Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ เป็นการจับเอารุ่นเก่ามารีเฟรชใหม่ได้อย่างลงตัว มาพร้อม Qualcomm Snapdragon 870 หน้าจอแบบ OLED 90 Hz และแบตใหญ่มากถึง 8600 mAh จะน่าสนใจมากแค่ไหนไปติดตามกัน
(รีวิวแปลจากต่างประเทศ ไม่ใช่เครื่องขายในไทย) Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 ถือว่าเป็นแท๊บเล็ตตัวจี๊ดล่าสุดจากทาง Lenovo ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ทระดับท๊อปอย่าง Qualcomm Snapdragon 870 ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นชิปเซ็ทตัวเก่าที่ถูกเอามาเล่าใหม่อีกครั้งทว่าคงต้องยอมรับจริงๆ ว่าความแรงของมันนั้นก็ยังอยู่ในระดับบนที่ยังคงความแรงไว้เต็มเปี่ยมอยู่ นอกไปจากตัวชิปเซ็ทแล้ว Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 นั้นยังมาพร้อมกับสเปคในส่วนอื่นๆ ที่ต้องบอกว่า Lenovo สามารถที่จะทำเอาตลาดแท็บเล็ตราคาในระดับกลางสะเทือนกันไปทั้งวงการได้จริงๆ
Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 ยังมาพร้อมกับหน้าจอพาเนล OLED ที่ให้ refresh rate มาถึง 90 Hz ภายใต้หน้าจอขนาด 11.5 นิ้วโดยมีความละเอียดอยู่ที่ระดับ 2K+ อัตราส่วนหน้าจออยู่ที่ 16:10 กับความสว่างหน้าจอสูงสุดมากถึง 600 nits (ปกติจะมีความสว่างหน้าจออยู่ที่ประมาณ 420 nits) ตัวเครื่องใช้ระบบปฎิบัติการณ์ Android 11 ครบทับด้วย ZUI 12.5 และพร้อมรองรับการอัปเกรดเป็น Android 12 ได้อีกในอนาคต
เรียกได้ว่า Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 นั้นมีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งทั้งการใช้งานไม่ว่าจะเป็นด้านการทำงาน, การเรียนหรือจะเป็นการเล่นเกม เรามาดูกันดีกว่าว่า Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 จะมีความน่าสนใจในส่วนต่างๆ เป็นอย่างไรบ้าง
- สเปคของ Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021
- หน้าจอและลำโพง
- การใช้งานด้านการทำงานและการเรียน
- การเล่นเกม
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่
- สรุป
1. สเปคของ Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021
DISPLAY | ขนาด 11.5 นิ้ว พาเนล OLED มาพร้อม refresh rate 90 Hz ความสว่างปกติอยู่ที่ 420 nits ความสว่างสูงสุดอยู่ที่ 600 nits รองรับมาตรฐาน HDR10 และ Dolby Vision ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ระดับ 2K+ หรือ 1600 x 2560 pixels อัตราส่วนหน้าจออยู่ที่ 16:10 ขนาดของหน้าจอคิดเป็นประมาณ 84.6% ของขนาดตัวเครื่อง |
Chipset | Qualcomm SM8250-AC Snapdragon 870 5G (7 nm) Octa-core (1×3.2 GHz Kryo 585 & 3×2.42 GHz Kryo 585 & 4×1.80 GHz Kryo 585) GPU Adreno 650 |
MEMORY | หน่วยความจำขนาด 6 GB |
Storage | แหล่งเก็บข้อมูลภายในอยู่ที่ 128 GB มาตรฐาน UFS 3.1 รองรับการเพิ่มแหล่งเก็บข้อมูลผ่านทาง microSDXC (dedicated slot) |
MAIN CAMERA | กล้องหลังจำนวน 2 ตัวประกอบไปด้วย เซ็นเซอร์หลักความละเอียด 13 MP, (wide), AF เซ็นเซอร์ ultrawide ความละเอียด 5 MP พร้อมมุมมองการรับภาพกว้างมากสุดอยู่ที่ 120 องศา มี LED Flash |
SELFIE CAMERA | กล้องหน้าจำนวน 2 ตัวประกอบไปด้วย เซ็นเซอร์หลักความละเอียด 8 MP เซ็นเซอร์ IR TOF 3D สำหรับ depth/biometrics sensor ความละเอียด 8 MP |
SOUND System | มาพร้อมกับลำโพงทั้งหมด 4 ตัวได้รับการปรับแต่งเสียงโดย JBL ไม่มีช่องเชื่อมต่อ 3.5 audio jack มาให้ |
Communication | Wi-Fi : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot Bluetooth : v 5.2 รอบรับมาตรฐาน A2DP และ LE USB : USB Type-C 3.1, USB On-The-Go; magnetic connector GPS : NFC : Radio : SIM : ไม่มีมาให้ |
Sensors | Infrared Face ID, fingerprint (อยู่ทางด้านข้างของตัวเครื่อง), accelerometer, gyro, proximity |
BATTERY | Li-Po 8600 mAh, non-removable รองรับการขาร์จเร็วที่กำลังไฟฟ้าสูงสุด 20 W และมาตรฐาน Quick Charge 3.0 |
BODY | ขนาดตัวเครื่อง 264.3 x 171.4 x 5.8 mm น้ำหนักตัวเครื่อง 485 g หน้าจอใช้วัสดุเป็นกระจก ส่วนด้านข้างตัวเครื่องและด้านหลังใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียม สีที่วางจำหน่ายมีเฉพาะสีเงินเท่านั้น |
Others | รองรับการใช้งานร่วมการ Stylus แต่ในชุดจำหน่ายมาตรฐานไม่มีแถมมาให้ด้วย รองรับการใช้งานร่วมกับคีย์บอร์ดภายนอก |
2. หน้าจอและลำโพง
อย่างที่ได้บอกไปในตอนต้น จุดเด่นของ Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 ที่เด็ดที่สุดนั้นคงหนีไม่พ้นการเลือกใช้หน้าจอขนาด 11.5 นิ้ว พาเนลแบบ OLED ความละเอียด 2K+ พร้อม refresh rate ที่ 90 Hz รองรับช่วงกว้างของสีมาตรฐาน DCI-P3 ถึง 100% ซึ่งหาได้ยากมากกับแท็บเล็ตที่มีราคาอยู่ที่ระดับเพียง 15,xxx บาท (กับหน้าจอที่แจ๋มมากขนาดนี้คงต้องมีจ่ายเงินมากกว่า 19,xxx บาทชึ้นไปเท่านั้น)
เรื่องความถูกต้องของการแสดงสีสันนั้นคงต้องบอกเลยว่า Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 นั้นสามารถทำได้อย่างไร้ปัญหาอย่างไรก็ตามจากการทดสอบการปรับตัวเลือกของการแสดงของสีสันหน้าจอนั้นพบว่าหากใช้ช่วงกว้างของสีแบบ P3 แล้ว ค่า delta E จะมากถึง 4.6 แต่หากปรับโหมดการแสดงสีสันกลับมาเป็นโหมด standard แล้วนั้นค่า delta E ของหน้าจอจะลดลงมาอยู่ที่ 1.3 เท่านั้นโดยที่โหมดนี้นั้นจะรองรับช่วงกว้างของสีแบบ sRGB ที่ 99% กับช่วงกว้างของสีแบบ DCI-P3 ที่ 73%
ด้วยความสว่างของหน้าจอที่มากสุดอยู่สูงถึง 600 nits นั้นทำให้ตัวหน้าจอรองรับมาตรฐานการแสดงสีสันแบบ HDR10 และ Dolby Vision ได้อย่างสบายๆ ดังนั้นสำหรับท่านใดที่มองหาแท็บเล็ตราคาไม่แพงจนเกินไปที่รองรับมาตรฐาน HDR10 และ Dolby Vision ด้วยแล้วนั้นคงต้องบอกว่า Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับการพิจารณาอย่างแน่นอน
แน่นอนว่าถึงแม้ตัวเครื่องจะมาพร้อมกับหน้าจอที่แจ๋มแมวมากเพียงใด แต่ถ้าหากลำโพงไม่สามารถที่จะรองรับการใช้งานให้แจ๋มตามกันไปด้วยแล้วนั้นหน้าจอที่ดีที่ให้มาก็ต้องเสียเปล่าไป สำหรับ Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 นั้นด้านลำโพงคงต้องบอกว่าดีเป็นอย่างมาก ตัวเครื่องมาพร้อมกับลำโพงที่ปรับแต่งโดย JBL จำนวนถึง 4 ตัว โดยแต่ละตัวนั้นมีกำลังขับเสียงอยู่ที่ 1.5 W ที่เหนือไปกว่านั้นก็คือลำโพงตัวเครื่องยังรองรับมาตรฐานเสียงแบบ Dolby Atmos อีกด้วย หากจะบอกว่ามีอะไรที่น่าเสียดายแล้วนั้นก็คงต้องบอกว่าการที่ตัวเครื่องไม่ได้มาพร้อมกับพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ 3.5 audio jack นั้นถือว่าเป็นจุดที่ทำให้ผู้ใช้งานลำบากขึ้น แถมพอร์ต USB Type-C 3.1 นั้นก็ไม่รองรับการใช้งานร่วมกับหูฟังแบบ Type-C อีกด้วย
การที่ตัวเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 11.5 นิ้วนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาทางด้านการใช้งาน ด้วยการออกแบบที่ทาง Lenovo ทำออกมาได้ดีเป็นอย่างมากทำให้ขนาดของตัวเครื่องนั้นไม่ใหญ่มากจนเกินไปนัก(ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะมีขอบหน้าจอใหญ่อยู่) นอกไปจากนั้นด้วยนำหนักเพียง 485 g ทำให้การใช้งานด้วยการถือไม่ว่าจะเป็นหนึ่งหรือสองมือสามารถที่จะทำได้อย่างสะดวกสบาย
3. การใช้งานด้านการทำงานและการเรียน
เริ่มต้นกับการใช้งานทางด้านการเรียนก่อน โดยต้องบอกเลยว่า Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 นั้นเหมาะกับการใช้งานทางด้านการเรียนสำหรับเด็กๆ หรือแม้กระทั่งวัยมหาลัยมากจริงๆ การที่ตัวเครื่องมาพร้อมกับกล้องด้านหน้าที่มีความละเอียดถึง 8 MP แล้วนั้นทำให้การถ่ายถอดภาพผ่านการเรียนแบบออนไลน์สามารถที่จะเป็นไปได้อย่างดี นอกไปจากนั้นด้วยเซ็นเซอร์ TOF ที่ทาง Lenovo ใส่เพิ่มเข้ามาบน Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 อีกนั้นทำให้ระบบความปลอดภายในการปลดล๊อคตัวเครื่องผ่านทางกล้อง(ถ่ายใบหน้า) ก็เป็นไปได้ด้วยความสะดวกสบาย การที่ตัวกล้องอยู่ตรงกลางทางด้านบนของตัวเครื่องเมื่อทำการวางตัวเครื่องในแนวนอนนั้นทำให้ลักษณะการใช้งานกล้องหน้าของตัวเครื่องคล้ายๆ กันกับการใช้งานกล้องหน้าของโน๊ตบุ๊คซึ่งแน่นอนว่านั่นย่อมก่อให้เกิดความสะดวกสบายในการใช้งานแอปพลิเคชันที่ต้องเปิดกล้องหน้าเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามด้วยความที่ตัวเครื่องมาพร้อมกับสเปคสุดโหดซึ่งรองรับการเล่นเกมเป็นอย่างดีแล้วนั้น ผู้ปกครองหลายๆ คนอาจจะไม่ไว้วางใจที่จะให้เด็กๆ อยู่กับตัวเครื่องแค่เพียงลำพัง ทาง Lenovo จึงได้มีการพัฒนาฟีเจอร์สำหรับการเก็บข้อมูลทางด้านสุขภาพของเด็กๆ และช่วยในการโฟกัสทางด้านการเรียนมากขึ้นชื่อ study assistant โดยนอกเหนือไปจากการเก็บข้อมูลสุขภาพทางด้านร่างกายและสุขภาพจิตของเด็กที่ใช้งานแล้วนั้น ฟีเจอร์ดังกล่าวยังสามารถเก็บและประมวลผลข้อมูลสุขภาพทางด้านสายตาไปจนกระทั่งการจำกัดเว็บไซต์เสี่ยง, การต่อต้านการเสพติดระดับฮาร์ดแวร์, การจัดการตารางการเรียนการสอนและการปกป้องด้วยผู้ปกครอง ทว่ามีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่งก็คือฟีเจอร์การปกป้องด้วยผู้ปกครองนั้นจะสามารถใช้งานได้เฉพาะในประเทศจีนเท่านั้นเนื่องจากมันรองรับแค่เฉพาะ Social media ของประเทศจีนเท่านั้น
ในแอปพลิเคชัน study assistant นั้นผู้ปกครองสามารถที่จะทำการตรวจสอบเวลาในการใช้งานแอปพลิชันต่างๆ ของเด็กในปกครองได้อย่างแม่นยำ นอกจากนั้นยังสามารถที่จะตั้งค่าจำกัดการใช้งานแอปพลิเคชันในกลุ่มต่างๆ ให้กับเด็กที่อยู่ในปกครองได้ นอกเหนือไปจากนั้นยังสามารถจำกัดการติดตั้งแอปพลิเคชันต่างๆ ที่เด็กในปกครองอาจจะทำการแอบติดตั้งด้วยตัวเองได้อีกด้วยต่างหาก ท้ายที่สุดผู้ปกครองยังสามารถที่จะจำกัดการเข้าถึงเว็บไซต์ต่างๆ ที่ผู้ปกครองเห็นว่าไม่เหมาะสมไม่ให้เด็กในปกครองสามารถที่จะทำการเข้าถึงได้ด้วยตัวเองอีกด้วย
สำหรับการทำงานนั้น Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีกับการรองรับการใช้งานร่วมกับคีย์บอร์ดและเมาส์ไร้สาย นอกไปจากนั้นแล้วตัวเครื่องยังมาพร้อมกับ PC Mode ที่จะใช้ให้การใช้งานตัวเครื่องระบบปฏิบัติการณ์ Android นั้นการร่างมาเป็นเสมือนกับการใช้งานคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค และด้วยชิปเซ็ทสุดแรงอย่าง Qualcomm Snapdragon 870 กับหน่วยความจำที่มากถึง 6 GB ด้วยแล้วนั้นทำให้ผู้ใช้สามารถที่จะเปิดหน้าต่างแอปพลิเคชันขึ้นมาพร้อมๆ กันได้ถึง 5 แอปพลิเคชันได้อย่างสบายๆ ทว่า PC Mode นั้นก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้างตรงที่บางแอปพลิเคชันนั้นอาจจะไม่รองรับการใช้งาน PC Mode นี้ ซึ่งนั่นทำให้การแสดงผลของแอปพลิเคชันเวลาใช้งานอาจจะผิดเพี้ยนไปจากปกติได้
และถึงแม้ว่าชุดวางจำหน่ายมาตรฐานของตัวเครื่องจะไม่แถมปากกา Stylus มาให้ ทว่าตัวเครื่อง Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 นั้นก็ยังรองรับการใช้งานร่วมกับปากกา Stylus ด้วยอยู่โดยที่ตัวหน้าจอนั้นจะรองรับกหารใช้งานร่วมกับปากกา Stylus ที่มีแรงกดสูงมากถึง 4096 ระดับเลยทีเดียว นั่นหมายความว่าในการใช้งานปากกา Stylus นั้นจะเป็นไปอย่างถูกต้องแม่นยำ
4. การเล่นเกม
ด้วยชิปเซ็ทที่ Qualcomm Snapdragon 870 ที่ Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 เลิกใช้นั้น ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ชิปเซ็ทรุ่นใหม่ล่าสุดของปี 2021 ทว่ามันก็ยังถือว่าเป็นชิปเซ็ทที่มีความแรงเป็นอย่างมากอยู่ ทำให้การใช้งาน Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 เล่นเกมนั้นยังทำให้ผู้ใช้รู้สึกสนุกได้อยู่ กับการทดสอบด้วยเกม PUBG Mobile นั้นพบว่าตัวเครื่องสามารถที่จะทำเฟรมเรทไปได้เฉลี่ยที่ราวๆ 90 FPS โดยเปิดกราฟิก HDR ไปด้วย
เมื่อทดสอบเล่นเกม Nimian legend ที่ความละเอียดระกดับ 1080p นั้นพบว่าตัวเครื่องสามารถที่จะขับเฟรมเรทได้มากถึง 55.2 FPS นอกไปจากนั้นแล้วการทดสอบกับเกม Genshin Impact ที่ความละเอียดระดับ 720p ซึ่งเป็นความละเอียดมาสุดตามมาตรฐานที่ผู้พัฒนาเกมกำหนดมาให้สำหรับการใช้งานบน Android นั้น พบว่าตัวเครื่องสามารถที่จะขับเฟรมเรทไปได้เฉลี่ย 56.8 FPS โดยถึงแม้ว่าจะยังรวดเร็วอยู่ แต่แต่กับความละเอียดที่ระดับ 720p เมื่อนำมาแสดงผลกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 11.5 นิ้วนั้นทำให้เมื่อดูแล้วพบว่าภาพที่ได้ไม่ค่อยคมชัดมากเท่าไรนัก
ด้วยความที่ Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 นั้นรองรับการใช้งาน PC Mode และรองรับการใช้งานกับอุปการเชื่อมต่อไร้สายอย่างเมาส์และคีย์บอร์ดด้วยนั้น ทำให้บางเกมสามารถที่จะทมำการเล่นเสมือนกับการเล่นบนเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านทางเมาส์และคีย์บอร์ดได้อีกด้วยต่างหาก ทว่าเกมที่จะสามารถใช้เล่นทาง PC Mode ได้นั้นก็มีไม่มากเท่าไรนัก ตัวอย่างของเกมที่ได้รับการทดสอบการเล่นบน PC Mode แล้วผ่านฉลุกก็อย่างเช่น PUBG Mobile และ Genshin Impact เป็นต้น
5. อายุการใช้งานแบตเตอรี่
Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 8,600 mAh อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วมาตรฐาน Quick Charge 3 ด้วย โดยจากการทดสอบชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ไป 100% นั้นพบว่าจะใช้เวลาในการชาร์จอยู่ที่ราวๆ 3 ชั่วโมง สำหรับในการทดสอบการใช้งานแบบหนักหน่วงต่อเนื่องนั้นพบว่าตัวเครื่องสามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 5 ชั่วโมงด้วยกัน(สดสอบด้วยการเล่นเกมต่อเนื่อง)
6. สรุป
จุดเด่น
- มาพร้อมหน้าจอขนาด 11.5 นิ้วและใช้พาเนลแบบ OLED
- ใช้ชิปเซ็ทระดับบนที่รองรับการใช้งานต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
- แหล่งเก็บข้อมูลภายในที่ใช้เป็นแบบ UFS 3.1 ซึ่งมีความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลอย่างรวดเร็ว
- รองรับการใช้งาน Stylus
- กล้องหน้าและหลังได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานอย่างเหมาะสมกับการใช้งานทั้งด้านการเรียนออนไลน์และทำงาน
- แบตเตอรี่มาพร้อมกับความจุขนาดใหญ่
- มี PC Mode
จุดด้อย
- ไม่รองรับการใช้งาน SIM Card
- ไม่ให้พอร์ตการเชื่อมต่อ 3.5 audio jack มาให้
- ระบบกล้องไม่รองรับการปรับแต่งใดๆ มากเท่าไรนัก
- ไม่แถม Stylus มาให้ในชุดจำหน่ายมาตรฐาน
- กระจกหน้าจอที่ใช้ไม่ใช่กระจกหน้าจอแบบกันรอยในตัว
- ไม่รองรับการกันน้ำกันฝุ่น
สำหรับ Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 นั้นต้องบอกเลยว่าได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าจะมีบางส่วนที่ขาดๆ หายๆ ไปบ้าง ทว่าเมื่อเทียบสิ่งที่ได้รับกับราคาที่ต้องจ่ายไปที่ราวๆ 15,xxx บาทแล้วนั้นคงต้องยอมรับว่า Lenovo XiaoXin Pad Pro 2021 นั้นเป็นแท็บเล็ตระดับกลางที่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกหนึ่งที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก(ในไทยสามารถหาซื้อได้แล้วผ่านแอปพลิเคชันจำหน่ายสินค้าออนไลน์ชื่อดัง)
ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือโดยจุดที่ใช้สำหรับสแกนนั้นจะอยู่ที่ตรงปุ่มเปิดปิดตัวเครื่อง ณ จุดนี้นั้นต้องถือว่ารองรับการใช้งานได้เป็นอย่างดี นอกไปจากนั้นแล้วตัวเครื่องยังรองรับการสแกนใบหน้าเพื่อปลดล๊อคได้ด้วยอีกต่างหาก ถ้าจะถามถึงคู่แข่งในระดับเดียวกันแล้วนั้นคงหนีไม่พ้น Xiaomi Mi Pad 5 Pro ซึ่งจะมีสเปคใกล้เคียงกัน แต่ก็จะมีจุดด้อยกว่าตรงที่ Xiaomi Mi Pad 5 Pro นั้นไม่รองระบการเพิ่มแหล่งเก็บข้อมูลผ่านทาง microSD Card (แต่ว่ารองรับการใช้งาน SIM Card โดยรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบ 5G ด้วย) งานนี้นั้นคงต้องเลือกเอาแล้วว่าจะเน้นการใช้งานทางด้านไหนมากกว่ากัน
ที่มา : gizmochina, versus
Lenovo Tablet ลดราคา กดตรงนี้ อย่าลืมใส่โค้ด NBSDEC13 เพื่อรับส่วนลดสูงสุดถึง 40% กันด้วยนะ