MSI Optix MPG321QRF-QD จอเกมมิ่งตัวใหญ่พร้อมฟีเจอร์จัดเต็มเพื่อเกมเมอร์ได้เล่นเกมได้เต็มอิ่ม
MSI Optix MPG321QRF-QD เป็นรหัสของหน้าจอเกมมิ่งไซส์ใหญ่พร้อมฟีเจอร์จัดเต็มเพื่อเกมเมอร์โดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากจะใช้ต่อพีซีและเครื่องเกมคอนโซลได้ทั้งคู่แล้ว ก็ยังมีฟีเจอร์โดดเด่นต่างๆ ใส่มาให้จัดเต็มไม่แพ้แบรนด์คู่แข่ง ไม่ว่าจะ KVM ที่หน้าจอเป็นตัวกลางเชื่อมต่อพีซีและโน๊ตบุ๊คทุกเครื่องแล้วควบคุมได้ด้วยเมาส์คีย์บอร์ดเซ็ตเดียวและทำตัวเป็น USB Hub ได้ด้วย, MSI GamingOSD 2.0 โปรแกรมตั้งค่าและเปลี่ยนโปรไฟล์หน้าจอโดยไม่ต้องเอื้อมมือไปกดตั้งค่าที่หน้าจอ แต่ถ้าใครถนัดการกดด้วยปุ่มบนหน้าจอมากกว่า ทาง MSI ก็มีจอยสติ๊กแบบ 5-Way Navigator Control ติดตั้งมาให้ และเมื่อเป็นหน้าจอเกมมิ่งก็มีส่วนเสริมเล็กๆ น้อยๆ ที่แสดงความใส่ใจเพื่อเกมเมอร์อย่าง Mouse Bungee สำหรับเกมเมอร์ที่ยังรักและใช้เมาส์สายอยู่ก็สามารถร้อยสายเมาส์เข้ากับก้าน Bungee เพื่อรั้งสายเอาไว้ให้สายไม่เกะกะเวลาเล่นเกมและด้านหลังหน้าจอยังมี “Mystic Light” ไฟ RGB ของทาง MSI ด้วย
ส่วนเรื่องของพาเนลหน้าจอต้องถือว่า MSI ก็จัดเต็มมาเพื่อเกมเมอร์เช่นกัน ซึ่งนอกจากความละเอียดสูงแล้ว ยังใช้เทคโนโลยีหน้าจอ Quantum Dot Display ที่ช่วยให้สีสันบนหน้าจอสวยงามและได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR 600 การันตีความสวยสดงดงามของสีสันบนหน้าจอเมื่อเปิดโหมด HDR รวมทั้งรองรับ NVIDIA G-SYNC Compatible ลดอาการภาพฉีกขาดระหว่างเล่นเกมที่ค่า Refresh Rate สูงอีกด้วย ต้องนับว่าเป็นจอเกมมิ่งที่คุณภาพดีมากจอหนึ่งเลยทีเดียว
ด้านของฟีเจอร์ของหน้าจอที่เอื้อกับการเล่นเกมของ MSI Optix MPG321QRF-QD สำหรับเกมเมอร์สายพีซีและคอนโซล ได้แก่ Optix Scope หรือฟีเจอร์ช่วยซูมเป้าหมายบนหน้าจอให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นว่าเป้าปืนของตัวละครทาบแม่นยำแล้วหรือยัง, Smart Cross Hair หรือเป้าปืนบนหน้าจอสำหรับเกมเมอร์ที่เล่นเกม FPS แบบสมจริงแล้วไม่ถนัดก็เปิดเป้าปืนนี้ขึ้นมาได้, Sound Tune ไมค์บนหน้าจอที่ช่วยตัดเสียงรบกวนด้วย AI, Console Mode สำหรับเกมเมอร์ที่เอาหน้าจอ MSI Optix นี้ไปใช้เล่นเกมคอนโซลได้ดียิ่งขึ้น ทั้งลดอาการภาพเบลอและอัพสเกลภาพโดยอัตโนมัติ
นอกจากนี้ MSI Optix MPG321QRF-QD ก็มีฟีเจอร์ด้านแสงสีอย่าง Night Vision ช่วยให้ภาพในเกมไม่มืดจนมองไม่เห็นหรือสว่างจนภาพติดขาวและสีจางเกินไป ทำให้สีสันสวยสดกำลังดีและ Smart Brightness 2.0 โดยขอบล่างหน้าจอจะมีเซนเซอร์วัดแสงแล้วปรับอุณหภูมิสีและปรับความสว่างหน้าจอโดยอัตโนมัติอีกด้วย ต้องถือว่า MSI Optix MPG321QRF-QD เป็นจอเกมมิ่งที่ให้ฟีเจอร์เด่นๆ มาครบเครื่องทีเดียว
NBS Verdict
MSI Optix MPG321QRF-QD จอนี้จัดว่าเป็นหน้าจอเกมมิ่งไซซ์บิ๊กที่คุณสมบัติเพียบพร้อมทั้งเรื่องขอบเขตสีกว้างที่ได้รับการรับรองจาก VESA Certified ว่าพาเนล Quantum Dot Display นี้สามารถแสดงผลสีสันได้กว้าง ทำให้เล่นเกมและแสดงสีสันระดับ HDR ได้อย่างสวยงามรวมทั้งมีค่า Refresh Rate, Response Time ที่ดีเพียงพอที่จะเรียกว่าเป็นหน้าจอเกมมิ่งได้เต็มปากและยังรองรับ NVIDIA G-SYNC Compatible เพื่อป้องกันภาพฉีกขาดระหว่างตอนเล่นเกมอีกด้วย
ด้านฟีเจอร์เสริมต่างๆ ทาง MSI ที่เป็นแบรนด์เกมมิ่งครองใจเกมเมอร์มานานก็ให้ฟีเจอร์มาครบเครื่อง รองรับเกมเมอร์ทุกแนวไม่ว่าจะ RPG, FPS ฯลฯ และหน้าจอนี้ยังติดตั้งเซนเซอร์ปรับความสว่างหน้าจอตามสภาพแวดล้อมมาให้ ทำให้หน้าจอปรับอุณหภูมิสีและความสว่างให้เข้ากับแสงในห้องได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้ผู้ใช้มองหน้าจอได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย จัดว่า MSI ทำการบ้านเรื่องนี้มาเป็นอย่างดีทีเดียว
แต่สิ่งที่ผู้เขียนขอตั้งข้อสังเกตเอาไว้เล็กน้อยสำหรับผู้ใช้ที่กำลังจะซื้อหน้าจอนี้มาใช้งาน 2 ข้อด้วยกันคือ ขนาดหน้าจอ MSI Optix MPG321QRF-QD ตัวนี้มีขนาดใหญ่ถึง 32 นิ้ว เท่ากับทีวีหลายๆ รุ่นในปัจจุบันแล้ว ดังนั้นถ้าต้องการนำมาใช้งานหรือเล่นเกมก็ต้องเว้นระยะถอยห่างจากหน้าจอราว 81-122 ซม. เพื่อให้มองเห็นภาพบนหน้าจอได้ชัดเจนและไม่ทำร้ายสายตา
ข้อดีของ MSI Optix MPG321QRF-QD
- หน้าจอได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR 600 การันตีคุณภาพสีสันสวยงามเมื่อเล่นเกมในโหมด HDR และเป็นจอ Quantum Dot Display
- ขอบเขตสีกว้าง 144% sRGB, 95% DCI-P3 ให้สีสันที่สวยสมจริง นำไปทำงานอาร์ตได้
- มีพอร์ตเชื่อมต่อหน้าจอ 3 แบบทั้ง HDMI, DisplayPort, USB-C และเป็น USB Hub ในตัว
- รองรับ NVIDIA G-SYNC Compatible ช่วยลดอาการภาพฉีดขาดเวลาเล่นเกม
- มี KVM Mode ใช้เมาส์คีย์บอร์ดเซ็ตเดียวควบคุมพีซีทุกเครื่องที่เชื่อมต่อกับหน้าจอนี้ได้เลย
- MSI GamingOSD 2.0 ใช้ตั้งค่าโปรไฟล์ต่างๆ ให้หน้าจอนี้ได้โดยไม่ต้องเอื้อมไปกดปุ่มหรือขยับจอยสติ๊กหลังเครื่องเพื่อตั้งค่าก็ได้
- ติดตั้งฟีเจอร์เพื่อการเล่นเกมมาครบเครื่องทั้ง Optix Scope, Smart Cross Hair, Night Vision ฯลฯ ทำให้เล่นเกมได้สนุกและดีขึ้น
- ติดตั้งเซนเซอร์วัดแสงสำหรับปรับความสว่างและอุณหภูมิสีบนหน้าจอโดยอัตโนมัติ
- มีก้าน Mouse Bungee แถมมาให้ใช้ร้อยสายเมาส์ ช่วยให้สายเมาส์ไม่รั้งเมาส์เวลาเล่นเกม
- รองรับการเชื่อมต่อทั้งเกมมิ่งพีซีและเครื่องเกมคอนโซล ไม่ต้องซื้อหน้าจอหรือทีวีเพิ่ม
- ในกล่องให้สายเชื่อมต่อมาครบเครื่องพร้อใช้งานทั้ง HDMI, USB-C, USB-B, Audio Jack
- รองรับ VESA Mount ขนาด 100×100 มม. และมีชุดน็อตแถมมาให้พร้อมแขวนหน้าจอได้ทันที
ข้อสังเกตของ MSI Optix MPG321QRF-QD
- หน้าจอมีขนาดใหญ่มากถึง 32 นิ้ว ไม่แนะนำให้ใช้ในห้องเล็กหรือแคบเกินไปเพื่อถนอมสายตา
สเปคของ MSI Optix MPG321QRF-QD
สเปคของ MSI Optix MPG321QRF-QD นี้ ต้องถือว่าทาง MSI จัดสเปคมาเพื่อเกมเมอร์สายพีซีและเครื่องคอนโซลแบบเต็มที่และยังใช้เป็นจอทำงานได้ด้วย โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ขนาดหน้าจอ 32 นิ้ว ความละเอียด WQHD (2560×1440) พาเนล Rapid IPS ได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR 600 รองรับ NVIDIA G-SYNC Compatible
- แสดงผลสีบนหน้าจอได้ 10-bit (8-bits+FRC) ขอบเขตสีหน้าจอ 144% sRGB, 95% DCI-P3 (ทดสอบโดยอ้างอิงมาตรฐาน CIE 1976) ความสว่างหน้าจอ 400-600 nits
- Refresh Rate 175 Hz, Response Time 1ms (GtG)
- พอร์ตเชื่อมต่อที่ติดตั้งมาให้
- HDMI 2.0b x 2 รองรับความละเอียด WQHD, Refresh Rate 144 Hz
- DisplayPort 1.4a x1 รองรับความละเอียด WQHD, Refresh Rate 175 Hz
- USB-C x 1 รองรับการเชื่อมต่อหน้าจอเป็น DisplayPort Alternate Mode รองรับความละเอียด WQHD, Refresh Rate 175 Hz
- ถ้าต่อกับเครื่องคอนโซลจะถูกจำกัดค่า Refresh Rate ไว้ที่ 120 Hz
- USB-A 3.2 Gen 1 x 3 ใช้หน้าจอเป็น USB Hub ได้
- USB-B 3.2 Gen 1 x 1 สำหรับเชื่อมต่อหน้าจอกับพีซีและเป็นพอร์ตจำเป็นเพื่อใช้แอพฯ MSI GamingOSD 2.0 และ USB-A 3.2 Gen 1
- Audio Port มี Mic-in, Headphone-out, Audio combo jack อย่างละช่อง
- รองรับ VESA Mount 100×100 มม. (มีน็อต VESA Mount ในกล่อง 4 ดอก)
- ปรับองศาก้มเงยได้ตั้งแต่ -5~20 องศา, ปรับหน้าจอหันซ้ายขวาได้ -30~30 องศา, ปรับความสูงได้ตั้งแต่ 0~100 มม.
- ตั้งค่าการแสดงผลหน้าจอแบบ PiP, PBP เพื่อเพิ่มหน้าจอเสริมได้
- รองรับการเชื่อมต่อกับ PC, MacBook, PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox
- ราคา 29,900 บาท
Design
ด้านดีไซน์ของ MSI Optix MPG321QRF-QD เป็นจอเกมมิ่งขนาดใหญ่ที่ใช้ดีไซน์หน้าจอขนาดมาตรฐาน ขอบหน้าจอบาง 3 ด้าน ยกเว้นขอบล่างที่จะหนาขึ้นเล็กน้อยเพื่อติดตั้งพอร์ตและชิ้นส่วนต่างๆ ของหน้าจอ สามารถหันหน้าจอไปฝั่งซ้ายและขวาได้ -30~30 องศา รวมทั้งก้มเงยได้ -5~20 องศา ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับระยะและมุมการมองบนหน้าจอได้สะดวก ส่วนขาตั้งหน้าจอสามารถปรับความสูงได้ 0~100 มม. และเจาะรูเอาไว้ตรงกลางเพื่อร้อยสายไฟเก็บให้เรียบร้อย
ส่วนของขาและฐานหน้าจอนั้นมีขนาดใหญ่ทีเดียวเพื่อรับน้ำหนักราว 10 กิโลกรัมเอาไว้ให้ได้ ถ้ารวมน้ำหนักทั้งแพ็คเกจสินค้าจะหนักราว 13.9 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าหนักทีเดียวและส่วนตัวผู้เขียนแนะนำให้ระวังเวลาจะย้ายหน้าจอไปไหนมาไหน และถ้าซื้อหน้าจอนี้มาเป็นจอเกมมิ่งจอหลักแนะนำให้เคลียร์พื้นที่บนโต๊ะให้โล่งที่สุดและจัดพื้นที่ให้เข้าที่ก่อนค่อยวางเกมมิ่งเกียร์ชิ้นอื่นลงไป
ส่วนดีไซน์หน้าจอจะเป็นแบบขอบบาง 3 ด้าน คือขอบบนและฝั่งซ้ายขวา ส่วนขอบด้านล่างจะเป็นส่วนที่หนากว่าส่วนอื่นเล็กน้อย ติดตั้งปุ่มเปิดหน้าจออยู่ที่ฝั่งล่างขวาของหน้าจอ ส่นตรงกลางของขอบล่างหน้าจอนอกจากโลโก้ MSI แล้วจะมีจุดสีดำที่เป็นเซนเซอร์แสงสำหรับปรับอุณหภูมิสีบนหน้าจอติดตั้งเอาไว้และมีช่องไมโครโฟนพร้อมฟีเจอร์ตัดเสียงด้วย AI ติดตั้งเอาไว้ใช้สื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมที่เล่นเกมด้วย
ส่วนขอบริมขวาสุดของหน้าจอนอกจากจะมีปุ่มเปิดปิดหน้าจอติดตั้งมาให้แล้ว ด้านใต้จะมีสล็อตสำหรับล็อคเข้ากับตัว Mouse Bungee ด้วย โดยทาง MSI มีช่องดังกล่าวติดตั้งเอาไว้ทั้งฝั่งซ้ายและขวาเพื่อให้เกมเมอร์ที่ถนัดมือขวาตามปกติหรือถนัดมือซ้ายก็สามารถร้อยสายเมาส์ได้ทั้งคู่ โดยวิธีการนั้นง่ายมาก เพียงแค่เอาตัว Mouse Bungee มาเสียบเข้าร่องนี้ให้เรียบร้อยแล้วสไลด์มันไปด้านข้างจนสุด ตัวขา Bungee ก็จะล็อคเข้ากับตัวหน้าจอพร้อมใช้งานแล้ว
ส่วนด้านหลังหน้าจอ จะออกแบบให้ดีไซน์ดูโฉบเฉี่ยวแต่ซ่อนพอร์ตเอาไว้สองจุดคือด้านใต้โค้งหลังของหน้าจอและฝั่งซ้ายมือเพื่อความสวยงาม ดีไซน์ด้านหลังจะเห็นว่าเล่นลายวัสดุ 3 แบบคือลายคาร์บอนไฟเบอร์ที่ขอบด้านบนและมุมขวาล่าง, พลาสติกสีดำด้านตรงกลางหน้าจอและขาตั้งหน้าจอส่วนขอบนอกและพลาสติกสีเงาสะท้อนตรงกลางเป็นเครื่องหมายมากกว่า ( > )
นอกจากนี้ยังมีโลโก้มังกร MSI เอาไว้ฝั่งซ้ายเพื่อบอกเป็นนัยว่านี่คือหน้าจอที่เน้นกลุ่มเกมเมอร์อย่างชัดเจน, ส่วนล่างของพลาสคิกสีดำสะท้อนแสงจะสกรีนคำว่า MPG ที่เป็นซีรี่ส์หน้าจอรุ่นนี้เอาไว้และเขียนคำว่า Gaming Series เอาไว้ตรงขาตั้งหน้าจอโดยมองจากด้านบนลงล่างและสลักคำว่า Design & Engineered By MSI ไว้ที่ขอบข้างของกรอบหน้าจอฝั่งซ้ายมือด้วย
ด้านงานประกอบและบอดี้ตัวหน้าจอจัดว่าทาง MSI จัดการเก็บงานได้เรียบร้อย ประกอบได้ง่ายและใช้มือขันล็อคตัวฐานและต่อขาตั้งเข้ากับด้านหลังหน้าจอได้ง่าย แต่ยังต้องใช้ไขควงขันน็อตเพื่อล็อคบานจับด้านหลังหน้าจอเข้ากับตัวจอด้วย เนื่องจากตัวหน้าจอนั้นมีน้ำหนักมากพอควร ถ้าใช้วิธียึดแบบกิ๊ปล็อคแบบหน้าจอบางรุ่นอาจจะไม่แข็งแรงพอจนหน้าจอกับฐานหลุดแยกจากกันแล้วเกิดความเสียหายได้ ดังนั้นเมื่อซื้อหน้าจอนี้มาใช้งานแล้วแนะนำให้หยิบไขควงติดมือมาขันล็อคฐานขาตั้งหน้าจอด้วย
ถ้าไม่มีไฟ RGB คงจะไม่สมกับการเป็นแบรนด์เกมมิ่งนัก MSI จึงติดตั้ง Mystic Light เอาไว้ขอบด้านหลังหน้าจอระหว่างบอดี้เนื้อคาร์บอนไฟเบอร์กับพลาสติกสีดำเงา โดยเป็นแถบ Lightbar ที่แบ่งเป็น 5 ซี่ ส่องไฟเป็นสีต่างๆ ได้อย่างสวยงามและปรับแต่งได้ด้วยโปรแกรม MSI GamingOSD 2.0 ช่วยให้เกมเมอร์ที่ชอบเปิดไฟในห้องสลัวๆ แล้วเล่นเกมได้แสงรอบข้าง (Ambient Light) ตามที่ต้องการได้ด้วย
นับว่าดีไซน์ของจอ MSI Optix MPG321QRF-QD ตัวนี้เป็นจอเกมมิ่งที่ดูโฉบเฉี่ยวสวยงามและงานประกอบแข็งแรง สมกับที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ระดับชั้นนำของโลกที่มีแฟนคลับเลือกซื้อไปใช้งานอย่างต่อเนื่องและยังสอดแทรกฟีเจอร์ที่เอื้อเกมเมอร์ถนัดซ้ายสามารถใช้งานได้สะดวกขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นหน้าจอขนาด 32 นิ้วที่หนักถึง 10 กิโลกรัม ดังนั้นเวลาใช้งานแนะนำให้วางแผนเลือกที่ตั้งหน้าจอให้เรียบร้อยก่อนและถ้ามีคนใกล้ตัวช่วยยกย้ายหน้าจอนี้จะ
Connectors & Software
พอร์ตเชื่อมต่อทั้งหมดของจอคอมนี้จะติดตั้งเอาไว้ด้านใต้โค้งหลังและขอบข้างด้านซ้ายของหน้าจอ โดยช่องเสียบปลั๊กจะติดตั้งไว้ฝั่งซ้ายของโค้งหลังหน้าจอส่วนฝั่งขวามือเป็นกลุ่มพอร์ตชุดหลักทั้งหมด ไล่จากซ้ายมือจะเป็น HDMI 2.0b x 2, DisplayPort 1.4a x 1, USB-C x 1, USB-B สำหรับเชื่อมต่อระหว่างหน้าจอและคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานโปรแกรมของ MSI และ USB-A 3.2 กับ Audio Combo ส่วนขอบฝั่งซ้ายมือหน้าจอเป็น Headphone-out และ Mic-in และ USB-A 3.2 อีก 2 ช่อง และมี Kensington Lock อีกช่องติดเอาไว้ด้านหลังหน้าจอฝั่งขวามือเพื่อล็อคหน้าจอเอาไว้กับโต๊ะได้ด้วย
ส่วนสายเชื่อมต่อและอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่แถมมาในกล่องจะมีสาย USB-C, HDMI, USB-B, Audio Combo Jack, สายไฟ, ชุดน็อตสำหรับต่อหน้าจอ VESA Mount และ Mouse Bungee อีกหนึ่งตัวสำหรับติดเข้ากับหน้าจอ อย่างไรก็ตามในแพ็คเกจสินค้าขายจริงจะมีสาย DisplayPort แถมมาให้อย่างแน่นอน ส่วนค่า Refresh Rate ของสายแต่ละเส้นจะเป็นดังนี้
- HDMI รองรับ Refresh Rate สูงสุด 144 Hz
- DisplayPort, USB-C จะรองรับ Refresh Rate สูงสุด 175 Hz
อย่างไรก็ตามถ้าใครจะใช้หน้าจอนี้กับโน๊ตบุ๊คเพื่อทำงานด้วยแนะนำให้หาซื้อสาย USB-C มาอีกเส้นเพื่อต่อหน้าจอเสริมด้วย จะสามารถเชื่อมต่อ
นอกจากนี้การตั้งโปรไฟล์หน้าจอเราสามารถโหลดซอฟท์แวร์ MSI GamingOSD 2.0 มาติดตั้งเพื่อตั้งค่าส่วนต่างๆ ได้อย่างละเอียดทั้งการตั้งค่าพื้นฐาน, Picture-In-Picture, การแยกหน้าจอและอื่นๆ ได้ละเอียด รวมทั้งเซ็ตค่ามาโครได้อีกด้วย ดังนั้นถ้าใครซื้อหน้าจอนี้มาใช้งานก็ควรโหลดโปรแกรมนี้มาติดตั้งด้วย
ส่วนคนที่ต้องการเซ็ตตั้งค่าหน้าจอเลย ก็กดที่จอยสติ๊กแบบ 5-Way Navigator Control ด้านหลังหน้าจอเพื่อเปิดการตั้งค่าที่ Overlay บนหน้าจอแล้วเปิดการตั้งค่าแบบเร่งด่วนได้เลยและตั้งค่าได้ละเอียดทีเดียว ไม่ว่าจะเปิด KVM Mode, ปรับความสว่างหน้าจอ, โหมดการเล่นเกม, Smart Cross Hair, Frame Rate Count ก็ได้ เรียกว่าตั้งค่าได้สะดวกไม่แพ้กันและใช้งานก็ง่ายเพราะเป็นจอยสติ๊ก เพียงแค่เลื่อนแล้วกดเพื่อเลือกก็ตั้งค่าได้ทันทีและเซ็ตได้สะดวกไม่แพ้กับการใช้โปรแกรมของทาง MSI อีกด้วย
User Experience
ด้านการใช้งาน MSI Optix MPG321QRF-QD เล่นเกมต้องถือว่าทำได้ดีผ่านแบบไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะค่า Refresh Rate และ Response Time ที่สูงตามที่จอเกมมิ่งรุ่นต่างๆ ที่มีขายอยู่ในตลาดปัจจุบันนี้และยังมี KVM สำหรับใช้เมาส์คีย์บอร์ดเซ็ตเดียวควบคุมพีซีและโน๊ตบุ๊คทุกเครื่องที่เชื่อมต่อกับหน้าจอนี้ได้ด้วย ต้องถือว่าทาง MSI จัดฟีเจอร์มาให้ครบเครื่องและยังมี Smart Cross Hair เพื่อเกมเมอร์สาย FPS อีกด้วย จึงสรุปง่ายๆ ได้เลยว่าหน้าจอ MSI Optix นี้สอบผ่านเรื่องการเล่นเกมอย่างไม่ต้องสงสัย
ส่วนความละเอียดหน้าจอระดับ WQHD กับขนาด 32 นิ้วต้องถือว่าเป็นความละเอียดกับขนาดสมดุลย์กัน แม้จอไซซ์เดียวกันจะขยับความละเอียดไปที่ 4K UHD กันแล้วก็ตามแต่ความละเอียดระดับนี้ก็ถือว่าคมชัดกำลังดีและส่วนตัวผู้เขียนคิดว่ายังไม่จำเป็นต้องเป็นจอ UHD ก็ได้ แต่ในแง่ฟีเจอร์และสเปคต้องถือว่าหน้าจอนี้ทำได้ดีเหลือเฟือ ตอบโจทย์เกมเมอร์กลุ่มที่ใช้เกมมิ่งพีซีหรือโน๊ตบุ๊คที่ใช้การ์ดจอระดับกลางที่เล่นเกมระดับ WQHD ไปจนระดับสูงก็สามารถใช้จอนี้ได้และปรับกราฟฟิคในเกมระดับกลาง-สูงได้เลยและเฟรมเรทยังลื่นไหลไม่สากตาอย่างแน่นอน
ด้านเทคโนโลยีหน้าจอ Quantum Dot Display ที่ MSI นำมาใช้กับหน้าจอ MSI Optix MPG321QRF-QD ตัวนี้ ช่วยให้หน้าจอสว่างและสดใสขึ้นมาก ซึ่งจากที่ทดลองใช้นั่งดูหนังและทำงานดูถือว่าได้เรื่องสีสันที่สดเข้มข้นขึ้นกว่าอย่างชัดเจน ยิ่งใครชอบเล่นเกมจะยิ่งถูกใจหน้าจอนี้ด้วยสีสันหน้าจอที่สดใสมาก
แง่การใช้งานตามปกติ ต้องถือว่า MSI Optix MPG321QRF-QD ก็ทำหน้าที่ได้ดีและมีพอร์ตจำเป็นใช้งานติดตั้งมาให้ใช้ โดยเฉพาะ USB-C ที่รองรับ DisplayPort Alt-mode ไว้ใช้ต่อกับโน๊ตบุ๊คที่ USB-C รองรับ DisplayPort หรือ Thunderbolt ก็ทำงานได้ทันทีโดยไม่ต้องต่อสายเพิ่ม นอกจากนี้เซนเซอร์วัดอุณหภูมิแสงเอาไว้ที่ขอบล่างของหน้าจอก็ช่วยอุณหภูมิสีบนหน้าจอโดยให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติทำให้ใช้งานต่อเนื่องแล้วตาไม่ล้า และจอนี้ยังได้รับการรับรอง VESA DisplayHDR 600 มีขอบเขตสีบนหน้าจอกว้างระดับพร้อมทำงานอาร์ตได้สบายๆ ถ้านำอุปกรณ์ปรับแต่งโปรไฟล์สีให้เข้ากับงานอาร์ตสักหน่อยก็สามารถนำมาทำงานได้สบายๆ อย่างแน่นอน
แต่จุดที่ผู้เขียนต้องขอแนะนำคือเรื่องระยะห่างระหว่างหน้าจอกับสายตาของเรา เนื่องจากพื้นที่ทดสอบและนั่งทำงานกับจอนี้ค่อนข้างจำกัด ทำให้นั่งค่อนข้างชิดกับหน้าจอไปบ้าง ระยะโฟกัสสายตาจึงค่อนข้างชิดเกินไป ดังนั้นถ้าใครอยากใช้หน้าจอนี้อาจจะต้องวางในห้องที่มีระยะห่างระหว่างโต๊ะและตัวผู้ใช้สักนิดจะดีที่สุด แนะนำว่าให้เซ็ตที่นั่งให้ห่างจากหน้าจอราว 81-122 ซม. จะดีที่สุด
สรุป
MSI Optix MPG321QRF-QD ถือเป็นจอเกมมิ่งที่เหมาะกับเกมเมอร์ที่กำลังอยากได้หน้าจอขนาดใหญ่สักจอเอาไว้ต่อคอมพิวเตอร์หรือเครื่องเกมคอนโซลอย่างมาก โดยเฉพาะเกมเมอร์ที่แต่งโต๊ะคอมแล้วแขวนหน้าจอใหญ่ลอยเอาไว้ด้านบนอีกหนึ่งจอเพื่อใช้งาน ก็ถือว่าซื้อหน้าจอนี้ไปเล่นเกมได้เต็มอิ่มเลย โดยเฉพาะผู้ใช้ที่มีห้องส่วนตัวใหญ่ระดับหนึ่ง หน้าจอนี้ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานอย่างแน่นอน
โดยเฉพาะยุคนี้ที่ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และผู้พัฒนาเกมต่างเริ่มขยับอัพเกรดตัวเกมให้รองรับความละเอียดหน้าจอระดับ QHD-UHD เพื่อให้เกมเมอร์เล่นกมได้อรรถรสยิ่งขึ้นนั้น การอัพเกรดหน้าจอให้มีความละเอียดสูงขึ้นเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ยิ่งใครเป็นสตรีเมอร์หรือจะฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ที่มีงบประมาณระดับหนึ่งนอกจากจะอัพเกรดฮาร์ดแวร์อย่างซีพียูหรือการ์ดจอแล้ว การเปลี่ยนหน้าจอมาเป็นจอที่ความละเอียดสูงขึ้นก็เป็นสิ่งที่ผู้เขียนแนะนำเช่นกัน เช่นหน้าจอ MSI Optix MPG321QRF-QD นี้ก็เป็นหน้าจอรุ่นที่น่าสนใจรุ่นหนึ่งเช่นกัน
ช่องทางติดตาม MSI Thailand
- MSI MPG321QRF-QD ราคา 29,900 บาท – https://www.msi.com/Monitor/Optix-MPG321QRF-QD
- ซื้อสินค้า MSI ได้ที่ https://msi.gm/nbsWTB
- ติดตามโปรโมชั่นจาก MSI ได้ที่ https://msi.gm/Promotionth
- รับ Steam Code มูลค่า 20USD ฟรี! เมื่อร่วมกิจกรรม MSI Shout Out แชร์ประสบการณ์ใช้สินค้า MSI รายละเอียดเพิ่มเติม:: https://msi.gm/ShoutOutTH
- เลือกจอเกมมิ่งที่เหมาะสำหรับตัวคุณได้ที่นี่ : https://msi.gm/BestGamingMonitorTH
- Facebook: https://www.facebook.com/MSIGamingThailand