ลำโพงคอม 2022 เล่นเกม ดูหนัง 9 รุ่น ไม่เกิน 2,000 สวย ประหยัดพื้นที่ จัดโต๊ะคอมสวย
ลำโพงคอมไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการเพิ่มความสนุกสนานให้กับการเล่นเกมหรือความบันเทิงต่างๆ ในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการมีส่วนช่วยตกแต่งจัดโต๊ะคอมให้ดูสวยงามลงตัวมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่ารูปแบบการใช้ชีวิตของคนที่อยู่กับคอมพิวเตอร์และโต๊ะทำงานเปลี่ยนแปลงไป และการทำงานแบบ Work from Home รวมถึงการเรียนออนไลน์ ก็ทำให้เรื่องของเสียงมีความสำคัญ วันนี้เราจึงเลือกลำโพงคอมที่น่าสนใจ ในราคาที่ย่อมเยา ขนาดกระทัดรัด ให้การปรับจูนเสียงและการเชื่อมต่อแบบไร้สายมาให้ได้ชมกันถึง 9 รุ่น จาก 6 ยี่ห้อ เป็น Speaker ในราคาสบายกระเป๋า เอาใจบรรดาคอเกมในปี 2022 นี้ ในราคาไม่เกิน 2,000 บาท ส่วนจะมีรุ่นใดบ้าง ไปชมกันครับ
ลำโพงคอม 9 รุ่นน่าใช้งบ 2,000 บาท
- Audio-Technica AT-SP95
- Microlab B70BT
- Edifier M206BT 2.1
- Edifier X230
- CREATIVE Pebble Plus
- BINNIFA Play 3D
- Microlab B77-BT
- JBL PS2200 2.0
- Edifier R19 U-BL
1.Audio-Technica AT-SP95
ใครที่ชื่นชอบลำโพงคอมในสไตล์มินิมอล ประหยัดพื้นที่ จัดวางบนโต๊ะทำงานได้ลงตัว ดีไซน์ดูเรียบหรู Audio-Technica รุ่นนี้มาในโทนสีเทาดำ ต่อสาย USB ง่ายๆ ไม่วุ่นวาย หรือถ้าจะใช้กับมือถือ ก็ต่อเข้ากับแจ๊ค 3.5mm เรียกว่าเป็นแบรนด์ใหญ่ที่มาทำตลาดลำโพงน้องเล็ก ให้คอเกมและสายบันเทิงได้สัมผัสกันในราคาสบายกระเป๋า มิติกระทัดรัด แค่ประมาณขวดน้ำดื่ม 500ml และเป็นแบบ 2 ลำโพง ซ้าย-ขวา พร้อมปุ่มปรับระดับเสียงด้านหน้า และช่องต่อหูฟัง เพาเวอร์แอมป์ 4W กำลังขับแบบ 2W+2W สายต่อยาว 1.5 เมตร ยาวมากพอกับพีซีโน๊ตบุ๊ค เรื่องของเสียงก็จะเน้นไปที่การทำงานพื้นฐาน ความบันเทิงและการเล่นเกมในระดับเริ่มต้น เสียงเอฟเฟกต์พอใช้ เสียงกลางทำได้ดีทีเดียว สนนราคาอยู่ที่ 1,490 บาท
จุดเด่น
- ดีไซน์สวย ใช้งานง่าย
- ขนาดกระทัดรัด
ข้อสังเกต
- เป็นลำโพงแบบใช้สายต่อเข้า USB, AUX
ข้อมูลเพิ่มเติม Audio-Technica
2.Microlab B70BT
เป็นลำโพงคอมจากค่ายที่โลดแล่นอยู่ในตลาดเครื่องเสียงบ้านเรามายาวนาน รุ่นนี้มาในบอดี้ไม้ น้ำหนักเลยอาจจะเยอะขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อเทียบกับลำโพงในระดับเดียวกัน ให้ย่านเสียงที่กว้างระดับ 40Hz-20,000Hz กำลังขับอยู่ที่ 20W ก็ถือว่าทำได้ดีพอสมควร ในแง่ของลำโพงคอม ซึ่งเมื่อดูจากขนาดที่ไม่ค่อยกระทัดรัดเท่าไร แต่ก็ได้เรื่องดีไซน์ ที่ดูเรียบง่าย เข้ากับฟังก์ชั่นต่างๆ บนโต๊ะคอม บอดี้จะเป็นแบบที่มีทั้ง Subwoofer และ Tweeter มาในตัว รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสาย และแบบ Bluetooth มีสายเชื่อมต่อระหว่างลำโพง และมีช่องต่อ Audio-In มีปุ่มแบบหมุนใช้คอนโทรลเสียง กลางแหลมและเบส เคาะราคาอยู่ที่ 1,590 บาท แนะนำว่าใครที่ชอบดีไซน์แนวนี้ และมีพื้นที่จัดวางบนโต๊ะได้ ก็น่าสนใจทีเดียว หรือถ้าจะนำไปใส่ขาตั้ง เพื่อใช้กับคอมที่เป็นจอขนาดใหญ่ ทำเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์พีซี ก็ดีไม่น้อย
จุดเด่น
- รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ
- ปรับแต่งง่ายผ่านปุ่มด้านข้าง
- ให้ย่านเสียงค่อนข้างกว้าง
ข้อสังเกต
- ขนาดค่อนข้างใหญ่
ข้อมูลเพิ่มเติม Microlab
3.Edifier M206BT 2.1
เป็นลำโพงในแบบ 2.1-channel ที่มีช่องทางสำหรับการเล่นมีเดียได้ทั้งสะดวก ไม่ว่าจะเป็นต่อ USB-A ผ่านทางโน๊ตบุ๊ค พีซี หรือจะต่อไร้สายผ่านช่องทางบลูทูธ 5.0 และยังมีพอร์ต USB ด้านหลัง สำหรับต่อมีเดียประเภทแฟลชไดรฟ์ รองรับไฟล์ MP3 ฟังก์ชั่นค่อนข้างอเนกประสงค์ รวมถึงช่องต่อ AUX Input จากเครื่องเล่นอื่นๆ เข้ามาได้เลย โดยมีปุ่ม Pause/ Play ด้านหลัง ใช้คอนโทรลได้เฉพาะ พร้อมปุ่มปรับ Volume และ Bass มาให้ เหมาะกับคนที่เริ่มจริงจังกับการเล่นเกม หรือต้องการมิติในด้านของเสียงเพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยการมีทั้งซับวูเฟอร์ และ tweeter ในแบบ 2.1 รวมถึงวัสดุไม้เป็นส่วนใหญ่ ก็ทำให้น้ำหนักก็อาจจะไม่เบานัก ราคาอยู่ที่ 2,290 บาท เกินงบไปเล็กน้อย แต่ก็ได้ความสะดวกในลูกเล่นย่อยๆ เพิ่มเติมเข้ามาให้การทำงานง่ายขึ้น
จุดเด่น
- รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย
- สนับสนุนการเชื่อมต่อไร้สายบลูทูธ
ข้อสังเกต
- ชุดคอนโทรลหลักๆ อยู่ที่ซับวูเฟอร์
ข้อมูลเพิ่มเติม Edifier
4.Edifier X230
ลำโพงในแบบ 2.1 channel สำหรับเกมเมอร์โดยแท้ ทั้งรูปลักษณ์และพลังขับ ที่จัดมาให้แบบเต็มๆ ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ให้ความรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์หรือยานอวกาศ มีแสงไฟด้านใน ซิงก์ร่วมกันทั้ง 3 ตัว ให้การจัดวางบนโต๊ะคอม ดูโดดเด่นเข้ากับคอมเครื่องโปรด ที่จัดแต่งแสงไฟมาแล้วได้เป็นอย่างดี หรือจะเพิ่มไฟ RGB ของคอมให้เข้ากับลำโพง ก็ดูดีไม่น้อย ขาตั้งยกตัวลำโพงขึ้น เอียงทำมุม ไม่รู้สึกเกะกะ เป็นลำโพงในแบบ DSP และให้เทคโนโลยีด้านเสียงมา เพื่อการปรับระดับเสียงได้สนุกขึ้น ให้พลังขับรวมที่ 28W แบ่งเป็น 7W x2 และซับวูเฟอร์ 14W รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.2 พร้อมพอร์ตต่อไฟ USB ซับวูเฟอร์ขนาด 5.1″ รองรับการเชื่อมต่อทั้งโมบาย สมาร์ทโฟน พีซี หรือจะใช้ AUX 3.5mm ก็ได้เช่นกัน ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,680 บาท
จุดเด่น
- ดีไซน์ทันสมัย สไตล์เกมเมอร์
- มีแสงไฟ ซิงก์กันสวยงาม
- รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ
ข้อสังเกต
- การควบคุมยึดที่ซับวูเฟอร์เป็นหลัก
ข้อมูลเพิ่มเติม Edifier
5.CREATIVE Pebble Plus
ลำโพง 2.1 channel ในสไตล์น่ารัก เพราะถึงแม้จะมีซับวูเฟอร์ขนาดใหญ่ สำหรับตั้งเอาไว้ใต้โต๊ะ แต่มีลำโพงคู่ซ้าย-ขวา ในแบบทรงกลม วางไว้บนโต๊ะดูเท่ไม่เบา โดยวางเอามุม 45 องศาของตัวลำโพงเข้าหาตัวผู้ใช้ ทำให้ได้มุมของเสียงที่จัดเจนมากยิ่งขึ้น พร้อมการเชื่อมต่อแบบ USB และ AUX เข้ากับคอมพิวเตอร์ พร้อมปุ่มเพาเวอร์ และปรับระดับเสียงที่ลำโพงได้เลย จุดเด่นอยู่ที่การจัดวางดูกลมกลืน และไม่รู้สึกเกะกะ เพราะขนาดไม่ได้ใหญ่จนเกินไป ให้พลังขับที่ 8W x2 RMS ซึ่งเหมาะกับกลุ่มที่เน้นความสนุกสนานบนการสตรีมมิ่งและการเล่นเกมในบางครั้ง ซึ่งสามารถปรับจูนที่ซับวูเฟอร์ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น สนนราคาอยู่ที่ 1,450 บาท
จุดเด่น
- ลำโพงดูแปลกตา เข้ากับโต๊ะได้หลายรูปแบบ
ข้อสังเกต
- เป็นลำโพงแบบใช้สายต่อเข้ากับพีซี
ข้อมูลเพิ่มเติม CREATIVE
6.BINNIFA Play 3D
ลำโพงหน้าตาดี มีความเท่ในตัวในแบบ 2.1 channel จาก BENNIFA ซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่อัพขึ้นมาจาก Play 2D ซึ่งเป็น 2 channel ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ค่อนข้างเรียบหรูแต่ดูแพง ในโทนของวัสดุที่เป็นไม้และตัดด้วยสีเทาของตะแกรงที่เป็นบอดี้หลักให้ดูน่าสนใจ แทบจะไม่มีทำให้เห็นปุ่มคอนโทรลหรือสิ่งใดๆ มารบกวน นอกจากโลโก้ เพราะทั้งหมด ถูกโยกไปที่ด้านหลังแทน แยกออกเป็น Subwoofer และลำโพงแยกซ้าย-ขวา ขนาดกระทัดรัดวางได้ทั้งบนโต๊ะทำงาน หรือจะเป็นข้างๆ จอทีวี ให้การเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ระบบเสียง DSP มาพร้อมสาย AUX และอแดปเตอร์ชาร์จไฟ โดยให้ย่านเสียงที่ค่อนข้างกว้างทีเดียว 60Hz – 20,000Hz ทำให้เก็บรายละเอียดของเสียงได้ดียิ่งขึ้น มีน้ำหนักรวมอยู่ที่ประมาณ 2.6 กิโลกรัม ราคาอยู่ที่ 1,990 บาท
จุดเด่น
- ดีไซน์สวยงาม วางบนโต๊ะคอมลงตัว
- โครงสร้างแข็งแรง
- รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ
ข้อสังเกต
- ให้ย่านเสียงที่กว้าง
ข้อมูลเพิ่มเติม BINNIFA
7.Microlab B77-BT
ลำโพงแบบ 2 channel น่าใช้ในสไตล์เรโทรจาก Microlab ที่ออกแบบมาให้ดูร่วมสมัย ทั้งเรื่องของรูปทรงและสี ด้วยกลิ่นอายของแนวไม้เก่า นั่นก็เพราะด้านหน้าที่เปิดและหุ้มด้วยวัสดุแบบหนัง เปิดให้เห็น tweeter 0.75″ และซับวูเฟอร์ 4″ มาในตัว พร้อมปุ่มเพาเวอร์และปรับระดับเสียงได้ เอาใจทั้งสายเล่นเกมและความบันเทิง หรือการเล่นวีดีโอสตรีมมิ่ง ให้ความรู้สึกในด้านของอะคูสติกได้ดี เสียงที่ใส เหมาะทั้งการตั้งบนโต๊ะทำงานหรือจะใช้เป็นลำโพงเพิ่มบรรยากาศให้กับห้องพัก เนื่องจากรองรับการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.0 ให้พลังขับที่ 32W พร้อมย่านเสียง 50Hz – 20,000Hz เรียกว่าเป็นลำโพงคู่ในสไตล์คลาสสิคที่เหมาะกับการจัดโต๊ะคอมให้สวยโดนใจเลยทีเดียว ราคาอยู่ที่ 2,190 บาท ส่วนตัวคิดว่าเหมาะมาก สำหรับคนที่ชอบความคล่องตัว และการจัดโต๊ะคอมในแนวโต๊ะไม้ ไม่ว่าจะเป็นสีน้ำตาล สีขาวหรือสีดำ ก็ดูลงตัว
จุดเด่น
- การออกแบบที่เรียบง่าย แต่ดูสะดุดตา
- รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ
ข้อสังเกต
- ซับวูเฟอร์ขนาดใหญ่ ให้พลังขับที่ดี
ข้อมูลเพิ่มเติม Microlab
8.JBL PS2200 2.0
ลำโพงสำหรับคอเกมที่จริงจังและต้องการดึงรายละเอียดจากบรรยากาศในเกมที่เล่นให้ได้มากที่สุด หรือจะเป็นคอบันเทิง เน้นดูหนัง ก็ยังได้อรรถรสบนลำโพงจาก JBL ชุดนี้ มาพร้อมการออกแบบนั้นดูเก๋ไม่เบา ทั้งบอดี้ที่เป็นไม้ แต่มาในดีไซน์ที่กระทัดรัด ใช้โทนสีตัดให้ดูทันสมัย มีสีให้เลือกทั้งสีเทาดำตัดส้มหรือจะเป็นสีขาว ก็มีให้เลือกเข้าชุดกับโต๊ะทำงาน ด้านหน้ามีปุ่มเพาเวอร์ และกดเพิ่ม-ลดเสียงได้ในตัว จุดเด่นอยู่ที่ความคล่องตัวในการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ และใช้พลังงานผ่านทางพอร์ต USB เข้ากับพีซี โน๊ตบุ๊คในแบบ 2-channel ให้ย่านเสียงที่ 2KHz-20KHz มีเป็นซับวูเฟอร์ 50mm และ Tweeter 25mm มาในตัว ราคาอยู่ที่ 1,520 บาท ราคานี้ค่อนข้างดี เมื่อเทียบกับวัสดุและคุณภาพของเสียงที่จะได้รับ รวมถึงยังใช้งานไร้สายได้อีกด้วย
จุดเด่น
- เป็นลำโพงที่ออกแบบมาดูมีสไตล์
- ปรับโทนเสียงได้ง่ายจากตัวลำโพง
ข้อสังเกต
- เป็นแบบ 2 channel
ข้อมูลเพิ่มเติม JBL
9.Edifier R19 U-BL
โดยส่วนตัวมองว่า เป็นลำโพง 2 channel อีกรุ่นหนึ่งที่ออกแบบมาได้ดี เรียบง่าย และราคาจับต้องได้ เหมาะทั้งการเล่นเกม และดูหนัง ฟังเพลงครบครัน เข้ากับโต๊ะทำงานได้ดี และยังมีขนาดกระทัดรัด พอๆ กับขวดน้ำครึ่งลิตรจำนวน 2 ขวด แต่ให้การเชื่อมต่อสัญญาณเสียงผ่านทาง USB เท่านั้น ตัวลำโพงใช้วัสดุเป็นไม้ เน้นคุณภาพของเสียงที่ดีขึ้น การควบคุมอยู่ที่ปุ่มไดอัลด้านหน้า ใช้หมุนเปิดและปรับระดับเสียง ปุ่มปรับมีขนาดใหญ่จับถนัดมือ รองรับการเชื่อมต่อกับ AUX ผ่านแจ๊ค 3.5mm บอดี้จะต่างไปจากลำโพงรุ่นอื่นๆ เล็กน้อย เพราะปรับมุมด้านหน้าให้เอียง 10 องศา เพื่อให้เสียงตรงสู่ผู้ฟังด้านหน้าได้ง่ายขึ้น โดยมีย่านเสียงอยู่ที่ 150Hz – 20kHz สำหรับราคาอยู่ที่ประมาณ 1,350 บาท
จุดเด่น
- วัสดุแข็งแรง ดีไซน์สวยงาม
- ปรับเสียงได้จากตัวลำโพง
ข้อสังเกต
- เป็นลำโพงแบบใช้สาย
ข้อมูลเพิ่มเติม Edifier
Conclusion
Model | Frequency | Wire/ Wireless | Channel | Weight | Price |
1.Audio-Technica AT-SP95 | 100-20,000 Hz | Wire | 2 | 0.34Kg | 1,490 |
2.Microlab B70BT | 40-20,000 Hz | BT 4.0 | 2 | N/A | 1,590 |
3.Edifier M206BT 2.1 | N/A | BT 5.0 | 2.1 | N/A | 2.290 |
4.Edifier X230 | 210-18,000 Hz | BT 4.2 | 2.1 | N/A | 1,680 |
5.CREATIVE Pebble Plus | 50–20,000 Hz | Wire | 2.1 | 1.69Kg | 1,450 |
6.BINNIFA Play 3D | 60-20,000 Hz | BT 5.0 | 2.1 | 2.6Kg | 1,990 |
7.Microlab B77-BT | 50-20,000 Hz | BT 5.0 | 2 | N/A | 2,190 |
8.JBL PS2200 2.0 | 2,000-20,000 Hz | BT | 2 | 1.2Kg | 1,520 |
9.Edifier R19 U-BL | 150-20,000 Hz | Wire | 2 | N/A | 1,350 |
ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาลำโพงคอมในราคาสบายกระเป๋า เอามาประดับโต๊ะคอมให้สวยงาม อีกทั้งประหยัดพื้นที่ ใช้งานสะดวก โดยในหลายๆ รุ่นที่เราเอามาแนะนำในวันนี้ ก็เป็นแบบไร้สาย ต่อได้ทั้ง Bluetooth และมีสาย AUX หรือ USB ทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น มีให้เลือกทั้งแบบ 2 channel และ 2.1 channel แล้วแต่ความสะดวก ซึ่งในกรณีที่ใช้งานแบบไร้สาย ก็จะง่ายต่อการเคลื่อนย้าน หรือนำไปใช้ในสถานที่อื่นๆ อีกด้วย รองรับทั้งการต่อเข้ากับโน๊ตบุ๊ค และสมาร์ทโฟน ใครที่ชอบสไตล์ล้ำสมัย ก็มีตัวเลือกอย่าง Audio-Technica, JBL และ Edifier หรือถ้าอยากได้ 2.1 channel แบบกระทัดรัด Binifa ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ส่วนถ้าสนใจสไตล์แบบคลาสสิค แต่ดูมีความทันสมัยในตัว เข้าได้กับสไตล์ของโต๊ะคอมและโต๊ะทำงานหลายรูปแบบ Microlab และ Edifier ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เอาเป็นว่าใครถูกใจรุ่นไหน ก็อย่าลืมคอมเมนต์เอาไว้บอกกันด้วยนะครับ เผื่อจะได้เป็นแนวทางให้เพื่อนๆ ได้ตัดสินใจกัน ขอให้สนุกสนานกับการเล่นเกมและความบันเทิงในปี 2022 นี้กันนะครับ