Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 สเปก AMD Ryzen Pro ที่เหนือชั้น เป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คเพื่อการทำงานที่น่าสนใจที่สุดรุ่นหนึ่งอย่าง Lenovo ThinkPad L Series กับอีกหนึ่งรุ่นในตระกูล ThinkPad เหมาะสำหรับกลุ่ม SMB / SME หรือคนทำงานออฟฟิศที่ต้องการฮาร์ดแวร์ที่ดี เชื่อถือได้ และมีความคงทนแข็งแรง โดยในรุ่น Lenovo ThinkPad L15 ที่ทางผมได้นำมารีวิวนั้น ต้องบอกว่าสเปกชิปประมวลผล Ryzen 5 PRO 5650U ที่ลื่นไหลใช้งานได้ดีเยี่ยม โดยเป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นที่เป็นสายมืออาชีพที่จัดเต็มเครื่องของความทนทานมาตรฐาน Military Grade (MIL-STD-810G) ที่สำคัญคือเบาเพียง 1.85 เท่านั้น
โดย Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 เป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6″ Full HD พาเนล IPS ใช้สเปคภายในที่มีประสิทธิภาพและสเถียรภาพ พ่วงด้วยแรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz และที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB และความปลอดภัยในการใช้งานทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์ภายนอกและภายใน รวมไปถึงแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวันกว่า 10 ชั่วโมง ในราคา 39,990 บาท โดยมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro พร้อมการรับประกัน 3 ปี (On-site Service 1 ปี) ที่ต้องบอกว่าคุ้มค่าสุดๆ สำหรับโน๊ตบุ๊คเพื่อการทำงานรุ่นนี้
VDO Review
NBS Verdict
สรุปรีวิว Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 ขนาดหน้าจอ 15.6″ ชิปประมวลผล AMD Ryzen PRO ประสิทธิภาพสูงเน้นการใช้งานกับองค์กรในกลุ่มของ SMB / SME พร้อมแรม 16GB และ SSD M.2 512GB ที่พร้อมใช้งานทันที ได้ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ ThinkPad ที่คุ้นเคยอยู่แล้วในทุกๆ มิติ ให้ประสบการณ์ในการใช้งานที่ยอดเยี่ยมจริงๆ สมกับเป็นซีรีส์โน๊ตบุ๊คที่มืออาชีพนิยมใช้งานกัน หรือผู้ใช้งานระดับทั่วไปก็สามารถใช้ได้ จากการที่เป็นซีรีส์ ThinkPad L Series ที่ทุกคนมั่นใจ ซึ่งจัดว่าเป็น Commercial Notebook ที่นอกจากประสิทธิภาพดีเยี่ยมแล้ว ยังรองรับการทำงานที่ต้องการความเชื่อถือสูง
ยังได้เทคโนโลยีโซลูชั่นความปลอดภัยในตัว และคุณสมบัติความปลอดภัยแบบไบโอเมตริกซ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Discrete Trusted Platform Module 2.0 (dTPM 2.0) ป้องกันการแฮกระดับฮาร์ดแวร์ ทำให้เป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว ทั้งในด้านของความคล่องตัวก็ตอบโจทย์ ด้วยน้ำหนักเพียง 2 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากนี้ตัวเครื่องยังแข็งแกร่งทนทานระดับกองทัพ คีย์บอร์ดแม่นยำพิมพ์สนุกฃได้ TrackPoint ใช้งานสะดวก รองรับการใช้งาน 4G / 5G ด้วยการติดตั้งโมดูล Nano SIM card reader เพิ่มภายหลัง รองรับ Smart card reader เพื่อการใช้งานการ์ดในการเข้าใช้งานสำหรับบางองค์กร
สนับสนุนการใช้งานพื้นฐานได้เป็นอย่างดีรวมถึง ผลทดสอบต่างๆ ออกมาได้อยู่ในระดับมาตรฐานเป็นที่น่าพอใจมาก ทั้งในด้านการทำงานทั่วไป และงานที่เน้นการประมวลผล ที่สำคัญคือได้พอร์ตชาร์จไฟและเชื่อมต่อเป็น USB-C จำนวน 2 พอร์ตด้วย ทำให้เชื่อมต่อได้หลากหลายทั้งชาร์จไฟ / ต่อหน้าจอภายนอก / โอนถ่ายข้อมูล ส่งผลให้เป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการทำงานที่จัดได้ว่ามีความครบครันในการใช้งานหลายๆ ด้าน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ใช้งานทั่วๆ ไปหรือผู้ที่เน้นใช้งานจริงจัง รวมไปความทนทาน ใช้งานแบตเตอรี่ได้ต่อเนื่องระดับ 10 ชั่วโมง หรือตลอดทั้งวัน รวมไปถึงชาร์จได้ง่ายด้วยพอร์ต USB-C ด้วย
เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ เพื่องาน Enterprise ได้ความทนทานและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ThinkPad ยุคใหม่ พร้อมปลอดภัยแบบจัดเต็ม อย่างที่มืออาชีพควรมี หรือใครชื่นชอบ ThinkPad ก็นำมาใ้งานได้ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ควรรู้ก็คือ หน้าจอ 15.6″ ติดตั้งมาเป็นพาเนล IPS เกรดกลางๆ เท่านั้น และในส่วนของระบบปฏิบัติการ Windows ได้มาเป็นเวอร์ชั่น 10 Pro ที่รองรับการอัปเกรดเป็น 11 Pro ทันที ซึ่งก็ต้องบอกว่าทำให้ Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 รุ่นที่เรานำมาทดสอบนั้นมีราคาที่สูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ใช้ Windows 10 Home หรือ 11 Home อีกด้วย
จุดเด่น Lenovo ThinkPad L15 Gen 2
- สเปกชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 PRO 5650U ที่แรงลื่น ประสิทธิภาพสูง เน้นงานมืออาชีพ
- จัดเต็มด้วยหน่วยความจำแรมขนาด 16GB และที่เก็บข้อมูล SSD M.2 ระดับบน ความจุ 512GB
- หน้าจอแสดงผล 15.6″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับการใช้งานที่หลากหลาย
- เป็น Commercial Notebook จอใหญ่ ที่มีความเบา 1.85 กิโลกรัม และบางสุดที่ 21 มิลลิเมตร
- การเลือกใช้วัสดุมาประกอบสร้างตัวเครื่องและงานประกอบทำได้ดีน่าประทับใจมาก
- ตัวเครื่องมีความทนทานระดับ Military Grade (MIL-STD-810G) ต่อการกระแทก สะเทือน ฯลฯ
- มีฟีเจอร์ ThinkShutter ม่านชัตเตอร์ปิดเลนส์กล้องเว็บแคม เพื่อความปลอดภัย
- AccuType Keyboard สัมผัสในการพิมพ์ดีเยี่ยม พร้อมติดตั้งระบบไฟ Backlit มาให้
- มี TrackPoint ตามมาตรฐาน ThinkPad ใช้งานได้สะดวกสำหรับคนที่ชื่นชอบ
- ลำโพงคุณภาพดี ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Dolby Audio ให้เสียงที่ดี ประทับใจในการใข้งาน
- ระบบ Fingerprint สแกนลายนิ้วมือ มีความปลอดภัยและสะดวกสบายในการเข้าใช้งาน
- ติดตั้งฮาร์ดแวร์ Discrete Trusted Platform Module 2.0 (dTPM 2.0) เข้ารหัสป้องกันโดนแฮก
- อแดปเตอร์ที่ติดตั้งมาให้มีขนาดเล็กพกพาง่าย และเป็น USB-C ที่ชาร์ตอุปกรณ์อื่นได้ด้วย
- สนับสนุนการใช้งานร่วมกับ ThinkPad Docking Station เพื่อขยายการเชื่อมต่อ
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 10 ชั่วโมง รองรับ Rapid Charge ที่ชาร์จแบตได้รวดเร็ว
- รองรับการใช้งาน 4G / 5G ด้วยการติดตั้งโมดูล Nano SIM card reader เพิ่มภายหลัง
- รองรับ Smart card reader เพื่อการใช้งานการ์ดในการเข้าใช้งานสำหรับบางองค์กร
- ได้ความปลอดภัยและประสบการณ์ใช้งานโดยรวมแบบมืออาชีพที่หลายคนต้องการ
- ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro และรองรับอัปเกรดเป็น 11 Pro ทันที
- มีตัวเลือกประกันเป็นแบบ 3 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านถึงที่ทำงาน
ข้อสังเกต Lenovo ThinkPad L15 Gen 2
- หน้าจอพาเนล IPS อยู่เกรดกลางๆ ให้ขอบเขตสีกับงานที่ไม่จริงจังมากนัก
- ราคาสูงเล็กน้อยจากการที่ติดตั้งระบปฏิบัติการ Windows 10 Pro มาให้ทันที
Specification
สเปคภายในของตัว Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 ที่ได้รับมารีวิวนี้เป็นสเปกขายจริง รุ่นราคา 39,990 บาท มาพร้อมชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 PRO 5650U รุ่นพิเศษเพื่องานมืออาชีพสำหรับภาคธุรกิจ ที่เป็นชิป 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็ว 2.30 GHz สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้เป็น 4.20 GHz การ์ดจอออนบอร์ด AMD Radeon 7 สำหรับการใช้งานทั่วไปรวมไปถึงงาน 3 มิติที่ไม่ซับซ้อนมาก ซึ่งนับว่าเป็นการ์ดจอออนชิปที่ประสิทธิภาพสูงกโดยมีการจองพื้นที่แรมไปเลย 4GB ทันทีจากแรมหลัก ทำให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่ ส่วนหน้าจอเป็นขนาด 15.6″ ที่ได้ความละเอียด Full HD (1920 x 1080 พิกเซล) พาเนล IPS คุณภาพกลางๆ สีสันสดใส มุมมองกว้าง
ทำงานร่วมกับหน่วยความจำแรมขนาด 16GB DDRR4 Bus 3200MHz เรียกได้ว่ารองรับการใช้งานได้หลากหลายและมากมายตามสไตล์ของโปรแกรมมืออาชีพ ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลก็ใช้เป็น SSD M.2 NVMe PCIe ระดับสูง ความจุ 512GB ทำให้สเปคโดยรวมนั้นลงตัวมาก ๆ สำหรับการใช้งานพื้นฐาน เล่นอินเตอร์เน็ตเว็บไซต์ ทำเอกสาร ดูหนัง ฟังเพลง ที่หลากหลายโปรแกรมพร้อมๆ กัน ส่วนพอร์ตชาร์จเป็น USB-C รวมถึง Wi-Fi 6 AX (2×2) และ Bluetooth 5.2 พร้อมการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านถึงที่ทำงาน ส่วนระบบปฏิบัติการเป็น Windows 10 Pro รองรับการอัปเกรดเป็น Windows 11 Pro ด้วย
Lenovo ThinkPad L15 Gen2 -20X7004UTH ราคา 39,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
-
CPU : AMD Ryzen 5 PRO 5650U (6C/12T : 2.30 – 4.20GHz)
-
GPU : AMD Radeon 7
-
RAM : 16GB DDR4 Bus 3200MHz
-
DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD
-
STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
-
OS : Windows 10 Pro
- Warranty : 3 Year Support Onsite Service by Lenovo Thailand
Hardware / Design
ถ้าสังเกตดูแล้ว Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 จะมีการต่อยอดการผลิตจาก Lenovo ThinkPad L Series รวมไปถึงเป็นไลน์ของ ThinkPad ที่เป็นซีรี่ย์หลักทำให้ดีไซน์ค่อนข้างคล้ายกันกับ ThinkPad รุ่นอื่นๆ พร้อมกับมีบางจุดที่ทาง Lenovo ได้ติดตั้งเอกลักษณ์เดิมๆ ไว้เช่นทัชแพดที่ติดตั้งปุ่มคลิก 3 ปุ่ม ไว้ใช้กับ TrackPoint ได้ เรียกได้ว่าตรงจุดนี้น่าจะถูกใจแฟนพันธ์แท้หลายๆ คนทีเดียว วัสดุของตัวเครื่องนั้น ภายนอกตัวเครื่องจะเป็นวัสดุซอฟท์ทัชให้ความรู้สึกมั่นคงเวลาจับถือเครื่องไปไหนมาไหน ส่วนวัสดุด้านในก็ยังเป็นพลาสติกคุณภาพสูง ที่สำคัญโครงสร้างภายในยังรองรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี มั่นใจได้เลยว่าแข็งแรงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป
ส่วนของตัวเครื่องนั้นจะบางกว่าโน๊ตบุ๊คของ Lenovo ThikPad L Series ยุคก่อนๆ ซึ่งเน้นการพกพาออกไปใช้ทำงานนอกสถานที่ ดังนั้นต้องบางได้ระดับและน้ำหนักไม่มากเกินไป ตามสไตล์ของ Comercial Notebook ระดับมืออาชีพ ทำให้ตัวเครื่องของ Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 ยังคงความแข็งแกร่งได้ตามมาตรฐานเดิม และสำหรับการออกแบบบานพับขาจอที่แข็งแรงจากการที่เป็นโลหะและมีความแตกต่างที่ทำให้ตัวเครื่องสามารถกางสุดได้ 180 องศาได้อย่างแข็งแรงไม่เกิดปัญหาเวลาใช้งาน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของทาง ThinkPad ในหลายๆ รุ่นที่มีมาโดยตลอด
รวมถึงมีความทนทาน จากได้รับมาตรฐาน Military Grade (MIL-STD-810G) กำหนดทางทหารถึง 12 ระดับ และผ่านการตรวจสอบคุณภาพมากกว่า 200 รายการ อาทิ ต่อแรงกระแทก อุณหภูมิสูงต่ำ ความชื้น ความกดอากาศ และแสงแดด เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถทำงานได้ตามประสบการณ์ตรงที่ Lenovo ทำได้ดีมาโดยตลอด ทำให้หายกังวลเลยเวลาที่เรานำไปใช้งานนอกสถานที่ เรียกได้ต่อให้เจออุปสรรคแค่ไหน เราก็สามารถหยิบขึ้นมาทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา
ส่วนดีไซน์โดยรวมก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากจาก Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 รุ่นก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องด้านนอกหรือด้านใน และปลีกย่อยอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโลโก ThinkPad บริเวณภายหลังที่มีไฟ LED สีแดงอยู่ (จะติดเวลาใช้งาน และจะกระพริบเป็นจังหวะเหมือนลมหายใจเวลาที่เครื่อง Sleep) รวมไปถึงรูปแบบตำแหน่งต่างๆ อย่างคีย์บอร์ด ปุ่ม Power นอกจากนี้มี Fingerprint Scan ที่เป็นมาตรฐานสำหรับโน๊ตบุ๊คเพื่อการใช้งานธุรกิจโดยเฉพาะ เพื่อความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยในการใช้งาน สรุปแล้วเชื่อว่าตอบโจทย์ของแฟนๆ ของ ThinkPad แน่นอน
Keyboard / Touchpad
ส่วนคีย์บอร์ดของ Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 เครื่องนี้จะเป็น AccuType Keyboard ที่เป็นข้อเด่นที่คีย์บอร์ดที่ออกแบบมาให้มีรูปทรงโค้งปากยิ้มด้านใต้ตัวเครื่องเติมลงมาเล็กน้อยเพื่อลดโอกาสพิมพ์ผิดพลาดได้ ซึ่งเมื่อใช้งานจริงแล้วก็ถือว่าทำได้ดี โอกาสพิมพ์ผิดพลาดลดลงมาก เพราะว่าเมื่อพิมพ์อย่างเร็วแล้วนิ้วกำลังจะเลื่อนลงไปโดนผิดปุ่มก็จะได้ส่วนของปลายโค้งที่ทำให้พิมพ์ถูกต้องขึ้น ในด้านการใช้งานปกติทั่วไปก็พบว่าตัวคีย์บอร์ดแบบ AccuType ตอบสนองกับการพิมพ์ แบบงานเอกสารได้ดีพอสมควร
แม้ปุ่มมีการเว้นระยะห่างที่กว้างกว่าปกติอาจทำให้ต้องปรับตัวสักเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ แต่เมื่อใช้งานไปสักระยะก็คุ้นเคยได้ไม่ยาก พร้อมติดตั้งไฟ Backlit คีย์บอร์ดเพื่อใช้งานในที่มืดได้สะดวก นอกจากนี้มี Fingerprint Scan ระบบรักษาความปลอดภัยโดยใช้ลายนิ้วมือตั้งอยู่บริเวณด้านล่างของปุ่มทิศทางนั่นเองซึ่งก็ใช้งานได้ง่ายตามมาตรฐานทั่วๆ ไปของโน๊ตบุ๊คในกลุ่มธุรกิจ จากการทดลองใช้งานแล้วถือว่าสะดวกมากๆ ทีเดียว แถมไม่ต้องเสียเวลาใช้รหัสผ่านให้ยุ่งยากด้วย
นอกจากนี้ Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 ก็ไม่พลาดที่จะติดตั้ง TrackPoint (Point Stick) มาให้ด้วยบริเวณกลางตัวคีย์บอร์ด ซึ่งก็สามารถใช้งานควบคู่ไปกับทัชแพดขนาดใหญ่ที่มีปุ่มกดถึง 5 ปุ่มได้เป็นอย่างดี (ใช้ร่วมกับ TrackPoint จะใช้เพียง 3 ปุ่มบน) เรียกได้ว่าเมื่อได้ใช้งานไปซักเวลานึงแล้ว ก็จะชอบมันได้ไม่ยาก โดยหลักๆ แล้วจะใช้นิ้วชี้ควบคุม TrackPoint ส่วนนิ้วโป้งของมือทั้งสองข้างจะเป็นการคลิกซ้ายขวา ร่วมกับปุ่มกลางที่เป็น Scroll ในส่วนของทัชแพดที่มีขนาดใหญ่โต สามารถใช้งานหลายนิ้วมือผ่านชุดคำสั่งแบบ Multi Gesture บน Windows 10 Pro หรือ Windows 11 Pro ในอนาคตได้เป็นอย่างดี
Screen / Speaker
Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 ที่เราได้มาทดสอบเลือกใช้จอแสดงผลแบบด้านขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด 1920 × 1080 พิกเซล มีสัดส่วนภาพอยู่ที่ 16:9 มีสีสันของภาพที่อยู่ในระดับที่สามารถใช้งานทั่วไปได้สบายๆ โดดเด่นในเรื่องของการใช้งานในที่กลางแจ้ง หรือใช้งานนอกสถานที่เพราะตัวจอมีแสงสะท้อนน้อย และให้ภาพที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ดี เหมาะกับการใช้งานจำพวกงานเอกสาร และงานต่างๆ ที่ไม่ได้ต้องการความแม่นยำของสีสันมากนัก รวมไปถึงที่ต้องทำนอกบ้าน ครั้นจะบันเทิงก็ทำได้เต็มที่ไม่ว่าจะเป็นการดูหนังหรือเล่นเล็กๆ น้อยๆ
แม้ขอบจอจะบางเฉียบทั้งซ้ายและขวาส่วนด้านบนก็ได้ติดตั้งกล้องเว็บแคมไว้ด้านบนเหมือนเดิมที่ความละเอียด HD ที่สำคัญยังมาพร้อมฟีเจอร์ ThinkShutter ม่านชัตเตอร์ปิดเลนส์กล้องที่ทำให้เรามั่นใจว่ากล้องจะเห็นในเวลาที่เราต้องการใช้งานเท่านั้น การใช้งานก็ง่ายมากๆ ด้วยการใช้นิ้วเลื่อนเปิดหรือปิดการใช้งานเท่านั้น เรียกได้ว่าได้ความปลอดภัยสมกับเป็น ThikPad ที่เป็นโน๊ตบุ๊คสายทำงานระดับมืออาชีพ พร้อมไมโครโฟนแบบ 2 ตัว ติดตั้งที่ขอบหน้าจอด้านบน
ทดสอบด้วย Spyder Elite 5 ให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 66% / AdobeRGB ที่ 50% / DPI-P3 ที่ 49% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันนั้นดีมากกว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ซึ่งมีความเที่ยงตรงของสีสูง ส่วนความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 nits ซึ่งจัดได้ว่ามีความสว่างในระดับสูงทำให้ใช้งานที่กลางแจ้งได้ดีระดับหนึ่ง ส่วนค่าสีคลาดเคลื่อน Delta-E อยู่ที่ 2.29ซึ่งนับว่าเป็นตามคุณภาพของพาเนลหน้าจออย่างที่บอกไปแล้ว
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่ามีหลายช่องนั้นเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ 300 nits แต่สำหรับช่องมุมขวาล่างเหมือนจะมีแสงสว่างที่ลดลงแค่ระดับ 12% ทีเดียว ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 4.0 เมื่อทดสอบด้านการแสดงผลต่างๆ ทั้งหมดแล้ว
ตัวลำโพงเป็นแบบ 2 ตัว ที่ 2W รวมเป็น 4W โดยติดตั้งไว้ที่เหนือชุดคีย์บอร์ด เรียกได้ว่ามีความแตกต่างจากโน๊ตบุ๊คทั่วไป มาพร้อมระบบเสียง Dolby Audio ให้ที่เสียงที่ดี พร้อมซอฟต์แวร์ปรับแต่ง ทั้งในเรื่องของเสียงกลางที่สมดุล และเสียงแหลมที่ออกมาใสๆ ส่วนเสียงก็มีมาบ้างแต่บางๆ ส่วนความดังเองก็เพียงพอกับการใช้งานในห้อง ทำให้เสียงที่ออกมามีเสียงดังฟังชัด รองรับการใช้งานได้หลากหลายแบบสบายๆ ให้ประสบการณ์ด้านเสียงที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปประมาณนึง สรุปแล้วถือว่าดีกว่ารุ่นก่อนๆ แบบรู้สึกได้
Connector / Thin And Weight
พอร์ตเชื่อมต่อของ Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 มีความโดดเด่นกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปชัดเจน แต่ก็ถือว่าให้พอร์ตมาเยอะพอตัว โดยมีเพียงพอร์ตเชื่อมต่อ USB 3.2 Type C จำนวน 2 พอร์ต ซึ่งเป็นพอร์ตแบบ Full Function ที่มาพร้อมกับการสนันสนุนในเรื่องของการจ่ายไฟที่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้เราสามารถใช้งานร่วมกับ USB-C อื่นๆ ได้ที่รองรับ PD ในการชาร์จไฟเข้าเครื่อง รวมไปถึงเชื่อมต่อหน้าจอภายนอกได้อย่างลื่นไหล แน่นอนถ่ายโอนข้อมูลได้ความเร็วสูงสุดที่ 20 Gb/s ด้วย รองรับการเชื่อมต่อ Think Docking เพื่อขยายการเชื่อมต่อที่หลากหลาย
นอกจากนี้ Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 ยังมีพอร์ตเชื่อมต่อไมค์-ลำโพง, USB 3.2 Type-A จำนวน 2 ช่อง, LAN จำนวน 1 พอร์ต, พอร์ตเชื่อมต่อ HDMI รวมไปถึงจะเห็นถึงช่อง Nano SIM card reader เพิ่มภายหลัง และรองรับ Smart card reader เพื่อการใช้งานการ์ดในการเข้าใช้งานสำหรับบางองค์กร (แต่ต้องเพิ่มโมดูลภายในด้วย) นอกจากนี้ยังมี micro-SD Card Reader และระบบรักษาความปลอดภัย Kensington Lock ส่วนด้านล่างก็จะมีช่องเชื่อมพิเศษ ไว้ต่อเข้ากับ Docking Station โดยเฉพาะ
Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 สำหรับน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.85 กิโลกรัม ที่ถือว่าเบาเหมาะสมกับการพกพา กับการที่เป็นโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่ครบเครื่องขนาดนี้ทั้งดีไซน์และความทนทาน เมื่อพกพากับอแดปเตอร์หัวชาร์จแบบ USB-C ขนาด 65Watt ที่มีขนาดเล็ก ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานนอกสถานที่อย่างที่สุดรุ่นหนึ่ง จากการที่รองรับการใช้งานไร้สายเป็น Wi-Fi 6 AX และ Bluetooth 5.2 เรียกได้ว่าทั้งหมดนี้เหมาะสุดๆ กับการใช้งานในออฟฟิศหรือร้านกาแฟ หรือที่ไหนก็ได้ที่เราจะกางจอออกมาทำงาน ซึ่งบอกได้เลยว่าน้ำหนักตัวเครื่องรวมกับอแดปเตอร์นั้นหนักเพียง 2.2 กิโลกรัมเท่านั้น
Inside / Upgrade
การแกะเครื่อง Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 นั้นสามารถทำได้ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายเสียทีเดียว โครงสร้างดีกว่าโน๊ตบุ๊คปกติ ดูได้จากโลหะที่ยึดตามพอร์ต เพราะงานประกอบค่อนข้างแน่นหนาทีเดียวจากการที่ฝาหลังเป็นวัสดุที่แข็งแรงทำให้ค่อนข้างแข็ง แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป เอาจริงๆ คือใครๆ ก็ทำได้ขอแค่มีไขควงสี่แฉก ซึ่งหลังจากถอดน็อตทุกตัวเสร็จหมดแล้ว เราต้องใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากหลังมาหน้า ควรทำอย่างใจเย็นระวังแตกหัก ซึ่งในส่วนของขอบเครื่องฝาด้านหน้าจะเป็นสลักยึดเอาไว้ตรงนี้ต้องใช้แรงดึงไปด้านหลัง
โดยเมื่อแกะออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ อย่างชัดเจนตามรูปเลย การวางรูปแบบของฮาร์ดแวร์เครื่องนี้ทำได้ดูดีสมกับเป็นโน๊ตบุ๊คระดับมืออาชีพ เรื่องระบายความร้อนตัวเครื่องมี Heat Pipe จำนวน 2 เส้น วางพาดชิปประมวลผล ส่วนพัดลมเครื่องนี้ก็มีมาให้ 1 ตัว โดยลมร้อนเป่าออกทางด้านข้างตัวเครื่อง นอกจากนั้นเราจะเห็นถึงแรม 16GB SO-DIM ทำให้เพียงพอกับการใช้งานแน่นอน หรือจะอัปเกรดเพิ่มอีก 1 แถวก็ได้ และ SSD M.2 ความจุ 512GB มีมาแล้ว 1 ตัว ที่หากต้องอัพเกรดก็ต้องถอดของเดิมออกด้วย นอกจากนี้ก็จะมีช่องเพิ่มโมดูลเพื่อใช้งานใส่ซิมใช้งานอินเตอร์เน็ตด้วย
Performance / Software
Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 เมื่อตรวจสอบข้อมูลของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็พบว่าข้อมูลขึ้นมาครบถ้วนเลยครับ โดยเลือกใช้ชิป AMD Ryzen รุ่นล่าสุดอย่าง Ryzen 5 PRO 5650U รุ่นพิเศษ ที่มี 6 คอร์ 12 เธรด ความเร็วที่ 2.30 – 4.20 GHz มีค่า TDP ในการปลดปล่อยความร้อนสูงสุดแค่ 15W เท่านั้น ซึ่งจัดว่าต่ำมากสำหรับชิป Mobile Workstation ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 7 นาโนเมตร อย่าง Cezanne พร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ และฟีเจอร์ต่างๆ
ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ ได้แรมขนาด 16GB DDR4 Bus 3200MHz แบบ SO-DIM แบบถอดได้ รวมไปถึงสามารถอัปเกรดได้ทันที โดยรวมกันแล้วมีขนาดรองรับสูงสุด 64GB (32GB x 2) พร้อมให้ที่เก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe PCIe Gen 3 ความเร็วสูงสุด ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro แบบลื่นไหลอย่างที่สุด ในทุกๆ การทำงาน
การ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ดรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง AMD Radeon 7 ซึ่งทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ Radeon Pro Graphics ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีเยี่ยม จองพื้นที่แรม 4GB ที่ความเร็ว 1800 MHz อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นหรือระดับสูง รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มพลังการสร้างสรรค์คอนเทนต์ ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับการ์ดจอแยกเลยทีเดียว ซึ่งสามารถเล่นเกม 3 มิติ พอได้บ้าง เดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH R15 / R20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 PRO คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ ก็ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนทีเดียว รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอพิเศษ ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe Gen 3 ระดับความเร็วสูง ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับ SSD SATA 3 แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ 3435 MB/s และเขียนที่ 2706 MB/s เป็นระดับความเร็วในการเขียนอ่านทำงานโดยรวมที่น่าประทับใจ จัดว่าเป็น SSD M.2 NVMe ระดับบนอย่างแท้จริง
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 5336 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานโปรเซสบางอย่างเฉพาะทาง จากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 PRO ที่แม้ไม่มีการ์ดจอแยก แต่ด้วยชิปประมวลผลที่มีความแรงประมวลผล รวมถึงมีฟีเจอร์ล้ำๆ ภายใน เทคโนโลยี 7 นาโนเมตร ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คในสเปกใกล้เคียงกันกับ Gaming Notebook หลายๆ รุ่นเลยทีเดียว
สำหรับเกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมด ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่เฉลี่ยที่ 35 แต่ฉากตะลุมบอนกันก็เฟรมเรทลดลงไปที่ 20 และในส่วนของกมกินสเปกอย่าง PUBG ปรับกราฟิกเป็น Very Low เฟรมเรทก็ทำออกมาได้ลื่นไหลพอตัว ซึ่งได้เฟรมเรทเฉลี่ยที่ 35 และต่ำสุดอยู่ที่ 23 เท่านั้น เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนที่มีการ์ดจอแยกเยอะเลย
ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ Lenovo Commercial Vantage ก็เรียกได้ว่าเป็นซอฟแวร์ที่มีประโยชน์มาก ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการและควบคุมในหลายๆ ส่วนของเครื่องได้ เรียกได้ว่าค่อนข้างละเอียดมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นอัพเดทไดร์เวอร์ล่าสุด การเปิดปิดอุปกรณ์ต่างๆ ภายในเครื่อง ตั้งค่าทัชแพด การเชื่อมต่อไร้สาย แบตเตอรี่ กล้องเว็บแคม ระบบเสียง และ Fingerprint ที่ต้องบอกว่าซอฟต์แวร์ต่างๆ นั้นไม่ได้ติดตั้งมาให้หนักเครื่องเปล่าๆ แต่สามารถใช้งานได้จริง และใช้งานได้ดีอีกด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีความจุ 5000 mAh สามารถทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ประมาณ 10 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานที่ปรับเป็น Power Saver Mode จากการที่ดู Youtube ผ่านทาง Microsoft Edge นับได้ว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนาน รองรับเทคโนโลยี Rapid Charge เพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จไฟให้กลับมาถึง 80% ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง
ทางด้านอุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 40 – 50 องศาเซลเซียส ทดสอบในห้องปรับอากาศที่อุณหภูมิ 25 – 27 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดที่ 80 องศาเซลเซียส สำหรับชิปประมวลผล นับว่าเรื่องระบบระบายความร้อนของ Lenovo ThinkPad เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีกว่าที่คาดเอาไว้ เพราะมีความแรงเหลือเฟือในการทำงานที่หลากหลาย แต่ก็ยังควบคุมความร้อนได้เป็นอย่างดี มีความสเถียรที่สูง ทำให้เรามั่นใจเรื่องของการใช้งานที่ต่อเนื่องยาวนานทั้งวัน
Conclusion / Award
ที่ผ่านมา Lenovo ThinkPad L Series เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ใครหลายๆ คนสามารถจับต้องได้ง่าย เมื่อเทียบกับ X Series หรือ T Series กับโน๊ตบุ๊คที่มาในรูปแบบของโน๊ตบุ๊คระดับมืออาชีพในราคาที่เหมาะสมและไม่สูงจนเกินไป ได้ประสิทธิภาพดีเน้นความเรียบง่าย เพื่อนำไปใช้งานนอกสถานที่ได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งจัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการทำงานในกลุ่มบริษัทองค์กรธุรกิจขนาดเล็กหรือกลาง ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนก็จะมีราคาที่สูงมากๆ เรียกว่าเป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการงานโดยเฉพาะสำหรับมืออาชีพ อาทิ งานโปรแกรมเอกสารที่ซับซ้อน หรืองานที่กินทรัพยากรเครื่อง เน้นความสเถียรภาพสูง อย่างที่โน๊ตบุ๊คทั่วไปไม่สามารถตอบโจทย์นี้ได้
โดยที่ผ่านมา Lenovo ThinkPad เป็นในส่วนของโน๊ตบุ๊คระดับสูงที่เน้นการทำงานมาโดยตลอด มาพร้อมชิปประมวลผล AMD พร้อมการันตีประสิทธิภาพด้วย Ryzen 5 PRO ที่เป็นรุ่นพิเศษ เพื่อโน๊ตบุ๊คในการใช้งานองค์กร และระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro พร้อมได้ความเป็น ThinkPad L Series ที่น่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ และความปลอดภัยระดับฮาร์ดแวร์ รวมไปถึงสเปคประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คระดับสูงของทาง Lenovo ที่ทุกคนต่างไว้ใจ ที่สำคัญคือความเชื่อมั่นในระดับการทำงานมืออาชีพ
Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 รุ่นนี้สามารถตอบสนองการใช้งานระดับองค์กร ด้วยการที่ Lenovo เลือกใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 PRO 5650U พร้อมได้การ์ดจอออนชิป Radeon 7 ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูงในทุกๆ ประสบการณ์ใช้งาน มีแรม 16GB พร้อมด้วย SSD ความเร็วสูง M.2 NVMe PCIe Gen 3 ระดับสูงความจุ 512B ที่แรงลื่นและเพียงต่อการใช้งาน ป้องกันด้วยฮาร์ดแวร์ Discrete Trusted Platform Module 2.0 (dTPM 2.0 ) ด้วยการเข้ารหัสหน่วยความจำแบบเต็มรูปแบบ สามารถทำงานแยกกันกับอุปกรณ์อื่นบนเครื่องได้อย่างอิสระ การเจาะระบบโดยแฮกเกอร์จะทำได้ยากมาก
ช่วยให้การทำงานต่างๆ ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่วนจุดเด่นอื่นๆ ก็จะเป็นเรื่องของการรองรับการใช้งาน 4G / 5G ด้วยการติดตั้งโมดูล Nano SIM card reader เพิ่มภายหลัง เพื่อใช้งาน 5G / 4G เพื่อให้ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา และรองรับ Smart card reader เพื่อการใช้งานการ์ดในการเข้าใช้งานสำหรับบางองค์กรอย่าง SMB / SME เชื่อได้เลยว่าแม้ว่าเราจะใม่ใช่นักธุรกิจที่ใช้งานองค์กรขนาดใหญ่ แต่ถ้าอยากได้โน๊ตบุ๊คเพื่อการทำงานระดับมืออาชีพที่น่าเชื่อถือล่ะก็ Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 เครื่องนี้ตอบโจทย์แน่นอนครับ แน่นอนว่าในส่วนของราคาก็สูงกว่าโน๊ตบุ๊คในกลุ่มตลาดทั่วไป
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คระดับสูงขนาดหน้าจอ 15 นิ้ว ในระดับสเปค และราคาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่ง Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 ก็ได้รางวัลดังนี้
Best Performance
Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 ที่เป็น Commercial Notebook ขนาด 15.6″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS สายทำงานแบบมืออาชีพที่เน้นความสเถียรภาพและความปลอดภัย ได้สเปกใหม่ล่าสุด อย่างชิปประมวลผล AMD Ryzen 5 PRO 5650U รุ่นพิเศษ การ์ดจอออนชิป AMD Radeon 7 ที่ดีเยี่ยม ได้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีเยี่ยมและประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ยังได้หน่วยความจำแรมขนาด 16GB ที่ใช้งานได้ทันที หรือจะอัปเกรดเพิ่มอีกก็ได้ พร้อม SSD M.2 ระดับสูงความจุ 512GB มาในตัว ส่งผลให้ได้ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปชัดเจน
Best Design
ดีไซน์โดยรวมของ Lenovo ThinkPad L15 Gen 2 มีความโดดเด่นเรื่องสีสันโทนดำสนิททั้งตัวเครื่อง ที่ทำให้สามารถใช้งานจอขนาด 15.6″ ภายในตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปที่ใช้จอขนาดเดียวกัน วัสดุของตัวเครื่องนั้นหลักๆ ใช้เป็นวัสดุคุณภาพสูง ภายนอกตัวเครื่องมีพื้นผิวที่เรียบง่ายแต่ยังให้ความรู้สึกมั่นคงเวลาจับถือเครื่องไปไหนมาไหน ความทนทานมาตรฐาน Military Grade (MIL-STD-810G) โดยรวมสำหรับการออกแบบนั้นทำให้ดูจริงจังและความเป็นมืออาชีพมากๆ ตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คสไตล์ ThinkPad
Best Mobility
ความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของโน้ตบุ๊ตที่เน้นความบางเบา กับรุ่นขนาดหน้าจอ 15.6″ ทั้งในความบางเพียง 21 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 1.85 กิโลกรัมเท่านั้น ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก พร้อมกับได้มาตรฐานความแข็งแรงทนทานระดับกองทัพ อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก รวมน้ำหนักแล้วได้ประมาณ 2.2 กิโลกรัม เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ ได้หน้าจอใหญ่ รวมไปถึงแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง พร้อมที่ชาร์จเป็น USB-C รองรับ USB-PD