ไมค์อัดเสียงติดกล้องสำหรับคนอยากถ่ายคลิปทำ Vlog ตอนนี้หาได้ง่ายไม่แพงมากนะ
ไมค์อัดเสียงนอกจากแบบตั้งโต๊ะคอมเพื่ออัดทำ Podcast หรือเอาไว้ไลฟ์เกมแล้ว หลายๆ คนที่อยากอัด Vlog มีกล้องเอาไว้ถ่ายครบแล้วแต่สงสัยว่าจะหาไมค์ตัวไหนไปใช้งานดี? ณ ตอนนี้ต้องบอกว่ามีตัวเลือกให้เยอะและหาซื้อได้ง่ายกว่าในอดีตมาก และราคายังถูกลงเรื่อยๆ อีกด้วย ซึ่งตอนนี้ราคาแค่หลักร้อยก็หาซื้อมาใช้งานได้แล้ว เลือกได้ทั้งแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่เราคุ้นชื่อหรือจะเอาเป็นแบรนด์หน้าใหม่ราคาคุ้มค่ามาใช้งานก็มีให้เลือกทั้งนั้น
โดยไมค์สำหรับกล้องเหล่านี้เรียกว่าไมค์ช็อตกัน (Shotgun microphone) โดยไมค์เหล่านี้จะต่อเข้ากับตัวอแดปเตอร์เหนือกล้องที่เรียกว่า Hot shoe adapter ช่องเดียวกับที่เราต่อแฟลชกล้องเข้าไปได้เลยแล้วต่อเข้ากับกล้องด้วยแจ็คหูฟัง 3.5 มม. ก็พร้อมใช้งานทันที ซึ่งดีกว่าการใช้ไมค์หน้ากล้องอัดเสียงเป็นอย่างมาก
สำหรับไมค์อัดเสียงที่ต่อเสริมเข้าที่ตัวกล้องนั้น เรียกว่าเป็นไมค์อเนกประสงค์และใช้งานได้ยืดหยุ่นทีเดียว เพราะนอกจากเอาไปต่อกับกล้องได้แล้วยังต่อกับคอมพิวเตอร์เป็นไมค์ตั้งโต๊ะหรือสมาร์ทโฟนก็ได้ ดังนั้นถ้าใครกำลังคิดอยู่ว่าถ้าซื้อมาแล้วจะคุ้มเงินหรือเปล่า ในส่วนนี้ผู้เขียนพูดได้เลยว่าคุ้มแน่นอน ส่วนถ้าใครอยากได้ข้อมูลเรื่องวิธีอ่านสเปคของไมค์ก่อนจะมาดูไมค์รุ่นแนะนำในบทความนี้ สามารถอ่านข้อมูลใน “7 ไมค์คอมพิวเตอร์ตัวเด็ด เพื่อสตรีมเมอร์หรืออัด Podcast ก็แจ่มไม่แพ้กัน!” ที่ผู้เขียนเผยแพร่บทความไปก่อนหน้านี้ได้เลย
6 ไมค์อัดเสียงคุณภาพ น่าซื้อมาถ่าย Vlog
ผู้ใช้ที่กำลังหาไมค์ตัวใหม่มาใช้กับกล้องหรือจะต่อมือถือเพื่อถ่ายคลิป Vlog อยู่ ไม่ว่าจะเพิ่งเริ่มต้นหรือว่าเป็นมือฉมังที่มีผู้ติดตามเยอะระดับหนึ่งแล้วแต่ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อไมค์ตัวไหนไปใช้ดี ก็สามารถมาเลือกดูรุ่นที่ผู้เขียนเอามาแนะนำเป็นแนวทางหรือจะซื้อตามเลยก็ดีเช่นกัน โดยรุ่นแนะนำได้แก่
- BOYA BY-MM1 (891 บาท)
- Saramonic Vmic Mini (2,150 บาท)
- BOYA BY-BM3030 (2,400 บาท)
- RODE VideoMic Go (2,720 บาท)
- Sony ECM-GZ1M (3,190 บาท)
- Sennheiser MKE 200 (3,745 บาท)
1. BOYA BY-MM1 (891 บาท)
เริ่มต้นด้วยไมค์ติดกล้องราคาเป็นมิตรแต่สเปคดี เหมาะกับผู้เริ่มต้นอย่าง Boya BY-MM1 ตัวนี้ที่เป็นไมค์ Shotgun รับเสียงแบบ Cardioid ตัดเสียงรบกวนได้ในตัวพร้อม Shock mount และ Wind shield ไว้ตัดเสียงรบกวนจากลมและการสั่นสะเทือนต่างๆ ได้ด้วย เชื่อมต่อด้วยแจ็ค 3.5 มม. แบบ TRS สำหรับกล้องหรือ TRRS เข้ากับสมาร์ทโฟนก็ได้ ค่า Frequency response อยู่ที่ 35-18KHz +/-3dB ดังนั้นถ้าใครอยากเริ่มเป็น YouTuber หาไมค์มาต่อกล้องสักตัว มาเริ่มต้นจากไมค์ Boya ตัวนี้ก่อนได้เลย
สเปคของ Boya BY-MM1
- ไมค์ Shotgun รับเสียงแบบ Cardioid มี Shock mount และ Wind shield แถมมาให้
- เชื่อมต่อด้วยแจ็ค 3.5 มม. แบบ TRS สำหรับกล้องหรือ TRRS เข้ากับสมาร์ทโฟน
- Frequency response อยู่ที่ 35-18KHz +/-3dB
- ราคา 891 บาท (Boya Thailand)
2. Saramonic Vmic Mini (2,150 บาท)
ถัดมาเป็นแบรนด์ระดับโลกที่ครีเอเตอร์หลายๆ คนน่าจะได้ยินชื่อผ่านหูอยู่เป็นระยะๆ อย่าง Saramonic โดยผู้เขียนแนะนำเป็น Saramonic Vmic Mini รุ่นใช้งานง่าย แค่ต่อเข้า Hot shoe ของกล้องแล้วก็ใช้งานได้เลย หรือถ้าต่อสมาร์ทโฟนหรือคอมก็เอาแจ็ค 3.5 มม. ในกล่องมาต่อคอมหรือสมาร์ทโฟนได้เลย สเปคเป็นไมค์แบบ Shotgun รับเสียงแบบ Cardioid (Uni-directional) มีฟองน้ำหุ้มป้องกันเสียงรบกวนติดมาให้ในแพ็คเกจ ส่วนค่า Frequency Range อยู่ที่ 75Hz – 20kHz ±3dB ซึ่งถ้าใครเป็นสายเน้นง่ายต่อกล้องเป็นหลักแล้วเน้นง่าย ก็แนะนำให้เอาไมค์ตัวนี้ไปต่อกล้องอัดเสียงตอนถ่าย Vlog ได้เลย
สเปคของ Saramonic Vmic Mini
- ไมค์ Shotgun รับเสียงแบบ Cardioid มีฟองน้ำลดเสียงรบกวนแถมมาให้
- ต่อเข้า Hot shoe ของกล้องหรือต่อแจ็ค 3.5 มม. เข้ากับสมาร์ทโฟนแล้วใช้งานได้เลย
- Frequency response อยู่ที่ 75Hz – 20kHz ±3dB
- ราคา 2,150 บาท (ZoomCamera)
3. BOYA BY-BM3030 (2,400 บาท)
ไมค์อัดเสียงต่อกล้องรุ่นต่อมาเป็น Boya BY-BM3030 ที่เป็นรุ่นอัพเกรดจากตัวแรก โดยผู้ผลิต เคลมว่าคุณภาพเสียงที่ได้จากไมค์ตัวนี้อยู่ในระดับสตูดิโอเลยทีเดียว ส่วนวิธีใช้งานแค่ต่อเข้า Hot shoe ของกล้องหรือตัวอแดปเตอร์จับมือถือแล้วเสียบแจ็ค 3.5 มม. ใส่แบตเตอรี่ AA x 2 ก้อนก็ใช้งานได้เลย มีฟองน้ำ, Shock mount และ Wind Shield ใส่มาให้ครบถ้วน ตัวไมค์ Shotgun นี้รับเสียงแบบ Super-Cardioid ค่า Frequency Range อยู่ที่ 40-20,000 kHz ± 3dB ซึ่งถ้าใครอยากอัพเกรดคุณภาพเสียงตอนถ่ายคลิปให้ดีขึ้นแต่ไม่ต้องจ่ายแพงเกินไป ผู้เขียนแนะนำว่าขยับมาซื้อ Boya ตัวนี้ไปใช้งานก็ถือว่าเวิร์คเหมือนกัน
สเปคของ Boya BY-BM3030
- ไมค์ Shotgun รับเสียงแบบ Super-Cardioid มีฟองน้ำ, Shock mount และ Wind Shield แถมมาให้
- ต่อเข้า Hot shoe ของกล้องแล้วเสียบแจ็ค 3.5 มม. เข้ากับกล้องหรือสมาร์ทโฟนแล้วใส่แบตเตอรี่ AA x 2 ก้อน ก็ใช้งานได้เลย
- Frequency response อยู่ที่ 40-20,000 kHz ± 3dB
- ราคา 2,400 บาท (Boya Thailand)
4. RODE VideoMic Go (2,720 บาท)
ถ้าพูดถึงไมค์อัดเสียง ไม่ว่าจะต่อกับคอม, แท็บเล็ตหรือว่าแบบ Shotgun ต่อกล้องก็ต้องมีแบรนด์ RODE รวมอยู่อย่างแน่นอน โดยรุ่นแนะนำเป็น RODE VideoMic Go ที่ราคาไม่แพงเกินไปแต่สเปคดีเกินตัว ต่อกล้องหรือสมาร์ทโฟนผ่านแจ็คหูฟัง 3.5 มม. แล้วใช้งานได้ทันที ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่อีกด้วย โดยไมค์ Shotgun ตัวนี้จะรับเสียงแบบ Super-Cardioid มีฟองน้ำกันลมแถมมาให้พร้อมใช้งาน ติดเข้ากับกล้องด้วย Cold-shoe ในเซ็ตพร้อมตัวกันสั่นลดเสียงรบกวนจากการสั่นของบอดี้กล้องติดมาในแพ็คเกจด้วย ส่วน Frequency Range อยู่ที่ 100Hz – 16kHz ซึ่งถ้าใครเน้นว่าเอาแบรนด์คุณภาพระดับโลกล่ะก็ RODE ตัวนี้ก็น่าสนใจเป็นอย่างมาก
สเปคของ RODE VideoMic Go
- ไมค์ Shotgun รับเสียงแบบ Super-Cardioid มีฟองน้ำกันลมแถมมาให้พร้อมตัวกันสั่นลดเสียงจากบอดี้กล้อง
- ต่อเข้า Cold-shoe ของกล้องแล้วเสียบแจ็ค 3.5 มม. เข้ากับกล้องหรือสมาร์ทโฟนแล้วใช้งานได้เลย
- Frequency response อยู่ที่ 100Hz – 16kHz
- ราคา 2,720 บาท (Digital2Home)
5. Sony ECM-GZ1M (3,190 บาท)
ถ้าพูดถึงแบรนด์เรื่องความบันเทิงและเสียงล่ะก็ ต้องมี Sony ร่วมด้วยอย่างแน่นอน โดยไมค์ Shotgun รุ่นที่เลือกมาแนะนำเป็น Sony ECM-GZ1M รุ่นนี้ที่ครีเอเตอร์หลายๆ คนเลือกใช้งานกัน สามารถเลือกโหมดเสียงของไมค์ได้ 2 แบบ ทั้ง Zoom หรือ Gun ทำให้สลับโหมดตอนอัดเสียงได้ตามต้องการ แล้วต่อตัวไมค์ผ่านทาง Multi Interface shoe ของตัวกล้องแล้วใช้งานได้ทันที มีฟองน้ำซับเสียงแถมมาให้ในแพ็คเกจและรองรับ Frequency Response ที่ 150 Hz – 15 kHz เรียกว่าเป็นไมค์ที่เหมาะกับครีเอเตอร์ที่อยากเริ่มจริงจังและเพิ่มคุณภาพงานให้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก
สเปคของ Sony ECM-GZ1M
- ไมค์ Shotgun รับเสียงแบบ Gun หรือ Zoom มีฟองน้ำกันลมแถมมาให้
- ต่อเข้า Multi Interface shoe ของกล้องแล้วใช้งานได้เลย
- Frequency response อยู่ที่ 150 Hz – 15 kHz
- ราคา 3,190 บาท (Sony Thailand)
6. Sennheiser MKE 200 (3,745 บาท)
ถัดมาที่แบรนด์เจ้าแห่งหูฟังและเสียงเพลงอย่าง Sennheiser เองก็มีไมค์อัดเสียงสำหรับต่อกับกล้องให้เลือกซื้อด้วย เป็นรุ่น Sennheiser MKE 200 ตัวนี้ที่ดีไซน์ดูเท่มีสไตล์ เชื่อมต่อง่ายผ่านทางแจ็ค 3.5 มม. ก็ใช้งานได้ทันที มีสายแบบ TRS ของกล้องและ TRRS สำหรับสมาร์ทโฟนติดมาให้ครบทั้งสองเส้น โดยตัวไมค์ Shotgun นี้ จะรับเสียงแบบ Super-Cardioid ต่อเข้ากับ Hot shoe ของกล้องแล้วใช้งานได้เลย รองรับ Frequency Response ที่ 40 Hz – 20 kHz ซึ่งถ้าใครอยากได้ไมค์ Shotgun ตัวนี้เอาไว้ใช้อัพเกรดคุณภาพเสียงตอนทำงานหรืออัดคลิปล่ะก็ แนะนำให้ซื้อเอาไว้ใช้งานได้เลย ส่วนไมค์นี้จะไม่มีโฟมหุ้มภายนอกเนื่องจากทาง Sennheiser จัดการบุโฟมเอาไว้อย่างแน่นหนาภายในตัวไมค์แล้ว ดังนั้นใครที่อยากใช้ก็สามารถต่อกล้องแล้วใช้งานได้เลย
สเปคของ Sennheiser MKE 200
- ไมค์ Shotgun รับเสียงแบบ Super-Cardioid
- รองรับการเชื่อมต่อผ่านแจ็ค 3.5 มม. แบบ TRS, TRRS ต่อเข้า Hot shoe ของกล้องแล้วใช้งานได้เลย
- Frequency response อยู่ที่ 40 Hz – 20 kHz
- ราคา 3,745 บาท (Fotofile Shopee Official)
สรุปสเปค 6 ไมค์อัดเสียงติดกล้องน่าโดนไว้ถ่าย Vlog
สำหรับสเปคโดยสรุปของไมค์อัดเสียงทั้ง 6 รุ่นที่เลือกมาแนะนำจะเป็นดังนี้
สเปคไมค์อัดเสียง | รูปแบบเสียงและอุปกรณ์เสริม | การเชื่อมต่อ | Frequency Response | ราคา |
Boya BY-MM1 | เสียงแบบ Cardioid มี Shock mount กับ Wind shield แถมมาให้ |
ต่อ Hot shoe ของกล้อง ต่อแจ็ค 3.5 มม. แบบ TRS, TRRS |
35-18KHz +/-3dB | 891 บาท |
Saramonic Vmic Mini | เสียงแบบ Cardioid มีฟองน้ำลดเสียงรบกวนแถมมาให้ |
ต่อ Hot shoe ของกล้อง ต่อแจ็ค 3.5 มม. |
75Hz – 20kHz ±3dB | 2,150 บาท |
Boya BY-BM3030 | เสียงแบบ Super-Cardioid มีฟองน้ำ, Shock mount และ Wind Shield แถมมาให้ |
ต่อ Hot shoe ของกล้อง ต่อแจ็ค 3.5 มม. ใช้ถ่าน AA x 2 ก้อน |
40-20,000 kHz ± 3dB | 2,400 บาท |
RODE VideoMic Go | เสียงแบบ Super-Cardioid มีฟองน้ำและ Shock mount แถมมาให้ |
ต่อ Cold-shoe ของกล้อง ต่อแจ็ค 3.5 มม. |
100Hz – 16kHz | 2,720 บาท |
Sony ECM-GZ1M | ไมค์ Shotgun ปรับเสียงได้ว่าเป็น Gun หรือ Zoom มีฟองน้ำกันลมแถมมาให้ |
ต่อ Multi Interface shoe แล้วใช้งาน | 150 Hz – 15 kHz | 3,190 บาท |
Sennheiser MKE 200 | เสียงแบบ Super-Cardioid | ต่อ Hot shoe ของกล้อง ต่อแจ็ค 3.5 มม. แบบ TRS, TRRS |
40 Hz – 20 kHz | 3,745 บาท |
จะเห็นว่าไมค์อัดเสียงในตอนนี้ราคาไม่แพงมากและเริ่มเพียงแค่หลักร้อยเท่านั้นและรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่เป็นอุปกรณ์ประจำตัวใครหลายๆ คนได้อีกด้วย ซึ่งถ้าใครอยากเริ่มเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์สายถ่าย Vlog อาจจะเริ่มจากตัวที่ไม่แพงมากและเชื่อมต่อผ่านทางแจ็ค 3.5 มม. ได้ก่อนจะดีที่สุด เพราะใช้งานได้หลากหลายเครื่องและราคาไม่แพงมาก แต่คนที่ต่อกับสมาร์ทโฟนอาจจะต้องหาตัวแปลงจากพอร์ตของสมาร์ทโฟนมาเป็นแจ็ค 3.5 มม. สักหน่อยก็พร้อมทำคอนเทนต์ได้แล้ว