Lenovo Legion 5i Pro ยกระดับความเป็น Gaming Notebook ที่น่าซื้อสุดช่วงต้นปี 2022 ได้สีสัน Stingray White จากฟีเจอร์ Gaming มาตรฐานใหม่ ด้วยหน้าจอขนาด 16″ สัดส่วน 16:10 ความละเอียด QHD ที่ Refresh Rate 165Hz ขอบเขตสีมาตรฐาน sRGB 100% รองรับ HDR พร้อมกับสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7-11800H การ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3070 ตอบสนองการทำงานหรือการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น สนุกสนานยิ่งขึ้น ได้เทคโนโลยี Lenovo Legion AI Engine ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิ
ได้ลำโพง Harman ระบบเสียง Nahimic 3D รวมไปถึงได้เทคโนโลยี Coldfront 3.0 ที่ช่วยจัดการการระบายความร้อนผ่านพัดลมแบบ Dual Fan และช่องระบายความร้อนแบบ Quad Channel เรียกได้ว่าตอบโจทย์การทำงานมืออาชีพหรือการเล่นเกมได้อย่างสมบูรณ์แบบกว่าเดิม ได้หน่วยความจำแรมขนาด 32GB Bus 3200 MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB มีแพคเกจการรับประกัน Unbeatable Protection Pack มูลค่า 14,900.- บาท (4Y Premium Care / 2Y ADP 100% part and Service) อย่างการ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน และประกันอุบัติเหตุ 2 ปี เคลมได้ 100%
VDO Review
NBS Verdict
ส่วนตัวผมเองจากการที่สัมผัสและใช้งานจริงๆ ของ Lenovo Legion 5i Pro ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7-11800H และการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3070 ได้แรมเป็น 32GB และ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 1TB ได้ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้นเทียบเคียงกับสเปกขายจริง เหลือเฟือในการใช้งานทั่วไป หรือแม้แต่การใช้งานหนักๆ อย่าง Creator รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติ และด้วยหน้าจอ 16″ สัดส่วน 16:10 พาเนล IPS เกรดสูง ที่ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล ได้ Refresh Rate ที่ 165Hz นั่นก็ยอดเยี่ยมสุดๆ ได้ความใหญ่กว่า ละเอียดกว่า พื้นที่มากกว่า ลื่นไหลกว่า ที่สำคัญตัวเครื่องควบคุมอุณหภูมิได้ดีจากเทคโนโลยี Legion Coldfront 3.0
ประทับใจในส่วนของ Q Control 4.0 ก็คือการปรับโหมดเพียง Fn + Q เท่านั้น ก็สามารถเปลี่ยนการใช้งานเหมาะสมได้ง่ายๆ อีกทั้งมีไฟแสดงสถานะชัดเจน พร้อมเทคโนโลยี Lenovo Legion AI Engine นับว่าช่วยการใช้งานสุดๆ ไปอีกขั้นจากการที่ระบบช่วยจัดการ CPU / GPU ที่เหมาะสม ว่าแต่ละเกมจะเลือกใช้งานอย่างไร บอกได้ถึงประสบการณ์ใช้งานจริงๆ ได้ ทั้งการเล่นเกมหลากหลายหรือทำงานประมวลผลหนักๆ รวมไปถึงทำงานนอกสถานที่ และความบันเทิงดูหนังฟังเพลงที่บ้านแล้ว บอกได้เลยว่าทั้งในเรื่องของดีไซน์การออกแบบนั้นมีความพรีเมียมดูดี โดดเด่นด้วยสีขาวที่หาได้ยากใน Gaming Notebook ทั่วไป
แน่นอนว่ามีระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home มาให้พร้อมใช้งาน และรองรับการอัปเกรดเป็น Windows 11 Home ในอนาคต ประกันก็เป็นแบบ 4 ปี On-site Service ซึ่งยาวนานที่สุด พร้อมบริการหลังการขายอื่นๆ อาทิ ประกันอุบัติเหตุแบบเคลม 100% ระยะเวลา 2 ปีเต็มๆ มีเครื่องสำรองระหว่างรอเครื่องเคลม หรือบริการโทรศัพท์ Call Center 24/7 อีกด้วย ที่เหนือกว่าหลายๆ แบรนด์ ในเรื่องของบริการหลังการขายที่เรามั่นใจได้มากกว่า นับว่าค่าตัวเมื่อเทียบกับฟีเจอร์ที่ได้ พร้อมหลายๆ อย่างมีหลายอย่างที่เหนือกว่า Legion 5i ในปี 2022 เน้นความแรงและแตกต่าง รุ่นนี้ต้องเป็นตัวเลือกแรกๆ แน่นอน
ส่วนข้อที่เราควรรู้ก่อนซื้อก็คือ ตอนนี้ Lenovo Legion 5i Pro ยังมีเพียงสเปกเดียวและสีเครื่องสีเดียวสีขาวเท่านั้นให้เลือกซื้อ และแม้ว่าจะมีพอร์ต Thunderbolt 4 แต่ไม่รองรับการชาร์จไฟเข้าตัวเครื่องเพราะเป็น Gaming Notebook ที่ใช้กำลังไฟสูง อีกทั้งไฟคีย์บอร์ดแบบสีฟ้าไม่ได้เป็นแบบ RGB ทำให้ปรับสีไฟอื่นๆ ไม่ได้ ซึ่งตรงนี้ต่างจาก Legion 5 Pro สเปก AMD Ryzen ที่เป็นแบบ RGB 4 โซน รวมไปถึงแบตเตอรี่ใช้งานได้เพียง 5:30 ชั่วโมง อีกทั้งน้ำหนักตัวเครื่องและอแดปเตอร์ค่อนข้างหนัก แต่อยู่ในเกณฑ์รับได้เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพ กับราคา 69,990 บาท ที่ใครคิดว่าไม่ใช่ปัญหาอะไร ก็ตามไปจัดกันได้เลย
จุดเด่น Lenovo Legion 5i Pro
- การออกแบบสีขาวสวยงามเรียบหรูตลอดทั้งตัวเครื่อง งานประกอบแน่นวัสดุดีเยี่ยม แนวทางแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ
- ตัวเครื่องเล็กกระชับ แม้จะเป็นหน้าจอ 16″ แต่ได้ขอบหน้าจอบางเฉียบทำให้มีมิติใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คจอ 15.6″
- ประสิทธิภาพสูงด้วยชิปประมวลผล Core i7-11800H และการ์ดจอแยก GeForce RTX 3070 Max-P
- แรมจัดเต็ม 32GB และได้ที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 1TB
- ประสิทธิภาพการเล่นเกมหรือทำงานมีความลื่นไหล จากเทคโนโลยี Lenovo Legion AI Engine
- หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพสูง ความละเอียด QHD+ ได้ Refresh Rate ที่ 165Hz รองรับ HDR
- Legion TrueStrike Keyboard ได้ฟีเจอร์ Gaming ตอบโจทย์พิมพ์งานและเล่นเกมเยี่ยมยอด
- ฟีเจอร์ Q Control 4.0 ปรับโหมดการใช้งานได้ง่าย เพียง Fn + Q และมีไฟสถานะ
- มาพร้อม Windows 10 Home ใช้งานได้ทันที มีซอฟต์แวร์มากมาย ที่ใช้ได้จริง มาช่วยปรับแต่ง
- มีพอร์ตมากมายอาทิ 2 x Thunderbolt 4 และ 4 x USB 3.2 Type-A และอื่นๆ
- ลำโพงคุณภาพเสียงดีทำงานร่วมกับระบบเสียง Nahimic Audio ฟีเจอร์น่าประทับใจ
- จัดการความร้อนดีจากเทคโนโลยี Legion Coldfront 3.0 ทำให้มีความสเถียรในการเล่นเกม
- มีแพคเกจการรับประกัน Unbeatable Protection Pack มูลค่า 14,900.- บาท (4Y Premium Care / 2Y ADP 100% part and Service)
ข้อสังเกต Lenovo Legion 5i Pro
- ตอนนี้ยังมีเพียงสเปกเดียวและสีเครื่องสีเดียวให้เลือกซื้อ
- พอร์ต Thunderbolt 4 ไม่รองรับการชาร์จไฟเข้าตัวเครื่อง
- ไฟคีย์บอร์ดไม่ได้เป็นแบบ RGB ทำให้ปรับสีไฟอื่นๆ ไม่ได้
- น้ำหนักตัวเครื่องและอแดปเตอร์ค่อนข้างหนักแต่อยู่ในเกณฑ์รับได้
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดที่ 5:30 ชั่วโมงโดยประมาณ
Specification
สเปกเต็มๆ ของ Lenovo Legion 5i Pro ติดตั้งชิปประมวลผล Intel Core i7-11800H พร้อมกับประสิทธิภาพความแรงจากเทคโนโลยีการผลิต 10 นาโนเมตร SuperFin ที่ส่งผลให้มีความแรงที่มากกว่าขึ้น ความร้อนที่น้อยลง แบตเตอรี่ยาวนาน ร้อนน้อยลง พร้อมการ์ดจอแยกตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3070 Max-P (8GB GDDR6) ค่า TGP 140W ที่ให้ความแรงลื่นทั้งในการทำงานหรือเล่นเกมเหนือชั้นกว่า Gaming Notebook รุ่นก่อนๆ ได้ที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 1TB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 32GB แบบ DDR4 Bus 3200 MHz (ติดตั้งแรมได้สูงสุด 32GB)
ได้หน้าจอขนาด 16″ แบบด้าน ขอบหน้าจอบางพิเศษ ความละเอียด Quad HD + (2560 x 1600 พิกเซล) ที่สัดส่วน 16:10 พาเนล IPS มี Refresh Rate รองรับ 165Hz ที่ 3ms รองรับ HDR ให้สีสันสวยงามและมุมมองที่กว้าง เหมาะกับการทำงานหรือเล่นเกม พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง 2 x Thunderbolt 4, HDMI, 4 x USB 3.2 Type-A, Kensington lock slot, RJ-45, Headset สเปกฮาร์ดแวร์แบบนี้ใช้งานทั่วไปพื้นฐานลื่นไหลแน่นอน รวมไปถึงเทำงานหนักๆ ก็ดีเยี่ยมมากๆ
พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi 6 AX (2×2) ระบบปฎิบัติการเป็น Windows 10 Home พร้อมใช้งานตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก แน่นอนว่ารองรับการอัปเกรดเป็น Windows 11 Home ภายหลัง ส่วนการรับประกันแน่นอนว่าเป็น ประกันยาวนานถึง 4 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน รวมไปถึงมีประกันอุบัติเหตุแบบเคลม 100% ในระยะเวลา 2 ปี และมีเครื่องสำรองระหว่างใช้งาน อีกทั้งมี Call Center 24/7 ด้วย ซึ่งนับว่าเป็นการรับประกันที่ดีที่สุดในไทยเลยทีเดียว
Lenovo Legion 5i Pro 16ITH6H-82JD0052TAo ราคา 69,900 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)
-
CPU : Intel Core i7-11800H (8C/16T : 2.30 – 4.60 GHz)
-
GPU : Intel UHD + NVIDIA GeForce RTX 3070 Max-P (8GB GDDR6)
-
RAM : 32GB DDR4 3200 MHz (16GB x 2)
-
DISPLAY: 16″ IPS QHD+ (2560 x 1600) @ 165Hz
-
STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 1TB
-
OS : Windows 10 Home
- Warranty : 4Y Premium Care (On-site) / 2Y ADP 100% part and Service
เสริมความมั่นใจให้กับเหล่าเกมเมอร์อีกขั้นด้วยแพคเกจประกัน Unbeatable Protection ใหม่ล่าสุดครั้งแรกของประเทศไทยกับ Gaming Laptop Premium Service Level ที่ให้การรับประกันยาวนานสูงสุดถึง 4 ปี การันตีคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ทุกชิ้นส่วนถูกผลิตขึ้นจากวัสดุที่ผ่านการเลือกสรรและทดสอบมาอย่างดีที่สุด เสริมมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น รายละเอียดการรับประกันมีดังนี้
แพคเกจ Unbeatable Protection Pack ราคา 14,900 บาท
ประกันแบบ Premium Care ระยะเวลา 4 ปี
- การสนับสนุนแบบ 24/7
- พนักงาน Call Center เป็นผู้ชำนาญการด้านเทคนิคโดยเฉพาะ
- รับประกันการซ่อมแบบ on-site next business day
- เวลาทำการบริการ on-site ระหว่าง 9 AM- 9PM
การคุ้มครอง Lenovo Accidental Damage Protection (ADP) 2 ปี
- การคุ้มครองด้านอุบัติเหตุแบบ Ultimate ADP
- 100% ดูแลด้านชิ้นส่วนและบริการ
Hardware / Design
Lenovo Legion 5i Pro ต้องบอกเลยว่าเป็นการพัฒนาต่อยอดมาจาก Lenovo Legion รุ่นก่อนๆ อีกหนึ่งสุดยอด Gaming Notebook ประจำปี 2022 ได้ขนาดหน้าจอ 16″ มาตรฐานของโน้ตบุ๊คเล่นเกมยุคใหม่ ที่มาพร้อมความแตกต่างจากดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย แนวทำงานที่พกพาไปใช้งานได้ทุกที หรือเล่นเกมที่บ้านก็มีความลงตัว ซึ่งเป็น Gaming Notebook รุ่นแรกของโลก ที่ใช้สเปกหน้าจอความละเอียด Quad HD+ ที่ 2560 x 1600 พิกเซล ซึ่งมีความละเอียดมากกว่า Full HD ที่ 1920 x 1080 แบบเดิมๆ (16:9) ได้สัดส่วนที่มากกว่าเป็น 16:10 พาเนลเป็น IPS คุณภาพสูง รองรับ Refresh Rate ที่ 165Hz โดยให้ทั้งความลื่นไหลและคุณภาพดีสีสันสวยงามสมจริง ทั้งจากความละเอียดที่มากกว่า และสัดส่วนหน้าจอที่ใหญ่กว่า
เหมาะสมที่สุดสำหรับการเล่นเกมและความบันเทิงอื่นๆ ที่สำคัญยังมีดีไซน์ขอบจอที่บางเฉียบ ส่งผลให้สะดวกสบายยิ่งขึ้นแบบรู้สึกได้ ในดีไซน์การออกแบบขนาดเทียบเท่า Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ส่งผลให้ดีไซน์รวมๆ ของตัวเครื่องมาพร้อมกับสีสันสีขาวด้านอย่าง Stingray White ตลอดทั้งตัวเครื่องที่ให้ความพรีเมียม โดยมีมิติที่เล็กกระชับ ด้วยความบางเพียง 21.7 – 26.85 มิลลิเมตร น้ำหนักชั่งจริงๆ ที่ 2.6 กิโลกรัม ว่ากันตามตรงคือหนาและหนักกว่าหลายๆ รุ่น โดยวัสดุที่ใช้ในการประกอบตัวเครื่องนั้นเป็นอลูมิเนียมคุณภาพสูง ให้สัมผัสที่ดีอีกทั้งยังทนทานไม่เป็นรอยง่ายๆ
ซึ่งเป็นจุดที่สมดุลทั้งในแง่ของประสิทธิภาพในการเล่นเกม และความสามารถในการพกพาได้อย่างลงตัว กับ Gaming Notebook ราคาระดับสูงกว่ามาตรฐานทั่วไป ที่ไม่ได้เน้นแต่ความคุ้มค่าอย่างเดียว แต่อยากได้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีด้วย จากหน้าจอคุณภาพสูง ซึ่งเชื่อได้เลยว่าน่าจะถูกใจหลายๆ คน ตอบโจทย์คนอยากได้โน๊ตบุ๊คเอาไปเล่นเกม แต่ไม่อยากได้ดีไซน์ Gaming ที่ดูจริงจังอย่างสีแดงฉูดฉาดมากเกินไป เพราะเครื่องเดียวกันนั้นต้องพกพาไปใช้งานด้วย ด้วยความที่สเปกเองก็แรงลื่นเอาไปทำงานหนักๆ อย่างโปรเซสไฟล์ภาพถ่ายหรือตัดต่อวีดีโอก็ได้แบบสบายๆ
งานประกอบรวมก็มีคุณภาพมาตรฐาน ทั้งฝาหลัง ด้านใน และใต้ตัวเครื่อง (ส่วนตรงนี้และขอบตัวเครื่องด้านหลังเป็นสีเทาอ่อน) พร้อมตอกย้ำการออกแบบและดีไซน์ตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็นสีสันที่เป็นตัวเครื่องเลือกที่จะให้มีความเรียบง่าย โดยมีโลโก้ ตัว Y ขนาดใหญ่ลักษณะสีเป็นปริซึมมันวาว ซึ่งตรงนี้จะมีไฟเปล่งออกมาเมื่อต่อกับอแดปเตอร์ ที่เป็นสัญลักณ์ของ Legion ที่ฝาหลังและบานพันแบบสองแกนขนาดใหญ่ ซึ่งขอบบานพับมีโลโก้ Y เช่นกัน พร้อมกันนั้นก็มีโลโก้ของ Lenovo อยู่ 2 ตำแหน่งคือด้านท้ายของตัวเครื่องนอกและด้านในตัวเครื่อง ส่วนด้านล่างตัวเครื่องก็จะเป็นช่องดูลมเย็นขนาดใหญ่ พร้อมยางรองยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น และมีโลโก้ Y อีกหนึ่งจุด
โดดเด่นด้วยการอัพเกรดระบบควบคุมอุณหภูมิและระบายความร้อน Lenovo Legion Coldfront 3.0ให้ระบบระบายความร้อนที่ดีขึ้น ผ่านใบพัดโพลีเมอร์คริสตัลและท่อนำความร้อนขนาดใหญ่พิเศษจำนวน 2 ตัว พร้อมช่องระบายความร้อนใต้สวิตช์คีย์บอร์ด ทำให้ระบายความร้อนได้รวดเร็วมากขึ้น เพื่อระบายความร้อนออกสู่ภายนอกให้เร็วที่สุด มีการติดตั้งแผ่นโลหะที่ Cover ทั้ง CPU / GPU แบบเต็มพื้นที่ ทำงานร่วมกับช่องระบายความร้อน 4 ทิศทาง (ด้านหลัง 2 ด้านข้าง 2) โหมดอัจฉริยะใหม่ Lenovo Legion AI Engine เพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม ขณะเดียวกันไม่ทำให้เกิดเสียงรบกวนที่ดังเกินไป โดยยังให้ประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมอยู่
สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุของ Lenovo Legion 5i Pro รุ่นใหม่นั้น ทำได้ดีตามมาตรฐานของ Lenovo ที่ทุกคนมั่นใจจริงๆ ซึ่งถ้าเทียบกับรุ่นก่อนหน้าก็ถือว่ายังคงรูปแบบเดิมเอาไว้ ให้ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมในดีไซน์เรียบๆ แต่เฉียบคมดุดัน แอบแฝงความเฉียบคมและดุดัน ด้วยโลโก้ใหม่ที่ดูน้อยแต่มาก พร้อมส่วนของไฟคีย์บอร์ดจะเป็นเพียงสีฟ้าสีเดียวเท่านั้น ทั้งหมดนี้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษก็คือ จากการที่เป็นสีขาวตลอดทั้งตัวเครื่องนั้น หากมือเราไม่สะอาดหรือเลอะอะไรมา ก็อาจจะทำให้ตัวเครื่องเลอะตามได้ด้วย รวมไปถึงตัวเครื่องเองก็มีน้ำหนักประมาณหนึ่ง ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นๆ
Keyboard / Touchpad
เรียกได้ว่าหน้าตาปุ่มคีย์บอร์ดนั้น ถ้าใครใช้งาน Lenovo Notebook มาอยู่แล้วต้องคุ้นเคยแน่นอน แต่คีย์บอร์ด Lenovo Legion TrueStrike ของ Lenovo Legion 5i Pro โดดเด่นกว่า ด้วยสวิตช์ซอฟต์แลนดิ้งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ให้กดที่ลึกขึ้นและมีแรงเท่า ๆ กัน ได้ความแม่นยำ นุ่มนวล หนักแน่น พร้อมไฟ RGB แบบ 4 โซน รองรับ Anti-Ghosting 100% และตอบสนองได้รวดเร็วใน 1ms กับมาตรฐานคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังเด้งตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด อีกทั้งมีความแข็งแรงทนทาน
จุดเด่นเลยก็คือ Q Control 4.0 สำหรับการปรับประสิทธิภาพให้เหมาะสม เราสามารถเลือกปรับโหมดได้เองระหว่างโหมดการรักษาอุณหภูมิ Quiet, Auto และ Performance ด้วยการกดปุ่ม Fn + Q นอกจากนี้ยังสามารถเร่งความแรงได้ด้วยการเปิด Dual Burn เพื่อดัน CPU และ GPU ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดไปพร้อมๆ กัน จากการที่ควบคุมความเร็วพัดลมและแรงดันไฟฟ้า ซึ่งที่ชอบมากๆ เลยก็คือปุ่ม Power ที่อยู่เหนือชุดคีย์บอร์ด จะมีการเปลี่ยนสีไปมาด้วย เมื่อเราเปลี่ยนโหมดการใช้งาน อย่างสีน้ำเงินจะเป็น Quiet ที่เน้นเงียบและประหยัดพลังงาน สีขาว Auto เน้นการใช้งานทั่วไป สีแดง Performance ไว้ใช้งานหนักๆ รวมไปถึงเล่นเกม
ในส่วนของทัชแพดนั้นได้รับการออกแบบมาใหม่ที่ดูแล้วเรียบง่าย ลักษณะเป็นแบบซ่อนปุ่มคลิ๊กซ้ายขวาที่ดูแล้วทั้งทัชแพดเป็นหนึ่งเดียวกัน ดูแล้วมีความสวยงามไม่น้อยเลยสำหรับการดีไซน์ออกแบบ ซึ่งมีการเลือกใช้เป็นสีขาวเข้ากันกับตัวเครื่อง (แต่ก็ต้องระวังความสะอาดและเลอะง่ายเช่นกัน) โดยรวมแล้วให้ความรู้สึกการใช้งานที่ดี มีความแม่นยำในการควบคุม เรียกได้ว่าถ้าเราไม่เล่นเกม ใช้งานทัชแพดเพื่อใช้งานอื่นๆ ได้เลย ที่สำคัญเรายังสามารถปิดทัชแพดและปุ่ม Windows แบบอัตโนมัติเมื่อเราเข้าสู่การเล่นเกม ผ่านทางฟีเจอร์นี้ในซอฟต์แวร์ Lenovo Vantage อีกด้วย แม้จะดูเรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริงๆ
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอ Lenovo Legion 5i Pro เป็นแบบด้านที่ลดแสงสะท้อนขนาด 16″ บนความละเอียดในระดับ Quad HD+ หรือ 2560 x 1600 พิกเซล (ความหนาแน่นของพิกเซล 34%) สัดส่วนก็มากกว่าที่ 16:10 พาเนลยังเป็น IPS คุณภาพสูง โดยมีค่า sRGB ใกล้เคียง 100% ในการทดสอบจริงๆ ได้ Refresh Rate ที่ 165Hz / 3ms รองรับ NVIDIA G-Sync ได้ความลื่นไหลกว่าแบบรู้สึกได้แม้จะนำไปใช้งานเล่นอินเตอร์เน็ตก็ตาม ให้การแสดงผลที่สมจริงมุมมองกว้างกว่าพวกโน๊ตบุ๊คที่เป็นพาเนล TN เหมาะการใช้งานทุกประเภทแน่นอน พร้อมรองรับเทคโนโลยี VESA DisplayHDR 400 / Dolby Vision กับ Content ต่างๆ ที่รองรับ ไม่ว่าจะเป็นความบันเทิง การเล่นเกม รวมไปถึงการทำงาน Creator
เมื่อลองใช้งานจริงแล้วให้ประสบการณ์ใช้งานระดับที่น่าประทับใจ ทั้งการเล่นเกม ดูหนัง หรือชมวีดีโอจาก Youtube, Netflix ก็สามารถมอบประสบการณ์ความบันเทิงให้อย่างดี เหนือชั้นกว่า Gaming Notebook ทั่วไปในตลาด ณ ตอนนี้ เรียกได้ว่า Lenovo Legion 5i Pro เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้สร้างมาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2022 พร้อมฟีเจอร์ E-Shutter ม่านชัตเตอร์ปิดเลนส์กล้องที่ทำให้เรามั่นใจว่ากล้องจะเห็นในเวลาที่เราต้องการใช้งานเท่านั้น การใช้งานก็ง่ายมากๆ ด้วยการใช้นิ้วเลื่อนเปิดหรือปิดการใช้งานเท่านั้น ซึ่งปุ่มนี้ติดตั้งอยู่ที่ขอบตัวเครื่องด้านขวา ส่วนไมโครโฟนแบบคู่ติดตั้งไว้ที่ขอบหน้าจอด้านหลังบริเวณโลโก้ Legion
การทดสอบประสิทธิภาพหน้าจอที่เป็นโน๊ตบุ๊คที่ใช้หน้าจอพาเนล IPS เกรดสูง ด้วยเครื่องมือฮาร์ดแวร์ Spyder5Elite โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 92% และ AdobeRGB ที่ 72% และ DCI-P3 ที่ 72% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยมในระดับการทำงานมืออาชีพ พร้อมได้ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบ 400 nit ซึ่งจัดได้อยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตรฐาน เอาไปทำงานข้างนอกหรือตามสตูดิโอ สู้แสงสว่างๆ สบายๆ เหมาะกับผู้ที่ใช้งานด้านตกแต่งภาพที่ต้องการความเที่ยงตรงของสีเป็นหลัก ใครที่จริงจังด้านสีสันถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่น่าสนใจรุ่นนึงทีเดียว
ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องกลางที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าช่องกลางของหน้าจอมีค่า 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ แต่สำหรับช่องมุมซ้ายล่างลดลงไปที่ระดับ 10% ทำให้ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ รวมไปถึงมีค่า Delta-E การคลาดสีเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 1.37 เท่านั้น (ต่ำกว่า 2 นับว่าดีเยี่ยมแล้ว) ปิดท้ายด้วยคะแนนรวม 4.5 คะแนนถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่ามาตราฐานทั่วไปมาก เหมาะสำหรับคนเอามาทำงานมืออาชีพสาย Creator หรือเล่นเกมแบบจริงจัง
Lenovo Legion 5i Pro ในด้านเสียง ด้วยลำโพงคุณภาพแบบ 2 x 2W แยกซ้ายขวาที่ติดตั้งบริเวณขอบตัวเครื่องด้านหน้าจำนวน 2 ตัว ซึ่งได้คุณภาพเสียงที่ดีในระดับหนึ่ง และดังเพียงพอสำหรับการแบ่งปันประสบการณ์ความบันเทิงให้กับคนรอบข้าง แต่ก็ต้องบอกตามตรงว่าถ้าเน้นเล่นเกมต่อหูฟังจะดีกว่า ส่วนถ้าดูหนังฟังเพลงก็ตามลำโพงแยกแทน ยังไงก็ดีกว่าในทุกๆ มิติ พร้อมระบบเสียง Nahimic แบบ 3 มิติ ที่จะเข้ามาเสริมพลังเสียงให้หนักแน่น เต็มอิ่ม รวมไปถึงปรับแต่งเพิ่มเติ่มได้ ซึ่งที่ชอกเลยก็คือ มีฟีเจอร์ Sound Tracking ไว้ดูทิศทางการเล่นเกม FPS และ Sound Sharing ที่ต่อหูฟัง Bluetooth สองอุปกรณ์พร้อมๆ กันได้
Connector / Thin And Weight
จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 16″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน โดยตัวพอร์ตเองมีทั้งด้านข้าง 2 ข้าง และด้านหลัง ไม่ว่าจะเป็น 4 x USB 3.2 Type-A, 2 x Thunderbolt 4 (รองรับการใช้งานโอนถ่ายข้อมูลสูงสุดที่ 40Gbps และต่อหน้าจอภายนอกมาตรฐาน DisplayPort ที่ความละเอียด 4K, 8K), 1 x HDMI 2.1, LAN RJ45 และ Mic-in/Headphone-out
เรียกได้ว่ามีการจัดว่าอย่างลงตัวและได้มากกว่าหลายๆ รุ่น เหมาะสมกับการใช้งานจริง พร้อมใส่สัญลักษณ์ตามพอร์ตต่างๆ เอาไว้ แต่ในส่วนของ Card Reader ไม่มีมาให้ พร้อมรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.1 และ Wi-Fi 6 AX ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตมีความสเถียร
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของ Gaming Notebook ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่ค่อนข้างใหญ่โตในแง่ของความหนา แต่เอาจริงๆ ก็เทียบเท่ากับ Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ในสเปกที่ใกล้ๆ กันพอสมควรกับการจ่ายไฟที่ 300 ตามสไตล์ของโน๊ตบุ๊คที่สเปกแรงก็ต้องใช้กำลังไฟที่สูงด้วย (ถ้าเป็นรุ่นี่สเปกต่ำกว่านี้ จะมีการจ่ายไฟอยู่ที่ 180W – 230W)
ส่วนของการพกพาทำได้น่าพอใจไม่แพ้ Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ ด้วยน้ำหนัก 2.6 กิโลกรัม (หนักกว่าก็จริงแต่อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้) อย่างไรก็ตามเมื่อรวมกับอแดปเตอร์ก็จัดว่ามีความหนักขึ้นมาก็ขั้นที่ 3.6 กิโลกรัม เพราะตัวอแดปเตอร์เองก็ใหญ่โตทีเดียว ตามสไตล์ของ Lenovo แต่ก็ถือว่าพอพกพาไปไหนมาไหนได้บ้าง
Inside / Upgrade
การแกะงัดเพื่อทำความสะดาดหรืออัปเกรดเครื่อง Lenovo Legion 5i Pro นั้นสามารถที่จะทำได้ค่อนข้างง่าย ใช้ไขควง 4 แฉก ไว้น็อตออก 10 ตัว เมื่อแกะฝาล่างออกมาแล้วก็จะเห็นฮาร์ดแวร์หลายๆ ส่วนวางอย่างลงตัว งานประกอบก็เรียบร้อยมากๆ โดยตัวเครื่องนั้นจะเป็นแบตเตอรี่ที่มีความจุอยู่ที่ 5100 mAh ซึ่งภายในเกือบทุกชิ้นส่วนจะมีการติดตั้งแผ่นโลหะเอาไว้เพื่อเสริมความแข็งแรงด้วย สำหรับในส่วนของแรมนั้นจะต้องถอดเอาที่ครอบออกก่อนจากนั้นก็จะเห็นหน่วยความแรม โดยตัวเครื่องนั้นจะมี 16GB x 2 แถว เป็นแบรนด์ Samsung รวมเป็น 32GB มาตรฐาน DDR4 Bus 3200MHz ซึ่งทำงานแบบ Dual Channel เพื่อได้ประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด (ใส่มาเต็มที่แล้ว)
โดยในส่วนของที่เก็บข้อมูลเป็น SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 1TB พร้อมรองรับการอัปเกรด SSD M.2 อีก 1 ตัวทันที ระบบระบายความร้อนของ Lenovo Legion 5i Pro นั้นมีทิศทางการไหลของลมที่ดีขึ้นจากเดิมพอสมควร ด้วยการออกแบบให้มีชุดระบายอากาศ 2 ชุด แยกกันระหว่าง CPU และ GPU ทำงานร่วมกับช่องระบายความร้อนถึง 4 ช่อง และผ่านใบพัดโพลีเมอร์คริสตัลเหลว พร้อมด้วยโลหะปกคลุมทั้งหมด เพื่อระบายความร้อนออกสู่ภายนอกให้เร็วที่สุด ขณะเดียวกันไม่ทำให้เกิดเสียงรบกวนที่ดังเกินไปอีกด้วย เรียกได้เปลี่ยนไปจากรุ่นก่อน แต่จะดีขึ้นหรือเปล่านั้นไปติดตามกันต่อดู แต่บอกได้เลยว่า Gaming Notebook ที่งานประกอบภายในเนี๊ยบจริงๆ
Performance / Software
Lenovo Legion 5i Pro เครื่องที่นำมาทดสอบเป็นสเปกขายจริง มาพร้อมกับชิปประมวลผลประสิทธิภาพสูงของ Gaming Notebook อย่าง Intel Core i Gen 11 H45 อย่าง Intel Core i7-11800H เน้นนำไปใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม 3 มิติ ที่กินทรัพยากรสูง โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.30 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 4.60 GHz เป็นซีพียูแบบ 8 Core 16 Threads มาพร้อมแรมภายในแบรนด์ Samsung ขนาด 32GB DDR4 Buss 3200 MHz แบบ 16GB x 2 แถว การ์ดจอเป็นแบบออนชิปอย่าง Intel Iris Xe Graphics ให้พลังในการประมวลผลที่ดีรองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นหรือหน้าจอความละเอียดสูงที่เป็นลักษณะ 2 มิติ
อีกทั้งยังมีการ์ดจอแยกตัวแรงรองท็อปอย่าง NVIDIA GeForce RTX 3070 แบบ Max-P (8GB GDDR6) กับค่า TGP 140W สถาปัตยกรรม Ampere โดยเป็น RTX เจนที่ 2 ที่ต้องบอกว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าที่เทียบเคียงอย่าง GeForce RTX 2080 ได้ดีกว่า ซึ่งไม่ใช่แค่แรงแต่ยังร้อนน้อยกว่า เน้นใช้งานกับ Gaming Notebook ทุกประเภท ทั้งตัวหนาหนักและบางเบา รองรับ Ray Tracing ช่วยเพิ่มคุณภาพการแสดงแสงเงาให้แม้แต่เกมระดับ AAA และฟีเจอร์อื่นอีกมากมาย โดยยังสามารถปรับกราฟิกได้ถึง Ultra ให้ภาพสวยงาม ไหลลื่น สมจริงกว่าที่เคยมีมา กับความละเอียดที่เป็น Quad HD+ เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / CINEBENCH 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล Intel Core i7-11800H คะแนนก็อยู่ในระดับสูงมากๆ อย่างน่าประทับใจสมกับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก Intel Core i Gen 11 Tiger Lake เปรียบเทียบกับชิปประมวลผล Intel Core i7-10875H ก็ทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนทีเดียว รวมไปถึงตัวการ์ดจอแยก RTX 3070 แบบ Max-P เองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบนสุด ที่เน้นการทำงาน 3D เป็นหลัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 แบรนด์ Samsung ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าประทับใจมากๆ บนขนาดความจุ 1TB ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับ SSD M.2 SATA 3 รวมไปถึง SSD M.2 NVMe PCIe Gen 3 แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 7075 MB/s และเขียนที่ 5127 MB/s ความเร็วถือว่าทำได้ดีเยี่ยมยอด เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook ราคาคุ้มค่า ที่ได้ SSD ระดับสูง อันนี้เป็นจุดเด่นที่ชัดเจนทีเดียว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 7068 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็น Gaming Notebook สเปกใหม่จากชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 ในรุ่น i7-11800H มีการ์ดจอแยกระดับ Gaming ตัวบนๆ อย่าง NVIDIA GeForce RTX 3070 ทำให้มีคะแนนพุ่งกว่าโน๊ตบุ๊คเล่นเกมปีก่อนๆ มากพอตัว อีกทั้งสเปกใช้แรมไป 32GB และ SSD M.2 ความเร็วสูงก็ผลในการทดสอบด้วย
สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมจากการทดสอบด้วยโปรแกรม 3D Mark จากทาง Futuremark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 10699 และประมวลผลคาดการณ์เกม Battlefield V ปรับสุด Quad HD ได้ 100+ FPS เน้นเรื่อง DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ ของการ์ดจอแยกเป็นหลัก ซึ่งผลทดสอบนั้นจะดูว่าแต่ละการ์ดจอแยกนั้นสามารถทำงานเข้าขากับ DirectX 12 ได้ดีขนาดไหน แน่นอนว่ามีประสิทธิภาพในการทำงาน 3 มิติที่ซับซ้อน หรือเล่นเกมกินทรัพยากรเครื่อง
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 6 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า Gaming Notebook สเปกปีก่อนๆ ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-11800H ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce RTX 3070 Max-P ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับสเปกอื่นๆ ก็เข้ากันเป็นอย่างดี
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Far Cry 6 / Resident Evil Village / GTA V / Scum ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ตามภาพด้านบน ที่ต้องบอกว่าภาพก็สวยจนน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุด ให้ภาพสวยงาม ส่งผลให้ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 70 ขึ้นไป ส่วนเกมออนไลน์กินสเปกน้อยลงมาอย่าง DOTA 2 / PUBG ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมดให้ด้วยเช่นกัน กับละเอียด Native เหมือนกัน ก็สามารถเล่นให้ลื่นไหลได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน
ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยก็สูงเพียงพอแล้วที่หน้าจอ Refresh Rate 165Hz ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แบบไร้กังวล ซึ่งถ้าใครต้องการเล่นให้ลื่นไหลกว่านี้แนะนำให้ปรับกราฟิกลงมากลางๆ หน่อยก็สามารถทำได้ หรือจะลดความละเอียดในเกมลงมาเป็น 1920 x 1200 พิกเซล เพื่อให้ทำงานร่วมกับ Refresh Rate ได้สมบูรณ์ รวมไปถึงให้เปิด V-Sync ด้วย เพื่อให้ G-Sync ทำงานให้ภาพไม่ฉีกขาด อย่างก็ตามจำเป็นต้องปรับโหมดเป็น Performance ด้วย เพื่อเร่งการทำงานสูงสุดของตัวเครื่อง
Lenovo Legion 5i Pro แน่นอนว่ามาพร้อมซอฟต์แวร์ Lenovo Vantage มีในส่วนเรื่องเช็คการทำงานของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์พิเศษเพิ่มความคมชัดยิ่งขึ้นไปอีกด้วย Intelligent media นับได้ว่า Lenovo Vantage เป็นซอฟต์แวร์ Ultility ติดเครื่องที่ดีและใช้งานจริงได้
Battery / Heat / Noise
Lenovo Legion 5i Pro นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 5100 mAh ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็มีความจุที่ใหญ่กว่า Gaming Notebook ทั่วไปเล็กน้อย และเมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียวเลย โดยสามารถใช้งานดู Youtube ผ่าน Microsoft Edge เชื่อมต่อผ่านทาง Wi-Fi และปรับเป็น Power Saver Mode + Quiet Mode ได้ยาวนานประมาณ 5:30 ชั่วโมง ใช้งานได้ยาวนานน้อยกว่าที่คิดไว้ แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่พอที่จะพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ ซึ่งถ้าเอาชัวร์ๆ แนะนำว่าพกอแดปเตอร์ไปด้วยจะดีที่สุด และถ้าหากเทียบกับ Lenovo Legion 5 Pro ที่เป็นสเปก AMD Ryzen จะใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมงทีเดียว
ส่วนของอุณหภูมิตัวเครื่องโดยรวมถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีขณะที่เราเล่นเกมทดสอบเป็นเวลานาน อุณหภูมิภายในดูจากโปรแกรม Hardware Monitor เผยถึงชิปประมวลผล Intel Core i7-11800H + NVIDIA GeForce RTX 3070 โดยมีความร้อนสูงสุดคือ 98 องศาเซลเซียส ส่วนการ์ดจอแยกร้อนที่สุดที่ 86 องศาเซลเซียสเท่านั้น ด้วยการทดสอบให้ห้องแอร์ปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส จากการเล่นเกมยาวๆ หลายเกมต่อเนื่อง เรียกได้ว่าระบบระบายความร้อนเครื่องนี้มีอุณหภูมิที่เย็นมากๆ ซึ่งส่งผลให้ตัวเครื่องไม่เสียหายหรือเล่นเกมใช้งานมีปัญหาหน่วงหรือกระตุกแต่อย่างใด เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook รุ่นใหม่ที่จัดการความร้อนได้ดีเยี่ยมทีเดียว
Conclusion / Award
Lenovo Legion 5i Pro เป็น Gaming Notebook ต้นปี 2022 ระดับบนๆ ที่น่าสนใจมากๆ จากการที่ได้สเปคสุดแรง Intel Core i Gen 11 Tiger Lake รุ่นล่าสุดที่ยังแรงขึ้นร้อนน้อยแบตยาวนานได้อีก แม้ในตอนนี้ยังมีสเปกขายจริงสเปกเดียว คือ Core i7-11800H ส่วนการ์ดจอแยกได้เป็น NVIDIA GeForce RTX 3070 Max-P ค่า TGP 140W เรียกได้ว่าเข้าคู่กันเป็นอย่างดี ดีขึ้นทั้งประสิทธิภาพ ฟีเจอร์ครบครันเครื่องเดียว ได้แรมขนาด 32GB DDR4 Bus 3200MHz และ SSD M.2 NVMe Gen 4 ความจุ 1TB ซึ่งฮาร์ดแวร์โดยรวมคือตัวจบ ไม่ต้องอัปเกรดแล้ว หรือใครจะอัปก็ทำได้ง่าย กับการใช้ SSD M.2 เพิ่ม ส่วนแรมเพิ่มไม่ได้แล้ว ตามสเปกคือสูงสุด 32GB
แม้จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2.6 กิโลกรัม และรวมกับอแดปเตอร์ 300W ซึ่งรวมๆ แล้วหนักกว่า Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะได้หน้าจอ 16″ ความละเอียด QHD ที่ 2560 x 1600 พิกเซล Refresh Rate ที่ 165Hz โดยได้พาเนล IPS เกรดสูง มีขอบเขตสี sRGB ใกล้เคียง 100% รองรับทั้งการทำงานแบบมืออาชีพหรือเล่นเกมแบบจริงจังที่มากกว่า กับมาตรฐานหน้าจอ Gaming Notebook ยุคใหม่ พร้อมเทคโนโลยี Lenovo Legion Coldfront 3.0 ที่ช่วยควบคุมความอุณหภูมิ และฟีเจอร์ Q Control 4.0 สำหรับการรีดประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถเลือกปรับโหมดได้เองระหว่างโหมดการรักษาอุณหภูมิ Quiet, Balance และ Performance
Legion TrueStrike Keyboard โดดเด่นด้วยสวิตช์ซอฟต์แลนดิ้งที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ให้กดที่ลึกขึ้นและมีแรงเท่า ๆ แม่นยำ นุ่มนวล หนักแน่น รองรับ anti-ghosting 100% และตอบสนองได้รวดเร็วใน 1ms ทนทานมากขึ้นด้วยการเคลือบสารให้คุณสมบัติต้านทานการเสียดสีและการสึกกร่อน (แต่เลอะง่ายเพราะเป็นสีขาวเหมือนตัวเครื่อง) ซึ่งแม้ไฟปรับ RGB ไม่ได้ แต่ส่วนตัวเองก็ยอมรับได้กับสีฟ้า นอกจากนี้ยังมี Lenovo Legion AI Engine ซึ่งเป็นระบบของ AI ที่ให้เฟรมเรตสูงสุดในเกมระดับ AAA ในปัจจุบัน สามารถเร่งความแรงได้ด้วยการเปิด Dual Burn เพื่อดัน CPU และ GPU ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดไปพร้อมๆ กัน
สมกับเป็น Gaming Notebook มีความเป็น Legion ที่ไม่ใช่แค่สวยงามดุดัน แข็งแรงทนทานด้วยโลหะตลอดทั้งตัวเครื่อง แต่เน้นประสิทธิภาพและหน้าจอคุณภาพสูงด้วย ซึ่งพิเศษสุดๆ กับสเปก Intel Core i ที่เป็นสีขาว Stingray White ที่เอาใจคนที่ต้องการ Gaming Notebook ที่ให้ความแตกต่าง แม้ต้องคอยระวังเรื่องความสะอาดบ้าง (แบรนด์อื่นๆ ก็มีที่เป็นสีขาว แต่ก็มีน้อยรุ่นมากๆ รวมไปถึงยังเป็นระดับกลางๆ) ทำให้ไม่ว่าเราจะใช้งานทั่วไปอย่าง ดูหนังฟังเพลง เล่นอินเตอร์เน็ต ทำงานเอกสารลื่นไหลแน่นอน รวมไปถึงเอาไปทำงานตัดต่อวีดีโอโปรเซสไฟล์ภาพก็สบายๆ ส่วนเล่นเกมก็ได้ประสบการณ์ที่เหนือชั้นกว่าเดิมๆ
โดยรุ่นที่เรานำมาทดสอบทั้งหมดเป็นเครื่องขายจริง กับราคาขายจริง 69,990 บาท ที่ราคาสูงกว่า Lenovo Legion 5 Pro สเปก Ryzen 7 5800H / RTX 3070 / RAM 32GB / SSD 1TB สี Storm Grey ถือว่าเป็น Gaming Notebook ได้สเปกที่น่าสนใจทีเดียว กับการที่ไม่มี Thunderbolt 4 และไม่มีสีขาวเหมือนสเปก Intel Core i7-11800H เพราะมาพร้อมกับประสิทธิภาพที่สูงทั้งด้วยชิปประมวลผลและการ์ดจอ ขอบจอบางเฉียบ ดีไซน์เน้นเรียบๆ ทั้งจากรูปลักษณ์และใช้งานจริง พร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม อย่างไรก็ตามใครคนไหนที่กำลังมองหา Gaming Notebook ระดับบนที่มีความสดใหม่สุดๆ บอกได้เลยว่า Lenovo Legion 5i Pro เป็นคำตอบครับ
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 16 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Lenovo Legion 5i Pro ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Lenovo Legion โน๊ตบุ๊คสาย Gaming ซึ่งล่าสุดได้ขนาด 16″ ในมิติตัวเครื่อง 15.6″ ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Lenovo Legion 5i Pro ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามเรียบหรูดูเป็นเอกลักษณ์ ให้ความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ชัดเจน ได้สีสันสีขาวด้านอย่าง Stingray White ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม อีกทั้งยังพกพาไปทำงานได้ลงตัว วัสดุเป็นอลูมิเนียมสีขาวแซมด้วยเทาตลอดทั้งตัวเครื่อง ได้ไฟคีย์บอร์ดสีฟ้า ทำให้เป็นอีกหนึ่ง Gaming Notebook ที่หลายคนจับตามองทีเดียวในปี 2022
Best Performance
ด้วยสเปก Lenovo Legion 5i Pro ชิปประมวลผล Intel Core i7-11800H และการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 3070 Max-P ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 32GB แบบ DDR4 รวมไปถึง SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความเร็วสูงที่ 1TB อีกทั้งได้หน้าจอ IPS คุณภาพสูงที่ดีเยี่ยม ความละเอียด QHD+ สัดส่วน 16:10 ได้ Refresh Rate 165Hz รองรับเทคโนโลยี DisplayHDR 400 ก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ค่าคะแนนต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี ส่วนการใช้งานทั่วไปนั้นก็ลื่นไหลสุดๆ
Best Gaming
จัดเต็มด้วยฟีเจอร์ Gaming ด้วย Legion TrueStrike Keyboard ที่เป็นคีย์บอร์ด Gaming โดยเฉพาะ รองรับการพิมพ์งานและเล่นเกมได้เยี่ยมยอด ความร้อนที่เกิดขึ้นเมื่อใช้งานหนักๆ จัดการความร้อนดีจากเทคโนโลยี Legion Coldfront 3.0 อีกทั้งด้วยการใช้งาน Q Control 4.0 ก็คือการปรับโหมดเพียง Fn + Q เท่านั้น ก็สามารถเปลี่ยนการใช้งานเหมาะสมได้ง่ายๆ อีกทั้งมีไฟแสดงสถานะชัดเจน พร้อมเทคโนโลยี Lenovo Legion AI Engine นับว่าช่วยการใช้งานสุดๆ ไปอีกขั้นจากการที่ระบบช่วยจัดการ CPU / GPU ที่เหมาะสม ที่สำคัญตัวเครื่องควบคุมอุณหภูมิได้ดีจากเทคโนโลยี Legion Coldfront 3.0