Connect with us

Hi, what are you looking for?

Buyer's Guide

6 แอนดรอยทีวี 4K HDR ภาพสวยคมดูหนังเพลินทั้งวัน เริ่ม 8,990 บาทเอง!

แอนดรอยทีวีดีๆ ตอนนี้หาซื้อได้ง่าย ได้ดูจอ 4K HDR10+ แล้วนะ!

androidtv cover

ถ้าในวันหยุดใครมีหนังที่อยากดูยาวๆ หรือมีคลิปแคสเกมที่อยากดูชิลๆ ในห้องนั่งเล่นที่บ้าน อย่างไรผู้เขียนก็แนะนำให้มีแอนดรอยทีวีสักเครื่องเอาไว้นั่งดูแบบจอใหญ่สะใจ ไม่ต้องเพ่งในสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตให้ปวดตา และถ้าใครมีเครื่องเกมคอนโซลอย่าง PlayStation 4, PlayStation 5, Nintendo Switch ก็หยิบมาต่อทีวีแล้วเล่นเกมได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลว่าต่อแล้วจะใช้ได้ไหมและบางรุ่นก็มีฟีเจอร์เอื้อกับการเล่นเกมเสริมเข้ามาอีกด้วย

Advertisement

ส่วนคำถามว่าทำไมต้องเป็นแอนดรอยทีวี? นั่นเพราะทีวีประเภทนี้จะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android เอาไว้ จึงติดตั้งแอพฯ สตรีมมิ่งยอดนิยมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Amazon Prime Video, Disney+ Hotstar, iQiYi ฯลฯ เอาไว้ดูได้มากมาย รองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านทาง Wi-Fi หรือ LAN ก็ได้ และบางรุ่นก็มีฟีเจอร์อย่าง Chromecast รองรับการ Cast คลิปจากสมาร์ทโฟนขึ้นไปยังทีวีได้ด้วย ดังนั้นถ้ามีติดห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนเอาไว้ก็มีประโยชน์อย่างแน่นอน

แอนดรอยทีวี

6 แอนดรอยทีวี 4K HDR น่าซื้อมาติดห้องนั่งเล่น อัพเดทความบันเทิงให้เต็มอิ่ม

ปัจจุบันแอนดรอยทีวีสักเครื่องราคาไม่ได้แพงมากแล้ว หลายๆ รุ่นก็ราคาถูกพร้อมฟีเจอร์ดีๆ เสริมเข้ามาให้มากมาย ส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตจากประเทศจีนที่เข้ามาทุ่มตลาดด้วยทีวีฟีเจอร์ล้นแต่ราคาไม่แพงมาก บางแบรนด์อาจจะไม่คุ้นหูนักแต่ก็มีผู้ให้บริการหลังการขายในประเทศไทยทั้งหมด โดยรุ่นที่เลือกมาแนะนำจะมีดังนี้

  1. Xiaomi Mi TV P1 (8,990 บาท)
  2. Hisense 43E7G (9,050 บาท)
  3. COOCAA 50S6G PRO (9,799 บาท)
  4. TCL 43H6000A (9,990 บาท)
  5. SKYWORTH 55SUC7500  (17,990 บาท)
  6. Sony KD-43X75 (18,600 บาท)
1. Xiaomi Mi TV P1 (8,990 บาท)

mi

Xiaomi Mi TV P1 เรียกว่าเป็นสมาร์ททีวีระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ที่เข้ามาสร้างกระแสฮือฮาในหมู่ผู้ใช้ที่มีสินค้ารอบตัวเป็น Mi Ecosystem และบริษัทในเครืออย่างมาก เนื่องจากฟีเจอร์เด่นของทีวีรุ่นนี้คือ มี MEMC (Motion Estimation, Motion Compensation) เป็นระบบแทรกเฟรมภาพเพิ่มเข้าไปในวิดีโอด้วยชิปในทีวี, ความละเอียดระดับ 4K HDR10+ และ Dolby Vision รวมทั้งขอบเขตสีกว้างระดับ DCI-P3 ทำให้สีสันบนหน้าจอสวยและแม่นยำ ระบบเสียงรองรับ Dolby Audio, DTS-HD มี Chromecast ในตัวสามารถส่งภาพจากหน้าจอมือถือขึ้นไปทีวีได้ทันที และมี Google Assistant ในตัว ทำให้สั่งทีวีคุมอุปกรณ์ Smart Home ชิ้นอื่นๆ ในบ้านได้เพียงแค่นั่งหน้าทีวีเท่านั้น

ทีวีรุ่นนี้จะมีขนาด 43 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD HDR10+ พร้อม HLG รองรับ Dolby Vision ส่วน MEMC อยู่ที่ระดับ UHD 60 Hz ติดตั้งลำโพงคู่สเตอริโอ กำลังขับ 10+10 วัตต์ รองรับ Dolby Audio และ DTS-HD ให้คุณภาพเสียงคมชัด ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 10 ในตัว มี ROM 16GB, RAM 2GB สามารถติดตั้งแอพฯ อื่นๆ เพิ่มเติมได้ รองรับ Wi-Fi 5 GHz และ Bluetooth 5.0 ที่ตัวเครื่องมีพอร์ต HDMI x 3 ช่อง รองรับ eARC x 1 ช่อง, USB 2.0 x 2, AV x 1, LAN x 1, Optical audio x 1, ช่องหูฟัง 3.5 มม. x 1, DVB-T2 x 1 จัดเป็นแอนดรอยทีวีรุ่นแรกที่ราคาไม่แพงเกินไปแต่ฟีเจอร์ให้มาเต็มเครื่อง

สเปคของ Xiaomi Mi TV P1
  • ทีวีขนาด 43 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD HDR10+, HLG รองรับ Dolby Vision มี MEMC ระดับ UHD 60 Hz
  • ติดตั้ง Chromecast ไว้ในตัวเพื่อแชร์หน้าจอมือถือขึ้นทีวีได้
  • ลำโพงคู่สเตอริโอ กำลังขับ 10+10 วัตต์ รองรับ Dolby Audio และ DTS-HD
  • ระบบปฏิบัติการ Android 10 มี ROM 16GB, RAM 2GB
  • มีพอร์ต HDMI x 3 ช่อง รองรับ eARC x 1 ช่อง, USB 2.0 x 2, AV x 1, LAN x 1, Optical audio x 1, ช่องหูฟัง 3.5 มม. x 1, DVB-T2 x 1
  • รองรับ Wi-Fi 5 GHz และ Bluetooth 5.0
  • ราคา 8,990 บาท (Mi Store)
2. Hisense 43E7G (9,050 บาท)

60b756c2Nbf21f2f1.jpgq70

Hisense ก็เป็นแบรนด์แอนดรอยทีวีที่ได้ทั้งความคุ้มค่าและสเปคเกินตัวอีกแบรนด์ไม่แพ้กับ Xiaomi เลยทีเดียว โดยฟีเจอร์เด่นหลักๆ ของ Hisense 43E7G นอกจากความละเอียดสูง 4K UHD HDR10+ แล้ว ยังมี Ultra Dimming เพิ่มลดแสงจัดในภาพให้เหมาะสม ช่วยให้ภาพบนจอทีวีดูสมจริงยิ่งขึ้นและรองรับ Dolby Vision พร้อม Sport&Game Mode ที่ลดความหน่วงของภาพเคลื่อนไหวเร็วอย่างเกมหรือกีฬาลง ทำให้ภาพคมชัดยิ่งขึ้น และรองรับ Screen Share ที่แชร์ภาพหน้าจอมือถือขึ้นมาหน้าจอคอมได้ด้วย

สเปคของ Hisense 43E7G ตัวนี้มีขนาดจอ 43 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD HDR10+ มีฟีเจอร์ Ultra Dimming, Dolby Vision และเทคโนโลยี Precision Color ที่ทาง Hisense พัฒนาเองเพื่อให้สีสันสวยและแม่นยำขึ้น ติดตั้งลำโพง 12+12 วัตต์ รองรับ Dolby Audio, DTS Virtual:X ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 9.0 มาให้ รองรับการติดตั้งแอพฯ สตรีมมิ่งต่างๆ เพิ่มเติม มี Chromecast ในตัว รองรับการแชร์ภาพจากหน้าจอมือถือขึ้นทีวีได้ทันที เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ด้วย Wi-Fi 5 GHz และ Bluetooth 5.0 ได้ มีพอร์ต HDMI x 3, USB x 2, Optical x 1, DVB-T2 x 1, RJ 45 LAN x 1 ด้วย ซึ่งถ้าใครอยากได้แอนดรอยทีวีเอาไว้ต่อเครื่องเกมคอนโซลก็แนะนำให้ดู Hisense รุ่นนี้เอาไว้ได้เลย

สเปคของ Hisense 43E7G
  • ทีวีขนาด 43 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD HDR10+ รองรับ Dolby Vision มี Sport&Game Mode
  • ติดตั้ง Chromecast ไว้ในตัวเพื่อแชร์หน้าจอมือถือขึ้นทีวีได้
  • ลำโพงคู่สเตอริโอ กำลังขับ 12+12 วัตต์ รองรับ Dolby Audio, DTS Virtual:X
  • ระบบปฏิบัติการ Android 9.0
  • มีพอร์ต HDMI x 3, USB x 2, Optical x 1, DVB-T2 x 1, LAN x 1
  • รองรับ Wi-Fi 5 GHz และ Bluetooth 5.0
  • ราคา 9,050 บาท (Hisense Shopee Mall)
3. COOCAA 50S6G PRO (9,799 บาท)

coocaa

เชื่อว่าหลายๆ คนไม่คุ้นหูแบรนด์ COOCAA อย่างแน่นอน แต่จริงๆ แล้วแบรนด์นี้ผลิตแอนดรอยทีวีที่ดี คุณภาพสวนทางกับราคาออกมาเป็นระยะๆ เช่น COOCAA 50S6G ตัวนี้ที่เลือกมาแนะนำ ไม่ว่าจะราคาค่าตัวเท่ากับแอนดรอยทีวีแบรนด์อื่นๆ แต่ขนาดหน้าจอทีวีขยายขึ้นไป 50 นิ้วแล้วและดีไซน์กรอบบางและรองรับการแชร์หน้าจอจากสมาร์ทโฟนขึ้นทีวีได้เหมือนกัน เรียกว่าใครขอคุ้มๆ จ่ายน้อยๆ มาดูแบรนด์นี้เอาไว้ก่อนได้เลย

สเปคของ COOCAA 50S6G จะเป็นแอนดรอยทีวีขนาด 50 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD HDR10+ ดีไซน์หน้าจอกรอบบาง ทำให้มีพื้นที่ในการมองเห็นสุดกรอบ ติดตั้งลำโพงกำลังขับ 10+10 วัตต์ รองรับ Dolby Audio ส่วนระบบปฏิบัติการในทีวีเป็น Android 10 มี ROM 32GB, RAM 2GB สามารถติดตั้งแอพฯ สตรีมมิ่งต่างๆ ได้เยอะขึ้น รองรับการแชร์ภาพจากหน้าจอมือถือขึ้นทีวีได้ เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ด้วย Wi-Fi 2.4 GHz รองรับ Bluetooth ในตัว มีพอร์ต HDMI x 3, USB x 2, LAN x 1, AV x 1, DVB-T2 x 1 ซึ่งถ้าใครอยากได้ทีวีระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์สักตัวขนาดใหญ่ๆ เอาไว้ดูหนังตอนวันหยุดล่ะก็ แนะนำให้ดู COOCAA ตัวนี้ไว้ได้เลย และมีศูนย์บริการในประเทศไทยรองรับแล้วด้วย

สเปคของ COOCAA 50S6G
  • ทีวีขนาด 50 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD HDR10+ ดีไซน์ขอบบางสุดกรอบ
  • รองรับการแชร์หน้าจอมือถือขึ้นทีวีได้
  • ลำโพงคู่สเตอริโอ กำลังขับ 10+10 วัตต์ รองรับ Dolby Audio
  • ระบบปฏิบัติการ Android 10 มี ROM 32GB, RAM 2GB
  • มีพอร์ต HDMI x 3, USB x 2, LAN x 1, AV x 1, DVB-T2 x 1
  • รองรับ Wi-Fi 2.4 GHz และ Bluetooth 
  • ราคา 9,799 บาท (COOCAA JD Central)
4. TCL 43H6000A (9,990 บาท)

tcl

ชื่อของ TCL นั้นน่าจะคุ้นหูคนไทยบางกลุ่มขึ้นมาบ้างแล้วด้วยชื่อชั้นความแข็งแรงทนทาน ใช้งานหลายปีไม่พังง่าย และ TCL 43H6000A รุ่นนี้ก็เป็นรุ่นคุณภาพสำหรับคนหาแอนดรอยทีวีไว้ดูหนังสักตัว โดยฟีเจอร์เด่นคือ Rich Color Expansion ที่ TCL พัฒนาเองเพื่อให้สีสันบนหน้าจอสวยเข้มสมจริงยิ่งขึ้นและมี Micro Dimming แยกโซนแล้วปรับความสว่างหน้าจอแยกโซนกันให้ความสว่างเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในห้อง รองรับการแชร์หน้าจอมือถือขึ้นทีวีด้วย MagiConnect ที่ทาง TCL พัฒนาเองและ Chromecast และรองรับ AI-IN เมื่อเชื่อมต่อทีวีเข้ากับอินเตอร์เน็ตของที่บ้านผ่าน Google Home แล้วเราสามารถสั่งอุปกรณ์สมาร์ทโฮมทุกชิ้นในบ้านผ่านทีวีได้เลย

สเปคทีวีตัวนี้เป็นจอขนาด 43 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD HDR10 ดีไซน์กรอบบาง ติดตั้งลำโพง 9.5+9.5 วัตต์มาให้ รองรับ Dolby Audio ให้คุณภาพเสียงดียิ่งขึ้น ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 9.0 มาให้ มี Google Assistant ในตัว รองรับ Wi-Fi, Bluetooth มีพอร์ต HDMI x 2, USB x 1, AV x 1, DVB-T2 x 1, ช่องหูฟัง 3.5 มม. x 1, S/PDIF x 1, LAN x 1 มาแบบครบเครื่อง จัดเป็นแบรนด์ทีวีที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน สเปคมาครบๆ แนะนำให้ดูตัวนี้เอาไว้ได้เลย

สเปคของ TCL 43H6000A
  • ทีวีขนาด 43 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD HDR10 ดีไซน์ขอบบางสุดกรอบ
  • รองรับการแชร์หน้าจอมือถือขึ้นทีวีได้ด้วย MagiConnect, Chromecast
  • ลำโพงคู่สเตอริโอ กำลังขับ 9.5+9.5 วัตต์ รองรับ Dolby Audio
  • ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 
  • มีพอร์ต HDMI x 2, USB x 1, AV x 1, DVB-T2 x 1, ช่องหูฟัง 3.5 มม. x 1, S/PDIF x 1, LAN x 1
  • รองรับ Wi-Fi และ Bluetooth 
  • ราคา 9,990 บาท (Siamnano Shopee)
5. SKYWORTH 55SUC7500  (17,990 บาท)

skyworth

SKYWORTH 55SUC7500 นั้นเป็นอีกแบรนด์ที่หลายๆ คนอาจจะเห็นผ่านสื่อและเว็บไซต์ต่างๆ เป็นระยะๆ ว่าเป็นทีวีที่เป็น Android 10 รุ่นแรกๆ ของประเทศไทย ดีไซน์ขอบหน้าจอบางและใส่ชุดคำสั่งบีบอัดแบนด์วิธวิดีโอ AV1 มาให้พร้อมชิป Chameleon Extreme 2.0 ให้สีสันบนหน้าจอสมจริงยิ่งขึ้น มี Google Assistant สั่งการทำงานทีวีได้ทั้งเครื่องรวมทั้งรองรับการสั่งอุปกรณ์สมาร์ทโฮมในบ้านผ่านทีวีได้และมี Game Mode ให้ภาพไหลลื่นขึ้น มี Chromecast รับการแชร์ภาพจากหน้าจอจากสมาร์ทโฟนได้ด้วย

สเปคของ SKYWORTH รุ่นนี้มีขนาดหน้าจอ 55 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD HDR10 ดีไซน์กรอบบางพิเศษ มีลำโพงรองรับ Dolby Audio และ DTS Trusuround ให้คุณภาพเสียงดีและหนักแน่นพร้อมปรับเพิ่มลดความดังเสียงโดยอัตโนมัติ ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 10 มาให้มี ROM 32GB, RAM 2GB สามารถติดตั้งแอพฯ สำหรับดูรายการสตรีมมิ่งได้เยอะขึ้น มีพอร์ต HDMI 2.0 x 3, USB 2.0 x 3, S/PDIF x 1, AV x 1, LAN x 1 เชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4 GHz และ Bluetooth 5.0 ได้ด้วย ซึ่งถึงราคาจะสูงขึ้นมาบ้างแต่คุณภาพและฟีเจอร์ที่ใส่มาให้เรียกว่าน่าสนใจทีเดียว

สเปคของ SKYWORTH 55SUC7500
  • ทีวีขนาด 43 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD HDR10 ดีไซน์ขอบบางสุดกรอบ
  • มี Chromecast รองรับการแชร์จอมือถือขึ้นทีวี, มีชุดคำสั่ง AV1 บีบอัดไฟล์หนัง
  • ลำโพงคู่สเตอริโอ รองรับ Dolby Audio และ DTS Trusurround
  • ระบบปฏิบัติการ Android 10 มี ROM 32GB, RAM 2GB
  • มีพอร์ต HDMI 2.0 x 3, USB 2.0 x 3, S/PDIF x 1, AV x 1, LAN x 1
  • รองรับ Wi-Fi 2.4 GHz และ Bluetooth 5.0
  • ราคา 17,990 บาท (SKYWORTH Shopee Mall)
6. Sony KD-43X75 (18,600 บาท)

sony

ขึ้นชื่อว่า Sony แล้ว เรื่องความบันเทิงไม่ว่าจะเครื่องเล่นเกมคอนโซลหรือทีวีเรียกว่าไว้ใจได้แน่นอน ซึ่งแอนดรอยทีวีรุ่นที่เลือกมาแนะนำจะเป็นรุ่น Sony KD-43X75 ที่ราคาพอเข้าถึงได้ไม่ยาก แต่มีฟีเจอร์น่าสนใจอย่างชิป 4K Processor X1 ช่วยจัดการภาพบนหน้าจอให้สวยงาม มีฟีเจอร์ Motionflow XR 200 ติดตั้งมาให้พร้อมชิป 4K X-Reality PRO เพิ่มความสวยงามคมชัดกว่าเดิมและมี Chromecast ในตัว รองรับการแชร์ภาพหน้าจอจากมือถือขึ้นทีวีได้ทันที

สเปคทีวีรุ่นนี้ของ Sony มีขนาด 43 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD HDR10, HLG ติดตั้งลำโพง Full-range แบบ 10+10 วัตต์มาให้ รองรับ Dolby Audio ด้วย ช่วยให้ได้อรรถรสเวลาดูหนังหรือเล่นเกมยิ่งขึ้น ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android มาให้ มี ROM 16GB ไว้ติดตั้งแอพฯ สตรีมมิ่งที่ต้องการเพิ่มเติมได้ รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5 GHz และ Bluetooth 4.2 ด้วย รอบตัวมีพอร์ต HDMI x 3 มีช่อง ARC, USB x 2, Composite x 1, S/PDIF x 1, LAN x 1, ช่องหูฟัง 3.5 มม. x 1 จัดเป็นแอนดรอยทีวีรุ่นที่ดีไม่แพงเกินไปสำหรับคนที่ไว้ใจเชื่อถือชื่อชั้น Sony มากรุ่นหนึ่ง

สเปคของ Sony KD-43X75
  • ทีวีขนาด 43 นิ้ว ความละเอียด 4K UHD HDR10, HLG มีชิป 4K Processor X1, Motionflow XR 200, 4K X-Reality PRO
  • มี Chromecast รองรับการแชร์จอมือถือขึ้นทีวี
  • ลำโพงคู่สเตอริโอ 10+10 วัตต์ รองรับ Dolby Audio
  • ระบบปฏิบัติการ Android มี ROM 16GB
  • มีพอร์ต HDMI x 3 มีช่อง ARC, USB x 2, Composite x 1, S/PDIF x 1, LAN x 1, ช่องหูฟัง 3.5 มม. x 1
  • รองรับ Wi-Fi 5 GHz และ Bluetooth 4.2
  • ราคา 18,600 บาท (LCD TV Thailand Shopee)

สรุปสเปคแอนดรอยทีวี 6 รุ่นสุดคุ้มน่าจัด มีตัวไหนน่าโดนบ้าง?

จะเห็นว่าแอนดรอยทีวีในปัจจุบันนี้ราคาไม่แพงมากและหาซื้อได้ง่าย ถ้ามีติดห้องนั่งเล่นเอาไว้ก็ช่วยให้ดูหนังฟังเพลงได้อรรถรสยิ่งขึ้นหรือจะต่อเครื่องเล่นเกมคอนโซลไว้เล่นเกมก็ได้ ถ้าสรุปสเปคจะเป็นดังนี้

สเปคแอนดรอยทีวี ขนาด, ความละเอียดหน้าจอและฟีเจอร์ ลำโพง ระบบปฏิบัติการ การเชื่อมต่อ ราคา
Xiaomi Mi TV P1 43″ 4K UHD
HDR10+
HLG

Chromecast
10+10 วัตต์

Dolby Audio

DTS-HD
Android 10

ROM 16GB

RAM 2GB
HDMI x 3
(eARC x 1)

USB 2.0 x 2

AV x 1

LAN x 1

Optical audio x 1

ช่องหูฟัง 3.5 มม. x 1

DVB-T2 x 1

Wi-Fi 5 GHz

Bluetooth 5.0
8,990 บาท
Hisense 43E7G 43″ 4K UHD
HDR10+
Dolby Vision

Sport&Game Mode

Chromecast
12+12 วัตต์

Dolby Audio

DTS Virtual:X
Android 9.0 HDMI x 3

USB x 2

Optical x 1

DVB-T2 x 1

LAN x 1

Wi-Fi 5 GHz

Bluetooth 5.0
9,050 บาท
COOCAA 50S6G PRO 50″ 4K UHD
HDR10+

รองรับการแชร์
จอมือถือขึ้นทีวี
10+10 วัตต์

Dolby Audio
Android 10

ROM 32GB

RAM 2GB
HDMI x 3

USB x 2

LAN x 1

AV x 1

DVB-T2 x 1

Wi-Fi 2.4 GHz

Bluetooth
9,799 บาท
TCL 43H6000A 43″ 4K UHD
HDR10

MagiConnect

Chromecast
9.5+9.5 วัตต์

Dolby Audio
Android 9.0 HDMI x 2

USB x 1

AV x 1

DVB-T2 x 1

ช่องหูฟัง 3.5 มม. x 1

S/PDIF x 1

LAN x 1

Wi-Fi

Bluetooth
9,990 บาท
SKYWORTH 55SUC7500 43″ 4K UHD
HDR10

Chromecast

ชุดคำสั่ง AV1
ลำโพงสเตอริโอ

Dolby Audio

DTS Trusurround
Android 10

ROM 32GB

RAM 2GB
HDMI 2.0 x 3

USB 2.0 x 3

S/PDIF x 1

AV x 1

LAN x 1

Wi-Fi 2.4 GHz

Bluetooth 5.0
17,990 บาท
Sony
KD-43X75
43″ 4K UHD
HDR10+
HLG

4K Processor X1

Motionflow XR 200

4K X-Reality PRO

Chromecast
10+10 วัตต์

Dolby Audio
Android 10

ROM 16GB
HDMI x 3
(มีช่อง ARC)

USB x 2

Composite x 1

S/PDIF x 1

LAN x 1

ช่องหูฟัง 3.5 มม. x 1

Wi-Fi 5 GHz

Bluetooth 4.2
18,600 บาท

สำหรับคนที่คิดจะซื้อแอนดรอยทีวีเครื่องใหม่มาใช้ที่บ้านนั้น จากที่ผู้เขียนเลือกมาแนะนำจะเป็นทีวีรุ่นเริ่มต้นที่ราคาไม่แพงมาก และเป็นรุ่นเริ่มต้นที่น่าจะตอบโจทย์การใช้งานของใครหลายๆ คนได้แล้ว แต่ทีวีกับพีซีจะมีสิ่งที่เหมือนกันคือ ถ้าเราลงทุนกับมันเยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็จะมีฟีเจอร์น่าสนใจเพิ่มขึ้น บางรุ่นก็เป็นทีวีที่รองรับระบบระบบเสียงคุณภาพสูง, มีช่อง eARC HDMI ช่วยให้เล่นเกมคอนโซลแล้วภาพลื่นนวลตายิ่งกว่าเดิม ฯลฯ ซึ่งทีวีบางตัวราคาอาจจะเหยียบหลักครึ่งแสนหรือหลักแสนเลยก็ได้ ซึ่งในส่วนนี้ก็ขึ้นอยู่กับโจทย์ของแต่ละคนเช่นกัน


บทความที่เกี่ยวข้อง

prestige cover

lol cover

g435 cover

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

CONTENT

Google services 7 บริการที่เคยมี แต่วันนี้หายไป มีอะไรบ้าง ตามที่มีข้อมูลออกมา ก็นับเป็นเวลานานมากแล้วที่ Google services มีนโยบายค่อนข้างเปิดกว้างให้กับพนักงานของตนเองได้ลองเสนอไอเดีย สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมา เราจึงได้เห็นว่าจะมีบริการใหม่ออกมาอยู่เสมอ บางตัวก็ได้รับการใช้งานจนติดตลาดและกลายเป็นหนึ่งในบริการหลักไปเลย แต่บางตัวที่อาจจะได้รับความนิยมน้อยหน่อย หรือมีการปรับเปลี่ยนแนวทางภายใน เราก็มักจะเห็น Google ปิดบริการเหล่านั้น หรือยุบไปรวมกับบริการอื่นแทน ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่ามีบริการใดบ้างที่ถูกปิดไปแล้ว ซึ่งบางตัวก็ต้องบอกว่ามันใช้งานได้ดีในยุคนั้น...

Buyer's Guide

แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 3000 บาทอยากซื้อไว้ดูหนังหรืออ่านหนังสือก็ได้นะ! แม้แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 3000 บาทจะดูราคาไม่แพงมากจนบางคนติดภาพว่าประสิทธิภาพของมันคงทำอะไรไม่ได้มาก แต่จริงๆ แล้วชิปเซ็ตยุคใหม่นี้ก็มีประสิทธิภาพดีขึ้นพอควร จะใช้ดูคลิปบน YouTube หรือใช้เป็น Ebook Reader ก็ยังได้ แถมส่วนใหญ่ติดตั้งพอร์ต USB-C มาให้โอนไฟล์และชาร์จแบตเตอรี่แล้ว และขนาดตัวเครื่องก็พกพาง่ายเพียง 8 นิ้วเท่านั้น จึงหยิบใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนได้ง่ายขึ้นมาก อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นแท็บเล็ตราคาประหยัดทำให้ผู้ผลิตไม่ค่อยอัปเดตเวอร์ชั่น Android ให้เป็นปัจจุบันนัก...

Tips & Tricks

8 แอพแปลภาษา เป็นเพื่อนไปเที่ยวต่างประเทศ แปลด้วยเสียงได้หลายภาษา เร็วทันใจ คนฟังเข้าใจ ไปไหนก็สะดวก แปลภาษาบางครั้งก็เป็นเรื่องยาก เวลาที่ต้องเดินทางไปเที่ยวหรือสนทนากับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคนที่ยังไม่สามารถพูดคุยสอบถามเป็นภาษาอังกฤษ หรือไปยังที่ที่ไม่ได้ใช้ภาษากลาง จะใช้ชีวิต ถามเส้นทางหรือจะหาร้านอาหารก็ดูจะยากเย็น แต่ปัจจุบันมีเครื่องมือที่ช่วยในการแปลภาษามากมาย ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม แอพพลิเคชั่นหรือการใช้เครื่องแปลภาษา ก็มีวางจำหน่ายอยู่ไม่น้อย ขึ้นอยู่กับความต้องการหรือความสะดวกในการใช้งานของแต่ละบุคคล ยิ่งถ้าเป็นเครื่องมือหรือแอพที่ใช้ฟรีด้วยแล้ว ก็น่าจะถูกใจใครหลายคนทีเดียว วันนี้เรานำแอพที่ใช้เสียงในการป้อนข้อมูล และหาคำแปล พร้อมออกเสียงมาเป็นประโยคให้กับคนที่กำลังศึกษาหรือพาตัวเองสู่โลกกว้างในต่างประเทศมาแนะนำกัน 8...

CONTENT

พบกับวิธีส่งไฟล์จากสมาร์ทโฟนไปยัง PC ที่ง่ายและสบายกว่าที่คุณคิดเพียงไม่กี้ขั้นตอนที่คุณเองก็สามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน เชื่อว่าหลายๆ ท่านนั้นใช้สมาร์ทโฟนทั้งโหลดไฟล์และถ่ายรูปกันเป็นเรื่องปกติไปแล้วในทุกๆ วันนี้ สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นก็อาจจะมีอีกหลายๆ ท่านที่อยากจะส่งไฟล์หรือรูปภาพเหล่านั้นไปยังคอมพิวเตอร์ Windows ซึ่งโดยปกติแล้ววิธีที่เราๆ ท่านๆ คุ้นเคยกันนั้นก็คือการเชื่อมต่อสายเคเบิล USB โดยตรง ทว่าหากคุณมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5 ขึ้นไปแล้วล่ะก็ท่านอาจพบว่าการถ่ายโอนแบบไร้สายจากโทรศัพท์ไปยังพีซีทำได้รวดเร็วและสะดวกกว่าแถมในปัจจุบันนั้นมีแอปพลิเคชั่นที่ช่วยให้การโอนถ่ายไฟล์ผ่าน Wi-Fi นั้นง่ายขึ้นกว่าเดิมให้เราๆ ท่านๆ ได้โหลดมาใช้งานกันแล้ว...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก