MSI MEG Trident X 11TE เกมมิ่งพีซี Intel Core i7 การ์ดจอ RTX3080 เล่นเกมก็โหด ทำงานก็ลื่น
MSI MEG Trident X 11TE-1664TH กลายเป็นอีกหนึ่งในทางเลือกของเกมเมอร์ ที่ต้องการพีซีสำเร็จรูปแบบที่จัดสเปคมาให้คอเกมได้เล่นอย่างครบครัน ไม่ต้องไปหาประกอบเองให้เสียเวลา และค่าใช้จ่ายก็ยังคุ้มค่า เพราะถ้าคิดตามราคาการ์ดจอที่ต้องซื้อแยกตอนประกอบคอมเวลานี้ คอมเซ็ตแบบนี้ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ที่สำคัญยังได้ตัวเคสที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ กับการออกแบบมาเป็นพิเศษทั้งภายในและภายนอก ออกแบบการระบายความร้อนมาเป็นพิเศษ พร้อมพัดลมและแสงไฟ RGB ให้ปรับแต่งได้อีกด้วย และที่ต่างจากเกมมิ่งพีซีทั่วไปนั่นคือ ใช้พื้นที่บนโต๊ะน้อยมาก เพราะไซส์ประมาณ 1/3 ของเคส Mid-Tower เท่านั้นเอง มีระบบปฎิบัติการ Windows 10 มาในตัว รวมถึงการรับประกัน 3 ปีเต็ม เวลานี้มีโมเดลให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่นด้วยกัน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 89,900 บาท
- MSI MEG Trident X 11TE-1663TH – Intel Core i9-11900K, GeForce RTX 3080 VENTUS 3X 10G OC LHR, DDR4 32GB, HDD 1TB, SSD PCIe 1TB, Windows 10 Home, GK30 combo
- MSI MEG Trident X 11TE-1664TH – Intel Core i7-11700K, GeForce RTX 3080 VENTUS 3X 10G OC LHR, DDR4 32GB, SSD PCIe 1TB, Windows 10 Home, GK30 combo
- MSI MEG Trident X 11TE-1665TH – Intel Core i7-11700K, GeForce RTX 3070 VENTUS 3X 10G OC LHR, DDR4 32GB, SSD PCIe 1TB, Windows 10 Home, GK30 combo
- ทุกรุ่นรับประกัน 3 ปี
MSI MEG Trident X 11TE-1664TH เกมมิ่งพีซี จบในตัว
จุดเด่น
- ให้เฟรมเรตลื่นไหล เล่นเกมระดับ AAA ได้ไม่ยาก
- อัพเกรด RAM และ SSD ได้สะดวก
- ระบายความร้อนได้ดี
- ออกแบบได้สวยงาม ไฟ RGB ปรับแต่งได้
Specification
Model | MSI MEG Trident X 11TE-1664TH |
CPU | Intel Core i7-11700K |
TDP | 125W |
Mainboard | Z590 |
Graphic | GeForce RTX 3080 VENTUS 3X 10G OC LHR |
RAM | DDR4 3200 32GB, Memory Max 64GB (2 slot) |
SSD | 1TB (M.2 x2) PCIe Gen4x4 NVMe |
LAN | Realtek RTL 8125B |
WiFi | 802.11ac 2×2 + BT, WLAN Intel AX210 |
Audio | Realtek ALC1220 |
Port connector | USB 3.2 Gen 1 Type-C, Type-A, USB 3.2 Gen 2 Type-C, Type-A, USB 2.0 |
VGA port | HDMI, DisplayPort |
PSU | 750W 80 Plus Gold SFX form factor |
OS | Windows 10 Home |
Weight | 10.2Kg |
Price | เริ่มต้น 89,900 บาท |
Design
มาดูการออกแบบภายนอกของ MSI MEG Trident X 11TE รุ่นนี้กันก่อน บอดี้จะยังคงเป็นลักษณะเดียวกันกับ Trident รุ่นก่อนหน้านี้ เส้นสายแทบไม่ได้ต่างกันมากนัก มาในขนาดกระทัดรัด 10 liter ซึ่งถ้าเทียบแล้ว เล็กกว่าเคสแบบ Mid-Tower ทั่วไปประมาณ 1 ใน 3 เท่านั้นเอง น้ำหนักประมาณ 10Kg ทำให้รู้สึกไม่ค่อยเกะกะ เวลาที่วางบนโต๊ะ ยังสามารถวางจอขนาด 27-29″ ได้สบายๆ บนโต๊ะระดับ 120cm
มาในโทนสีดำตลอดทั้งบอดี้ ด้านหน้าเป็นแนวตั้งขึ้นไป ความหนาของตัวเคสอยู่ที่ 9cm และฐานความหนามากที่สุดแค่ 14cm เท่านั้น นอกจากนี้ด้านหน้ายังมีพอร์ตในการต่อพ่วงมาให้ รวมถึงแสงไฟ RGB ซึ่งจะนำเสนอในส่วนของการปรับแต่งแสงไฟกันต่อไป
ด้านข้างทางซ้าย จะเปิดช่องลมให้กับการ์ดจอ GeForce RTX3080 VENTUS ซึ่งสามารถดูดลมเย็น เข้าไประบายความร้อนให้กับกราฟิกการ์ดได้จากจุดนี้ ด้านล่างลงมาก็เป็นช่องพัดลมของเพาเวอร์ซัพพลายระดับ 750W ในแบบ 80 Plus Gold นั่นเอง
ถัดมาทางด้านขวา จะเป็นพัดลมตัวหลัก ที่จะเข้าไปช่วยระบายความร้อนให้กับซีพียูโดยตรง และช่วยลดความร้อนให้กับระบบได้อีกทางหนึ่ง ส่วนในเรื่องของทางลมนั้น จะออกมา 2 ทางหลักๆ คือ เพาเวอร์ซัพพลาย และช่องด้านบนตามรูปแบบของความร้อน ซึ่งจะขึ้นที่สูงนั่นเอง
ด้านบนของช่องพัดลมมีโลโก้ Trident สีแดง ฟอนต์สวยๆ มาด้วย ตัดกับพื้นสีดำได้อย่างโดดเด่น
Back I/O มีให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Gen2, Type-A และ Type-C, USB 2.0 รวมถึง HDMI 2.0b และ DisplayPort 1.4a, RJ-45 และ Sound
ส่วนของพอร์ตแสดงผลที่มีอยู่บนกราฟิกการ์ด ประกอบด้วย HDMI 1 ช่องและ DisplayPort 3 ช่อง
มาดูช่องทางการดูดลมเย็นเข้าไปให้กับกราฟิกการ์ด ช่องใหญ่มาก แทบไม่ต้องกังวลเรื่องการระบายความร้อนเลยทีเดียว
ด้านล่างใต้เคส ถูกยกสูงขึ้นมา พร้อมพัดลมขนาด 60mm ดูดลมเย็นเข้ามาไหลเวียนภายในเคสได้อีกทางหนึ่ง จึงช่วยลดความร้อนให้กับระบบได้มากขึ้น ผลทดสอบสามารถเข้าไปดูใน Performance ในส่วนของ OCCT ครับ
ด้านบนมีปุ่มเพาเวอร์ในแบบสามเหลี่ยมเข้ากับรูปทรงด้านบนได้ดี ส่วนพื้นที่ที่เหลือเป็นช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่
แถบด้านข้างมีช่องเล็กๆ สำหรับการระบายความร้อนอยู่ด้วย และโลโก้ MSI สีแดงสดบนพื้นสีดำ ที่ดูสะดุดตาไม่น้อยเลย
MSI MEG Trident X 11TE-1664TH ยังแถมกระจกข้าง Tempered Glass เพื่อให้คุณตกแต่ง เพิ่มความสวยงามมาให้อีกด้วย
Upgrade
มาชมพื้นที่ด้านในกันบ้าง สามารถเปิดอัพเกรดได้ง่าย เพราะใช้แค่ไขควง 4 แฉก ถอดน็อตด้านหลัง ฝั่งละ 2 ตัวเท่านั้น
ภาพกว้างๆ ของด้านขวามือของ MSI MEG Trident X 11TE จะเห็นพื้นที่ด้านใน ที่มีการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ได้เรียกว่าลงตัว มุมขวาล่างวางเมนบอร์ดและมีฮีตซิงก์พร้อมพัดลมระบายอากาศขนาด 120mm มุมซ้ายล่างจะเป็นเพาเวอร์ซัพพลาย 750W 80 Plus God ด้านบนขวา มีจุดติดตั้ง SSD SATA หรือฮาร์ดดิสก์โน๊ตบุ๊ค 2.5″ เอาไว้ให้ 2 ตัวด้วยกัน อัพเกรดเพิ่มในภายหลังได้ เส้นช่องเดินสายไฟเพาเวอร์ซัพพลายได้พอดี
จุดติดตั้ง SSD SATA หรือฮาร์ดดิสก์โน๊ตบุ๊ค 2.5″ เอาไว้ให้สำหรับการอัพเกรดได้อีก 2 ตัว นอกเหนือจาก SSD ในแบบ M.2 NVME PCIe ที่ให้มาบนเมนบอร์ด
พัดลมระบายความร้อน ที่มาพร้อมแสงไฟ RGB ซิงก์เข้ากับ MSI Mystic Light ระบายความร้อน และปรับแต่งแสงสี เพิ่มความสวยงามได้ในตัว
เพาเวอร์ซัพพลาย MSI A750GF ในรูปแบบของ SFX form factor จ่ายไฟ +12V ในแบบ Single Rail ได้ถึง 62.5A สูงสุด 750W รับกราฟิกการ์ดกับซีพียูตัวแรงๆ ได้สบายๆ
ขยับมาดูทางด้านซ้ายของคอม MSI รุ่นนี้กันบ้าง เป็นจุดสำคัญที่จุดหนึ่ง เพราะใช้ติดตั้งอุปกรณ์อย่างกราฟิกการ์ดเอาไว้ด้วย
จากด้านนี้ เราจะเห็นพื้นที่จัดวางเมนบอร์ดบริเวณด้านหลัง ซึ่งจะมีสล็อต M.2 NVMe PCIe ให้ติดตั้ง SSD เพิ่มได้อีก 1 ตัว ด้านบนจะเป็นกราฟิกการ์ด MSI GeForce RTX3080 VENTUS 3X 10G OC LHR มาให้
การถอดประกอบกราฟิกการ์ด อาจจะต้องเริ่มจากน็อตยึด Bracket ด้านหลัง บริเวณที่เป็นพอร์ตแสดงผล และยกออกจากสล็อต PCIe การ์ดรุ่นนี้เป็นแบบ 3 พัดลม แต่ก็สามารถจัดวางลงในเคสได้ไม่ยาก
มุมมองจากด้านบน จะเห็นได้ว่ามีคอนเน็คเตอร์ไฟเลี้ยงกราฟิกการ์ดแบบ 6+2 pins จำนวน 2 ชุดต่อเอาไว้ให้
MSI Mystic Light RGB
คงไม่ใช่แค่เรื่องของการออกแบบภายนอกเท่านั้น MSI MEG Trident X 11TE-1664TH ยังจัดวางแสงไฟ RGB มาไว้ในเคสรุ่นนี้อีกด้วย โดยเฉพาะด้านหน้าเคส จะมีแถบสี 3 จุด พาดตรงกลาง เพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวเคส และยังปรับแต่งผ่านทางซอฟต์แวร์อย่าง MSI Center ให้เป็นสีในแบบที่ต้องการได้อีกด้วย
MSI Center ใครที่ต้องการปรับแต่งแสงไฟ แนะนำเลยว่า ให้ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ MSI มาติดตั้ง เพราะจะเพิ่มระดับความสวยงามให้กับ MSI Trident X รุ่นนี้อีกไม่น้อยเลย โดยโปรแกรมตรวจเช็คเจอฮาร์ดแวร์ได้ตรงตามรุ่น โดยคุณสามารถกำหนด Profile ได้อีก 3 โพรไฟล์ และซิงก์ร่วมกับอุปกรณอื่นๆ ที่รองรับให้แสงไฟทำงานร่วมกันได้ รวมถึงทางด้านขวาของหน้าต่างจะมีเอฟเฟกต์ของแสงไฟให้เราเลือกได้มากกว่า 10 รูปแบบเลยทีเดียว ส่วนแสงไฟที่เปลี่ยนไปนั้น จะไปสว่างจุดใดบ้าง มาชมกันได้เลย
จุดแรกจะเป็นด้านบนของตัวกราฟิกการ์ด หรือบนตัวเคสนั่นเอง
ถัดมาก็จะเป็นพัดลมซีพียูที่ติดตั้งบนเมนบอร์ด ตรงนี้ถือว่าสวยสดใส ทำให้ด้านข้างเคสดูไม่มืดเกินไป
ภาพที่มองจากด้านบนของเคส เมื่อไฟสว่างเปิดตัวพร้อมใช้งาน ก็ดูเท่ไปอีกแบบ
ภาพรวมทั้งหมดของ MSI MEG Trident X 11TE-1664TH เมื่อเปิดใช้งาน แสงสีเรียกว่ามีอยู่รอบตัวเลยทีเดียว และด้วยขนาดที่กระทัดรัดของพีซีเครื่องนี้ จึงเหมาะอย่างยิ่งกับการวางโชว์บนโต๊ะคอมที่คุณใช้ เพิ่มความรู้สึกในการเล่นเกมได้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้สำหรับ MSI MEG Trident X 11TE-1664TH ยังแถมกระจกข้าง Tempered Glass เพื่อเป็นตัวเลือกในการตกแต่งเคสให้สวยงาม ดูอลังการมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคอเกมหรือคนที่ชอบแต่งคอม จัดโต๊ะคอมให้ดูโดดเด่น เข้ากับแสงไฟ RGB ได้อย่างลงตัว
Performance
เข้าสู่การทดสอบเริ่มต้นด้วยโปรแกรม CPUz เพื่อเช็คฮาร์ดแวร์ต่างๆ ภายในพีซี MSI MEG Trident X รุ่นนี้ ซีพียู Intel Core i7-11700K ความเร็ว 4.7GHz ทำงานแบบ 8 core/ 16 thread มาพร้อมกับเมนบอร์ด MSI MEG Z590i UNIFY จัดว่าตัวท็อปๆ มาเลย
ติดตั้งแรม DDR4 3200 มาให้ถึง 32GB ด้วยกัน โดยที่มีด้วยกัน 2 สล็อต และทำงานในแบบ Dual-channel
ส่วนกราฟิกมี 2 แบบคือ ที่มากับซีพียูเป็น Intel UHD Graphic 750 และการ์ดจอแยก GeForce RTX3080 ผลทดสอบในเบื้องต้นด้วย CPUz ตัวเลขแซงหน้า Gen 10 ในรุ่นเดียวกันไปทั้ง Single Thread และ Multi Thread อย่างงดงาม
ในส่วนของการ์ดจอแยก MSI GeForce RTX 3080 VENTUS 3X 10G OC LHR มาพร้อมกับ VRAM GDDR6X 10GB บนการเชื่อมต่อPCIe 4.0 x16 และมี CUDA 8704 ชุด เรียกว่าเล่นเกม High settings บนความละเอียด Full-HD ได้ลื่นๆ หรือจะเล่นเกมระดับ 4K ก็ยังไหว
เริ่มต้นกับการทำงานในภาพรวมของระบบ ด้วยโปรแกรม PCMark 10 ซึ่งจะเป็นการทดสอบประสิทธิภาพของพีซีเครื่องนั้นๆ และผลที่ได้อยู่ที่ 7550 คะแนนเลยทีเดียว ซึ่งตัวเลขส่วนใหญ่ทั้งในด้านมัลติมีเดีย Photo Video Editing เรียกว่ามาเกิน 10000 คะแนน รวมถึงการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ต่างๆ
ถัดมาเป็นการทดสอบกับโปรแกรมที่เป็นตัวแทนด้านงานกราฟิก 3 มิติอย่าง CINEBench R20 คะแนนซีพียูอยู่ที่ 5158 pts แซงหน้าซีพียูในระดับเดียวกันหลายรุ่น ด้วยความสามารถในการเรนเดอร์ภาพกราฟิก
ส่วนใน CINEBench R23 ก็ทำได้อย่างโดดเด่นทีเดียว กับตัวเลข Single Core และ Multi Core ที่แซงหน้าซีพียูรุ่นพี่อย่าง Core i9 Gen 9 ไปอย่างเฉียดฉิว
มาสู่การทดสอบในการเล่นเกม ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเกมมิ่งพีซี MSI MEG Trident X 11TE-1664TH รุ่นนี้ โดยการทดสอบแรกกับ Battlefield V แม้ว่าจะเป็นเกมที่ใช้ทรัพยากรอย่างหนัก แต่กับการตั้งค่าแบบ Ultra settings ตัวเลขเฟรมเรต ก็วิ่งสู่จุดสูงสุด 200fps. ได้ไม่ยาก กับความงดงามของภาพตามนี้เห็นนี้เลย เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องตั้งให้น้อยกว่านี้ ส่วนคนที่เล่นแบบ 2K ก็ไม่ต้องกังวลไป อย่างไรก็เกิน 100fps.
สำหรับ PUBG เกมที่ยังฮิตติดตลาด แม้จะไม่ได้ใช้แรงของกราฟิกการ์ดโหดมากมายนัก แต่ถ้าอยากได้ภาพสวยๆ มองง่าย เห็นได้ชัด ก็ต้องปรับหลายๆ อย่างให้เหมาะสม ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เริ่มต้นกับ Ultra settings และปรับ Render scale ไปจนสุด เฟรมเรตที่ได้อยู่ที่ราว 240-250fps สูงสุดไปแตะที่ 260fps เลยทีเดียว
ส่วน PUBG ปรับมาเป็น Medium settings มีพุ่งไปมากกว่า 280fps ให้เห็น ซึ่งภาพก็ยังสวย ถ้าให้ดีมีจอ 240Hz มาเล่นด้วย พร้อมฟีเจอร์ G-Sync ด้วยแล้ว จะยิ่งสวยเนียนมากยิ่งขึ้น
มาที่ Red dead Redemption กันครับ เกมนี้ก็ถือว่าโหดหินกินแรงพอสมควร โดยเฉพาะสเปคกลางๆ อาจถึงขั้นกระตุกได้ หากเซ็ตภาพไม่ลงตัว แต่สำหรับ MSI MEG Trident X 11TE-1664TH ยังคงจัดการได้อยู่หมัด และรีดเฟรมเรตไปได้ในระดับ 100-120fps ในการตั้งค่าแบบ Ultra settings
หรือถ้าใครอยากจะให้เฟรมเรตพุ่งไปมากกว่านี้ ลองมาตั้งที่ Medium settings ดูได้ เพราะภาพยังคงสวยสดใส อีกทั้งเฟรมเรตก็ยังไปได้ถึง 160fps ในหลายจังหวะ เรียกว่าสวยเนียน กำลังดี
สุดท้ายเป็นการทดสอบการระบายความร้อนของเกมมิ่งพีซี MSI รุ่นนี้ แม้จะเป็นเคสที่มีขนาดกระทัดรัดและบาง แต่จากรายละเอียดในการจัดวางพัดลม และทิศทางระบายอากาศที่ลงตัว เมื่อเราลองทดสอบด้วย OCCT ให้ซีพียูทำงานแบบ 100% ตลอดเวลา ความร้อนของซีพียูเฉลี่ยประมาณ 82-83 องศาเซลเซียสเท่านั้น ซึ่งนับว่าเป็นอุณหภูมิในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจ เพราะโดยปกติการใช้งานทั่วไป หรือการเล่นเกมในหลายๆ เกม ก็ไม่ได้ทำให้ซีพียูทำงานหนักขนาดนี้ได้ง่ายนัก ดังนั้นอุณหภูมิใช้งานจริงก็น่าจะต่ำลงมาจากนี้อีกพอสมควร
Conclusion
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการเกมมิ่งพีซี ที่เน้นความแรง และคุ้มค่า ไม่ต้องเดินหาฮาร์ดแวร์ หรือสั่งคอมประกอบ รวมถึงต้องไปลุ้นกับราคาการ์ดจอที่สุดโหดในท้องตลาด หรือต้องการคอมเล่นเกมแรงๆ ใช้งานในบ้านหรือคอนโด ซึ่งมีพื้นที่จำกัด MSI MEG Trident X 11TE-1664TH ดูจะเป็นทางเลือกที่ดี ที่จะให้คุณได้ใช้งานศักยภาพของพีซีได้อย่างเต็มที่ ภายใต้ขนาดที่กระทัดรัด ด้วยขุมพลังระดับ Intel Core i7 ก็เพียงพอต่อการเล่นเกม และทำงานในชีวิตประจำวันของคุณได้ และเมื่อมาจับคู่กับการ์ดจออย่าง GeForce RTX3080 ก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการรีดเฟรมเรตให้ไหลลื่น สังเกตได้จากเกมส่วนใหญ่ ที่เล่นได้มากกว่า 100fps บนการตั้งค่า Ultra settings อีกด้วย ในแง่ของความร้อนที่เกิดขึ้น ก็ไม่ได้มากมาย เนื่องจาก ภายนอกออกแบบการระบายความร้อนมาเป็นพิเศษ พร้อมพัดลมและแสงไฟ RGB ให้ปรับแต่งได้อีกด้วย และที่ต่างจากเกมมิ่งพีซีทั่วไปนั่นคือ ใช้พื้นที่บนโต๊ะน้อยมาก ไซส์ประมาณ 1 ใน 3 ของเคส Mid-Tower เท่านั้นเอง มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 มาในตัว สามารถอัพเกรดเป็น Windows11 ได้ฟรี รวมถึงการรับประกัน 3 ปีเต็ม เวลานี้มีโมเดลให้เลือกด้วยกัน 3 รุ่น ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 89,900 บาท หากสนใจก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดด้านล่างนี้ได้เลยครับ
MSI MEG Trident X ราคาเริ่มต้น 89,900 บาท – https://th.msi.com/Desktop/MEG-Trident-X-11th
ซื้อสินค้า MSI ได้ที่ https://msi.gm/nbsWTB
ติดตามโปรโมชั่นจาก MSI ได้ที่ https://msi.gm/Promotionth
รับ Steam Code มูลค่า 20USD ฟรี! เมื่อร่วมกิจกรรม MSI Shout Out แชร์ประสบการณ์ใช้สินค้า MSI รายละเอียดเพิ่มเติม: https://msi.gm/ShoutOutTH
เลือกจอเกมมิ่งที่เหมาะสำหรับตัวคุณได้ที่นี่ : https://msi.gm/BestGamingMonitorTH
MSI Facebook: https://www.facebook.com/MSIGamingThailand MSI Call Center: 02 409 2984 (8.30 – 17.30 น.)