6 เครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้ สแกนเอกสารก็ดี ต่อ Wi-Fi ได้ด้วย เริ่มแค่ 2,490 บาทเอง

เครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้ เครื่องเดียวจบของไม่ล้นโต๊ะ ราคาตอนนี้ก็ไม่แพงแล้วนะ

เครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้เป็นปริ้นเตอร์ที่รวบเอาฟีเจอร์ทั้งเรื่องการปริ้นท์, สแกนและถ่ายเอกสารเอาไว้ในตัวเดียวกัน ซึ่งข้อดีคือประหยัดพื้นที่และบางรุ่นยังรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ทำให้สั่งปริ้นท์งานจากแอพฯ ในสมาร์ทโฟนได้ด้วย ช่วยให้ทำงานได้สะดวกขึ้นมาก ระดับที่จะมีติดบ้านเอาไว้ถ่ายสำเนาเอกสารสำคัญๆ เอาไว้ใช้งานได้โดยไม่ต้องกลุ้มวิ่งหาร้านถ่ายเอกสารให้เสียเวลาและหลายๆ รุ่นก็เป็นระบบแท็งค์หมึกจากโรงงาน ทำให้ค่าหมึกตอนปริ้นท์หรือถ่ายเอกสารต่อหน้าถูกลงมาก ไม่ต้องถอดเปลี่ยนยกตลับแบบในอดีตแล้ว

ส่วนหลายๆ คนที่คิดว่าเครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้ราคาจะสูงหรือเปล่า ในส่วนนี้เรียกว่าไม่ต้องกังวลเท่าไหร่แล้ว เนื่องจากผู้ผลิตหลายๆ เจ้าพากันเปิดตัวปริ้นเตอร์ประเภทนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง มีหลากรุ่นหลายฟีเจอร์ ทำให้เราเลือกซื้อตั้งแต่รุ่นราคาพันต้นๆ ไปจนหลักหมื่นฟีเจอร์ล้นเครื่องได้เลย

แต่ก่อนจะไปหาซื้อเครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้มาใช้สักเครื่อง เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะติดใจกันอยู่ว่าที่เขียนในหน้าสเปคว่าเครื่องนี้เป็น Inkjet, Laser มันแตกต่างกันอย่างไร มีจุดเด่นจุดสังเกตแตกต่างกันอย่างไร ในส่วนนี้ผู้เขียนขอแยกให้เข้าใจกันได้ง่ายๆ ดังนี้

• Inkjet – การปริ้นท์งานของ Inkjet จะเป็นการฉีดละอองหมึกลงบนกระดาษ ซึ่งจะแยกย่อยวิธีการทำงานและรูปแบบการฉีดหมึกได้หลากหลายแบบ แต่สำหรับผู้ใช้ทั่วไปจะเป็นระบบแยกแท็งก์หัวหมึกตามสีตามระบบการพิมพ์ CMYK (Cyan, Magenta, Yellow, Key (หรือสีดำ) โดยระบบหัวหมึกจะรวม CMY เอาไว้ด้วยกันและแยก K ออกเป็นอีกหัวเฉพาะเพื่อใช้ปริ้นท์เอกสารขาวดำโดยเฉพาะ หาซื้อได้ตั้งแต่ราคาถูกไปจนราคาแพง แต่จะปริ้นท์งานได้ช้ากว่าระบบ Laser แต่เหมาะกับการปริ้นท์ภาพถ่ายหรืองานศิลปะมากกว่า
• Laser – ระบบการปริ้นท์โดยสร้างไฟฟ้าสถิตย์ขึ้นที่โรลหมึกในตัวปริ้นเตอร์ โดยไฟฟ้าสถิตย์ที่กระแสไฟฟ้าแตกต่างกันจะทำให้สีจากตัวโทนเนอร์ในปริ้นเตอร์ติดแตกต่างกัน โดยตัวเลเซอร์ปริ้นเตอร์จะปริ้นท์เอกสารเสร็จเร็วกว่าระบบ Inkjet แต่ราคาโทนเนอร์ต่อตลับก็จะแพงกว่า แต่ก็เหมาะกับการปริ้นท์งานเอกสารที่ต้องการความเร็วเป็นหลัก และถ้าปริ้นท์งานเยอะเมื่อถัวเฉลี่ยค่าปริ้นท์ต่อหน้ากระดาษ Laser ก็จะคุ้มค่ากว่า

6 เครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้ มีติดออฟฟิศชีวิตสะดวกขึ้นเยอะ!

เมื่อเลือกได้แล้วว่าจะซื้อเครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้แบบไหนมาใช้งาน ในบทความนี้ผู้เขียนได้เลือกปริ้นเตอร์ที่ทั้งปริ้นท์, สแกนและถ่ายเอกสารได้มาให้เลือก ซึ่งราคาไม่แพงมากจะเอามาใช้ในออฟฟิศหรือที่บ้านก็น่าสนใจ โดยรุ่นที่เลือกมาแนะนำทั้ง 6 รุ่นจะมีดังนี้

1. HP DeskJet Ink Advantage 2335 (2,490 บาท)
2. Canon PIXMA G2010 (5,190 บาท)
3. HP Ink Tank Wireless 415 (5,490 บาท)
4. HP SMART TANK 670 AIO (7,150 บาท)
5. BROTHER MFC-L2715DW (9,990 บาท)
6. RICOH SP C261SFNw (14,540 บาท)

1. HP DeskJet Ink Advantage 2335 (2,490 บาท)

HP DeskJet Ink Advantage 2335 เป็นปริ้นเตอร์ระบบ Inkjet มีตลับหมึกและหัวพิมพ์ 2 ตัว แยกเป็นหัวหมึก 3 สีกับสีดำปริ้นท์ตามระบบการพิมพ์ CMYK ใส่กระดาษหนาได้ 60-90 แกรม รองรับการปริ้นท์, สแกนเป็นไฟล์ PDF และถ่ายเอกสารได้ มีความเร็วปริ้นท์กระดาษ A4 แบบขาวดำได้ 25 แผ่น/นาที ความละเอียด 1200×1200 DPI ส่วนพิมพ์สีราว 10 แผ่น/นาที ความละเอียดสูงสุด 4800×1200 DPI ส่วนการถ่ายเอกสารความเร็ว 9 แผ่น/นาที เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB 2.0 รองรับพีซีระบปฏิบัติการ Windows 7 เป็นต้นไป มีปุ่มควบคุมบนตัวเครื่อง 5 ปุ่ม จัดเป็นเครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้รุ่นแรกที่ราคาไม่แพงมาก จะซื้อไว้ใช้ในบ้านหรือออฟฟิศก็ดีแน่นอน

สเปคของ HP DeskJet Ink Advantage 2335

• ปริ้นเตอร์ระบบ Inkjet มีตลับหมึกและหัวพิมพ์ 2 ตัว แยกเป็นหัวหมึก 3 สีกับสีดำ
• ปริ้นท์ตามระบบการพิมพ์ CMYK ใส่กระดาษหนาได้ 60-90 แกรม
• รองรับการปริ้นท์, สแกนเป็นไฟล์ PDF และถ่ายเอกสารได้
• ความเร็วปริ้นท์กระดาษ A4 แบบขาวดำได้ 25 แผ่น/นาที ความละเอียด 1200×1200 DPI
• พิมพ์สีราว 10 แผ่น/นาที ความละเอียดสูงสุด 4800×1200 DPI ถ่ายเอกสาร 9 แผ่น/นาที
• เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB 2.0
• รองรับพีซีระบปฏิบัติการ Windows 7 เป็นต้นไป
• ราคา 2,490 บาท (HP Thailand)

2. Canon PIXMA G2010 (5,190 บาท)

นอกจากแบรนด์ HP ที่หลายๆ คนคิดถึง ทาง Canon ก็มีเครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้รุ่น Canon PIXMA G2010 เป็นรุ่นแนะนำระบบ Inkjet ติดแท็งค์สีปริ้นท์ภาพได้สุดขอบกระดาษ เป็นขวดหมึกพิมพ์แยกสีตามระบบ CMYK รองรับการปริ้นท์, สแกนและถ่ายเอกสารครบถ้วน รองรับกระดาษตั้งแต่ 64-105 แกรม ปริ้นท์กระดาษขนาด A4 สีขาวดำได้ 8.8 ภาพ/นาที ส่วนปริ้นท์สี 5 ภาพ/นาที ถาดใส่กระดาษรองรับ 100 แผ่น ปริ้นท์ความละเอียดสูงสุด 4800×1200 DPI เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows 7 SP1 หรือใหม่กว่าด้วย USB 2.0 มีปุ่มควบคุมบนตัวเครื่องครบถ้วน จัดว่าถ้าเอามาใช้งานในออฟฟิศที่ปริ้นท์ภาพบ่อยๆ ก็น่าสนใจเช่นกัน

สเปคของ Canon PIXMA G2010

• ปริ้นเตอร์ระบบ Inkjet ระบบแท็งก์สี ขวดหมึกแยกสีกัน
• ปริ้นท์ตามระบบการพิมพ์ CMYK ใส่กระดาษหนาได้ 64-105 แกรม
• รองรับการปริ้นท์, สแกนเป็นไฟล์ PDF และถ่ายเอกสารได้
• ความเร็วปริ้นท์กระดาษ A4 แบบขาวดำได้ 8.8 แผ่น/นาที
• พิมพ์สีราว 5 แผ่น/นาที ความละเอียดสูงสุด 4800×1200 DPI ถ่ายเอกสาร 9 แผ่น/นาที
• เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB 2.0
• รองรับพีซีระบปฏิบัติการ Windows 7 SP1 เป็นต้นไป
• ราคา 5,190 บาท (Hippomondo Shopee)

3. HP Ink Tank Wireless 415 (5,490 บาท)

HP Ink Tank Wireless 415 เป็นเครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้ระบบ Inkjet อีกรุ่นจาก HP ที่เปลี่ยนมาใช้ระบบแท็งก์หมึกแล้ว รองรับการปริ้นท์, สแกน, ถ่ายเอกสารครบถ้วน หัวและตลับหมึกเป็นแบบแยก 3 สีกับสีดำ พิมพ์ตามระบบ CMYK รองรับกระดาษได้ตั้งแต่ 60-90 แกรม ปริ้นท์กระดาษสีขาวดำไซซ์ A4 ได้ 25 แผ่น/นาที ความละเอียด 1200 x 1200 DPI ปริ้นท์สีได้เร็ว 15 แผ่น/นาที ความละเอียด 4800 x 1200 DPI ถ่ายเอกสารได้เร็ว 9 แผ่น/นาที รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB 2.0 หรือ Wi-Fi ก็ได้ รองรับระบบปฏิบัติการตั้งแต่ Windows XP SP3 หรือ Mac OS X Yosemite เป็นต้นไป มีปุ่มควบคุมบนตัวเครื่องด้วย เป็นรุ่นที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ทั่วไปรวมไปถึงออฟฟิศที่มีผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ macOS และข้อดีของปริ้นเตอร์รุ่นนี้คือ เมื่อพีซีกับปริ้นเตอร์เชื่อมต่อ Wi-Fi เดียวกันแล้ว ก็สามารถสั่งปริ้นท์งานจากคอมเครื่องที่ใช้อยู่ออกทางเครื่องนี้ได้เลยโดยไม่ต้องต่อ USB 2.0 ก็ได้

สเปคของ HP Ink Tank Wireless 415

• ปริ้นเตอร์ระบบ Inkjet มีตลับหมึกและหัวพิมพ์ 2 ชุด แยกเป็นหัวหมึก 3 สีกับสีดำ
• ปริ้นท์ตามระบบการพิมพ์ CMYK ใส่กระดาษหนาได้ 60-90 แกรม
• รองรับการปริ้นท์, สแกนเป็นไฟล์ PDF และถ่ายเอกสารได้
• ความเร็วปริ้นท์กระดาษ A4 แบบขาวดำได้ 25 แผ่น/นาที ความละเอียด 1200×1200 DPI
• พิมพ์สีราว 15 แผ่น/นาที ความละเอียดสูงสุด 4800×1200 DPI ถ่ายเอกสาร 9 แผ่น/นาที
• เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB 2.0 หรือ Wi-Fi 
• รองรับพีซีระบปฏิบัติการ Windows XP SP3 หรือ Mac OS X Yosemite เป็นต้นไป
• ราคา 5,490 บาท (HP Thailand)

4. HP SMART TANK 670 AIO (7,150 บาท)

HP SMART TANK 670 AIO เป็นเครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้อีกรุ่นที่ตัวบอดี้ทำจากพลาสติกรีไซเคิลมากกว่า 25% ตัวเครื่องเป็นระบบ Inkjet รองรับการเชื่อมต่อด้วย Wi-Fi หรือ USB 2.0 ก็ได้และติดตั้งแท็งก์หมึกแยก 4 ถังกับหัวพิมพ์ 2 หัว แยกเป็นสีหลัก 3 สีกับสีดำ ถาดใส่กระดาษรองรับสูงสุด 150 แผ่น รองรับกระดาษ 60-105 แกรม ปริ้นท์ขาวดำขนาด A4 ได้เร็ว 22 แผ่น/นาที ความละเอียด 1200 x 1200 DPI ปริ้นท์สีขนาด A4 ได้เร็ว 21 แผ่น/นาที ความละเอียด 4800 x 1200 DPI ถ่ายเอกสารขาวดำได้เร็ว 11 แผ่น/นาที ถ้าเป็นสีได้ 5 แผ่น/นาที รองรับระบบปฏิบัติการ Windows 7 หรือ macOS Mojave เป็นต้นไป สามารถโหลดแอพฯ HP Smart จาก Play Store หรือ App Store มาติดตั้งในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตแล้วสั่งปริ้นท์ไร้สายได้ด้วย เรียกว่ารองรับรอบด้านครบเครื่องรุ่นหนึ่ง แม้ราคาจะสูงสักหน่อยแต่ก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับเอาไว้ใช้ในสำนักงานหรือที่บ้านก็ดี

สเปคของ HP SMART TANK 670 AIO

• ปริ้นเตอร์ระบบ Inkjet มีตลับหมึกและหัวพิมพ์ 2 ชุด แยกเป็นหัวหมึก 3 สีกับสีดำ
• ปริ้นท์ตามระบบการพิมพ์ CMYK ใส่กระดาษหนาได้ 60-105 แกรม
• รองรับการปริ้นท์, สแกนเป็นไฟล์ PDF และถ่ายเอกสารได้
• ความเร็วปริ้นท์กระดาษ A4 แบบขาวดำได้ 22 แผ่น/นาที ความละเอียด 1200×1200 DPI
• พิมพ์สีราว 21 แผ่น/นาที ความละเอียดสูงสุด 4800×1200 DPI
• ถ่ายเอกสารขาวดำได้เร็ว 11 แผ่น/นาที ถ้าเป็นสีได้ 5 แผ่น/นาที
• เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB 2.0 หรือ Wi-Fi 
• รองรับพีซีระบปฏิบัติการ Windows 7 หรือ macOS Mojave เป็นต้นไป โหลดแอพฯ มาติดตั้งได้
• ราคา 7,150 บาท (CHI CHANG Shopee)

5. BROTHER MFC-L2715DW (9,990 บาท)

Brother MFC-L2715DW จะเป็นเครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้ที่เน้นผู้ใช้ในสำนักงานที่ต้องปริ้นท์เอกสารจำนวนมากในเวลาสั้นๆ โดย Brother เครื่องนี้เป็นระบบ Laser ถาดใส่กระดาษจะรองรับกระดาษ A4 หนา 80 แกรมได้ 250 แผ่น และปริ้นท์เอกสาร 2 หน้าได้ทันทีโดยไม่ต้องกลับหน้ากระดาษเอง รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB 2.0, LAN, Wi-Fi ได้ทั้งหมด รองรับทั้งการปริ้นท์, ถ่ายเอกสาร, สแกนและส่งแฟ็กซ์ได้ด้วย สามารถปริ้นท์เอกสารได้เร็วสุด 34 แผ่น/นาที และโหลดแอพฯ Brother iPrint&Scan จาก Play Store, App Store มาติดตั้งแล้วสั่งปริ้นท์ผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตก็ได้, รองรับ Apple AirPrint, Google Cloud Print ทั้งหมด รองรับระบบปฏิบัติการ Windows 7 SP1, macOS 10.10.5, Linux อีกด้วย จัดเป็นเครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้ที่เกิดมาเพื่อสำนักงานโดยเฉพาะ แต่ราคาก็จะสูงสักหน่อยและถ้าเอามาใช้งานทั่วไปในบ้านอาจจะไม่คุ้มค่านัก

สเปคของ Brother MFC-L2715DW

• ปริ้นเตอร์ระบบ Laser สามารถปริ้นท์เอกสาร 2 หน้าได้โดยไม่ต้องกลับกระดาษเอง
• ปริ้นท์ตามระบบการพิมพ์ CMYK ถาดใส่กระดาษหนาได้ 80 แกรมได้ 250 แผ่น
• รองรับการปริ้นท์, สแกนเป็นไฟล์ PDF, ถ่ายเอกสารและรับส่งแฟ็กซ์ได้
• ปริ้นท์กระดาษ A4 เร็วสุด 34 แผ่น/นาที
• เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB 2.0, LAN, Wi-Fi
• รองรับพีซีระบปฏิบัติการ Windows 7 SP1, macOS 10.10.5, Linux เป็นต้นไป
• รองรับ Apple AirPrint, Google Cloud Print โหลดแอพฯ Brother iPrint&Scan มาติดตั้งได้
• ราคา 9,990 บาท (Brother Official Store Lazada)

6. RICOH SP C261SFNw (14,540 บาท)

ส่วนเครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้คุณภาพสูงสำหรับออฟฟิศอีกรุ่นที่แนะนำคือ RICOH SP C261SFNw ที่ออกแบบมาเพื่อปริ้นท์งานหนักโดยเฉพาะ รองรับการปริ้นท์งานหนักได้เดือนละ 30,000 แผ่น ตัวถาดใส่กระดาษรองรับสูงสุด 150 แผ่น ระบบการปริ้นท์เป็น Laser มีฟังก์ชั่นปริ้นท์, ถ่าย, สแกนเอกสารและส่งแฟ็กซ์ได้ทั้งหมด รองรับการเชื่อมต่อด้วย Wi-Fi, USB 2.0, NFC ได้ สามารถปริ้นท์เอกสารสีและขาวดำขนาด A4 ได้ 20 แผ่น/นาที โหลดแอพฯ RICOH Smart Device Connector มาลงในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต Android, iOS มาติดตั้งและใช้งานได้และรองรับ Apple AirPrint ด้วย ส่วนระบบปฏิบัติการรองรับตั้งแต่ Windows Vista, Mac OS X 10.9 เป็นต้นไป รวมทั้งรองรับ Linux ด้วย ซึ่งถ้าออฟฟิศไหนหาเครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้ที่ใช้งานหนักๆ ได้สบายๆ แนะนำให้ดู RICOH เอาไว้ได้เลย

สเปคของ RICOH SP C261SFNw

• ปริ้นเตอร์ระบบ Laser รองรับการปริ้นท์งานได้เดือนละ 30,000 แผ่น
• ปริ้นท์ตามระบบการพิมพ์ CMYK ถาดใส่กระดาษหนาได้ 80 แกรมได้ 150 แผ่น
• รองรับการปริ้นท์, สแกนเป็นไฟล์ PDF, ถ่ายเอกสารและรับส่งแฟ็กซ์ได้
• ปริ้นท์กระดาษ A4 ทั้งสีและขาวดำเร็วสุด 20 แผ่น/นาที
• เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB 2.0, Wi-Fi, NFC
• รองรับพีซีระบปฏิบัติการ Windows Vista, Mac OS X 10.9, Linux เป็นต้นไป
• รองรับ Apple AirPrint โหลดแอพฯ RICOH Smart Device Connector มาติดตั้งได้
• ราคา 14,540 บาท (OfficeMate)

สรุปสเปคเครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้ 6 รุ่น น่าซื้อไว้ใช้ในออฟฟิศ

สำหรับเครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้จะมีตั้งแต่รุ่นราคาไม่แพงใช้งานในบ้าน ถ่ายเอกสารไว้ใช้งานทั่วๆ ไปราคาไม่แพงให้เลือก และถ้าใช้งานหนักอย่างเป็น Home Office หรือถ้าเป็นสำนักงานขนาดกลาง-ใหญ่ ก็มีให้เลือกหลากหลายรุ่น ซึ่งถ้าสรุปสเปคจะเป็นดังนี้

สุดท้ายถ้าต้องเลือกเครื่องปริ้นถ่ายเอกสารได้มาใช้งานสักเครื่อง ถ้าใช้งานกับพีซีเครื่องไหนสักเครื่องจะเลือกซื้อเป็นรุ่นที่ต่อ USB อย่างเดียวก็ได้ แต่ถ้ามีคอมพิวเตอร์ในบ้านหลายเครื่องแนะนำให้เลือกรุ่นที่ต่อ Wi-Fi ได้จะดีกว่า เพราะถ้าทุกคนมีคอมพิวเตอร์ส่วนตัวแล้วต้องปริ้นท์งานก็ไม่ต้องเซฟใส่ USB มาปริ้นท์คอมเครื่องที่ต่อปริ้นเตอร์อย่างเดียว สามารถกดสั่งปริ้นท์จากคอมเครื่องที่ใช้งานอยู่ได้เลยแล้วค่อยเดินไปเอาเอกสารที่เครื่องทีหลัง จะได้ไม่ต้องรอเข้าคิวหรือรบกวนคนอื่นที่ใช้คอมเครื่องนั้นอยู่ด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง

• Review DeepCool MC310 เกมมิ่งเมาส์ตัวเบา 75 กรัม 12,800 DPI เล่นเกมมันส์!

• MacBook ราคานักเรียนซื้อที่ไหนได้บ้าง? ฉบับอัพเดทปี 2021

• 7 SSD External เซฟงานไวทันใจในพริบตา เอามาต่อคอนโซลหรือมือถือก็ได้เริ่มแค่ 2,390 บาทเอง!