Lenovo ใช้โอกาสในงาน IFA 2022 เปิดตัวมอนิเตอร์รุ่นใหม่เด่นๆ ถึง 4 รุ่น 4 สไตล์ รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ จะมีรุ่นไหนและน่าสนใจมากเพียงใดนั้นไปติดตามกันได้เลย
ในงาน IFA 2022 ที่ผ่านมานั้นทาง Lenovo ได้ทำการเปิดตัวมอนิเตอร์รุ่นใหม่ออกมาหลายรุ่นให้ได้เลือกใช้งานกัน ต้องบอกเลยว่าแต่ละรุ่นนั้นมีจุ่นเด่นที่ดีเยี่ยมแตกต่างกันไปเหมาะสำหรับการใช้งานในสำนักงานที่เน้นต้นทุนไปจนถึงนักเล่นเกมที่ต้องการมอนิเตอร์แรงๆ ว่าแล้วก็เริ่มไปดูกันเลยดีกว่าว่า ทั้ง 4 รุ่นที่เราเลือกมานั้นจะมีรุ่นอะไรบ้าง
Lenovo ThinkVision S25e-30
เริ่มต้นกันที่รุ่นราคาเบาๆ สำหรับใช้งานในสำนักงานที่ไม่ได้เน้นเรื่องของความละเอียดหน้าจอแบบโหดมากนักกับ Lenovo ThinkVision S25e-30 ซึ่งมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 24.5 นิ้วใช้พาเนลหน้าจอแบบ VA รองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ FullHD มาพร้อม refresh rate 75 Hz อัตราส่วนของหน้าจอยังมีขนาดอยู่ที่ 16:9 ซึ่งถือว่าเป็นขนาดอัตราส่วนที่เหมาะกับการทำงานเป็นอยางยิ่งโดยเฉพาะกับในสำนักงานที่ต้องมีการวางหน้าจอมอนิเตอร์เรียงอยู่มากๆ (รวมไปถึงการใช้งานในสถานศึกษาก็ยังได้อีกต่างหาก)
ตัวหน้าจอใช้ backlight แบบ W-LED ซึ่งจะทำให้ตัวหน้าจอนั้นมีความสว่างสูงสุดอยู่ที่ 250 nits ในเรื่องของการแสดงสีสันนั้น Lenovo ThinkVision S25e-30 จะรองรับความกว้างของสีแบบ sRGB ถึง 130% ส่วน NTSC นั้นจะอยู่ที่ 72% response time เฉลี่ยของหน้าจอ Lenovo ThinkVision S25e-30 นั้นจะอยู่ที่ราวๆ 6 ms ตัวหน้าจอนั้นไม่ได้เน้นเรื่องของการดีไซน์สวยงามเท่าไรนักแต่จะเน้นในเรื่องของความแข็งแรงทนทานมากกว่าโดยสามารถดูได้จากฐานตั้งที่สามารถปรับเอียงในระดับหนึ่ง
ด้วยความที่เป็นหน้าจอสำหรับการทำงานทำให้พอร์ตการเชื่อมต่อไม่ได้มีมากมายนัก โดยบน Lenovo ThinkVision S25e-30 นั้นจะมาพร้อมกับพอร์ตการเชื่อมต่อดังต่อไปนี้
- HDMI 1.4 จำนวน 1 พอร์ต
- D-sub จำนวน 1 พอร์ต
- 3.5 mm audio jack
ตัวหน้าจอได้รับมาตราฐาน Eyesafe ซึ่งมั่นใจได้ว่าจะช่วยถนอมสายตาป้องกันแสงฟ้าได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ Lenovo ThinkVision S25e-30 จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงต้นปี 2023 ที่จะถึงนี้ โดยราคากลางของ Lenovo ThinkVision S25e-30 นั้นจะอยู่ที่ประมาณ 6,150 บาท
Lenovo ThinkVision T32p-30
มาต่อกันกับมอนิเตอร์สำหรับการทำงานที่เน้นพื้นที่การใช้งานหน้าจอมากขึ้นอย่าง Lenovo ThinkVision T32p-30 ที่มาพร้อมกับพาเนล IPS กับหน้าจอขนาด 31.5 นิ้ว รองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K โดยที่ตัวหน้าจอจะยังคงมีอัตราส่วนอยู่ที่ 16:9 อยู่ ความสว่างสูงสุดของหน้าจอจะอยู่ที่ 350 nits Response Time ของหน้าจอนั้นจะอยู่ที่ 6 ms ส่วน Contrast Ratio อยู่ที่ 1000:1 รองรับช่วงกว้างของสีมาตรฐาน sRGB ถึง 99% และ 95% ตามมาตรฐาน DCI-P3
Lenovo ThinkVision T32p-30 จะมาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษอย่าง KVM switch, Natural Low Blue Light และ 100 x 100 mm VESA mount สำหรับพอร์ตการเชื่อมต่อนั้นจะมีดังต่อไปนี้
- 1 x USB Type-C Gen1 (DP1.2 Alt Mode)
- 1 x HDMI2.0
- 1 x DP1.2
- 1 x Audio Out (3.5mm)
- 1 x USB 3.1 Gen1 port (Upstream, by USB Type-C)
- 4 x USB 3.1 Gen1 ports (Downstream, incl. 1 x BC)
สำหรับ Lenovo ThinkVision T32p-30 นั้นจะเริ่มวางจำหน่ายช่วงต้นปี 2023 ที่จะถึงนี้ สนนราคาจะอยู่ที่ประมาณ 24,325 บาท
Lenovo ThinkVision T34w-30
ต่อกันรุ่นที่ 3 กับ Lenovo ThinkVision T34w-30 กับการเป็นหน้าจอแบบโค้งแต่ยังคงเน้นสำหรับตลาดสำนักงานมากกว่า โดยที่ Lenovo ThinkVision T34w-30 นั้นจะใช้พาเนลหน้าจอแบบ VA ขนาด 34 นิ้วมีอัตราส่วนอยู่ที่ 21:9 บนความละเอียดสูงสุด 3440 x 1440 pixels ตัวหน้าจอเป็นแบบโค้งที่มีรัศมีความโค้งอยู่ที่ 1500R ข้อเสียของ Lenovo ThinkVision T34w-30 นั้นคงจะอยู่ที่ refresh rate ค่อนข้างจะต่ำคืออยู่ที่ 60 Hz เท่านั้น ในส่วนของความสว่างสูงสุดจะอยู่ที่ 350 nits และยังคงรองรับช่วงกว้างของสีตามมาตรฐาน sRGB สูงถึง 99%
พอร์ตการเชื่อมต่อของ Lenovo ThinkVision T34w-30 นั้นจะประกอบไปด้วย
- 1 x USB Type-C Gen1 (DP1.2 Alt Mode)
- 1 x HDMI2.0
- 1 x DP1.4
- 1 x Audio Out (3.5mm)
- 1 x USB 3.2 Gen1 port (Upstream, by USB Type-C)
- 4 x USB 3.2 Gen1 ports (Downstream, incl. 1 x BC)
เช่นเดียวกับมอนิเตอร์ในรุ่นอื่นๆ ที่ผ่านมา Lenovo ThinkVision T34w-30 จะวางจำหน่ายช่วงต้นปี 2023 ที่จะถึงนี้ สนนราคากลางจะอยู่ที่ประมาณ 24,325 บาท
Lenovo Legion Y32p-30
ปิดท้ายเอาใจนักเล่นเกมกับ Lenovo Legion Y32p-30 มอนิเตอร์ขนาดหน้าจอ 31.5 นิ้วใช้พาเนลแบบ IPS รองรับความละเอียดที่ระดับ 4K หรือ 3,840 x 2,160 pixels ซึ่งยังคงอัตราส่วนหน้าจอเป็น 16:9 ให้เข้ากันได้กับเกมในทุกแพลทฟอร์ม อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะเป็นหน้าจอสำหรับการเล่นเกมแต่เจ้า Lenovo Legion Y32p-30 นั้นก็มาพร้อมกับ refresh rate สูงสุดที่ระดับ 144 Hz เท่านั้น ซึ่งอาจจะทำให้ดูด้อยกว่าคู่แข่งไปหน่อย แต่ทาง Lenovo เน้นจัดเต็มในส่วนของ response time แบบ MPRT ที่ต่ำมากคืออยู่ที่ 0.2 ms เท่านั้น
Lenovo Legion Y32p-30 สามารถให้แสงสว่างสูงสุดอยู่ที่ 400 nits จึงทำให้ Lenovo Legion Y32p-30 มาพร้อมกับมาตรฐาน VESA DisplayHDR 400 นอกไปจากนั้นแล้วตัวหน้าจอยังรองรับการแสดงสีสันแบบ 10-bit colour depth อีกด้วย ทำให้ในการรองรับช่วงกว้างของสีแบบ sRGB นั้นอยู่ที่ 99% และแบบ DCI-P3 อยู่ที่ 90% และเพื่อให้มั่นใจว่าจะเล่นเกมได้อย่างยาวนานอย่างแน่นอนมันจึงมาพร้อมกับ Delta E<2 factory calibration และ ‘Natural Low Blue Light’ ในตัว
พอร์ตการเชื่อมต่อของ Lenovo Legion Y32p-30 นั้นจะประกอบไปด้วย
- HDMI 2.1 x 2
- DisplayPort 1.4 x 1
- USB Type-C x 2
- USB Type-B x 1
- Kensington Lock
- 3.5 mm Audio jack x 1
- มีลำโพง 2 ตัวกำลังตัวละ 5 W
Lenovo Legion Y32p-30 นั้นจะวางจำหน่ายในช่วงปี 2023 เช่นเดียวกันแต่ทว่าช่วงเวลานั้นยังคงไม่แน่นอน สนนราคากลางจะอยู่ที่ประมาณ 36,340 บาท