การ์ดจอมือสอง 5 คำถาม ถูกและดี มีจริงมั้ยการ์ดแรง ราคาถูก ซื้อที่ไหนปลอดภัย เช็คสภาพการ์ดอย่างไรได้บ้าง?
การ์ดจอมือสอง แม้จะไม่ได้เป็นตัวเลือกของทุกคน แต่ก็ยังเป็นทางเลือกของเกมเมอร์หลายคน ที่ให้ความสนใจ ด้วยสเน่ห์ในเรื่องของราคา ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงของการ์ดจอราคาถูกลงหรือจะเป็นช่วงที่การ์ดแพง หายากอย่างเช่นวิกฤตช่วงหนึ่งที่ตลาด Minor ที่มีแต่นักขุดเหมือง การ์ดจอรุ่นน้องสุดอย่าง GeForce GT1030 หรือ GT710 ก็ยังหายาก หรือจะเป็น Radeon RX570, RX580 ยังแทบจะหาไม่ได้ การ์ดจอในช่วงนั้นเรียกว่าแทบจะเป็นสิ่งหาซื้อยากทั้งสิ้น ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ด้วยราคาที่น่าสนใจ ประสิทธิภาพและค่าใช้จ่ายดูลงตัวมากขึ้น จึงทำให้การ์ดจอมือสองแบบนี้ จะมีการซื้อขายกันอย่างคล่องตัวเลยทีเดียว อย่างไรก็ดี ของที่ดูน่าสนใจในสายตาของผู้ใช้หลายคน แต่การจะเลือกซื้อหา ก็ต้องใช้การพิจารณากันพอสมควร เพราะต้องเช็คกันตั้งแต่ สภาพ เช่น พินหน้าสัมผัส พัดลม ตัวการ์ด และบางครั้งการมีประกัน ก็จะช่วยให้อุ่นใจมากขึ้น แต่เราจะต้องเช็คจากอะไรบ้างนั้น บอกเลยว่ามีวิธีมากมายที่คุณสามารถทำได้
การ์ดจอมือสอง
ตรวจเช็คสภาพ
สภาพของการ์ดจอมือสอง ถือเป็นสิ่งสำคัญที่คุณสามารถทำได้ก่อน และต้องเช็คเป็นอันดับต้นๆ และยิ่งอายุของการ์ดใช้มานาน ก็ควรจะต้องใส่ใจในหลายๆ จุด เพื่อเป็นการป้องกันเอาไว้ก่อน ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะการ์ดจอที่หมดประกันแล้ว
Bracket และพอร์ต: ตรงนี้พอจะทำให้เห็นสภาพการจัดเก็บและใช้งานของการ์ดจอได้ในระดับหนึ่ง พอร์ตต้องอยู่ในสภาพที่ดี ไม่มีรอยบิ่นหัก หรือบิดเบี้ยว อาจมีรอยขูดตามการใช้งานบ้าง รวมถึงตัวเพลท ที่เป็นโลหะ อาจมีสภาพเก่าตามอายุบ้าง แต่การเป็นคราบอ๊อกไซด์หนาๆ หรือคราบสนิมที่จับอยู่เยอะ อาจเป็นเพราะเก่ามาก หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งก็อาจจะหมายถึงตัวการ์ดจอที่ต้องเจอกับสภาวะที่ไม่ดีเช่นกัน แต่บางรายอาจเอามาเปลี่ยนใหม่ ตรงนี้ก็จะสังเกตได้ยากหน่อย
ตัวการ์ดหรือ PCB: ต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด ไม่ควรจะเกิดรอยแตก หักหรือบิดงอ รวมถึงเป็นไปได้ ให้เอาแว่นขยายหรือถ่ายด้วยมือถือ เพื่อดูรายละเอียดของการ์ดจอให้ได้เยอะที่สุด เพราะบางครั้งคนขาย อาจไม่ได้บอกว่า การ์ดซ่อม เปลี่ยนชิ้นส่วนมา และยิ่งเป็นการ์ดรุ่นกลางหรือท็อป มีทั้งฮีตซิงก์ด้านหน้าและ Backplate ด้านหลัง ทำให้มองไม่เห็น และส่วนใหญ่ก็จะไม่ยินยอมให้แกะดูด้วย ดังนั้นก็ควรจะต้องสอบถามรายละเอียด และดูโดยรอบการ์ดว่ามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่ ถ้าสะดุดใจหรือไม่ชอบ ก็ปฏิเสธไปได้ เพราะถ้าซื้อไปแล้วเกิดปัญหา จะเสียเวลาและเสียความรู้สึกมากกว่าเดิม
พัดลม: เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ เพราะการ์ดจอนั้นต้องอาศัยสิ่งนี้ในการระบายความร้อน ยิ่งการ์ดจอมือสอง ยิ่งควรต้องดูให้ละเอียด เพราะหากพัดลมไม่ทำงานตามปกติ ปัญหาความร้อนจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน สิ่งที่ต้องดูคือ พัดลมไม่แตกหัก หรือมีการซ่อมใบพัดลมมา การหมุนปกติ ไม่เสียสมดุล ไม่มีเสียงผิดปกติขณะทำงาน นอกเหนือจากเสียงของรอบพัดลม แม้ว่าพัดลมจะหาอะไล่เปลี่ยนได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีทุกรุ่น และยิ่งเจอกับพัดลมทำงานผิดปกติ คราวนี้จะมาทั้งเสียงรบกวน และความร้อนคู่กันเลย ดังนั้นจะต้องเช็คให้ดี เสียบไฟเปิดใช้งานให้เห็นๆ ได้ก็ยิ่งดีครับ
Power connector: หรือช่องต่อไฟเลี้ยงตัวการ์ด แม้ว่าจะเป็นจุดที่ไม่ได้เสียหายบ่อย เพราะถ้าเป็นการใช้งานทั่วไป ก็แทบจะถอดเข้าออกน้อยมาก แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ บางครั้งเกิดการช็อตเสียหาย ลัดวงจร จากการต่อสายใช้งานผิดประเภท เพาเวอร์ซัพพลายไม่ได้มาตรฐาน หรือการไม่ระวังของเจ้าของการ์ด สิ่งเหล่านี้ก็อาจทำให้เกิดความเสียหาย หรือใช้งานไม่ได้
พินหน้าสัมผัส: สิ่งนี้ก็แทบจะเป็นหัวใจในการตรวจเช็คด้วยเช่นกัน นอกจากตัวการ์ด เพราะเป็นทั้งตัวติดต่อสัญญาณและการจ่ายไฟ ต้องไม่หัก มีรอบขูดลึก หรือแนวแผงต้องไม่เบี้ยวจนผิดปกติ สังเกตได้ด้วยตาเปล่า แต่ถ้าให้ดีเปิดลองใช้งานด้วยจะดีที่สุด เพราะมีผลต่อการใช้งานและการรับประกัน เมื่อเกิดความเสียหายตรงจุดนี้ ก็มักจะไม่เข้าข่ายการรับประกันตามเงื่อนไขอีกด้วย
การ์ดจอมือสอง สามารถตรวจเช็คความถูกต้องได้หลายรูปแบบ การใช้ซอฟต์แวร์ในการตรวจสอบ ก็ถือเป็นสิ่งที่ควรทำ หากทำได้ โดยมีโปรแกรมที่จะแนะนำประมาณ 2 โปรแกรมดังนี้
GPUz: โปรแกรมที่ใช้ในการตรวจเช็คกราฟิกการ์ด สามารถดูรายละเอียดตั้งแต่ตัวชิปกราฟิก VRAM กระบวนการผลิต ความเร็วสัญญาณนาฬิกา ไปจนถึงความร้อนและแรงดันไฟ เรียกว่าตัวเดียวจบ ครบทุกส่วน อ่อ..และที่สำคัญตรวจเช็ความผิดปกติของการ์ดได้ เช่น การ์ดจอปลอม ทำออกมาไม่ตรงรุ่น หรือตรงกับฐานข้อมูลโรงงาน ส่วนถ้าต้องการจะทดสอบความร้อนที่แท้จริงของการ์ด ให้ใช้โปรแกรมอย่าง FURMARK มาทำการเร่งความเร็วโหลดการทำงานของการ์ดระดับ 100% Full load แล้วดูว่าตัวการ์ดยังทำงานได้ปกติหรือไม่
MSI AfterBurner: เป็นโปรแกรมยอดนิยมที่เหล่าเกมเมอร์ชื่นชอบ เพราะบอกรายละเอียดของกราฟิกการ์ดที่ติดตั้งอยู่บนตัวเครื่องได้เช่นเดียวกัน รวมถึงมีการแสดงผลเป็นตัวเลขและกราฟ ให้ผู้ใช้ได้วิเคราะห์การทำงาน และที่น่าสนใจก็คือ ผู้ใช้สามารถปรับโอเวอร์คล็อกกราฟิกการ์ด รอบพัดลม และแรงดันไฟได้อีกด้วย ตรงนี้ก็ทำให้การเลือกการ์ดจอมือสองมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า การ์ดมีการเปลี่ยนแปลงอะไรมาบ้างหรือเปล่า รวมถึงมีระบบแสดงเฟรมเรตในการเล่นเกมอีกด้วย เป็นอีกโปรแกรมหนึ่งที่น่าติดเครื่องไว้ใช้ในการตรวจเช็คการ์ดจอ
เช็คประกันอย่างไร?
ในเรื่องของการรับประกันนั้น ผู้ใช้สามารถดูได้จากหลายๆ ส่วน เช่น Serial Number ข้างกล่องหรือ วอยด์บนตัวการ์ด และนำมาสอบถามในระบบ เช่น เข้าไปในเว็บไซต์ของผู้จำหน่ายแต่ละค่าย กรอกข้อมูล หรือบางแห่งใช้เป็น S/N ในการสอบถาม จากนั้นระบบจะแจ้งให้ทราบว่ายังอยู่ในประกันหรือหมดประกันไปแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่การ์ดจอจะมีการรับประกัน 2-3 ปี แล้วแต่รุ่นและยี่ห้อ อยากให้มั่นใจ หากเกิดอะไรในวันข้างหน้า แล้วยังสามารถเคลมได้ ราคาสูงขึ้นอีกหน่อย ก็ให้เลือกแบบที่มีประกันไว้ อย่างน้อย 1 ปี หรือถ้าให้ดีใช้ไปยาวๆ เลือกจ่ายเยอะหน่อย กับการ์ดรุ่นใหม่ๆ เพื่อได้ประกันที่ยาวขึ้น
- Synnex: https://www.synnex.co.th/th/service/check_warranty_expiry_date_2.aspx
- Strek: http://checkwarranty.strek.co.th/
- ARC: http://www.ascenti.co.th/check/
- Advice: https://www.advice.co.th/services/waranty
- JIB: https://www.jib.co.th/web/checkserial/warranty
- ASUS: https://www.asus.com/th/support/warranty-status-inquiry/
- Deva : https://goo.gl/phGY6A
ตัวอย่างเงื่อนไขการรับประกันของทาง Advice
ซื้อได้ที่ไหนบ้าง
แหล่งที่คุณจะซื้อหาการ์ดจอมือสอง เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะถ้าเป็นไปได้ ควรจะได้มองเห็น จับลอง ทดสอบ และจ่ายเงิน แบบนี้จะสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งในอดีตจะค่อนข้างยาก เนื่องจากข้อจำกัดในการติดต่อสื่อสาร ที่ไม่สามารถทำให้ครบได้ในสิ่งเหล่านี้ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ แบบแรก การนัดเจอกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย จะในห้าง รถไฟฟ้า หรือจะสถานที่ที่เดินทางสะดวกกันทั้งคู่ เมื่อดูสินค้า พอใจ จ่ายเงิน ก็จบ และอีกแบบจะว่าเป็นทั้งการวัดดวง หรือความเชื่อใจ คือดูในเว็บไซต์มือสอง เห็นภาพแล้วถูกใจ โทรคุยข้อมูล และโอนจ่าย ซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย รวมถึงความเสี่ยงที่มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
มาถึงในปัจจุบันก็มีความเปลี่ยนแปลงไปอยู่บ้าง ทั้งในเรื่องของช่องทางการซื้อขาย ที่อำนวยความสะดวกมากขึ้น เช่นเดียวกับที่เราได้รวบรวมมานี้
หน้าร้านออนไลน์
เป็นรูปแบบที่หลายๆ คนคุ้นเคย เพราะความสะดวกในการซื้อขาย เพราะเข้าเว็บไซต์ที่จำหน่าย อีกทั้งหน้าร้านส่วนใหญ่ก็จะจัดเตรียมเรื่องของรูปภาพ รายละเอียดสินค้า เรื่องของตำหนิ ขนาด การรับประกัน หรือบางทีก็จะบอกถึงช่องทางการจัดส่ง แต่ด้วยการที่ร้านเอง ก็ไม่ได้เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลที่สามารถเข้าถึงทุกกลุ่มได้ อาจจะเป็นเว็บไซต์ ดังนั้นการค้นหา หรือทำให้ผู้ที่ซื้อได้รู้จัก ก็ดูจะทำได้ยาก ปัจจุบันส่วนใหญ่ ก็จะเข้าไปแชร์ในโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่ได้รับความนิยม ก็กลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ ผู้ซื้อมองเห็นง่าย ผู้ขายปล่อยของสะดวก
ข้อดี
- มีหน้าร้านชัดเจน สร้างความเชื่อมั่นได้
- ส่วนใหญ่ให้รายละเอียดครบถ้วน เพื่อความสะดวกต่อการขาย
- ตรวจเช็คได้ ผู้ซื้อก็จะมั่นใจได้ว่า ซื้อไปแล้ว จะยังติดต่อได้ภายหลัง
- การโอนจ่าย การส่งสินค้า ติดตามได้
- ไม่ต้องเดินทางไปด้วยตัวเอง
สิ่งที่ต้องสังเกต
- สินค้าอาจไม่ได้หลากหลาย เพราะมีเฉพาะที่ร้านจำหน่ายเท่านั้น
- การเช็คเครดิตอาจยุ่งยากเล็กน้อย จะไม่เหมือนแพลตฟอร์มโซเชียล ที่มีคะแนนให้
- การติดต่อยากง่าย ก็ขึ้นอยู่กับความใส่ใจของแต่ละร้าน
ไปดูที่ร้าน
เป็นอีกสิ่งที่หลายๆ คนก็เคยทำกัน ส่วนตัวผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ด้วยเพราะอยากเห็นตัวสินค้าแบบชัดๆ มีโอกาสก็เดินดูไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่วางจำหน่ายอยู่ในห้างไอทีเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งถ้าในอดีตจำมีอยู่จำนวนมากทีเดียว อาทิ พันธุ์ทิพย์พลาซ่า เซียร์รังสิต ซีคอนสแควร์ หรือจะเป็นห้างเสรี เซ็นเตอร์ ที่ปัจจุบันน่าจะเป็นพาราไดซ์พาร์คไปแล้ว ที่เหล่านี้จะมีโซนไอทีอยู่เป็นส่วนหนึ่งของห้าง และมีผู้คนในระแวกนั้น มาจับจ่ายกันได้สะดวกมากขึ้น และการ์ดจอมือสอง ก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะจะมีทั้งคนนำมาขาย เพื่ออัพเกรด เปลี่ยนรุ่นใหม่ หรือจะเป็นมือสองที่ถอดจากพีซีสำเร็จรูป ก็มีเช่นเดียวกัน
ข้อดี
- ได้เห็นตัวการ์ดจอมือสอง สภาพจริง จับต้องได้
- ส่วนใหญ่ขอให้ทดสอบให้ดูได้เลย
- มีประกันร้าน นอกเหนือจากประกันปกติ
- จ่ายเงินหน้าร้าน มีใบเสร็จ ยืนยันได้ โอนไม่ผิดคน
- เดินเลือกได้ หากในห้างมีหลายๆ ร้าน
- กลับมาฝากขายได้ หากต้องการเปลี่ยน
สิ่งที่ต้องสังเกต
- สินค้ามีให้เลือกเยอะหรือไม่ มีรุ่นที่ต้องการมั้ย ไม่ทราบได้เลย
- ต้องเดินทางไปถึงที่ เสียค่าเดินทาง
- ต้องเช็คสินค้าให้ละเอียด ก่อนซื้อเดินออกมา
โซเชียลมีเดียต่างๆ
นับว่าเป็นแพลตฟอร์มที่โดนใจทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เช่น Facebook group, Line, Instagram หรือจะบางร้านก็เข้าสู่ระบบที่เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าในการชำระเงิน เช่น Shopee, LAZADA เป็นต้น สามารถใแชร์สินค้าของตนให้คนได้เห็นจำนวนมากขึ้น และผู้ซื้อก็เข้าถึงง่าย มีตัวเลือกที่เยอะ ค้นหาก็ง่าย และยังมีความหลากหลาย มีการต่อรองราคา หรือบางทีก็ตัดราคากันเห็นๆ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา และโอกาส อีกทั้งมองเห็นสินค้าได้ง่าย โดยเฉพาะการ์ดจอมือ 2 ที่ผู้ขายแม้จะโพสภาพไม่ได้เยอะ แต่ก็ Inbox ไปขอเพิ่มได้ตามความสะดวก ถึงแม้จะมีข้อดีหลายข้อ แต่สิ่งที่ควรระวังและต้องสังเกตก็มีไม่น้อยเลย
ข้อดี
- หาซื้อได้ง่าย มีช่องทางหลากหลายให้เลือกตามสะดวก
- หลายแพลตฟอร์ม ให้ความเชื่อมั่นได้สูง
- ผู้ซื้อหาสินค้าและเปรียบเทียบได้
- สามารถต่อรองพูดคุย ขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้
- มีช่องทางการชำระค่าสินค้าได้หลากหลาย
- บางแพลตฟอร์มสามารถผ่อนได้
- ไม่ต้องเดินทางไปรับสินค้าเอง
- คนซื้อตั้งรับสินค้าได้ คนขายเข้ามาเสนอ
สิ่งที่ต้องสังเกต
- การรับประกัน ขึ้นอยู่กับช่องทางการติดต่อและแพลตฟอร์ม
- บางช่องทาง อาจจะต้องเช็คเครดิตของผู้ขายด้วย
ตัวอย่างของร้านบนโซเชียลมีเดีย
กลุ่มซื้อขายการ์ดจอมือ 2 ที่มีความคึกคักอย่างมาก อีกแห่งหนึ่งบน Facebook ที่มีการซื้อขายการ์ดจอต่อวันจำนวนหลายรายการ มีทั้งผู้ขายมาวางสินค้า และผู้ซื้อที่แจ้งความต้องการขอซื้อไม่น้อยเลย ข้อดีคือ มีความเคลื่อนไหวรายการสินค้าจำนวนมาก สามารถเลือกได้ตามต้องการ หรือจะตั้งซื้อเฉพาะรุ่นก็ได้เช่นกัน ส่วนการจะซื้อขาย ก็แค่ทำให้ถูกกฏ Join group และโพสให้ถูกต้อง ภาพ ราคา และเงื่อนไข ส่วนการติดต่อระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ก็มีทั้ง FB, Chat, Tel. สารพัด และการจ่ายก็มีทั้งโอนชำระ หรือนัดรับจ่ายสด อันนี้ตามสะดวก แต่ที่แน่ๆ ของเยอะ
Kaidee ก็เป็นอีกที่หนึ่งที่น่าสนใจ เพราะผู้ขายจำนวนมาก และมีการเคลื่อนไหว รวมถึงตัวเลือกค่อนข้างมากในทุกๆ วัน แต่ถ้าอยากได้รุ่นที่ถูกใจ ก็จะต้องใช้การค้นหา ซึ่งมีระบบที่ช่วยการค้นหา เป็นแบบตัวกรองได้ดีในระดับหนึ่ง ส่วนการติดต่อ จะเป็นเบอร์โทรที่ซ่อนเอาไว้ในแต่ละโพส ข้อดีคือ หาของบางอย่างได้ สินค้าที่บางทีหาได้ยาก ก็อาจจะมาเจอทีนี่ได้เช่นกัน
Shopee ก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งที่มีการ์ดจอมือสอง มาให้เราได้เลือกใช้ นอกเหนือจากของใหม่จากบรรดาหน้าร้านหรือ Mall ต่างๆ ที่วางจำหน่ายกันแบบเต็มพิกัด ซึ่งให้ความเชื่อมั่นได้ดีในระดับหนึ่ง พร้อมทั้งเปิดหน้าร้านในการนำเสนอให้กับผู้ซื้อเข้ามาค้นหาได้ง่าย รวมถึงมีช่องทางการชำระได้หลายรูปแบบ ผู้ซื้ออาจได้โปรพิเศษ หรือส่วนลดจาก Coin รวมถึงการผ่อนสินค้าได้เช่นเดียวกัน
ซื้อออนไลน์ | ซื้อจากหน้าร้าน | |
ความสะดวก | ดูรุ่นรายละเอียดได้สะดวก | ต้องเดินหา |
เช็คสินค้า | ตรวจสอบได้ยาก | เช็คได้ง่าย เห็นตัวจริง |
ราคา | อาจได้ราคาถูก+ค่าส่ง | ราคาอาจสูง+มีต้นทุน |
ความเชื่อมั่น | อยู่ที่เครดิตคนขาย | มีหน้าร้าน เข้าถึงง่าย |
เครดิตคนขาย | เช็คเครดิตผู้ขายได้ในกลุ่ม | มีตัวตน หลักแหล่ง เช็คได้ |
รายละเอียดสินค้า | ดูจากรูปและข้อมูลประกอบ | ดูได้ละเอียดกว่า สัมผัส และทดลองได้ |
เปรียบเทียบ | ง่าย ดูจากเว็บไซต์และ Group อื่นๆ | ยาก ต้องเช็ครุ่นและซีรีส์ แล้วเปรียบเทียบในเว็บไซต์ |
รูปภาพและตัวจริง | ไม่ละเอียด ดูจากในภาพ | เห็นตัวจริง จับได้ ทดลองใช้ |
การรับประกัน | ประกันสินค้า + ประกันใจ | ประกันสินค้า + ประกันร้าน + ประกันใจ |
การจัดส่ง | ส่งพัสดุ ไม่ได้เช็คสภาพ ลุ้นระหว่างการขนส่ง ปลายทาง ต้องถ่ายหลักฐานเมื่อรับของ | ตรวจเช็คเสร็จ สภาพรับได้ จ่ายเงิน หิ้วกลับ |
ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม | ค่าเน็ต ค่าขนส่ง | ค่าเดินทาง ค่าอาหาร |
สินค้ามีปัญหา | ติดตามผู้ขาย ส่งกลับ ส่งซ่อม | หิ้วกลับไปที่ร้าน รอซ่อมหรือเปลี่ยน |
การ์ดจอขุดเหมือง?
เรื่องแบบนี้จะว่าไปก็ไม่ถูกหรือไม่ผิดเสียทีเดียว ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละบุคคล เพราะส่วนใหญ่ที่จะพบกันก็คือ การ์ดมีให้เลือกเยอะ และเป็นการ์ดประสิทธิภาพดี มีประกันอยู่บ้าง แต่ราคาสบายกระเป๋า และเหมืองบางแห่งก็ดูแลตัวการ์ดที่อยู่ในระบบได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งซอฟต์แวร์ มีเซ็นเซอร์ มีการตรวจเช็คและมอนิเตอร์กันตลอดเวลา รวมถึงติดตั้งระบบระบายอากาศที่ดี เพื่อให้การ์ดทำงานได้ยาวๆ การ์ดบางตัวแทบจะไม่มีฝุ่นมาเกาะ หรือมีการบำรุง อยู่เป็นระยะ ทำให้หลายๆ คนหันมาสนใจการ์ดจอขุดเหมืองกันมากขึ้น แต่นะครับแต่ นักขุดบางรายจะปรับเปลี่ยน BIOS และเร่งการทำงานของตัวการ์ดด้วย ก็ทำให้การ์ดช้ำได้เช่นกัน และทำงานหนักต่อเนื่อง แต่ด้วยราคาที่จับต้องได้ ไม่แพงเกินไป อย่างที่ได้แจ้งไปแต่ต้นคือ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ และความสมัครใจ แต่ละคนอาจเจอมาคนละแบบ หากเช็คแล้วสภาพดี ถูกใจ ราคาได้ ก็สามารถซื้อมาใช้งานได้ แต่ถ้าไม่มั่นใจ การ์ดทางเลือกอื่นก็ยังมีให้เลือกอีกเยอะ
รุ่นไหนน่าสนใจ
การ์ดจอรุ่นเริ่มต้น: เหมาะกับเกมเมอร์มือใหม่ เล่นเกมแนวแอ็คชั่น เน้นภาพลื่นไหล เรื่องความสวยงามอาจจะมีได้บ้าง แต่คงจะไม่ต้อง 100% ถึงระดับ Very High หรือ Epic ก็มีการ์ดหลายรุ่นที่น่าสนใจ เคาะราคามือสอง ราคาประมาณ 5,500-7,900 บาท แล้วแต่รุ่น ประกอบไปด้วย nVIDIA GeForce GTX 1660Ti, GTX 1660 SUPER หรือจะเป็น Radeon RX6600 มาพร้อมแรม GDDR6 6GB, 8GB และบางรุ่นที่เป็น 12GB เท่านี้ก็เพียงพอต่อการเล่นเกมในโหมด Full-HD ปรับ Medium detail ได้ไหลลื่นแล้ว
การ์ดจอระดับกลาง: สำหรับเกมเมอร์เทิร์นโปร เล่นเกม AAA เน้น Action ไหลลื่น ก็มีอยู่ด้วยกันหลายรุ่นที่น่าสนใจ อาทิ nVIDIA GeForce RTX2060, RTX 2060 SUPER, RTX 3060 หรือจะเป็น Radeon RX6600XT, RX6650XT หรือ RX6700XT กลุ่มนี้ราคาน่าจับจอง เพราะช่วงนี้ (18 Sep 2022) ราคาหล่นมาอยู่ที่ 8,000-12,000 บาทเท่านั้น ยังมีประกันอยู่อีกด้วย เล่นเกมเฟรมเรตลื่นตั้งแต่ในช่วง High ได้เลยกับความละเอียด Full-HD
การ์ดจอสายฮาร์ดคอร์: ภาพสวย เล่นจอใหญ่ ความละเอียดสูง และเกมแคสเตอร์ แนะว่า GeForce RTX3070Ti ขึ้นไป ช่วงนี้ถือว่าได้หมด เพราะเริ่มที่ประมาณ 15,000 บาท ไปจนถึง RTX 3080 ราคาราวๆ 2 หมื่นกลางๆ ยังพอหาได้ แล้วแต่จังหวะ หรือจะเป็น RX6800XT ราคาอยู่ที่หมื่นปลายๆ เท่านั้น แต่อาจจะหายากสักหน่อย เพราะวางปุ๊บหมดปั๊บ ต้องไปส่องในกกลุ่มมือสองนานๆ
การ์ดจอมือสองดีมั้ย เหมาะกับใคร?
คงไม่มีคำตอบที่ตายตัว หรือจะตรงกับความรู้สึกของหลายคนที่มีต่อของมือสอง เพราะบางคนก็มองว่าคุ้มค่าน่าลงทุน แต่บางคนก็มองว่า ไม่พร้อมที่จะเสี่ยง เพราะถ้าว่ากันตรงๆ ก็มีความเสี่ยงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตั้งแต่การมองหาการ์ด ที่ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นสังคมที่วางใจได้ทั้งหมด เพราะหลายครั้งที่เราจะเห็นว่ามีการโกงเวลาที่ซื้อขายกันบ่อยๆ ซื้อผ่านกลุ่ม บางคนมีเครดิต แต่ด้วยเงินที่มาก บางทีก็เชิดเอาดื้อๆ หรือบางทีส่งของมา ก็ไม่ได้ตรงตามที่คุยกันไว้ ก็กลายเป็นเรื่องแจ้งความกันยืดยาวก็มีเหมือนกัน หรือบางครั้งก็แต่งหน้าแต่งตามา ให้ดูเหมือนใหม่ แต่ข้างในเน่าจนเกือบใช้ไม่ได้ ก็มีให้เห็นกันบ่อยๆ ก็ทำเอาหลายๆ คนเข็ดขยาดกันไป
แต่บางคนก็กลับมีทัศนคติที่ดีต่อการ์ดจอมือ 2 เหล่านี้ เพราะได้เล่นเกมที่ชื่นชอบ แถมยังจ่ายเงินน้อยกว่า ขยันหาบางทีได้ค่าขนมกลับมาด้วย เพราะจับมาราคาดี ปล่อยต่อก็ได้กำไร แบบนี้ก็มีเหมือนกัน เอาเป็นว่าใครสะดวกแบบใด ก็ว่ากันไปตามต้องการ ใครที่ได้ของดี หรือใครมีช่องทางการซื้อ ก็อาจจะบอกต่อเพื่อนๆ กันบ้าง ส่วนถ้าใครเคยเจอประสบการณ์ไม่ดี ก็ไม่ต้องท้อ เพราะถือว่าเป็นการเรียนรู้ การเลือกซื้อการ์ดจอใหม่มือหนึ่ง ในปัจจุบันก็มีหลายช่องทาง ผ่อนก็ยังได้ ซื้อได้สบายใจกันไป สุดท้ายนี้ก็ขอให้มีความสุขกับการเล่นเกมบนการ์ดจอตัวโปรดกันนะครับ