มือถือไม่เกิน 10000 บาทประจำปี 2022 นี้มีของดีให้เลือกเพียบ จ่ายไม่แพงก็แรงได้เหมือนกัน!
มือถือไม่เกิน 10000 บาทในปี 2022 เป็นสมาร์ทโฟนที่ระดับราคาไม่แพงเกินไปในสายตาลูกค้าทั่วไปที่หามือถือเอาไว้ติดต่อสื่อสารหรือเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์คทั่วไป ในขณะที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหลายๆ แบรนด์ก็พากันเปิดตัวมือถือในระดับราคานี้ออกมาอย่างต่อเนื่องและใส่สเปคมาให้ในระดับที่แรงพอใช้เล่นเกมหรือโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ได้อย่างแน่นอนและหลายแบรนด์ก็ยังได้รับอัพเดทอย่างต่อเนื่อง จะซื้อไปใช้เอง, ให้ลูกหลานหรือพ่อแม่เอาไว้ติดต่อกับเราก็สะดวกและคุ้มค่าอย่างแน่นอน
ยิ่งในปัจจุบัน ผู้ใช้หลายคนก็มักหาซื้อมือถือไม่เกิน 10000 บาทกันผ่านเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์หลายๆ เจ้ามากกว่าไปดูของที่หน้าร้านตามปกติเพราะความสะดวก ไม่ต้องลุ้นว่าหน้าร้านจะมีสินค้ารุ่นและสีที่ต้องการไหมและยังส่งฟรีถึงบ้านและแบรนด์ต่างๆ ก็พากันนอัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายให้กับการสั่งซื้อออนไลน์กันอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ทำให้ใครหลายๆ คนตัดสินใจเลือกดูสินค้าหน้าร้านแล้วไปจบที่หน้าร้านออนไลน์แทนเสียเป็นส่วนใหญ่เสียด้วย
6 มือถือไม่เกิน 10000 บาท สเปคดี อัพเดทต่อเนื่องน่าใช้
ผู้ใช้ที่กำลังหามือถือไม่เกิน 10000 บาทเอาไว้ใช้สักเครื่อง ไม่ว่าจะเอาไว้เป็นเครื่องหลักหรือเครื่องสำรอง ณ ตอนนี้มีตัวเลือกรุ่นน่าสนใจให้เลือกซื้อมากมายทีเดียว แต่รุ่นที่น่าสนใจซื้อมาแล้วใช้งานได้ดีแน่นอนทั้งหมด 6 รุ่นจะมีดังนี้
- realme 8 5G (7,999 บาท)
- POCO X3 Pro (7,999 บาท)
- Xiaomi Redmi Note 10 Pro (8,999 บาท)
- OPPO Reno5 5G (9,400 บาท)
- Xiaomi 11 Lite 5G NE (9,490 บาท)
- Motorola G 5G Plus (9,990 บาท)
1. realme 8 5G (7,999 บาท)
realme 8 5G รุ่นนี้เป็นตัวเริ่มต้นเพื่อสายโซเชียลที่ราคาเครื่องไม่แพงแต่ฟีเจอร์มาครบๆ และยังรองรับ 5G, Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac, Bluetooth 5.1 เหมาะกับคนที่เน้นใช้งานทั่วไปเป็นหลักแต่ก็เล่นเกมได้ โดยมือถือเครื่องนี้มีขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พาเนล Super AMOLED ใช้ชิป MediaTek Helio G95 แบบ Octa-core มีแรม 4-6GB ขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกและหน่วยความจำในเครื่อง 128GB ใส่ MicroSD Card ในเครื่องเพิ่มได้ 256GB เผื่อกรณีต้องการถ่ายภาพหรือคลิป ติดตั้ง realme UI 2.0 พัฒนาจาก Android 11 มาให้พร้อมใช้งาน กล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว เป็นกล้องหลัก 64 ล้าน, Ultrawide 8 ล้าน, Macro กับ B&W ตัวละ 2 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล ติดตั้งแบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 30 วัตต์ด้วยพอร์ต USB-C 2.0 เรียกว่าเป็นรุ่นแรกสำหรับคนที่หามือถือใหม่มาใช้งานสักเครื่องหนึ่ง
สเปคของ realme 8 5G
- ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พาเนล Super AMOLED
- ชิป MediaTek Helio G95 แบบ Octa-core
- แรม 4-6GB, หน่วยความจำ 128GB ใส่ MicroSD Card ได้ 256GB
- ระบบปฏิบัติการ realme UI 2.0 พัฒนาจาก Android 11
- รองรับ 5G, Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac, Bluetooth 5.1
- กล้องหลัง 4 ตัว เป็นกล้องหลัก 64 ล้าน, Ultrawide 8 ล้าน, Macro กับ B&W ตัวละ 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 30 วัตต์ ด้วยพอร์ต USB-C 2.0
- ราคา 7,999 บาท (realme LazMall)
2. POCO X3 Pro (7,999 บาท)
POCO X3 Pro เครื่องนี้นับเป็นมือถือสำหรับเกมเมอร์ได้อย่างเต็มปากและราคาไม่เกิน 10000 บาทอีกด้วย โดยเครื่องนี้เลือกใช้หน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พาเนล IPS ให้สีสันสวยงาม รองรับ 4G, Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac, Bluetooth 5.0 และมีเซนเซอร์อินฟาเรดคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าตามเอกลักษณ์ของมือถือในเครือ Xiaomi อีกด้วย ชิปเป็น Qualcomm Snapdragon 860 แบบ Octa-core เรื่องประสิทธิภาพตอนทำงานและเล่นเกมเรียกว่าดีอย่างแน่นอน มีแรม 6-8GB และหน่วยความจำในเครื่อง 128-256GB โดยรุ่นที่เลือกมาแนะนำในระดับราคาไม่เกิน 10000 บาทจะเป็นรุ่น 6/128GB ซึ่งถือว่าเยอะเพียงพอใช้งานได้สบายๆ ติดตั้งระบบปฏิบัติการ MIUI 12 พัฒนาจาก Android 11 มาให้ ติดตั้งกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 48 ล้าน, Ultrawide 8 ล้าน, Macro กับ Depth อย่างละ 2 ล้านพิกเซลมาให้และกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ในเครื่องมีความจุ 5,160 mAh รองรับชาร์จไว 33 วัตต์ ด้วย USB-C 2.0 ซึ่งถ้าใครหามือถือมาเน้นเล่นเกมเป็นหลักก็แนะนำให้ซื้อรุ่นนี้ได้เลย
สเปคของ POCO X3 Pro
- ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พาเนล IPS
- ชิป Qualcomm Snapdragon 860 แบบ Octa-core
- แรม 6-8GB, หน่วยความจำ 128-256GB
- ระบบปฏิบัติการ MIUI 12 พัฒนาจาก Android 11
- รองรับ 4G, Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac, Bluetooth 5.0
- กล้องหลัง 4 ตัว เป็นกล้องหลัก 48 ล้าน, Ultrawide 8 ล้าน, Macro กับ Depth ตัวละ 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 5,160 mAh รองรับชาร์จไว 33 วัตต์ ด้วยพอร์ต USB-C 2.0
- ราคา 7,999 บาท (POCO Official Global Store Shopee Mall)
3. Xiaomi Redmi Note 10 Pro (8,999 บาท)
ถ้าถามหามือถือไม่เกิน 10000 บาทดีๆ สักรุ่นก็มี Xiaomi Redmi Note 10 Pro รวมอยู่ในกลุ่มด้วย แม้จะเปิดตัวมาสักพักแล้วแต่ฟีเจอร์เด่นของมือถือเครื่องนี้เรียกว่าไม่แพ้รุ่นใหม่อย่างแน่นอน โดยตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอ 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พาเนล AMOLED ค่า Refresh Rate 120 Hz เวลาทัชหน้าจอจะมีความลื่นไหลกว่าหน้าจอทั่วไป รองรับ 4G, Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac, Bluetooth 5.0 ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 730 แบบ Octa-core มีแรมในเครื่อง 6-8GB และหน่วยความจำในเครื่อง 128GB ใส่ MicroSD Card เพิ่มได้ 512GB สำหรับบันทึกไฟล์ภาพและวิดีโอเพิ่มได้สะดวกขึ้น ติดตั้งระบบปฏิบัติการ MIUI 12 พัฒนาจาก Android 11 มาให้ ส่วนกล้องหลังจัดเป็นไฮไลต์เด็ดของมือถือเครื่องนี้เลย โดยกล้องหลักมีความละเอียด 108 ล้าน, Ultrawide 8 ล้าน, Macro 5 ล้าน, Depth 2 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล ส่วนแบตเตอรี่ในเครื่องมีความจุ 5,020 mAh และรองรับชาร์จไว 33 วัตต์ ด้วย USB-C 2.0 และถ้าใครชอบฟังเพลงด้วยหูฟังสาย เครื่องนี้มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ติดตั้งมาให้ใช้งาน ดังนั้นถ้าใครหามือถือไม่เกิน 10000 บาทเน้นเรื่องกล้องเป็นหลักก็แนะนำ Redmi Note 10 Pro เครื่องนี้เลย
สเปคของ Xiaomi Redmi Note 10 Pro
- ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พาเนล AMOLED ค่า Refresh Rate 120 Hz
- ชิป Qualcomm Snapdragon 730 แบบ Octa-core
- แรม 6-8GB, หน่วยความจำ 128GB ใส่ MicroSD Card ได้ 512GB
- ระบบปฏิบัติการ MIUI 12 พัฒนาจาก Android 11
- รองรับ 4G, Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac, Bluetooth 5.0
- กล้องหลัง 4 ตัว เป็นกล้องหลัก 108 ล้าน, Ultrawide 8 ล้าน, Macro 5 ล้าน, Depth 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 5,020 mAh รองรับชาร์จไว 33 วัตต์ ด้วยพอร์ต USB-C 2.0
- มีช่องหูฟัง 3.5 มม. ติดตั้งมาให้ใช้งาน
- ราคา 8,999 บาท (Superitmall Shopee)
4. OPPO Reno5 5G (9,400 บาท)
OPPO Reno5 5G เครื่องนี้เป็นมือถือไม่เกิน 10000 บาทที่ทางบริษัทเน้นเรื่องกล้องและการถ่ายวิดีโอเป็นพิเศษ โดยชูจุดเด่นว่าภาพที่ถ่ายได้จะสว่างสวยงามและวิดีโอไหลลื่นอีกด้วย ด้านขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 6.43 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พาเนล AMOLED, Refresh Rate 90 Hz รองรับการเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac, Bluetooth 5.1, NFC ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 765G 5G แบบ Octa-core ซึ่งประสิทธิภาพจัดว่าเหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมได้อย่างดีแน่นอน มี RAM 8GB, ROM 128GB ติดตั้ง Color OS 11.1 พัฒนาจาก Android 11 มาให้พร้อมใช้งาน กล้องหลังมีทั้งหมด 4 ตัว ได้แก่ เลนส์หลัก 64 ล้าน, Ultrawide 8 ล้าน, Telephoto&Macro ตัวละ 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ติดตั้งแบตเตอรี่ความจุ 4,300 mAh รองรับชาร์จไว 65 วัตต์ ชาร์จไวผ่าน USB-C 3.1 ได้ทันที ซึ่งถ้าใครเล็งรุ่นนี้เอาไว้ก็ซื้อมาใช้งานได้เลย
สเปคของ OPPO Reno5 5G
- ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พาเนล AMOLED, Refresh Rate 90 Hz
- ชิป Qualcomm Snapdragon 765G 5G แบบ Octa-core
- แรม 8GB, หน่วยความจำ 128GB
- ระบบปฏิบัติการ Color OS 11.1 พัฒนาจาก Android 11
- รองรับ 5G, Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac, Bluetooth 5.1, NFC
- กล้องหลัง 4 ตัว เป็นกล้องหลัก 64 ล้าน, Ultrawide 8 ล้าน, Telephoto&Macro ตัวละ 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 4,300 mAh รองรับชาร์จไว 65 วัตต์ ด้วยพอร์ต USB-C 3.1
- ราคา 9,400 บาท (alot789 Shopee)
5. Xiaomi 11 Lite 5G NE (9,490 บาท)
Xiaomi 11 Lite 5G NE เป็นรหัสเรือธงของ Xiaomi ที่แม้จะมีรุ่นใหม่แล้วแต่ถ้านับในฐานะมือถือไม่เกิน 10000 บาทถือว่ายังน่าซื้อมาใช้งานอย่างมาก ด้วยขนาดตัวเครื่อง 6.55 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พาเนล AMOLED, Refresh Rate 90 Hz รองรับการเชื่อมต่อ 5G, Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.2, NFC และมีฟีเจอร์อินฟาเรดเฉพาะของ Xiaomi เช่นกัน ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 778G 5G ใช้ทำงานและเล่นเกมได้เป็นอย่างดี มีแรม 6-8GB กับหน่วยความจำ 128-256GB โดยรุ่นที่เลือกมาแนะนำเป็น 6/128GB ติดตั้ง MIUI 12.5 พัฒนาจาก Android 11 มาให้ใช้ มีกล้องหลัง 3 ตัวด้วยกันคือกล้องหลัก 64 ล้าน, Ultrawide 8 ล้าน, Macro 5 ล้านพิกเซล มีกล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 4,250 mAh รองรับชาร์จไว 33 วัตต์ ชาร์จด้วยสาย USB-C 2.0 ได้เลย ซึ่งแม้จะเป็นตัวรองก็ตาม แต่จากที่ผู้เขียนมีคนใกล้ตัวใช้มือถือรุ่นนี้อยู่ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้งานได้ดีมากรุ่นหนึ่ง จะเล่นเกมหรือใช้งานโซเชียลทั่วไปก็ตอบโจทย์อย่างแน่นอน
สเปคของ Xiaomi 11 Lite 5G NE
- ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พาเนล AMOLED, Refresh Rate 90 Hz
- ชิป Qualcomm Snapdragon 778G 5G แบบ Octa-core
- แรม 6-8GB, หน่วยความจำ 128-256GB
- ระบบปฏิบัติการ MIUI 12.5 พัฒนาจาก Android 11
- รองรับ 5G, Wi-Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax, Bluetooth 5.2, NFC, อินฟาเรด
- กล้องหลัง 3 ตัว เป็นกล้องหลัก 64 ล้าน, Ultrawide 8 ล้าน, Macro 5 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 20 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 4,250 mAh รองรับชาร์จไว 33 วัตต์ ด้วยพอร์ต USB-C 2.0
- ราคา 9,490 บาท (Xiaomi LazMall)
6. Motorola G 5G Plus (9,990 บาท)
Motorola G 5G Plus อาจจะเป็นมือถือที่หลายคนมองข้ามก็ตาม แต่จริงๆ แล้วเป็นมือถือไม่เกิน 10000 บาทสำหรับคนที่ชอบสมาร์ทโฟนแบบ Android เพียวๆ ไม่ใช่ UI แบบที่ผู้สร้างสมาร์ทโฟนนำไปพัฒนาเอง โดยเครื่องนี้ใช้หน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ แบบ LCD ค่า Refresh Rate 90 Hz รองรับ 5G, Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac, Bluetooth 5.1, NFC ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 765G ซึ่งทำงานและเล่นเกมได้เป็นอย่างดี มี RAM 8GB กับหน่วยความจำ 128GB ใส่ MicroSD Card ได้ 1TB ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 10 แบบไม่ปรุงแต่งมาให้ใช้งาน ซึ่งถ้าใครชอบความคลีนก็น่าสนใจทีเดียว ส่วนกล้องหลังมี 4 ตัวได้แก่กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล, Ultrawide 8 ล้าน, Macro 5 ล้าน, Depth 2 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ในเครื่องมีความจุ 5,000 mAh รองรับการชาร์จไว 20 วัตต์ด้วยพอร์ต USB-C 2.0 จัดเป็นมือถือที่เน้นเรื่องระบบปฏิบัติการที่ไม่ปรุงแต่งเยอะและไม่กินสเปคเกินไป ทำให้ใช้งานโซเชียลหรือจะเล่นเกมก็ลื่นไหลดีอย่างแน่นอน
สเปคของ Motorola G 5G Plus
- ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ พาเนล LCD, Refresh Rate 90 Hz
- ชิป Qualcomm Snapdragon 765G 5G แบบ Octa-core
- แรม 8GB, หน่วยความจำ 128GB ใส่ MicroSD Card ได้ 1TB
- ระบบปฏิบัติการ Android 10
- รองรับ 5G, Wi-Fi 5 มาตรฐาน 802.11ac, Bluetooth 5.1, NFC
- กล้องหลัง 4 ตัว เป็นกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล, Ultrawide 8 ล้าน, Macro 5 ล้าน, Depth 2 ล้านพิกเซล, กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ความจุ 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 20 วัตต์ ด้วยพอร์ต USB-C 2.0
- ราคา 9,990 บาท (Motorola LazMall)
สรุปสเปคมือถือไม่เกิน 10000 ทั้ง 6 รุ่นน่าใช้ ใช้งานดีเล่นเกมก็ลื่นเพลิน
ผู้ใช้ที่หามือถือไม่เกิน 10000 บาทอยู่สามารถอ่านสรุปสเปคของทั้ง 6 รุ่นที่เลือกมาแนะนำได้ที่นี่
สเปคมือถือไม่เกิน 10000 | หน้าจอ | ชิป, แรม, หน่วยความจำ, ระบบปฏิบัติการ | การเชื่อมต่อ | กล้อง | แบตเตอรี่ | ราคา |
realme 8 5G | 6.4″ FHD+ Super AMOLED | MediaTek Helio G95 RAM 4-6GB ROM 128GB MicroSD Card 256GB realme UI 2.0 พัฒนาจาก Android 11 |
5G Wi-Fi 5 Bluetooth 5.1 USB-C 2.0 |
กล้องหลัก 64 ล้าน Ultrawide 8 ล้าน Macro 2 ล้าน B&W 2 ล้าน กล้องหน้า 16 ล้าน |
5,000 mAh ชาร์จไว 30W |
7,999 บาท |
POCO X3 Pro | 6.67″ FHD+ IPS | Snapdragon 860 RAM 6-8GB ROM 128-256GB MIUI 12 พัฒนาจาก Android 11 |
4G Wi-Fi 5 Bluetooth 5.0 USB-C 2.0 |
กล้องหลัก 48 ล้าน Ultrawide 8 ล้าน Macro 2 ล้าน Depth 2 ล้าน กล้องหน้า 20 ล้าน |
5,160 mAh ชาร์จไว 33W |
7,999 บาท |
Xiaomi Redmi Note 10 Pro | 6.67″ FHD+ AMOLED Refresh Rate 120 Hz |
Snapdragon 730 RAM 6-8GB ROM 128GB MicroSD Card 512GB MIUI 12 พัฒนาจาก Android 11 |
4G Wi-Fi 5 Bluetooth 5.0 USB-C 2.0 ช่องหูฟัง 3.5 มม. |
กล้องหลัก 108 ล้าน Ultrawide 8 ล้าน Macro 5 ล้าน Depth 2 ล้าน กล้องหน้า 16 ล้าน |
5,020 mAh ชาร์จไว 33W |
8,999 บาท |
OPPO Reno 5 5G | 6.43″ FHD+ AMOLED Refresh Rate 90 Hz |
Snapdragon 765G 5G RAM 8GB ROM 128GB Color OS 11.1 พัฒนาจาก Android 11 |
5G Wi-Fi 5 Bluetooth 5.1 NFC USB-C 3.1 |
กล้องหลัก 64 ล้าน Ultrawide 8 ล้าน Telephoto 2 ล้าน Macro 2 ล้าน กล้องหน้า 32 ล้าน |
4,300 mAh ชาร์จไว 65W |
9,400 บาท |
Xiaomi 11 Lite 5G NE | 6.55″ FHD+ AMOLED Refresh Rate 90 Hz |
Snapdragon 778G 5G RAM 6-8GB ROM 128-256GB MIUI 12.5 พัฒนาจาก Android 11 |
5G Wi-Fi 6 Bluetooth 5.2 NFC USB-C 2.0 |
กล้องหลัก 64 ล้าน Ultrawide 8 ล้าน Macro 5 ล้าน กล้องหน้า 20 ล้าน |
4,250 mAh ชาร์จไว 33W |
9,490 บาท |
Motorola G 5G Plus | 6.7″ FHD+ LCD Refresh Rate 90 Hz |
Snapdragon 765G 5G RAM 8GB ROM 128GB MicroSD Card ได้ 1TB Android 10 |
5G Wi-Fi 5 Bluetooth 5.1 NFC USB-C 2.0 |
กล้องหลัก 48 ล้าน Ultrawide 8 ล้าน Macro 5 ล้าน Depth 2 ล้าน กล้องหน้า 16 ล้าน |
5,000 mAh ชาร์จไว 20W |
9,990 บาท |
จะเห็นว่าสมาร์ทโฟนที่ราคาไม่เกิน 10000 บาทในปัจจุบันนี้ให้สเปคดีใช้เล่นเโซเชียลได้ไหลลื่นและเล่นเกมในปัจจุบันได้แทบทุกเกม แต่เกม 3 มิติเกมไหนที่กินทรัพยากรเครื่องหนักๆ ผู้เขียนก็แนะนำให้ปรับกราฟฟิคลงสักหน่อยเพื่อถนอมแบตเตอรี่และช่วยไม่ให้เครื่องร้อนเกินไปด้วย ซึ่งถ้าใครคิดว่าไม่ได้ใช้มือถือทำอะไรเยอะอยู่แล้วอาจจะเลือกในกลุ่ม 6 รุ่นนี้ไปใช้งานก็ประหยัดเงินไปได้มากทีเดียว ไม่ต้องซื้อรุ่นเรือธงเสมอไปก็ได้ใช้มือถือคุณภาพดีอย่างแน่นอน