Connect with us

Hi, what are you looking for?

Accessories review

Verbatim Store ?n? Go ผู้ช่วยจัดการความยุ่งยากในการย้ายไฟล์

คือ Verbatim Store ?n? Go ซึ่งเป็น External HDD ชิ้นหนึ่งนั่นเอง

Performance & Transfer Rates

Advertisement

ต่อมาทาง notebookcheck ก็ได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพในการทำงานครับ ก่อนอื่นก็ต้องบอกก่อนว่า format ของ HDD ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Mac นั้นคือ HFS+ ซึ่งแน่นอนว่าใช้กับ Windows ไม่ได้ ส่วนถ้าจะใช้ร่วมกันระหว่าง 2 platform ก็คงจะต้องเป็น FAT32 นะครับ ถึงจะมองเห็นไฟล์ด้วยกันทั้งคู่

แต่ในการทดสอบนี้ ทาง notebookcheck ได้เลือกทำการทดสอบที่จะรีดประสิทธิภาพทั้งหมดออกมาครับ นั่นคือ บน Mac จะใช้เป็น HFS+ ส่วนใน Windows จะใช้เป็น NTFS สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการทดสอบก็มีดังนี้

  • MacMini
  • HP ProBook 6540b
  • Mainboard MSI 880 GMA E45
  • FW 800 ExpressCard/34 from IOI
  • Icy Box USB 3.0 ExpressCard/34

ต่อไปมาดูผลที่ได้จากการเทสด้วย HD Tune กันก่อนครับ

FireWire 800

fw800-hd

USB 3.0

u-hd

เมื่อทำการเปรียบเทียบกันแล้ว จะพบว่า USB 3.0 ให้ความเร็วการอ่านสูงกว่า FireWire 800 อยู่พอสมควร แต่ก็มีข้อเสียที่มีการใช้ CPU สูงกว่า และความเร็วไม่นิ่ง ไม่เสถียรเท่า FireWire 800 ครับ

CrystalDiskMark 2.2

เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่ไว้ใช้ทดสอบความสามารถในการอ่าน-เขียนของ HDD ครับ โดยค่ายิ่งมากก็ยิ่งดี

ในการทดสอบนี้ได้ทำบนเครื่อง HP ProBook 6540b ส่วน FireWire 800 นั้นก็ใช้การทดสอบผ่านทาง ExpressCard ครับ

ผ่าน FireWire 800

crystal_fW800_01

ผ่าน USB 3.0

Crystal_USB3_MSI_01

จากภาพข้างบน จะเห็นได้เลยว่าความเร็วในการอ่านนั้นแทบจะไม่ต่างกันเท่าไร แต่จุดที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือความเร็วในการเขียน ที่ USB 3.0 มีความเร็วสูงกว่าครับ

มีข้อสังเกตมานิดหนึ่งเกี่ยวกับการใช้พอร์ต FireWire 800 นี้นะครับ คือถ้านำ Verbatim Store ?n? Go นี้ไปใช้บน Mac ก็ใช้เพียงแค่สายเดียว แต่ถ้านำมาใช้ผ่าน ExpressCard ละก็ จะต้องเสียบสาย USB 2.0 เพื่อจ่ายไฟเพิ่มให้ด้วย ดังนั้น Verbatim จึงได้แถมสายมาให้ด้วยครับ

ต่อมาจะเป็นการทดสอบที่เน้น USB 3.0 ครับ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าไม่สามารถใช้บน Mac ได้ ดังนั้นจึงสามารถใช้งานได้แค่ USB 2.0 เท่านั้น ผลการทดสอบก็เป็นดังนี้ครับ

FireWire 800

FW800_MacMini_Kopie_01

USB 2.0

USB_2_01

ก็ไม่ต้องห่วงครับ FireWire 800 กินขาดอย่างแน่นอน โดยชนะไปได้ทุกการทดสอบเลยทีเดียว

ต่อไปก็เป็นการทดสอบที่จะดูประสิทธิภาพเต็มๆของ USB 3.0 โดยทำการทดสอบบน Windows ก็ได้ผลคือ

  • ความเร็วในการส่งข้อมูล (transfer rate) 83 MB/s
  • ความเร็วในการอ่าน-เขียน 80 MB/s

ซึ่งก็เหมือนเดิมครับ นั่นคือเมื่อต่อกับ Mac นั้น ใช้เพียงแค่สายเดียวก็อยู่แล้ว แต่ถ้ามาใช้บน Windows กลับต้องต่อสาย USB 2.0 เพื่อจ่ายไฟเพิ่มอยู่ดี

7 thumb

สรุป

ประสิทธิภาพที่ได้จาก Verbatim Store ?n? Go นั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจเลยทีเดียว แต่ถ้านำไปใช้บน Mac ก็คงต้องยอมรับกับความเร็วในการเขียนไฟล์ที่ดูจะน้อยกว่าใน Windows พอสมควร แต่ก็มีข้อดีคือความแข็งแรงของวัสดุที่จะทำให้หายห่วงไปได้เลยครับ ถ้าใครสนใจก็เตรียมเงินไว้ซื้อหากันได้เลยจำนวน 90 ยูโร (ประมาณ 3,800 บาท)

ที่มา : NotebookCheck

Pages: 1 2

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Mac Corner

ถ้าใช้คอมพิวเตอร์เป็นประจำ ไม่ว่าจะ Windows หรือ MacBook ทุกคนย่อมกดคีย์ลัดสั่งการให้คอมของตัวเองทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้นแน่นอน ถ้าใช้คอมมานานแล้ว คีย์ลัด Mac ก็ยังใช้วิธีกดปุ่มคำสั่ง 2-3 ปุ่มรวมกัน แค่เปลี่ยนชื่อกับภาพไอคอนปุ่มคำสั่ง (Modifier) บางปุ่มให้เป็นตามแบบฉบับของ Apple เอง คนที่ย้ายจาก Windows มาใช้ macOS ก็ใช้เวลาปรับตัวเรียนรู้คีย์ลัดสักระยะก็ใช้งานได้ถนัดอย่างแน่นอน ก่อนจะเริ่มใช้งานคีย์ลัด Mac...

Buyer's Guide

ในยุคนี้ที่อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบออฟไลน์หาซื้อได้ง่ายหลายช่องทางจะหาซื้อแฟลชไดร์ฟราคาดีก็ง่าย กำเงินไปร้อยสองร้อยบาทตรงเข้าร้านคอมใกล้บ้านก็ซื้อมาเซฟงานได้แล้ว ยิ่งยุคนี้เทคโนโลยีการบันทึกข้อมูลก็ล้ำสมัยขึ้นเรื่อยๆ จึงมีแฟลชไดร์ฟความจุตั้งแต่ 8GB ไปจนหลัก TB วางขายกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งปัจจุบันก็จะมีแบรนด์ชั้นนำอย่าง Lexar, Kingston, SanDisk ให้เลือกซื้อกัน แต่หลายคนคงสงสัยว่าจะซื้อของชิ้นนี้ไว้ทำไมในเมื่อมีวิธีเซฟข้อมูลให้เลือกตั้งมากมาย? ถ้าเอาเรื่องใกล้ตัวอย่างการฟอร์แมตคอมลง Windows ใหม่ ก็ต้องเขียนไฟล์ระบบปฏิบัติการลงแฟลชไดร์ฟเอาไว้ล้างเครื่องอย่างแน่นอน หรือถ้าเป็นสายท่องเที่ยวถ่ายภาพอัดคลิปไว้มากมายแล้วหน่วยความจำในมือถือเต็ม แทนที่จะอัปโหลดขึ้น Cloud ให้เปลืองแพ็คเกจโรมมิ่งหรือรอไปต่อ Wi-Fi ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้ใช้เมื่อไหร่...

IT NEWS

ตามรายงานเกี่ยวกับมัลแวร์ประจำปี 2024 ของ Jamf บริษัทจัดการอุปกรณ์มือถือในระดับองค์กร ที่ดูแลในด้านความปลอดภัยของอุปกรณ์ได้เผยให้เห็นถึงภัยคุกคามจากมัลแวร์ ฟิชชิ่ง และไวรัสมากขึ้นสำหรับผู้ใช้ iPhone และ iPad โดยจากรายงานดังกล่าวชี้ว่า Advertisement 9% ของผู้ใช้มือถือทั้งระบบ Android และ iOS ถูกการโจมตีแบบฟิชชิ่ง 20% ของบริษัทมีความเสี่ยงจากการตั้งค่าสมาร์ทโฟนที่ไม่ปลอดภัย 40% ของผู้ใช้งานมือถือใช้โทรศัพท์ที่มีช่องโหว่อยู่ในระบบ 39%...

CONTENT

โดยปกติอุปกรณ์ที่ใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตจะต้องมีการตั้งค่าเครือข่ายอยู่เสมอ และเมื่อมันไม่ดีขึ้นมาเมื่อไรคุณก็สามารถรีเซ็ทได้ วันนี้มาดูวิธีการของทางฝั่ง Mac กันบ้าง Mac ที่ใช้งาน macOS นั้นส่วนใหญ่แล้วถือว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่มีความน่าเชื่อถือเกือบตลอดเวลา แต่บางครั้งคุณอาจประสบปัญหาในขณะที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือพบกับความเร็วในการท่องเว็บที่ช้าลงได้ อินเทอร์เน็ตอาจทำงานได้ดีบนอุปกรณ์อื่นๆ ของคุณ(แต่กับ Mac แล้วดันช้าไปซะอย่างนั้น) ซึ่งปัญหาดังกล่าวนี้อาจสร้างความรำคาญได้ ซึ่งปัญหานี้นั้นมักไม่ชัดเจนว่าสาเหตุของปัญหาคืออะไร หรือแม้กระทั่งสรุปแล้วมันมีปัญหาที่ตัว Mac จริงๆ หรือเปล่า อย่างไรก็ตามหากคุณพบว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับปัญหาคล้ายกันนี้ คุณอาจต้องทำการรีเซ็ตการตั้งค่าเครือข่ายบนเครื่อง Mac ของคุณ...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก