หนึ่งใน True Wireless ที่หลายๆ ท่านสนใจในตอนนี้คงไม่พ้น 1MORE PistonBuds Pro กับหูฟัง TWS ที่มีราคาถูกมาก แต่ก็ยังมาพร้อมฟังค์ชั่นตัดเสียงรบกวนได้ พร้อมการออกแบบซอฟแวร์เป็นอย่างดี ใช้งานง่าย แต่จะมีดีขนาดไหนไปชมกัน
1MORE PistonBuds Pro เป็น TWS ที่มีราคาคุ้มมากด้วยค่าตัวเพียง 1,690 บาท แต่ในหลายร้านจัดโปรโมชั่นเหลืออยู่แค่ราว 1,350 บาทเท่านั้น ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆที่ครบครันโดยเฉพาะฟังค์ชั่นตัดเสียงรบกวนที่ติดตั้งมาให้ด้วย กับราคาค่าตัวแค่นี้ถือว่าเด็ดมาก
นอกจากนั้นยังมาพร้อมเคสขนาดกะทัดรัด พร้อมแบตเตอรี่ทั้งหูฟังและในเคสที่ใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมง โดยเฉพาะตัวหูฟังก็ยังใช้งานได้นานสูงสุดถึง 7 ชั่วโมง 30 นาที หรือถ้าเปิดฟังค์ชั่นตัดเสียงรบกวนก็ยังใช้งานได้ถึง 5 ชั่วโมง ชาร์ตไว 5 นาที ใช้งานได้ 1 ชั่วโมง กันน้ำ IPX5
ตัวหูฟังมาพร้อมไดร์เวอร์ไดนามิกแบบฟูลเรนจ์ 10 มิลลิเมตร รองรับ Bluetooth 5.2 ไมโครโฟน 4 ตัวพร้อมอัลกอริทึม DNN ไมโครโฟน 2 ตัวในหูฟังแต่ละข้างและ DNN อัจฉริยะ (Deep Neural Network) อัลกอริธึมที่ทำงานร่วมกัน เพื่อกรองเสียงรบกวนรอบข้าง ทำให้การโทรมีเสียงที่คมชัดมากยิ่งขึ้น แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง
1MORE PistonBuds Pro
- รุ่น :EC302
- น้ำหนักหูฟัง (ข้างเดียว) :4.5 กรัม
- น้ำหนักกล่องชาร์จ :30 กรัม
- น้ำหนักรวม :39 กรัม
- ขนาดหูฟัง :17*18*21.4 มิลลิเมตร
- ขนาดกล่องชาร์จ :58*23*37.7 มิลลิเมตร
- ความจุแบตเตอรี่หูฟัง (ข้างเดียว) :38mAh
- ความจุแบตเตอรี่กล่องชาร์จ :410mAh
- เวลาชาร์จหูฟัง :1 ชั่วโมง
- เวลาชาร์จกล่องชาร์จ :2 ชั่วโมง
- ตัวแปลงสัญญาณเสียง :AAC/SBC
- ช่วงการเชื่อมต่อ Bluetooth :10 เมตร (พื้นที่โล่งไร้สิ่งกีดขวาง)
- Bluetooth :เวอร์ชั่น 5.2
- โปรโตคอล Bluetooth :HEP/A2DP/AVRCP
- อินพุต :5V 1A
เปิดใช้งาน ANC
- เวลาใช้งาน (หูฟังแบตเตอรี่เต็ม) :5 ชั่วโมง
- เวลาใช้งาน (หูฟังและกล่องชาร์จแบตเตอรี่เต็ม) :20 ชั่วโมง
ปิดใช้งาน ANC
- เวลาใช้งาน (หูฟังแบตเตอรี่เต็ม) :7 ชั่วโมง 30 นาที
- เวลาใช้งาน (หูฟังและกล่องชาร์จแบตเตอรี่เต็ม) :30 ชั่วโมง
1MORE PistonBuds Pro มาพร้อมกล่องเรียบๆ โชวืหน้าตาและสเปคชัดเจน
อุปกรณืภายในกล่องจะมีคู่มือ สายชาร์ต และจุดเปลี่ยนอีก 3 ขนาด
1MORE PistonBuds Pro มาพร้อมกล่องเคสขนาดกะทักรัด พกพาสะดวก โดยด้านบนจะมีผิวเงาพร้อมชื่อ 1MORE โชว์ วัสดุหลักเป็นพลาสติดผิวเรียบไม่เงา
พอร์ตชาร์ตอยู่ด้านหลังเป็นแบบ USB-C พร้อมปุ่มแพร์
ไฟแสดงสถานะด้านหน้า
เปิดฝาขึ้นมาก็จะเจอตัวหูฟังอยู่ภายใน
หูฟังยิดติดกับเคสด้วยแม่เหล็ก ไม่แรงมาก หยิบได้สะดวก
1MORE PistonBuds Pro หูฟังมาตรฐานระดับ World-Class หูฟังได้รับการปรับแต่งอยู่หลายครั้ง โดยวิศวกร Luca Bignardi เพื่อให้เสียงที่ดังมาจากหูฟังมีความเป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพสูงสุดขณะใช้งาน การันตีได้จากการได้รับรางวัลแกรมมี่ 4 สมัย
โดยการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เน้นใส่ได้กระชับ การออกแบบมุมเฉียงตามหลักสรีรศาสตร์พร้อมจุกหูฟังซิลิโคนอ่อนนุ่ม เพื่อความสบายและกระชับขณะสวมใส่ ขนาดไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ด้านหลังจะมีผิวสัมผัสสำหรับการสั่งงานเช่นเล่น หยุดเพลง หรือรับสาย น้ำหนักเบาใส่สบาย พร้อมเซนเซอร์ที่คอยตรวจจับการใช้งาน
การแพร์ก็ไม่ยิ่งยาก สำหรับครั้งแรกแค่ยิบหุฟังขึ้นมาพร้อมพร้อมแพร์กับสมาร์ทโฟน ส่วนครั้งต่อไปจะต้องกดปุ่มแพร์ที่เคสค้างไว้จนไฟติดกะพริบ
การสวมใส่จัดว่าสวมใส่ได้สบายมาก หูฟังน้ำหนักเบา ใส่ได้กระชับ ตัวจุกยางไม่ได้เข้าไปในรูหูจนเกินไปจนน่าลำคาญ แต่ก็ทำให้ตัวหูฟังไม่ได้เก็บเสียงดีเท่าที่ควร แม้จะใช้จุกใหญ่สุดก็ยังมีเสียงภายนอกลอดเข้ามาได้บ้าง ลองขยับศีรษะแรงๆก็ไม่หลุดได้ง่ายๆ การใส่ให้ได้กระชับจำเป็นต้องสวมเข้าไปในรูหูก่อน แล้วบิดเล็กน้อย ตัวหูฟังจะเข้าที่
1MORE PistonBuds Pro เมื่อใส่ไปแล้วจะมีส่วนที่ยื่นออกมาเล็กน้อยไม่ได้ใหย่หรือเกะกะมากนัก แต่ถ้าวิ่งหรือปั่นจักรยานจะค่อนข้างต้านลมพอสมควร ซึ่งจะมีผลต่อระบบตัดเสียงรบกวนด้วย
ประสบการณ์ใช้งาน
ในด้านเสียง ผมให้ระดับกลางๆ ไม่ได้ถือว่าเสียงโดดเด่นในด้านใดด้านหนึ่ง เบสถือว่าเป็นจุดเด่นสุดของหูฟังตัวนี้โดยเฉพาะเพลงแนวร็อคจะได้เบสออกมาเป็นลุกๆ ชัดเจน เสียงร้อนชัดเจน แต่เสียงเครื่องดนตรีกลับไม่เด่นเท่าที่ควร ยกเว้นช่วงกีต้าร์ลีดที่จะเด่นขึ้นมา ฟังได้หลายแนว เด่นที่ร็อค หรือดูหนังก็จัดว่าดี เวทีเสียงไม่กว้างเท่าไร อยู่ตรงข้างหูเป็นหลัก
ในส่วนของระบบ ANC หรือตัดเสียงรบกวนก็มีทั้งแบบ Strong ที่ตัดเสียงได้เงียบเกือบสนิทเลยทีเดียว เสียงรอบข้างแทบไม่มีเข้ามา แต่จะรู้สึกหุอื้อหน่อยถ้าไม่มีเสียง ส่วนอีกโหมด WNR จะตัดเสียงรอบข้างน้อยกว่า แต่ก็แลกมาด้วยลดเสียงลมที่ปะทะ เหมาะกับการใช้ตอนวิ่งหรือเดินทาง
ในส่วนของไมค์ รับเสียงได้ดีตามมาตรฐาน ใช้ในห้องปิด หรือห้องทำงานที่เสียงไม่ดังได้ดี ปลายสายได้ยินเสียงสนธนาชัดเจน แต่ถ้าไปใช้ในที่เสียงดัง หรือริมถนนอาจจะต้องตะเบงเสียงพูดให้ดังพอสมควร เพราะไมค์ดูดเสียงรอบข้างเข้ามาด้วย แต่โดยรวมรับเสียงได้ดีกว่าไมค์หุฟังแพงๆบางตัวเสียอีก
แบตจัดว่าอึด ผมใช้ราว 3 ชั่วโมง ก็ยังไม่มีการเตือนเรื่องของแบตอ่อน ใส่วิ่งได้กันละอองน้ำ กันเหงือ แต่แนะนำว่าใส่ตัวปรับระดับใบหูให้พอดี ไม่งั้นจะลื่นหล่นได้ง่าย
อีกหนึ่งจุดเด่นคือเรื่องของซอฟแวร์ที่ปรับแต่งได้พอสมควรไม่ว่าจะเป็น
หน้าหลักของตัวซอฟแวร์ 1MORE MUSIC จะโชว์ระดับแบตเตอรี่ ทั้งที่ตัวหูฟังและเคส ถัดลมมาก็จะเป็นการเปิดระบบตัดเสียงรบกวย ANC ที่แบ่งเป็น
- Strong ตัดเสียงรบกวนภายนอกทั้งหมด จะให้เสียงที่เงียบที่สุด
- WNR จะตัดเสียงรบกวนบางส่วน เพื่อลดเสียงลมที่มาปะทะกับไมค์ตัดเสียงลบกวน
ส่วน Pass-Througn จะเป็นโหมดที่ดึงเสียงรอบข้างเข้ามาด้วย
Smart Playback จะเป็นการสั่งงานเมื่อถือหูฟังออกแล้วให้เกิดเหตุการอะไรขึ้น เช่นหยุดเพลง หรือไม่ต้องหยุดก็ได้ ส่วนเมนูถัดมาจะเป็น Custom Setting
Custom Setting จะเป็นการสั่งงานปุ่มสัมผัสด้านหลังหูฟังที่สามารถปรับแต่งได้ทั้งเตะ 2 ครั้ง หรือ 3 ครั้ง ซึ่งจะไม่มีเมนูการเตะครั้งเดียวเพื่อป้องกันการลั่นกดดดยไม่ตั้งใจ
เมนูถัดลมมาจะเป็น Low-latency ลดการดีเลย์เมื่อต้องใช้หูฟังเล่นเกมที่ต้องการตอบสนองไวเป็นพิเศษ แต่แน่นอนว่าใช้แบตเตอรี่เยอะกว่าด้วย
- OTA firmware เป็นการอัพเกรดเฟิรม์แวร์
- Equalizer ปรับแต่งรุปแบบเสียง
- Quick Guide ไกท์แนะนำการใช้งาน
- Soothing sounds เป็นเสียงธรรมชาติเช่นฝนตก ไฟเตาผิงเพื่อผ่อนคลาย
สุดท้ายเป็น EQ ที่สามารถปรับแต่งรูปแบบเสียงได้เยอะเลยทีเดียว
1MORE PistonBuds Pro อาจจะไม่ได้เป็น TWS ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ด้วยเสียงที่อาจจะไม่ได้โดดเด่น ฟังค์ชั่นที่ไม่ได้จัดจ้านมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นหูฟัง TWS ที่คุ้มค่าที่สุดในราคา 1,690 บาท เพราะด้วยราคานี้ยังมาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนที่จัดว่าดีรุ่นหนึ่ง
ฟังค์ชั่นอื่นๆ เองก็น่าสนใจในระดับราคานี้ ทั้งกันน้ำ IPX5 ฟังค์ชั่นปุ่มควบคุม การใช้งานที่ลงตัว ใส่ได้สบายไม่หนักหู รวมไปถึงตัวซอฟแวร์เองที่ปรับแต่งได้พอสมควร เหมาะกับท่านที่มีงบประมาณจำกัดแต่ก็ยังต้องการหูฟังครบเครื่องและยังตัดเสียงรบกวนได้ด้วยราคาค่าตัวไม่ถึง 1,690 บาท (และยังมีร้านจัดโปรเหลือแค่ 1,290 บาท ด้วย)
จุดเด่น
- ราคาคุ้มมากแค่ 1,690 บาท
- ตัดเสียงรบกวนได้ดี
- เบสดี เสียงร้องชัด
- ขนาดกะทัดรัด เบา ใส่สบาย
ข้อสังเกต
- เสียงโดยรวมยังไม่ได้เด่นมาก เน้นฟังง่าย
- จุกหูฟังยังไม่เก็บเสียงเท่าที่ควร