หูฟังเกมมิ่ง 7.1 ไม่เกิน 1,000 บาท 9 รุ่น เสียงจัดจ้าน ดีไซน์สวย มีไฟ RGB
หูฟังเกมมิ่งมีให้เลือกมากมายในเวลานี้ อีกทั้งออกแบบมาเพื่อคอเกมได้ลงตัวมากขึ้น ทั้งในเรื่องของฟังก์ชั่น ความสวยงาม และการสวมใส่ที่สบาย มีให้เลือกตั้งแต่ราคาไม่ถึงพันบาท ไปจนถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ อย่าง ฟังก์ชั่น ไดรเวอร์ วัสดุและชุดลำโพง ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ใช้เป็นหลัก แต่ถ้าคุณเป็นคนที่มีงบประมาณน้อย เริ่มต้นที่หลักร้อย ไปจนถึงประมาณ 2 พันบาท ปัจจุบันนี้ก็มีหลายรุ่นให้ได้เลือกใช้ ที่สำคัญบางรุ่นยังมีระบบเสียงรอบทิศทาง และแสงไฟ RGB ให้ได้สนุกสนานไปกับการเล่นเกมมากขึ้น วันนี้เราขอหยิบยกหูฟังสเปคดี น่าใช้ ระบบเสียง Surround sound มาฝากกัน ในงบประมาณไม่เกิน 2,000 บาท จะมีค่ายไหนน่าสนใจ และลงตัวกับงบประมาณของคุณ ไปชมกันเลยครับ
หูฟังเกมมิ่ง
- EGA Type H4 Spectrum
- Signo E-Sport HP-831
- PENTAGONZ LIMULUS
- Fantech HG23 Octane
- Onikuma K10
- ThunderX3 AH7
- Signo E-Sport HP-823
- EGA Type H7
- Nubwo X99
1.EGA Type H4 Spectrum
หูฟังดีไซน์สวยจาก EGA ในสไตล์ของเกมมิ่ง ที่มาพร้อมระบบเสียง 7.1 ปรับจูนได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ EGA ไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 50mm ในราคาไม่ถึงพันบาท กับแสงไฟ RGB ที่เรียกว่า EGA Spectrum Lighting สว่างสวยงาม ปรับได้ถึง 9 โหมด อยู่บริเวณ Earcup สวมใส่สบาย ด้วยครอบหูฟังเมมโมรีโฟม หุ้มด้วยวัสดุแบบหนัง ให้ความนุ่มนวล โครงสร้างและ Headband หุ้มด้วยหนัง มีความยืดหยุ่น โค้งงอได้ เพื่อให้เข้ากับรูปทรงของศีรษะผู้ใช้ น้ำหนักเบา สวมใส่เล่นเกมได้นาน ไม่อึดอัด ปรับระดับเสียงได้จากตัวหูฟัง ไมโครโฟนปรับเลื่อนได้ ให้เข้ากับปากของผู้ใช้ และมีแสงไฟบอกสถานะเปิด-ปิดในตัว โดยให้ย่านความถี่ 20Hz-20KHz กับสายต่อที่ยาวถึง 2.1 เมตร ต่อจากด้านหลังเคส ผ่านทางพอร์ต USB 2.0 ซึ่งเป็นหัวต่อแบบ Gold plate อีกด้วย ให้ความพรีเมียมไม่น้อยเลย สนนราคาอยู่ที่ 790 บาท
จุดเด่น | ข้อสังเกต |
มีไฟ RGB ปรับโหมดแสงได้ | สายเคเบิลถอดไม่ได้ |
ไมโครโฟนติดที่หูฟัง แต่ปรับเลื่อนได้ | |
ครอบหูฟังนุ่มนวล |
2.Signo E-Sport HP-831 Electra 7.1
หูฟังเกมมิ่ง ราคาไม่ถึงพัน แต่ดีไซน์ล้ำ โดนใจเกมเมอร์ กับระบบเสียง 7.1 มาในแบบ Close cup ครอบหูได้นุ่มนวล กับฟองน้ำหนาแน่น หุ้มด้วยวัสดุแบบหนัง เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ด้วยการปรับเลื่อน Headband ได้ง่าย พร้อมชุดรองศีรษะที่กระจายน้ำหนักได้ดี ทำให้ไม่รู้สึกเกะกะ อีกทั้งบิดงอได้มาก มีความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา ใส่สบาย มาพร้อมไมโครโฟนรับเสียงรอบทิศทาง สายเคเบิลเป็นแบบหุ้มยาง ความยาว 2.2 เมตร และปรับแต่งเอฟเฟกต์เสียงได้จากซอฟต์แวร์ เพิ่มดีกรีความเร้าใจให้กับการเล่นเกม ด้วยแสงไฟ RGB บนตัวหูฟัง จัดว่าเป็นหูฟังสำหรับคอเกมงบจำกัด แต่ได้ลูกเล่นที่น่าสนใจ ในราคา 850 บาท
จุดเด่น | ข้อสังเกต |
มีแสงไฟ RGB | สายเป็นแบบหุ้มยางขนาดเล็ก |
โครงสร้างกระจายน้ำหนักได้ดี | |
ปรับระดับเสียงจากหูฟัง |
3.PENTAGONZ LIMULUS
หูฟังเกมมิ่งจาก PENTAGONZ ที่มาพร้อมกับความพรีเมียมในราคาที่สบายกระเป๋า กับทั้งดีไซน์และเทคโนโลยี โดบชูจุดเด่นเรื่องของระบบเสียง 7.1 channel และใช้ระบบสั่น เพื่อเพิ่มความเร้าใจ เป็นเอฟเฟกต์สนุกสนานในการเล่นเกม ด้วยโครงสร้างที่อาจจะดูแปลกตาไปบ้าง เป็นแบบ On Ear ที่ไม่ใหญ่มากนัก วัสดุเป็นโลหะและ TPE สีดำ มี Headband ขนาดใหญ่ 2 ชั้น ที่เป็นโลหะให้ความแข็งแรง ด้านล่างเป็นพลาสติกหุ้มหนัง กระจายน้ำหนักลงบนศีรษะ ครอบหูฟังด้านนอกเป็นลักษณะของข่ายโลหะ ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนได้ดี เป็นแบบ Built-In มาในตัว Ear cushion นั้นใช้เป็นเมมโมรีโฟม ที่มีความนุ่มนวล หุ้มด้วยวัสดุแบบหนัง ให้สายเคเบิลยาว 2.2 เมตรมาให้ และไดรเวอร์ขนาด 40mm เพิ่มความเร้าใจให้กับการเล่นเกม ดูหนังได้มากยิ่งขึ้น ราคา 890 บาท
จุดเด่น | ข้อสังเกต |
มีระบบสั่นเพิ่มเอฟเฟกต์ | ไมโครโฟนติดตายตัว |
ขนาดกระทัดรัด | |
ระบบเสียง 7.1 |
4.Fantech HG23 Octane
หูฟังในแบบ Close cup ที่ดูเรียบง่าย กับโครงสร้างที่แข็งแรง ทนต่อการบิดงอได้ดีในระดับหนึ่ง น้ำหนักเบา เพื่อให้เกมเมอร์เล่นเกมได้นานขึ้น แต่ก็แฝงไว้ด้วยลูกเล่นที่เป็นสีสัน RGB ในส่วนที่้เป็นครอบหูฟังด้านนอก ซึ่งเป็นแบบโครเมียม ตัดกับเส้นสายที่เป็นสีดำภายนอกอย่างลงตัว มีซอฟต์แวร์ใช้ในการปรับแต่งได้ ให้ความนุ่มนวลในการสวมใส่ด้วยฟองน้ำบน Ear cushion หุ้มด้วยวัสดุแบบหนัง ตัดเย็บได้อย่างปราณีต ไมค์ปรับเลื่อน โค้งงอให้เข้ากับรูปปากได้ แต่ไม่ได้เป็นแบบพับเก็บหรือซ่อน รวมถึงถอดไม่ได้ ช่วยในการตัดเสียงรบกวนได้ดี ช่วยให้การสนทนากับทีมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมระบบเสียง 7.1 แต่ตัวคอนโทรลจะต่างจากหลายรุ่นที่นำมาให้ดูในวันนี้ เพราะ Fantech ใช้เป็นคอนโทรลเลอร์บนสาย ในการปรับเพิ่มลดเสียง โดยมีไดรเวอร์ขนาด 50mm ตอบสนองในย่านความถี่ต่างๆ ได้ดี ราคา 890 บาท
จุดเด่น | ข้อสังเกต |
แสงไฟ RGB สวยงาม | ไมโครโฟนพับเก็บหรือซ่อนไม่ได้ |
ปรับระดับเสียงจากคอนโทรลบนสาย | |
โครงสร้างแข็งแรง แต่ยืดหยุ่น |
5.Onikuma K10
ขยับมาที่หูฟังเกมมิ่งระดับ 7.1 channel จากทาง Onikuma กับรูปลักษณ์แบบเท่ๆ ในขนาด Full-Size ที่มีไดรเวอร์ 50mm เป็นตัวขับเคลื่อนพลังเสียง วัสดุที่แข็งแรงทนทาน ให้การบิดตัวได้ เพื่อสวมใส่และคล้องคอได้แบบไม่อึดอัดมากนัก กับดีไซน์ในทรงแบบ 6 เหลี่ยมดูไม่เหมือนใคร สะท้อนความโดดเด่นกับแสงไฟ RGB ที่อยู่บน Ear cup ทั้ง 2 ด้านซ้าย-ขวา สวมใส่สบายใช้ได้นาน กับครอบหูฟังที่เป็นแบบฟองน้ำนุ่มๆ หุ้มด้วยวัสดุแบบหนังในโทนสีดำทั้งตัว ไมโครโฟนปรับพับงอได้ รวมถึงซ่อนตัวไมค์เข้ากับหูฟัง เมื่อไม่ได้ใช้ และมีแสงไฟที่ปลายไมค์ บอกสถานะการทำงาน ให้การตัดเสียงรบกวนได้เป็นอย่างดี ใช้งานร่วมกันได้หลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น พีซี เกมคอนโซลหรือสมาร์ทโฟนก็ตาม ให้สายมาแบบสายถัก ความยาวถึง 2.4 เมตร ราคา 990 บาท
จุดเด่น | ข้อสังเกต |
โครงสร้างแข็งแรง | |
ไมโครโฟนพับเก็บได้ | |
ไดรเวอร์ขนาดใหญ่ |
6.ThunderX3 AH7 Glow
หูฟังเกมมิ่งในสไตล์ล้ำๆ กับรูปลักษณ์และสีสันที่ดูสว่างสดใส จากทาง ThunderX3 ที่มีความโดดเด่นในราคาไม่ถึงพันบาท แต่ได้หูฟังมีแสงไฟ และระบบเสียง 2.1 พร้อมการสวมใส่ที่เบาสบาย ไมโครโฟนเสียงคมชัด ให้การสื่อสารกับทีมได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมหรือทำงานก็ตาม โดยมีไดรเวอร์ขนาด 50mm เพื่ออรรถรสในการเล่นเกมได้อย่างจุใจ พร้อมกับฟองน้ำที่แน่นและนุ่ม หุ้มด้วยวัสดุแบบหนัง ให้สัมผัสที่สบาย แสงไฟ Ear cup ด้านนอก สีฟ้าสดใส ไมโครโฟนถอดได้ รับเสียงทิศทางเดียว Omni-direction เพื่อความคมชัด และระบบตัดเสียงรบกวนในตัว ควบคุมระดับเสียงผ่านทางรีโมทบนสายเคเบิล ด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 310g เท่านั้น จึงทำให้ใช้งานได้แบบยาวๆ โดยผู้ใช้สามารถต่อพ่วงกับอุปกรณ์ พีซีและอื่นๆ ได้ผ่านทางแจ๊ค 3.5mm สายเคเบิลเป็นแบบสายถักอ่อน ความยาวประมาณ 1.8 เมตร หูฟังรุ่นนี้ราคา 990 บาท
จุดเด่น | ข้อสังเกต |
น้ำหนักเบา | ระบบเสียง 2.1 |
ไดรเวอร์ใหญ่ 50mm | |
ไมโครโฟนถอดได้ |
7.Signo E-Sport HP-823 PALAZZO
หูฟังเกมมิ่งระบบเสียง 7.1 ที่ดูมีสไตล์ เหมาะกับเกมเมอร์เล่นยาวๆ และให้ความสำคัญกับทิศทางของเสียง ด้วยโครงสร้างที่ดูทันสมัย ในโทนสีดำของบอดี้ ตัดกับ LED สีแดงสดของครอบหูฟังด้านนอก โครงสร้างโลหะ รองรับการแขวนได้สะดวก ปรับเลื่อนให้เข้ากับศีรษะผู้ใช้ในแบบต่างๆ ได้ พร้อมรีโมทคอนโทรลบนสายหูฟัง ที่ใช้งานง่ายและดูทันสมัย มีความแข็งแรงสูง ไมโครโฟนเป็นแบบตัดเสียงรบกวน มาพร้อม Ear cushion ที่มีความนุ่มนวลให้ใช้งานได้นานๆ ด้วยฟองน้ำหนาแน่น ที่หนาเป็นพิเศษ หุ้มด้วยวัสดุแบบหนังสัมผัสเบาสบาย สายต่อเป็นแบบยางให้ความทนทานในระดับหนึ่ง ความยาวถึง 2.2 เมตร น้ำหนักประมาณ 335g เท่านั้น HP-823 PALAZZO ราคา 990 บาท
จุดเด่น | ข้อสังเกต |
มาพร้อมระบบเสียง 7.1 | หูฟังปรับพับ 90 องศาไม่ได้ |
ครอบหูฟังนุ่มนวล | |
ปรับระดับเสียงได้จากสายเคเบิล |
8.EGA Type H7
เป็นหูฟังสไตล์เกมมิ่ง บนดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย แต่ซ่อนความหรูหรากับสีสันให้เหล่าเกมเมอร์ได้สนุกสนาน เร้าใจด้วยระบบเสียง 7.1 และแสงไฟ RGB Spectrum อันโดดเด่น โครงสร้างโลหะและพลาสติก ให้ความยืดหยุ่นที่ดี ดัดงอได้ เพื่อให้เข้ากับศีรษะของผู้ใช้ มีฟองน้ำหุ้มด้วยวัสดุแบบหนังเจาะรู ระบายอากาศอยู่ด้านบน กระจายน้ำหนักได้ดี ปรับระดับได้ 5-6 step และ ไมโครโฟนแบบตัดเสียงรบกวน โค้งงอได้เข้ากับระยะของปาก ให้การสนทนาที่ชัดเจนมากขึ้นกับไดรเวอร์ขนาด 50mm กับอรรถรสของเสียงในการเล่นเกมได้อย่างสมจริง ในส่วนของ Ear cushion มีความนุ่มนวล สวมสบาย กับฟองน้ำที่แน่น หุ้มด้วยวัสดุแบบหนัง ทำให้ใช้งานได้นาน โดยเฉพาะการเล่นเกมต่อเนื่อง เสียงรบกวนจากภายนอกน้อย ราคา 790 บาท
จุดเด่น | ข้อสังเกต |
มีแสงไฟ RGB สวยงาม | |
วัสดุดูพรีเมียม | |
มาพร้อมไดรเวอร์ 50mm |
9.Nubwo X99
สำหรับหูฟังเกมมิ่งรุ่นนี้จาก Nubwo ต้องถือว่ามาในดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว เข้ากับความเป็นเกมมิ่งของหลายๆ คนได้อย่างลงตัว ตั้งแต่การออกแบบและโครงสร้าง ที่อาจจะดูมินิมอล ไม่ได้เน้นเส้นสายมากมาย บนบอดี้สีดำ แต่สามารถปรับเลื่อนให้เข้ากับการใช้งานได้ง่าย Headband ด้านบน ที่เลื่อนได้กว่า 6 ระดับ นุ่มนวลและกระจายน้ำหนักได้ดี เหมาะกับการเล่นเกมได้แบบยาวๆ ครอบหูฟังขนาดใหญ่ และมีแสงไฟ LED เพิ่มความสวยงามมาด้วย ทั้งด้านซ้ายและขวา Ear cushion มีความหนาพอสมควร แต่หุ้มด้วยวัสดุแบบผ้า เพื่อให้การระบายอากาศได้ดีขึ้น มาพร้อมระบบเสียง 7.1 และให้การคอนโทรลเสียงผ่านรีโมทบนสาย นอกจากนี้ยังมีซอฟต์แวร์มาให้ปรับใช้ได้อีกด้วย ไมโครโฟนเป็นแบบ Omni-Direction ให้เสียงที่คมชัด ราคา 790 บาท
จุดเด่น | ข้อสังเกต |
มาพร้อมระบบเสียง 7.1 | Ear cushion หุ้มเป็นแบบผ้า |
มีแสงไฟ LED ที่หูฟัง | |
ครอบหูนุ่มนวล |
Conclusion
EGA Type H4 | Signo HP-831 Electra | PENTAGONZ LIMULUS | Fantech HG23 Octane | Onikuma K10 | hunderX3 AH7 | Signo HP-823 | EGA H4 | Nubwo X99 | |
Driver (mm.) | – | 50 | 40 | 50 | 50 | 50 | 50 | – | 50 |
Frequency | – | 20Hz-20KHz | 20Hz-20KHz | 20Hz-20KHz | 20Hz-20KHz | 20Hz-22KHz | 20Hz-20KHz | – | – |
Surround | 7.1 | 7.1 | 7.1 | 7.1 | 7.1 | 2.1 | 7.1 | 7.1 | 7.1 |
RGB | Yes | Yes | LED | Yes | Yes | LED | LED | Yes | Yes |
Mic. | Built-in | Built-in | Built-in | Built-in | Built-in | Built-in | Built-in | Built-in | Built-in |
Control | Earcup | Earcup | Earcup | – | In-line | In-line | In-line | Earcup | In-line |
Price | 790 | 850 | 890 | 890 | 990 | 990 | 990 | 679 | 790 |
สุดท้ายนี้ก็คงต้องบอกว่า หูฟังเกมมิ่งคุณภาพพอเหมาะกับการเล่นเกม และยังใส่ฟีเจอร์น่าใช้มาให้ในราคาไม่ถึงพันบาทเหล่านี้ ก็ยังเป็นทางเลือกที่ดีของเกมเมอร์งบจำกัด ที่ต้องการหูฟังมาช่วยเสริมเขี้ยวเล็บให้กับการเล่นเกมในสนามแข่งขันที่ดุเดือดในปัจจุบันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องของระบบเสียงรอบทิศทาง ที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถจับทิศทางของศัตรูและความสมจริงได้มากขึ้น ซึ่งจะเพิ่มความเร้าใจและความตื่นเต้นได้อีกไม่น้อยเลย ดังนั้นการเลือกใช้ อาจจะดูตามความเหมาะสมของตัวคุณเอง เช่น งบประมาณเป็นที่ตั้ง หรืออยากได้ความสวยงาม ระบบเสียงที่ดี หรือการปรับแต่งคอนโทรลที่ง่าย และอื่นๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ดีเป็นไปได้ก็อยากให้ไปลองสวมใส่ ทดลองใช้ เพราะบางทีเรื่องของเสียงอธิบายได้ยาก รวมถึงการสวมใส่ที่สบาย กระชับ บนศีรษะของผู้ใช้จะไม่เหมือนกัน ก็ขอให้พบกับหูฟังเล่นเกมที่เหมาะกับคุณในเร็ววัน และสนุกสนานในการเล่นเกมโปรดของคุณให้เต็มที่ครับ