โปรแกรม Super PI ใช้วิธีการคำนวณค่า PI จากเส้นรอบวง/เส้นผ่านศูนย์กลาง ซึ่งจะได้เป็นค่า 3.14? โดยที่ทศนิยมนั้นเป็นเลขที่ไม่ลงตัวที่มีค่าอนันต์ ดังนั้น เครื่องคอมพิวเตอร์จึงไม่สามารถหยุดการคำนวณได้ ถ้าไม่สั่งให้หยุด โปรแกรม Super PI จะทำการกำหนดเอาไว้ว่าให้คำนวณที่จุดสิ้นสุดตรงไหน เช่น 1M คือ คำนวณที่ทศนิยม 1 ล้านตำแหน่ง โดยแบ่งเป็นช่วง Loop อย่าง PI 1M ใช้ 19 Loop เท่ากับคำนวณ Loop ละ 52632 ตำแหน่ง ต่อ 1 Loop ยิ่งซีพียูมีประสิทธิภาพเท่าไร ยิ่งใช้เวลาคำนวณได้น้อยลง
ใช้เวลาในการคำนวณค่า PI ไปแค่ 12.870 วินาที
โปรแกรม Hyper PI ใช้หลักการคำนวณเหมือนกับ Super PI แต่สามารถสั่งให้ทุก Thread ของ CPU คำนวณได้พร้อมกัน
ลองให้ซีพียูทั้งหมดมาคำนวณพร้อมกัน ใช้เวลามากขึ้นกว่าเดิมเท่าตัวจาก 12 วินาทีเพิ่มเป็น 24 วินาที
โปรแกรม PCMark05 ใช้สำหรับการทดสอบการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ในหลาย ๆ รูปแบบ เช่น การคำนวณทางฟิสิกส์ การเข้ารหัสไฟล์ภาพยนตร์เพื่อสร้างคะแนนเปรียบเทียบประสิทธิภาพออกมา
ผลการทดสอบด้วยโปรแกรม PCMark05 เครื่องนี้ได้คะแนนรวมไป 6,682 คะแนน แต่ดูจากคะแนนในส่วนกราฟิกแล้ว คาดว่าระบบ Optimus จะไม่ทำงานอีกตามเคย เลยได้คะแนนไปแค่ 2,711 คะแนน
โปรแกรม 3DMark06 ใช้สำหรับการทดสอบประสิทธิภาพการประมวลผลของ GPU โดยทดสอบทั้ง High Dynamic Range, Shader Model 3.0 รองรับ CPU ทั้ง Single Core และ Multi Core
ผลการทดสอบที่ได้ออกมาก็ดูน้อยจนน่าใจหายเหมือนกัน 3,604 คะแนน เครื่องนี้น่าจะได้คะแนนมากกว่านี้ ถ้าหากไม่ติดปัญหาระบบ Optimus
โปรแกรม CINEBENCH R 11.5 ใช้ทดสอบการประมวลผลงานสามมิติแบบมืออาชีพที่ต้องใช้งานผ่าน OpenGL โปรแกรมทดสอบทั้งการเรนเดอร์ด้วย CPU และ GPU โดยมีพื้นฐานมาจากโปรแกรม Maxon CINEMA 4D
แม้แต่โปรแกรม Cinebench เองก็ไม่สามารถเรียกการ์ดจอ NVIDIA GeForce 310M ออกมาได้
โปรแกรม Performance Test เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่สามารถทดสอบประสิทธิภาพเครื่องได้ในหลาย ๆ ส่วนทั้ง CPU, GPU, 2D, 3D, CD/DVD ด้วย
ลองเอาโปรแกรม Performance Test มาทดสอบดูผลก็ยังเป็นเช่นเดิม คือ ได้คะแนนการ์ดจอน้อย แต่สำหรับคะแนนส่วนประกอบอื่น ๆ ก็ถือว่าน่าพอใจครับ แต่คะแนนรวมโดนฉุดลงไปเหลือไม่ถึง 1,200 ซึ่งเครื่องการ์ดจอออนบอร์ดก็มักจะอยู่ในช่วงคะแนนนี้ซะส่วนใหญ่
โปรแกรม HD Tune ใช้ในการทดสอบความเร็วในการอ่านและการเข้าถึงข้อมูลของฮาร์ดดิสก์แต่ละตัวได้
ฮาร์ดดิสก์ที่ใช้เป็นของ Hitachi ความจุ 500 GB ความเร็วเฉลี่ยที่ออกมาเร็วใช้ได้เลยครับ 80 MB/s แต่กราฟมีตกวูบอยู่ คือ ยังทำงานไม่เสถียรเท่าไร สำหรับอัตราการ Burst Rate ที่ 121 MB/s ก็เร็วเช่นกันครับ สรุปว่าฮาร์ดดิสก์ตัวนี้ทำงานได้เร็วดีครับ แต่ไม่นิ่งในบางจังหวะ
โปรแกรม Nero InfoTool ใช้เพื่อตรวจสอบระบบการเขียนหรืออ่านแผ่นที่แต่ละเครื่องรองรับ รวมทั้งความเร็วด้วย
เครื่องนี้ถูกออกแบบมาให้มีสเปคระดับไฮเอน ดังนั้นจึงมีเครื่องอ่านแผ่น Blu-Ray ติดตั้งมาให้ด้วย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนรักหนัง