Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebook Review

รีวิว Intel NUC M15 โน๊ตบุ๊ค Intel EVO จอ 15.6″ ทัชสกรีน ฟีเจอร์แน่น ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลาย ราคา 39,990 – 43,490 บาท

Intel NUC M15 เป็นโน๊ตบุ๊ครุ่นแรกจากทาง Intel ที่มาในทิศทางเดียวกับ Intel NUC ที่เป็น Mini PC ก็คือเป็นคอมพิวเตอร์ของแบรนด์ Intel อย่างแท้จริง โดยรุ่นนี้เน้นใช้งานระดับมืออาชีพ กับขนาดหน้าจอ 15.6″ ตัว พาเนล IPS เกรดสูงและจอที่ทัชสกรีนได้ โดยมาพร้อมชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 Tiger Lake อย่าง i5-1135G7 / i7-1165G7 ซึ่งลดการใช้พลังงานให้น้อยลงแต่ดึงศักยภาพโดยรวมของชิปประมวลผลให้เพิ่มมากขึ้น โดดเด่นจากการที่ได้เป็นแพลตฟอร์ม Intel EVO ส่งผลให้เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นๆ อีกหลายรุ่น

Intel NUC M15

Advertisement

พร้อมสเปกอื่นๆ ก็จัดเต็มทั้งแรมขนาด 16GB และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB ส่งให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ทรงพลังอย่างที่สุด อีกทั้งได้การเชื่อมต่อที่ดีและใหม่ที่สุดอย่าง Thunderbolt 4 จำนวน 2 พอร์ต และ Intel Wi-Fi 6 AX201 และ Bluetooth 5.1 สนับสนุนทั้งทำงานพื้นฐานหรือจริงจังที่เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คบางเบารุ่นอื่นๆ ในดีไซน์ที่แตกต่างอย่างชัดเจน ซึ่งเน้นความเรียบง่ายโดยเบาเพียง 1.65 กิโลกรัม และบางที่ 14.9 มิลลิเมตรเท่านั้น เติมเต็มประสบการณ์ในด้านการทำงานหรือความบันเทิง ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 39,990 บาท ประกันระยะเวลา 2 ปี  

VDO Review

NBS Verdict

การมาของ Intel NUC M15 ซึ่งเป็นครั้งแรกในไทยของโน๊ตบุ๊คจากแบรนด์ Intel ซึ่งก่อนหน้านี้เราคงได้เห็น Mini PC ที่เป็น Intel NUC (Next Unit of Computer) ​มาแล้วบ้าง ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานแบบคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก มาพร้อมชิปประมวลผลสเปก Intel Core i หลาย Gen ก่อนหน้านี้ จนมาถึง Gen 11 Tiger Lake รุ่นล่าสุด ได้ AI ช่วยทำงานในตัว พร้อมสุดยอดชิปกราฟิกออนชิปรุ่นใหม่อย่าง Intel Iris Xe Graphics ที่บรรจุไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมายล้ำหน้า เรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงในดีไซน์ที่แตกต่าง 

Intel NUC M15

อีกทั้งได้ในส่วนของน้ำหนักเบาและดีไซน์ที่บาง แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง พร้อมมาตรฐาน Thunderbolt 4 / USB-C ชาร์จไฟได้สะดวกสบาย ตอบโจทย์ด้านการพกพาที่สะดวกสบายกว่าเดิม อีกทั้ง Intel NUC M15 เป็นโน๊ตบุ๊คที่จะได้แพลตฟอร์ม Intel EVO ต้องมาพร้อมกับสเปกที่ใช้ฮาร์ดแวร์ภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 เป็นพื้นฐาน โดดเด่นด้วยสติ๊กเกอร์ Inetel EVO ติดเครื่องมาเลย (เห็นได้ชัดเจน) นอกเหนือจากนั้นยังมีมาตรฐานอื่นๆ ของโน๊ตบุ๊คที่จะได้แพลตฟอร์ม Intel EVO จะประกอบไปด้วย

  • ประสิทธิภาพสูง ใช้ชิปประมวลผล Core i5 / i7 ขึ้นไป, แรม 8GB ขึ้นไป, หน่วยความจำเป็น SSD NVMe 256GB ขึ้นไป
  • ประสิทธิภาพดีพอแม้ทำงานด้วยแบตเตอรี่ ใช้งานที่จอ Full HD ได้นานกว่า 9 ชั่วโมง
  • ชาร์จเร็ว ใช้เวลาชาร์จ 30 นาทีใช้งานได้นาน 4 ชั่วโมง รองรับการชาร์จเร็วผ่าน USB-C (USB Power Delivery)
  • เปิดเครื่องต่ำกว่า 1 วินาที แล้วต้องพร้อมทำงานแทบจะทันที (Connected Standby และ Lucid Sleep)
  • มีฟีเจอร์ด้าน AI เช่น มีไมโครโฟนรับเสียงจากระยะไกล, ฟีเจอร์เร่งความเร็ว Deep Learning Boost
  • รองรับพอร์ต Thunderbolt 4, เชื่อมต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi 6 (AX) Gig+ และมีตัวเลือกใช้เครือข่าย Gigabit LTE
  • Ultrabook / 2-in-1 Notebook ดีไซน์บางเบา และใช้ Precision Touchpad / รองรับปากกา

สเปกภายในจะได้เป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 ที่เน้นแรงประหยัดพลังงาน พร้อมให้ประสิทธิภาพประมวลผลได้หลากหลาย ส่วนการ์ดจอมีทั้งเป็นแบบออนชิป Intel Iris Xe Graphics ที่รองรับการทำงานทั่วไปเป็นหลัก หรือทำงาน 2 มิติ 3 มิติ รวมไปถึงเล่นเกมออนไลน์ได้ลื่นไหล หน่วยความจำแรมจะได้เป็นขนาด 8GB – 16GB พร้อมด้วยที่เก็บข้อมูลมาตรฐานเป็น SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ได้พอร์ตเชื่อมต่อครบครัน ซึ่งในส่วนของ Intel NUC M15 ก็สามารถตอบสนองได้ทั้งหมด

Intel NUC M15

โน๊ตบุ๊ค Intel NUC M15 ที่เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ของทาง Intel เพื่อตอบโจทย์คนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คหรือคนที่เป็นแฟนของ Intel ตัวจริง โดยได้ประสิทธิภาพและฟีเจอร์ต่างๆ ที่ใช้งานจริงได้ เหมาะกับคนที่มีงบประมาณ 3x,xxx – 4x,xxx บาท และต้องการประสบการณ์ใช้งานที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คสเปกทั่วไป หรือกรณีที่อยากได้สเปกแรงเพื่อเน้นใช้งานที่ไม่ใช่งาน 3 มิลิ และไม่ได้เล่นเกมจริงจัง โดยเน้นทำงานมากกว่า อาจจะเล่นเกมออนไลน์บ้างนิดหน่อยเท่านั้น

ส่วนข้อสำคัญที่ควรรู้ก่อนซื้อก็คือ ไม่มีแป้นคีย์บอร์ดไทย กางหน้าจอ 180 องศาได้ แต่ก็ต้องระวังเครื่องเป็นรอย และซอฟต์แวร์ Utility ของ Intel น่าจะปรับได้มากกว่านี้ ส่วนตัวแล้วซื้อสเปก Core i5 ก็เพียงพอแล้วกับงานทั่วไป ส่วนถ้าใครซื้อ Core i7 ก็ไม่ว่ากัน แต่ทั้ง 2 สเปก 2 ราคานี้ ต่างกันเพียงชิปประมวลผลเท่านั้น ถ้าคิดว่าเน้นการประมวลผลบ่อยๆ สเปก Core i7 ก็อาจจะเหมาะสมกว่า แต่ก็ต้องจ่ายราคาที่มากกว่าที่ประมาณ 3,000 บาท 

ข้อดี Intel NUC M15

  • ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจ งานประกอบแน่นวัสดุดี แนวเรียบหรู ดูจริงจัง น่าเชื่อถือ
  • ตัวเครื่องบางเฉียบ เล็กกระชับ โดยมีน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัม และบางเพียง 14.9 มิลลิเมตร
  • สเปคแรงด้วย Core i5-1135G7 / Core i7-1135G7 พร้อมได้แพลตฟอร์ม Intel EVO
  • ได้แรมมาเลยขนาด 16GB พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ที่ 512GB ความเร็วสูง
  • หน้าจอแสดงผลขอบจอบางเฉียบขนาด 15.6″ พาเนล IPS เกรดสูง รองรับการทัชสกรีน (i7)
  • มี Windows 10 Home ใช้งานได้ทันที (รองรับอัปเกรดเป็น Windows 11 Home)
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 10 ชั่วโมง ถือว่าทำได้ดีมากๆ ใช้งานทั่วไปพัดลมไม่หมุน
  • คีย์บอร์ดใช้งานได้เยี่ยม ระยะกดดี มีไฟส่องสว่างใช้งานได้จริง ดูแล้วสวยงามลงตัว
  • มีเซ็นเซอร์รับแสง ค่อยทำหน้าที่ปรับความสว่างหน้าจอให้เหมาะสม หรือประหยัดแบตเตอรี่
  • มี IR Camera สามารถใช้งานสแกนใบหน้า เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย
  • ให้พอร์ต Thunderbolt 4 มา 2 พอร์ต รองรับการชาร์จไฟ ต่อหน้าจอ 4K / 8K หรือโอนถ่ายข้อมูล
  • อแดปเตอร์มีขนาดที่เล็กและเบา พอร์ตเป็น USB-C PD ชาร์จมือถือก็ได้

ข้อสังเกต Intel NUC M15

  • เวลากางหน้าจอสุดที่ 180 องศา ต้องระวังขอบจอด้านหลังที่สัมผัสพื้นเป็นรอย
  • ปุ่มคีย์บอร์ดไม่มีภาษาไทย ถ้าใช้ต้องจะติดตั้งเอง อาทิ ติดสติ๊กเกอร์ หรือยิงเลเซอร์
  • ซอฟต์แวร์ของ Intel ที่ให้มานั้น ไม่สามารถปรับตั้งค่าอะไรได้มาก 

Specification

Intel NUC M15 เป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความโดดเด่นในสายการทำงาน มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i7-1165G7 รุ่นใหม่ยอดนิยม สถาปัตยกรรม Tiger Lake ที่ 10 นาโนเมตร SuperFin ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด พร้อมมี AI ในตัว ช่วยประมวลผลการทำงานบางโปรแกรม ให้ความแรงที่ทรงพลังเทียบเท่า Core i Gen 10H ได้การ์ดจอเป็นออนชิปรุ่นใหม่ที่ดีขึ้นมากอย่าง Intel Iris Xe Graphic  ได้แรม 16GB LPDDR4X Bus 4266 MHz แบบฝังบอร์ด และ SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 512GB พร้อม Windows 10 Home ในราคา 43,490 บาท

Intel NUC M15 Evo I716512

สเปกหน้าจอขนาด 15.6″ ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD พื้นผิวเป็นประจก รองรับการทัชสกรีน 10 จุดพร้อมๆ กัน ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่ประทับใจ พาเนลเป็น IPS เกรดสูง ที่ให้สีสันและมุมมองที่กว้างกว่า ใช้งานทั่วไปก็ดีหรือจะใช้งานมืออาชีพที่เน้นสีสันที่เที่ยงตรงก็ได้ โดยการใช้หน้า Desktop ปกติที่ตัวหนังสือหรือปุ่มต่างๆ มีความเรียบเนียนตาทำให้ใช้งานได้สะดวก ขอบจอจะเป็นพลาสติกสีดำบางเฉียบส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นก่อนๆ พร้อมกางได้ถึง 180 องศา ทำให้นำเสนองานได้อย่างเต็มที่และง่ายขึ้นกว่าเดิม

Intel NUC M15

สเปกตอบโจทย์การใช้งานแบบสุดๆ แทบไม่ต้องอัพเกรดอะไรเลย ที่สำคัญยังเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายก็ครบครันด้วย Intel Wi-Fi 6 AX201 และ Bluetooth 5.1 ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อก็มีทุกรูปแบบรวมไปถึงได้ Thunderbolt 4 เป็นมาตรฐานอีกด้วย พร้อมซอฟต์แวร์ Intel ช่วยปรับแต่งการทำงาน ได้การรับประกัน 2 ปี ตามมาตรฐานของ Intel โดยยังมีอีกรุ่นอีกสเปกที่ราคาถูกกว่า ต่างกันเพียงชิปประมวลผล ซึ่งเป็น Intel Core i5-1135G7 และไม่ได้เป็นจอทัชสกรีน ส่วนสเปกอื่นๆ ก็เหมือนกันหมดกับราคา 39,990 บาท

Intel NUC M15 (i5) ราคา 39,990 บาท ลดแล้วเหลือ 36,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

  • CPU : Intel Core i5-1135G7
  • GPU : Intel Iris Xe Graphics
  • RAM : 16GB LPDDR4x Bus 4266 MHz
  • DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
  • OS : Windows 10 Home (64 Bit)
  • Warranty : 2 Years

Intel NUC M15 (i7) ราคา 43,490 บาท ลดแล้วเหลือ 39,990 บาท (ดูสเปคทั้งหมดคลิ้ก)

  • CPU : Intel Core i7-1165G7
  • GPU : Intel Iris Xe Graphics
  • RAM : 16GB LPDDR4x Bus 4266 MHz
  • DISPLAY: 15.6″ IPS Full HD Touch Screen
  • STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
  • OS : Windows 10 Home (64 Bit)
  • Warranty : 2 Years

Hardware / Design

Intel NUC M15 ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงเน้นภาพลักษณ์ให้ความรู้สึกแบบคนทำงานตัวจริง ด้วยขนาดหน้าจอ 15.6″ รุ่นล่าสุดอีกรุ่นหนึ่งที่ครบเครื่อง แต่บางเบาพกพาสะดวก ขอบจอบางเฉียบ โดดเด่นด้วยวัสดุตัวเครื่องเป็น อลูมิเนียมอโนไดซ์ (Aluminium Anodizing) ซึ่งเป็นกระบวนการการใช้ไฟฟ้าในการเพิ่มความหนาของตัว Oxide ซึ่งจะไปเคลือบที่ผิวอลูมิเนียม ซึ่ง Anodizing นี้จะเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อน เพื่อความแข็งแรงทนทานของพื้นผิว พร้อมความสวยงามตลอดอายุการใช้งาน ให้ความแตกต่างจากโน้ตบุ๊ตทั่วไปชัดเจน

Intel NUC M15

โดยเป็นโน๊ตบุ๊คที่รองรับการใช้งที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นใช้งานทั่วไป หรือสายทำงานมืออาชีพได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัม และบางสุดๆ ที่ 14.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ทำให้หยิบจับหรือถือมือเดียวได้สบายๆ การออกแบบให้ความรู้สึกที่พรีเมียมและเรียบหรูมากยิ่งขึ้นพร้อมกับใช้สีดำด้าน Midnight Black (สเปก Core i7) กับตัวเครื่องด้านนอกด้านในตลอดทั้งตัวเครื่อง หรือ Shadow Gray (สเปก Core i5) ที่เป็นสีเทาเงิน เรียกได้ว่าดีไซน์ได้เรียบง่ายสุดๆ แม้กระทั่งโลโก้ Intel ก็ไม่มีมาให้เห็นเลย (ไม่นับรวมสติ๊กเกอร์ Intel EVO)

Intel NUC M15 Review 68

โดยฝาหลังและโดยรวมทั้งหมดมีการเลือกใช้รูปแบบให้มีความเข้ากันอย่างที่สุด กับพื้นผิวส่วนของฝาหลังและตัวเครื่องเป็นลักษณะแบบด้าน บานพับหน้าจอเป็นแบบ 2 แกน ที่สามรถกางได้ถึง 180 องศา พร้อมดีไซน์ด้านในก็มีความเรียบง่ายไม่แพ้กับภายนอก บริเวณเหนือคีย์บอร์ดจะมีการติดตั้งช่องดูดลมเย็นขนาดใหญ่ ที่จะช่วยนำพาความร้อนออกจากตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีการออกแบบปุ่ม Power แบบแยกออกมา ที่มุมขวาของแป้นคีย์บอร์ด ซึ่งโดดเด่นเวลาที่ใช้งานจะเป็นไฟ LED สีขาวติดขึ้นมา 

Intel NUC M15 Review 45

ความบางตัวเครื่องอยู่ที่ 14.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ถือว่า Intel นำเสนอโน๊ตบุ๊คที่ทั้งเบามากๆ แถมยังบางสุดๆ ท้าชนกับแบรนด์อื่นๆ ได้อย่างสบายๆ เลยครับ สำหรับการเปิดปิดฝาของหน้าจอก็ทำได้ง่ายเพราะขอบตัวเครื่องด้านหน้าได้มีการเว้นร่องเว้าเอาไว้สวยงาม พร้อมไฟ Light Bar ไว้แสดงสถานะ Amazom Alexa กับการใช้คำสั่งเสียง ส่งผลให้ตลอดทั้งตัวเครื่องมีมิติตัวเครื่องที่เล็กลงกว่าโน๊ตบุ๊คทำงานหน้าจอ 15.6″ ทั่วไป ซึ่งโดยรวมแล้วไม่ใช่แค่บางเบาและสเปกดีแต่ในประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยมด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในโน๊ตบุ๊คสายบางเบาเน้นพกพา

Intel NUC M15 Review 55

บริเวณบานพับด้านหลังเครื่องก็เป็นช่องระบายความร้อน 2 ช่อง ที่ถูกซ่อนเอาไว้อย่างเรียบเนียน ที่สำคัญใช้เทคโนโลยีแบบพัดลม 2 ตัว โดยเป่าลมร้อนไปทางด้านหลังของตัวเครื่อง ยิงเป่าไล่ลมร้อนผ่านชุดระบายที่แยกการระบายความร้อนระหว่างชิปประมวลผล ในเรื่องของอุณหภูมิ และความทนทานในการใช้งานฮาร์ดแวร์ในระยาวไม่ว่าจะทำงานหนักแค่ไหนก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความร้อนสะสม ด้านฐานล่างตัวเครื่องจากรุ่นก่อนใช้วัสดุโลหะชิ้นเดียวตลอดทั้งชิ้น ลักษณะเป็นอลูมิเนียมเรียบๆ แตกต่างจากฝาหลังและตัวเครื่องด้านใน พร้อมมียางรองกระจายไปทั่วช่วยยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น

Intel NUC M15

เรียกได้ว่า Intel NUC M15 เป็นโน๊ตบุ๊ตที่มีความน่าสนใจมากๆ เพราะเป็นโน๊ตบุ๊คที่เป็นของทาง Intel อย่างแท้จริง โดยส่วนตัวที่ผ่านมาก็มีโอกาสจับโน๊ตบุ๊คของทาง Intel มาบ้าง แต่เป็นตัวเดโมเพื่อเน้นการทดสอบในส่วนของชิปประมวลผลรุ่นใหม่ๆ ไม่ใช่ตัวขายจริงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามแม้ Intel NUC M15 จะมีกลิ่นอายคล้ายๆ กับ MSI Prestige Series แต่ก็มีความแตกต่างอยู่หลายๆ ส่วน แน่นอนว่าเหมาะสมสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คไปใช้งานซักเครื่องที่อยากได้ความแตกต่างในเรื่องดีไซน์และฟีเจอร์บางอย่าง เชื่อได้ว่าอนาคต Intel น่าจะส่งรุ่นใหม่ๆ ตามขายอีก รอติดตามได้เลย 

Keyboard / Touchpad

คีย์บอร์ดของ Intel NUC M15 เห็นแล้วต้องบอกว่าแตกต่างจากโน๊ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ของหลายๆ แบรนด์ ด้วยการที่ไม่มีการสกรีนภาษาไทยมาให้ (ต้องไปกาทำเอาเอง) อารมณ์การตอบสนองของแป้นพิมพ์ มีระยะกดที่ดีมีความลึกและเด้งรับที่เหมาะสม ด้วยการที่รูปแบบปุ่มมีขนาดพอดี ที่สำคัญด้วยไฟ LED สีขาวสวยงาม เข้ากับตัวปุ่มสีดำเป็นอย่างดี ดูแล้วสะอาดตา พรีเมียมสุดๆ แน่นอนว่าไม่มีชุด Numpad หรือแป้นตัวเลขติดตั้งมาอยู่แล้ว จากการที่ตัวเครื่องมีมิติที่ลงตัวนั่นเอง อีกทั้งยังเน้นความสวยงามมากกว่า จากการใช้งานจริงถือว่าประทับใจมากๆ รวมไปถึงมี Hotkey แถวบนตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คยุคนี้ 

Intel NUC M15 Review 32

ทัชแพดมีขนาดใหญ่และกว้างเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับขนาดสัดส่วนของตัวเครื่อง ลักษณะเป็นผืนผ้ายาวดูเป็นเนื้อแบบคล้ายกระจก ซึ่งมีตัวปุ่มคลิกเป็นแบบชิ้นเดียวกับทัชแพด ให้สัมผัสที่ลื่นติดมือและแม่นยำ โดยมีการตัดขอบด้านบนดูโค้งมน เข้ากับตัวเครื่องสวยงามลงตัว นอกเหนือจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่เราสามารถกดล็อคทัชแพดได้ง่ายๆ ด้วยการกดแบบแตะๆ สองครั้งที่มุมซ้ายบน ไฟ LED ก็จะติดขึ้นมา ซึ่งนั่นหมายความว่าทัชแพดได้ปิดการทำงานแล้ว โดยถ้าต้องการให้กลับมาใช้งานก็แตะอีก 2 ครั้งนั่นเอง เรียกได้ว่าสะดวกมากๆ กับคนที่กลัวว่าเวลาที่ต่อเมาส์แล้วมือจะไปโดยทัชแพด

Screen / Speaker

Intel NUC M15 ได้ติดตั้งหน้าจอขนาด 15.6″ พื้นผิวกระจกที่แข็งแรง ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล Full HD ได้พาเนล IPS คุณภาพสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยม ทั้งเรื่องสีสันและมุมมองที่กว้างพิเศษ โดยการใช้หน้า Desktop ปกติที่ตัวหนังสือหรือปุ่มต่างๆ มีความเรียบเนียนตาทำให้ใช้งานได้สะดวก เรียกได้ว่ากำลังพอดีทีเดียว เรื่องสีสันสดใส ตอนสนองการทำงานของเราได้เป็นอย่างดี เมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกม พร้อมกันนั้นยังรองรับการใช้นิ้วทัชสกรีนสั่งการแบบ 10 จุดๆ พร้อมกันได้ อีกทั้งยังมีการติดตั้งเซ็นเซอร์แสงไว้คอยปรับความสว่างอัตโนมัติอีกด้วย 

Intel NUC M15 Review 21

ขอบจอด้านบนติดตั้งกล้องเว็บแคมพร้อมไมโครโฟนแบบคู่ไว้ที่ขอบจอด้านบนได้ปกติอยู่ พร้อมฟีเจอร์สแกนหน้าด้วย IR Camera ไว้ให้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello เพื่อที่จะเข้าใช้งานตัวเครื่องเพื่อความปลอดภัยแบบไม่ต้องใส่รหัสไปมาทุกครั้งอีกด้วย ส่วนการใช้งานก็ตอบสนองได้รวดเร็วไม่แพ้มือถือในปัจจุบันเลยล่ะ ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่ารุ่นก่อนๆ พร้อมกางได้ถึง 180 องศา ช่วยให้การนำเสนองานกับคนที่นั่งตรงข้ามกันง่ายยิ่งขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามตรงระวังเล็กน้อย เพราะขอบหน้าจอด้านหลังจะสัมผัสกับพื้นได้ ถ้าไม่ระวังให้ดีตัวเครื่องก็อาจจะเป็นรอยได้ในอนาคต

ทดสอบด้วยตัว Sdyder Elite5 โดยให้ขอบเขตความกว้างของสีสันเทียบเท่ากับมาตรฐาน sRGB ที่ 93% และค่า AdobeRGB อยู่ที่ 72% ส่วน DCI-P3 อยู่ที่ 72% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่ดีมากๆ เหมาะกับใช้งานทั่วไป หรืองานระดับมืออาชีพแบบสุดๆ ที่เน้นความแม่นยำของสีสัน ความสว่างหน้าจอสูงสุดอยู่ที่เกือบๆ 300 nit ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานความสว่างของหน้าจอที่ดีกว่าในโน๊ตบุ๊คราคาระดับนี้ คือเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไปแน่นอน หรือถ้าจะเอาไปทำภาพกราฟิกหรือตกแต่งภาพที่เน้นมืออาชีพมากๆ ก็ควรคาลิเบรตเสียก่อน 

s4

ต่อกันที่วัดความสว่างของหน้าจอตามตำแหน่งต่างๆ โดยแบ่งเป็น 9 ช่อง เทียบจากช่องมุมซ้ายบนที่ปกติแล้วจะให้ความสว่างที่มากที่สุด ที่จะเห็นได้ว่าได้ค่าเป็น 0% ก็คือแสดงความสว่างได้เต็มที่ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สำหรับช่องมุมซ้ายล่างจะมีแสงสว่างที่ลดลงไปที่ 9% ในการทดสอบก็เพื่อให้เราใช้งานอย่างระมัดระวังสำหรับคนที่บังเอิญจำเป็นต้องใช้งานภาพถ่าย หรืองานกราฟิกอื่นๆ ส่วนค่าความคลาดสีอย่าง Delta E มีค่าอยู่ที่ 1.67 เท่านั้น ซึ่งถือว่าดีมาก เพราะน้อยกว่า 2 ปิดท้ายด้วยคะแนน 4.0 ถือว่าน่าประทับใจ สำหรับหน้าจอโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ 

ลำโพงยังจัดวางมาในตำแหน่งส่วนของขอบตัวเครื่องด้านหน้าในส่วนด้านใต้เครื่อง เทคโนโลยี Intel HD Premium Audio แบบขนาด 2W x 2 ตัว คุณภาพดี ให้เสียงย่านกลางและแหลมได้ลงตัว ส่วนทุ้มมีเล็กน้อย เพราะชุดลำโพงข้างในขยับได้เมื่อต้องการเสียงทุ่ม สำหรับคุณภาพเสียงการใช้งานต่าง ๆ สามารถทำออกมาได้ดี น่าประทับใจให้เสียงที่ดังพอตัว เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นดูหนังฟังเพลง ดู Youtube, Netflix, Podcast ต่างๆ รวมไปถึงการใช้งานแบบมืออาชีพด้วย แต่อย่างไรก็ตามถ้าอยากได้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าก็ต้องเชื่อมต่อลำโพงหรือหูฟัง 

Connector / Thin And Weight

Intel NUC M15 มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 2 x Thunderbolt 4 / 2 x USB 3.2 Type-A / 1 x HDMI 2.0 และ Mic-in/Headphone-out  ให้ความครบเครื่องมากกว่าโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6″ ทั่วไป โดดเด่นด้วย Thunderbolt ถึง 2 พอร์ตด้วยกัน โอนถ่ายข้อมูลได้สูงสุด 40 Gbps และต่อจอแยกได้ รองรับการชาร์จไฟด้วย เพราะอแดปเตอร์ก็เป็น USB-C แล้ว และรองรับ Power Bank ที่เป็น PD ด้วย อีกทั้งมีเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.1 และ Intel Wi-Fi 6 AX201 แบบ 2 เสา เรียกว่าเป็นไปตามมาตรฐานโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่สเปก Intel Core i Gen 11 Tiger Lake ที่มาพร้อมกับแพลตฟอร์ม Intel EVO 

Intel NUC M15 Review 56

ส่วนของการพกพาก็ถือว่าทำได้เยี่ยมยอดเมื่อเทียบกับสเปก ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 1.6 กิโลกรัมเท่านั้น ดีกว่าตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คค่ายอื่นๆ ที่ใช้สเปกนี้มาก ที่สำคัญอแดปเตอร์จ่ายไฟที่ 90 Watt นั้น มีขนาดที่เล็กและเบากว่าปกติ โดยหัวชาร์จเป็น USB-C ที่นิยมใช้งานกันกับทุกๆ อุปกรณ์ ซึ่งเราสามารถนำไปใช้งานชาร์จกับอุปกรณ์อะไรก็ได้ที่เป็น USB-C ทำให้เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกมากๆ น้ำหนักโดยรวมแล้วประมาณ 2 กิโลกรัมแน่นอน นับว่าเป็นอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คสายทำงานจริงจังที่เหมาะสมกับงานระดับองค์กรที่เน้นพกพาพมากเลยทีเดียว 

Inside / Upgrade

ถ้าใครต้องการจะแกะทั้งฝาล่างทั้งหมดของตัวเครื่องเพื่ออัพเกรดหรือทำความสะอาดก็สามารถทำได้ไม่ง่ายเท่าไรนัก ขั้นตอนคือไขน็อตทั้งหมดออกมา หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แงะแกะทีละส่วนขึ้นอย่างช้าๆ เพียงเท่านี้ก็จะแกะฝาล่างได้แล้ว แต่ต้องบอกก่อนว่างานประกอบนั้นแน่นมากๆ ทำให้ต้องระวังสุดๆ และใจเย็น ส่วนประกอบภายในอื่นๆ  ที่มีงานประกอบเรียบร้อยดี เรียกได้ว่าทาง Intel ใส่ทุกรายละเอียดทั้งภานอกและภายในจริงๆ ระบบระบายความร้อนเป็นพัดลม 2 ตัว พร้อมช่องระบายความร้อน 2 ช่อง พร้อมการปิดที่มิดชิด ซึ่งการทดสอบบอกได้เลยว่าน่าประทับใจ

Intel NUC M15 Review 69

ตามสเปกคือได้หน่วยความจำแรมจำนวน 2 แถว โดยเป็นการติดตั้งแรมมาแล้วแบบ Onboard ขนาด 8GB x 2 แถว (Dual Channel) รวมกันเป็นแรม 16GB ซึ่งเพียงพอการใช้งานแน่นอน แต่ก็ไม่ได้รองรับการอัปเกรดใดๆ และจะเห็นถึง SSD แบบ M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 512GB ซึ่งถ้าจะอัปเกรดเพิ่มความจุ จำเป็นต้องถอดของเดิมออกด้วย ซึ่งเดิมๆ ก็ให้การใช้งานเป็นไปอย่างลื่นไหลไร้คอขวด ที่ต้องบอกว่าสำหรับการใช้งานทั่วไปจนไปถึงทำงานตัดต่อวีดีโอที่ไม่ซับซ้อนมาก สำหรับสเปกฮาร์ดแวร์ภายในถือว่าเหลือเฟือในการใช้งานเลยล่ะ

Performance / Software

สเปกฮาร์ดแวร์เมื่อตรวจสอบข้อมูลของชิปประมวลผลด้วยโปรแกรม CPU-Z ก็พบว่าข้อมูลขึ้นมาครบถ้วนเลย โดยเลือกใช้ชิป Intel Core i7-1165G7 ที่มี 4 คอร์ 8 เธรดสำหรับการประมวลผล ความเร็วที่ 2.8 – 4.70 GHz มีค่า TDP ในการปลดปล่อยความร้อนสูงสุดแค่ 12W – 28W เท่านั้น ซึ่งจัดว่าต่ำมากสำหรับชิป Core i7 ในโน๊ตบุ๊ค ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมไม่ร้อนจนเกินไป ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการใช้สถาปัตยกรรมการผลิตที่ระดับ 10 นาโนเมตร อย่าง Tiger Lake เทคโนโลยีสุดล้ำ SuperFin

ที่ต้องบอกว่าสร้างมาตรฐานประสิทธิภาพที่มากกว่าชิปประมวลผลรุ่นก่อนๆ แรงเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ ส่วนแรมได้ขนาด 16GB แบบ 2 x 8GB เป็นมาตรฐาน LPDDR4x ที่ 4266 MHz ตามเทคโนโลยีของ Intel Core i Gen 11 ที่ผ่านการปรับแต่งให้เหนือชั้น พร้อมให้ที่เก็บข้อมูล SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความเร็วสูง ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home แบบลื่นไหลอย่างที่สุด ในทุกๆ การทำงาน

c1.   c2

การ์ดจอเป็นแบบออนบอร์ดรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Intel Iris Xe Graphics ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับที่ก้าวกระโดดกว่ารุ่นก่อนๆ อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3  มิติก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นหรือระดับสูง รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงอย่าง 4K / 8K ได้แบบไม่มีปัญหา เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มพลังการสร้างสรรค์คอนเทนต์ มองหาความบันเทิง หรือการเล่นเกมเปี่ยมอรรถรส  ประสิทธิภาพที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับการ์ดจอแยกเลยทีเดียว ซึ่งสามารถเล่นเกม 3 มิติ พอได้บ้าง เดี๋ยวไปดูผลทดสอบกันอีกที

g1.   g2

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH 15 / 20 ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก รวมไปถึงตัวการ์ดจอเองก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิม เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอที่อัพเกรดใหม่ที่เน้นการทำงาน 3 มิติที่ดียิ่งขึ้น

cine15.   cine20

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำผลทดสอบเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe Gen 4 ระดับสูง ตามมารตรฐานของ Intel Core i Gen 11 แน่นอนว่าเร็วกว่า SSD M.2 SATA 3 แบบทั่วไป รวมไปถึง SSD M.2 NVMe PCIe Gen 3 ที่รุ่นทั่วไปใช้งานกัน ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 6756 MB/s และเขียนที่ 4608 MB/s เป็นระดับความเร็วในการเขียนอ่านทำงานโดยรวมที่น่าประทับใจมากๆ

ssd

การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 4454 คะแนน (เทียบเคียง Gaming Notebook ยิ่งขึ้นไปอีกในแง่ของพลังการประมวลผล) ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ ส่วนถ้าเอาไปใช้งานหนักๆ เช่นงานประมวลผล ตัดต่อวีดีโอ โปรเซสไฟล์ภาพความละเอียดสูง รวมไปถึงเล่นเกม 3 มิติ ซึ่งก็พอได้ แต่คงตอบสนองได้ไม่เท่าพวก Gaming Notebook หรือโน๊ตบุ๊คแรงๆ ที่ใช้ Core i ตระกูล H และการ์ดจอ GTX

pc10

สำหรับคะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมจากการทดสอบด้วยโปรแกรม 3D Mark จากทาง Futuremark ที่พัฒนาและคิดค้นจากบริษัท AMD, Intel, Microsoft, NVIDIA ในส่วนของ Time Spy ทำออกมาน่าสนใจมากๆ ด้วยคะแนนรวม 1804 เน้นเรื่องในส่วนของฟีเจอร์ DirectX 12 เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนเพื่อมาเสริมข้อบกพร่องทางด้านการทำงานต่างๆ ของการ์ดจอเป็นหลัก ซึ่งผลทดสอบนั้นจะดูว่าแต่ละการ์ดจอนั้นสามารถทำงานเข้าขากับ DirectX 12 ได้ดีขนาดไหน จากคะแนนก็นับว่าอยู่ในเกณฑ์ดีของการ์ดจอออนบอร์ดแล้ว

3d

ทดสอบเกมได้เฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 2 เกมออนไลน์ เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยค่อนข้างลื่นไหล น่าประทับใจทีเดียว ที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คที่ไม่ได้เน้นเล่นเกมมาก จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Core i7-1165G7 ที่ทำงานร่วมกับการ์ดจอ ออนชิปอย่าง Iris Xe Graphics ได้ดีเยี่ยม ประกอบกับใช้แรม 16GB LPDDR4x4266 MHz รวมไปถึง SSD ความเร็วสูงก็ส่งผลช่วยด้วย

game test

สำหรับเกมออนไลน์อย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบแบบปรับสุดหมด ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับเฟรมเรทที่เฉลี่ยที่ 75 แต่ฉากตะลุมบอนกันก็เฟรมเรทลดลงไปที่ 44 (อยากลื่นกว่านี้ก็ปรับกลางๆ ได้) และในส่วนของเกม PUBG ที่ปรับ Low ทดสอบแล้วจะมีเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 44 ซึ่งต่ำสุดอยู่ที่ 26 เฟรมเรทก็ทำออกมาได้ลื่นไหลกว่าที่คาดไว้  ซึ่งสรุปโดยรวมแล้ว ก็ถือว่าเล่นได้สบายๆ แบบไร้กังวล

nuc

ที่สำคัญยังมีซอฟต์แวร์ของทาง Intel เอง ซึ่งเราสามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ได้ประมาณนึง โดยเป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ออกแบบและพัฒนา กับการตั้งค่าในส่วนของการล็อคหน้าจอ การปรับแสงอัตโนมัติ ที่เราเลือกที่เปิดหรือปิดได้ รวมไปถึงยังเป็นการเปิดใช้งานส่วนของ Light Bar เพื่อใช้งาน Amazom Alexa กับการใช้คำสั่งเสียง นอกจากนี้ก็เป็นการดูสถานะการทำงานของตัวเครื่องโดยรวม อาทิ ชิปประมวลผล การ์ดจอ แรม และที่เก็บข้อมูล ส่วนตัวแล้วก็ถือว่ามีฟีเจอร์ต่างๆ ที่น้อยไปหน่อย ใช้งานได้ไม่ครอบคลุมเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นๆ 

nuc2

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Intel NUC M15 เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับกลางๆ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 10:30 ชั่วโมง โดยส่วนตัวก็ถือว่าใช้ได้นานมาก ​จากการที่น้ำหนักเบาตัวเครื่องบาง พกพาอแดปเตอร์ไปอีกตัวก็พอไหวอยู่ พร้อมความสามารถ PD ที่ชาร์จไฟกลับเข้าไป 30 นาที เครื่องก็สามารถใช้งานได้ยาวนาน 4 ชั่งโมงแล้ว

batt

สำหรับอุณหภูมิทดสอบด้วยโปรแกรม Hardware Monitor ยังไม่สามารถตรวจสอบในส่วนของชิปประมวลผลได้ แต่จากการทดสอบเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 60 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 26 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ประสิทธิภาพโดยรวมยังลื่นไหลอยู่  ซึ่งชิปประมวลผลร้อนสุดๆ ที่ 96 องศาเซลเซียส นับว่าไม่ได้สูงจนเกินไปนัก และสำหรับการใช้งานทั่วไป พัดลมแทบไม่หมุนและไม่มีเสียงเลย

temp

Conclusion / Award

Intel ได้มีความตั้งใจในการนำเสนอโน๊ตบุ๊คแบรนด์ของตัวเองแล้ว จากการที่ปกติเราจะเห็นว่าเป็นผู้ผลิตชิปประมวลผลแล้วส่งไปให้แบรนด์โน๊ตบุ๊คต่างๆ เลือกไปติดตั้ง ถึงเวลาที่ Intel จะต้องขยายผลิตภัณฑ์ตระกูล NUC ที่เป็นซีรีส์ใหม่ สาย Notebook หรือ Laptop สเปกชิปประมวลผล Intel Core i Gen 11 Tiger Lake พร้อมนำมาประยุกต์เข้ากับสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ และตัวเองถนัด เรียกได้ว่าปรับใช้ได้อย่างลงตัวทีเดียว ซึ่งได้ความแตกต่างจากโน๊ตบุ๊คแบรนด์อื่นๆ อย่างรุ่นนี้ที่เป็น รุ่นหน้าจอขนาด 15.6″ ที่ทัชสกรีนได้ อีกทั้งได้ความบางเบา และประสิทธิภาพขั้นสูงด้วยแพลตฟอร์ม Intel EVO ซึ่งที่ใกล้เคียงกันนั้นไม่มี 

Intel NUC M15 Review 2

Intel NUC M15 จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสเปก Intel Core i Gen 11 ที่น่าสนที่สุดในตลาดรุ่นนึง เพราะเลือกใช้เป็น Core i7-1165G7 และสเปกที่ครบเครื่องพร้อมใช้งาน เหมาะสำหรับมืออาชีพแบบเน้นใช้งาน Content Creator ทั้งจากสเปกและเทคโนโลยีของ Intel เอง รวมไปถึงให้ภาพลักษณ์ที่ดูจริงจัง และดูน่าเชื่อถือ มั่นใจได้ หรือใครจะนำไปใช้งานทั่วไปรวมไปถึงความบันเทิงก็เหมาะสม ด้วยหน้าจอ 15.6″ เกรดสูงและทัชสกรีนได้ ดีไซน์ภายนอกมีจุดเด่นเรื่องความบางเบา และมีประสิทธิภาพเยี่ยม ทำให้มันกลายมาเป็นโน้ตบุ๊คที่มีขนาดกระทัดรัด อีกทั้งตัวเครื่องยังแข็งแรงทนทานด้วยวัสดุอลูมิเนียมที่ผ่านกระบวนการ 

Intel NUC M15 Review 47

สเปกอื่นๆ ถือว่ามีความคุ้มค่ามากๆ ได้ทั้งแรมที่ขนาด 16GB พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe Gen 4 ความจุ 512GB ที่แรงกว่า Gen 3 ทั่วไป ในส่วนของหน้าจอก็จัดได้ว่าเป็นหน้าจอโน๊ตบุ๊คที่ดีรุ่นนึง ด้วยค่าขอบเขตสี sRGB ที่ 93% เรียกได้ว่าให้ประสิทธิภาพเรื่องของสีสันอยู่ในระดับที่ดีมากๆ โดยแบตเตอรี่จากการใช้งานจริงๆ ทดสอบได้ที่กว่า 10 ชั่วโมง นับได้ว่าแทบไม่ต้องพกอแดปเตอร์ออกไปด้วยแล้ว แต่จะพกพาไปด้วยก็ไม่เป็นไรเพราะก็ไม่ใหญ่โตมาก พร้อมทั้งตัวเครื่องยังมีพอร์ต Thunderbolt 4 จำนวน 2 พอร์ต ที่ต้องบอกว่าเป็นพอร์ตที่ดีที่สุดแล้ว เรียกได้ว่าเก่งรอบด้านจริงๆ 

Intel NUC M15 Review 11

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6″ ด้วยกัน ซึ่ง Intel NUC M15 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Performance

ชิปประมวลผลเป็น Inte Core i7-1165G7 ประสิทธิภาพแรงด้วย AI สุดล้ำช่วยทำงาน พร้อมการ์ดจอออนชิปที่ดีที่สุดอย่าง Intel Iris Xe Graphics นี้แรงเหลือเฟือในการใช้งานทั่วไป ที่สำคัญรุ่นนี้ได้แพลตฟอร์ม Intel EVO กับขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่หาได้ยาก โดยมีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe Gen 4 โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ 512GB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB LPDDR4x แน่นอนทั้งตัวเครื่องนั้นแทบไม่ต้องอัพเกรดอะไร ลื่นไหลที่สุดอย่างไร้กังวล รองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมออนไลน์ได้อย่างลื่นไหล

 award new performance

Best Mobility

ส่วนของความสามารถในการพกพาอยู่ในระดับที่ดีกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปชัดเจน ทั้งในความบางเฉียบและน้ำหนักเบาเพียง 1.6 กิโลกรัม และบางสุดเพียง 14.9 มิลลิเมตร ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมอแดปเตอร์ก็เบาและเล็กกว่าปกติมากๆ ถือว่ามีการพัฒนาไปในทุกส่วน รวมแล้วหนักแค่ 2 กิโลกรัมนิดๆ เท่านั้น โดยสามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ อีกทั้งแบตสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงจริงๆ ตามที่เคลมไว้ พอร์ตการชาร์จก็ยังเป็นมาตรฐาน USB-C ที่สะดวกต่อทุกอุปกรณ์

NBS award 4 Mobility

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นของ Intel NUC M15 ที่เป็นโน๊ตบุ๊คจาก Intel เอง ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวในมิติที่เล็กกระชับลงกว่าเดิม ขอบจอบางเฉียบ มีการออกแบบอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน (เพราะเป็นรุ่นแรกที่ขายในไทย) ออกแนวพรีเมียมและเรียบหรูมากยิ่งขึ้นพร้อมกับใช้สีดำด้าน Midnight Black กับตัวเครื่องด้านในตลอดทั้งตัวเครื่อง หรือ Shadow Gray ที่เป็นสีเทาเงิน การออกแบบให้ความรู้สึกที่น่าเชื่อถือ จริงจัง ด้วยวัสดุอลูมิเนียมผ่านการขึ้นรูปด้วยเครื่องจักร CNC พร้อมผ่านการ Anodized เพิ่มความแข็งแรงทนทานในการใช้งานเข้าไปอีก 

NBS award 7 Design

 

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

เล่นเกมด้วย Intel Core Ultra 5 245K กับ 7 เกมยอดนิยมบนการ์ดจอบนซีพียู Intel ไหวมั้ย ลื่นรึเปล่า? Intel Core Ultra 5 245K เป็นซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งปล่อยลงสู่ตลาดในช่วงเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา นอกจากเรื่องความแรงและประสิทธิภาพในการทำงาน ทั้งด้านการประมวลผล หรือปัจจุบันก็มีเรื่องของ...

INTEL

โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra 200S series ใหม่ล่าสุด ส่งมอบประสิทธิภาพการเล่นเกมและการประมวลผลอันเหนือชั้นสำหรับเดสก์ท็อปพีซี พร้อมประหยัดพลังงานมากกว่าที่เคย กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 11 ตุลาคม 2567 –  ประเด็นสำคัญ: อินเทล ประกาศเปิดตัวตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra 200S series...

รีวิว Asus

ASUS ZenBook S 14 UX5406SA พร้อม Intel Core Ultra Series 2 สุดทรงพลัง แบตฯ ทนถึงใจ 18 ชม. ได้สบาย! ในงาน IFA Berlin เมื่อไม่นานนี้ Intel ก็เปิดตัวชิปเซ็ตรุ่นใหม่อย่าง Intel...

รีวิว MSI

ถ้าคิดว่าเกมมิ่งโน๊ตบุ๊คจะต้องใหญ่และหนัก เชิญพบกับไลท์เวทหมัดหนักอย่าง MSI Cyborg 14 A13V ข้อดีของเกมมิ่งโน๊ตบุ๊ค ก็ต้องยกให้เรื่องสเปคแรงพอจะทำงานได้ดีเล่นเกมได้ลื่นแต่ก็แลกกับน้ำหนักตัวระดับ 2 กก. ขึ้นไป แต่ก็มี MSI Cyborg 14 A13V รุ่นย่อขนาดจาก Cyborg 15 เดิมให้เครื่องเล็กลงนิดน้ำหนักเบาลงหน่อย ฉีกกฏเดิมว่าถ้าอยากแรงก็ต้องหนักกลายเป็นว่าไม่ต้องหนักสเปคก็แรงได้ ภายในตัวเครื่องขนาด 14 นิ้ว...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก