบ DisplayPort Alternate mode และชาร์จแบตเตอรี่แบบ Power Delivery ได้ ถัดมาเป็น USB-A 3.2 Gen 1 และ HDMI 2.1 ที่รองรับการต่อหน้าจอความละเอียด 10K ได้

ส่วนฝั่งขวามี Audio combo, USB-A 3.2 Gen 1 และ Kensington Lock อยู่ จัดว่าครบเครื่องระดับหนึ่ง แต่เสียดายอยู่ว่าถ้าผู้ผลิตติดตั้ง MicroSD Card Reader มาด้วย จะครบเครื่องมาก ด้านการเชื่อมต่อไร้สายเป็น Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับคลื่นความถี่ 6GHz รองรับ Bluetooth 5.2 ได้ด้วย

Acer Swift Edge DSC006701

น้ำหนักของ Acer Swift Edge ที่ทางบริษัทเคลมเอาไว้ อยู่ที่ 1.17 กิโลกรัม เมื่อชั่งน้ำหนักแล้วก็ตรงตามที่เคลมไว้ไม่มีผิด เมื่อรวมกับอแดปเตอร์ในกล่องที่หนัก 179 กรัมแล้ว มีน้ำหนักรวมทั้งหมด 1.35 กิโลกรัม นับว่าเบาสบายพกสะดวกมาก จะพกอแดปเตอร์ใส่กระเป๋าไปก็ไม่เกะกะและไม่หนักอย่างแน่นอน หรือใครจะเอาปลั๊ก GaN กำลังชาร์จ 65 วัตต์ กับสาย USB-C มาใช้ก็ชาร์จแบตเตอรี่ให้ Swift Edge ได้เช่นกัน

ตัวอแดปเตอร์ของ Swift Edge นี้ จะเป็นอแดปเตอร์ขนาดเล็ก ไซซ์ประมาณฝ่ามือและเป็นปลั๊กขาแบนไม่มีขั้วสายดินติดมาให้ จึงเสียบชาร์จกับเต้าเสียบแบบไหนก็ได้และหัวชาร์จอีกฝั่งเป็นแบบ USB-C จึงเสียบชาร์จได้สะดวกมาก

Inside & Upgrade

Acer Swift Edge DSC00690

ภายในเครื่อง Acer Swift Edge เมื่อขันน็อตหัวดาว (Trox) ทั้ง 10 ตัว ซึ่งดอกหนึ่งจะซ่อนอยู่ใต้สติกเกอร์รับประกัน แล้วเอาปิ๊กกีตาร์หรือการ์ดแข็งไล่ขอบตัวเครื่องแล้วเปิดฝาออกมาได้ทันที แต่จากที่ผู้เขียนเปิดฝาเครื่องออกมาแล้ว ส่วนที่อัพเกรดได้จะมีแต่ M.2 NVMe SSD เพียงอันเดียว ส่วนแรมของโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้เป็นแบบออนบอร์ดทั้งหมดไม่สามารถอัพเกรดเพิ่มเติมได้ ดังนั้นผู้เขียนคิดว่าไม่จำเป็นต้องเปิดฝาอัพเกรดก็ได้ ดังนั้นผู้เขียนเห็นว่ามองว่าสเปคเดิมจากโรงงานก็ดีมากแล้ว อาจจะเอาเงินที่เตรียมไว้อัพเกรดไปซื้ออุปกรณ์เสริมสำหรับใช้ทำงานอย่างเมาส์, คีย์บอร์ด, อแดปเตอร์ GaN หรือหน้าจอทำงานที่รองรับ USB-C แทนดีกว่า

Performance & Software

cpu 3

ซีพียูของ Acer Swift Edge เป็น AMD Ryzen 6000 Series รุ่น AMD Ryzen 5 6600U แบบ 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.9~4.5GHz ได้ชุดคำสั่งใช้งานพื้นฐานติดตั้งมาครบถ้วน โดยซีพียูนี้มีค่า TDP อยู่ที่ 15~28 วัตต์ ผลิตโดย TSMC มีขนาดทรานซิสเตอร์ 6 นาโนเมตรแบบ FinFET

แรมออนบอร์ดของ Acer Swift Edge จะมีความจุ 16GB LPDDR5 ซึ่งมีความจุพอใช้ทำงานต่างๆ ในปัจจุบันนี้ได้สบายๆ และยังรับส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว จากที่ใช้งานมาต้องถือว่าแรมความจุนี้เยอะพอใช้ทำงานออฟฟิศได้สบายๆ

gpu 1

การ์ดจอออนบอร์ดของ Acer Swift Edge จะเป็น AMD Radeon 660M ซึ่งมีคอร์กราฟิค 6 คอร์มาในตัวซีพียู มีความเร็ว 1,900MHz รองรับ DirectX 12 และรองรับชุดคำสั่งกราฟิคต่างๆ ได้แก่ OpenCL, OpenGL 4.6, DirectCompute, DirectML, Vulkan, Ray Tracing อีกด้วย จัดว่าได้ฟังก์ชั่นครบเครื่องพร้อมใช้ทำงานแต่งภาพได้อย่างแน่นอน

device mgr 1

พาร์ทภายในเครื่องเมื่อเช็คผ่าน Device Manager จะเห็นว่า Acer Swift Edge มีชิ้นส่วนสำคัญติดตั้งมาหลายอย่างด้วยกัน ได้แก่เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือของ ELAN WBF ส่วนการ์ด Wi-Fi ภายในเครื่องเป็น AMD RZ616 รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Wi-Fi 6E รองรับสัญญาณคลื่น 6GHz แบนด์วิธ 160MHz มีเสาสัญญาณแบบ 2×2 ซึ่งชิปเซ็ตนี้เป็นการร่วมมือพัฒนาโดย AMD และ MediaTek นั่นเอง มันจึงสามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วและเสถียรมาก

ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยภายในเครื่องนอกจากชิปเซ็ต TPM 2.0 ซึ่งเป็นชิปมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 11 และถ้าโน๊ตบุ๊คเครื่องไหนเป็นซีพียู AMD ก็จะมี AMD PSP 10.0 ติดตั้งมาด้วย ที่สำคัญ Acer Swift Edge มีชิปเซ็ต Microsoft Pluton Security Processor สำหรับป้องกันการเจาะข้อมูลติดตั้งมาด้วย ซึ่งมีโน๊ตบุ๊คแค่ไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่จะมีชิปรักษาความปลอดภัยขั้นสูงติดตั้งมาให้ในตัวแบบนี้ จึงใช้งานได้อย่างปลอดภัยแน่นอน

ssd 3

ด้าน M.2 NVMe SSD ความจุ 1TB ที่ติดตั้งมาจากโรงงานเป็น Micron 2400 ซึ่งเมื่ออิงข้อมูลจากหน้าสเปคที่ทางผู้ผลิตเปิดเผยเอาไว้ จะเห็นว่า SSD นี้เลือกได้ 3 ขนาด ได้แก่ M.2 2230, M.2 2242 และ M.2 2280 เป็น 176-layer QLC NAND มีระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูล AES-256 และอื่นๆ ติดตั้งมาให้ครบถ้วน และอินเตอร์เฟสเป็น PCIe 4.0 x4 โดยความจุ 1TB ใน Swift Edge มีความเร็ว Sequential Read 4,500 MB/s และ Sequential Write 3,600 MB/s รองรับการเขียนข้อมูลลงไดรฟ์ได้ 300 TBW

หลังจากทดสอบด้วย CrystalDiskMark 8 ได้ Sequential Read 4,577.13 MB/s และ Sequential Write 3,534.27 MB/s ซึ่งเร็วตรงตามที่ผู้ผลิตเคลมเอาไว้หน้าสเปคไม่มีผิด ใช้เรียกโปรแกรมและไฟล์งานขึ้นมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ส่วนตัวผู้เขียนไม่แนะนำให้ผู้ใช้อัพเกรด SSD ในเครื่องเพราะไม่จำเป็นนัก ความเร็วระดับนี้ที่ Micron 2400 ทำได้ก็ถือว่าเร็วเพียงพอสำหรับโน๊ตบุ๊คสายทำงานแล้ว ก็ขอแนะนำให้เอาเงินที่กันไว้เปลี่ยน SSD ไปซื้อ External SSD หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ มาใช้คู่กันดีกว่า

การเรนเดอร์กราฟิค 3D CG ต้องถือว่า AMD Ryzen 5 6600U มีประสิทธิภาพดี เมื่อรัน CINEBENCH R15 แล้วจะเห็นว่าทำคะแนน OpenGL ได้ 113.33 fps และ CPU 1,217 cb ส่วน CINEBENCH R20 เมื่อทดสอบพลังเรนเดอร์ของคอร์ซีพียู จะได้คะแนน 2,780 pts จัดว่าสูงพอใช้ทำงานกราฟิค, พรีวิวโมเดล 3D ต่างๆ ได้อย่างแน่นอน สังเกตว่าซีพียู AMD Ryzen 5 6600U ที่ทาง AMD ใส่การ์ดจอ AMD Radeon 660M มาให้นั้น แม้กำลังคอร์ซีพียูจะสูงระดับหนึ่ง แต่สังเกตว่าคะแนน OpenGL นั้นได้เฟรมเรทเกินร้อยเฟรมแล้ว จึงถือได้ว่าการ์ดจอออนบอร์ดของ AMD Ryzen รุ่นนี้ทรงพลังใช้ได้

3dmark 3

ส่วนการเล่นเกม เมื่อทดสอบด้วย 3DMark Time Spy แล้ว Acer Swift Edge ทำคะแนนเฉลี่ยได้ 1,561 คะแนน แยกเป็น CPU score 5,215 คะแนน และ Graphics score 1,390 คะแนน ซึ่งคะแนนเฉลี่ยระดับนี้ แม้จะพอเล่นเกมฟอร์มใหญ่ในปัจจุบันนี้ได้ระดับหนึ่งโดยใช้ซอฟท์แวร์ AMD Software: Adrenalin Edition ช่วยปรับจูนการทำงานเพื่อรีดเฟรมเรทให้สูงขึ้น ซึ่งระดับคะแนนนี้พอใช้เล่นเกมออนไลน์ต่างๆ ได้แก่ Valorant, PUBG หรือเกมที่ออกแบบมาเอื้อกับกราฟิคของ AMD Radeon ได้ระดับหนึ่งก็ตาม แต่โฟกัสหลักของโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ต้องถือว่ามันออกแบบมาเพื่อทำงานเป็นหลัก ดังนั้นถ้าใครอยากเล่นเกมก็ยังพอเล่นฆ่าเวลาได้ระดับหนึ่ง

pcmark10 3

ด้านการทำงานเมื่อทดสอบด้วย PCMark 10 จะได้คะแนนเฉลี่ย 4,902 คะแนน ซึ่งอยู่ในระดับไล่เลี่ยกับโน๊ตบุ๊คสายทำงานหลายๆ รุ่นในปัจจุบันนี้ ถ้าดูแยกตามหมวดการทดสอบจะเห็นว่า Acer Swift Edge ใช้เปิดแอพฯ, ประชุมออนไลน์, เปิดเบราเซอร์ทำงานหรือเปิดไฟล์เอกสารก็ทำได้ดี ส่วนงานประเภท Digital Content Creation จะเห็นว่าโน๊ตบุ๊คนี้เหมาะกับงานแต่งภาพเป็นที่สุด แต่งานตัดต่อวิดีโอหรือจำลองแบบสามมิติอาจจะไม่โดดเด่นนัก

Battery & Heat & Noise

Acer Swift Edge DSC00702

แบตเตอรี่ของ Swift Edge เป็นแบบลิเธียมไอออน ความจุ Typical Capacity 4,670mAh (53.9Wh) และ Rated Capacity 4,570mAh (52.7Wh) มีขนาดใหญ่มากและกินพื้นที่ในเครื่องไปถึงครึ่งหนึ่ง และขอบแบตเตอรี่ทั้งสองฝั่งก็สุดขอบแตะลำโพงทั้งสองด้านอีกด้วย ซึ่งข้อดีของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เช่นนี้ คือ มันถ่วงน้ำหนักตัวเครื่องได้เป็นอย่างดีจึงใช้นิ้วเดียวกางกางหน้าจอใช้งานได้เลย

batt2

จากการทดสอบตามมาตรฐานของทางเว็บไซต์โดยปิดไฟ LED Backlit ของคีย์บอร์ด, ลดความสว่างหน้าจอให้ต่ำสุดและเปิดเสียงลำโพงเพียง 10% และตั้งโหมดตัวเครื่องเป็นแบบประหยัดพลังงานแล้วใช้ Microsoft Edge ดูคลิป YouTube นาน 30 นาที โปรแกรม BatteryMon ก็ได้ผลการทดสอบว่า Acer Swift Edge ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 8 ชั่วโมง 7 นาที ซึ่งใช้ได้ค่อนข้างนาน แต่ก็ยังไม่เกิน 10 ชั่วโมงขึ้นไป ซึ่งโน๊ตบุ๊คบางเบาหลายๆ รุ่นทำได้ในปัจจุบันนี้

อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนสันนิษฐานว่าจุดที่ทำให้ Acer Swift Edge ใช้งานได้ 8 ชั่วโมง อาจเป็นเพราะพาเนล OLED ซึ่งใช้พลังงานเยอะกว่าพาเนล IPS ระดับหนึ่ง ดังนั้นเมื่อโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ใช้งานได้นานระดับนี้ก็ถือว่านานพอสมควรแล้ว แต่ก็หวังว่าทาง Acer จะมีการอัพเกรดแบตเตอรี่ให้มีความจุมากขึ้นราว 75Wh ขึ้นไป จะใช้งานได้นานกว่านี้แน่นอน

แต่ Swift Edge นั้นมีพอร์ต USB-C 3.2 Gen 2 ที่รองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบ Power Delivery และยังได้อแดปเตอร์ขนาด 65 วัตต์ ขนาดเล็กมาด้วย ก็ถือว่ายังพอชดเชยเรื่องเวลาใช้งานแบตเตอรี่ได้ระดับหนึ่ง ดังนั้น

Acer Swift Edge DSC00693

ระบบระบายความร้อนของ Swift Edge จะมีฮีตไปป์หนึ่งเส้นพาดจากซีพียูตรงไปยังพัดลมโบลวเวอร์และฮีตซิ้งค์ซึ่งระบายความร้อนออกขอบบนของตัวเครื่อง ซึ่งเสียงตอนใช้งานตามปกตินั้นเบาไม่รบกวนหูเลยแม้แต่นิดเดียว ยกเว้นตอนปรับโหมดใช้ประสิทธิภาพตัวเครื่องสูงสุดแล้วรันโปรแกรมกินทรัพยากรตัวเครื่องจะได้ยินเสียงหวีดจากช่องพัดลมดังขึ้นมาเล็กน้อย

อุณหภูมิของซีพียูนั้นเมื่อวัดด้วย CPUID HWMonitor นั้น แม้จะไม่เห็นอุณหภูมิของซีพียูก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาจากอุณหภูมิของ SSD ที่เพิ่มจากเฉลี่ย 41 ไป 53 องศาเซลเซียสแล้ว ตัวซีพียูอาจจะมีความร้อนระดับหนึ่ง แต่ชุดระบายความร้อนยังจัดการได้อยู่ ส่วนอุณหภูมิตอนใช้งานจริงตามปกติ อย่างพิมพ์งานเอกสารหรือเปิดเว็บไซต์ Acer Swift Edge นั้นไม่มีอาการเครื่องร้อนขึ้นมาจนแตะใช้งานไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว สามารถใช้ทำงานต่อเนื่องได้สบายๆ อาจกล่าวได้ว่า Swift Edge นั้นคุมอุณหภูมิภายในเครื่องได้ดีมาก ตัวเครื่องเย็นตลอดเวลาจนไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนตอนใช้งานเลย

User Experience

Acer Swift Edge DSC007631

ถ้าถามว่าโน๊ตบุ๊คขนาดไหนเป็นไซซ์ที่ถูกใจผู้เขียน อย่างไรก็ต้อง 15.6 นิ้ว หรือไม่ก็ 16 นิ้ว แต่ในอดีตที่ผ่านมานั้นโน๊ตบุ๊คทั้งสองไซซ์นี้จะมีน้ำหนักมาก ส่วนโน๊ตบุ๊คจอ 14 นิ้ว แม้จะพกง่ายน้ำหนักเบาแต่จอก็กว้างไม่เต็มอิ่มนัก ทว่า Acer Swift Edge นั้นรวมเอาข้อดีที่หน้าจอใหญ่เต็มตากับน้ำหนักเบาสบายไหล่มาไว้ด้วยกัน มันจึงเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ เพราะตัวเครื่องขนาด 16 นิ้ว แต่น้ำหนัก 1.17 กิโลกรัม สามารถหยิบใส่กระเป๋าเป้ที่ใส่โน๊ตบุ๊คขนาด 15.6 นิ้วไปไหนมาไหนได้สบาย จะติดอแดปเตอร์ไปด้วยหรือใช้แค่ปลั๊ก GaN กำลังชาร์จ 65 วัตต์ก็ชาร์จแบตเตอรี่ให้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ได้แล้ว จะพกไปนั่งทำงานหรือเรียนก็ทำได้สบายๆ แถมพอร์ตเชื่อมต่อก็มาค่อนข้างครบครันอีกด้วย

ด้านประสิทธิภาพของ Swift Edge พอจับคู่กับซีพียู AMD Ryzen 6000 Series รุ่น AMD Ryzen 5 6600U แล้ว ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องประสิทธิภาพตอนทำงานอีกต่อไป เพราะจากที่ผู้เขียนทดลองใช้มาก็ไม่ผิดจากที่คิดเอาไว้ เพราะเมื่อใช้งานกับโปรแกรมทั่วไปอย่าง Microsoft Office Home & Student 2021 ที่ติดตั้งมาให้ในเครื่องหรือจะเปิดเบราเซอร์ทำงานบนเว็บแอพฯ ต่างๆ ก็ใช้งานได้ลื่นไหลไม่มีปัญหา ส่วนการตัดต่อแต่งภาพหรืองานศิลป์ต่างๆ ก็ทำได้ดีเพราะหน้าจอ OLED นั้นแสดงผลได้สีสันสวยคมชัดมาก ดังนั้นการให้สีหรือเลือกโทนรวมถึงการพรู้ฟสีงานอาร์ตก็ทำได้ดีมาก

โดยรวมแล้ว Swift Edge นั้นเป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอใหญ่ที่น้ำหนักเบามาก พกพาสะดวกและได้พอร์ตใช้งานติดตั้งมาครบถ้วน วัสดุตัวเครื่องเป็นแม็กนีเซียมอัลลอยด์แข็งแรงทนทานไม่พอ ประสิทธิภาพมันก็ดีมากจนใช้ทำงานทั่วไปในปัจจุบันนี้ได้สบายๆ จะงานหนักงานเบาก็รันได้ไม่มีปัญหาและสเปคในเครื่องก็ใช้งานได้อย่างน้อยๆ 3-5 ปีอย่างแน่นอน และเมื่อมันอัพเกรด SSD, RAM เพิ่มได้ ก็ถือเป็นข้อได้เปรียบที่ช่วยยืดอายุการใช้งานให้ใช้ได้นานขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม จุดสังเกตที่แป้นคีย์บอร์ดเป็นแบบ Tenkeyless ไม่มีชุด Numpad และไม่มีช่อง MicroSD Card Reader ติดตั้งมาให้ก็เป็นจุดน่าเสียดายอยู่บ้าง แต่ถ้าใครใช้งานคีย์บอร์โน๊ตบุ๊คขนาด 14 นิ้วจนชินก็ไม่เป็นปัญหานัก และ Card Reader ในปัจจุบันนี้ราคาก็ไม่แพง ซึ่งถ้าใครต้องใช้เมมโมรี่การ์ดบ่อยๆ ก็ซื้อตัวอ่านการ์ดมาติดกระเป๋าเอาไว้ก็ช่วยแก้ปัญหาได้แล้ว

Conclusion & Award

Acer Swift Edge DSC007651

Acer Swift Edge ถือเป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาเครื่องใหญ่ ใส่ซีพียู AMD Ryzen 6000 Series รุ่นใหม่ล่าสุดมาให้ ใส่ฟีเจอร์ดีมาครบเครื่องทั้งหน้าจอ 16 นิ้ว พาเนล OLED ความละเอียด 4K WQUGA, เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือพร้อมพอร์ตใช้งานต่างๆ ติดตั้งมาครบเครื่องและน้ำหนักก็เบาเพียง 1.17 กิโลกรัม ดีกับผู้ใช้ที่ต้องพกโน๊ตบุ๊คไปไหนมาไหน ตอบโจทย์ยุคนี้ที่จะทำงานจากที่ไหนก็ได้ (Work From Anywhere) เป็นอย่างมาก

ส่วนประกอบสำคัญอีกอย่าง คือ ชิปรักษาความปลอดภัยขั้นสูง Microsoft Pluton Security Processor ซึ่ง Swift Edge นั้นเป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องแรกในประเทศไทยที่มีฟีเจอร์นี้ ช่วยรักษาความปลอดภัยไม่ให้ผู้ไม่หวังดีเจาะระบบเข้ามาขโมยข้อมูลได้อีกด้วย ถือเป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่เหนือชั้นและทำงานได้สบายใจยิ่งกว่าเดิมมาก

หากยอมรับจุดสังเกตเล็กน้อยที่ผู้เขียนได้กล่าวถึงไปข้างต้นได้ หรือไม่คิดว่ามันเป็นประเด็นตอนใช้งาน ก็กล่าวได้ว่า Swift Edge เป็นโน๊ตบุ๊คน้ำหนักเบาจอใหญ่ที่ดีมากและราคาต่อสเปคค่อนข้างสมเหตุสมผล หากใครอยากได้โน๊ตบุ๊คระดับพรีเมี่ยมแต่ราคาอยู่ในระดับจับต้องได้ล่ะก็ Acer Swift Edge จัดเป็นรุ่นที่ดีจนไม่น่ามองข้ามเลย

award

NBS award 7 Design

best design

การดีไซน์ตัวเครื่องที่ดูสวยเรียบหรูและให้สีสวยงาม โดยเฉพาะสีขาว Flax White ที่เหลือบสีเป็นสีอื่นได้ด้วยจัดเป็นดีไซน์ที่ดึงดูดสายตา บอดี้แข็งแรงใช้โลหะแม็กนีเซียมอัลลอยด์นั้นจับแล้วแข็งแรงสัมผัสได้ความพรีเมี่ยม มีพอร์ตให้ใช้พร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมืออีก ถือว่าสวยเรียบง่ายและได้ฟังก์ชั่นใช้งานครบเครื่องมาก

 

NBS award 4 Mobility

best mobility

ตัวเครื่อง Swift Edge ขนาด 16 นิ้ว แต่น้ำหนัก 1.17 กิโลกรัมเป็นมิติตัวเครื่องในใจของใครหลายคน ยิ่งใครชอบพกโน๊ตบุ๊คไปไหนมาไหนบ่อยๆ ก็ไม่หนักไหล่เกินไปและยังใส่กระเป๋าเป้สำหรับโน๊ตบุ๊คขนาด 15.6 นิ้วได้สบายๆ ดังนั้นมันจึงพกพาได้สะดวกมาก

award new Durability

best durability

บอดี้ของ Acer Swift Edge เป็นโลหะแม็กนีเซียมอัลลอยด์ทั้งตัว ตั้งแต่ฝาหลัง, ตัวเครื่องและแม้แต่ด้านใต้เครื่อง จับแล้วแข็งแรงทนทานไม่รู้สึกว่าจะบีบแตกหรือหักได้ง่ายๆ จะพกไปไหนก็ไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะเกิดความเสียหายได้ง่ายๆ 

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Special Story

ปีนี้นับเป็นปีที่ซีพียูโน้ตบุ๊กของ AMD มีการเปลี่ยนแปลงแบบเห็นได้ชัด และมีความน่าสนใจในด้านประสิทธิภาพที่สูงขึ้นโดยที่ยังคุมการใช้พลังงานและความร้อนได้ดี ทำให้เราได้เห็นการนำซีพียู AMD ไปใช้ทั้งในโน้ตบุ๊กทำงานทั่วไป เกมมิ่งโน้ตบุ๊กตั้งแต่สเปคระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับท็อป รวมถึงในกลุ่มเครื่องเกมพีซีพกพาด้วย แต่ที่จะเด่นชัดสุดคงหนีไม่พ้นชิปรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีโค้ดเนมว่า AMD Strix Point หรือในชื่อที่ใช้จริงนั่นคือ AMD Ryzen AI 300 series นั่นเอง

Special Story

สำหรับการเล่นเกม แน่นอนว่าพลังประมวลผลกราฟิกจาก GPU คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญ เพราะจะเป็นสิ่งที่ชี้วัดถึงระดับประสิทธิภาพว่าจะสามารถเรนเดอร์ภาพออกมาได้สวย เฟรมเรตสูง ความหน่วงต่ำขนาดไหน ทำงานร่วมกับ CPU และฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ในเครื่อง ซึ่งถ้าทั้งระบบสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ก็จะช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมให้ดีขึ้นไปด้วย นอกจากนี้เหล่าผู้ผลิตเองก็มีเทคโนโลยีที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับพลังกราฟิก โดยที่ยังลดภาระของฮาร์ดแวร์ลงด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ AFMF 2 เทคโนโลยีล่าสุดจาก AMD นั่นเอง

REVIEW

MSI Prestige 16 AI Studio ทำงานต้องรุ่นนี้ จอใหญ่ OLED พลัง Intel Core Ultra มาพร้อม RTX4060 เพื่องาน เกม และครีเอเตอร์ MSI Prestige 16 AI Studio โน๊ตบุ๊คสำหรับกลุ่มคนทำงานและยกระดับความสามารถในหลายด้านเพื่อเหล่าครีเอเตอร์โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขุมพลัง...

Special Story

หากจะพูดถึงซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุดปี 2024 สำหรับโน้ตบุ๊กของ AMD ก็จะต้องเป็น AMD Ryzen AI 300 series ที่เน้นเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในด้านพลังประมวลผล พลังกราฟิก และที่เด่นชัดสุดคือความสามารถในการทำงานด้าน AI โดยที่ผ่านมาก็จะมีรุ่นที่ออกมาทำตลาดคือ AMD Ryzen AI 9 HX 370 ที่เป็นชิปรุ่นกลาง แต่ล่าสุดเราเริ่มเห็นโน้ตบุ๊กที่ใช้ AMD...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก