Acer Predator Helios 300 Intel Gen 12 ม้ามืดตัวแรง เย็นขึ้น สเปคล้น! ตัวท็อป 79,900 บาท!

Acer Predator Helios 300 รุ่นใหม่หัวใจ Intel 12th Gen แรงจนพีซีบางเครื่องมีอาย!

 

ในตลาดเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงที่กำลังคุกรุ่นด้วยเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คตัวแรงจากแบรนด์ชั้นนำหลายๆ เจ้า Acer Predator Helios 300 รุ่นใหม่ก็กระโดดลงมาร่วมการแข่งขันนี้ด้วย และหากนับกันในซีรี่ส์เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจากทาง Acer แล้ว นี่คือรุ่นเรือธงอันเป็นหน้าเป็นตาของทางบริษัทซึ่งเหนือกว่าตระกูล Nitro 5 อย่างชัดเจนเพราะทางบริษัทก็ใส่ฟีเจอร์ล้ำๆ เข้ามาให้ครบเครื่องและอาจจะเยอะกว่าแบรนด์ชั้นนำบางเจ้าเสียด้วยซ้ำ!

Acer Predator Helios 300 รุ่นใหม่นี้นอกจากจะอัพเกรดจาก Intel 11th Gen มาเป็น Intel 12th Gen ซึ่งมีคอร์ประมวลผล 2 ชุด ทั้ง P-Core สำหรับงานใหญ่หรือการเล่นเกมและมี E-Core สำหรับจัดการกับโปรแกรมทั่วไป เมื่อจับคู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3000 Series รุ่นใหม่แกะกล่องอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti พร้อมฟีเจอร์ล้ำๆ ล้นตัวโดยเฉพาะระบบ AI สำหรับประมวลผลกราฟฟิค มี RT Core, Tensor Core สำหรับทำงานกราฟฟิคต่างๆ ได้อย่างลื่นไหล และยังมี NVIDIA DLSS ให้ AI ประสานกับ Tensor Core เพื่อเร่งเฟรมเรทตอนเล่นเกมให้สูงขึ้นอีกด้วย เรียกว่าเกิดมาเพื่อเกมเมอร์อย่างแท้จริง

ยิ่งไปกว่านั้นถ้าพิจารณาฟีเจอร์ส่วนอื่นร่วมเข้าไปด้วยจะเห็นว่าแรมในเครื่องก็ถูกอัพเกรดเป็น DDR5, ได้หน้าจอความละเอียด QHD พร้อม NVIDIA G-SYNC และมี NVIDIA Optimus สำหรับสลับการทำงานระหว่างการ์ดจอออนบอร์ดของ Intel และ NVIDIA ได้อย่างชาญฉลาดด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ระบบระบายความร้อน CoolBoost ซึ่งทางบริษัทติดตั้ง 5th Gen AeroBlade 3D Fan รุ่นใหม่เมื่อจับคู่กับการระบบระบายความร้อนโลหะเหลว (Liquid Metal) ก็ทำให้ Acer Predator Helios 300 ระบายความร้อนได้ดีกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด นับว่าเป็นของดีนอกกระแสแต่ผู้เขียนก็อยากเชียร์ให้เกมเมอร์ได้ลองสัมผัสเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่สเปคต่อราคาคุ้มค่าและแรงหายห่วงจนชนะเกมมิ่งพีซีบางเครื่องสักครั้ง จะเห็นว่าของดีราคาไม่แพงเกินไปยังมีให้เลือกใช้อยู่

NBS Verdicts

Acer Predator Helios 300 แม้เกมเมอร์หลายๆ คนจะไม่ได้พูดถึงบ่อย แต่จากการทดลองใช้เล่นเกมและทำงานจริงแล้ว สามารถพูดได้ว่านี่คือเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงที่เป็นม้ามืดซึ่งเกมเมอร์อาจจะมองข้ามไปบ้าง แต่นี่คือเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่ประสิทธิภาพแรงเหลือเฟือ พร้อมเล่นเกมฟอร์มยักษ์ ปรับกราฟฟิคสูงสุดไปได้อีก 3-4 ปี อย่างไม่ต้องสงสัย หากใครไม่ถนัดเรื่องการอัพเกรดคอมพิวเตอร์ ก็หันมาซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไปต่อหน้าจอแยกได้เลย

เรื่องสีสันของตัวเครื่องหรือระบบแสงสี Pulsar Lighting พร้อมไฟคีย์บอร์ด RGB ปรับไฟได้แบบ Per-Key ก็ช่วยปรับแต่งสีสันให้เข้ากับรสนิยมและเกมที่เล่นได้อย่างลงตัวอีกด้วย ด้านการเล่นเกม องค์ประกอบเสริมอื่นๆ อย่างการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตก็เป็น Intel Killer LAN E2600 2.5G และ Intel Killer Wi-Fi 6E คลื่น 6GHz มี MiniDP เป็นพอร์ตต่อหน้าจอเสริมคู่กับ Thunderbolt 4, HDMI 2.1 ด้วย ทำให้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ต่อจอแยกได้มากสุด 3 จอพร้อมกัน ประกอบกับลำโพง DTS:X Ultra ให้เสียงแบบ 360 องศารอบทิศทาง ยิ่งทำให้ประสบการณ์ตอนเล่นเกมโดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีกขั้นด้วย

อย่างไรก็ตาม เรื่องเล็กน้อยน่าสังเกตหากซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไปใช้งานคือเรื่องน้ำหนักเครื่องราว 2.5 กิโลกรัม เมื่อรวมอแดปเตอร์แล้วจะหนักราว 3.5 กิโลกรัม ดังนั้นถ้าใครจะยกเครื่องไปไหนมาไหน แนะนำให้ใส่กระเป๋าเป้เวลาพกเครื่องไปไหนมาไหน จะได้ไม่มีปัญหาต่อร่างกายมาก และเสียงพัดลมตอนเปิดโหมด Turbo เพื่อระบายความร้อนจะค่อนข้างดัง แต่กลับกันก็ทำให้ตัวเครื่องเย็นตลอดเวลาใช้ทำงานหรือเล่นเกมด้วย

ข้อดีของ Acer Predator Helios 300

1. ซีพียู Intel Core i7-12700H มีประสิทธิภาพสูงมาก ใช้งานได้เป็นอย่างดี
2. ได้การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti รุ่นใหม่ล่าสุด ประสิทธิภาพสูง
3. แรมเป็น DDR5 และอินเตอร์เฟสของ SSD เป็น PCIe 4.0 รุ่นใหม่ล่าสุด
4. จอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD ค่า Refresh Rate 165Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC
5. หน้าจอขอบเขตสีกว้างและเที่ยงตรง เหนือกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในท้องตลาด
6. มีพอร์ต Thunderbolt 4 ใช้ชาร์จแบบ Power Delivery และต่อหน้าจอแยกได้
7. มี MiniDP และ HDMI 2.1 ติดตั้งมาให้ สามารถต่อจอแยกรวมกันได้ 3 หน้าจอ
8. ระบบไฟ Pulsar Lighting ให้แสงสีสวยงามพร้อมไฟคีย์บอร์ด RGB Per-Key 
9. ระบบระบายความร้อน CoolBoost ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี เครื่องเย็นตลอดเวลา
10. ใช้ระบบระบายควาามร้อนโลหะเหลว (Liquid Metal) ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี
11. โปรแกรม PredatorSense ใช้ปรับแต่งเครื่องได้ละเอียดและโอเวอร์คล็อกเครื่องได้ด้วย
12. มีปุ่ม Turbo ปรับโหมดตัวเครื่องรีดประสิทธิภาพได้สูงขึ้นกว่าเดิมมาก ใช้งานง่าย
13. เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย Intel Killer LAN E2600 2.5G และ Intel Killer Wi-Fi 6E คลื่น 6GHz ด้วย
14. ลำโพง DTS:X Ultra สามารถแสดงผลเสียงได้ 360 องศา ใช้ดูหนังและเล่นเกมได้ดี

ข้อสังเกตของ Acer Predator Helios 300

1. ตัวเครื่องค่อนข้างหนัก แนะนำให้ใช้กระเป๋าเป้เวลาพกเครื่องไปไหนมาไหนจะดีที่สุด
2. เมื่อเปิดโหมด Turbo แล้ว เสียงพัดลมระบายความร้อนค่อนข้างเสียงดัง
3. ไม่มีปุ่ม Windows Lock ติดมาให้เหมือนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่น ต้องเปิดในโปรแกรมแทน

รีวิว Acer Predator Helios 300

• Specification
• Hardware & Design
• Screen & Speaker
• Keyboard & Touchpad
• Connector / Thin & Weight
• Inside & Upgrade
• Performance & Software
• Battery & Heat & Noise
• User Experience
• Conclusion & Award

Specification

Acer Predator Helios 300 เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสเปคแรงระดับเรือธงของทางบริษัท สามารถใช้เล่นเกมฟอร์มยักษ์ได้สบายๆ และได้ฟีเจอร์ติดตั้งมาครบเครื่อง โดยมีรายละเอียดดังนี้

สเปคของ Acer Predator Helios 300 PH315-55-72J4

• CPU : Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz
• GPU : NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti แรม 8GB GDDR6
• SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 1TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 
• RAM : 32GB DDR5 บัส 4800 MHz
• Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC
• Ports : Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, MiniDP x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
• Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
• Webcam : 720p HD Camera 
• Software : Windows 11 Home
• Weight : 2.5 กิโลกรัม
• Price : 79,900 บาท (Advice)
• ชมสเปคโดยละเอียดได้ที่นี่

นอกจากนี้ Acer Predator Helios 300 รุ่นใหม่ยังมีรุ่นย่อยให้เลือกอีก 2 สเปค ซึ่งราคาย่อมเยาเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น โดยมีรุ่นและรายละเอียดสเปคดังนี้

สเปคของ Acer Predator Helios 300 PH315-55-77UZ

• CPU : Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz
• GPU : NVIDIA GeForce RTX 3070 แรม 8GB GDDR6
• SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 1TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 
• RAM : 32GB DDR5 บัส 4800 MHz
• Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC
• Ports : Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, MiniDP x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
• Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
• Webcam : 720p HD Camera 
• Software : Windows 11 Home
• Weight : 2.5 กิโลกรัม
• Price : 77,990 บาท (ราคากลาง)
• ชมสเปคโดยละเอียดได้ที่นี่

สเปคของ Acer Predator Helios 300 PH315-55-749G

• CPU : Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด (6P+8E) ความเร็ว 3.5-4.7GHz
• GPU : NVIDIA GeForce RTX 3060 แรม 6GB GDDR6
• SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 1TB อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 
• RAM : 16GB DDR5 บัส 4800 MHz
• Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz รองรับ NVIDIA G-SYNC
• Ports : Thunderbolt 4 x 1, USB-A 3.2 x 3, HDMI x 1, MiniDP x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
• Wireless : Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
• Webcam : 720p HD Camera 
• Software : Windows 11 Home
• Weight : 2.5 กิโลกรัม
• Price : 65,990 บาท (ราคากลาง)
• ชมสเปคโดยละเอียดได้ที่นี่

Hardware & Design

ดีไซน์ของ Acer Predator Helios 300 จะอิงดีไซน์ร่วมกับ Acer Nitro 5 โดยเป็นบอดี้ตัวเครื่องแบบต่อขาบานพับหน้าจอเหนือบอดี้ตัวเครื่องขึ้นมา แต่ปรับแต่งบอดี้ส่วนต่างๆ ไปหลายจุดให้มีความแตกต่างยิ่งขึ้น ได้แก่ โลโก้ของ Predator ตรงขอบล่างของหน้าจอ, เพิ่มช่องระบายความร้อนเหนือชุดคีย์บอร์ดมาให้, เดินกรอบสีเงินรอบแป้นทัชแพดให้ความสวยงามและพรีเมี่ยมยิ่งขึ้น ติดสติกเกอร์แสดงรุ่นของซีพียู, การ์ดจอและฟีเจอร์เด่นเอาไว้ตรงที่พักข้อมือฝั่งซ้ายและขวา และมีโลโก้ DTS:X ยิงเลเซอร์ติดเอาไว้ขอบบนเหนือคีย์บอร์ดตัวเครื่องด้วย

แต่จุดแตกต่างของ Acer Predator Helios 300 จะเพิ่มฟีเจอร์เด่นอื่นๆ เข้ามาอีกไม่ว่าจะเจาะช่องระบายความร้อนเอาไว้ตรงขอบบนเหนือคีย์บอร์ด, ปุ่ม Turbo สำหรับปรับโหมดตัวเครื่องให้รีดประสิทธิภาพออกมาสูงสุดได้

จุดน่าสนใจของ Acer Predator Helios 300 คือ Lightbar ซึ่งทำงานร่วมกับฟังก์ชั่น Pulsar Lighting ติดมาตรงขอบล่างตัวเครื่อง เมื่อแกะเครื่องดูจะเห็นว่าตัว Lightbar นี้เป็นระบบปิดแบบกรอบพลาสติกชิ้นเดียวเดินสายไฟอยู่ในช่องว่างระหว่างแบตเตอรี่กับตัวกรอบ ทำให้ตอนแกะเครื่องไม่ต้องระวังว่าจะเปิดแล้วสายแพจะตึงหรือหลุดเลย นับว่าทางบริษัทออกแบบโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ได้รัดกุมมาก คนอยากอัพเกรดเครื่องก็เปิดทำได้สบายใจเช่นกัน

บานพับหน้าจอของ Acer Predator Helios 300 จะเหมือนกับรุ่น Nitro 5 คือขาบานพับหน้าจอติดอยู่เหนือจากตัวเครื่องขึ้นไปอีกชั้นและมีฝาประกบปิดขอบตัวเครื่องส่วนบนเพื่อความสวยงามและกางหน้าจอได้ราว 120 องศาเหมือนกัน กว้างพอปรับองศาหน้าจอให้เข้ากับมุมสายตาได้ง่ายๆ จะวางบนแท่นวางโน๊ตบุ๊คหรือไว้บนโต๊ะก็มองเห็นได้สะดวก

ฝาหลังหน้าจอของ Acer Predator Helios 300 จะไม่มีโลโก้ Acer ติดเอาไว้ ยกเว้นโลโก้ Predator ตรงกลางฝาหลังเครื่องแบบมีไฟ LED สีฟ้าเรืองแสงได้ ให้ความสวยงามโดดเด่นกว่าโลโก้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น ถัดลงมาเล็กน้อยจะเป็นช่องระบายความร้อนแบบ 4 ช่องทรงครีบเหมือนท่อไอเสียรถสปอร์ต ดูโดดเด่นมีสไตล์

ฝาใต้ตัวเครื่องจะเห็นว่าทั้ง 4 มุมมีขอบยางกันบอดี้ตัวเครื่องติดมาให้และเห็นชิ้นพลาสติกสีเงินซึ่งเป็นช่องระบายความร้อนด้านหลังเครื่องด้วย ถัดลงมามีช่องลมเข้าจากด้านใต้ตัวเครื่องขนาดใหญ่กินพื้นที่เข้ามาเกือบครึ่งหนึ่งและมีคำว่า Predator ยิงเลเซอร์เอาไว้ตรงกลางตัวเครื่องฝั่งขวามือ ด้านล่างสุดเป็น Lightbar อยู่ระหว่างลำโพง DTS:X ทั้งสองข้างของตัวเครื่อง

Screen & Speaker

หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด QHD (2560×1440) พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 165Hz และ Response Time 3ms ซึ่งจอของ Acer Predator Helios 300 ก็รองรับ NVIDIA G-SYNC ช่วยให้ภาพบนหน้าจอลื่นไหลไม่ฉีกขาดตอนสะบัดหน้าจอเร็วๆ ดีไซน์กรอบหน้าจอ 3 ด้านเป็นแบกรอบบาง มีกล้อง Webcam และไมโครโฟนติดตั้งมาให้ตรงขอบส่วนบน ขอบด้านล่างของหน้าจอจะเป็นกรอบหนาเพียงด้านเดียว ติดโลโก้ Predator เอาไว้แทนโลโก้ Acer แบบตระกูล Nitro 5 

ด้านขอบเขตสีและความเที่ยงตรงของหน้าจอหลังจาก Calibrate ด้วย Calibrite แล้วเซ็ตโปรไฟล์สีด้วย DisplayCal 3 จะเห็นว่าพาเนล IPS ของ Acer Predator Helios 300 มีคุณภาพสูงมาก ได้ค่า Gamut Coverage 99.8% sRGB, 81.6% AdobeRGB และ 97.8% DCI-P3 ส่วน Gamut Volume กว้างระดับ 140% sRGB, 96.4% AdobeRGB และ 99.1% DCI-P3 ค่าเทียบความเที่ยงตรงสี Delta-E เมื่อวัดจะได้ค่าเฉลี่ย 0.06~0.85 ซึ่งเมื่อน้อยกว่า 2 ก็ถือว่าหน้าจอนี้ได้สีสันเที่ยงตรง ดังนั้นนอกจากเกมเมอร์แล้ว ครีเอเตอร์ก็ซื้อ Acer Predator Helios 300 เอาไว้ใช้ทำงานได้เหมือนกัน

ค่าความสว่างหน้าจอหรือ Luminance ที่วัดได้อยู่ที่ 297.63 cd/m2 ถือว่าสว่างน้อยกว่าจอของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คบางรุ่นอยู่นิดหน่อย แต่ก็สู้แสงแดดตอนนั่งทำงานนอกอาคารหรือโดนแสงสะท้อนลอดบานหน้าต่างได้ระดับหนึ่ง ถ้านั่งทำงานหรือเล่นเกมภายในห้องในอาคารก็นับว่าสว่างพอดีไม่มีปัญหาและแนะนำให้ปรับความสว่างลดลงเล็กน้อยเหลือ 80% จะสว่างกำลังดีไม่จ้าเกินไป

ด้านลำโพงพร้อมระบบเสียง DTS:X Ultra ของ Acer Predator Helios 300 จะได้มิติเสียง 360 องศา สำหรับการฟังเพลงถือว่าพอใช้ได้ มิติเสียงได้ยินเสียงนักร้องและเครื่องดนตรีชัดเจน มีเสียงเบสสนับสนุนระดับหนึ่ง ใช้ดูหนังฟังเพลงได้ดีทว่าจะโดดเด่นเป็นพิเศษเวลาเล่นเกมเพราะตัวลำโพงสามารถแยกทิศทางเสียงได้ชัดเจนและมีมิติกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่น เรียกว่าใกล้เคียงหรือเทียบชั้นลำโพงเกมมิ่งจากแบรนด์ชั้นนำบางแบรนด์ได้เลย

Keyboard & Touchpad

คีย์บอร์ดของ Acer Predator Helios 300 จะเป็นแบบ Full-size ปรับแต่งสีไฟได้แยกปุ่มในโปรแกรม PredatorSense ได้ ไม่ว่าจะสั่งเปิดปิดไฟ, เปลี่ยนสีเป็นโซนหรือเซ็ตเฉพาะปุ่มก็ได้ และมีปุ่มโลโก้ Predator ติดเอาไว้เหนือปุ่ม Numpad เป็นปุ่มเรียกโปรแกรม PredatorSense ขึ้นมาใช้งาน รูปทรงเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าไม่ได้แยกชุดปุ่มลูกศรลงมา ทำให้ดูเรียบร้อยแต่ต้องปรับตัวตอนได้มาใช้งานใหม่ๆ เนื่องจากจุดกดปุ่มลูกศรจะกลืนไปกับชุดแป้นคีย์บอร์ดปุ่มอื่นๆ ทั้งหมด 

คีย์ลัดของ Acer Predator Helios 300 ถูกเซ็ตมาให้ครบเครื่อง ได้แก่ Multimedia Control เหนือโซน Numpad, Function Key ติดตั้งไว้ถัดจากปุ่ม F12 และคำสั่งเพิ่มลดเสียงและความสว่างหน้าจอถูกเซ็ตเอาไว้ตรงปุ่มลูกศรของตัวเครื่อง และทาง Acer เองก็ทำมาร์กกิ้งสำหรับวางนิ้วไว้ตรงปุ่ม W เป็นพิเศษเพื่อให้เกมเมอร์สามารถวางนิ้วได้ถูกต้องโดยไม่ต้องละสายตาจากหน้าจอเมื่อกำลังเล่นโหมดแข่งขันอยู่

ทว่าจุดสังเกตและเป็นจุดน่าเสียดาย คือ แป้นคีย์บอร์ดนี้ไม่มีปุ่ม Windows Lock ติดตั้งมาให้เป็นคีย์ลัดเลย ซึ่งผู้เขียนก็อยากให้ทาง Acer พิจารณาเอาปุ่มนี้มาเซ็ตไว้รวมกับปุ่มไอคอน Windows บนคีย์บอร์ดด้วย เวลาเกมเมอร์ต้องการเล่นเกมจะได้กดล็อคได้สะดวกยิ่งขึ้น

ด้านของ Function Hotkey ตรงปุ่ม F1-F12 ทาง Acer จะเซ็ตมาให้แทบทุกปุ่ม ยกเว้น F1 ซึ่งเว้นว่างเอาไว้อย่างน่าเสียดาย โดยปุ่มลัดที่มีอยู่ได้แก่

• F2 – ล็อคการทำงานของทัชแพด
• F3 – ปุ่มปิดเปิดสัญญาณ Wi-Fi
• F4 – Sleep Mode
• F5 – ปุ่ม Project ตั้งค่าหน้าจอหลักและจอเสริม
• F6 – ปุ่มดับหน้าจอ
• F7 – ปุ่มปิด/เปิดลำโพง
• F8 – ปุ่มปิด/เปิดไมโครโฟน
• F9-F10 – ลดหรือเพิ่มความสว่างของไฟ LED Backlit 
• F11 – Pause
• F12 – Scroll Lock
• Print Screen –  System Requirement

ซึ่งส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนคิดว่าการเซ็ต Function Hotkey ของ Acer Predator Helios 300 ยังดูค่อนไปทางโน๊ตบุ๊คสายทำงานมากกว่าจะเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเหมือนแบรนด์อื่นๆ ซึ่งหวังว่าทาง Acer จะปรับแต่งปุ่มฟังก์ชั่นต่างๆ เหล่านี้ในโมเดลถัดไปให้เอื้อกับการเล่นเกมมากยิ่งขึ้น 

ในมุมของผู้เขียนเอง จะเพิ่มคำสั่ง Windows Lock ไว้ตรงปุ่ม F1, ย้ายปุ่ม Pause, Scroll Lock ตรง F11, F12 ไปรวมกับปุ่ม Insert, Delete แล้วเปลี่ยนฟังก์ชั่น Sleep Mode, ปุ่มดับหน้าจอเป็นคำสั่งเอื้อทางเกมมิ่งปุ่มอื่นแทน เช่น อาจจะทำปุ่ม Macro, ปุ่มปรับ Refresh Rate หน้าจอแทน เพียงเท่านี้คีย์บอร์ดของ Acer Predator Helios 300 ก็จะน่าใช้ขึ้นหลายเท่าตัวแน่นอน

ส่วนทัชแพดตรงขอบล่างจะดีไซน์ซ่อนคลิกซ้ายขวาเอาไว้และล้อมกรอบด้วยอลูมิเนียมสีเงิน ให้ความสวยงามและรองรับ Gesture Control ของ Windows ครบถ้วน ส่วนการใช้งานจริงจะเห็นว่าสันมือของผู้เขียนจะพาดอยู่บนขอบทัชแพดเล็กน้อย แต่ถ้าไม่สะดวกก็ยังกดล็อคไม่ให้ทัชแพดทำงานได้เช่นกัน

Connector / Thin & Weight

พอร์ตของ Acer Predator Helios 300 จะถูกติดตั้งเอาไว้ด้านข้างตัวเครื่องสองฝั่งรวมทั้งด้านหลังด้วย โดยด้านหลังเครื่องมักเป็นพอร์ตที่ไม่ได้ถอดเข้าออกบ่อย โดยมีพอร์ตดังนี้

• ฝั่งซ้ายจากซ้ายมือ – Kensington Lock, RJ45 LAN, USB-A 3.2 Gen 1, Audio combo x 1
• ฝั่งขวาจากซ้ายมือ – ไฟแสดงสถานะการทำงาน, USB-A 3.2 Gen 2 x 2 โดยพอร์ตฝั่งซ้ายมีฟีเจอร์ Power Off Charging ใช้แบตเตอรี่ของโน๊ตบุ๊คชาร์จสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้
• ด้านหลังจากซ้ายมือ – DC-In สำหรับต่ออแดปเตอร์ชาร์จไฟ, Thunderbolt 4 รองรับ DisplayPort และ Power Delivery, HDMI 2.1, Mini DisplayPort 1.4 
• การเชื่อมต่อไร้สาย – Wi-Fi 6E มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2

พอร์ตการเชื่อมต่อถือว่าทางบริษัทใส่พอร์ตให้ Acer Predator Helios 300 ครบเครื่องมาก หากนับแล้วโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้จะต่อหน้าจอแยกได้มากสุด 3 จอพร้อมกัน ซึ่งถ้าเอาไว้ทำงานก็สะดวกมากหรือจะใช้เล่นเกมและไลฟสตรีมเล่นเกมพร้อมดูช่องแชตหรือสถานะการสตรีมก็ทำได้สบายๆ ไม่มีปัญหา เพราะพลังของซีพียู Intel และการ์ดจอ NVIDIA สามารถจัดการได้สบายๆ อย่างแน่นอน

น้ำหนักของตัวเครื่องจากสเปคเคลมเอาไว้ 2.5 กิโลกรัม เมื่อชั่งด้วยตาชั่งดิจิตอลแล้วได้น้ำหนัก 2.52 กิโลกรัมตรงตามเคลมในหน้าสเปค ส่วนอแดปเตอร์หนัก 949 กรัม เมื่อรวมแล้วจะหนัก 3.47 กิโลกรัม หากนับเฉพาะตัวเครื่องอย่างเดียวต้องถือว่าหนักไล่เลี่ยกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ เครื่องในปัจจุบัน แต่ถ้าต้องการพกเครื่องไปทำงานนานๆ หลายชั่วโมงควรพกอแดปเตอร์ไปด้วยและแนะนำให้ใส่กระเป๋าเป้ไปจะดีที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาต่อร่างกายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

Inside & Upgrade

การเปิดฝาอัพเกรด Acer Predator Helios 300 จะต้องขันน็อตด้านใต้ตัวเครื่องทั้งหมด 11 ตัวออกก่อน โดยใช้วิธีการแกะแบบ Acer Nitro 5 คือ เมื่อถอดน็อตแล้ว ให้ดึงฝาประกบด้านหลังขาบานพับหน้าจอออกด้วย จากนั้นจะมีช่องให้ใช้การ์ดแข็งเซาะร่องเปิดฝาเครื่องออกมาอัพเกรดได้ ทว่าทาง Acer ก็ซ่อนน็อตเอาไว้ตัวหนึ่งใต้สติกเกอร์รับประกันด้วย ถ้าต้องการอัพเกรดล่ะก็แนะนำให้ทางร้านผู้จัดจำหน่ายเครื่องเป็นผู้รับผิดชอบจัดการให้จะดีที่สุด

ภายในเครื่องจะเห็นว่าพาร์ทแต่ละชิ้นถูกจัดสัดส่วนเอาไว้เรียบร้อย โดยฝั่งซ้ายใต้พัดลมจะมีเพลตโลหะปิดแรม SO-DIMM ทั้งสองช่องเอาไว้ ช่วยป้องกันไม่ให้แรมเสียหายหากเกิดอุบัติเหตุ รองรับความจุสูงสุด 32GB DDR5 บัส 4800MHz ซึ่งถ้าใครซื้อรุ่นการ์ดจอ GeForce RTX 3070, RTX 3070 Ti แล้ว ก็ไม่ต้องอัพเกรดก็ได้

ด้านฮาร์ดดิสก์ของตัวเครื่องมีอินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 ทั้งหมด 2 ช่อง รองรับช่องละ 2TB มีติดตั้งมาให้จากโรงงานแล้ว 1TB พร้อมช่องอัพเกรดฝั่งขวามือว่างอยู่ หากโปรแกรมหรือเกมที่ต้องการใช้มีเยอะเกินก็สามารถเติมไดรฟ์ที่สองได้เลย

Performance & Software

Acer Predator Helios 300 รุ่นใหม่นี้จะใช้ซีพียูประสิทธิภาพสูงจาก Intel รุ่นเดียวกันทั้งไลน์อัพอย่าง Intel Core i7-12700H แบบ 14 คอร์ 20 เธรด ความเร็ว 3.5-4.7GHz มี 6P+8E Core รองรับชุดคำสั่งพื้นฐานครบถ้วน มีประสิทธิภาพดีพร้อมใช้งานกับโปรแกรมกินทรัพยากรเครื่องหนักๆ ได้สบาย มีค่า TDP 45 วัตต์ เป็นสถาปัตยกรรม Intel Alder Lake Mobile มีทรานซิสเตอร์ในตัวชิปขนาด 10 นาโนเมตร

เมนบอร์ดได้อัพเกรดอินเตอร์เฟสเป็น PCIe 4.0 แล้ว หากต้องการติดตั้ง M.2 NVMe SSD รุ่นใหม่ก็นำมาติดตั้งได้ทันทีและสามารถดึงประสิทธิภาพออกมาได้เต็มที่ด้วย ส่วนแรมในเครื่องติดตั้งมาให้ 32GB DDR5 บัส 4800MHz จากโรงงาน ซึ่งเยอะสุดเท่าที่ตัวเมนบอร์ดรองรับได้และความจุระดับนี้สามารถใช้ทำงานและเล่นเกมต่างๆ ในปัจจุบันได้อีกหลายปีแน่นอน

การ์ดจอในเครื่องจะมี 2 ตัวด้วยกัน ได้แก่ Intel Iris Xe Graphics สำหรับใช้งานทั่วไป เช่น ดูหนังฟังเพลง, ทำงานเอกสารหรือเปิดเว็บเบราเซอร์ มี MUX Switch สำหรับตัดสลับมาใช้การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti เมื่อผู้ใช้เปิดโปรแกรมที่ต้องการพลังประมวลผลกราฟฟิคหนักๆ มีแรมการ์ดจอ 8GB GDDR6 กับ CUDA Cores ทั้งหมด 5,888 CUDA รองรับ DirectX 12 และชุดคำสั่งต่างๆ ไม่ว่าจะ OpenCL, OpenGL 4.6, CUDA, Ray Tracing, PhysX, DirectCompute, DirectML, Vulkan ด้วย

พาร์ทในตัวเครื่องเมื่อเช็คด้วย Device Manager จะเห็นว่ามีพาร์ตสำคัญครบถ้วน ได้แก่ ชิป TPM 2.0 และชิปซีรี่ส์ Intel Killer สำหรับเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต แยกเป็นชิป LAN Intel Killer E2600 และ Wi-Fi Intel Killer AX1675i รองรับ Wi-Fi 6E คลื่น 160MHz ใช้รับส่งข้อมูลได้รวดเร็วและเสถียร ช่วยให้ใช้ทำงานหรือเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นไหลไม่กระตุกอย่างแน่นอน

M.2 NVMe SSD ในเครื่องเป็น Micron 3400 ความจุ 1TB เชื่อมต่อเข้ากับอินเตอร์เฟส PCIe 4.0 x4 ภายในเครื่อง พอทดสอบด้วย CrystalDiskMark 8 จะได้ความเร็ว Sequential Read สูงถึง 6,548.37 MB/s และ Sequential Write 4,762.94 MB/s จึงสรุปได้ว่า SSD จากโรงงานนั้นดีมากแล้ว ยังไม่ต้องอัพเกรดก็ได้ยกเว้นความจุไม่เพียงพอ

ในทางกลับกัน ผู้เขียนอยากแนะนำให้ใส่ M.2 NVMe SSD อินเตอร์เฟส PCIe 4.0 เพิ่มไปอีกช่องเพื่อให้มีพื้นที่ติดตั้งเกมและโปรแกรมต่างๆ เพิ่มจะดีกว่า โดย SSD รุ่นแนะนำสำหรับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ ได้แก่ WD Black SN850, Kingston Fury Renegade หรือ PNY XLR8 CS3040 เป็นต้น

ด้านการทดสอบเรนเดอร์ 3D CG ถือว่า Acer Predator Helios 300 นั้นน่าประทับใจ โดยทำคะแนน CINEBENCH R15 ในส่วน OpenGL ได้ 192.32 fps และ CPU อีก 2,759 cb ถ้านำไปทำโมเดล 3D, ตัดต่อวิดีโอหรือแต่งภาพก็ใช้งานได้ดี ส่วน CINEBENCH R20 ซึ่งเน้นทดสอบกำลังการเรนเดอร์ด้วยซีพียูจะได้คะแนน CPU 6,957 pts ซึ่งสูงมากพอใช้เรนเดอร์งานใหญ่ๆ ให้เสร็จได้รวดเร็ว กล่าวคือมันมีประสิทธิภาพสูงเทียบชั้นกับโน๊ตบุ๊คสำหรับครีเอเตอร์หลายๆ รุ่นได้อย่างไม่ต้องสงสัย

ด้านการเล่นเกมเมื่อทดสอบด้วย 3DMark Time Spy จะได้คะแนนรวม 11,396 คะแนน แยกเป็น CPU score 13,311 คะแนน Graphics score 11,114 คะแนน หมายความว่า Intel Core i7-12700H สามารถรีดประสิทธิภาพของ NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti ออกมาได้หมดจด จะใช้เล่นเกมบนจอ Full HD ก็เล่นได้สบายหายห่วง ได้เฟรมเรทสูงน่าพอใจหรือจะขยับไปจอ QHD ก็ยังปรับกราฟฟิคหน้าจอไประดับสูงสุดแล้วเล่นได้สบายๆ เช่นกัน

หากนำไปทำงานก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะผลการทดสอบด้วย PCMark 10 นั้นได้คะแนนเฉลี่ย 6,883 คะแนน หากดูแยกเป็นหมวดหมู่จะเห็นว่า Acer Predator Helios 300 สามารถใช้ทำงานได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเปิดโปรแกรม, เบราเซอร์, ประชุมออนไลน์หรือจะใช้งานกับโปรแกรมชุด Microsoft Office ก็ทำได้ไม่มีปัญหาและถ้าทำงานกราฟฟิคก็ถือว่าโดดเด่นเป็นพิเศษด้วยพลังของ NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti ในตัวเครื่องนั่นเอง

ด้านการเล่นเกมซึ่งเป็นงานถนัดของ Acer Predator Helios 300 จัดว่ายอดเยี่ยม โดยการทดสอบนี้ผู้เขียนปรับกราฟฟิคในเกมระดับสูงสุดแต่ทดสอบบนความละเอียดหน้าจอระดับ 1080p ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่ได้ทดสอบไปก่อนหน้านี้ หากดูในส่วนของเฟรมเรทเฉลี่ยจะเห็นว่าพลังของ Intel Core i7-12700H กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti สามารถเล่นได้ทุกเกมแล้วทำเฟรมเรทเฉลี่ยเกิน 60 fps ทั้งหมดและหลายๆ เกมยังขึ้นไประดับร้อยเฟรมเสียด้วยซ้ำ คาดว่าต่อให้ปรับความละเอียดขึ้นมาเป็น QHD ซึ่งเป็นความละเอียดดั้งเดิมของหน้าจอก็ยังทำเฟรมเรทเฉลี่ยเกิน 60 fps อย่างแน่นอน

ในแง่ของประสบการณ์การเล่นเกม สามารถพูดได้เต็มปากว่า Acer Predator Helios 300 เป็นเครื่องที่แรงเหลือเฟือ ไม่เกิดอาการเฟรมเรทตก, หน่วงหรือว่ากระตุกแม้แต่นิดเดียว ตอนเล่นเกมก็สามารถกวาดหน้าจอไปมาได้อย่างรวดเร็วทันใจไม่เกิดอาการเฟรมหน่วงหรือกระตุกสักนิด จะใช้จอ QHD ต่อผ่านพอร์ต HDMI 2.1 แล้วปรับกราฟฟิคระดับสูงสุดก็มั่นใจว่ายังเล่นเกมได้ไหลลื่น ทว่าเป็นจอ UHD เฟรมเรทอาจจะลดลงมานิดหน่อย แต่ก็ยังเปิดเล่นเกมได้อย่างแน่นอน

ด้านโปรแกรม PredatorSense สำหรับใช้ปรับแต่งตัวเครื่องนั้น จัดว่าทางบริษัททำโปรแกรมนี้ให้เซ็ตค่าได้ละเอียดมาก นอกจากความสามารถพื้นฐานอย่างการมอนิเตอร์การทำงาน, อุณหภูมิหรือปรับเซ็ตรอบพัดลมแล้ว ยังโอเวอร์คล็อกเครื่องได้อีกเล็กน้อยและเซ็ตไฟ Per-Key RGB ได้ง่ายๆ และที่น่าประทับใจเป็นพิเศษ คือ ผู้ใช้สามารถตั้ง Priority เซ็ตลำดับความสำคัญให้โปรแกรมที่ต้องการหรือใช้งานบ่อยๆ ให้ชิป Intel Killer จัดการแบนด์วิธอินเตอร์เน็ตให้โปรแกรมนั้นๆ ได้ง่ายๆ ในหน้าโปรแกรมนี้ด้วย

Battery & Heat & Noise

แบตเตอรี่ใน Acer Predator Helios 300 จะเป็นแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนขนาดใหญ่ วางตัวยาวติดลำโพงสุดขอบตัวเครื่องทั้งสองฝั่ง โดยมีความจุแบบ Typical Capacity 5,884mAh คิดเป็น 90.61Wh ส่วน Rated Capacity อยู่ที่ 5,716mAh คิดเป็น 88.02Wh นับว่ามีความจุไล่เลี่ยกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงหลายๆ รุ่นในปัจจุบันนี้

เมื่อทดสอบตามมาตรฐานของทางเว็บไซต์โดยลดแสงหน้าจอต่ำสุด, ปิดไฟ RGB ทั้งหมดทิ้งไป, ลดเสียงลำโพงเหลือ 10%, เซ็ตตัวเครื่องเข้าโหมดประหยัดพลังงานแล้วดู YouTube ด้วย Microsoft Edge เป็นเวลา 30 นาที จะเห็นว่าแบตเตอรี่ของ Acer Predator Helios 300 จะใช้งานต่อเนื่องได้นานสุด 5 ชั่วโมง 9 นาทีเท่านั้น ถือว่าใช้งานได้นานระดับหนึ่งไล่เลี่ยกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบันนี้ แต่ถ้าวันไหนต้องประชุมงาน, ทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานานล่ะก็ ผู้เขียนแนะนำให้ต่ออแดปเตอร์จะดีกว่า

ส่วนของระบบระบายความร้อนตัวเครื่อง CoolBoost จะมีโลหะเหลว (Liquid Metal) ฉาบเอาไว้ที่ซีพียูและการ์ดจอแยกแล้วนำความร้อนผ่านทางฮีตไปป์ 5 เส้นตรงออกไปฮีตซิ้งค์ด้าหน้าพัดลม 5th Gen AeroBlade 3D Fan ให้ระบายความร้อนออก 4 ช่องทาง ได้แก่ ด้านข้างและหลังของตัวเครื่อง ซึ่งตอนใช้งานตามปกติเสียงพัดลมจะไม่ดังนัก แต่เมื่อเปิดโหมด Turbo เมื่อไหร่จะได้ยินเสียงพัดลมดังชัดเจนและเสียงค่อนข้างแหลม วัดความดังด้วยมิเตอร์วัดเสียงแล้วดังราว 55dB ทีเดียว

แม้เสียงจะค่อนข้างดังแต่ระบบ CoolBoost ก็สามารถระบายความร้อนได้ดีมาก เมื่อผู้เขียนเปิดเกมเล่นแล้ววัดด้วย CPUID HWMonitor จะเห็นว่าอุณหภูมิโดยเฉลี่ยของตัวเครื่องอยู่ที่ 52 องศา ต่ำสุด 51 องศาและสูงสุดที่ 95 องศาเซลเซียสเท่านั้น และสังเกตว่าอุณหภูมิในคอร์อื่นๆ ของซีพียูจะไม่ติดสีแดงเพื่อเตือนผู้ใช้ว่าอุณหภูมิของซีพียูเริ่มร้อนเกินไปแม้แต่นิดเดียว ต้องถือว่าชุดพัดลมระบายความร้อนสามารถควบคุมอุณหภูมิในเครื่องได้อย่างดีเยี่ยม ใช้งานต่อเนื่องหลายชั่วโมงก็ไม่มีปัญหา

User Experience

ในแง่ของการใช้ทำงานและเล่นเกม Acer Predator Helios 300 ถือว่าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ สเปคจัดว่าดีมากจนใช้คำว่า Desktop Replacement ได้อย่างเต็มปาก ถือเป็น “ม้ามืด” จนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจากแบรนด์คู่แข่งบางรุ่นที่สเปคไล่เลี่ยกันอาจจะทำคะแนน, เฟรมเรทและคุมอุณหภูมิตัวเครื่องได้ไม่ดีเท่าเสียด้วยซ้ำ

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อทางบริษัทติดตั้งพอร์ตต่อหน้าจอแยกได้ 3 จอพร้อมกัน ได้แก่ Thunderbolt 4, HDMI 2.1, Mini DisplayPort ก็ช่วยเพิ่มพื้นที่ให้คนทำงานและเกมเมอร์ใช้งานได้สะดวกขึ้นมาก หากใครต้องการต่อหน้าจอแยกไว้ใช้งานหลายจอพร้อมกันก็เชื่อมต่อได้เลย และเมื่อดูสเปคต่อราคาแล้ว แม้รุ่นท็อปสุด ณ ตอนนี้จะตั้งราคาไว้ 79,990 บาท ก็เป็นราคาต่อสเปคที่เรียกว่าคุ้มค่าสุดๆ ไม่ได้แพงเกินไปแม้แต่น้อย เพราะถ้านำสเปคทั้งหมดนี้ไปประกอบเป็นเกมมิ่งพีซีสักเครื่องเชื่อว่าราคาจะแพงเกินรุ่นท็อปของ Acer Predator Helios 300 เครื่องนี้อย่างแน่นอน

ด้านระบบระบายความร้อน CoolBoost ของตัวเครื่องต้องถือว่าทาง Acer ลบข้อครหาของ Predator รุ่นก่อนหน้านี้ได้อย่างสวยงาม จากการทดสอบใช้งานหนักทั้งเล่นเกมและรันโปรแกรม Benchmark เพื่อดึงอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องต่อเนื่องหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม Acer Predator Helios 300 ก็ยังมีอุณหภูมิสูงสุดแค่ 95 องศาเซลเซียสเท่านั้นและความร้อนภายในเครื่องก็ไม่แผ่ขึ้นมือมาเลยแม้แต่น้อย ทำให้เล่นเกมได้อย่างต่อเนื่องเต็มอรรถรส ไม่เกิดอาการ Throttle Down แม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นหากใครมีภาพจำจาก Predator รุ่นก่อนหน้าก็ลืมภาพนั้นทิ้งไปได้เลย

อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกันระบบ CoolBoost แม้จะทำให้ตัวเครื่องเย็นจริง แต่ในโหมด Turbo เสียงพัดลมระบายความร้อนที่หมุนช่วง 7,000 รอบ/นาที จะค่อนข้างดังและเสียงค่อนข้างแหลมนิดๆ เมื่อวัดด้วยเครื่องวัดเสียงก็ดังราว 55dB อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความร้อนภายในตัวเครื่องเมื่อระบายออกแล้วก็ทำให้อุณหภูมิในห้องเมื่อไม่เปิดแอร์อุ่นขึ้นอย่างรู้สึกได้ ทว่าในห้องแอร์จะไม่เจอสถานการณ์เช่นนี้

หากใครต้องพกโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ติดตัวไปไหนมาไหน ผู้เขียนขอแนะนำให้เตรียมกระเป๋าเป้ที่สามารถบาลานซ์และรับโน๊ตบุ๊คและอแดปเตอร์น้ำหนักรวม 3.4 กิโลกรัมเอาไว้สักใบเพื่อให้น้ำหนักทั้งหมดรวมข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ ในกระเป๋าไม่ถ่วงไหล่จนเกินไปแล้วทำให้เกิดปัญหาต่อสรีระร่างกายในอนาคต

Conclusion & Award

หากยกยอดเรื่องการพกพาไปสักเรื่องหนึ่ง Acer Predator Helios 300 รุ่นใหม่นับเป็น “ม้ามืด” ในหมู่เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงที่ปรับแต่งจุดสังเกตในรุ่นก่อนออกไปได้อย่างหมดจด แรงต่อเนื่องตลอดการใช้งานไม่มีปัญหาความร้อนมารบกวนเลย นับเป็นโน๊ตบุ๊ค Desktop Replacement ประสิทธิภาพสูง ดีจนไม่ต้องประกอบเกมมิ่งพีซีก็ได้ แค่มีโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ก็เล่นเกมที่ต้องการหรือทำงานหนักได้สบายๆ 

ยิ่งไปกว่านั้น Predator Helios 300 ก็ไม่ได้เป็นแค่เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คสเปคแรงแต่อย่างเดียว ทางบริษัทก็ติดตั้งฟีเจอร์มาครบเครื่องไม่ว่าจะพอร์ตต่อหน้าจอแยก 3 ช่อง ได้แก่ Thunderbolt 4, HDMI 2.1, mini DisplayPort ทำให้ต่อหน้าจอแยกได้หลายจอจึงใช้งานได้สะดวกมาก รวมทั้งหน้าจอของเครื่องนี้ก็ได้ขอบเขตสีกว้างและได้สีเที่ยงตรงไม่แพ้โน๊ตบุ๊คสำหรับครีเอเตอร์โดยเฉพาะหลายๆ รุ่นอีกด้วย ดังนั้นกลุ่มผู้ใช้จึงไม่ได้จำกัดเอาไว้เฉพาะเกมเมอร์แต่ครีเอเตอร์ไม่ว่าจะสายช่างภาพ, ตัดต่อวิดีโอก็ซื้อไปใช้งานได้ดีไม่แพ้กัน

award

best gaming

Predator Helios 300 สามารถรีดประสิทธิภาพของ Intel Core i7-12700H กับ NVIDIA GeForce RTX 3070 Ti ออกมาได้หมดจดเต็มประสิทธิภาพ เล่นเกมปรับกราฟฟิคสูงสุดบนหน้าจอ QHD ค่า Refresh Rate 165Hz ได้สบายๆ จะต่อหน้าจอแยกก็ไม่มีปัญหา

best graphics

เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ เครื่องมักได้หน้าจอความละเอียด Full HD หรืออาจจะมีจอ QHD อยู่บ้างแต่ก็ได้พาเนลระดับทั่วไป ขอบเขตสีหน้าจอไม่กว้างมากผิดกับ Predator Helios 300 เครื่องนี้ที่ได้พาเนล IPS คุณภาพสูงเทียบชั้นโน๊ตบุ๊คครีเอเตอร์ได้สบายๆ นอกจากเกมเมอร์แล้ว ช่างกล้องหรือสายตัดต่อวิดีโอก็ซื้อไปทำงานได้เลย

best Value

สเปครุ่นสูงสุดของ Predator Helios 300 ราคา 79,900 บาท แลกกับสเปคระดับนี้รวมทั้งระบบระบายความร้อนแบบ Liquid Metal ด้วยต้องถือว่าหาตัวจับยากมาก หากจะจัดเกมมิ่งพีซีหรือหาเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คซึ่งได้สเปคและระบบระบายความร้อนเหมือนกัน ก็มักเจอรุ่นที่ราคาแพงกว่านี้อย่างแน่นอน ดังนั้นนี่คือเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คระดับเรือธงที่ราคาเป็นมิตรต่อเกมเมอร์ที่สุดแล้ว