iPhone 13 ซีรีย์ใกล้จะถึงมือผู้ที่สั่งจองเอาไว้แล้ว งานนี้ใครที่ยังไม่ได้จองลองมาดูกันหน่อยดีกว่าว่ากล้องของ iPhone 13 ซีรีย์จะพัฒนาขึ้นไปจากเดิมมากแค่ไหน จากผลทดสอบของทาง DxOMark
ใกล้ที่ผู้จับจองจะได้รับเครื่องมาประดับบารมีแล้ว สำหรับใครที่ยังไม่ได้จองหรือกำลังลังเลอยู่ว่าจะซื้อ iPhone 13 รุ่นไหนมาใช้ดีนั้น วันนี้เราขอนำเสนอคะแนนในส่วนของการทดสอบประสิทธิภาพตัวกล้องของ iPhone 13 จำนวน 2 รุ่นคือ iPhone 13 mini และ iPhone 13 Pro จากทาง DxOMark ซึ่งเหตุผลที่มีเพียงแค่ 2 รุ่นนี้เทม่านั้นก็เนื่องมาจากที่ทาง DxOMark บอกเอาไว้ว่าในทางสเปคแล้วกล้องของ iPhone 13 และ iPhone 13 Pro นั้นไม่ได้แตกต่างอะไรกันทางเทคนิค ว่าแล้วนั้นก็ไปชมตารางอัปเดทผลคะแนนกันก่อนเลยว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
จากตารางทางข้างบนนี้นั้นจะแสดง 20 อันดับสมาร์ทโฟนที่ได้รับคะแนนจากทาง DxOMark มากที่สุด โดยผลนั้นปรากฏว่า iPhone 13 Pro(รวมทั้ง iPhone 13) จะได้คะแนนไปที่ 137 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 4 ของตาราง พ่ายให้กับ Huawei P50 Pro, Xiaomi Mi 11 Ultra และ Huawei Mate Pro+
สำหรับ iPhone 13 mini นั้นจะได้คะแนนอยู่ที่ 130 คะแนน เท่ากันกับ iPhone 12 Pro Max รุ่นท๊อปของปีที่แล้ว ซึ่งจะอยู่ในลำดับที่ 11 ของตาราง จากผลคะแนนดังกล่าวนั้นคงต้องยอมรับว่าทาง Apple ทำการบ้านมาได้ค่อนข้างดีมากจริงๆ กับการพัฒนากล้องของ iPhone 13 ซีรีย์
iPhone 13 Pro
โดยรวมแล้วจุดเด่นของกล้อง iPhone 13 Pro(iPhone 13) นั้นจะอยู่ที่สามารถจับภาพได้รวดเร็วให้สีสันสมจริง ระบบ autofocus นั้นก็สามารถทำงานได้รวดเร็วแม่นยำ การถ่ายภาพทั้งในและนอกสถานที่สามารถที่จะทำออกมาได้เป็นอย่างดี ส่วนจุดด้อยนั้นจะไปอยู่ที่การเก็บภาพพื้นผิวเมื่อถ่ายวีดีโอในที่ๆ มีแสงสว่างจ้ามากๆ ทำได้ไม่ดีเท่าไร นอกไปจากนั้นแล้วยังเจอปัญหาโกสติ้งให้เห็นบ้างในบางภาพ
iPhone 13 mini
เช่นเดียวกันกับรุ่นพี่ iPhone 13 mini มีจุดเด่นในเรื่องของระบบ autofocus ที่สามารถทำได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว นแหๆผจากนั้นแล้วการเกลี่ยสีสันของภาพก็ทำออกมาได้ดีอรกด้วย อย่างไรก็ตามจุดด้อยนั้นก็หนีไม้พ้นพื้นผิวบางส่วนจะเก็บภาพไม่ได้เมื่ออยู่ในที่ที่มีแสงจ้าจนเกิดไป และยังมีปัญหาโกสติ้งและมองเห็นจุดติดขัดในวีดีโอได้ชัดเจน ที่หนักสุดคงหนีไม่พ้นเรื่องของการซูมที่เมื่อซุมไปมากๆ แล้วจะพบว่าภาพแตกมากนั่นเอง
ทั้งนี้นอกเหนือไปจากกล้องหลังแล้วทาง DxOMark ยังได้ทดสอบกล้องหน้าของ iPhone 13 ทั้ง 2 รุ่นด้วยซึ่งผลที่ปรากฏออกมานั้นพบว่าทำได้อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ไม่ได้ดีเวอร์และก็ไม่ได้เลวร้ายมากจนเกินไปนัก โดยเหตุผลนั้นก็ได้บอกเอาไว้ว่าน่าจะมาจากการที่ทาง Apple นั้นไม่ได้เน้นกล้องหน้าสำหรับ Selfie เหมือนกับสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android มากเท่าไรนั่นเอง
ที่มา : notebookcheck