รีวิว ASUS TUF Gaming A15 (2022) หน้าตามินิมอล แต่แรงไม่หยอก ด้วย Ryzen 7 6800H กับราคา 37,990 บาท

ASUS TUF Gaming A15 (2022) ถือว่าเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่น่าสนมากในระดับราคาไม่เกิน 4 หมื่น

ASUS TUF Gaming A15 โมเดลปี 2022 นี้ ต้องถือว่าเป็นการยกเครื่องทั้งสเปคและดีไซน์ให้เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คซีรี่ส์นี้สดใหม่และทันสมัยยิ่งขึ้น ผสานกับการสืบทอดดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตระกูล TUF Gaming A15 มา ไม่ว่าจะโลโก้ TUF ที่ถูกเน้นให้โดดเด่นยิ่งขึ้นแต่ก็มินิมอลกว่าโมเดลปีที่แล้ว, หน้าจอ NanoEdge Display ที่ขอบบางให้พื้นที่ตัวเครื่องไม่เยอะล้นจนรกสายตาของผู้ใช้และเติม MUX Switch มาด้วย ช่วยรีดประสิทธิภาพตอนเล่นเกมได้ดีขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ระบบ ARC Flow Fans ที่ติดตั้งมาให้ในตัวเครื่องที่ทาง ASUS เคลมไว้ว่าพัดลมชุดนี้ช่วยให้อากาศไหลเวียนระบายความร้อนได้ดีขึ้น 13% ก็ไม่เกินที่กล่าวอ้างเอาไว้ แม้จะเล่นเกมหรือทำงานหนัก ตัวเครื่องก็ไม่ร้อนจนรบกวนการใช้งานหรือลดประสิทธิภาพการทำงานเลยสักนิด เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี รวมทั้งยังผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H การันตีความแข็งแรงเหมือนเดิม ใช้งานไปได้สบายใจไม่ต้องกังวลมากก็ได้

Video Review

NBS Verdict

ASUS TUF Gaming A15 โมเดลปี 2022 นี้ ได้สืบทอดเอกลักษณ์ของโมเดลปี 2021 มาอย่างลงตัวพร้อมอัพเดทสเปคตัวเครื่องให้ประสิทธิภาพดีขึ้นและทันสมัยกว่าเดิม โดยใช้ AMD Ryzen 7 6000 Series แล้ว จับคู่กับการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3050 และใช้แรม DDR5 ใหม่ล่าสุด ทำให้บัสมีความเร็วสูงถึง 4800MHz ทำให้ประมวลผลงานที่เข้าออกแรมได้เร็วยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย

ด้านอุณหภูมิตัวเครื่องเวลาใช้งานจริงต้องถือว่าระบายความร้อนได้น่าประทับใจ แม้จะเล่นเกมหนักต่อเนื่องหลายชั่วโมงก็ไม่มีปัญหา นอกจากนี้ยังคงอัพเกรดตัวเครื่องได้ หากสเปคเดิมๆ จากโรงงานยังไม่พอใจ ก็เปิดเครื่องอัพเกรดได้สะดวกโดยใช้ไขควงเพียงตัวเดียวก็แกะเครื่องได้เลย นอกจากนี้ยังต่อหน้าจอแยกได้ 2 หน้าจอด้วย USB-C ที่รองรับ DisplayPort ในตัวหรือ HDMI ก็ได้เช่นกัน สรุปคือต่อได้ 2 หน้าจอพร้อมกันอีกด้วย ทำให้เกมเมอร์ที่อยากใช้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ต่างเกมมิ่งพีซีสักเครื่องก็ทำได้สบายๆ เลย

แต่อย่างไรก็ตาม จุดสังเกตอันน่าเสียดายของ ASUS TUF Gaming A15 คืออินเตอร์เฟสของ M.2 NVMe SSD ที่ยังเป็น PCIe 3.0 x4 อยู่ ทั้งที่หลายๆ รุ่นเริ่มอัพเกรดไปใช้ PCIe 4.0 ซึ่งรองรับ SSD รุ่นใหม่ที่มีความเร็ว Sequential Read/Write ได้ดีกว่าถึง 2 เท่าแล้ว ถ้าเป็นไปได้ ก็น่าให้แรมในเครื่องยืนพื้นมา 16GB DDR5 จะมีพื้นที่ให้ใช้ได้สบายตัวกว่า เพราะปัจจุบันนี้แรมเพียง 8GB นับว่าแค่พอใช้งานพอเล่นเกมได้แต่ก็อึดอัดแล้ว ซึ่งถ้า ASUS จัดโปรโมชั่นแถมแรม 1 แถวพร้อมเครื่องก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีและส่งเสริมการขายโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ได้แน่นอน

ข้อดีของ ASUS TUF Gaming A15

1. ยังสืบทอดดีไซน์หลายส่วนที่เป็นเอกลักษณ์ของตระกูล TUF Gaming A15 แต่ทำให้ดูสวยเรียบร้อยและพรีเมี่ยมขึ้นด้วยการทำโลโก้ปั๊มนูน
2. คีย์บอร์ดมีไฟ RGB ปรับเอฟเฟคและสีได้ตามต้องการในโปรแกรม Armoury Crate
3. ติดตั้งซีพียู AMD Ryzen 7 6800H รุ่นใหม่ล่าสุดมาให้ ซึ่งประสิทธิภาพสูงทำงานและเล่นเกมได้ดีแน่นอน
4. แรมในเครื่องเป็น DDR5 มีบัสสูง รับส่งข้อมูลได้รวดเร็วลื่นไหล อัพเกรดได้ถึง 32GB
5. มีพอร์ต USB-C ถึง 2 ช่อง รองรับการต่อจอแยก DisplayPort และ G-SYNC ด้วย
6. พอร์ตเปลี่ยนเป็น USB-A 3.2 Gen 1 หมดแล้ว ต่อพอร์ตไหนก็รับส่งข้อมูลได้รวดเร็ว
7. สามารถอัพเกรดเพิ่ม M.2 NVMe SSD ได้อีก 1 ช่องเสริมกับไดรฟ์หลักกับแรม 2 ช่อง
8. มีฟีเจอร์ MUX Switch ติดตั้งมาให้ใช้เปลี่ยนโหมดว่าจะประหยัดไฟหรือทำงานก็ได้
9. ระบบระบายความร้อน ARC Flow Fans จัดการอุณหภูมิตัวเครื่องได้ดี ไม่ร้อนแม้จะใช้งานหนักต่อเนื่องนานๆ
10. ได้ประกัน Perfect Warranty มา 1 ปีแรกของการใช้งาน ช่วยให้ใช้งานได้อุ่นใจยิ่งขึ้น

ข้อสังเกตของ ASUS TUF Gaming A15

1. อินเตอร์เฟส M.2 NVMe SSD ยังเป็น PCIe 3.0 x4 ควรเป็น PCIe 4.0 ได้แล้ว
2. แรมที่ติดตั้งมาในเครื่องมีความจุ 8GB ควรอัพเกรดเป็น 16GB จะใช้งานได้สบายกว่า

รีวิว ASUS TUF Gaming A15

• Specification
• Hardware & Design
• Screen & Speaker
• Keyboard & Touchpad
• Connector / Thin & Weight
• Inside & Upgrade
• Performance & Software
• Battery & Heat & Noise
• User Experience
• Conclusion & Award

Specification

สเปคของ ASUS TUF Gaming A15 โมเดลใหม่ปี 2022 นี้ ได้รับการอัพเกรดสเปคและดีไซน์ใหม่ ช่วยให้ดูน่าใช้งานยิ่งกว่าเดิม รวมทั้งสเปคก็ตอบโจทย์เกมเมอร์ด้วย โดยสเปคมีดังนี้

• CPU : AMD Ryzen 7 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2-4.7GHz
• GPU : NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6
• SSD : แบบ M.2 NVMe ความจุ 512GB
• RAM : 8GB DDR5 4800MHz
• Display : 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS, Refresh Rate 144Hz รองรับ AdaptiveSync
• Ports : USB-C 3.2 x 2 มี 1 ช่องรองรับการต่อหน้าจอแบบ DisplayPort พร้อม G-SYNC, USB-A 3.2 Gen 1 x 2, HDMI x 1, LAN x 1, Audio combo x 1
• Wireless : Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax รองรับ Bluetooth 5.2
• Webcam : 720p HD Camera 
• Software : Windows 11 Home
• Weight : 2.2 กิโลกรัม
• Price : 37,990 บาท (Advice, BaNANA) 

Hardware & Design

ดีไซน์ของ ASUS TUF Gaming A15 รุ่นใหม่ต้องถือว่ายังคงเอกลักษณ์หลายๆ ส่วนของโมเดลปีที่แล้วเอาไว้ แต่ก็แก้ดีไซน์บางส่วนที่ดูแข็งและออกเกมมิ่งเกินไปให้ดูเรียบร้อยขึ้น ถ้ามองหน้าตรงแล้วจะเห็นว่าขอบใต้หน้าจอยังถูกตัดเว้นเอาไว้ แต่ไม่มีสันขอบพลาสติกสูงเขียนคำว่า TUF Gaming เหมือนรุ่นก่อนหน้านี้แล้ว ด้านขอบบนของหน้าจอให้เลยออกมาเล็กน้อยให้ผู้ใช้ดึงเปิดหน้าจอได้สะดวกเหมือนเดิมพร้อมคีย์บอร์ดไฟ RGB และแป้นทัชแพดขนาดใหญ่กว่าเดิม ยิงเลเซอร์โลโก้ TUF Gaming ติดอาไว้มุมบนขวามือ กล่าวคือได้ดีไซน์ที่เรียบร้อยขึ้นแต่คงกลิ่นอายรุ่นก่อนและคงความเกมมิ่งเอาไว้ครบถ้วนตามเดิม

ถ้ามองแยกแต่ละจุด จะเห็นว่าสันพลาสติกยกสูงสลักคำว่า TUF Gaming หายไปแล้ว ส่วนไฟ LED แสดงสถานะตัวเครื่องเปลี่ยนจากไฟ 4 ดวงเรียงเป็นเครื่องหมายกากบาทเหมือนเป้าเล็งในเกม FPS แทน และขาฐานหน้าจอก็ยังออกแบบให้อยู่ขอบนอกของตัวเครื่องเช่นเดิม งานประกอบก็ยังแข็งแรงตามสไตล์ ASUS ไม่มีอาการหลวมโคลงเวลากางหน้าจอหรือรัวปุ่มลงแป้นคีย์บอร์ดเลย นับว่าทางบริษัทยังคงมาตรฐานการประกอบเครื่องได้ดี

ขาตั้งหน้าจอของ ASUS TUF Gaming A15 ถูกออกแบบให้อยู่ขอบนอกตัวเครื่องเหมือนโมเดลปีที่แล้ว ตัวเครื่องก็สามารถกางหน้าจอได้กว้างเช่นเดิม พอกางสุดจะกว้างราว 120 องศา จะวางบนโต๊ะทำงานตามปกติหรือบนที่วางโน๊ตบุ๊คก็สามารถปรับองศาหน้าจอให้มองเห็นได้สะดวก เข้ากับมุมสายตาที่เรามองเห็นได้ง่าย

ด้านฝาหลังตัวเครื่องยังคงเอกลักษณ์จาก ASUS TUF Gaming A15 รุ่นก่อนเอาไว้ แต่ปรับดีไซน์ระดับหนึ่ง อย่างแรกคือฝาหลังเป็นอลูมิเนียม ถอดโลโก้ยิงเลเซอร์เขียนคำว่า TUF ออกไปแล้วย้ายโลโก้ TUF Gaming จากมุมบนของตัวเครื่องมาอยู่ตรงกลางแทน แล้วทำโลโก้เป็นแบบปั๊มนูนขึ้นมา ให้ความสวยแข็งแรงและเท่ไปพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ที่มุมฝาหลัง 4 มุมยังปั๊มเป็นเป็นรูปน็อตที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ส์นี้เอาไว้เหมือนเดิม ส่วนขอบล่างใต้หน้าจอถูกตัดเว้นเอาไว้เพื่อไม่ขวางทางระบายอากาศ ทำให้อากาศไหลเวียนเข้าออกได้ดีและต่อเนื่อง

ด้านใต้ตัวเครื่องจะมีจุดสามเหลี่ยมสีแดงเพิ่มเข้ามา เป็นตัวซัพพอร์ตไม่ให้บอดี้ตัวเครื่องสัมผัสกับพื้นโต๊ะโดยตรง นอกจากนี้ยังเดินแนวยางเอาไว้ 4 มุมเครื่องเป็นตัว L เวลาวางแล้วก็มั่นคงไม่เขยื้อนง่าย รวมทั้งเจาะช่องดึงอากาศเข้าเอาไว้ตรงกลางเครื่องเพื่อให้อากาศเย็นตรงเข้าพัดลมโบลวเวอร์ในเครื่องได้เลย

Screen & Speaker

หน้าจอของ ASUS TUF Gaming A15 เครื่องนี้จะเป็นจอ NanoEdge Display ขอบหน้าจอบางไม่รบกวนสายตา มีขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD พาเนล IPS ค่า Refresh Rate 144Hz รองรับ AdaptiveSync ป้องกันภาพบนหน้าจอฉีกขาดเมื่อภาพขยับเร็วๆ จัดเป็นฟีเจอร์ที่เน้นและเอื้อการเล่นเกมเป็นพิเศษ และขอบหน้าจอด้านบนติดตั้งกล้อง Webcam ความละเอียด HD เอาไว้ใช้เวลาประชุมออนไลน์ได้ด้วย

ขอบเขตสีของหน้าจอของ ASUS TUF Gaming A15 เมื่อวัดด้วย Spyder5Elite ถือว่าได้ขอบเขตสีไม่กว้างมากตามแบบฉบับของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ได้ขอบเขตสีที่ 61% sRGB, 46% AdobeRGB, 45% DCI-P3 ส่วน Delta-E ที่แสดงการเทียบสีเที่ยงตรงแล้ว จะได้ค่าเฉลี่ยที่ 2.21 ซึ่งถือว่ามากกว่า 2 ดังนั้นสีสันบนหน้าจอนี้อาจจะไม่เที่ยงตรงเท่าไหร่หากเอาไปทำงานอาร์ตเวิร์ค แต่ถ้าใช้แต่งรูปเล่นๆ เพื่ออัพโหลดขึ้นโซเชียลเน็ตเวิร์คก็ถือว่าใช้ได้ ส่วนใครที่คิดจะซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเพื่อเอาไว้วาดภาพประกอบหรือการ์ตูนล่ะก็ ส่วนตัวผู้เขียนแนะนำให้ต่อหน้าจอแยกที่สีสันเที่ยงตรงกว่านี้หรือซื้อหน้าจอที่ได้รับการรับรองขอบเขตและความเที่ยงตรงสีมาใช้งานจะดีกว่า

ด้านความสว่างหน้าจอเมื่อวัดแล้วได้ความสว่าง 100% ที่ 244.9 nit ซึ่งถือว่าสว่างมาก จะเอาไปนั่งทำงานนอกอาคารหรือออฟฟิศก็ไม่มีปัญหาเพราะความสว่างหน้าจอสามารถสู้แสงแดดได้ แต่ถ้านั่งทำงานในออฟฟิศหรือใช้ในห้องนอนตามปกติ แนะนำให้ปรับความสว่างแค่ 75% ก็พอ จะได้สว่างกำลังดีไม่แสบตาเกินไป พอแบ่งวัดความสว่างตามโซนต่างๆ บนหน้าจอ จะเห็นว่าพื้นที่ที่สว่างที่สุดของหน้าจอนี้อยู่ตรงกลางหน้าจอเท่านั้น ส่วนริมซ้ายขวาจะมีความสว่างน้อยลง 10% ทีเดียว แนะนำให้ระวังขอบฝั่งซ้ายขวาของหน้าจอเวลาแต่งภาพด้วย ส่วนอื่นของหน้าจอยังอยู่ระดับเลขหลักเดียวถือว่าพอใช้งานได้ระดับหนึ่ง

สรุปผลคะแนนของหน้าจอนี้ จะเห็นว่าผลคะแนนรวมของจอ ASUS TUF Gaming A15 ทำไปได้ 4 จาก 5 คะแนน โดยจอนี้เด่นเรื่อง Tone Response กับ Contrast ที่ทำได้ 5 คะแนนเต็ม ส่วน 4 คะแนนมี Luminance Uniformity, Color Uniformity และ Color Accuracy ซึ่งในส่วนนี้ผู้เขียนถือว่าขอบเขตสีของหน้าจอนี้พอใช้แต่งภาพขึ้นโซเชียลเน็ตเวิร์คเอาสนุกได้ แต่ถ้าเอามาทำงานจริงขอยืนยันเช่นเดิมว่าต่อหน้าจอที่ออกแบบมาเพื่องานอาร์ตโดยเฉพาะจะดีกว่า

ลำโพงของตัวเครื่องที่ติดตั้งมา 2 ตัวด้านใต้เครื่องแล้วส่งเสียงลงพื้นโต๊ะสะท้อนขึ้นมาให้ผู้ใช้ได้ยิน ถ้าเอาไปใช้เล่นเกมถือว่าได้โทนเสียงที่ดังฟังชัดและแบ่งทิศทางเสียงศัตรูตอนเล่นเกมได้ดี จับทิศทางศัตรูตอนเล่นได้ชัดเจนรู้ว่าจะมาจากทางไหนและดูหนังได้อารมณ์ กลับกันเวลาใช้ฟังเพลงถือว่าอยู่ระดับพอใช้ได้ เสียงดังฟังชัดและเนื้อเสียงดีแต่เสียงเบสแค่ฟังได้ไม่ได้หนักแน่นและแรงปะทะน้อยไม่ค่อยหนักแน่น ถ้าฟังเพลงป็อป, แจ๊ส, ร็อคพอได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าใครชอบเบสหนักและเน้นฟัง EDM เป็นหลักขอแนะนำให้ต่อลำโพงแยกจะดีกว่า

Keyboard & Touchpad

เลย์เอ้าท์คีย์บอร์ดของ ASUS TUF Gaming A15 จะเป็นแบบ Full-size มี Numpad ติดตั้งมาให้พร้อมไฟ LED Backlit AURA Sync ปรับความสว่างและเอฟเฟคไฟและเปลี่ยนสีไฟได้ในโปรแกรม Armoury Crate หรือกดปุ่มลัดบนคีย์บอร์ดก็ได้ นอกจากนี้ปุ่ม WASD บนคีย์บอร์ดก็เป็นแบบปุ่มใสซึ่งเป็นจุดวางมือหลักของเกมเมอร์ นอกจากนี้ยัง Mapping ปุ่มลัดต่างๆ เอาไว้ให้ตามจุดต่างๆ และมีปุ่ม Function โดยเฉพาะติดตั้งไว้เหนือชุด Numpad อีกเซ็ตหนึ่งด้วย

ด้านปุ่ม Function ต่างๆ ของ ASUS TUF Gaming A15 เครื่องนี้ เรียกว่าถูก Mapping มาครบพร้อมใช้งานและปรับแต่งให้เข้ากับการเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คด้วย นอกจากนี้ยังมีปุ่ม Function พิเศษแยกเอาไว้เหนือปุ่ม F1-F4 แยกพิเศษหนึ่งชุด เป็นปุ่มลด, เพิ่มหรือปิดไมค์และปุ่มเรียกโปรแกรม Armoury Crate ส่วนปุ่มอื่นบนคีย์บอร์ดจะ Mapping เอาไว้ดังนี้

• ชุดปุ่มลูกศร – Page Up, Page Down, Home, End
• ปุ่ม Windows – กด Fn+Windows จะล็อคการทำงานของปุ่ม Windows 
• ชุด Function key เหนือ Numpad – Delete/Insert, Pause/Break, Print Screen/System Requirement, Home/End
• ปุ่ม Enter ฝั่ง Numpad – กด Fn+Windows Numpadเรียกเครื่องคิดเลขขึ้นมาใช้งาน

ด้าน Function Hotkey ที่รวมอยู่กับ F1-F12 จะเป็นการ Mapping ลูกผสมระหว่างโน๊ตบุ๊คสายทำงานและเกมมิ่งรวมกัน แต่ก็ถือว่าครบเครื่องทีเดียว โดยมีปุ่มดังนี้

• F1 – ปิดลำโพง
• F2-F3 – ลดหรือเพิ่มความสว่างคีย์บอร์ด
• F4 – Aura Sync ปรับเอฟเฟคไฟคีย์บอร์ด
• F5 – ปุ่มเปลี่ยนโหมดตัวเครื่องระหว่าง Silent, Performance, Turbo
• F6 – เรียก Snipping Tool
• F7-F8 – ลดหรือเพิ่มความสว่างหน้าจอ
• F9 – ปุ่ม Project ตั้งค่าระหว่างหน้าจอหลักและหน้าจอเสริม
• F10 – ปิดหรือเปิดทัชแพด
• F11 – Sleep Mode
• F12 – Airplane Mode

จะเห็นว่าปุ่ม Function Hotkey นั้นจะเป็นปุ่มหลักๆ ผสมกันทั้งปุ่มที่เน้นการเล่นเกมและเป็นปุ่มเอาไว้ทำงานด้วย ซึ่งการเซ็ตปุ่มมาเช่นนี้ถือว่าทำได้ครบถ้วนดีไม่มีปัญหา แต่ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าถ้าเป็นไปได้ ปุ่ม Airplane Mode อาจจะเปลี่ยนเป็นปุ่มสำหรับตั้งค่า MUX Switch จะดีกว่า เพราะไหนๆ ทาง ASUS ก็มีฟังก์ชั่นนี้มาให้ใช้งานแล้ว เผื่อว่าผู้ใช้ที่ต้องการใช้หรือตั้งค่าจะได้ใช้งานได้สะดวกขึ้น

แป้นทัชแพดของ ASUS TUF Gaming A15 ตัวนี้ จะเป็นแป้นขนาดใหญ่ที่ ASUS เคลมไว้ว่ามีขนาดใหญ่กว่าทัชแพดเดิม 26% พร้อมยิงเลเซอร์โลโก้ TUF Gaming เอาไว้มุมบนซ้ายของตัวแป้นด้วย ในด้านการทำงานจัดว่ารองรับการทำงานได้ครบถ้วนดีไม่มีปัญหาไม่ว่าจะลาก, คลิกหรือใช้นิ้วทำ Gesture Control ก็ทำงานได้ตามปกติ เวลาวางมือเพื่อพิมพ์งานบนคีย์บอร์ดจะเห็นว่าตัวแป้นค่อนไปทางขวามือ ทำให้มือซ้ายไม่คร่อมทัชแพดแต่มือขวาจะคร่อมอยู่ส่วนหนึ่ง แต่ถ้าไม่ต้องการใช้งานก็สั่งปิดการทำงานทัชแพดทิ้งแล้วใช้เมาส์แทนก็ได้

Connector / Thin & Weight

พอร์ตของ ASUS TUF Gaming A15 เครื่องนี้ เนื่องจากเป็นดีไซน์ที่เอาช่องระบายความร้อนติดตั้งไว้ด้านหลังเครื่อง พอร์ตต่างๆ จึงยังติดตั้งไว้ด้านข้างตัวเครื่องฝั่งซ้ายขวาเช่นเดิม แต่จะเน้นทางซ้ายเป็นหลัก โดยมีทั้งปลั๊กอแดปเตอร์ชาร์จไฟ, RJ45 LAN, HDMI 2.0b, USB-C 3.2 Gen 1 x 2 ช่อง โดยช่องซ้ายจะใช้โอนถ่ายไฟล์อย่างเดียว แต่ช่องขวาจะรองรับการต่อหน้าจอแยกแบบ DisplayPort พร้อม G-SYNC ในตัว, USB-A 3.2 Gen 1 และ Audio Jack อีกหนึ่งช่อง ส่วนทางขวามือมีแค่ USB-A 3.2 Gen 1 เพียงช่องเดียวเท่านั้น

ซึ่งการเรียงพอร์ตโดยเน้นรวมพอร์ตไว้ฝั่งซ้ายเป็นหลักนั้น คาดว่าเพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ (รวมถึงผู้เขียนด้วย) ถ้าต่อหน้าจอแยกเพื่อทำงานหรือเล่นเกมแล้วมักวางโน๊ตบุ๊คเอาไว้ฝั่งขวามือของหน้าจอเป็นหลัก เลยทำให้ ASUS ติดตั้งพอร์ตสำคัญทั้งหมดเอาไว้ฝั่งซ้ายแทนจะได้ต่อฝั่งเดียว ส่วนขวามือเผื่อไว้ให้ต่อ External Harddisk เพื่อโอนไฟล์เข้าออกเครื่องเท่านั้น

ด้านน้ำหนักตัวเครื่องและปลั๊ก เมื่อชั่งด้วยตาชั่งดิจิตอลแล้ว เฉพาะตัวเครื่องหนักเพียง 1.97 กิโลกรัม ด้านปลั๊กและอแดปเตอร์อยู่ที่ 578 กรัม พอรวมน้ำหนักอุปกรณ์ทั้งหมดจะหนัก 2.55 กิโลกรัม ซึ่งถ้านับเฉพาะน้ำหนักตัวเครื่องอย่างเดียวจัดว่าเป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คที่น้ำหนักเบาใช้ได้ เนื่องจากโน๊ตบุ๊คกลุ่มนี้จะหนักราว 2.3 กิโลกรัมขึ้นไป แต่เครื่องนี้นับว่าเบากว่าที่เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นเป็น แต่เนื่องจากพอร์ต USB-C ยังไม่รองรับ Power Delivery เหมือนเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คบางรุ่นที่เริ่มรองรับการชาร์จประเภทนี้แล้ว เวลาพกเครื่องไปทำงานหรือออกไปธุระก็ต้องใช้กระเป๋าเป้แล้วเตรียมปลั๊กชาร์จไปด้วย ไม่อย่างนั้นอาจจะใช้งานได้ไม่นานแล้วแบตเตอรี่หมดได้

Inside & Upgrade

การเปิดฝาอัพเกรดเครื่อง ASUS TUF Gaming A15 เครื่องนี้ถือว่าแกะได้ง่ายทีเดียว โดยน็อตเป็นหัว Philip Head หรือหัวแฉกเครื่องหมายบวก 12 ตัว เมื่อขันออกหมดแล้วก็สามารถเอาการ์ดแข็งไล่ขอบเปิดฝาเครื่องได้เลย ข้อควรระวัง คือ น็อตตัวล่างขวามือเป็นน็อตแบบปลดเกลียวได้ไม่หมดเพราะมีแหวนพลาสติกรองไว้ พอขันฟรีไม่มีแรงฝืนก็เริ่มเปิดฝาได้

พอร์ตที่อัพเกรดได้จะถูกปิดด้วยพลาสติกป้องกันไฟฟ้าสถิตย์สีดำหนึ่งแผ่นใหญ่ เวลาแกะแล้วจะมีแรม 8GB DDR5 บัส 4800MHz ติดตั้งมาให้แล้ว 1 ช่อง อัพเกรดเพิ่มได้อีก 1 ช่อง รองรับความจุสูงสุด 32GB ส่วนช่อง M.2 NVMe SSD จะมีอยู่ฝั่งซ้ายและขวาของตัวเครื่อง เป็นอินเตอร์เฟส PCIE 3.0 x4 ทั้ง 2 ช่อง โดยฝั่งซ้ายมีความจุ 512GB ติดตั้งมาให้จากโรงงาน ใส่เพิ่มได้อีก 1 ช่องขวามือ ถือว่ามีช่องสำหรับอัพเกรดติดตั้งมาครบถ้วนเพียงพอใช้งานเท่ากับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบันนี้

Performance & Software

ซีพียูที่ติดตั้งมาใน ASUS TUF Gaming A15 เครื่องนี้เป็น AMD Ryzen 6800H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็ว 3.2-4.7GHz เป็นสถาปัตยกรรม Rembrandt ค่า TDP อยู่ที่ 45 วัตต์ รองรับชุดคำสั่งต่างๆ ครบถ้วนพร้อมทำงาน ซึ่งในแง่กำลังการประมวลผลต่อคอร์จัดว่าทรงพลังแน่นอน

แรมที่ติดตั้งมาจากโรงงานมีความจุ 8GB DDR5 บัส 4800MHz เป็นแรมชิป Samsung รองรับการอัพเกรดสูงสุด 32GB เป็นแรมแบบ SO-DIMM จำนวน 2 ช่อง ถ้าเดิมๆ ที่ติดตั้งมาไม่พอก็ถอดอัพเกรดได้สะดวก

การ์ดจอที่ติดตั้งมาเป็น NVIDIA GeForce RTX 3050 แรม 4GB GDDR6 ซึ่งประสิทธิภาพถ้าเอามาเล่นเกมฟอร์มยักษ์ประจำปี 2022 นี้ ต้องถือว่าเล่นได้ทุกเกม รองรับชุดคำสั่งครบถ้วนทั้ง OpenCL, OpenGL 4.6, CUDA, DirectCompute, DirectML, Vulkan, Ray Tracing, PhysX ด้วย ส่วนค่า TGP ของการ์ดจอหลังทำ Dynamic Boost จะได้ 95 วัตต์ (การ์ดจอ 80 วัตต์กับการทำ Dynamic Boost 15 วัตต์) ในแง่ของการใช้งาน จะใช้ตัดต่อวิดีโอก็ไม่มีปัญหาและยังเล่นเกมได้ดีอย่างแน่นอน

ด้านพาร์ทในเครื่อง จะเห็นว่า ASUS TUF Gaming A15 เครื่องนี้จะมีชิป TPM 2.0 ติดตั้งมาให้ ใส่ SSD ของ Intel ความจุ 512GB มาให้ ส่วนการ์ด Wi-Fi เป็น MediaTek MT7921 เป็น Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax ซึ่งถ้าใช้งานทั้งทำงานหรือเล่นเกมตามปกติถือว่าใช้ดีไม่มีปัญหา

ด้าน SSD ใน ASUS TUF Gaming A15 รุ่น Intel SSDPEKNU512GZ ความจุ 512GB ซึ่งเป็นเป็นรหัส OEM เมื่อวัดความเร็วด้วย CrystalDiskMark แล้ว ได้ Sequential Read 3,061MB/s และ Sequential Write 1,638MB/s จัดว่าเร็วใช้ทำงานและเล่นเกมได้ดีแน่นอน แต่ในส่วน Sequential Write ต้องถือว่ายังน้อยอยู่ ซึ่งถ้าใครอยากได้ความเร็วสูงขึ้นอีกนิดระดับสุดของ PCIe 3.0 x4 ที่ติดตั้งมาในเครื่อง อาจจะหา Samsung 970 EVO Plus, WD Black SN750 หรือ Transcend 220S มาใส่ก็จะโหลดไฟล์และเกมได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน

ด้านกำลังการประมวลผล 3D CG ที่ใช้ CINEBENCH R15 ทดสอบ จะได้คะแนน OpenGL 135.18 fps และ CPU 1,968 cb ด้วยกัน และเมื่อทดสอบแบบเน้นที่ซีพียูด้วย CINEBENCH R20 แล้ว จะเห็นว่า AMD Ryzen 7 6800H นี้กวาดคะแนนไปสูงถึง 5238 pts ทีเดียว จัดว่าซีพียูในเครื่องนั้นทรงพลังมาก ถ้าใครเอาไปทำงาน 3D CG ต่างๆ นับว่าทำได้เลย เพราะกำลังการประมวผลของซีพียูอย่างเดียวถือว่าสุดยอดมาก

ด้าน 3DMark Time Spy ที่ทดสอบการเล่นเกม 3D ในปัจจุบันนี้ จะเห็นว่าคะแนนรวมกวาดไปสูง 5,623 คะแนนแล้ว ดังนั้นจะต่อจอเกมมิ่ง 1080p~QHD ก็เล่นได้ไม่มีปัญหา ถ้ามองคะแนนแยกเป็นหมวด จะเห็นว่าคะแนน CPU score สูงถึง 8,580 คะแนนและ Graphics score อยู่ที่ 5,301 คะแนน กล่าวง่ายๆ คือ AMD Ryzen 7 6800H รีดกำลังของ NVIDIA GeForce RTX 3050 ออกมาได้อย่างหมดจด จะเอาไปจับคู่กับ RTX 3060 ก็ยังทำได้สบายๆ ไม่มีปัญหาแน่

ในส่วนนี้ผู้เขียนเห็นว่า ASUS TUF Gaming A15 สามารถเล่นเกมได้ทุกแนวแน่นอน และจะเด่นกับเกมประเภทเน้นใช้กำลังซีพียูอย่างเดียว (CPU Intensive) มาก ตัวอย่างเช่น Total War: Warhammer 2, Shadow Of The Tomb Raider, Red Dead Redemption 2 เป็นต้น ส่วนเกมที่อิงไปทางการ์ดจอเป็นหลักก็เล่นได้ดีไม่แพ้กันแน่นอน

ด้าน PCMark10 ที่เน้นทดสอบว่าพีซีหรือโน๊ตบุ๊คเครื่องนั้นๆ สามารถทำงานได้ดีระดับไหน ต้องถือว่า ASUS TUF Gaming A15 เครื่องนี้ทำได้ดีมาก ซึ่งคะแนนรวมจะอยู่ที่ 6,535 คะแนน หมายความว่างานออฟฟิศไหนๆ ก็สามารถทำได้ โดยจะเด่นในหมวด Essential อย่างการเปิดปิดโปรแกรม, เว็บเบราเซอร์หรือประชุมออนไลน์ ส่วนการตัดต่อวิดีโอ, แต่งภาพ เปิดไฟล์งานตระกูล Microsoft Word, Excel ถือว่าทำได้ดีไม่แพ้กัน ดังนั้นในแง่การทำงานถือว่าผ่านได้เลย

ด้านการทดสอบเล่นเกมด้วย ASUS TUF Gaming A15 เมื่อดูสเปคทั้งหมดแล้ว ผู้เขียนมั่นใจว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้เล่นเกมฟอร์มยักษ์ในปี 2022 ทั้งหมดแล้วปรับสุดได้อย่างแน่นอน ซึ่งจากเกมทุกเกมที่เลือกมาทดสอบนั้น จะเห็นว่าเฟรมเรททุกเกมสามารถขึ้นไปได้เฉลี่ยเกิน 60 fps หรือถ้าเป็นเกม RPG อย่าง Elden Ring ที่ล็อคเฟรมเรทเอาไว้สูงสุดที่ 60 fps ก็ยังได้เฟรมเรทเฉลี่ยเกิน 30 fps อยู่ ดังนั้นอาจกล่าวได้เลยว่าสเปคเดิมๆ จากโรงงานก็ยังเล่นเกมฟอร์มยักษ์ในปัจจุบันนี้ได้สบายๆ 

แต่จุดหนึ่งเวลาเล่นเกมที่ผู้เขียนเจอระหว่างทดสอบเล่นเกมด้วยโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้เกิดขึ้นตอนเล่น PUBG แล้วโดดร่มลงมา ภาพจะกระตุกค้างราว 1 วินาที จนทำให้เฟรมเรทตกเหลือ 2 fps คาดว่ามาจากแรมไม่พอใช้หรือ Wi-Fi เกิดการโหลดไม่ทันการใช้งาน แต่พอลงพื้นแล้วก็เล่นได้ตามปกติ ไม่เจอปัญหานี้แต่อย่างใด

ข้อสังเกตอีกอย่างที่ผู้เขียนขอกล่าวถึง คือ แม้จะทดลองรัน Benchmark เกมหลายครั้งแล้ว แต่ผลลัพธ์ก็ยังได้ใกล้เคียงกับกราฟที่นำเสนออยู่ดี ทั้งที่ NVIDIA GeForce RTX 3050 เองก็ไม่ได้เป็นการ์ดจอเกมมิ่งที่ดีระดับหนึ่งและควรทำเฟรมเรทได้สูงกว่านี้ อย่าง PUBG ก็ควรได้เฟรมเรทสูงสุดไปแตะเกือบ 200 fps, Resident Evil Village ก็ควรได้เฟรมเรทสูงสุดราว 130 เฟรมหรือสูงกว่านี้ด้วยซ้ำ ซึ่งจุดที่ผู้เขียนตั้งธงสันนิษฐานเอาไว้เป็นจุดแรก คือ แรมในตัวเครื่องที่มีเพียง 8GB เท่านั้นและ MSI Afterburner ที่เปิดดูตอนทดสอบด้วย ก็เห็นว่าตัวเครื่องเรียกแรมเต็มตลอดเวลาจนแทบไม่เหลือให้เครื่องใช้อย่างอื่นเลยแต่อาการนี้เวลาเอามาใช้ทำงานตามปกติไม่ค่อยเจอนัก ดังนั้นถ้าใครคิดอยากซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้มาทำงานหรือเล่นเกม ก็ขอให้กัดฟันซื้อแรม DDR5 มาอีกสัก 8GB อัพเกรดเข้าไปเลยตั้งแต่ต้นจะดีที่สุด

ด้านความสงสัยว่า AMD Radeon Graphics แบบ 12 คอร์ที่ติดตั้งอยู่ใน AMD Ryzen 7 6800H จะใช้เล่นเกมได้ดีระดับไหน ซึ่งในส่วนนี้ขอแจ้งก่อนว่าผู้เขียนไม่ได้เข้าไปปรับแต่งการตั้งค่าใน BIOS แต่อย่างใด ใช้การตั้งค่าพื้นฐานกับแรม 8GB DDR5 4800MHz ในเครื่องเพียงแถวเดียวเท่านั้น โดยพื้นฐานแล้ว ถ้าจะให้ AMD Radeon Graphics ในซีพียูทำงานได้ดีที่สุด พีซีหรือโน๊ตบุ๊คเครื่องนั้นๆ ควรมีแรมในเครื่อง 2 แถว Dual-Channel ไว้แบ่งให้การ์ดจอออนบอร์ดด้วยถึงจะดีที่สุด

ซึ่งผลที่ได้จากการมีแรมเพียงแถวเดียวและปรับกราฟฟิคสูงสุด จะเห็นว่าเกมที่ไม่กินสเปคเครื่องมากอย่าง DotA 2 นั้นยังพอเล่นได้อยู่ แต่พอเป็นเกมออนไลน์ที่ปรับกราฟฟิคได้ซับซ้อนกว่าอย่าง PUBG นั้นได้เฟรมเรทน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดจนเหลือค่าเฉลี่ยเพียง 17 เฟรมเท่านั้น ด้าน Elden Ring ที่เป็นเกมฟอร์มยักษ์นั้น แม้จะได้เฟรมเรทเฉลี่ยราว 21 เฟรมก็ตาม แต่ถือว่าเล่นไม่ได้ เนื่องจากตัวเกมตัด Object เคลื่อนไหวอย่างศัตรูออกไปจนหมด เหลือแต่ Object ประเภทอาคารในฉากที่เรนเดอร์ค้างเอาไว้เท่านั้น ทำให้กะระยะต่อสู้หรือกระโดดหนีไม่ได้เลย ดังนั้นถ้าใครได้โน๊ตบุ๊คที่ใช้ AMD Ryzen ไปแล้วใช้การ์ดจอ AMD Radeon Graphics ล่ะก็ ควรอัพเกรดให้แรมเป็น Dual-channel และมีพื้นที่เกิน 8GB ขึ้นไป ผู้เขียนเชื่อว่าเฟรมเรทและกราฟฟิคภายในเกมจะดีขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน

Battery & Heat & Noise

ด้านแบตเตอรี่ขนาด 56Wh ที่ติดตั้งมาให้ในเครื่อง เป็นแบตเตอรี่แบบ Li-Polymer ความจุอยู่ที่ 3,620mAh (Typical), 3,515 (Rated) วางตัวอยู่ตรงกลางเครื่องระหว่างลำโพงสองตัวที่ติดตั้งอยู่ริมเครื่อง ซึ่งเป็นความจุที่พบเจอได้ในเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ เครื่องในปัจจุบัน แต่เพราะแบตเตอรี่มีความจุไม่เยอะและวางไว้ตรงกลาง ทำให้เหลือพื้นที่ข้างแบตเตอรี่ทั้งสองฝั่งอยู่พอวางเหรียญ 10 บาทได้ทีเดียว ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าแทนที่ ASUS จะเว้นพื้นที่เอาไว้สองฝั่งเช่นนี้แล้วให้แบตเตอรี่ความจุเท่าเดิม สู้เพิ่มความจุไปราว 75-91Wh ให้ตัวแบตเตอรี่ยืดจนสุดขอบเหมือนแบรนด์คู่แข่งเลยยังดีเสียกว่า ไม่เกิดข้อสงสัยในใจผู้ใช้ที่ซื้อเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไปเสียด้วยซ้ำ

สำหรับระยะเวลาใช้งานของ ASUS TUF Gamin A15 เครื่องนี้ จากการทดสอบตามมาตรฐานของเว็บไซต์โดยปิดไฟ LED Backlit, ลดความสว่างหน้าจอให้ลงมาต่ำสุด, ปรับเสียงลำโพงให้ดังเพียง 10% และเปิดโหมดประหยัดพลังงานก่อนจะดูคลิปใน YouTube นาน 30 นาทีด้วย Microsoft Edge แล้ว ระยะเวลาใช้งานที่ BatteryMon วัดได้จะอยู่ได้นานสุดเพียง 6 ชั่วโมง 28 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่าไล่เลี่ยกับเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คหลายๆ เครื่องในปัจจุบันนี้

ทว่าจุดสังเกตที่น่าสนใจอยู่ที่ซีพียูในเครื่องนี้ ซึ่งเป็นรหัส AMD ซีรี่ส์ H แบบประสิทธิภาพสูง ซึ่งใช้พลังงานเยอะกว่าซีรี่ส์ U ที่เน้นประหยัดพลังงาน ซึ่งจากประสบการณ์ของผู้เขียนก็ตั้งธงไว้ว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้อาจจะใช้งานได้ไม่เกิน 5 ชั่วโมง เครื่องก็ดับแล้ว แต่พอใช้งานจริงกลับอยู่ได้นานกว่าที่ตั้งใจเอาไว้ ก็ต้องถือว่าการจัดการพลังงานของโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ทำได้น่าประทับใจทีเดียว

ด้านระบบระบายตวามร้อนกับพัดลม ARC Flow Fans ที่ทาง ASUS เคลมเอาไว้ว่าระบายความร้อนได้ดีกว่าเดิม 13% นั้น จะติดตั้งอยู่ใน ASUS TUF Gaming A15 เครื่องนี้ 2 ตัวด้วยกันและเดินฮีตไปป์ 4 เส้น พาดซีพียูและการ์ดจอในเครื่องไปยังฮีตซิ้งค์แล้วระบายออกด้านหลัง 2 ช่องและข้างขวาเครื่องอีกหนึ่งช่อง ซึ่งจากที่ใช้งานจริงเวลาทำงานตามปกติอย่างการเปิดเว็บเบราเซอร์หรือทำงานเอกสารทั่วไปจะแทบไม่ได้ยินเสียงพัดลมระบายความร้อนเลย แต่ถ้าเปิดเกมเล่นหรือทำงานหนักหรือเปิดโหมด Turbo แล้ว จะเริ่มได้ยินเสียงหวีดของพัดลมแทรกมาเบาๆ เท่านั้น ต้องถือว่าเสียงรบกวนนั้นน้อยกว่าที่คิดมาก

ด้านอุณหภูมิตัวเครื่องที่เช็คด้วย CPUID HWMonitor แม้จะโหลดเครื่องให้ทำงานเต็มที่แล้วก็ตม จะเห็นว่าการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3050 นั้น อุณหภูมิจะอยู่ช่วง 53~91.3 องศาเซลเซียสเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่ HWMonitor ยังจับความร้อนของ AMD Ryzen 7 6800H ไม่ได้ว่าร้อนแค่ไหน แต่จากที่ใช้งานจริงเวลาทำงานทั่วไป ASUS TUF Gaming A15 เครื่องนี้จะแทบไม่ร้อนเลย ยกเว้นเฉพาะตอนเล่นเกมเท่านั้นที่บริเวณกลางตัวเครื่อง ราวๆ ปุ่ม J, K ของคีย์บอร์ดค่อนไปจนเกือบปุ่ม Enter และขอบบนของตัวเครื่องที่เป็นช่องระบายความร้อนจะอุ่นขึ้นระดับหนึ่ง แต่ยังอยู่ในระดับที่จับได้ไม่ลวกมือ ดังนั้นถ้าใครเล่นเกมก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนเลย และถ้าใครใช้วิธีวางบนแท่นวางโน๊ตบุ๊คแล้วต่ออุปกรณ์แยกออกมาแทน ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อนของตัวเครื่องเลยก็ได้

User Experience

ในฐานะที่ ASUS TUF Gaming A15 เป็นเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องหนึ่งที่ประสิทธิภาพสูงมาก จะทำงานออฟฟิศหรือครีเอทีฟทั่วไปก็จัดการได้สบายๆ จะมีก็แค่เรื่องงานอาร์ตระดับมือโปร ที่เคร่งเรื่องความเที่ยงตรงและขอบเขตสีเท่านั้นที่ผู้เขียนคิดว่าต้องต่อหน้าจอแยกที่ทำมาเพื่องานประเภทนี้โดยเฉพาะถึงจะดีที่สุด แต่โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ก็มีพอร์ต HDMI, USB-C ที่รองรับ DisplayPort มาครบถ้วนแล้ว ดังนั้นในฐานะโน๊ตบุ๊คสายทำงานสักเครื่องก็ถือว่าไม่มีปัญหาเลย

กลับกันในฐานะเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คเครื่องหนึ่ง ก็ถือว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้สามารถเล่นเกมฟอร์มยักษ์ในปัจจุบันได้อย่างดีไม่มีปัญหาเลย ยิ่งเล่นเกมที่ความละเอียดหน้าจอระดับ 1080p ก็สามารถเล่นได้สบายๆ จะต่อผ่านทาง HDMI 2.0b ก็ได้ หรือจะผ่าน USB-C ที่รองรับ DisplayPort พร้อม G-SYNC ในตัวก็ไม่มีปัญหา ก็ปรับกราฟฟิคไประดับสูงสุดได้เลย แต่จะติดก็แค่เรื่องแรมที่ติดตั้งมาจากโรงงานเพียง 8GB ซึ่งเริ่มออกอาการไม่พอใช้งานมาเกือบ 3-4 ปีแล้ว แม้จะใช้ทำงานทั่วไปได้ แต่ก็น้อยไปถ้าจะเล่นเกมสักเกมหนึ่ง เพราะสเปคขั้นต่ำของเกมในปัจจุบัน นอกจากซีพียูแล้วก็เริ่มเรียกร้องแรมมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างปัจจุบันนี้หลายๆ เกมก็ต้องใช้แรมขั้นต่ำ 8GB ขึ้นไป และบางเกมก็ขอแรมขั้นต่ำ 12GB ด้วยซ้ำ ดังนั้นผู้เขียนขอย้ำผู้ที่สนใจอีกครั้งหนึ่งว่าถ้าซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้มาแล้ว ก็กัดฟันอัพเกรดแรมเป็น 16GB ก่อนเป็นอย่างแรกเลย จะได้รับงานหนักและเกมใหญ่ๆ ได้เต็มที่

และหากใครคิดว่าจะซื้อโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้มาเป็น Desktop Replacement ใช้งานเป็นเกมมิ่งพีซีตั้งโต๊ะและพกเครื่องไปไหนมาไหนด้วยล่ะก็ ผู้เขียนขอแนะนำให้ลงทุนกับกระเป๋าเป้สักใบและหาฐานโน๊ตบุ๊คดีๆ มาเตรียมไว้ได้เลย เพราะถ้ามีฐานวางโน๊ตบุ๊คดีๆ ก็ช่วยให้โน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ระบายอากาศได้ดี รีดประสิทธิภาพตอนทำงานและเล่นเกมได้เต็มที่ ส่วนกระเป๋าเป้ดีๆ สักใบก็ทำให้พกโน๊ตบุ๊คเครื่องนี้ไปกลับออฟฟิศได้โดยไม่สร้างภาระและก่ออาการบาดเจ็บให้ร่างกายได้ด้วย ไม่แนะนำให้ใช้กระเป๋าสะพายข้างเพราะแม้เครื่องจะหนักราว 2 กิโลกรัมก็ตาม แต่ถ้าแบกด้วยไหล่ข้างเดียวก็อาจจะเกิดอาการไหล่ทรุดแล้วบาดเจ็บในระยะยาวอย่างแน่นอน

Conclusion & Award

จะเห็นว่า ASUS TUF Gaming A15 เครื่องนี้เป็นเครื่องที่เปิดมากับราคา 37,990 บาท แต่ให้ทั้งดีไซน์ตัวเครื่องที่ใหม่และคุ้มทีเดียว เพราะในเครื่องนี้ได้ AMD Ryzen 7 6800H, NVIDIA GeForce RTX 3050, RAM 8GB DDR5 และ M.2 NVMe SSD 512GB ติดตั้ง Windows 11 Home มาแบบครบเครื่องพร้อมใช้งานได้เลย 

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้เขียนอยากแนะนำคือ ให้รีบอัพเกรดแรมไปเลยตั้งแต่ต้นและถ้าใครจะลงเกมหรือติดตั้งโปรแกรมในเครื่องเยอะสักหน่อยแล้วกลัวว่า M.2 NVMe SSD 512GB ในเครื่องจะไม่พอจุไฟล์งานกับเกม ก็ซื้อ M.2 NVMe SSD ดีๆ สัก 1-2 ชิ้นมาอัพเกรดเป็นไดรฟ์ C:\, D:\ ได้เลย ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นมาก แม้อินเตอร์เฟสจะเป็น PCIe 3.0 x4 อยู่แล้วยังไม่ได้อัพเกรดเป็น PCIe 4.0 ก็ตาม ก็ยังถือว่าเร็วมากและราคายังปรับตัวถูกลงแล้วด้วย

สุดท้ายหากตัดเรื่องสิ่งที่ต้องอัพเกรดแล้ว ผู้เขียนคิดว่าราคา 37,990 บาท ของ ASUS TUF Gaming A15 เครื่องนี้อยู่ในระดับที่กำลังดีไม่ถูกไม่แพงเกินไป แม้หลายคนจะคิดว่าในงบประมาณระดับนี้ยังมีโน๊ตบุ๊คดีๆ ให้เลือกอีกหลายรุ่นก็ตาม แต่สำหรับความสดใหม่ทั้งดีไซน์และซีพียู AMD ประสิทธิภาพสูงและแรม DDR5 ในเครื่องล่ะก็ ผู้เขียนนับว่ามันเป็นโน๊ตบุ๊คที่คุ้มค่าจะจ่ายซื้อมาใช้งานอย่างแน่นอน

award

best performace

Best Performace ที่ ASUS TUF Gaming A15 เครื่องนี้ได้ไป ต้องยกให้กับซีพียู AMD Ryzen 7 6800H ที่ประสิทธิภาพสูงมากพอจะรันงานหนักๆ ในเครื่องนี้ได้สบายๆ อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังบริหารแบตเตอรี่ในเครื่องได้อย่างชาญฉลาดอีกด้วย

best gaming

ASUS TUF Gaming A15 สามารถเล่นเกมฟอร์มยักษ์ไปได้อีก 2-3 ปีได้สบายๆ ด้วย AMD Ryzen 7 6800H, NVIDIA GeForce RTX 3050 และได้แรม DDR5 ที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว พร้อมพอร์ต HDMI, USB-C รองรับ DisplayPort กับ G-SYNC ในตัว จะเล่นบนหน้าจอโน๊ตบุ๊คหรือจอแยกก็ดีทั้งคู่อย่างแน่นอน