Connect with us

Hi, what are you looking for?

รีวิว Asus

รีวิว ASUS ROG Zephyrus G14 2022 ของแดง AMD Advantage แบตอึด 10 ชม. แรงสะใจ!! ราคา 69,990 บาท

ASUS ROG Zephyrus G14 แรงและแบตอึด!! ดีจบทั้งเกมมิ่งและทำงาน!!

Share image Edit Name 3g142 1

 

Advertisement

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คในภาพจำของใครหลายๆ คนคงจะเป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องใหญ่หนาหนักและดีไซน์ล้ำอนาคตไม่ใช่เครื่องมินิมอลแบบ ASUS ROG Zephyrus G14 รุ่นใหม่นี้ซึ่งได้ดีไซน์สวยเรียบหรูแต่ก็ยังได้สเปคแรงฟีเจอร์ล้นเหมือนเดิม ยิ่งไปกว่านั้นถ้าใครเป็นแฟนคลับ AMD ก็น่าจะตกหลุมรักเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ได้ง่ายๆ นั่นเพราะ Zephyrus G14 รุ่นนี้เป็น AMD Advantage หรือที่เกมเมอร์เรียกกันว่า “แดงทั้งเครื่อง” นั่นเอง

จุดเด่นของ ASUS ROG Zephyrus G14 อย่างแรกคือฝาหลังแบบเจาะรูที่ ASUS เรียกว่า AniMe Matrix โดยใช้เครื่อง CNC กับเทคนิค Vapor deposition process ให้ได้ช่องไฟ LED ปรับเปลี่ยนเล่นเล่นลวดลายได้ 14,969 ลาย ตัดกับเครื่องสีเทา Eclipse Gray ได้อย่างสวยงาม ได้ตัวเครื่องบางและน้ำหนักเบาเพียง 1.72 กิโลกรัม ใช้ซีพียู AMD Ryzen 7 หรือ Ryzen 9 6000 Series กับการ์ดจอ AMD Radeon RX 6700S หรือ RX 6800S พร้อมชิป MUX Switch ไว้จัดการทำงานได้ว่าจะให้อยู่ในโหมดประหยัดพลังงานหรือเรียกใช้เต็มประสิทธิภาพก็ได้ ทำให้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 10 ชม. ทีเดียว

ระบบระบายความร้อนภายใน ASUS ROG Zephyrus G14 อย่าง ROG Intelligent Cooling ก็เทียบชั้นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงหลายๆ รุ่น ด้วยชุด Vapor Chamber กับโลหะเหลว (Liquid Metal) จาก Thermal Grizzly ช่วยให้ระบายความร้อนจากซีพียูและการ์ดจอได้อย่างรวดเร็วจับคู่กับพัดลม Arc Flow Fans พร้อมดีไซน์ช่องระบายอากาศ Anti-Dust Tunnel 2.0 ทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องกลัวปัญหาเรื่องความร้อนสูงจน Throttle Down แม้แต่น้อย ถ้าใช้ทำงานออฟฟิศทั่วไปก็ยอดเยี่ยมด้วยฟีเจอร์ 0dB สั่งหยุดพัดลมทำงานชั่วคราวในโหมด Silent ไม่ให้เสียงพัดลมรบกวนเพื่อนร่วมงานร่วมโต๊ะคนอื่น จะพกไปทำงานในที่สาธารณะที่ไหนก็ไม่มีปัญหา นอกจากนี้ ASUS ROG Zephyrus G14 ก็มี Microsoft Office Home&Student 2021 ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ตอบโจทย์ครบทุกมิติทั้งทำงานและเล่นเกม

ASUS ROG Zephyrus G14

หน้าจอ ROG Nebula Display ขนาด 14 นิ้ว ก็ยอดเยี่ยม ด้วยอัตราส่วน 16:10 ความละเอียด WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz และ Response Time 3ms มีฟีเจอร์ป้องกันภาพฉีกขาด Adaptive-Sync รองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision HDR ด้วย แสดงผลขอบเขตสีได้กว้าง 100% DCI-P3 การันตีโดย PANTONE Validated เรียกว่าก้าวข้ามความเกมมิ่งมายังสายครีเอเตอร์ได้แบบย่อมๆ ส่วนลำโพงทั้ง 4 ดอก รองรับ Dolby Atmos มีไมโครโฟน 3D Mic Array พร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวน Two-Way AI Noise Cancellation และคีย์บอร์ดก็มีปุ่ม Hotkeys ให้ใช้งาน 4 ปุ่ม ตั้งค่าได้ มี N-Key Rollover ในตัว รัวปุ่มในนาทีสำคัญตัดสินแพ้ชนะได้โดยไม่ต้องกังวลว่าปุ่มจะทำงานไม่ทันอย่างแน่นอน

จุดเด่นของ ASUS ROG Zephyrus G14 ในฐานะที่เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค AMD Advantage ก็มีฟีเจอร์เด่นอยู่ในตัวหลายอย่างซึ่งผู้ใช้บางท่านอาจยังไม่ทราบ อย่างแรกคือ AMD SmartShift Max ฟีเจอร์ที่ซีพียูและจีพียูจะสื่อสารกันโดยตรงและใช้ Machine Learning เพื่อวิเคราะห์ว่างานหรือเกมนั้นพึ่งพากำลังของซีพียูหรือการ์ดจอมากกว่าแล้วถ่ายเทค่าวัตต์เพื่อเร่งประสิทธิภาพให้ทำงานดีขึ้น โดย AMD เคลมว่าฟีเจอร์นี้ทำให้โน๊ตบุ๊คทำงานดีขึ้นถึง 14%

ถัดมาคือ AMD Smart Access Memory หรือ AMD S.A.M. เป็นฟีเจอร์เฉพาะเมื่อพีซีหรือโน๊ตบุ๊คเครื่องนั้นใช้ซีพียู AMD Ryzen 5000 Series หรือ AMD Ryzen 3000 Series (บางรุ่น) แล้วจับคู่กับการ์ดจอแยก AMD Radeon RX 6000 Series ซีพียู AMD Ryzen จะสื่อสารกับแรมการ์ดจอโดยตรงเพื่อเร่งประสิทธิภาพตัวเครื่องให้สูงขึ้น ทำให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหลและได้เฟรมเรทตอนเล่นเกมสูงยิ่งขึ้น นับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่อัดฟีเจอร์มาเยอะ ครบเครื่องที่สุดอีกเครื่องหนึ่งซึ่งเกมเมอร์ไม่ควรมองข้าม!

NBS Verdicts

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00090

ASUS ROG Zephyrus G14 นับเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสุดทรงพลัง ฟีเจอร์ครบเครื่อง ซอฟท์แวร์ครบครันพร้อมใช้งานและจัดการพลังงานได้ดีเหลือเชื่อ จนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คบางรุ่นต้องถอยให้ เพียงอัพเดท AMD Chipset Driver (ขณะที่ทดสอบเป็นเวอร์ชั่น 3.10.08.506) และไดรเวอร์การ์ดจอเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด เท่านี้ Zephyrus G14 ก็ทรงพลังและจัดการพลังงานได้ยอดเยี่ยม จะซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไว้พกไปทำงานออฟฟิศก็ได้หรือจะต่อจอแยกแล้วเล่นเกมที่บ้านก็ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

นอกจากประสิทธิภาพแล้ว ฟีเจอร์และการออกแบบก็จัดว่ายอดเยี่ยม ไม่ว่าจะฝาหลังเครื่องพร้อมไฟ LED “AniMe Matrix” การกางหน้าจอแล้วยกแป้นคีย์บอร์ดขึ้นเล็กน้อยด้วย ErgoLift Hinge รวมไปถึงการปลดล็อคเครื่องด้วยกล้องสแกนใบหน้า IR Camera ทำให้ไม่ต้องพิมพ์รหัสผ่านก็ใช้งานได้ทันทีเหมือนกับพี่ใหญ่ในซีรี่ส์อย่าง ASUS ROG Zephyrus M16 ด้วย และยังติดตั้งโปรแกรม Microsoft Office Home&Student 2021 มาพร้อมใช้งานเหมือนโน๊ตบุ๊คสายออฟฟิศเครื่องหนึ่งเลย ส่วนสายครีเอเตอร์จะซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้เอาไว้ใช้ตัดต่อแต่งภาพก็ไม่มีปัญหา การันตีคุณภาพด้วย PANTONE Validated แล้ว ส่วนตัวผู้เขียนยกให้เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่แม้แต่ผู้เขียนเองก็ยังอยากได้เป็นเจ้าของเองเสียด้วยซ้ำ

ส่วนข้อสังเกต แม้ผู้เขียนจะได้ใช้ ASUS ROG Zephyrus G14 มาราวสัปดาห์หนึ่งก็หาข้อสังเกตได้เพียงจุดเดียว นั่นคือ M.2 NVMe SSD และแรม SO-DIMM ในเครื่องมีสล็อตสำหรับอัพเกรดอย่างละช่องเท่านั้น ดังนั้น Zephyrus G14 เครื่องนี้อาจจะไม่โดนใจเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ที่อยากเพิ่มแรมไป 32~64GB DDR5 หรือใส่ M.2 NVMe SSD เพิ่มเท่าไหร่ แต่ถ้าดูชิ้นส่วนบนเมนบอร์ดประกอบก็จะเห็นทันทีว่าชุด Vapor Chamber กินพื้นที่ไปจนแทบหมดแล้ว ซึ่งถ้าเป็นผู้เขียนเอง ก็อาจจะหาทางออกอื่นอย่างเสริมเกมมิ่งฮาร์ดดิสก์ต่อแยกภายนอกอย่าง Game Drive เพิ่มเข้าไปแทนก็พอชดเชยกันได้อยู่

ข้อดีของ ASUS ROG Zephyrus G14
  1. งานประกอบตัวเครื่องแข็งแรง ได้ความสวยเรียบหรูไม่เป็นเกมมิ่งเกินไป
  2. บานพับ ErgoLift Hinge ยกตัวเครื่องขึ้นเล็กน้อยให้พิมพ์งานได้สะดวกและกางไดด้ราบ 180 องศา
  3. มีไฟ AniMe Matrix เสริมความสวยโดดเด่นให้กับฝาหลังของตัวเครื่อง ตั้งเอฟเฟคได้
  4. สเปคเป็น AMD Advantage รีดประสิทธิภาพของ Ryzen 7 6800HS และ Radeon RX 6700S ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
  5. ติดตั้งระบบระบายความร้อน ROG Intelligent Cooling แบบ Vapor Chamber มาให้ ระบายความร้อนได้ดีมาก
  6. หน้าจอ ROG Nebula Display ได้ความละเอียดและ Refresh Rate สูง ขอบเขตสีกว้าง ได้รับการการันตี PANTONE Validated รองรับ Dolby Vision HDR ด้วย
  7. ติดตั้งกล้อง IR Camera มาสแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้โดยไม่ต้องพิมพ์รหัสผ่าน
  8. ได้แรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz อัพเกรดได้มากสุด 24GB DDR5
  9. มีพอร์ต USB-C 3.2 Gen 2 x 2 ช่อง รองรับการต่อหน้าจอแยก DisplayPort ทั้งคู่ มีช่องซ้ายรองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบ Power Delivery 65 วัตต์
  10. มีพอร์ตใช้งานครบเครื่องทั้ง MicroSD Card Reader, HDMI 2.0b, USB-A 3.2 Gen 2 อีก 2 ช่องด้วย
  11. รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.2 ในตัว
  12. ลำโพง Dolby Atmos จำนวน 4 ดอก รองรับเสียง Hi-Res ดูหนังฟังเพลงดีมีมิติมาก
  13. ระบบจัดการพลังงานทำได้ดีมาก ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 10 ชั่วโมง
  14. น้ำหนักเครื่องเบาพกพาสะดวก เพียงแค่ 1.72 กิโลกรัมเท่านั้น
  15. มีซอฟท์แวร์ Microsoft Office Home&Student 2021 ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน
ข้อสังเกตของ ASUS ROG Zephyrus G14
  1. อัพเกรดได้เล็กน้อย มี M.2 NVMe SSD และแรม SO-DIMM อย่างละช่องเท่านั้น
  2. ไม่มีพอร์ต LAN ติดตั้งมาให้ ถ้าต้องการใช้งานต้องต่อผ่าน USB-A to LAN แทน
  3. ควรอัพเดท AMD Chipset Driver เวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ เพื่อให้รีดประสิทธิภาพได้เต็มที่

รีวิว ASUS ROG Zephyrus G14

Specification

g14 spec

ASUS ROG Zephyrus G14 เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คกลุ่ม Advantage Edition ซึ่งเป็นสเปค AMD ล้วนทั้งซีพียูและการ์ดจอ ซึ่งสเปคของจัดว่าทรงพลังและครบเครื่อง ตอบโจทย์ทั้งใช้ทำงานและเล่นเกมอย่างแน่นอน ซึ่งสเปคมีรายละเอียดดังนี้

สเปคของ ASUS ROG Zephyrus G14
  • CPU : AMD Ryzen 7 6800HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2-4.7GHz
  • GPU : AMD Radeon RX 6700S แรม 8GB GDDR6
  • SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 1TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 
  • RAM : 16GB DDR5 บัส 4800 MHz แยกเป็น Onboard กับ SO-DIMM อย่างละ 8GB DDR5 บัส 4800MHz อัพเกรดได้สูงสุด 24GB DDR5
    • รุ่น GA402RK -L8150WS ติดตั้งแรม 32GB DDR5 บัส 4800MHz
  • Display : 14 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 120Hz, Response Time 3ms รองรับ Dolby Vision HDR, Adaptive-Sync, Pantone Validated
  • Ports : USB-A 3.2 Gen 2 x 2, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ Power Delivery และ DisplayPort, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ DisplayPort, HDMI 2.0b x 1, MicroSD Card Reader x 1, Audio Combo x 1
  • Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
  • Webcam : 720p HD IR Camera 
  • Software : Windows 11 Home, Microsoft Office Home&Student 2021
  • Weight : 1.72 กิโลกรัม
  • Price : 69,990 บาท (ราคากลาง)
รุ่นย่อยอื่นๆ ของ ASUS ROG Zephyrus G14

Hardware & Design

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00091

ดีไซน์ของ ASUS ROG Zephyrus G14 ยังเน้นความเรียบง่ายเหมือนกับ ROG Zephyrus รุ่นก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะตัวเครื่องดีไซน์เรียบง่ายเหมือนโน๊ตบุ๊คทำงานสักเครื่องหนึ่งและตัวเครื่องสีเทา Eclipse Gray ดูเรียบร้อยเหมือนโน๊ตบุ๊คสายทำงานรุ่นประสิทธิภาพสูงสักเครื่องหนึ่ง ทั้งที่เครื่องนี้เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเต็มตัว

จุดที่เหมือนกับรุ่นก่อนหน้า คือ ปุ่ม Power ทรงหกเหลี่ยมอสมมาตรและขอบบนของตัวเครื่องที่ติดโลโก้ Zephyrus เอาไว้ แต่เปลี่ยนจากเพลตสะท้อนแสงแล้วสกรีนตัวอักษรเอาไว้ข้างในเป็นตัวอักษรบนพื้นบอดี้พลาสติกระหว่างช่องระบายความร้อนสองช่อง ทาบอยู่บนไฟ LED แสดงสถานะทั้ง 3 ดวงที่ขอบบนของตัวเครื่องแทน และสังเกตจะเห็นว่าด้านข้างซ้ายและขวาขอบบนเครื่องจะมีลำโพงติดตั้งเอาไว้อีก 2 ดอก เพื่อให้ได้เสียง Dolby Atmos ด้วย

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00087

ขอบตัวเครื่องของ ASUS ROG Zephyrus G14 ทั้งส่วนของหน้าจอและตัวเครื่องจะตัดเฉียงเข้าหากันเหมือนเครื่องหมายมากกว่า (>) เมื่อพับจอแล้วจะดูดติดด้วยแม่เหล็ก กำลังดูดดีมากและใช้นิ้วชี้เพียงนิ้วเดียวก็กางหน้าจอได้ แต่ส่วนตัวผู้เขียนแนะนำให้ใช้มืออีกข้างจับเครื่องจะกางได้ง่ายกว่า

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00057

ก้านบานพับหน้าจอแบบ ErgoLift Hinge เอกลักษณ์เฉพาะของโน๊ตบุ๊ค ASUS ก็ถูกนำมาใส่ให้ ASUS ROG Zephyrus G14 ด้วยเช่นกัน หากดูดีไซน์ภายในจะเห็นว่าก้านบานพับถูกออกแบบให้มีความโค้งและขาตั้งติดเข้ากับขอบล่างหน้าจอแบบแนวนอน พอกางหน้าจอก็จะดันตัวเครื่องให้เฉียงขึ้นเล็กน้อย เพิ่มพื้นที่ว่างใต้ตัวเครื่องให้ดึงลมเย็นเข้าไประบายความร้อนและช่วยให้ผู้ใช้วางมือพิมพ์งานได้สะดวกขึ้น และทางบริษัทก็ติดก้านพลาสติกมาซัพพอร์ตให้ขอบล่างของหน้าจอไม่สัมผัสกับพื้นโต๊ะโดยตรง ป้องกันรอยขูดเสียหายไปในตัวอีกด้วย

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00100

ฝาหลังของ ASUS ROG Zephyrus G14 ตัวนี้จะเป็นแบบทูโทน คือ ส่วนของฝาหลังแบบเรียบติดเพลต ROG เอาไว้มุมล่างซ้ายมือ ส่วนฝั่งขวาเป็นช่องไฟ LED เจาะรูด้วยเครื่อง CNC เทคนิค Vapor deposition process สามารถปรับเล่นลวดลายไฟบนฝาหลังได้กว่า 14,969 ลาย ซึ่งทาง ASUS เรียกว่า AniMe Matrix จัดเป็นเอกลักษณ์บนฝาหลังซึ่งไม่มีใครเหมือน ได้ความแตกต่างและสวยงามเป็นอย่างมาก ถ้าใครชอบความโดดเด่นก็เล่นเอฟเฟคไฟให้มีเอกลักษณ์ของตัวเองได้เลย

ด้านฝาหลังจะเห็นว่าเมื่อกางแล้ว จะไม่เห็นเพลตคำว่า Zephyrus และช่องระบายความร้อน แต่ถ้าพับหน้าจอเก็บเครื่องจะเห็นป้ายโลโก้อย่างชัดเจน ได้ความเรียบร้อยแต่ก็ซ่อนดีไซน์โฉบเฉี่ยวแบบเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเอาไว้ในตัว

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00021

ด้านใต้ของ ASUS ROG Zephyrus G14 จะใช้โครงหลักเป็นพลาสติกเนื้อแข็งและโซนตรงกลางเครื่องจะเป็นแผ่นอลูมิเนียมเจาะช่องลมเข้าเอาไว้ให้ดึงอากาศเย็นจากภายนอกเข้าไประบายความร้อนในเครื่อง ติดยางรองเครื่องไว้ 2 เส้นเป็นแนวยาวและยึดน็อตหัว Philips Head เอาไว้ทั้งหมด 11 ดอกด้วยกัน ซึ่ง 3 ดอก จะอยู่ตรงแผ่นอลูมิเนียมแล้วปิดด้วยจุกยางไว้

Screen & Speaker

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00045

จอ ROG Nebula Display ของ ASUS ROG Zephyrus G14 ขนาดอยู่ที่ 14 นิ้ว ความละเอียด WQXGA (2560×1600) พาเนล IPS อัตราส่วนหน้าจออยู่ที่ 16:10 ค่า Refresh Rate 120Hz, Response Time 3ms มีฟีเจอร์ Adaptive-Sync ป้องกันภาพฉีกขาดเวลาเล่นเกมหรือคอนเทนต์ที่ภาพเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไม่ให้ภาพฉีกขาด พาเนลมีคุณภาพสูง รองรับการแสดงผลแบบ Dolby Vision HDR ได้รับการรับรอง Pantone Validated และทาง ASUS เคลมขอบเขตสีจากโรงงาน 100% DCI-P3 ใช้แต่งภาพได้สบายๆ

display 2

ความละเอียดหน้าจอระดับ QHD โดยปกติแล้วจะอยู่ที่ 2560×1440 พิกเซล แต่ ASUS ROG Zephyrus G14 จะเพิ่มอัตราส่วนหน้าจอในแนวตั้งขึ้นอีกเล็กน้อยเป็น 16:10 ทำให้ความละเอียดจอเพิ่มเป็น 2560×1600 พิกเซล ปรับค่า Refresh Rate ได้ว่าจะใช้ 60Hz หรือ 120Hz ซึ่งถ้าใช้ทำงานแล้วไม่อยากเปลืองแบตเตอรี่ก็ปรับลงมา 60Hz ก่อน พอจะเล่นเกมก็ปรับขึ้น 120Hz ทีหลังก็ได้

ขอบเขตสีหน้าจอบนหน้าสเปคอยู่ที่ 100% DCI-P3 เมื่อคาลิเบรตหน้าจอด้วย DisplayCal 3 จะเห็นว่า Gamut coverage ซึ่งเป็นค่าจากโรงงานอยู่ที่ 99.7% sRGB, 84.9% Adobe RGB, 98.2% DCI-P3 ซึ่งถือว่ากว้างใกล้เคียงกับที่เคลมเอาไว้ แต่พอคาลิเบรตเสร็จแล้วขอบเขตสีหน้าจอในหัวข้อ Gamut volume เพิ่มขึ้นเป็น 146.3% sRGB, 100.8% Adobe RGB, 103.6% DCI-P3 และความเที่ยงตรงสีของหน้าจอหรือค่า Delta-E ได้เฉลี่ยเพียง 0.07~1.54 เท่านั้น จัดว่าสีสันบนหน้าจอทั้งเที่ยงตรงและขอบเขตสีกว้างมาก นอกจากเล่นเกมแล้วยังเอาไปทำงานเกี่ยวกับภาพและสีสันได้สบายๆ

ด้านความสว่าง ทางผู้ผลิตเคลมว่า ASUS ROG Zephyrus G14 มีความสว่างถึง 500 nits ซึ่งโปรแกรม DisplayCal 3 เองก็วัดได้สว่าง 499.85 cd/m2 ซึ่งใกล้เคียงกับที่เคลมเอาไว้ จะนั่งทำงานนอกอาคารอย่างร้านกาแฟหรือโดนแสงอาทิตย์ส่องสะท้อนบนหน้าจอก็ไม่มีปัญหา ถ้านั่งทำงานในออฟฟิศผู้เขียนแนะนำว่าเปิดความสว่างราว 60% ก็สว่างพอแล้ว

ลำโพงทั้ง 4 ดอกที่ติดตั้งมาให้จะอยู่ตรงบอดี้ส่วนบนเหนือคีย์บอร์ดและด้านใต้ตัวเครื่องโซนละ 2 ดอกด้วยกัน รองรับเสียง Dolby Atmos และได้เสียงคมชัดระดับ Hi-Res ซึ่งเสียงตอนผู้เขียนทดลองฟังเพลงก็ได้มิติ เหมาะกับความบันเทิงทุกแบบไม่ว่าจะดูหนังหรือฟังเพลงก็ไม่มีปัญหา

ด้านการฟังเพลง ลำโพงชุดนี้จัดว่ามีมิติสเตจเสียงกว้าง รายละเอียดของเครื่องดนตรีกับนักร้องไม่กลบกันส่วนเบสมีน้ำหนักและกำลังขับพอสมควรแต่ไม่ถึงกับปะทะเป็นลูกๆ เป็นแบบช่วยขับให้เสียงเพลงมีมิติดียิ่งขึ้น เสริมความเด่นของเครื่องดนตรีและนักร้องนำให้มีพลัง ถือว่าลำโพงของ ASUS ROG Zephyrus G14 นี้ได้เสียงน่าประทับใจ เสียงไม่แห้งไม่ต้องต่อลำโพงแยกก็ได้ ความดังของลำโพงเมื่อวัดด้วยอุปกรณ์วัดเสียงแล้วอยู่ราว 80~85dB

Keyboard & Touchpad

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00063

คีย์บอร์ดของ ASUS ROG Zephyrus G14 เป็นแบบ Tenkeyless ขนาดปุ่มเท่ากับแป้นคีย์บอร์ดมาตรฐานทั่วไป รองรับ N-Key Rollover ซึ่งเป็นฟีเจอร์ช่วยให้ผู้ใช้สามารถกดปุ่มบนคีย์บอร์ดหลายๆ ปุ่มพร้อมกันได้แล้วคำสั่งจากปุ่มนั้นๆ ไม่ตกหล่น มีไฟ LED Backlit ปรับเอฟเฟคไฟ RGB ได้ตามต้องการในโปรแกรม Armoury Crate

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00066

ปุ่มฟังก์ชั่นต่างๆ บนคีย์บอร์ดของ ASUS ROG Zephyrus G14 ก็ติดตั้งมาครบถ้วนทั้งสายทำงานและเกมมิ่ง ได้แก่ปุ่ม Windows Lock ที่รวมเอาไว้กับปุ่ม Windows, คีย์ลัดที่ปุ่มลูกศรทั้ง 4 ปุ่ม ได้แก่ Home, End, Page Up, Page Down เหมือนกับโน๊ตบุ๊คสายทำงานรุ่นอื่นของ ASUS นอกจากนี้ยังมีปุ่ม Macro อีก 4 ปุ่ม แยกพิเศษให้เกมเมอร์สามารถเซ็ตมาโครได้ด้วย ค่าจากโรงงานจะเป็นฟังก์ชั่นลดหรือเพิ่มเสียง, ปิดหรือเปิดไมค์และคำสั่งเรียกโปรแกรม Armoury Crate ขึ้นมาใช้งาน

ข้อดีอย่างหนึ่งของโน๊ตบุ๊คจาก ASUS คือ เมื่อกดคีย์ลัดเพื่อตั้งค่าตัวเครื่องแล้ว บนหน้าจอจะมีกรอบแจ้งเตือนเป็นรูปภาพลอยขึ้นมาให้เห็นราว 1-2 วินาที เพื่อแจ้งผู้ใช้ว่าตัวเครื่องเปลี่ยนการตั้งค่าตามสั่งแล้ว เป็นฟังก์ชั่นแจ้งเตือนเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเข้าใจได้ง่ายและดูใส่ใจผู้ใช้ดีมาก

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00076

Function Hotkey ตรงบรรทัดบนสุดของคีย์บอร์ดจะถูกเซ็ตเป็นคำสั่ง F1-F12 มาให้เป็นมาตรฐานจากโรงงาน แต่ถ้าไม่ต้องการก็ตั้งค่าในโปรแกรม Armoury Crate ได้ โดยมีคีย์ลัดดังนี้

  • F1 – ปิดเสียงลำโพง
  • F2~F3 – ลดหรือเพิ่มแสงไฟ LED Backlit ของคีย์บอร์ด
  • F4 – คีย์ลัด AURA Sync เปลี่ยนเอฟเฟคไฟคีย์บอร์ด 
  • F5 – ปุ่มปรับโหมดของตัวเครื่อง เลือกได้ระหว่าง Silent, Performance, Turbo
  • F6 – เรียกคำสั่ง Snipping Tool
  • F7~F8 – ลดหรือเพิ่มความสว่างหน้าจอ
  • F9 – ปุ่ม Project ตั้งค่าหน้าจอหลักและจอเสริม
  • F10 – เปิดหรือปิดทัชแพด
  • F11 – Sleep Mode
  • F12 – Airplane Mode

สังเกตว่าถัดจากปุ่ม F1-F12 แล้วจะเป็นปุ่ม Delete อีกเพียงปุ่มเดียว ไม่มีปุ่ม Print Screen เหมือนโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าตัดออกไปไม่มีปัญหานักเพราะทาง ASUS เลือกใส่เป็นคีย์ลัดเรียก Snipping Tool แทนแล้ว จะตัดออกไปก็ไม่มีปัญหาต่อการใช้งานนัก

ทางบริษัทเคลมว่าทัชแพดของ ASUS ROG Zephyrus G14 ถูกอัพเกรดให้ขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนราว 50% ซึ่งมีขนาดใหญ่มากและสูงสุดขอบความสูงที่วางข้อมือและเยื้องมากินพื้นที่ Alt ฝั่งซ้ายเล็กน้อย พอวางมือแล้วสันมือส่วนแม่โป้งจะทาบลงบนแป้นคีย์บอร์ดไปส่วนหนึ่ง แต่ถ้าต่อเมาส์แยกอยู่ก็กดปิดทัชแพดทิ้งไปก็ได้ การตอบสนองของแป้นทัชแพดสามารถลากเคอร์เซอร์, คลิ๊กเมาส์และใช้ Gesture Control ของ Windows ได้ครบถ้วนไม่มีปัญหา

ทัชแพดนี้ จากที่ลองพกไปใช้ทำงานออฟฟิศทั่วไปถือว่ามีขนาดใหญ่ ใช้งานสะดวกและลากเมาส์บนหน้าจอจากขอบสู่ขอบได้สะดวกสบายมาก หากพกไปทำงานในร้านกาแฟแล้วต้องแชร์โต๊ะทำงานกับผู้อื่นแล้วไม่สะดวกหยิบเมาส์ออกมา ก็ใช้ทัชแพดอย่างเดียวก็สะดวกไม่แพ้กัน

Connector / Thin & Weight

พอร์ตการเชื่อมต่อของ ASUS ROG Zephyrus G14 ถูกติดตั้งไว้ด้านข้างเครื่องทั้ง 2 ฝั่งเท่านั้น ซึ่งพอร์ตและการเชื่อมต่อไร้สายจะมีดังนี้

  • ฝั่งซ้ายจากซ้ายมือ – ช่องต่ออแดปเตอร์, HDMI 2.0b, USB-C 3.2 Gen 2 รองรับ Power Delivery และ DisplayPort, Audio combo
  • ฝั่งขวาจากซ้ายมือ – MicroSD Card Reader, USB-C 3.2 Gen 2 x 1 รองรับ DisplayPort, USB-A 3.2 Gen 2 x 2
  • การเชื่อมต่อไร้สาย – Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2

จะเห็นว่าพอร์ตเชื่อมต่อของ ROG Zephyrus G14 มีให้ใช้งานครบเครื่อง ไม่ต้องพึ่ง USB-C Multiport Adapter ก็ได้และยังมี MicroSD Card Reader ติดมาให้โอนไฟล์ภาพและคลิปออกมาได้โดยตรงซึ่งสะดวกมากและเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบันนี้ไม่ได้ติดตั้งมาให้เสียด้วย นอกจากนี้สังเกตว่าพอร์ต USB-C ทั้ง 2 ช่องใช้ต่อหน้าจอแยกได้ หากนับรวมกับ HDMI 2.0b เท่ากับว่า ROG Zephyrus สามารถต่อหน้าจอแยกได้ถึง 3 จอพร้อมกันทีเดียว

ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็เป็น Wi-Fi 6E ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด สามารถรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วและเสถียรกว่า Wi-Fi 6 มาก แต่สังเกตว่าทาง ASUS ไม่ได้ให้พอร์ต LAN มาด้วย ถ้าต้องใช้งานก็หาซื้อ USB-A to LAN มาเผื่อเอาไว้สักอันก็ช่วยได้มากแล้ว

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC09995

น้ำหนักของ ASUS ROG Zephyrus G14 จากหน้าสเปคเคลมไว้ 1.72 กิโลกรัม แต่พอชั่งจริงด้วยตาชั่งดิจิตอลแล้วอยู่ที่ 1.69 กิโลกรัมเท่านั้น เมื่อรวมกับอแดปเตอร์ 240 วัตต์ น้ำหนัก 706 กรัมจะหนักเพียง 2.4 กิโลกรัม ซึ่งถ้านับเฉพาะตัวเครื่องอย่างเดียวก็เบากว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ถ้ารวมอแดปเตอร์ก็หนักเท่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องเดียวเท่านั้น ถือว่าไม่หนักเกินไป ใส่กระเป๋าเป้ติดตัวไปไหนมาไหนได้สบายๆ

ทว่าตอนพก ROG Zephyrus G14 ไปทำงานนอกออฟฟิศก็ไม่ต้องเอาอแดปเตอร์ของเครื่องติดตัวไปก็ได้ เพราะพอร์ต USB-C ฝั่งซ้ายมือของเครื่องรองรับการชาร์จแบบ Power Delivery อยู่แล้ว แค่มีปลั๊ก GaN กำลังชาร์จ 65 วัตต์ขึ้นไปก็ชาร์จไฟให้เครื่องได้เลย ส่วนอแดปเตอร์ของเครื่องก็ไว้ที่บ้านหรือออฟฟิศไว้ใช้งานเวลาต้องรันงานหนักๆ แทน

Inside & Upgrade

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC09999

การเปิดฝาอัพเกรด ASUS ROG Zephyrus G14 สามารถขันเปิดฝาใต้ตัวเครื่องได้ง่ายๆ ด้วยน็อตหัวแฉก Philips Head หรือหัวแฉกบวกทั้งหมด 11 ดอกออกแล้วใช้การ์ดแข็งไล่ขอบเพื่อปลดฝาแล้วเริ่มอัพเกรดได้เลย จุดสังเกตคือ น็อตตรงกลางตัวเครื่อง 3 ดอกจะมีจุกยาง 3 เม็ดอุดเอาไว้เพื่อความสวยงาม อย่าลืมดึงจุกยางแล้วขันออกด้วย หากฝืนดึงจะทำให้ฝาหลังเสียหายได้ นอกจากนี้น็อตสองดอกตรงกลางและมุมล่างขวา รวม 3 ดอกจะมีจุกจับไม่ให้น็อตหลุดออกจากเบ้า เมื่อขันน็อตหลวมแล้ก็เอาการ์ดไล่ขอบเปิดฝาได้เลย

ภายในเครื่องจะเห็นว่าครึ่งบนจะเป็นชุด ROG Intelligent Cooling เป็นชุด Vapor Chamber กับพัดลมระบายความร้อนแบบเป่าออกด้านข้างและหลังของตัวเครื่อง ด้านล่างสุดเป็นแบตเตอรี่ขนาด 76Wh ส่วน M.2 NVMe SSD อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 ติดตั้งอยู่ตรงกลางฝั่งซ้ายและแรม SO-DIMM DDR5 อยู่ฝั่งขวามือและมีแผ่นพลาสติกป้องกันไฟฟ้าสถิตย์ปิดมาให้

สังเกตจะไม่เห็นการ์ด Wi-Fi PCIe นั่นเพราะทาง ASUS เอาไปซ้อนอยู่ใต้ M.2 NVMe สาเหตุเพราะพื้นที่เมนบอร์ดมีจำกัดและชิ้นส่วนต่างๆ อยู่ชิดกันหมด ไม่มีพื้นที่ติดตั้งหัวต่อ M.2 NVMe ตัวที่ 2 เลย ถ้าจะอัพเกรดก็ต้องถอดไดรฟ์เก่าออกอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนแรมเป็น Onboard กับ SO-DIMM อีก 1 ช่อง แยกเป็นตัวละ 8GB DDR5 รองรับความจุสูงสุด 24GB DDR5 นั่นคือถอดแรม 8GB DDR5 เดิมจากโรงงานออกแล้วใส่ตัวใหม่ความจุ 16GB เข้าไปแทน ให้เป็น 8+16GB ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าความจุ 16GB จากโรงงานก็เยอะพอใช้งานแล้ว แต่ถ้าทำงานใช้โปรแกรมกินแรมเยอะๆ ก็ยังพออัพเกรดเพิ่มได้

ในแง่การใช้งานและเล่นเกม ASUS ROG Zephyrus G14 เป็นโน๊ตบุ๊คที่ดีและจบในตัวอยู่แล้ว เหมาะกับเกมเมอร์หรือผู้ใช้ที่ซื้อมาใช้งานและไม่ค่อยมีแผนอัพเกรดมาก ส่วนผู้ใช้ที่มีแผนหรือชอบอัพเกรดเครื่องอาจจะอึดอัดอยู่บ้าง ซึ่งผู้เขียนมองว่าถ้าอยากลงเกมเอาไว้เล่นอยู่หลายเกม อาจจะซื้อฮาร์ดดิสก์แบบ Game Drive ต่อภายนอกมาต่อผ่านพอร์ต USB แทนก็เป็นทางออกที่ดี

Performance & Software

cpu 1

ซีพียูของ ASUS ROG Zephyrus G14 เป็น AMD Ryzen 7 6800HS แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2-4.7GHz รองรับชุดคำสั่งพื้นฐานครบถ้วน เป็นสถาปัตยกรรมแบบ 6 นาโนเมตร ค่า TDP สูงสุด 35 วัตต์ จัดว่าประหยัดพลังงานดีแต่ก็ยังได้ประสิทธิภาพสูงอยู่

อนึ่ง ผู้ใช้หลายคนอาจคุ้นเคยกับรหัสท้ายตัวเลของ AMD ว่ามีรหัส U ซึ่งเป็นซีพียูเน้นประหยัดพลังงาน, รหัส H เป็นรุ่นประสิทธิภาพสูง หรือ HX เป็นตัวบ่งบอกว่าเป็นรุ่นประสิทธิภาพสูงสุดของ AMD แต่รหัส HS หรือ HS Design Standard เป็นซีพียูกลุ่ม Mobile แบบพิเศษซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ AMD Ryzen 4000 H-Series เป็นต้นมา โดยมีจุดเด่นดังนี้

  1. เป็นซีพียูสำหรับโน๊ตบุ๊คแบบประสิทธิภาพสูง แต่ใช้พลังงานน้อยกว่ารุ่นรหัสเดียวกัน 20% ให้ใช้งานด้วยแบตเตอรี่นานยิ่งขึ้น
  2. ค่า TDP สูงสุดแค่ 35 วัตต์ แต่ใช้คอร์ประมวลผลประสิทธิภาพสูงเหมือนรหัส H ทั่วไป
  3. จัดการอุณหภูมิของตัวชิปเซ็ตได้ดี ไม่ร้อนและลดเสียงตอนโน๊ตบุ๊คทำงานเบาลงด้วย

ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าซีพียูที่มีรหัส HS ก็คือซีพียูรหัส H แบบพิเศษที่จัดการพลังงานได้ดีขึ้น เย็นและประสิทธิภาพดีเท่ากันนั่นเอง ดังนั้นถ้าโน๊ตบุ๊คเครื่องไหนติดตั้งซีพียู AMD Ryzen แบบ HS Design Standard อยู่ ก็สามารถใช้งานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมงแน่นอน

ด้านอินเตอร์เฟสของ SSD ในเครื่องเป็น PCIe 4.0 x4 มีแรม 16GB DDR5 บัส 4800MHz ให้ใช้งานตั้งแต่เริ่ม โดยแยกเป็น Onboard กับ SO-DIMM อย่างละ 8GB รองรับการอัพเกรดได้มากสุด 24GB ซึ่งถ้าใครต้องการอัพเกรดอาจจะเปิดฝาอัพเกรดอีกเล็กน้อยก็ได้ แต่ถ้าใช้งานเดิมๆ ประสิทธิภาพก็ดีเพียงพอตอบโจทย์ทั้งทำงานและเล่นเกมอยู่แล้ว

discrete gpu

การ์ดจอแยกในเครื่องติดตั้ง AMD Radeon RX 6700S แรม 8GB GDDR6 มาให้ เป็นการ์ดจอแยกประสิทธิภาพดี มี 1,792 Unified Shader รองรับ DirectX 12 รองรับชุดคำสั่งต่างๆ ค่อนข้างครบถ้วน ได้แก่ OpenCL, OpenGL 4.6, DirectCompute, DirectML, Vulkan, Ray Tracing ซึ่งครบพร้อมใช้ ช่วยให้ทำงานและเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น

device mgr 1

พาร์ทภายในตัวเครื่องเมื่อเช็คผ่าน Device Manager จะเห็นว่า ASUS ROG Zephyrus G14 ติดตั้งชิ้นส่วนสำคัญมาครบเครื่อง ได้แก่ กล้อง IR Camera สำหรับสแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่อง ทำงานร่วมกับระบบ Windows Hello, ชิป TPM 2.0 และ AMD PSP 10.0

ชิป Wi-Fi PCIe ในเครื่องเป็น MediaTek Filogic 330 (MT7922) รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับความถี่คลื่น 2.4GHz, 5GHz, 6GHz ครบถ้วน แบนด์วิธคลื่น 160MHz และรองรับ Bluetooth 5.2 ด้วย และตัวการ์ดนี้มีฟีเจอร์สำคัญต่างๆ ครบเครื่อง ได้แก่ MU-MIMO, MU-OFDMA, QoS และ WPA3 อีกด้วย

ssd 2

M.2 NVMe SSD ของ ASUS ROG Zephyrus G14 ติดตั้ง Micron 2450 มาให้ใช้งาน โดย SSD รุ่นนี้เป็น M.2 2280 176-Layer NAND อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 โดยทางผู้ผลิตเน้นเรื่องการประหยัดพลังงานแต่ประสิทธิภาพก็ถือว่าดีใช้ได้ มีความเร็ว Sequential Read 3,500 MB/s และ Sequential Write 3,000 MB/s มีความทนทานต่อการเขียนข้อมูลทับลงในไดรฟ์ได้ 600 TBW

ความเร็วจากการทดสอบด้วย CrystalDiskMark 8 จะได้ Sequential Read 3,627.46 MB/s และ Sequential Write 3,474.24 MB/s จัดว่ารวดเร็วกว่าหน้าสเปคที่เคลมเอาไว้อย่างชัดเจน หากเน้นทำงานและเล่นเกมก็ไม่ต้องอัพเกรดก็ได้ แต่ถ้าอยากให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นและรับส่งข้อมูลได้เต็มความเร็วอินเตอร์เฟส PCIe 4.0 ก็น่าเปลี่ยนเป็น Kingston Fury Renegade, WD Black SN850, Samsun 980 PRO แทนก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน

ส่วนการทำงานกับโปรแกรม 3D เรนเดอร์โมเดลต่างๆ เมื่อทดสอบด้วย CINEBENCH R15 จะได้คะแนน OpenGL 191.46 fps และคะแนน CPU 1,930 cb ซึ่งผู้เขียนได้ลองรันการทดสอบนี้ซ้ำอีกหลายครั้งแล้ว พบว่าคะแนนซีพียูจะได้ใกล้เคียงกับการทดสอบครั้งนี้ แต่คะแนน OpenGL จะขึ้นลงอยู่ช่วง 191~199 fps กล่าวคือ ถ้าใครจะใช้ ASUS ROG Zephyrus G14 ทำงานหรือพรีวิว 3D Model ให้ลูกค้าดูก็ใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน

ด้าน CINEBENCH R20 ที่เน้นทดสอบพลังการประมวลผลของซีพียูเป็นหลักได้ CPU 4,854 pts จัดว่าทำได้ดีเพียงพอจะใช้ทำงานหนักๆ อย่างเรนเดอร์ภาพและงานกราฟฟิคต่างๆ ก็ทำได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลว่าถ้าซีพียูเป็น AMD แล้วจะทำงานได้ดีหรือไม่? 

3dmark

การทดสอบเล่นเกมโดยรัน 3DMark Time Spy จะได้คะแนนเฉลี่ยรวม 8,040 คะแนน แยกเป็น CPU score 8,788 คะแนน และ Graphics score 7,922 คะแนน ซึ่งคะแนนในระดับนี้หากจะเล่นเกมที่ความละเอียดจอ 1080p~2K ปรับกราฟฟิคเอาไว้ระดับ High ก็ได้ไม่มีปัญหาแน่นอน

Screenshot 2022 08 26 194608

ในแง่ใช้ทำงานทั่วไป ASUS ROG Zephyrus G14 ทำคะแนนใน PCMark 10 ได้สูงมากถึง 7,301 คะแนน เทียบชั้นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงหลายๆ รุ่น จะใช้ทำงานทั่วไปอย่างเปิดเบราเซอร์หรือแอพฯ มาทำงาน ตัดต่อวิดีโอแต่งภาพหรือแม้แต่ทำงานเอกสารก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน ดังนั้นในแง่การทำงานไม่ว่าจะงานออฟฟิศทั่วไปหรืองานสายครีเอเตอร์ก็ทำได้ดีแน่นอน

g14 1080p

ด้านการเล่นเกม จะเห็นว่า ASUS ROG Zephyrus G14 แม้จะเป็นซีพียู AMD Ryzen 7 6800HS กับการ์ดจอ AMD Radeon RX 6700S แต่เมื่ออัพ AMD Chipset Driver และไดรเวอร์การ์ดจอเวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว ก็เล่นเกมฟอร์มยักษ์ระดับ AAA บนหน้าจอ 1080p ได้สบายๆ ได้เฟรมเรทเฉลี่ยสูงมากและยิ่งถ้าเกมไหนใช้เอนจิ้นเอื้อทาง AMD อย่าง Resident Evil Village ก็จะได้เฟรมเรทสูงเป็นพิเศษด้วย

ประสบการณ์การเล่นเกมด้วย ASUS ROG Zephyrus G14 บทความละเอียดจอ 1080p ใช้คำว่า “แรงเหลือเฟือ” ได้อย่างเต็มปาก ด้วยพลังของ Ryzen จับคู่กับ Radeon ทำให้ภาพของเกมลื่นไหลต่อเนื่องรวมทั้งโหลดฉากได้อย่างรวดเร็วจนแทบไม่เห็นการเรนเดอร์แผนที่ต่อหน้าเหมือนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คบางเครื่องเลย โดยเฉพาะ SCUM ถ้าเครื่องไม่แรงพอ เฟรมเรทเฉลี่ยก็จะไม่เกิน 60 Fps และบางครั้งก็จะมีอาการโหลดแผนที่สดๆ ให้เห็นด้วย แต่ Zephyrus G14 ไม่มีอาการนี้แม้แต่น้อย ด้านของ Apex Legends ก็สามารถเรนเดอร์ฉากตอนเล่นได้เร็วทันใจ กวาดเมาส์เร็วๆ เพื่อไล่ตามเป้าหมายก็ไม่มีอาการภาพฉีกหรือเกิดอาการเฟรมเรทตกเลย ดังนั้นสรุปได้ว่า ROG Zephyrus G14 สามารถเล่นเกมบนจอความละเอียด 1080p ได้สบายๆ

g14 native

หากขยับมาความละเอียด WQXGA ที่ 2560×1600 พิกเซลซึ่งเป็นความละเอียดดั้งเดิมของจอนี้ (Native Resolution) จะเห็นว่า Ryzen 7 6800HS และ Radeon RX 6700S ก็ทำผลงานได้ดีไม่แพ้กัน ถึงจะเทียบกับ 1080p แล้วเฟรมเรทจะลดลงไปบ้างแต่ยังเล่นได้ดีและลื่นไหลอยู่ แต่สำหรับ Resident Evil Village ก็ยังเป็นข้อยกเว้นอยู่ดี เนื่องจากการตั้งกราฟฟิคในเกมยังใช้ประโยชน์จาก AMD FidelityFX เข้ามาเสริมให้เฟรมเรทตอนเล่นเกมยังสูงอยู่เช่นเดิม

ถ้าเป็นเกมอื่นที่ไม่ได้เอื้อทาง AMD เต็มที่อย่าง SCUM การได้เฟรมเรทเฉลี่ย 40 Fps แล้วมีบางช่วงบางตอนเฟรมเรทเพิ่มขึ้นไปแตะระดับใกล้เคียง 60 Fps และยังเสถียรไม่มีการ “เกมเด้ง” หรือภาพหน่วง, กระตุกระหว่างเล่นเกมเลย ด้านของ Apex Legends ก็ยังเล่นได้ไหลลื่นดีไม่มีปัญหา เฟรมเรทสูงและภาพลื่นต่อเนื่องไม่แพ้ตอนเล่นบนความละเอียด 1080p เลยแม้แต่น้อย ดังนั้นสรุปได้เลยว่าสเปค Ryzen 7 6800HS และ Radeon RX 6700S สามารถเล่นเกมบนจอความละเอียด 2K ไม่ว่าจะ QHD หรือ WQXGA ก็เล่นได้สบายๆ

ในส่วนนี้ผู้เขียนขอเสริมให้เกมเมอร์เป็นพิเศษ ว่าถ้าจะต่อหน้าจอเกมมิ่งเข้ากับ ASUS ROG Zephyrus G14 นี้ แนะนำให้ต่อผ่าน HDMI 2.0b ด้านข้างตัวเครื่องก่อนเป็นจอแรก แล้วค่อยต่อจอ 2, 3 ผ่าน USB-C จะดีสุด เนื่องด้วยสเปคของ HDMI 2.0b จะรีดค่า Refresh Rate ได้ดีกว่านั่นเอง และหากผู้ใช้คนไหนอยากทราบว่าตอนนี้ AMD FidelityFX รองรับเกมไหนบ้าง? สามารถดูรายชื่อเกมได้ที่นี่

Screenshot 2022 08 25 002816

ด้านซอฟท์แวร์ปรับแต่งและมอนิเตอร์ประจำ ASUS ROG Zephyrus G14 ตัวหลักเป็น ASUS Armoury Crate ซึ่งซอฟท์แวร์นี้ใช้มอนิเตอร์การทำงาน, ปรับโหมดตัวเครื่อง, ตั้งค่าปุ่มมาโครหรือแม้แต่ตั้งเอฟเฟคไฟ AniMe Matrix บนฝาหลังตัวเครื่องได้ด้วย เป็นซอฟท์แวร์ที่ตั้งฟังก์ชั่นการทำงานให้เครื่องนี้ได้ครบเครื่องมาก

ด้านการตั้งค่าตัวเครื่องจะมีเคล็ดลับ 2 แบบ หากต้องการใช้งานทั่วไปแนะนำให้เลือกตรง GPU Mode ให้เป็น Optimized แล้วปล่อยให้เครื่องจัดการตัวเองได้เลย แต่ถ้าทำงานกราฟฟิคหรือเล่นเกมแล้วจะรีดประสิทธิภาพตัวเครื่องให้สูงสุด ให้เลือกเป็น Ultimate แล้วรีเซ็ตเครื่องหนึ่งครั้ง ก็จะได้เฟรมเรทตอนเล่นเกมสูงขึ้นอย่างแน่นอน

Screenshot 2022 08 25 003253

ด้าน MyASUS จะเป็นซอฟท์แวร์สำหรับตั้งค่าการใช้งานทั่วไปและอัพเดทเฟิร์มแวร์ทั่วไปในตัวเครื่อง ช่วย Optimize การทำงานต่างๆ, มอนิเตอร์ตัวเครื่องและใช้ติดต่อกับทาง ASUS ในกรณีต้องการให้ทีมช่างของ ASUS ช่วยดูแลตัวเครื่องเมื่อเกิดปัญหาได้อีกด้วย

Battery & Heat & Noise

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00010

แบตเตอรี่ของ ASUS ROG Zephyrus G14 เป็นลิเธียม โพลีเมอร์ ความจุ 76Wh ขนาดใหญ่โดยวางตัวยาว ขอบทั้งสองฝั่งของแบตเตอรี่ติดกับลำโพงของตัวเครื่อง มีความจุแบบ Typical Capacity 4,920mAh และ Rated Capacity ที่ 4,770mAh ซึ่งความจุนี้ถือว่าให้เยอะกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ใช้งานได้หลายชั่วโมงอย่างแน่นอน

battmon

เมื่อทดสอบตามมาตรฐานของทางเว็บไซต์ ปิดไฟ RGB, AniMe Matrix, ปรับลดความสว่างหน้าจอให้ลงมาต่ำสุด, เปิดเสียงลำโพง 10% และปรับโหมดตัวเครื่องให้เข้าโหม Silent แล้วใช้ Microsoft Edge ดูคลิป YouTube นาน 30 นาที จะเห็นว่าแบตเตอรี่ 76Wh ก็ใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 10 ชั่วโมง 19 นาทีทีเดียว โดยปกติแล้วเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบันหากใช้งานด้วยแบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาในเครื่องจะใช้งานได้ราว 5~7 ชั่วโมง แต่ ASUS ROG Zephyrus G14 สามารถใช้งานได้นานกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ เครื่องมาก

อย่างไรก็ตามผู้เขียนมีจุดสังเกตหนึ่ง คือ ก่อนได้ผลทดสอบนี้ ผู้เขียนได้ทดสอบเครื่องตามปกติโดยใช้ชิปเซ็ตไดรเวอร์แบบยังไม่ได้อัพเดทเป็นเวอร์ชั่น 3.10.08.506 จะใช้งานด้วยแบตเตอรี่ได้ราว 5 ชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้น แต่เมื่ออัพเดท AMD Chipset Driver แล้ว ก็ได้ระยะเวลาใช้งานนานขึ้นมาก ดังนั้นถ้าใครซื้อ ROG Zephyrus G14 มา ขอให้อัพเดท Chipset Driver ด้วย

ระบบระบายความร้อน ROG Intelligent Cooling แบบ Vapor Chamber ผสานโลหะเหลวและระบายความร้อนออกจากเครื่องด้วยพัดลม Arc Flow Fans ด้านหลังและด้านข้างเครื่องฝั่งละ 2 ช่อง ซึ่งชุดระบายความร้อนนี้มีขนาดใหญ่และกินพื้นที่ภายในตัวเครื่องครึ่งหนึ่ง ซึ่งถ้าใช้งานทั่วไปอย่างทำงานเอกสารก็ไม่มีเสียงรบกวนด้วยฟีเจอร์ 0dB แต่ถ้าทำงานกราฟฟิคหรือเล่นเกมจะได้ยินเสียงพัดลมระบายความร้อนค่อนข้างชัดเจน แต่ข้อดีคือชุด Vapor Chamber นี้ทำงานได้ดีมาก ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนสูงเกินหรือ Throttle Down ลดประสิทธิภาพการทำงานลงเลยแม้แต่น้อย

temp 1

ส่วนอุณหภูมิที่ CPUID HWMonitor วัดได้ตอนทดสอบเล่นเกม จะเห็นว่าซีพียู AMD Ryzen 7 6800HS (ดูที่ AMD Radeon Graphics ซึ่งเป็นการ์ดจอออนบอร์ดแทน) ได้อุณหภูมิ 48~87 องศาเฉลี่ย 77 องศาเซลเซียส การ์ดจอ AMD Radeon RX 6700S อยู่ที่ 48~97 องศา เฉลี่ย 78 องศาเซลเซียส ไม่มีตัวเลขติดแดงโชว์ว่าอุณหภูมิร้อนเกินไปเลย และความร้อนที่ลงไปยัง M.2 NVMe SSD ซึ่งอยู่ถัดลงมาก็ไม่สูงมาก เฉลี่ยเพียง 58 องศาเซลเซียสเท่านั้น กล่าวคือ ROG Intelligent Cooling สามารถคุมความร้อนของซีพียูและการ์ดจอได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องกังวลว่าเล่นเกมแไปแล้วอุณหภูมิตัวเครื่องจะสูงเกินจนใช้งานได้ไม่ดีไม่เต็มประสิทธิภาพ

User Experience

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00106

ASUS ROG Zephyrus G14 ถือว่าเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ลงตัวทั้งด้านเกมมิ่งก็เล่นเกมได้ดี ทรงพลังเล่นเกมหนักๆ ได้ไม่มีปัญหาและยังใช้งานต่อเนื่องได้หลายชั่วโมงและยังชาร์จแบตเตอรี่ผ่านทางพอร์ต USB-C 3.2 ด้านซ้ายของตัวเครื่องได้ ขอแค่มีปลั๊ก GaN กำลังชาร์จเกิน 65 วัตต์ กับสาย USB-C สักเส้นติดกระเป๋าเอาไว้ จะไปนั่งทำงานที่ไหนก็ไม่ต้องกลัวว่าแบตเตอรี่จะหมดระหว่างทำงานอย่างแน่นอน แต่ถ้าใช้ทำงานเอกสารหรือเปิดเบราเซอร์ใช้งานตามปกติก็ใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 10 ชั่วโมง ไม่แพ้โน๊ตบุ๊คบางเบาหลายรุ่นเลย

ความปลอดภัยตอนใช้งานก็จัดว่าดีมาก เพราะ ROG Zephyrus G14 รุ่นก่อนหน้าไม่มีระบบปลดล็อคตัวเครื่องแบบ Biometric ติดมาให้ แต่รุ่นใหม่นี้ได้กล้อง IR Camera เอาไว้สแกนหน้าปลดล็อคเครื่องได้ ทำงานร่วมกับฟังก์ชั่น Windows Hello เพียงแค่กางจอให้กล้องสแกนหน้าเพียงอึดใจก็ปลดล็อคพร้อมใช้งานได้ทันที เป็นฟังก์ชั่นช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้นมากด้วย

ซึ่งผู้เขียนก็ได้เอาเครื่องนี้ติดไปนั่งทำงานตามร้านกาแฟ ก็ยอมรับว่าหน้าตาของมันเรียบร้อยขึ้นไม่ออกเกมมิ่งเกินไป แต่ประสิทธิภาพการทำงานจัดว่ารันโปรแกรมใหญ่กินทรัพยากรหนักๆ ได้ดีมากจนพลอยให้รู้สึกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบาหลายๆ รุ่นทำงานช้าลงเสียอย่างนั้น และเรื่องการจัดการพลังงาน ผู้เขียนเลือกตั้งค่าเครื่องให้การ์ดจอทำงานแบบ Optimize แล้วปรับเข้าโหมด Silent เพื่อใช้ทำงานทั่วไป อย่างเปิดเว็บไซต์และทำงานเอกสารก็ใช้งานต่อเนื่องได้ทั้งวัน ไม่ต้องกลุ้มวิ่งหาปลั๊กมาต่อชาร์จเครื่องเลยก็ยังได้ ยิ่งถ้าใครเป็นสายทำงานแบบ Cafe Hopper ทำงานร้านนี้แล้วไปกินข้าวแล้วแวะอีกร้านต่อ มั่นใจว่าแบตเตอรี่ 76Wh ใน ASUS ROG Zephyrus G14 จะพร้อมใช้งานได้ทั้งวันอย่างแน่นอน

ด้านการเล่นเกมด้วย ASUS ROG Zephyrus G14 ถือว่าทรงพลังไม่แพ้สเปคอื่นอย่าง และเป็น AMD Advantage ขอเพียงแค่ลง AMD Chipset Driver และอัพเดทไดรเวอร์การ์ดจอให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ปัญหาจุกจิกไม่ว่าจะเรื่องเฟรมเรทเหวี่ยง, เกมเด้ง, ภาพกระตุกใดๆ ไม่มีให้เห็นตอนใช้งานเลยแม้แต่น้อย เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับ Desktop Replacement ซื้อเครื่องเดียวต่อจอแยกเล่นเกมหรือทำงานกราฟฟิคหนักๆ ได้เลย และราคา 69,990 บาท ก็ถือว่าไม่แพงไม่ถูกไปอีกด้วย ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนก็ประกอบเกมมิ่งพีซีสเปค AMD ล้วนใช้งานเป็นเครื่องหลักอยู่ ก็ขอยืนยันว่าปัจจุบันนี้สเปคซีพียู AMD Ryzen กับการ์ดจอ AMD Radeon นอกจากประสิทธิภาพดี ยังไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจเหมือนในอดีตแล้วด้วย

Conclusion & Award

ASUS Zephyrus G14 Advantage Edition DSC00104

หลังจากได้ใช้ ASUS ROG Zephyrus G14 มาราวหนึ่งสัปดาห์ก็ประทับใจเครื่องนี้ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเรื่องประสิทธิภาพ, การจัดการพลังงาน, พอร์ตเชื่อมต่อและยังได้กล้องสแกนใบหน้าด้วย เรียกว่าฝั่งฮาร์ดแวร์มีให้แบบครบถ้วน ส่วนซอฟท์แวร์ก็มี Microsoft Office Home&Student 2021 ติดตั้งมาให้แบบครบเครื่อง เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คแค่ไม่กี่รุ่นที่ได้ซอฟท์แวร์ครบเครื่องระดับนี้ ถ้าซื้อมาแค่เปิดเครื่องอัพเดทไดรเวอร์ให้ครบก็พร้อมใช้งานทันที

ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องลูกเล่นและดีไซน์ตัวเครื่องต้องยกให้ไฟ AniMe Matrix ที่เป็นเอกลักษณ์ของโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้กับดีไซน์ ErgoLift Hinge ช่วยยกตัวเครื่องให้เฉียงขึ้นหรือจะกางหน้าจอจนราบไปเลยก็ยังได้ และน้ำหนักเครื่อง 1.69 กิโลกรัม นั้นจัดว่าเบามากเมื่อในหมู่เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คด้วยกัน ดีต่อคนทำงานหรือเกมเมอร์ที่อยากได้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสักเครื่องหนึ่ง เป็นจุดตัดที่ลงตัวที่สุด ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนเองหากจะเปลี่ยนโน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่สักเครื่อง ASUS ROG Zephyrus G14 เครื่องนี้จะเป็นตัวเลือกอันดับแรกอย่างแน่นอน 

award

NBS award 7 Design

best design

การออกแบบตัวเครื่องที่สวยเรียบร้อยเหมือนโน๊ตบุ๊คทำงานน้ำหนักเบา เอื้อต่อหลักสรีระศาสตร์ด้วยบานพับ ErgoLift Hinge และน้ำหนักเบาเพียง 1.69 กิโลกรัมนั้นเป็นการดีไซน์ที่ดีมาก และยังมีกล้อง IR Camera ให้สแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่อง เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ด้วย จัดเป็นการดีไซน์ที่ใส่ของดีมาให้ครบทุกด้าน

award new Gaming

best gaming

ประสิทธิภาพของ AMD Advantage เมื่อจับคู่ AMD Ryzen 7 6800HS กับ AMD Radeon RX 6700S แล้ว ทำให้ ROG Zephyrus G14 เครื่องนี้เล่นเกมฟอร์มยักษ์ ปรับกราฟฟิคสูงสุดก็ยังได้เฟรมเรทสูงและลื่นไหล จัดว่าน่าประทับใจมาก

award new Battery Life

best battery life

ASUS ROG Zephyrus G14 สามารถใช้งานได้นาน 10 ชั่วโมง อยู่ยาวกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นที่ได้ทดสอบมาก่อนหน้านี้มาก ไม่ต้องกลัวว่าทำงานยังไม่เสร็จแล้วแบตเตอรี่จะหมดก่อน และยังรองรับการชาร์จแบบ Power Delivery กำลังไฟ 65 วัตต์อีก จัดว่าครบเครื่องมาก

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

คอม All in One 7 รุ่นเด็ด จอใหญ่ ดีไซน์สวย สเปคดี ซีพียูแรง แรม 16GB พร้อม Windows 11 เน้นทำงานและความบันเทิง คอม All in One หรือ ออลอินวันพีซี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการพีซีที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคอมตั้งโต๊ะ แต่ประหยัดไฟและประหยัดพื้นที่ได้มากกว่า...

PC Review

WD Blue SN5000 1TB เปิดเครื่องไว ก็อปปี้ไฟล์ ย้ายข้อมูลรวดเร็ว SSD เพื่อสายทำงาน สาย AI และงานที่เร่งด่วน WD Blue SN5000 เป็นหนึ่งในซีรีย์ของ SSD ระดับเพาเวอร์ยูสเซอร์และเกมเมอร์ของทาง WD ที่ออกแบบมาให้กับผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ใช้งานด้านความเร็ว ในการอ่านและเขียนข้อมูล บนมาตรฐาน M.2 NVMe...

Buyer's Guide

หน้าจอคอมในปัจจุบันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ 18.5 นิ้วเมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ก็มีจอคอม 32 นิ้ว ทั้งจอคอมทำงานและจอคอมเล่นเกมให้เลือกซื้อมากมายหลายรุ่น แม้บางคนอาจคิดว่ามันมีขนาดใหญ่จนเท่ากับจอทีวีรุ่นเล็กแล้วจะวางบนโต๊ะคอมก็คงใหญ่เกินไป แต่ในความเป็นจริงขนาดของมันก็ใหญ่กว่าจอ 27 นิ้ว ตรงหน้าไปอีกนิดเดียว ทำให้พื้นที่แสดงผลกว้างจนสุดขอบสายตายิ่งขึ้น ถ้าใครเล่นเกมเป็นประจำจะได้เห็นฉากหลังของเกมเต็มสายตาจนดื่มด่ำไปกับบรรยากาศได้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น กรณีจอทำงานก็มีพื้นที่แสดงผลกว้างขึ้นทั้งมองเห็นตารางและหน้าเอกสารกว้างขึ้น รวมไปถึง Timeline เวลาตัดต่อคลิปยาวกว่าเดิม ถ้าสังเกตจะเห็นว่าผู้ผลิตหน้าจอแบรนด์ต่างๆ พากันใส่ฟีเจอร์มาให้หน้าจอขนาดนี้มากขึ้นจนกลายเป็นจอพรีเมี่ยมระดับเริ่มต้นกันแล้ว ไม่ว่าจะได้พาเนลคุณภาพขอบเขตสีกว้างใช้ทำงานกราฟิคได้, มีพอร์ต USB-C...

CONTENT

ในปัจจุบัน นอกเหนือจากโน้ตบุ๊กที่เป็นดีไซน์แบบฝาพับอย่างที่คุ้นเคยกันมาอย่างยาวนานแล้ว ตัวเครื่องยังมีการพัฒนารูปทรงเพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับการพกพา และอรรถประโยชน์ในการใช้งานให้สูงขึ้นไปอีก ซึ่งหนึ่งในรูปแบบที่ได้รับความนิยมก็คือการทำออกมาเป็นโน้ตบุ๊ก 2-in-1 โดยใช้หน้าจอสัมผัสที่สามารถพลิกจอได้ 360 องศา ทำให้สามารถใช้เป็นได้ทั้งโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตในเครื่องเดียว ในบทความนี้ก็เลยจะมาแนะนำโน้ตบุ๊กจอพับ AMD ในรูปแบบ 2-in-1 ที่น่าใช้กันครับ ตอบโจทย์ทั้งใช้ทำงาน ไปจนถึงการเล่นเกมได้เลยในบางรุ่น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก