แนะนำซีรี่ย์ญี่ปุ่น ที่ต้องดูให้ได้ ไม่ควรพลาด เนื้อหาเข้มข้น ดูเพลินได้ทุกโอกาส
ใครว่ามีแค่ซีรี่ย์เกาหลีที่ฮิต ซี่รี่ย์ญี่ปุ่นนั้น ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กันเลย เรามาดูกันดีกว่าว่ามีซีรี่ย์เรื่องไหนน่าดู น่าติดตามกันบ้าง โดยที่ทีมงานจะนำมาแนะนำนั้น เป็นซีรี่ย์ญี่ปุ่นซับไทยเสียส่วนใหญ่ เหมาะสำหรับใครที่อยากฝึกภาษาไปในตัวด้วย ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้นไม่ต้องพูดถึง เข้มข้น น่ารัก ตามสไตล์ญี่ปุ่นอย่างแน่นอน
- Good Doctor
- GTO: Great Teacher Onizuka
- Good Morning Call
- Doctor X
- Midnight Diner : Tokyo Stories
- Alice in Borderland
- Legal V
- Izakaya Bottakuri
- Switched
- Erased
- Love Lasts Forever
- Mischievous Kiss Love in Tokyo
- Signal
- Stay Tuned
- The Naked Director
1. Good Doctor
Good Doctor เวอร์ชั่นญี่ปุ่น เป็นซีรี่ย์ที่รีเมคมาจากเวอร์ชันเกาหลีที่ออกอากาศในปี 2013 ซึ่งทำออกมาได้ดีมากๆ ในเวอร์ชันนี้จะเป็นเวอร์ชันที่ออกอากาศในปี 2018 เล่าเรื่องของ ชินโด มินาโตะ แพทย์ฝึกหัดประจำโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในแผนกกุมารเวชศาสตร์ (แผนกดูแลผู้ป่วยเด็ก) เขามีความรู้เรื่องกายภาพมนุษย์เป็นอย่างดีจนได้รับการบรรจุจาก ผอ.โรงพยาบาลผู้ซึ่งถ่ายทอดวิชาการแพทย์ให้เขาตั้งแต่เด็ก เข้ามาเป็นแพทย์ฝึกหัดที่นี่ แต่ปัญหาคือเขาเป็นผู้ป่วยออทิสติก ซึ่งนอกจากต้องใช้ความสามารถที่มีช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กๆให้มีชีวิตต่อไปแล้ว ยังต้องพิสูจน์ตนเองให้เพื่อนร่วมงานที่เป็นมนุษย์ปกติทั่วไปเห็นว่า คนป่วยอย่างเขาก็เป็นหมอที่ดีและใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้
2. GTO: Great Teacher Onizuka
GTO หรือ Great Teacher Onizuka นั้น โด่งดังเป็นอย่างมากในเวอร์ชันการ์ตูน หรืออนิเมะ ที่ทำเอากลายเป็นการ์ตูนในดวงในของใครหลายๆ คนเลย สำหรับเวอร์ชันซีรี่ย์คนแสดงนั้นก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กัน จากการ์ตูนที่โด่งดังมายาวนาน ได้กลายเป็นซีรี่ย์ญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมในอดีต ถึงเวลากลับมารีเมคใหม่อีกครั้งใน Great Teacher Onizuka (GTO 2012) กับเรื่องราวของจิ๊กโก๋สุดซ่า โอนิซึกะ เอคิจิ ที่กลายมาเป็นคุณครูในโรงเรียนมีชื่อ ด้วยความเก๋าระดับหัวหน้าแก็งค์มอไซค์ ต้องมาจัดการกับเด็กแสบทั้งหลายที่กำจัดครูประจำชั้นของตัวเองไปแล้วหลายคน เขาจะแก้ปัญหาต่างๆ ของนักเรียนเหล่านี้โดยที่ตัวเองไม่ถูกไล่ออกซะก่อนได้หรือไม่ ติดตามชมได้ใน GTO
3. Good Morning Call
Good Morning Call ซีรีย์แนวโรแมนติก คอมเมดี้ ที่ดัดแปลงมาจากมังงะชื่อดัง เป็นเรื่องราวของสาวมัธยมที่มาเช่าอพาร์ทเม้นท์ใกล้โรงเรียน แต่ดันไปโดนโกงสัญญาเช่า จนเกิดปัญหาไปเช่าห้องเดียวกับหนุ่มฮอตของโรงเรียน เลยจำเป็นต้องแชร์ห้องอยู่ด้วยกัน บอกเลยว่าเรื่องนี้ฟินโคตรๆ สนุก เขินจนจิกหมอนรัวๆ เรื่องนี้มีผู้ชายหล่อกรุบกริบเยอะมาก พระเอกงานดี พระรองก็น่ารัก นางเอกก็น่ารักมากเช่นกัน ดูแล้วเหมือนมีความ F4 ผสม Full house + the heirs เรื่องนี้มี 2 season ซีซั่น 1 เกี่ยวกับมัธยม ส่วนซีซั่น 2 เกี่ยวกับมหาลัย ใครชอบซีรีย์ญี่ปุ่นรักวัยใสต้องดู รับรองได้เลยว่าติดใจอย่างแน่นอน
4. Doctor X
ซีรี่ย์แนวดราม่า วงการการแพทย์ ซีรี่ย์เรื่องนี้ขึ้นชื่อ เรตติ้งนำเป็นอันดับ 1 ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับนางเอกที่เก่งเว่อร์ เป็นแพทย์อิสระที่ได้เข้าทำงานในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยที่กำลังสูญเสียอำนาจและ ขาดแคลนบุคลากร เนื่องจากเธอต่อต้านผู้มีอำนาจ จึงไม่เป็นที่ยอมรับในการทำงาน และไม่มีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง มีเพียงฝีมือผ่าตัดและความสามารถความรู้ขั้นเทพ ซีรีย์เรื่องนี้เน้นผ่าตัดวนไปจ้า ใครที่ชอบซีรีย์หมอการแพทย์ต้องชอบดูแน่ๆ แนะนำซีรี่ย์ญี่ปุ่นเรื่องนี้จริงๆ
5. Midnight Diner : Tokyo Stories
ซีรี่ย์ญี่ป่นแนวดราม่า อบอุ่นหัวใจ ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย เรื่องราวบอกเล่าผ่าน “ร้านอาหารเที่ยงคืน” ที่จะเปิดร้านตั้งแต่เวลา 24.00-07.00 น. เป็นร้านอาหารเล็กๆที่ก็ตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ ภายในย่านแสงสีกลางคืนของเมืองใหญ่ในญี่ปุ่นอีกทีหนึ่ง โดยร้านอาหารนี้มีเจ้าของและเชฟประจำเพียงคนเดียว คือ มาสเตอร์ ของร้าน และเป็นตัวเอกของเรื่อง มีเมนูประจำคือ ซุปหมู ทานกับข้าวสวย และเสิร์ฟ เบียร์ แบบจำกัดแก้วต่อคน แต่มาสเตอร์ยังมีนโยบายอีกอย่างคือ ลูกค้าทุกคนสามารถสั่งเมนูอะไรก็ได้ ถ้าเขาทำได้ หรือเขามีวัตถุดิบอยู่ในวันนั้นเขาก็จะทำให้ หรือถ้าอยากให้เขาทำเป็นพิเศษ ลูกค้าจะซื้อวัตถุดิบมาให้เขาก็ยังได้เหมือนกัน ซึ่งร้านของเขาเปิดตอนเที่ยงคืนไปแล้ว ดังนั้นลูกค้าทุกคนที่เข้ามาแวะเวียนในร้าน ทั้งขาประจำและขาจร จึงมักเป็นคนที่ทำงานในสังคมกลางคืนในเมืองใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น พนักงานออฟฟิศ ที่เลิกงานดึก เจ้าของคลับกลางคืน สาวนักเต้น นักร้อง นักพนัน โฮสต์ ยากูซ่า ฯลฯ แต่หลายครั้งที่เขาก็มีคนทำอาชีพทั่วๆไปที่แวะเวียนมาบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น นักเขียน นักศึกษา นักธุรกิจ นักกีฬา โปรแกรมเมอร์ นักบัญชี ศิลปิน ผู้กำกับหนัง โปรดิวเซอร์ ดีเจ เจ้าของร้านอาหาร ฯลฯ
เรื่องราวจะเป็นการบอกเล่า “จบในตอน” ผ่านชีวิตของตัวละครประจำตอน ที่เป็นลูกค้าของเขาที่แวะเวียนกันมา ที่บางครั้งเรื่องราวแสน “ธรรมดาๆ” ของผู้คนเหล่านี้กลับน่าติตตามดูอย่างประหลาด
6. Alice in Borderland
ซีรี่ย์แนวลึกลับ ผสมแอคชันแฟนตาซี สร้างจากมังงะชื่อดัง ที่เล่าเรื่องราวของ อาริสึ (เคนโตะ ยามาซากิ) ชายหนุ่มตกงานผู้หลงรักการเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า เด็กติดเกม จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาพบว่าตัวเองอยู่ในกรุงโตเกียวที่ร้างผู้คน มีเพียงเขาและเพื่อน ๆ เท่านั้นที่อยู่ในดินแดนมรณะ ณ โลกคู่ขนานแห่งนี้ อาริสึได้เจอ อูซางิ หญิงสาวที่ฟันฝ่าในเกมเพียงลำพัง ทั้งคู่จะออกไปไขปริศนาครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยกัน โดยต้องเสี่ยงตายและทำทุกทางเพื่อให้มีชีวิตรอด โดยกฎของที่นี่ก็คือ เวลาชีวิตของพวกเขาถูกนับถอยหลังไปเรื่อย ๆ และทางเดียวที่จะต่อเวลาชีวิตได้ก็คือการเล่นเกม ซึ่งเกมของโลกนี้ไม่ใช่เกมที่จะพลาดแล้วเริ่มใหม่ได้ เพราะถ้าพลาดมันหมายถึงชีวิต เรื่งอราวจะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามได้ใน Alice in Borderland
7. Legal V
ซีรี่ย์เรื่องนี้สนุกตามสไตล์ญี่ปุ่น เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ทาคานาชิ โชโกะ เคยมีอาชีพเป็นทนายแต่ก็มีเหตุที่ทำให้ต้องโดนปลดจากหน้าที่ หลังจากนั้นเธอก็โน้มน้าวให้ศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นทนาย เปิดบริษัทกฎหมายขึ้นมา ทาคานาชิ โชโกะ จ้างทนายความและผู้ช่วยอีกจำนวนหนึ่ง ทีมของพวกเขาต้องต่อสู้กับบริษัทกฎหมายขนาดใหญ่ในคดีแพ่งต่างๆ และพวกเขาก็ต้องพบเจอกับอุปสรรคต่างๆ มากมาย ใครที่ชอบ Doctor X ต้องชอบเรื่องนี้เหมือนกันแน่นอน
8. Izakaya Bottakuri
ซีรี่ย์ฟีลกู๊ดแนวอบอุ่นหัวใจ เกี่ยวกับอาหารอาหารชวนน้ำลายไหล Izakaya Bottakuri เป็นซีรี่ย์ญี่ปุ่น ที่สร้างขึ้นจากมังงะในชื่อเดียวกัน เรื่องราวของ มิเนะ (Mine) และคาโอรุ (Kaoru) สองสาวพี่น้องที่จำต้องรับช่วงกิจการร้านอิซากายะต่อจากที่บ้าน โดยทั้งคู่ตั้งใจสานต่อเจตนารมณ์ของพ่อ ผู้ต้องการปรุงเมนูอาหารง่ายๆ บ้านๆ ให้อร่อยล้ำจนลูกค้าที่มาเปื้อนหน้ายิ้มกลับไป นั่นทำให้ Bottakuri กลายเป็นร้านอาหารบรรยากาศอบอุ่น อร่อย ราคาถูก ผิดชื่อ Bottakuri ที่แปลว่า ‘ขูดรีดขูดเนื้อ’ ในภาษาญี่ปุ่นโดยสิ้นเชิง ใครที่ชอบซีรี่ย์แนวทำอาหาร ดูแล้วหิวตาม ต้องไม่พลาดเรื่องนี้เลย
9. Switched
ซีรี่ย์แนวดราม่า เกี่ยวกับโรงเรียน บอกเล่าเรื่องเกี่ยวกับของเด็กสาวสองคนที่ต่างกันสุดขั้ว คนนึงสวย ดัง แฟนหล่อ เรียนดี ครอบครัวอบอุ่น ส่วนอีกคนเป็นเด็กสาวหน้าตาขี้เหร่ อ้วน ครอบครัวแตกแยกและโดนบูลลี่ตลอด พยายามวิธีสลับร่างกับคนที่นางเอกที่เป็นสาวป๊อบหน้าตาดีของโรงเรียน นางเอกก็พยายามหาวิธีกลับร่างเดิม ที่พีคคือพอเด็กสาวที่ขี้เหร่อยู่ในร่างที่หน้าตาสวยแล้วมันก็ยังไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง บอกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้สนุกมากกก ดำเนินเรื่องไวดี มีหักมุม ดราม่าพอประมาณ โรแมนติกแทรกบ้าง แถมให้แง่คิดในการใช้ชีวิตเยอะมาก เป็นซีรีส์สั้นๆ มีแค่ 6 ตอนดูยาวรวดเดียวได้สบายเลย แนะนำซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่องนี้เลย
10. Erased
ซีรี่ย์แนวดราม่า ลึกลับแฟนตาซี ผสมกับปริศนา ฆาตรกรรม ที่สร้างมาจากมังงะชื่อดัง เรื่องย่อของซีรีส์เรื่องนี้มีอยู่ว่า พระเอกมีความสามารถในการมองเห็นเหตุการณ์ซ้ำ 1 นาทีก่อนเกิดเรื่องร้าย เขาต้องย้อนเวลากลับไปแก้ไขปริศนาเมื่อ 18 ปีที่แล้วเพื่อหาความจริงในคดีฆาตกรรมที่แม่พระเอกโดนฆ่าตาย ส่วนพระเอกตกเป็นแพะ มีทั้งปมการเกิดเหตุร้ายของเพื่อนร่วมชั้น ซึ่งพลอตเรื่ององค์ประกอบดีมาก ลุ้นตลอดว่าพระเอกจะเปลี่ยนอนาคตได้มั้ย เรื่องนี้ดูแปบๆรวดเดียวจบ เวอร์ชั่นคนแสดงทำได้ดีมาก นักแสดงตีบทได้เก่งเข้าถึงอารมณ์มากๆ เหมือนในอนิเมะยันเสื้อผ้าหน้าผม ฉากในโรงเรียน ควรค่าแก่การดูมาก ติดงอมแงมแน่นอน
11. Love Lasts Forever
Love Lasts Forever เป็นซีรี่ย์ญี่ปุ่นมาแรงสุดๆ ใน ปี 2020 บอกเล่าเรื่องราวของ “ซากุระ นานาเสะ” (รับบทโดย โมเนะ) นางเอกของเรื่องที่ได้บังเอิญไปเจอกับคุณหมอรูปงามที่ทำให้เธอตกหลุมรักเขาอย่างจัง และมันทำให้เธอมีแรงพยายามเรียนหนังสือเพื่อมาเป็นพยาบาลที่เดียวกับคุณหมอ แต่เมื่อได้สัมผัสและรู้จักนิสัยใจคอจริงๆ ของชายในฝัน กลับทำให้ซากุระต้องแปลกใจ เพราะคุณหมอของเธอนั้นไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่จินตนาการไว้เลยสักนิดเดียว เขาทั้งเย็นชา, ปากร้าย และไม่มีความอบอุ่น ซึ่งฉายาของเขาก็คือ “ราชาปีศาจ” ซึ่งก็คือพระเอกของเรื่องที่มีชื่อว่า “เทนโด ไคริ” (รับบทโดย ทาเครุ) จากนิสัยที่ต่างกันสุดขั้วจะทำให้พวกเขาทั้งคู่สามารถเข้ากันได้หรือเปล่า แล้วพยาบาลสาวของเราจะเอาชนะใจแพทย์หนุ่มได้หรือไม่ ต้องไปติดตามกันในเรื่อง Love Lasts Forever
12. Mischievous Kiss Love in Tokyo
สำหรับซีรี่ย์อย่าง “แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก” นั้น แม้ว่าจะมีออกมาหลายฉบับทั้งใต้หวัน, เกาหลี, ไทย หรือญี่ปุ่นเองก็ตาม แต่ก็ไม่เคยทำให้ความดังนั้นลดลงแต่อย่างใด อย่างในฉบับโตเกียวนั้นก็ถือว่าเป็นซีรี่ย์ที่ได้รับความนิยมและมีเสียงตอบรับอย่างดี เริ่มเรื่องโดย “โคโตโกะ ไอฮาระ” (รับบทโดย โฮโนกะ มิกิ) นางเอกของเรื่องผู้ซึ่งเป็นนักเรียนจากห้อง F ที่รั้งท้ายของสายชั้น ได้ตกหลุมรัก “นาโอกิ อิริเอะ” (รับบทโดย ฟุรุคาวา ยูกิ) ชายหนุ่มหล่อเหลาที่มีดีกรีความฉลาดระดับอัจฉริยะ และเมื่อนางเอกได้ไปแสดงความรู้สึกของเธอต่อนาโอกิเพื่อบอกความในใจให้เขารับรู้ แต่เรื่องกลับไม่จบแค่ที่การสารภาพรักเท่านั้น เพราะพระเอกของเราได้ตอกกลับไปอย่างเจ็บปวดว่าเขาไม่ชอบผู้หญิงที่โง่ แต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลก เพราะดันมีเหตุบางอย่างที่ทำให้เธอจำเป็นต้องย้ายมาอยู่บ้านหลังเดียวกับพระเอกผู้ซึ่งประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าไม่สนใจเธอ แล้วนางเอกของเราจะต้องทำอย่างไรให้พ่อหนุ่มสมองอัจฉริยะหันกลับมาสนใจเธอ อีกทั้งความสัมพันธ์ที่ต้องใกล้ชิดกันตลอดเวลา จะทำให้พระเอกรู้สึกหวั่นไหวได้บ้างหรือไม่? ต้องมาตามลุ้นกันใน Mischievous Kiss Love in Tokyo
13. Signal
สำหรับซี่รี่ย์เรื่อง Signal นี้ เป็นซีรี่ย์แนวสืบสวนสอบสวนในเวอร์ชันญี่ปุ่น บอกเล่าเรื่องราวของนักสืบฝีมือดีที่วันหนึ่งได้เจอกับวิทยุปริศนาที่ทำให้สื่อสารกับคนในอดีตได้ ย้อนไปเมื่อสิบห้าปีก่อนเด็กสาวคนหนึ่งถูกลักพาตัวระหว่างทางจากโรงเรียนและพัคแฮยองซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมในเวลานั้นได้พบเห็นอาชญากรรมดังกล่าว ไม่กี่วันต่อมาพบศพหญิงสาวคนนี้และตำรวจยังไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้ เมื่อเวลาผ่านไปแฮยองเริ่มไม่ไว้วางใจตำรวจ สิบห้าปีต่อมาแฮยองกลายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม วันหนึ่งเขาพบเครื่องส่งรับวิทยุที่ช่วยให้เขาสามารถติดต่อกับนักสืบลีแจฮันที่อยู่ในอดีตได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจฮเยยองแจฮันและชาโซฮยอนออกเดินทางเพื่อไขคดีอันหนาวเหน็บ
14. Stay Tuned
ซีรี่ย์แนวคอมเมดี้ ที่ได้รับความนิยมอย่างมากอย่าง Stay Tuned นั้น บอกเล่าเรื่องตลกเบาสมอง ของเรื่องราวนักข่าวหน้าใหม่ของช่องทีวี ซึ่งนางเอกน่ารักมากก โคตรคาวาอี้ โก๊ะๆเปิ้นๆ ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็มักแต่ก่อเรื่องวุ่นๆ แต่มันก็ทำให้คนรอบข้างตัวมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ปมอะไรซับซ้อน แต่ดูแล้วรู้สึกอบอุ่น ฟีลกู้ด เน้นตลกซะมากกว่า สำหรับใครที่อยากได้ซีรี่ย์เบาสมอง ดูคลายเครียด แนะนำเรื่องนี้เลย
15. The Naked Director
สำหรับซีรี่ย์เรื่องนี้ แม้จะเป็นแนวอัตชีวประวัติ แต่รับรองความสนุกได้เลย เรื่องราวจะเริ่มต้นในปี 1980 ประเทศญี่ปุ่น เรื่องราวของโทรุ มุรานิชิ (Takayuki Yamada) ผู้ปฏิวัติวงการหนังโป๊ในประเทศญี่ปุ่นเริ่มต้นขึ้น หลังจากที่บริษัทสารานุกรมอังกฤษที่เขาดำรงพนักงานฝ่ายขายยอดเยี่ยมถูกปิดลง ทำให้เขาต้องกลับบ้านเร็วกว่าปกติ และพบว่า ภรรยากำลังนอกใจ ขณะที่เขาสูญเสียทั้งงาน ครอบครัว และรู้สึกสิ้นหวัง เขาก็ได้พบกับโทชิ (Shinosuke Mitsushima) นักธุรกิจรายย่อยที่ได้แนะนำให้เขารู้จักกับโลกนิตยสารผู้ใหญ่ หลังจากรู้ว่านั่นคือการขายเซ็กซ์ มุรานิชิ ก็ได้ร่วมงานกับโทชิ เพื่อสร้างเครือบริษัท แม็กกาซีนผู้ใหญ่อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน เขาก็ได้ท้าทายอำนาจของกฏหมายเรื่องการเซนเซอร์หนังโป๊ของญี่ปุ่น ด้วยการขอความช่วยเหลือจากผู้จัดพิมพ์ท้องถิ่น อย่างคาวาดะ (Tetsuji Tamayama) เพื่อตีพิมพ์นิตยสารสำหรับผู้ใหญ่แบบไม่เซนเซอร์ สิ่งนี้ได้เรียกความสนใจจาก ตำรวจ ยากูซ่า และผู้ผลิตหนังโป๊ที่ทรงอิทธิพลในญี่ปุ่น อย่างอิเคซาว่า (Ryo Ishibashi) เป็นอย่างมาก
ในไม่ช้า มุรานิชิก็ได้สร้างอาณาจักรของนิตยสารผู้ใหญ่ขึ้นมา และเริ่มทำวีดีโอสำหรับผู้ใหญ่ โดยได้แรงบันดาลใจจาก เมกุมิ (Misato Morita) นักเรียนศิลปะที่ต้องการจะปลดปล่อยความช่ำชองทางเพศของเธอออกมา ทว่า เมื่อธุรกิจวีดีโอสำหรับผู้ใหญ่กำลังเริ่มต้นเปิดตัว มุรานิชิก็ต้องเผชิญกับการหยุดชะงักของธุรกิจ ที่ได้นำพาเขาไปสู่การเผชิญหน้ากับกฏหมายอย่างซึ่งๆ หน้า นำทีมโดยนักสืบทาเคอิ (Lily Franky) ซีรี่ย์เรื่อง โป๊ บ้า กล้า รวย (The Naked Director) มุรานิชิจะขอผลักกำแพงของสิ่งที่ “ยอมรับได้” ออกไป และจะปฏิวัติวงการ รวมทั้งพาคุณไปเป็นพยานของการกำเนิดดาวที่ชื่อวาเมกุมิ ซึ่งภายหลังเป็นที่รู้จัก ในนาม คาโอรุ คุโรกิ (Kaoru Kuroki)
และทั้งหมดนี้คือ ซีรี่ย์ญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด ต้องได้ดูสักครั้ง เพราะทั้งสนุก ดีต่อใจ และเพลิดเพลินไปในเวลาเดียวกัน สำหรับใครที่ชอบหนัง ชอบซีรี่ย์สไตล์ญี่ปุ่นแล้วล่ะก็ ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งเลย และสำหรับใครที่สนใจก็สามารถไปตามดูได้จากทั้ง Viu, Netflix หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้เลย