ASUS ExpertBook B5 Flip จอทัชสกรีน พับได้ 360 ซีพียู Intel i7+DDR5 แบตใช้นาน มี Thunderbolt 4
ASUS ExpertBook B5 Flip B540RFB โน๊ตบุ๊คสำหรับงานธุรกิจ ที่ให้ความบางเบา สะดวกต่อการใช้งาน ด้วยฟังก์ชั่นที่หลากหลาย เสริมความปลอดภัยมาเต็มพิกัด และเตรียมประสิทธิภาพ สำหรับงานธุรกิจ ในชีวิตประจำวันเอาไว้มากมาย ตั้งแต่งานในสำนักงาน องค์กร ไปจนถึงการเทรดหุ้น และเรียนออนไลน์ วัสดุที่ทนทาน น้ำหนักเบา พับได้ 360 องศา เพื่อการใช้ในโอากสที่ต่างกัน แบตอึด ประหยัดพลังงาน ขุมพลัง Intel Core Gen 12 และแรม DDR5 พร้อมปากกาสไตลัส ASUS Pen ช่วยการบันทึกได้รวดเร็ว นำเสนอจินตนาการของคุณผ่านการวาดภาพบนหน้าจอ เพิ่มความปลอดภัยด้วยสแกนใบหน้าด้วย IR Camera เพื่อเข้าสู่ระบบ และสแกนลายนิ้วมือ เพื่อยืนยันตัวตน รวมถึงระบบ TPM 2.0 พร้อมกับมี Webcam Shield มาให้ด้วย ได้พอร์ต Thunderbolt 4 พร้อมการรับประกัน 3 ปี และมี Perfect Warranty อีก 1 ปีแรกอีกด้วย
ASUS ExpertBook B5 Flip
- Specification
- Hardware / Design
- Keyboard / Touchpad
- Screen / Speaker
- Connector / Thin And Weight
- Inside / Upgrade
- Performance / Software
- Battery / Heat / Noise
- Conclusion / Award
จุดเด่น
- ระบบความปลอดภัยครบครัน
- น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
- จอพับได้ 360 องศา เป็นโหมดแท็ปเล็ต
- กล้อง IR camera สแกนใบหน้าได้
- ได้ซีพียู Intel Core i7 gen 12 และ DDR5
- อัพเกรดแรมเพิ่มได้
- มีระบบ Ai Noise cancelling
- มีพอร์ต Thunderbolt 4 ให้ 2 พอร์ต
- ให้พอร์ต RJ-45 มาในตัว ไม่ต้องใช้ตัวแปลง
- แบตอึดใช้ได้นานระดับ 10 ชั่วโมง
- มีระบบสแกนลายนิ้วมือ
ข้อสังเกต
- ปุ่มเพาเวอร์สัมผัสยาก เมื่ออยู่ในที่แสงน้อย
- ปากกาเหมาะกับการใช้งานพื้นฐาน จดบันทึกทั่วไป
Specification
Description | |
CPU | Intel Core i7-1260P 12 core/ 16 thread, Boost 4.70GHz |
GPU | Intel Iris Xe Graphic |
RAM | DDR5 4800 16GB (8GB on-board, 8GB slot) |
Storage | SSD M.2 NVMe PCIe 4.0 512GB, Upto 2TB |
Display | 14.0″ Full-HD IPS, Anti-Glare, Touch screen, 400-nits, 100% sRGB |
Port I/O | 2x Thunderbolt 4 Type-C (โอนถ่ายข้อมูล 40Gbps, ต่อจอ 4K และ PD charge 3.0) 1x USB 3.2 Gen 2 Type-A 1x USB 2.0 Type-A 1x HDMI 2.0 1x microSD card reader 1x 3.5mm Audio Combo jack 1x RJ-45 1x Kensington lock |
Video Camera | IR camera 720p HD Video, Webcam shield |
Wireless | Dual-band 2×2 WiFi 6E+ Bluetooth 5.2 |
Audio | 2x Speaker |
Weight | 1.38Kg. |
Dimension | 32.34 x 22.31 x 1.79cm |
Battery | 63 Whr, 3-cell, Li-polymer |
Security | Fingerprint sensor TPM 2.0 IR camera Webcam shield Kensington lock |
Keyboard | Full-size keyboard 1.5mm travel key, Backlit |
Warranty | 3 Year, Perfect Warranty 1 Year |
ข้อมูลเพิ่มเติม: ASUS ExpertBook B5 Flip
Unbox
เริ่มจากการแกะกล่องกันเลยครับ ภายในกล่อง ประกอบด้วยตัวโน๊ตบุ๊ค ASUS ExpertBook B5 Flip ที่มาพร้อมกับ ASUS Pen ซึ่งอยู่ภายในตัวเครื่อง และอแดปเตอร์ 65W พร้อมสายต่อเป็นแบบ USB-C และเหมือนกับในหลายๆ รุ่น ASUS ให้เมาส์ไร้สายมาด้วย เพื่อความสะดวกของผู้ใช้
อแดปเตอร์ไม่ใหญ่เทอะทะครับ เพราะขนาดประมาณฝ่ามือเท่านั้น เป็นแบบ 65W สายต่อค่อนข้างยาวทีเดียว พร้อมกับที่พันเก็บสายมาให้ในตัว พกพาสะดวกทีเดียว
อแดปเตอร์เมื่อเทียบกับมิติของโน๊ตบุ๊ค ขนาดเล็กกระทัดรัดแบบนี้ ช่วยให้หลายคนมั่นใจที่จะพกไปใช้งานข้างนอกได้สบาย น้ำหนักเฉพาะอแดปเตอร์นี้ประมาณ 300 กรัมเท่านั้น
เมาส์ไร้สายที่มาพร้อมกับโน๊ตบุ๊ค เป็นเมาส์ออพติคอล ใช้ได้เกือบทุกพื้นผิว ขนาดกำลังพอดี ใช้ได้ทั้งคนที่ถนัดมือซ้ายและขวา โดยมี USB Receiver ขนาดเล็กมาด้วย และใช้ร่วมกับถ่าน AA จำนวน 1 ก้อน ติดอยู่อย่างเดียวคือ ไม่มีปุ่มเปิด-ปิดเมาส์มาให้ อาจจะทำให้เปลืองแบตอยู่บ้าง
ตัวโน๊ตบุ๊ค ASUS ExpertBook B5 Flip ที่มาในกล่อง มาในโทนสีที่ดูเขร่งขรึม และบอดี้ที่บาง กระทัดรัดดีทีเดียว แพ๊คมาในกล่องที่กันกระแทกป้องกันไว้อย่างดี
Hardware / Design
โน๊ตบุ๊คมาในโทนสีที่เรียกว่า Star Black ซึ่งถ้าดูจากคอนเซปต์ของทาง ASUS จะเปรียบประมาณท้องฟ้าในยามค่ำคืน และมีดาวสว่างกระจายทั่วท้องฟ้า จะดูเป็นโทนสีออกน้ำเงินเข้ม ไปจนถึงดำ และมีประกายเม็ดสีเล็กๆ ทั่วทั้งบอดี้ เลยเป็นที่มาของสีบนโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ เรื่องของผิวสัมผัสจับถนัดมือดีครับ
โดยวัสดุที่ใช้เป็นแม็กนิเซียมและอะลูมิเนียม น้ำหนักเบา และมีความทนทานพอสมควร ตรงฝาด้านบนนี้ มีโลโก้ ASUS สีเงินเงาอยู่ตรงกลาง และมุมด้านบนซ้าย จะเป็นโลโก้ ExpertBook ที่มีแสงไฟสถานะปรากฏขึ้น เมื่อใช้งานกล้องหรือกำลัง Video Conference อยู่
ASUS ExpertBook B3 ASUS ExpertBook B5
ฝาด้านนอกของโน๊ตบุ๊คจะมีแสงไฟ LED ขนาดเล็กที่จะสว่างขึ้นเป็นแสงสีส้ม ASUS ออกแบบมาเพื่อให้คนอื่นที่เห็นคุณใช้งานแล้วแสงนี้ปรากฏขึ้น จะหมายถึงว่าคุณกำลังอยู่ในช่วงที่ประชุมหรือใช้งานสนทนาออนไลน์ ภาพทางด้านซ้ายเป็น ExpertBook B3 และด้านขวาเป็น B5 Flip ต่างกันตรงแสงไฟอยู่เล็กน้อย
ขอบจอของโน๊ตบุ๊คทำออกมาได้ค่อนข้างบาง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ ExpertBook ในเกือบทุกรุ่น โดยด้านบนจะหนาขึ้นเล็กน้อย เพราะเป็นจุดที่ติดตั้งกล้องเว็บแคม พร้อมไมโครโฟนมาในตัว
สังเกตได้ว่าจากขอบบานของจอมาในแบบ NanoEdge Design ค่อนข้างบางทีเดียว โดยขอบซ้ายและขวานี้ บางเพียง 4mm โดยประมาณ ซึ่งทำให้มีพื้นที่ในการใช้งานมากยิ่งขึ้น และเทียบสัดส่วนพื้นที่การแสดงผล มาถึง 80% เมื่อเทียบกับบอดี้ของโน๊ตบุ๊ค จัดอยู่ในเกณฑ์สัดส่วนที่กว้างมากทีเดียว หากเทียบกับโน๊ตบุ๊คในระดับ 14″ ในท้องตลาด
มองดูจากด้านข้าง จะเห็นว่า ASUS จัดพอร์ตมาให้เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 4 x2 ช่อง สำหรับชาร์จไฟด้วย, RJ-45, HDMI, USB 3.2 Type-A และปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง กรณีที่ใช้โหมดแท็ปเล็ต ดูสวนทางกับบอดี้ที่บางแบบนี้
ส่วนโครงสร้างภายใน ทำจุดยึดมาให้แน่นหนา กับชิ้นโลหะขนาดใหญ่ ที่ทำเป็นบานพับ และมีน็อตสกรูที่เพิ่มเข้ามา ในการยึดจับ เสริมความแข็งแรง เมื่อต้องพับจอในรูปแบบต่างๆ บอดี้ใช้เป็นอลูมิเนียมอัลลอย และเสริมโครงสร้างที่เป็น Internal keyboard bracket และเพิ่มชั้นที่กันน้ำ เพื่อป้องกันของเหลวที่จะไหลลงมาได้ในระดับหนึ่ง
บริเวณด้านหน้า มีเป็นช่องเว้าลึกเข้าไปเล็กน้อย ใกล้กับทัชแพด เพื่อให้มีพื้นที่ให้จับฝาเปิดได้ง่ายขึ้น แต่ด้วยบานพับที่แน่น ทำให้คุณอาจจะต้องจับ 2 มือในการเปิดฝาพับครับ ตรงนี้ผมถือว่าเป็นข้อดี เพราะเวลาเปิดฝาโน๊ตบุ๊คขึ้นมา ตัวจอจะไม่โยกคลอนหรือสั่นได้ง่ายๆ นั่นเอง
ASUS เสริมการใช้งานบนทัชแพด ให้ใช้งานแทน Numpad ที่เป็นแบบปุ่ม ด้วยการเปิดใช้งานบนทัชแพดให้แล้ว นอกเหนือจากการใช้ Multi-Gesture ด้วยการใช้คลิ๊กซ้าย-ขวา และปัด เลื่อนด้วยการใช้สองนิ้วหรือสามนิ้วในการคอนโทรล โดย ASUS NumberPad 2.0 จะเป็นแถบตัวเลข ที่สว่างขึ้นเมื่อเปิดใช้งาน ด้วยการแตะที่รูปคีย์บอร์ด มุมขวาบนของทัชแพด จากนั้นแตะที่ตัวเลขบนทัชแพดได้ทันที แต่บน ASUS ExpertBook B5 Flip นี้ จะต่างจากรุ่นอื่นๆ ที่มีฟีเจอร์เดียวกันอยู่พอสมควร และใช้งานได้ง่ายกว่า เนื่องจากตัวเลขและพื้นที่กว้างมากขึ้น
กล้องเว็บแคมเป็นแบบ IR Camera ซึ่งรองรับ Windows Hello สำหรับการล็อคอินเข้าสู่ระบบด้วยใบหน้าของผู้ใช้ ซึ่งตัวกล้องให้ความละเอียดระดับ HD 720p ซึ่งคุณภาพก็อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เพียงแต่ถ้าคุณต้องการความละเอียดในการใช้งานมากกว่านี้ ก็อาจจะต้องหากล้องเว็บแคมสำหรับสตรีมเมอร์สักรุ่นหนึ่งมาใช้ แต่แน่นอนว่าคุณจะต้องเสีย USB Type-A ไปหนึ่งพอร์ตในการใช้งาน
ตัวอย่างของคุณภาพกล้อง เมื่อคุณใช้งาน จัดว่าให้มิติและความคมชัดได้ในระดับมาตรฐาน มีการจัดการเรื่องแสงได้ดีพอสมควร สีสันสดใส เหมาะกับการใช้ในงานประชุม เรียนออนไลน์ และการสนทนากับสมาชิกในบ้าน แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มีกล้องเสริมอย่างบน ExpertBook B3 ที่ช่วยเสริมการใช้งานบนโหมดแท็ปเล็ตได้สะดวกยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ คุณยังใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ Motion tracker ของกล้องได้ สำหรับคนที่อาจจะใช้ในเรื่องของการประชุมหรือการเรียนการสอน เพราะตัวกล้องจะโฟกัสที่หน้าคุณเป็นหลัก เวลาที่คุณเคลื่อนไหวออก หรือเอียงไปจากมุมปกติของกล้อง หน้าคุณหรือของที่คุณโฟกัสเอาไว้ก็จะยังคงชัดเจน
Keyboard / Touchpad
คีย์บอร์ดเป็นปุ่มสวิทช์สีดำ ตัดกับตัวอักษรภาษาไทย-อังกฤษได้คมชัดดี คนที่ใช้งานแบบต้องมองแป้นพิมพ์น่าจะชอบ เพราะมองเห็นชัด และยังเพิ่มความสะดวกมากขึ้น ด้วยแสงไฟ Backlit สว่างขึ้นทะลุตัวอักษร ทั้งไทย อังกฤษ และตัวเลขครบ เพื่อการใช้งานในที่มืดอีกด้วย ระยะการกดและตอบสนองประมาณ 1.4mm เท่านั้น ถือว่าค่อนข้างสั้น เหมาะสำหรับคนที่พิมพ์สัมผัส จะใช้งานได้ไวขึ้น
แต่ใครที่จะใช้ปุ่ม Page Up-Down ก็เหมือนเดิมครับ มาครึ่งปุ่ม ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ ให้ Priority ที่ปุ่มสำคัญอื่นที่ใช้บ่อยๆ มากกว่า
โลโก้ ASUS ExpertBook B5 ที่ด้านล่างของขอบจอ จะต่างจากรุ่นอื่นๆ อย่าง B1 หรือ B3 เพราะดูเงางามมากกว่าการเป็นแบบเรียบๆ
ให้มาเต็มทุกปุ่ม ไม่มีกั๊กเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น เปิด-ปิดลำโพง, เพิ่ม-ลดเสียง, เพิ่ม-ลดแสงหน้าจอ, ปิดทัชแพด, ปรับแสงคีย์บอร์ด ทำได้ 2 ระดับ, ต่อสัญญาณภาพไปภายนอก, ล็อคหน้าจอ, เปิด-ปิดกล้อง, จับภาพหน้าจอ, เรียกใช้งานซอฟต์แวร์ MyASUS, เปิด-ปิดไมค์, เปิดใช้งานระบบ Noise Cancelling และ PrintScreen ที่เป็นคีย์ลัด
นอกจากนี้คุณจะเห็นปุ่มตัวเลขด้านบน 1-4 ที่จะไม่เหมือนปุ่มอื่นๆ เพราะมีแสงไฟลอดจากด้านข้างปุ่มให้เห็นอีกด้วย โดยปุ่มทั้ง 4 นี้จะทำหน้าที่นอกเหนือจากการเป็นตัวตัวเลขทั่วไป เช่น
- Fn+1 = Motion tracker กล้องจะตามโฟกัสคุณตลอดเวลาที่เคลื่อนไหว
- Fn+2 = เหมือนโหมด Power Option
- Fn+3 = Status light on-off เปิด-ปิด ไฟสถานะตรง Cover
- Fn+4 = เปิด-ปิด WiFi
แสงไฟ Backlit บนคีย์บอร์ด สามารถปรับความสว่างได้ถึง 2 ระดับ ด้วยการกดปุ่ม F7 ที่ฮอตคีย์ด้านบนสุด และเปิด-ปิดได้ตามความต้องการ เรื่องความสว่าง อยู่ในห้องมืด คุณก็ยังมองเห็นคีย์ได้อย่างชัดเจน นี่คือ ข้อดีอีกอย่างสำหรับโน๊ตบุ๊ค ASUS รุ่นนี้
ทัชแพดเน้นไปที่ความยาว ที่มีข้อดีตรงเหมาะกับการใช้งานในแบบ Multi-Gesture ร่วมกับ Windows ได้สะดวกทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นนิ้วเดียว เลื่อน แตะ เลือกหรือสองนิ้ว ซูม-ย่อ และสามนิ้วในการใช้งาน Task View หรือเลื่อนหน้าเดสก์ทอปอื่นๆ เป็นต้น
ExpertBook B3/ B5 ExpertBook B5 Flip
นอกจากนี้แล้ว ASUS ยังดีไซน์ NumberPad มาให้กับผู้ใช้ โดยซ่อนเอาไว้บนทัชแพดนั่นเอง แค่คุณแตะเบาๆ ที่มุมขวาของทัชแพด ก็จะมีชุดตัวเลข ให้แตะใช้งานได้สะดวกเหมือนการมี NumberPad อยู่เลย ไม่ใช้ก็กดปิดได้ครับ
สติ๊กเกอร์ตรงพื้นที่วางมือ มีอยู่มากมายทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น ซีพียู Intel Core i7, Intel Iris Xe Graphic, มาตรฐาน Energy Star และฟีเจอร์ Eye Care กับโหมดถนอมสายตาที่มีมาให้บนโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้
โดยรวมถือว่า ASUS ให้ฟังก์ชั่นของคีย์บอร์ดมาแบบเกินตัวสำหรับโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ ยิ่งคุณจำได้เยอะ ก็จะยิ่งเพิ่มความสะดวกมากขึ้น งานเร็วขึ้นครับ
Screen / Speaker
ASUS ExpertBook B5 Flip มาพร้อมหน้าแสดงผล 14″ ให้ความละเอียด 1080p หรือ Full-HD พาแนลแบบ IPS ให้ความคมชัด โดยเป็นหน้าจอแบบ
ภาพจากมุมมองทั้ง 2 ด้านของจอภาพ จะเห็นได้ว่า มีความคมชัดสูง ทำให้มุมการมองกว้างมากขึ้น ส่วนจอภาพอาจจะดูเงาๆ อยู่บ้าง ด้วยความที่เป็นจอทัชสกรีน จึงมีการสะท้อนเล็กน้อย แต่ก็ยังจัดอยู่ในโหมดของ Anti-Glare ซึ่งช่วยลดแสงสะท้อนจากภายนอกได้ดีในระดับหนึ่ง
นอกจากจะเป็นหน้าจอที่รองรับการทัชสกรีนแล้ว ก็ยังมาพร้อม ASUS Pen ในการบันทึกข้อมูลหรือเขียนบนหน้าจอได้เลย ด้วยการดึงออกมาจากช่องด้านข่างขวาของโน๊ตบุ๊ค และเสียบกลับเข้าไป เพื่อทำการชาร์จไฟ ซึ่งใช้เวลาชาร์จค่อนข้างสั้น แต่ใช้งานได้ยาวนานเลยทีเดียว
ASUS Pen เป็นสไตลัสขนาดค่อนข้างเล็ก ผมว่าน่าจะเหมาะกับการจดบันทึกที่รวดเร็ว และการลากเส้นในเบื้องต้น ซึ่งมีจุดชาร์จที่จะชาร์จไฟ เมื่อเสียบเข้ากับช่องบนโน๊ตบุ๊ค ปุ่มกดบน-ล่าง ในการคอนโทรล ด้านท้ายจะเป็นจุดชาร์จ ที่ต่อเข้ากับในโน๊ตบุ๊ค และฝาปิดที่ดึงออกจากที่เก็บได้ง่ายขึ้น แต่การใช้งาน ด้วยความที่มีขนาดเล็ก มือผู้ใหญ่อาจจะต้องปรับตัวอยู่พอสมควร กว่าจะจับถือและเคลื่อนไหวลากเส้นได้อย่างคล่องตัว
มิติของจอภาพที่ค่อนข้างบาง ก็ทำให้มิติโดยรวมของโน๊ตบุ๊คบางลงไปด้วย ซึ่งก็ถือเป็นผลดีต่อโน๊ตบุ๊ค Convertible แบบนี้ เมื่อพับเป็นโหมดแท็ปเล็ต
รองรับการทำงานในโหมดต่างๆ หน้าจอสามารถพับได้หลากหลายโหมด ตั้งแต่เป็นโหมดโน๊ตบุ๊คปกติ, Tent mode, Stand และ Tablet ที่สะดวกต่อการใช้งาน และขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้ง่ายการจับถือและนำไปพรีเซนท์งานกับลูกค้านอกสถานที่ รวมถึงการจดบันทึก โหมดต่างๆ เหล่านี้ ออกแบบมาเพื่อการใช้งาน และความบันเทิงส่วนตัวได้ง่าย เช่น สำหรับชมภาพยนตร์ หรือจะใช้เพื่อการเล่นเกมเบาๆ ในช่วงเวลาพัก เพราะเป็นจอทัชสกรีนได้ ใช้นิ้วแตะเลื่อนได้ รวมถึงในทุกๆ โหมด ก็สามารถนำปากกา ASUS Pen มาใช้งานร่วมกันได้อีกด้วย
ชุดลำโพง จุดติดตั้งลำโพงทั้ง 2 ด้านอยู่บริเวณด้านใต้ เอียงไปทางซ้าย-ขวา ของโน๊ตบุ๊ค ให้ทิศทางเสียงยิงลงพื้น และสะท้อนขึ้นมา ซึ่งการใช้ในห้องทั่วไป มีเสียงที่เด่นชัดออกมาได้ดี เป็นแบบเดียวกับ B5 รุ่นก่อน แต่จะไม่เหมือน ASUS ExpertBook B3 ที่อยู่บริเวณด้านหน้า ที่เสียงจะค่อนข้างดังมากกว่า อย่างไรก็ดีจากที่เราทดสอบ มิติของเสียงยังคงให้ความคมชัด เสียงสนทนาชัดเจน เสียงเพลงอาจจะเด่นที่ดนตรี แต่ไม่ได้เน้นที่ความเปรี้ยงปร้างของเบส หรือเสียงกลางหนักหน่วง เพราะยังเป็นอารมณ์ของโน๊ตบุ๊คทำงาน พอให้ได้การสตรีมมิ่งและการเล่นเกมได้สนุก ซึ่งถ้าคุณอยากจะจริงจัง และเน้นความบันเทิง ได้ความเป็นส่วนตัว แนะนำหูฟังเกมมิ่งหรือฟังเพลงดีๆ สักรุ่น ของทาง ASUS ก็มีน่าสนใจหลายโมเดลเลยทีเดียว
Connector / Thin And Weight
ASUS ExpertBook B5 Flip ให้พอร์ตความเร็วสูงมาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 4 มีให้ถึง 2 พอร์ตด้วยกัน รองรับการโอนถ่ายข้อมูลระดับ 40Gbps ต่อจอแสดงผลภายนอกในระดับ 4K และเป็น USB PD charge 3.0 อีกด้วย เช่นเดียวกับ USB Type-A ก็ให้มาถึง 2 พอร์ต ในแบบ USB 3.2 Gen2 และ USB 2.0 แยกไว้ด้านซ้ายและขวา รวมถึงพอร์ต HDMI ในการต่อจอขนาดใหญ่ รวมถึง RJ-45 ที่เป็นไซส์มาตรฐาน ที่มีให้มาในตัวแบบไม่ต้องใช้ตัวแปลง มีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 1.38 กิโลกรัม ชาร์จไฟผ่าน USB-C ด้วยอแดปเตอร์ AC 65Wที่เบาเพียง 300 กรัมเท่านั้น
ทางด้านขวามือ ก็จัดเต็มไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น ASUS Pen ที่ซ่อนอยู่ภายใน ดึงออกมาใช้งานได้ทันที พร้อมปุ่มเพาเวอร์ ซึ่งมีระบบสแกนลายนิ้วมือมาในตัว ช่องต่อ 3.5mm ที่ใช้งานร่วมกับหูฟังและไมโครโฟน พอร์ต USB 2.0 และสล็อต microSD card reader เรียกว่ามีมาให้แบบครบๆ เช่นนี้ หาได้ยากในท้องตลาด
และจุดที่ชื่นชอบเป็นที่สุดโดยส่วนตัวก็คือ แม้จะมีบอดี้กระทัดรัดก็ตาม แต่ ASUS ก็เว้นระยะห่างของพอร์ตไว้ระดับหนึ่ง ทำให้เวลาที่ติดตั้งอุปกรณ์ หรือต่อสาย จะไม่เบียดกันจนเกินไป เรียกว่าฮาร์ดแวร์ เช่น RJ-45 หรือว่าสายชาร์จ USB-C รวมถึง USB Flash Drive ในปัจจุบัน ใช้งานและต่อเข้าในพอร์ตใกล้ๆ ได้อย่างสะดวก
การที่มีพอร์ต USB Type-A ทั้ง 2 ข้าง ช่วยให้ความยืดหยุ่นในการใช้งานของคนที่มีอุปกรณ์ USB มากกว่าชิ้นเดียว ทำให้การต่อพ่วงง่ายกว่าเดิม โดยเฉพาะเมาส์ หรือคีย์บอร์ดไร้สาย และการต่อเมาส์ทางขวา ก็สะดวกกว่าด้านซ้ายเยอะเลย
น้ำหนักเฉพาะตัวโน๊ตบุ๊ค ASUS ExpertBook B5 Flip อยู่ที่ราว 1.39Kg. ซึ่งใกล้เคียงกับที่เคลมไว้ที่หน้าสเปคบนเว็บไซต์ ASUS
และน้ำหนักเมื่อรวมกับอแดปเตอร์แล้ว อยู่ที่ราว 1.7Kg เท่านั้น ถือว่าค่อนข้างเบาทีเดียว สำหรับโน๊ตบุ๊คขนาด 14″ ที่เหมาะกับการพกพาไปใช้นอกสถานที่ได้สบายๆ
Performance / Software
CPUz รายงานซีพียูที่ใช้เป็น Intel Core i7 1260p เป็นซีพียูระดับ 12 core/ 16 thread ซึ่งให้ความเร็วบูสท์สูงสุดที่ 4.70GHz
โดยมีแรมมาให้ 16GB เป็นแบบ DDR5 แล้ว ทำให้การใช้งานด้านต่างๆ ได้รวดเร็วทันใจ รวมถึงยังมีสล็อตสำหรับการอัพเกรดเพิ่มได้อีกด้วย
และในการทดสอบเบื้องต้นบน CPUz-Bench CPU ผลที่ได้เรียกว่า Single-thread แซงหน้า i7-10700 ที่เป็นซีพียูพีซีไปได้เล็กน้อย ส่วน Multi-thread ยังเป็นรองอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ก็ถือว่าความแรงอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ
สำหรับกราฟิกชิป เป็นแบบ Integrate graphic ซึ่งมากับซีพียู Intel Iris Xe Graphic ซึ่งประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์การใช้งานทั่วไป สำหรับงานสำนักงาน หรือการใช้บนซอฟต์แวร์พื้นฐาน และในด้านความบันเทิง รวมถึงการเล่นเกมที่ไม่ได้เรียกว่าใช้ทรัพยากรมากมายนัก ซึ่งในครั้งนี้เราทดสอบร่วมกับเกมให้ได้ชมด้วยว่า สามารถเล่นได้ดีมากน้อยเพียงใด
CrystalDiskMark เป็นเรื่องที่น่าประทับใจ กับความรวดเร็วของ SSD ที่มาพร้อมกับโน๊ตบุ๊ค ASUS ExpertBook B5 Flip รุ่นนี้ เพราะความเร็ว Read/ Write ทะลุไปเกือบ 6,500MB/s และ 4,000MB/s ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลดีมาจากการใช้ SSD ในแบบ PCIe 4.0 ที่ทำให้การเปิดไฟล์ โปรแกรม เข้าสู่เกม และโอนถ่ายข้อมูลรวดเร็วมากกว่าการใช้ SSD PCIe 3.0 อยู่ถึงสองเท่า
PCMark10 กับผลทดสอบที่ทำได้ดีทีเดียวสำหรับในส่วน Essential ซึ่งเป็นกลุ่มหลักของโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ ด้วยการผสมสานของซีพียู Intel Core i7 ที่มีคอร์/เธรดจำนวนมาก รองรับงานมัลติทาส์กได้ดี ก็ยังมีแรม DDR5 และ SSD ความเร็วสูงมาด้วย จึงทำให้งานด้านเอกสาร และเปิดโปรแกรมต่างๆ ไหลลื่นมากขึ้น ส่วนในด้าน Digital Content ก็อยู่ในระดับที่น่าประทับใจ หากเทียบกับโน๊ตบุ๊คระดับธุรกิจในท้องตลาด ซึ่งโน๊ตบุ๊ค ASUS รุ่นนี้ ยังให้พลังในงานวีดีโอและมัลติมีเดียได้ดีพอสมควร
3DMark
CINEBench ก็มาพร้อมผลที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น R15, R20 หรือ R23 ซึ่งถือว่าซีพียู Intel Core Gen 12 รุ่นใหม่นี้ ยังตอบโจทย์ในงานด้าน Render 3D ได้อย่างเต็มที่ โดยหากเทียบกับโน๊ตบุ๊ค Intel Core i5 Gen 11 ที่ใช้ DDR4 นั้น ASUS รุ่นนี้ ทำคะแนนแซงไปอย่างขาดลอย แม้ว่าจะไม่ได้เป็นงานหลักที่หลายๆ คนใช้ แต่ก็เป็นเครื่องการันตีในแง่ของผู้ใช้ที่เน้นการพรีวิว หรือตรวจงานวีดีโอ และกราฟิกได้ดีพอสมควร
แม้จะเป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับงานธุรกิจ และไลฟ์สไตล์ แต่ความสามารถและประสิทธิภาพในการเล่นเกม ยังอยู่ในระดับที่เล่นได้ในบางเกม ด้วยกราฟิก Intel Iris Xe ที่ช่วยให้การเล่นเกมพื้นฐานอย่าง DOTA2 และ PUBG ได้ไหลลื่น แต่แนะนำว่าควรจะตั้งความละเอียดที่ Low เอาไว้ก่อน ที่เหลือค่อยๆ ปรับ เพื่อให้สอดคล้องกับการเล่น บนโหมด 1080p โดยการทดสอบ DOTA2 นั้น เราใช้โหมด High เกือบๆ จะเป็น Best Looking ผลที่ได้เฟรมเรตยังไปแตะ 60fps. ได้ไม่ยาก ส่วนถ้าปรับที่ Best Looking จะได้มากกว่า 100fps. เลยทีเดียว ส่วน PUBG อยู่ที่ Low ภาพที่ได้ก็ยังดูดี มองเห็นศัตรูได้ชัด เฟรมเรตเฉลี่ยไปแตะที่ 30fps. ได้ครับ
การทดสอบความแม่นยำของสีหน้าจอ ซึ่งให้ผลของ Gamut Volume ได้ที่ 96.3% ซึ่งก็ถือว่ามีความแม่นยำของสีที่ดีพอสมควร ใกล้เคียงกับที่ทาง ASUS เคลมไว้ที่ sRGB 100% โดยที่ Gamut volume จัดว่าอยู่ในระดับสีค่อนข้างสดใส เพราะไปได้เกือบ 85% จึงเหมาะกับการดูภาพ ทำงานเอกสาร และการพรีวิว ทำพรีเซนเทชั่น พอจะตอบโจทย์ด้านความบันเทิงได้พอสมควร ส่วนค่าความสว่างทำในการทดสอบได้เกือบ 400cd/m2 ครับ ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้งานในสภาวะแสงน้อยหรือแสงมาก เพราะให้ความสว่างได้เกินกว่าที่เรามักจะเห็นกันบนโน๊ตบุ๊คทั่วๆ ไป
Battery / Heat / Noise
ในการทดสอบของเรา ใช้เป็นเงื่อนไขที่เราทำกับโน๊ตบุ๊คที่นำมาทดสอบทุกรุ่น นั่นคือ ชาร์จแบตจนเต็ม 100% แล้วทดสอบด้วย Video Playback หรือการสตรีมมิ่งบน Youtube กับวีดีโอระดับ 4K เปิดเสียงเอาไว้ที่ 25% และความสว่างระดับ 20% เพื่อเป็นการจำลองใช้งานจริง ที่เป็นรูปแบบของผู้ใช้ในชีวิตประจำวัน และผลทดสอบที่ได้จากโปรแกรม BattMon รายงานว่า ใช้งานได้ที่ระดับ 15 ชั่วโมง ในช่วงแรกครับ หลังจากที่รันไป 30 นาทีอยู่ที่ราวๆ 8 ชั่วโมง ซึ่งก็ถือว่าใกล้เคียงกับที่ทาง ASUS เคลมเอาไว้ว่า 10 ชั่วโมงครับ
ผลทดสอบอุณหภูมิ เท่าที่เราได้ทดสอบด้วยโปรแกรม Furmark โหลดการทำงานของซีพียู 100% บนโหมด Performance อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ราว 90 องศาเซลเซียสเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหากับการใช้งาน สังเกตได้ว่า วันที่ผมเอาไปใช้งานข้างนอก ไม่ได้อยู่ในห้องปรับอากาศ ก็ยังทำงานได้ดี และอย่างที่ได้ย้ำในทุกครั้งคือ โอกาสที่คุณจะเรียกใช้ซีพียูหนักๆ แบบนี้ ก็น้อยมากครับ รวมถึงชุดระบายความร้อนของโน๊ตบุ๊คก็ทำได้ดีทีเดียว ผมแนะนำว่า ถ้าคุณมีโหลดงานหนัก เลือกเป็น Performance mode ได้ครับ อาจจะมีเสียงเพิ่มขึ้นมาบ้าง ในบางจังหวะ แต่ก็ช่วยให้คุณได้ประสิทธิภาพ และการลดความร้อนที่รวดเร็วไปพร้อมๆ กัน
Inside / Upgrade
การแกะอัพเกรดบน ASUS ExpertBook B5 Flip รุ่นนี้ ยังคงง่ายดาย ไม่ต่างจากในซีรีส์เดียวกัน เพราะไขน็อตสกรูประมาณ 11 ตัว ก็สามารถแกะฝาหลังออกมาได้แล้ว ไม่ได้ซับซ้อนมากมาย เช่นเดียวกับที่คุณเคยเจอบนโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง ที่บางครั้งทั้งแกะและงัด ก็ยังไม่ค่อยจะออก โดยเมื่อแกะออกมาได้แล้ว ก็จะเห็นบรรดาฮาร์ดแวร์ภายในต่างๆ เหล่านี้
ชุดพัดลมและฮีตซิงก์ระบายความร้อน ให้กับซีพียู Intel Core i7-1260P ที่เป็นแบบ 12 core/ 16 thread มาในแบบที่เรียบง่าย แต่ก็ประหยัดพื้นที่ในการจัดวางอุปกรณ์อื่นๆ เข้ามาได้อีกมากมายเลยทีเดียว โครงสร้างยังคงใกล้เคียงกับ ExpertBook B5 ที่เป็น Intel Gen 11 อยู่พอสมควร
ASUS ExpertBook B5 Flip มีแรม DDR5 ออนบอร์ดมาให้แล้ว 8GB และติดตั้งเพิ่มเติมมาบนสล็อตอีก 8GB รวมเป็น 16GB และยังสามารถเปลี่ยน เพื่ออัพเกรดได้เพิ่มมากขึ้น แต่ความจุระดับนี้กับการเป็น DDR5 งานหลายอย่างก็ลื่น รวมถึงการเปิดโปรแกรม และโอนถ่ายข้อมูลที่รวดเร็ว
โดยที่มีความพิเศษอย่าง SSD M.2 NVMe PCIe 4.0 มาให้ด้วย ซึ่งติดตั้งมาที่สล็อตแรก ซึ่งอยู่ใกล้กับพัดลม 1 สล็อตความจุ 512GB และยังมีสล็อตว่างอีก 1 สล็อต รองรับการอัพเกรดได้สล็อตละ 1TB รวมทั้ง 2 สล็อตก็เป็น 2TB หรือจะใช้งานเป็นแบบ RAID ก็ได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วหรือความปลอดภัยได้อีกด้วย ผลที่ได้จากการทดสอบ ความเร็วในการอ่านข้อมูลของ SSD รุ่นนี้ มากถึง 6,400MB/s และเขียนข้อมูลอยู่ที่ประมาณ 4,000MB/s เลยทีเดียว
ด้านล่างสุดเป็นชุดลำโพงที่ติดมาทั้ง 2 ข้างเอียงออกทางด้านข้าง ให้เสียงที่ค่อนข้างดีทีเดียว
ส่วนที่เป็นจุดสำคัญของโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ อยู่ที่บานพับ ซึ่งออกแบบมาอย่างแข็งแรง ด้วยแผ่นโลหะขนาดใหญ่ และจุดยึดน็อตขนาดใหญ่ ด้านละ 3 จุด ทำให้รองรับการพับหน้าจอ เพื่อใช้งานในโหมดต่างๆ ได้อย่างแข็งแรง
Conclusion / Award
ถ้ามองกันในแง่ของความคล่องตัว เชื่อได้เลยว่า ASUS ExpertBook B5 รุ่นนี้ น่าจะตอบโจทย์ในแง่ของงานธุรกิจได้อย่างไม่ต้องสงสัย และไม่ใช่แค่การทำงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้ในชีวิตประจำวันของใครหลายคนได้เป็นอย่างดี ด้วยการจับคู่กันของ ซีพียู Intel Core i7 Gen 12 ที่เป็นรหัส P ซึ่งให้ Performance ได้อย่างคุ้มค่า มาคู่กับแรม DDR5 ที่แบนด์วิทธิ์มากกว่า DDR4 อยู่ไม่น้อยเลย ก็ยิ่งทำให้การใช้งาน ทั้งงานเอกสาร ไปจนถึงงานวีดีโอ ก็ลื่นไหลได้ โดยเฉพาะในงานพรีวิว ที่เน้นการแสดงผล พรีเซนเทชั่น แม้จอจะแค่ 14″ แต่ก็ยังต่อกับจอขนาดใหญ่ได้ถึง 3 จอด้วยกัน ผ่านช่องทางของ HDMI และ Thunderbolt 4 ที่มีให้ถึง 2 พอร์ต จึงเหมาะกับคนที่ใช้งานธุรกิจจริงจัง หรือต้องทำงานหลายอย่างพร้อมกัน เช่น ดูหุ้น เทรดคริปโต ดูวีดีโอสตรีมมิ่ง และหาข้อมูล ทำเอกสารไปพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ยังได้ในเรื่องของพอร์ตที่ให้มาครบสุดๆ เรียกว่าจัดเต็มชนิดที่หาเทียบได้ยากในโน๊ตบุ๊คระดับเดียวกัน ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้บอดี้ ที่อาจจะดูเรียบง่าย แต่ก็ดูสะดุดตา เข้าได้ในทุกสถานการณ์ ที่สำคัญยังจัดแบตที่ใช้งานได้นานมาให้อีกด้วย การพกพาไปใช้งานข้างนอก จึงเป็นเรื่องที่ง่าย และสบายกว่าที่คุณเคยสัมผัส และที่น่าสนใจ นั่นก็คือ หน้าจอยังพับได้ 360 องศา และยังมาในแบบทัชสกรีน ดูลงตัวกับงานในหลายๆ ด้าน เพราะมีหลายโหมดให้เลือกใช้อีกด้วย ทั้งหมดนี้ผมเชื่อว่า ASUS รุ่นนี้เป็นโน๊ตบุ๊คที่มาสุดทาง สำหรับสายงานธุรกิจอย่างแท้จริง
การรับประกัน ASUS Exclusive Care
- 3 Year Onsite Service: บริการตรวจซ่อมฟรีถึงที่ 3 ปี
- 3 Year Global Warranty: ครอบคลุมการรับประกัน 3 ปี (57 ประเทศ)
- 1 Year Perfect Warranty: เพิ่มการรับประกันอุบัติเหตุให้ใน 1 ปีแรก
เรื่องของรางวัล Best Design เราไม่ได้มองแค่ในเรื่องของการออกแบบหรือสวยงามอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงฟังก์ชั่น ที่จะเป็นภาพลักษณ์ให้กับผู้ใช้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นบอดี้ที่มีความกระทัดรัด แม้จะอยู่ในไซส์ 14″ ขอบจอที่บางเฉียบ ให้พื้นที่การแสดงผลที่กว้าง และการกางออกได้ 360 องศา ทำให้พับ ปรับใช้ในโหมดต่างๆ ได้ และยังเป็นจอทัชสกรีนอีกด้วย เช่นเดียวกับคีย์บอร์ดที่มีแสงไฟ ลูกเล่นของ NumberPad บนทัชแพด ก็ดูล้ำสมัยมากขึ้น ยังไม่รวมฟีเจอร์ที่มีความสมาร์ทอีกหลายอย่าง ซึ่งรวมเข้ากันเป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้
คล่องตัว กระทัดรัด พกพาสะดวก แบตอึด ใช้งานได้นาน น่าจะเป็นสัญลักษณ์ของความเป็น Mobility บนโน๊ตบุ๊ค ASUS ExpertBook B5 รุ่นนี้ ซึ่งตอบโจทย์ในงานและชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว น้ำหนักอาจจะไม่ได้เบาที่สุด แต่เชื่อว่ารวมอแดปเตอร์แล้ว ประมาณ 1.7Kg ก็ดีพอให้พกพา และใช้งานในที่ต่างๆ ได้ไม่ยาก ผู้ใช้สามารถเลือกกระเป๋าในสไตล์ที่ชอบ หรือซอฟท์เคสแบบที่ใช้ มาใช้กับโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ได้ตามใจชอบเลยครับ