Acer Nitro 5 รุ่นใหม่ในปี 2022 สเปกท็อปสุดชิปประมวลผลผล Intel Core i Gen 11 H45 อย่าง i9-11900H จับคู่มากับการ์ดจอแยกตัวแรง NVIDIA GeForce RTX 30 Series ในรุ่น RTX 3070 เป็นหนึ่งใน Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ อีกรุ่นในตลาดที่ได้รับความสนใจทีเดียว ทั้งจากสเปกที่แรงลื่นกว่ารุ่นก่อน อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ที่จัดเต็ม อาทิ คีย์บอร์ดไฟ RGB แบบ 4 โซน พร้อมหน้าจอ QHD ที่ 165Hz ให้ความลื่นไหลทั้งการเล่นเกมหรือทำงาน ได้ประกัน 3 ปี On-site Serive ที่ดีเยี่ยม หรือส่งศูนย์ซ่อมด่วน 3 ชั่วโมง
สำหรับ Acer Nitro 5 รุ่นที่ได้รีวิวนี้เป็นรุ่นที่ดีที่สุดของ Acer ที่แรงลื่นกว่าทุกรุ่นของ Nitro 5 แน่นอน ในส่วนของแรมจัดเต็มมาให้เลยที่ 16GB DDR4 Bus 3200MHz แบบ 16GB จำนวน 1 แถว ส่วนที่เก็บข้อมูลให้มามาตรฐาน SSD M.2 NCMe PCIe ความจุ 1TB หน้าจอความละเอียด 2650 x 1440 พิกเซล เป็นพาเนล IPS เกรดสูง sRGB 95% รองรับ Refresh Rate ที่ 165Hz แน่นอนว่าได้ Windows 11 Home ใช้งานได้ทันที โดยความร้อนที่เกิดขึ้นถือว่าน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในราคาที่ 59,990 บาท
NBS Verdict
การมาของ Acer Nitro 5 สเปก Intel Core i Gen 11 Tiger Lake H45 หรือ Acer Nitro 5 AN515-57 นับได้ว่ามีความคล้ายกันเกือบทั้งหมด หลักๆ แล้วแตกต่างกันที่สเปกภายในเท่านั้น ซึ่งทำให้ผู้ซื้ออย่างเราๆ มีตัวเลือกใหม่เพิ่มขึ้น (พร้อมกันนั้นก็มีสเปกที่เป็น Intel Core i Gen 11 Tiger Lake H35 ด้วย) โดยเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมราคาคุ้มค่ารุ่นล่าสุดของทาง Acer ทำให้เป็น Gaming Notebook ที่ได้สเปกชิปประมวลผลตัวท็อป i9-11900H การ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3070 (8GB GDDR6) TGP 100W ตัวแรง โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์ภายใน
ซึ่งเหมาะกันคนที่ต้องการ Gaming Notebook ที่ได้สเปกใหม่ โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพสูง พร้อมได้แรมขนาด 16GB แบบ DDR4 Bus 3200MHz พร้อม SSD มาตรฐาน M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB มีระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home ใช้งานได้ทันที ให้ความแรงลื่นในการทำงานและเล่นเกม ฟีเจอร์อื่นๆ ก็ยังครบเครื่องแต่ก็เหมือนเดิม ด้วยไฟคีย์บอร์ด RGB แบบ 4 โซน คล้ายกับที่เคยมีมาในรุ่นพี่อย่าง Predator Series ปรับแต่งได้อิสระประมาณนึง และได้การตอบสนองของปุ่มแบบทันทีด้วยระยะการกด 1.6 มม. เสริมอารมณ์ในการเป็น Gaming Notebook ไปอีกระดับ
ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบสเตอริโอ โดยมีระบบเสียง DTS:X Ultra ให้เสียงจะชัดเจนและสามารถจำลองระบบเสียงรอบทิศทาง 3 มิติได้ รวมไปถึงมีเทคโนโลยี Acer CoolBoost ซึ่งดีเยี่ยมกว่ารุ่นก่อนหน้าเช่นกัน พร้อมการอัพเกรดอินเตอร์เน็ตไร้สายเป็น Wi-Fi 6 AX ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO ที่ดีกว่า และ LAN RJ45 ก็เป็น Killer Ethernet E2600 โดยมีซอฟต์แวร์ Killer Control Center 2.0 ตรงนี้เหนือชั้นกว่ารุ่นอื่นๆ ชัดเจนทีเดียว
สำหรับคนไหนสนใจ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ได้ดีไซน์เก่า ที่มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย ส่วนของลายฝาหลังและเส้นสีแดงที่ทัชแพดหายไป ให้ดูแตกต่าง พร้อมคงโฉบเฉียว มีการแซมสีแดงให้ดูโดดเด่นเหมือนเดิม การเชื่อมต่อต่างๆ ก็ครบครันกว่าหลายๆ รุ่น พร้อมเน้นให้ประสิทธิภาพความแรงที่สดใหม่เหนือชั้นล่ะก็ Acer Nitro 5 รุ่นนี้ สเปกIntel Core i Gen 11 Tiger Lake H45 น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว จากราคาและสเปกคุ้มๆ ได้หน้าจอเทพๆ ทั้งลื่นไหลและค่าขอบเขตสีที่ดีมากๆ sRGB 95%
รวมไปถึงการทดสอบใช้งานจริงต้องบอกว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 5:50 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติของประเภทการใช้งานแบบนี้ ในส่วนนี้ก็ถือว่าทำได้ดีกว่ามาตรฐานของ Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ พอตัว อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ต้องรู้คือ ประสิทธิภาพความแรงน่าจะไปได้ไกลกว่านี้ จากที่ความร้อนที่เกิดขึ้นของชิปประมวลผลและการ์ดจอยังร้อนน้อยอยู่ ไม่แน่ใจว่าอนาคตจะมีซอฟต์แวร์มารีดความแรงอีกหรือเปล่า รวมไปถึงอาจจะเป็นรุ่นสเปกสุดท้ายแล้ว ก่อนการมาของ Acer Nitro 5 รุ่นใหม่ ใช้สเปกเป็น Intel Core i Gen 12H / AMD Ryzen 6000H พร้อมได้ดีไซน์ใหม่จริงๆ
ข้อดี Acer Nitro 5
- ดีไซน์การออกแบบสวยงามให้ความ Gaming ตามสไตล์ Nitro 5 งานประกอบแน่นหนา
- ประสิทธิภาพสูงจากชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 Tiger Lake H45 อย่าง i9-11900H
- พร้อมได้การ์ดจอแยกตัวแรง NVIDIA GeForce RTX 3070 (8GB GDDR6) ค่า TGP 100W
- ได้แรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe 1TB ความจุสูงมาเลย
- มีโปรแกรม Nitrosense + CoolBoots ปรับรอบพัดลมติดตั้งมาให้ในเครื่องเลย
- แกะอัปเกรดทำได้ง่าย รองรับ SSD M.2 สองสล็อต และยังมีสล็อต HDD/SSD 2.5″ อีก 1 ช่อง
- จัดการความร้อนทำได้ดีเยี่ยม เย็นทั้ง CPU / GPU เมื่อใช้งานหนักๆ ดีกว่ารุ่นก่อนๆ
- หน้าจอพาเนล IPS เกรดสูง ความละเอียด QHD พร้อมรองรับ Refresh Rate ที่ 165Hz
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB 3.2 Type-A x 3 และ Thunderbolt 4 x 1
- LAN รองรับ Killer Ethernet E2600 ช่วยลด Ping เวลาเล่นเกมออนไลน์
- Killer Wi-Fi 6 AX 1650i มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO ดีกว่าแบบเดิมๆ
- คีย์บอร์ดมีไฟ RGB แบบ 4 โซน สามารถปรับแต่งเพิ่มเติมได้
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 5:50 ชั่วโมง
- มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
- ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 11 Home และซอฟต์แวร์ Acer Care Center
ข้อสังเกต Acer Nitro 5
- ยังคงเป็นดีไซน์แบบเดิมๆ และสเปกเองก็ Core i Gen 11 H45
- เป็น Acer Nitro 5 ที่สเปกแรง และราคาสูงที่สุด
- ยังไม่มี SD(XC/HC) Card reader มาให้ในตัวเช่นเดิม
- เสียงพัดลมค่อนข้างดังถ้าสั่งให้ทำงาน 100%
- ความเร็วของ SSD น้อยกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อเทียบกับค่าตัว
Specification
สเปกภายในของ Acer Nitro 5 รุ่นที่เรานำมารีวิวครั้งนี้ จัดว่าเป็นสเปก Intel Core i Gen 11 Tiger Lake H45 ตัวท็อปสุด อย่าง Core i9-11900H พร้อมกับประสิทธิภาพความแรงจากเทคโนโลยีการผลิต 10 นาโนเมตร SuperFin ที่ส่งผลให้มีความแรงที่มากกว่าขึ้น ความร้อนที่น้อยลง แบตเตอรี่ยาวนาน ที่กับคู่มากับการ์ดจอตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3070 (8GB GDDR6) ส่วนแรมได้มาตรฐานเป็นขนาด 16GB แบบ DDR4 Bus 3200MHz มีที่เก็บข้อมูลเป็น SSD มาตรฐาน M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB หรือ 1000GB (รองรับการอัพเกรด SSD M.2 / HDD 2.5″ SATA3 ภายหลัง)
หน้าจอขนาด 15.6″ แบบ Screen-to-Body เป็น 80% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.02 มิลลิเมตร บนความละเอียด Quad HD (2560 × 1440 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS คุณภาพสูง ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง Refresh Rate ที่ 165Hz แบบ 3ms ให้การแสดงผลได้ลื่นไหลกว่ารุ่น 60Hz โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน๊ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจ ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบสเตอริโอ โดยมีระบบเสียง DTS:X Ultra จำลองเสียง 3 มิติได้
มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 3 x USB 3.2 Type-A (1 พอร์ตเป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), 1 x USB 3.2 Type-C, 1, HDMI 2.0, RJ45 พร้อมด้วยความสามารถ Killer Ethernet E2600 เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ที่ลื่นไหล และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo การเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.1 และอินเตอร์เน็ตไร้สายอย่าง Killer Wi-Fi 6 AX 1650i ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครัน โดยมีซอฟต์แวร์ Killer Control Center 2.0 คอยควบคุมด้วย พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home ใช้งานได้ทันที
Acer Nitro 5 AN515-57-99W3 ราคากลาง 59,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
-
CPU : Intel Core i9-11900H (8C/16T : 2.50 – 4.90 GHz)
-
GPU : Intel Iris Xe + NVIDIA GeForce RTX 3070 (8GB GDDR6)
-
RAM : 16GB DDR4 3200 MHz (16GB x 1)
-
DISPLAY: 15.6″ IPS Quad HD 144Hz
-
STORAGE : SSD M.2 2280 PCIe NVMe Gen 4 1TB
-
OS : Windows 11 Home
- Warranty : 3 Years On-site Service
Hardware / Design
การดีไซน์ออกแบบ Acer Nitro 5 สเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 Tiger Lake H45 ไม่ว่าจะเป็น Core i5 / i7 หรือ i9 รูปลักษณ์ภายนอกนั้นเหมือนกันทั้งหมด แตกต่างกันเพียงสติ๊กเกอร์ที่ติดเครื่องเท่านั้น โดยวัสดุของตัวเครื่องทั้งหมดจะเป็นพลาสติกเกรดดีสัมผัสพรีเมียม ส่งผลให้ตัวเครื่องมีความบางเบาตามมาตรฐาน รวมไปถึงการพกพาก็สะดวกยิ่งขึ้น อย่าง Acer Nitro 5 หน้าจอ 15.6″ พาเนล IPS ขอบจอบางเพียง 7.02 มิลลิเมตร พื้นที่สัดส่วนกว่า 80% ทำให้มีขนาดเครื่องกระทัดรัด
ซึ่งมีน้ำหนักตัวเครื่องตามสเปกอยู่ที่ 2.2 กิโลกรัม แต่ชั่งจริงๆ ได้ 2.08 กิโลกรัม จัดว่าเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook ที่เบาในขนาดหน้าจอนี้โดยได้เป็นหน้าจอ Refresh Rate ที่ 144Hz ทั้งสีสันและลื่นไหลจัดว่าดีเยี่ยม เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตามภายนอกเปลี่ยนไปเล็กน้อยในส่วนของฝาหลังที่เป็นลายใหม่ รวมถึงเส้นแดงรอบกรอบทัชแพดจะหายไป ก็จัดว่ามีความต่างจากรุ่นก่อนหน้าแบบสังเกตได้
สำหรับสีสันก็ยังคงเอกลักษณ์สีดำ Shale Black แซมด้วยสีแดง แต่เพิ่มความโดดเด่นและสวยงาม ที่ต้องว่า Acer Nitro 5 ฝาหลังจะมีลักษณะลวดลายผิวไม่เรียบลักษณะคล้ายโลหะบลัชปัดเสี้ยนบางส่วนบริเวณด้านข้างซ้ายและขวา ฝาบนจะโลโก้คำว่า Acer สีดำมันวาวเล็กน้อย ผิวฝาบนพื้นผิวเป็นพลาสติกมีสีดำด้านให้สัมผัสดีมีคุณภาพสูง พร้อมขอบตัวเครื่องหลังเป็นสีแดงแทนที่สีดำเหมือนรุ่นก่อนๆ รวมไปถึงขอบตัวเครื่องบริเวณฝาพับ จะเป็นสีดำพร้อมกับมีคำว่า Nitro สีแดงติดตั้งเอาไว้ โดยสามารถกางหน้าจอได้มากกว่า 145 องศาทีเดียว
ตัวเครื่องด้านในของ Acer Nitro 5 ยังให้ดีไซน์คล้ายรุ่นก่อน ที่มีการติดตั้งปุ่ม Power ไว้มุมขวาบนสุดของชุดคีย์บอร์ด รวมไปถึงยังมีการติดตั้งปุ่ม NitroSense ไว้เหนือแป้นตัวเลขด้วย กดใช้งานได้สะดวกดี แต่ก็โดดเด่นกว่าด้วยที่คีย์บอร์ดนั้นเป็นไฟ RGB แบบแบ่งเป็น 4 โซน พร้อมกับใช้ขอบของปุ่มคีย์บอร์ดเป็นสีขาวทั้งหมด ซึ่งยอมรับเลยว่ามีความสวยงามลงตัวเข้ากับตัวเครื่องเป็นอย่างดี เพราะเวลาที่เราปรับไฟ แสงไฟจะเข้ากับขอบสีขาวมากกว่าหลายๆ รุ่นที่เป็นปุ่มสีดำทั้งหมด
นอกจากนั้นก็เป็นสติกเกอร์ต่างๆ ติดเอาไว้ไม่ว่าจะเป็น ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 แบบใหม่ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX รวมไปถึงมีการบอกถึงบริการซ่อมด่วนใน 3 ชั่วโมงตามสไตล์ของ Acer อีกด้วย อีกทั้งยังมีการแจกแจงถึงฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจ อาทิเช่น Dual SSD M.2 + One HDD Slot / ขอบจอบาง / Network Optimize / NitroSense + CoolBoost / HDMI Port / ระบบเสียง DTS:X เป็นต้น
ฝาล่างของตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นพลาสติกเกรดดี พื้นผิวเป็นแบบสากๆ ทำให้หยิบจำแล้วไม่ลื่นไหล พร้อมยางรองตัวเครื่องขนาดใหญ่ 4 จุดด้วยกัน ซึ่งมีความมั่นคงดี ซึ่งเมื่อมองไปที่ช่องด้านล่างก็จะพบกับช่องดูดลมเย็นขนาดใหญ่พร้อมกับพัดลม 2 ตัว ที่กรณีที่เราเปิดเครื่องก็จะเห็นไฟสี RGB จากคีย์บอร์ดติดอยู่ด้วย ดูแล้วก็สวยงามไปอีกแบบ อีกทั้งเราจะเห็นในส่วนของสติ๊กเกอร์ปิดน็อตที่เราสามารถเจาะทะลุได้
สำหรับเทคโนโลยี Acer CoolBoost และช่องระบายความร้อนแบบจัดเต็ม 4 ช่องทาง แบ่งเป็นทางด้านหลัง 2 ช่อง และซ้ายขวาอย่างละ 1 ช่อง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ เมื่อมีการใช้งานที่หนักหน่วง CoolBoost จะเพิ่มความเร็วพัดลมมากขึ้น 10% และการระบายความร้อน CPU/GPU มากขึ้น 9% เมื่อเทียบกับโหมดอัตโนมัติ พร้อมจัดการระบบของเราแบบเรียลไทม์ด้วยซอฟต์แวร์ NitroSense ซึ่งครอบคลุมถึงอุณหภูมิ ความเร็วพัดลมและอีกมากมาย ในส่วนนี้ก็ถือว่ายังคงมาตรฐานเดิมๆ ที่ดีเยี่ยม
Keyboard / Touchpad
Acer Nitro 5 ติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ พร้อมกับการตอบสนองของปุ่มแบบทันทีด้วยระยะการกด 1.6 มม. ติดตั้งปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) โดยตัวปุ่มจะเป็นสีดำ มีฟอนต์เป็นสีขาว รวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD และปุ่มทิศทาง รวมถึงปุ่ม NitroSense จะมีขอบเป็นไฮไลน์เด่นออกมา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟ RGB แบบ 4 โซน ดูแล้วเป็น Gaming Notebook สวยงาม เอามาเล่นตอนกลางคืนสบายๆ อีกทั้งเรื่องการกดการสัมผัสบนคีย์บอร์ดที่ปุ่มมีความติดมือ ดีกว่าโน๊ตบุ๊คธรรมดาทั่วไปแน่นอน จะเอาไปเล่นเกมหรือทำงานก็ตอบสนองได้ดีเยี่ยม
ในส่วนทัชแพดนั้นจะมีขนาดกลางๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ดีไซน์มีลักษณะขอบแดงรอบๆ ออกแบบปุ่มมาเป็นแบบชิ้นเดียวซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมทั้งคลิกซ้ายคลิกขวา โดยมีการตัดขอบเส้นสีแดงออก จากการที่รุ่นก่อนๆ เคยมี เน้นความเรียบง่ายขึ้นเล็กน้อย ให้ความลื่นไหลในการใช้งานเป็นอย่างดี ซึ่งตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อยไม่ได้อยู่ตรงกลางหน้าจอเป๊ะๆ โดยรวมก็สามารถใช้งานได้ดีไม่ปัญหาแต่อย่างใด
Screen / Speaker
Acer Nitro 5 มีหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6″ พื้นผิวแบบด้าน สัดส่วน 16:9 บนความละเอียดเป็น 2K Quad HD (2560 x 1600 พิกเซล) รองรับ Refreash Rate ที่ 165Hz / 3ms ทำให้ภาพปรากฏออกมามีความลื่นไหลแบบสุดๆ กว่าที่ตาเราเห็น อีกทั้งตัวภาพเองยังเนียนตาไม่ฉีกขาด จากการที่ได้เทคโนโลยี NVIDIA G-Sync ติดตั้งเข้ามา โดยรองรับตั้งแต่การใช้งานทั่วไป รวมไปถึงเล่นเกมที่ต้องเคลื่อนไหวรวดเร็ว เพราะหน้าจอปกตินั้นจะแสดงได้สูงสุด 60Hz เท่านั้น (แต่เกมเองก็ต้องสามารถทำเฟรมเรทได้ด้วย) โดยติดตั้งกล้องเว็บแคมและไมโครโฟนแบบคู่ไว้ด้านบนเหมือนเดิม
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอของ Acer Nitro 5 ใช้เครื่องมือที่เป็นทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่าง Spyder5Elite โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 95% / Adobe RGB ที่ 71% / DCI-P3 ที่ 72% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูง ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 cd/m2 ซึ่งจัดได้ว่าค่อนข้างสว่างเพียงๆ ต่อทุกๆ การทำงาน ทำให้เมื่อคาลิเบตหน้าจอแล้วสามารถไปทำงานภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นความเที่ยงตรงได้โอเคเลยทีเดียว
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องตรงกลางแถวบนมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องมุมขวาบน จะมีแสงสว่างลดลงไปที่ 10% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ และค่าคลาดสี Delta-E เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 2.09 เท่านั้น ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว ผ่านทางอุปกรณ์ Spyder5Elite
ส่วนทางด้านลำโพงของ Acer Nitro 5 นั้นจะมีด้วยกัน 2W x 2 ทำงานแบบสเตอริโอ โดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาก ซึ่งคุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ นอกจากนี้ยังได้ระบบเสียงเป็น Acer Trueharmony DTS:X Ultra เพิ่มประสิทธิภาพเสียงในทุกย่านเสียง มีหลายโปรไฟล์ให้เลือก พร้อมจำลองเสียง 3 มิติได้ เพื่อรองรับความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลง ก็สามารถทำออกมาได้ดีเช่นเดิม
Connector / Thin And Weight
Acer Nitro 5 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ที่น่าสนใจคือได้พอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบถ้วนและเหนือชั้นกว่า พร้อมทั้งมี 3 x USB 3.2 Type-A (1 พอร์ตเป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), HDMI 2.0, RJ45 (Gigabit Ethernet) พร้อมด้วยความสามารถ Killer Ethernet E2600 เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ที่ลื่นไหล โดยมีซอฟต์แวร์ Killer Control Center 2.0 คอยควบคุมด้วย ซึ่งนับว่ามีความโดดเด่นที่มากกว่ารุ่นอื่นๆ ในตลาด
นอกจากนี้ยังมีในส่วนของช่องมาตรฐานด้านเสียงอย่าง Mic-in/Headphone-out 3.5 มิลลิเมตร แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน ทั้งในการโอนถ่ายไฟล์หรือเชื่อมต่ออุปกรณ์เทียบกับรุ่นก่อนก็ถือว่าดีกว่าหลายด้าน ส่วนพอร์ตชาร์จไฟอแดปเตอร์ติดตั้งไว้ที่ด้านนหลังเช่นเดิม อย่างไรก็ตามยังคงรูปแบบการเชื่อมต่อเดิมๆ ไว้ โดยที่ไม่ได้มีการปรับปรุงใดๆ ในส่วนนี้เลย จากการที่ยังคงเป็นโมเดลเหมือนกับรุ่นปี 2021 แบบ 100%
การเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.1 และอินเตอร์เน็ตไร้สายอย่าง Killer Wi-Fi 6 AX ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครัน ทางด้านการพกพา Acer Nitro 5 ทำได้น่าพอใจในระดับที่ใกล้เคียงกับรุ่นเดิม จากการที่มีน้ำหนักตัวเครื่องที่ 2.08 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์กำลังไฟ 180W พร้อมสายชาร์จเข้าไปด้วยแล้วก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2.5 กิโลกรัม นับได้ว่าพอพกพาสะดวกอยู่เวลาใช้งานนอกสถานที่ได้บ้าง
Inside / Upgrade
การแกะเครื่องเพื่ออัพเกรด Acer Nitro 5 นั้นสามารถทำได้ง่ายเช่นเดิม เพียงแค่ไขน็อตทุกตัวรอบฝาล่างออก จากนั้นใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากด้านหลังมาด้านหน้าทีละข้าง โดยควรทำอย่างระมัดระวัง แล้วค่อยๆ แงะฝาขึ้นมาอีกที งานประกอบการจัดวางตำแหน่งคล้ายกับรุ่นเดิมมีฮีท์ไปป์ 3 เส้นพร้อมลักษณะชิ้นโลหะขนาดใหญ่พาดผ่าน CPU และ GPU โดยมีพัดลมสองแยกอิสระจากกัน ช่องระบายความร้อนแบบ 4 ทิศทางที่ดีกว่ารุ่นก่อนๆ แน่นอน
แรมสามารถติดตั้งได้ 2 แถว โดยติดตั้ง 16GB DDR4 Bus 3200MHz มาแล้ว 16GB x 1 แถว โดยรองรับสูงสุดที่ 32GB ส่วน SSD M.2 NVMe PCIe รองรับการติดตั้ง 2 สล็อตด้วยกัน โดยใส่มาแล้ว 1 ตัวที่ 512GB พร้อมมีการติดตั้งซิลิโคนที่แผงฝาล่างให้ด้วย แน่นอนว่ารองรับการใส่ SSD M.2 เป็น 2 ตัวพร้อมๆ กัน แล้วตั้งเป็น Raid ได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้ ส่วนอื่นๆ ก็จะเป็นช่องใส่ HDD หรือ SSD แบบ 2.5″ ที่สามารถอัพเกรดได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามการแกะฝาล่างนั้นไม่ทำให้หลุดประกัน แต่บริษัทจะไม่รับผิดชอบหากแกะเองแล้วเกิดความเสียหาย
Performance / Software
Acer Nitro 5 เครื่องที่นำมาทดสอบ สำหรับ Acer Predator Triton 500 SE มาพร้อมกับชิปประมวลผลรุ่นยอดนิยมของ Gaming Notebook อย่าง Intel Core i Gen 11 Tiger Lake H45 อย่าง Core i9-11900H เน้นนำไปใช้งานหนักๆ มากกว่ารุ่น Core i7-11800H ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม 3 มิติ ที่กินทรัพยากรสูง
โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.50 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.90 GHz เป็นซีพียูแบบ 8 Core 16 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 16GB DDR4 Bus 3200 MHz แบบ 16GB x 1 แถว ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 101 Home ที่มีมาให้ใช้งานลื่นไหลทันทีแบบสบายๆ
การ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics Xe 750 32EUs ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง ด้วยความเร็ว 350 – 1450 (Boost) MHz อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้น แต่ก็มาพร้อมกับฟีเจอร์ QuickSync ทำให้รองรับการแสดงผลระดับ 4K ได้อย่างลื่นไหล
อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3070 (8GB GDDR6) ค่า TGP 100W สถาปัตยกรรม Ampere โดยเป็น RTX เจนที่ 2 ที่ต้องบอกว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง GeForce RTX 2070 Super (8GB GDDR6) แน่นอน ซึ่งไม่ใช่แค่แรงแต่ยังร้อนน้อยกว่า เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook ทุกประเภท
ทั้งตัวหนาหนักและบางเบา รองรับ Ray Tracing ช่วยเพิ่มคุณภาพการแสดงแสงเงาให้แม้แต่เกมระดับ AAA ก็ยังสามารถปรับกราฟิกได้ถึง Ultra ให้ภาพสวยงาม ไหลลื่น สมจริงกว่าที่เคยมีมา เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล Intel Core i9-11900H คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล Intel Core i7-11800H ก็ทำได้ดีกว่าไปอีกระดับ รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงประมาณนึงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลังที่เน้นการทำงานหนักๆ เป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ที่กลายเป็นมาตรฐานของ Gaming Notebook ไปแล้ว ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe Gen 3 ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 2074 MB/s และเขียนที่ 863 MB/s ที่เร็วกว่ารุ่นก่อนๆ ถือว่าช้ากว่าที่ครจะเป็น
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 6086 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็น Gaming Notebook สเปกใหม่จากชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 H45 มีการ์ดจอแยกรุ่นล่าสุดระดับ Gaming อย่าง GeForce RTX 3070 ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คปีก่อนๆ มากพอตัว อีกทั้งสเปกใช้แรมไป 16GB ก็ผลในการทดสอบด้วย
สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมจากการทดสอบด้วยโปรแกรม 3D Mark จากทาง Futuremark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 8609 และประมวลผลคาดการณ์เกม Battlefield V ปรับสุด Quad HD ได้ 90+ FPS เน้นเรื่อง DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ ของการ์ดจอเป็นหลัก ซึ่งผลทดสอบนั้นจะดูว่าแต่ละการ์ดจอนั้นสามารถทำงานเข้าขากับ DirectX 12 ได้ดีขนาดไหน
สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 80 – 100 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ประกอบไปด้วย Resident Evil 8 FarCry 6 / GTA V ที่เป็นเกมออฟไลน์ที่กินทรัพยากร รวมไปถึงเกมออนไลน์ยอดนิยมอย่าง PUBG / DOTA 2 รวมไปถึง SCUM ที่กินสเปกหนักหน่อย ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย
และด้วยพาเนล IPS แบบ 165Hz บนความละเอียดหน้าจอ Quad HD ทำให้เกมมีความลื่นไหลกับฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แบบสุดๆ หมดปัญหาภาพฉีก หรือภาพกระตุกไปเลย แต่นั่นก็ต้องอยู่กับตัวเกมด้วยว่าขับเฟรมเรทได้แค่ไหน ถ้าเกมกินสเปกหนักๆ อาจไม่เห็นผลมากนักกับความลื่นไหล หรือเอาจริงๆ สำหรับเกมสไตล์ MOBA แค่ 60 FPS นิ่งๆ ก็เอาอยู่ หรือถ้าอยากให้วิ่ง 165Hz ก็จะปรับกราฟิกของเกมลงมาต่ำๆ หน่อย
โดยมาพร้อมกับซอฟแวร์ยูทิลิตี้ NitroSense ที่ทำให้เราสามารถปรับค่าต่างๆ ในตัวเครื่องได้อย่างง่ายดายไม่ว่า CoolBoots เร่งรอบพัดลมให้สุดที่ 5000 – 6000 รอบทั้ง 2 ตัว ที่ใช้ระบายความร้อน CPU/GPU เมื่อต้องใช้งานหนักๆ รวมไปถึงการปรับโหมดการใช้งาน เช่นประหยัดพลังงานใช้แบตเตอรี่ก็ต้องเป็น Power Saver และสุดท้ายกับการดูสถานะการทำงานของตัวเครื่องก็มีทั้ง อุณหภูมิ รอบพัดลม กันแบบเวลาจริงเลยล่ะ เรียกได้ว่า Acer ใส่ใจใน NitroSense เพื่อให้เราใช้งานได้งานและใช้งานได้จริงทีเดียว
นอกจากนี้ก็ยังมีในส่วนของซอฟต์แวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center (เปิดเครื่องมาเจอเลย) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ในเครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุ 3750mAh ซึ่งถือว่าความจุน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับราคาระดับนี้ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube พร้อมเปิดโปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ เกือบ 6 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียวกับการที่ Gaming Notebook จอ 15.6″ ใช้งานแบตเตอรี่ได้นานระดับนี้ เพราะจริงๆ ความจุก็ให้มาไม่มาก อย่างไรก็ตามในการใช้งานจริงๆ ที่มีการใช้งานหลากหลาย แบตเตอรี่อาจจะลดลงไวกว่านี้ได้
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น ในส่วนของ Hardware Monitor สามารถตรวจสอบได้ถึงข้อมูลของ CPU / GPU ทันที เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 60 องศาเซลเซีย ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผล CPU อยู่ที่ 94 องศาเซลเซียส นับว่าอยู่ในเกณฑ์เย็นอย่างน่าประทับใจเมื่อเทียบกับ Gaming Notebook สเปกใกล้เคียงนี้ ส่วนการ์ดจอถือว่าเย็นทีเดียวโดยร้อนสุดเพียง 74.5 องศาเซลเซียสเท่านั้น
Conclusion / Award
อีกหนึ่งตัวเลือกซื้อ Gaming Notebook งบ 5x,xxx บาท อย่าง Acer Nitro 5 ที่นอกจากได้ดีไซน์ใหม่ๆ ในกลิ่นอายเดิมแล้ว คือได้สเปกชิปประมวลผล Core i Gen 11 H45 ตัวท็อป i9-11900H และการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3070 ตัวรองท็อป ด้วยสเปกที่แรงลื่นกว่าเดิม พร้อมแรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 1TB ส่งผลให้ประสบการณ์ใช้งานโดยรวมประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดเครื่องในเรื่องความรวดเร็วและการตอบสนองต่างๆ ที่สำคัญคือได้คีย์บอร์ดไฟ RGB แบบ 4 โซน ที่สามารถปรับแต่งได้ ตามสไตล์ของ Nitro 5
โดดเด่นด้วยการรองรับอัพเกรดใส่ SSD M.2 NVMe อีกจำนวน 1 ช่อง (ใส่ไปแล้ว 512GB 1 ช่อง) และ HDD/SSD 2.5″ SATA 3 จำนวน 1 ช่อง เพิ่มได้ภายหลัง พร้อมกับ LAN เป็น Killer Ethernet E2600 ทำให้เมื่อต่อสาย RJ45 ก็จะช่วยการเล่นเกมที่ลื่นไหลได้ ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายก็เป็นมาตรฐาน Keller Wi-Fi 6 AX ที่ดีกว่า มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เหนือชั้นกว่ารุ่นราคาใกล้เคียงกันที่ส่วนมากไม่มี ในเรื่องของการเชื่อมต่อก็ครบครันกว่าเดิมด้วย USB 3.2 Type-A จำนวน 3 ช่อง พร้อมงานประกอบก็แน่นอนไว้ใจได้ การถอดอัพเกรดก็ง่ายเหมือนเดิม เชื่อได้ว่าเพื่อนๆ น่าจะถูกใจกันไม่น้อย
สำหรับการระบายความร้อนก็นับว่าทำได้ดีกว่าหลายๆ รุ่น จากการที่ทาง Acer ออกแบบมาได้ดีขึ้น รวมถึงชิปประมวลผล ก็ให้ความแรงที่และสเถียรภาพ ฉะนั้นถ้าดูจากผลทดสอบอุณหภูมิก็นับว่าทำได้ดีตามเกณฑ์มากๆ แล้ว ส่วนการ์ดจอแยกขับเคลื่อนเกม Quad HD ได้ลื่นไหล แต่ก็ได้ความร้อนต่ำมากๆ ต่อความแรงที่น่าประทับใจ ซึ่งรองรับการเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องรู้คือ SSD ที่ติดตั้งมาให้ ทดสอบแล้วความเร็วน้อยกว่าที่คาดเอาไว้ รวมไปถึงประสิทธิภาพความแรงที่ได้โดยรวมจากผลทดสอบ มีความเป็นรองรุ่นอื่นๆ ที่สเปกใกล้เคียงกัน คาดว่าเป็นผลมาจากอแดปเตอร์เองก็ไม่ได้มีกำลังไฟสูงอย่างที่ควรจะเป็นเพื่ออัดไฟเพิ่ม
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Acer Nitro 5 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Acer Nitro 5 โน๊ตบุ๊คเล่นเกมสายคุ้มค่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Acer Nitro 5 รุ่นใหม่ สเปก Intel Core i Gen 11 H45 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ของ Nitro 5 Series ที่ได้รับการปรับปรุงในมีความลงตัวมากยิ่งขึ้นไปอีก ดูแล้วน่าจะโดนใจคนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ที่สำคัญคือขอบจอบาง น้ำหนักเบาแค่ 2.08 กิโลกรัมเท่านั้น พร้อมระบบระบายความร้อนที่ดีเยี่ยมจากทาง Acer ที่คิดมาเป็นอย่างดีแล้ว อีกทั้งได้คีย์บอร์ดไฟ RGB แบบ 4 โซน ที่สามารถปรับแต่งได้
Best Performance
Acer Nitro 5 สเปกชิปประมวลผลเป็น Intel Core i9-11900H ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพ ที่ส่งผลให้มีความแรงที่มากกว่าขึ้น พร้อมการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 3070 ที่แรงลื่นรองรับทุกๆ การทำงานหรือเล่นเกม มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe และรองรับฮาร์ดดิสก์ 2.5″ มาตรฐาน SATA 3 อีก 1 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 512GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 Bus 3200 MHz รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
Best Gaming
Acer Nitro 5 จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกม ตัวท็อปสุดของ Nitro 5 กับขนาดหน้าจอ 15.6″ ได้หน้าจอ Quad IPS 165Hz ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล เรียกได้ว่าเป็น Gaming Nobook ที่หน้าจอขอบเขตสีที่สุดรุ่นนึงในตลาก พร้อมได้สเปกที่ดี ราคาคุ้มค่า ซึ่งในตอนนี้มีให้เลือกหลากหลายสเปก อีกทั้งความร้อนที่น้อยลง ส่งผลให้ทำงานได้อย่างลื่นไหล (จริงๆ ร้อนอีกหน่อยแต่แรงกว่านี้น่าจะทำได้) พร้อมได้ฟีเจอร์ Gaming ทั้งคีย์บอร์ด RGB และ Nitrosense สำหรับ Gaming Notebook ที่มีประสิทธิภาพสูงและฟีเจอร์เพียบแบบนี้ ได้ประกัน 3 ปี On-site Serive